สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1119 สักขีพยาน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1119 สักขีพยาน

ทว่า พลธนูและพลทหารหน้าไม้ของกองทัพหั่วอวิ๋นล้วนอยู่ที่ต่ำกว่ากองทัพต้าโจว พวกเขาไม่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ แม้พวกเขาจะยิงโดน ทว่า ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นอย่างที่หวังไว้

กองทัพหั่วอวิ๋นถือเป็นทหารกล้ากองทัพหนึ่ง พวกเขายอมเสี่ยงชีวิตปีนขึ้นไปบนกำแพงอย่างไม่กลัวตาย ศพของพวกเขากองรวมกันอยู่หน้าบันไดกำแพง พวกเขาใช้ร่างของตัวเองเป็นเกราะกำบังลูกธนูให้สหายที่อยู่ทางด้านหลัง แม้สหายของพวกเขาจะเดินหน้าไปได้อีกแค่เพียงก้าวเดียว แม้จะเหลือเพียงคนเดียวที่สามารถบุกขึ้นไปเผชิญหน้ากับกองทัพหู่อิง แม้จะสามารถสังหารทหารค่ายหู่อิงได้เพียงคนเดียวก็ตาม

ทว่า กองทัพหู่อิงจะปล่อยให้กองทัพที่ลอกเลียนแบบพวกเขาเหล่านี้ปีนขึ้นมาบนกำแพงได้อย่างไร! จักรพรรดินีแห่งต้าโจว…ฝ่าบาทของพวกเขากำลังยืนอยู่บนกำแพงนี้!

แม้ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนกำลังตั้งครรภ์จึงไม่สามารถบุกต่อสู้กับศัตรูอยู่ที่ด้านหน้าสุดได้ ทว่า ฝ่าบาทของพวกเขาอยู่กับพวกเขาในด่านหน้านี้ด้วย!

หากพวกเขาเสียชีวิตลง ฝ่าบาทของพวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย! ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

“ทหารกองทัพหั่วอวิ๋นมีความกล้าหาญมากทีเดียว…” เสิ่นเหลียงอวี้รู้สึกนับถือกองทัพหั่วอวิ๋นที่พยายามบุกต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิตแม้จะตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย บัดนี้เขาไม่ได้โมโหที่การฝึกฝนของค่ายหู่อิงถูกลอกเลียนแบบอีกต่อไปแล้ว ทว่า กลับรู้สึกตื่นเต้นแทน “ฝ่าบาท! ให้ทหารกองทัพหู่อิงเผชิญหน้ากับกองทัพหั่วอวิ๋นซึ่งๆ หน้าเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

“ชีวิตของทหารของพวกเราล้วนมีค่า บัดนี้พวกเรากำลังได้เปรียบ ไม่จำเป็นต้องให้ทหารของพวกเราสละชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ ทว่า ข้าจะพยายามไว้ชีวิตของทหารกองทัพหั่วอวิ๋นที่ท่านนับถือ”

ไป๋ชิงเหยียนหยิบลูกธนูขึ้นมาหนึ่งดอก จากนั้นเล็งยิงไปทางโล่กำบังของทหารที่แข็งราวกับกระดองเต่า ขอเพียงนางหาช่องโหว่สังหารอวิ๋นหลิงจื้อได้สงครามครั้งนี้ก็จะจบลงทันที

เมื่อใต้หล้ารวมเป็นหนึ่ง กองทัพซีเหลียงก็คือกองทัพของต้าโจว ไป๋ชิงเหยียนไม่อยากให้พวกเขาสูญเสียมากเกินไปเช่นกัน

เหตุนี้ไป๋ชิงเหยียนจึงไม่คิดใช้ไฟกับกองทัพหั่วอวิ๋น หากใช้ไฟ…สงครามครั้งนี้คงจบลงอย่างรวดเร็ว ทว่า คนและสิ่งก่อสร้างในเมืองผิงหยางจะได้รับความเดือดร้อนไปด้วย

ขอเพียงให้นางได้เห็นช่องโหว่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น…

ลมหนาวพัดผ่านใบหูของไป๋ชิงเหยียน ดวงตาคมราวกับเหยี่ยวของหญิงสาวจ้องไปยังโล่ที่ประกบติดกันแน่นจนไม่มีช่องโหว่นิ่งเพื่อรอจังหวะ…

สงครามที่ประตูทิศตะวันออกของเมืองผิงหยางยังคงดำเนินต่อไป บัดนี้จวนของเจ้าเมืองนองไปด้วยเลือด กองทัพหู่อิงเก็บกวาดศพของกองทัพหั่วอวิ๋นเกลี้ยงเกลา ทหารกองทัพหู่อิงถามหัวหน้าของตัวเองว่าต้องไปเสริมทัพที่ประตูฝั่งตะวันออกซึ่งมีแต่เสียงสู้รบหรือไม่

“พวกเราอยู่ที่นี่จนกว่าสงครามจะยุติลงตามที่ได้รับคำสั่งมาดีกว่า” หัวหน้าหน่วยย่อยของกองทัพหู่อิงกล่าวขึ้น

ไม่นานพลทหารโล่ที่อยู่แนวหน้าสุดเริ่มต้านทานฝนธนูที่ยิงถล่มลงมาไม่หยุดหย่อนไม่ไหว ปลายเท้าเต็มไปด้วยกองเลือด เมื่อเดินไปด้านหน้าพวกเขาเกือบลื่นล้มลงบนพื้น พลทหารโล่ขบกรามแน่น ร่างกายของเขาเริ่มโซเซ เผยให้เห็นช่องว่างระหว่างโล่กำบังอยู่หลายครั้ง

ไป๋ชิงเหยียนพ่นลมหายใจที่เต็มไปด้วยควันขาวออกมาจากปาก หญิงสาวเหมือนจะพบช่องโหว่ระหว่างโล่กำบังในทิศทางที่ควันขาวลอยไป หญิงสาวตั้งสติมั่น ยิงธนูออกไป จากนั้นหยิบลูกธนูดอกใหม่ขึ้นมายิงซ้ำ…

แม่ทัพมีประสาทสัมผัสที่ไวต่ออันตรายมากกว่าทหารทั่วไปในกองทัพ อวิ๋นหลิงจื้อรีบจับแขนของพลทหารโล่ที่แทบถือโล่ไม่ไหวให้ตั้งตรงอีกครั้ง เขาเพิ่งประสานโล่แนบสนิทเข้าด้วยกัน…ลูกธนูดอกหนึ่งกลับลอดทะลุช่องโหว่เข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยลูกธนูอีกดอก ลูกธนูดอกแรกปักเข้าที่ดวงตาข้างซ้ายของอวิ๋นหลิงจื้อ ลูกธนูอีกดอกแทงทะลุดวงตาข้างขวาของอวิ๋นหลิงจื้อปักลงบนกระดูกที่ขาของพลทหารโล่คนหนึ่งโดยมีดวงตาที่เต็มไปด้วยเลือดของอวิ๋นหลิงจื้อติดมากับหัวธนูด้วย

ป้อมปราการโล่กำบังที่ประกบกันแนบสนิทจนไม่มีช่องโหว่ถูกทำลายในทันที

หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นในสนามรบ…นั่นหมายถึงความตาย!

ลูกธนูยังพุ่งตรงมาไม่หยุดหย่อน พลทหารโล่ใช้ร่างกายของตัวเองปกป้องอวิ๋นหลิงจื้อและอวิ๋นเทียนเอ้า พวกเขาปกป้องอวิ๋นหลิงจื้อไว้ได้ ทว่า ไม่มีผู้ใดสังเกตว่าอวิ๋นหลิงจื้อที่นอนอยู่บนกองเลือดในตอนนี้สิ้นลมหายใจไปนานแล้ว

เลือดในกายของเสิ่นเหลียงอวี้พลุ่งพล่าน เขาหยิบคบเพลิงมาจากทหารคนหนึ่งแล้วเดินขึ้นไปบนกำแพงสูง น้ำเสียงทุ้มดังกังวานขึ้น “พลธนูหยุดยิง แม่ทัพใหญ่ของกองทัพซีเหลียงสิ้นใจแล้ว หากกองทัพหั่วอวิ๋นยอมจำนนจะไว้ชีวิต!”

อวิ๋นเทียนเอ้ากอดร่างของอวิ๋นหลิงจื้อไว้แนบอก เมื่อเงยหน้าเห็นไป๋ชิงเหยียนจึงเบิกตาโพลงทันที “ไป๋ชิงเหยียน!”

เดิมทีอวิ๋นเทียนเอ้ายังฝากความหวังไว้ที่ยอดฝีมือของกองทัพหั่วอวิ๋น หวังว่าพวกเขาจะจับตัวไป๋ชิงเหยียนมาได้ ทว่า เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนปรากฏตัวอยู่ที่นี่ อวิ๋นเทียนเอ้าจึงหมดความหวังใดๆ

ใช่แล้ว นี่คือแผนของไป๋ชิงเหยียนตั้งแต่แรก นางล่อให้พวกเขาเข้ามาติดกับแล้วนางจะอยู่รอให้ทหารยอดฝีมือของกองทัพหั่วอวิ๋นไปจับตัวนางที่จวนเจ้าเมืองได้อย่างไรกัน

ทว่า กองทัพของไป๋ชิงเหยียนอยู่ที่ใดกัน! คนของเหยียนอ๋องสืบได้ว่ากองทัพในเมืองผิงหยางเดินทางไปยังเมืองผิงตู้หมดแล้วนี่นา!

ที่สำคัญต้าโจวยังส่งกองกำลังไปจับตัวจักรพรรดินีหลี่เทียนเจียวของซีเหลียงที่ภูเขาไหลอันอีก!

อวิ๋นเทียนเอ้านึกถึงหลี่เทียนเจียวจึงนึกถึงท่านปู่ของเขาที่นำทัพกลับไปช่วยเหลือหลี่เทียนเจียวขึ้นมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที นั่นจะเป็นแผนของไป๋ชิงเหยียนเหมือนกันหรือไม่นะ นางจงใจล่อให้ท่านปู่ของเขายกทัพกลับไปช่วยเหลือหลี่เทียนเจียว จากนั้นจะดักซุ่มโจมตีท่านปู่ของเขาระหว่างทางหรือไม่นะ

ไม่! ไม่มีทาง…

ท่านปู่ของเขาเป็นคนรอบคอบ ท่านปู่ส่งคนไปสำรวจเส้นทางตั้งแต่ก่อนออกเดินทางแล้ว ระหว่างทางไม่มีกับดักใดๆ ทั้งสิ้น…

อย่างน้อยท่านปู่ก็สามารถนำกองทัพหั่วอวิ๋นไปช่วยฝ่าบาทหนีไปอย่างปลอดภัยได้ ขอเพียงฝ่าบาทยังมีชีวิตอยู่ ซีเหลียงก็ยังมีความหวัง

เสิ่นเหลียงอวี้ได้ยินอวิ๋นเทียนเอ้าเอ่ยเรียกนามเต็มของไป๋ชิงเหยียนจึงตะโกนขึ้นเสียงดังลั่นอีกครั้ง “จักรพรรดินีแห่งต้าโจวอยู่ที่นี่ ผู้ใดยอมจำนนจะไว้ชีวิต ผู้ใดขัดขืนจะถูกสังหารจนสิ้น!”

แสงไฟจากคบเพลิงบนกำแพงสะท้อนให้เห็นใบหน้างดงาม ทว่า เย็นชาของไป๋ชิงเหยียนอย่างริบหรี่ ดวงตาคู่งามของหญิงสาวจ้องมองไปทางซากศพที่กองเป็นภูเขาด้วยแววตาเรียบเฉย

ตอนที่นางอ่านบันทึกสถานการณ์รบ นางรู้ว่าอวิ๋นพั่วสิงร่วมมือกับหลิวฮ่วนจางใช้ประโยชน์จากความเขลาของซิ่นอ๋องบีบให้กองทัพไป๋ไปยังกลางหุบเขา อวิ๋นพั่วสิงใช้วิธีที่นางกำลังใช้จัดการกับกองทัพไป๋ พวกเขายิงธนูลงมาสังหารกองทัพไป๋ที่อยู่ด้านล่างภูเขาไม่หยุดหย่อน พวกเขาล้อมกองทัพไป๋ ท่านปู่ ท่านพ่อ บรรดาท่านอาและน้องชายของนางไว้ในหุบเขา

หากไป๋ชิงเหยียนใจร้ายกว่านี้อีกสักนิด นางคงต้องเอาคืนกองทัพซีเหลียงให้กองทัพไป๋และครอบครัวของนางเป็นร้อยเท่า

ทว่า นางต้องการแก้แค้น ไม่ได้ต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

คำกล่าวของเสิ่นเหลียงอวี้ทำให้ทหารกองทัพหั่วอวิ๋นที่เริ่มหวาดกลัวเพราะตระหนักได้ว่าพวกเขาติดกับดักต้าโจว ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกอวิ๋นหลิงจื้ออย่างปวดร้าวของอวิ๋นเทียนเอ้ายิ่งทำให้พวกเขาเริ่มหมดขวัญกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป พวกเขาเงยหน้ามองไปทางจักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่ยืนอยู่บนกำแพงสูง

เสิ่นเหลียงอวี้มองไปทางกองทัพหั่วอวิ๋นที่ค่อยๆ ทิ้งอาวุธในมือของตัวเองลง จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียน…

“ให้คนเก็บกวาดสถานที่ให้เรียบร้อย ขังทหารยอมจำนนเหล่านี้ไว้ก่อน พาอวิ๋นหลิงจื้อและอวิ๋นเทียนเอ้ามา พวกเราไปดูเสียหน่อยว่าเฉิงหย่วนจื้อตัดศีรษะของอวิ๋นพั่วสิงได้แล้วหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนหมุนตัวเดินลงจากกำแพง

ไป๋ชิงเหยียนต้องการเห็นอวิ๋นพั่วสิงเสียชีวิตกับตาของตัวเอง

แม้ไม่ได้ทำเพื่อท่านปู่และท่านพ่อ ทว่า นางก็ต้องเห็นการตายของอวิ๋นพั่วสิงด้วยตัวเองเพื่อน้องชายคนที่สิบเจ็ดของนาง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท