ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 1078 ตระกูลเจียงสมปรารถนา

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1078 ตระกูลเจียงสมปรารถนา

บทที่ 1078 ตระกูลเจียงสมปรารถนา

ครั้งนี้ตระกูลเจียงและตระกูลหลิวไม่สามารถหลบซ่อนได้อีกต่อไป

ฉินเย่จือกับฉือโถวไปยังบ้านตระกูลเจียงเพื่อตามหาคน

ไม่กี่วันมานี้ เจียงอวิ้นหลิ่วได้สมความปรารถนา มีข่าวดีเกิดขึ้นถึงสองเรื่อง

ไม่สิ เรื่องที่สามกำลังจะมาถึง

หย่วนเอ๋อร์ได้แต่งงานกับภรรยาที่ดี ตระกูลหลิวแบ่งส่วนแบ่งให้ร้อยละสิบ

ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลหลิวขอให้ตระกูลเจียงเตรียมตัวสำหรับการแต่งงานและจัดงานแต่งงานระหว่างเจียงหย่วนกับหลิวเทียนฉือโดยเร็วที่สุด หลิวเทียนหมิงสามารถดำเนินการได้โดยตรงในฐานะตัวแทนตระกูลหลิว

ฮูหยินเจียงและเจียงอวิ้นหลิ่วราวกับถูกโชคหล่นทับ มันกระแทกลงบนศีรษะของสองสามีภรรยา และทำให้พวกเขามึนงงด้วยความตื่นเต้น

เนื่องจากกำลังจะแต่งงานแล้ว หลิวเทียนหมิงจึงพาหลิวเทียนฉือไปอาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังหนึ่ง เพื่อให้ตระกูลเจียงจัดเตรียมเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน

ฮูหยินเจียงยังคงมีความไม่พอใจและพร่ำบ่นเกี่ยวกับตระกูลหลิวก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้มันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ความเคลื่อนไหวของตระกูลหลิวคือ การแสดงความโปรดปรานและสร้างความมั่นใจให้กับตระกูลเจียง

ตระกูลหลิวและตระกูลเจียงก็เหมือนกับน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า เมื่อทั้งสองตระกูลเชื่อมโยงกันเป็นข้อตกลงที่จะไม่จากไปไหน จะอยู่และตายไปด้วยกัน

เพราะไม่มีใครอยากตาย

ดังนั้นที่เจียงอวิ้นหลิ่วยังคงมีปัญหาในช่วงก่อนหน้านี้จึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุขตลอดทั้งวัน

เนื่องจากเจียงหย่วนกำลังจะแต่งงาน เจียงอวิ้นหลิ่วจึงกักบริเวณเขาอย่างเข้มงวด

ในช่วงหลายวันมานี้ เจียงหย่วนอยู่แต่ในบ้านและไม่ได้ออกไปไหน

คนเฝ้าประตูหันไปเห็นฉินเย่จือที่มีรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา แต่ใบหน้าและดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความโกรธอย่างรุนแรง และต้องการที่จะเปิดประตูเข้าไป ประตูถูกผลักโดยฉือโถวและตามมาด้วยเสียงตะโกนอันดังก้อง “ออกไปให้พ้น”

คนรับใช้รีบถอยหนีทันทีด้วยความตกใจ ร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว “พวกเจ้าจะทำอะไร”

ฉินเย่จือตรงไปที่ห้องโถง สาวใช้และคนรับใช้บางคนเห็นคนแปลกหน้าบุกเข้าไปในบ้านจึงรีบไปรายงานต่อนายท่านของตนเองทันที

เมื่อได้ยินมาว่าฉินเย่จืออยู่ที่นี่ จึงคิดว่าเขาคงมาที่นี่เพื่อมารับใครสักคน

ครั้งนี้ตระกูลเจียงปฏิเสธที่จะส่งคนกลับไป

“นายท่าน ตระกูลเจียงมีชื่อเสียงในเมืองหลิวเจีย เสี้ยนจู่ก็ไม่ไว้หน้าเรา และเราไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้าพวกเขา เกาเยว่เหมยนั้นก็ถูกย่ำยีไปแล้ว ถ้าต้องการก็ให้นางกลับไปหาพวกเขา…”

ฮูหยินเจียงมีท่าทีเฉยเมย

เรื่องชื่อเสียงของหญิงสาว พูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

เจียงอวิ้นหลิ่วพยักหน้า “เจ้าส่งคนไปแจ้งญาติของเจ้าให้ปล่อยตัวคนของพวกเขา”

ฮูหยินเจียงยิ้มพลางพยักหน้า และเห็นเจียงอวิ้นหลิ่วกำลังตรงไปที่ห้องโถงด้านหน้า

เมื่อเขาไปถึงห้องโถงด้านหน้า หลังจากเห็นฉินเย่จือ ความสงบที่เพิ่งเกิดขึ้นก็มลายหายไป

รู้สึกเพียงว่าห้องโถงด้านหน้าขนาดใหญ่เต็มไปด้วยความหดหู่ลึก ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง

ฉินเย่จือเพียงแค่นั่งเฉย ๆ ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง

เจียงอวิ้นหลิ่วไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าทันที แต่ยืนนิ่งสงบสติอารมณ์แล้วก้าวเข้าไป

หลังจากเข้าไปแล้ว เขาก็นั่งลงที่หน้าห้องโถงโดยไม่ทักทายฉินเย่จือ

เขายื่นมือออกไปเพื่อหยิบถ้วยชาที่อยู่ตรงหน้าเขาและหลังจากจิบชาแล้ว เขาพูดอย่างเบา ๆ ว่า “นายน้อยฉิน ทำไมมาที่บ้านเจียงล่ะ”

ฉินเย่จือนั่งอยู่ด้านซ้ายมือของเจียงอวิ้นหลิ่ว เฝ้าดูเจียงอวิ้นหลิ่วดื่มชาด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

ทันใดนั้น เขาก็ยิ้มอย่างเหยียดหยาม “ตระกูลเจียงนี่ทำได้ทุกอย่างที่ต้องการจริง ๆ”

เจียงอวิ้นหลิ่วไม่เข้าใจความหมายของฉินเย่จือ เขาหยุดแล้ววางถ้วยชาลงพลางพูดด้วยรอยยิ้ม “นายน้อยฉิน ล้อเล่นหรือเปล่า แม้ว่าครอบครัวเจียงเป็นครอบครัวเล็ก ๆ แต่หลังจากผ่านไปหลายปีแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่ว่าใครที่ไหนจะมาพูดหรือใส่ร้ายครอบครัวเจียงของเราได้”

เจียงอวิ้นหลิ่วอยู่กับกิจการการค้าเกือบทั้งชีวิต เขาเห็นคนมาทุกประเภท

ชายหนุ่มหรือคนชรา

มีภูมิหลังที่ดีหรือคนทั่ว ๆ ไป

การค้าเป็นเหมือนสนามรบที่มีขึ้นและลง แต่ตระกูลเจียงนั้นยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เจียงอวิ้นหลิ่วผู้นี้ไม่ใช่คนที่พยายามสร้างชื่อเสียงอย่างเดียวแล้วไม่รู้อะไรเลย

เขาได้พบกับผู้คนนับไม่ถ้วน ทั้งคู่ต่อสู้ สหายและศัตรู

อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าคนตรงหน้าของเขาคิดอะไรอยู่

และเขาไม่เคยถูกใครกดขี่เช่นนี้

ราวกับว่ามีใครบีบคอของเขา ทำให้เขาหายใจไม่สะดวก

ชายผู้นี้แย่มาก…

นี่เป็นข้อความแรกที่เจียงอวิ้นหลิ่วได้รับ

แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อมองท่าทางที่หล่อเหลาของฉินเย่จือ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มจาง ๆ ตลอดเวลาราวกับภาพลวงตา

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะแสดงความยินดีกับนายท่านเจียงก่อน” หลังจากพูดจบ ฉินเย่จือหยิบบางอย่างออกมาจากแขนเสื้อของเขา ส่งให้เจียงอวิ้นหลิ่วและพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ”

เมื่อเจียงอวิ้นหลิ่วเห็นสิ่งของในมือของฉินเย่จือ ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปทันที

ตระกูลเจียงยังคงเป็นตระกูลเจียงเช่นเดิม

หากต้องการต่อสู้กับตระกูลเจียง ต้องทำอะไรบางอย่างด้วยรากฐานที่ตื้น ๆ แม้ว่าจะมีสถานะเป็นฮ่องเต้แล้วก็ตาม

เจียงอวิ้นหลิ่วยอมรับด้วยรอยยิ้ม “พรุ่งนี้เป็นงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ของเด็ก ๆ ที่นี่ ข้าขอเชิญนายน้อยฉินและเสี้ยนจู่มาที่บ้านอันต่ำต้อยในวันพรุ่งนี้เพื่อร่วมฉลอง”

ฉินเย่จือยิ้ม “นายท่านลองเปิดดูก่อนสิ”

เจียงอวิ้นหลิ่วยิ้มและเปิดสิ่งของในมือของเขา เมื่อเขาเห็น เขาก็กระโดดขึ้นด้วยความตกใจและพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “นี่คืออะไร มันมาจากไหน? ทั้งหมดคือการใส่ร้าย”

ฉินเย่จือดูเหมือนจะคาดหวังปฏิกิริยาของเจียงอวิ้นหลิ่วเช่นนี้ และยังคงยิ้ม “นายท่านเจียงไม่ต้องกังวล อ่านก่อนเถอะ ก่อนที่มันจะสายเกินไป”

สิ่งที่ฉินเย่จือมอบให้กับเจียงอวิ้นหลิ่วคือ คำร้องที่ไม่ระบุตัวตนซึ่งเขียนโดยหลิวเทียนฉือต่อกรมคลัง

ตระกูลหลิวฟ้องตระกูลเจียงในการลักลอบขายเกลือผิดกฎหมาย ทั้งระบุถึงที่ตั้งของโกดังทั้งหมดที่ตระกูลเจียงเก็บเกลือส่วนตัว

เจียงอวิ้นหลิ่วเห็นจุดสิ้นสุดจากด้านหน้า ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะยื่นขึ้น

เขาจ้องมองฉินเย่จืออย่างดุดันราวกับว่าต้องการเห็นบางสิ่งจากร่างกายของฉินเย่จือ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท