ตอนที่ 1101 ย้อนเวลา
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นคีบถ่านใส่ลงไปในเตาผิงเพิ่มอีกหนึ่งก้อน “ขอเพียงจับตัวหลี่จือเจี๋ยได้ พวกเราก็จะสาวไปถึงตัวหลี่เทียนเจียว อวิ๋นพั่วสิง…และกองทัพหั่วอวิ๋นได้”
“ฝ่าบาทไม่ต้องเป็นกังวลพ่ะย่ะค่ะ เราส่งคนออกตามหาแล้ว ขอเพียงหลี่จือเจี๋ยไม่ได้ถูกต้าเยี่ยนหรือต้าโจวซ่อนตัวไว้ พวกเราต้องหาตัวเขาพบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” ศิษย์คนโตของจอมเวทย์กล่าว
ทว่า สิ่งที่ศิษย์ของจอมเวทย์ไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดก็คือการที่หลี่จือเจี๋ยถูกต้าเยี่ยนหรือต้าโจวซ่อนตัวไว้เพราะหลี่จือเจี๋ยและหลี่เทียนเจียวรู้ความลับของหยกจักจั่น หากพวกเขาบอกความลับนี้ให้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวรับรู้แล้วจักรพรรดินีแห่งต้าโจวสั่งให้คนตามหาหยกจักจั่นเช่นกันคงไม่เป็นผลดีต่อเทียนเฟิ่งแน่นอน
ต้าโจวตามหาหยกจักจั่นในแคว้นของตัวเองได้สะดวกกว่าเทียนเฟิ่งแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากหยกจักจั่นอีกชิ้นอยู่ในสุสานของสามีของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว จักรพรรดินีแห่งต้าโจวต้องหามันพบอย่างง่ายดายแน่นอน
ศิษย์คนโตของจอมเวทย์ได้แต่หวังว่าสายลับที่ถูกส่งไปสืบหาเบาะแสของหยกจักจั่นในสุสานของสามีของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะสืบพบโดยเร็วว่าหยกจักจั่นถูกฝังไปพร้อมกับร่างของเซียวหรงเหยี่ยนหรือไม่ หากไม่…พวกเขาต้องรีบหาหยกจักจั่นที่หายไปให้พบโดยเร็วที่สุด
สิ่งที่จักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งและศิษย์คนโตของจอมเวทย์กังวลที่สุดเกิดขึ้นแล้ว บัดนี้หลี่จือเจี๋ยซึ่งรอดชีวิต ทว่า สูญเสียขาไปข้างหนึ่งเพราะถูกช้างเหยียบเตรียมสารภาพเรื่องที่เขารู้ทั้งหมดเกี่ยวกับหยกจักจั่นให้ไป๋ชิงเหยียนรับรู้เพราะทนแรงกดดันของหญิงสาวไม่ไหว
ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่มข้างหน้าต่าง แสงไฟในตะเกียงแก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยมสีดำตัวเล็กส่องกระทบใบหน้าเย็นชาครึ่งซีกของหญิงสาว ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าใช้ฝาถ้วยชากระเบื้องกดใบชาที่ลอยอยู่ในถ้วยชาให้จมลงไปก้นถ้วย
สิ่งที่ไป๋ชิงเหยียนสงสัยในสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมีเพียงหลี่จือเจี๋ยคนเดียวเท่านั้นที่รู้!
หลี่เทียนฟู่ตั้งใจนำทัพใหญ่เช่นนั้นบุกมาขอตัวคนคืน นางอยากให้ต้าโจวและเทียนเฟิ่งทำสงครามกันเพื่อแก้แค้นให้ลู่เทียนจัว
ทว่า แคว้นเทียนเฟิ่งเล่า
เดิมทีเทียนเฟิ่งต้องการย้ายเข้ามาอยู่ในดินแดนของต้าโจวและต้าเยี่ยนก่อนแล้วค่อยๆ กลืนกินดินแดนแห่งนี้ทีละนิด ดังนั้นเทียนเฟิ่งควรผูกไมตรีกับต้าโจวและต้าเยี่ยนก่อนแล้วค่อยทำให้พวกนางเห็นศักยภาพที่แท้จริงของเทียนเฟิ่ง ทว่า พวกเขาไม่มีทางผูกมิตรพลางทำสงครามกับต้าโจวและต้าเยี่ยนเช่นนี้แน่นอน
ที่สำคัญไป๋ชิงเหยียนไม่เชื่อว่าซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจะมองไม่ออกว่าหลี่เทียนฟู่จงใจยั่วยุให้ต้าโจวทำสงครามกับเทียนเฟิ่งเพื่อแก้แค้นให้ลู่เทียนจัว
ทว่า เทียนเฟิ่งกลับเลือกส่งกองทัพช้างมาช่วยหลี่เทียนฟู่จับตัวคนกลับไป เช่นนั้นแสดงว่าเทียนเฟิ่งไม่อยากให้หลี่จือเจี๋ยตกอยู่ในมือของคนในต้าโจว พวกเขาต้องมีเหตุผลที่ยอมช่วยเหลือหลี่เทียนฟู่จับตัวคนกลับไปในครั้งนี้แน่นอน
ทูตที่เทียนเฟิ่งส่งมาขอขมากับเรื่องที่เกิดขึ้นยังรออยู่ที่ลานหญ้าด้านนอก หลี่จือเจี๋ยมองเห็นทูตของเทียนเฟิ่งซึ่งสวมชุดประจำแคว้นของเทียนเฟิ่งยืนรออยู่ตรงลานด้านนอกนิ่งอย่างเลือนลาง
หลี่จือเจี๋ยเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน…
“เหยียนอ๋องนำปัญหาใหญ่มาให้ต้าโจวถึงเพียงนี้ ทหารต้าโจวของข้าไม่ปล่อยให้เหยียนอ๋องเสียชีวิตในกองหิมะก็ถือว่ามีน้ำใจมากแล้ว หากเหยียนอ๋องยังไม่สำนึก ไม่ยอมสารภาพความจริงทั้งหมดออกมาข้าคงต้องส่งตัวท่านคืนให้เทียนเฟิ่ง!” ไป๋ชิงเหยียนยังคงก้มหน้าไม่มองไปทางหลี่จือเจี๋ย หญิงสาวจิบน้ำชาหนึ่งอึก “เหยียนอ๋องเป็นคนนำหายนะครั้งนี้มาสู่ต้าโจว ประตูเมืองผิงหยางถูกช้างกระแทกจนพังแล้ว หากกองทัพช้างบุกมาอีกต้าโจวคงรับมือไม่ไหว”
“ฝ่าบาทจะยอมจำนนต่อเทียนเฟิ่งหรือพ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยไม่อยากยอมแพ้จึงแสร้งกล่าวประชด
หลี่จือเจี๋ยที่ใบหน้าซีดเผือดนั่งอยู่บนเตียงธรรมดาซึ่งวางอยู่ตรงมุมห้อง ใบหน้าและแผ่นหลังของเขาชื้นไปด้วยเหงื่อ เส้นเลือดปูดขึ้นที่หน้าผาก บาดแผลบริเวณลำคอถูกพันแผลเรียบร้อย ภายใต้ผ้าห่มลายเมฆไร้ซึ่งขาข้างขวาของหลี่จือเจี๋ย เขาเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว
“วิธียั่วยุคนของเหยียนอ๋องสู้หลี่เทียนฟู่ไม่ได้เลยสักนิด ต้าโจวไม่เคยกลัวที่จะทำสงครามกับแคว้นอื่น เพียงแต่…” ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ จากนั้นเงยหน้ามองหลี่จือเจี๋ยด้วยแววตาเย็นชา “การทำสงครามเพื่ออ๋องของฝ่ายศัตรูช่างไม่คุ้มค่าเลยสักนิด!”
หลี่จือเจี๋ยกำมือที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มแน่น ไป๋ชิงเหยียนกล่าวถูกแล้ว…
ตอนเขาฟื้นขึ้นมาเขาได้ยินว่าต้าโจวทำสงครามกับเทียนเฟิ่งแล้ว ชนวนสงครามเป็นเพราะหลี่เทียนฟู่ต้องการสังหารองครักษ์ของตระกูลไป๋ดังนั้นไป๋ชิงเหยียนจึงลงมือ
คนตระกูลไป๋เป็นคนรักพวกพ้อง พวกเขาไม่มีทางปกป้องอ๋องแคว้นศัตรูอย่างเขาแน่นอน
“หากสิ่งที่กระหม่อมจะทูลให้ฝ่าบาทฟังมีประโยชน์ต่อฝ่าบาท ฝ่าบาทยินดีปกป้องกระหม่อมจากแคว้นเทียนเฟิ่งหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยถาม
“ต้องดูว่าเจ้าจะสารภาพตามความจริงหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
“ทูตของเทียนเฟิ่งยังรออยู่ เหยียนอ๋องรีบตัดสินใจเถิด อย่ามัวเสียเวลาต่อรองกับข้าเลย”
หลี่จือเจี๋ยมองตามสายตาของไป๋ชิงเหยียนออกไปนอกหน้าต่าง เขาหลับตาลงครู่หนึ่ง จากนั้นเล่าเรื่องตำนานของหยกจักจั่นให้ไป๋ชิงเหยียนฟังอย่างละเอียด
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าลง นางเหลือบมองไปที่หยกจักจั่นซึ่งแขวนอยู่ที่เอวของตัวเองแวบหนึ่ง
ย้อนเวลา…
ใจของไป๋ชิงเหยียนกระตุกวูบ
ชาติที่แล้วเซียวหรงเหยี่ยนมอบหยกจักจั่นซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนตัวของผู้สำเร็จราชการแห่งต้าเยี่ยนให้นางใช้หลบหนี ทว่า นางถูกเหลียงอ๋องจับตัวได้ขณะตามหาน้องสาวคนที่เจ็ด เหลียงอ๋องใช้ชีวิตของเสี่ยวชีบีบบังคับให้นางยอมจำนน นางจึงได้แต่ยอมแพ้
ตอนที่นางเสียชีวิต…หยกจักจั่นยังอยู่ที่นาง
ต่อมานางกลับมาเกิดใหม่ในวันก่อนหน้าที่ไป๋จิ่นซิ่วจะออกเรือนหนึ่งวัน
ไป๋ชิงเหยียนขยับแขนเสื้อของตัวเองเล็กน้อย เท้าศอกลงบนโต๊ะพลางมองไปทางหลี่จือเจี๋ยนิ่ง “เจ้าได้ยินตำนานนี่มาจากที่ใด”
“ฝ่าบาททรงคิดว่าเทียนเฟิ่งเสี่ยงเปลี่ยนตัวจักรพรรดินีของกระหม่อมเป็นสตรีสติฟั่นเฟือนที่เอาแต่คิดแก้แค้นให้ขันทีเพียงคนเดียวเพราะนางควบคุมง่ายกว่าจักรพรรดินีของกระหม่อมเท่านั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยกล่าวพลางขบกรามแน่น “เป็นเพราะจักรพรรดินีของกระหม่อมทราบความลับนี้ จักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งกลัวว่าจักรพรรดินีของกระหม่อมจะอยากได้หยกจักจั่นจึงคิดกำจัดจักรพรรดินีของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”
หลี่จือเจี๋ยเห็นสีหน้าเรียบเฉยของไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวต่อ “ดูเหมือนว่าฝ่าบาทจะไม่ทรงเชื่อตำนานของหยกจักจั่น”
“ตำนานนี้มีช่องโหว่มากมาย หากหยกจักจั่นมีพลังวิเศษที่สามารถย้อนเวลาได้จริง เทียนเฟิ่งกลายเป็นแคว้นที่มีเพียงฤดูร้อน แสดงว่าในหนึ่งปีเทียนเฟิ่งใช้พลังย้อนเวลาถึงสี่ครั้ง ทว่า เหตุใดคนเทียนเฟิ่งจึงมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ได้ พวกเขาควรมีชีวิตอยู่เมื่อร้อยปีหรือพันปีที่แล้วถึงจะถูก”
ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะสีดำ จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ส่วนฮองเฮาแห่งเทียนเฟิ่งที่เจ้ากล่าวถึง เจ้าบอกว่าฮองเฮาใช้ประโยชน์จากการย้อนเวลาล่วงรู้ตำแหน่งที่ตั้งของแคว้นฮั่นอิงจึงทำให้เทียนเฟิ่งชนะสงคราม ทว่า นางสูญเสียลูก ครอบครัวและสามีของนางไป ส่วนขุนนางและชาวบ้านแคว้นเทียนเฟิ่งไม่รู้ว่าตัวเองถูกย้อนเวลาใช่หรือไม่”