สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1122 ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1122 ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางอวิ๋นพั่วสิงที่พร้อมตายด้วยแววตาเรียบเฉย เมื่อได้ยินคำที่เขาจงใจกล่าวยั่วยุเฉิงหย่วนจื้อโทสะที่มีจึงทวีความรุนแรงมากขึ้นจนนางอยากยิงธนูใส่ร่างของอวิ๋นพั่วสิงนับร้อยดอกให้เขาทรมานจนตาย นางอยากทำแบบเดียวกันกับที่อวิ๋นพั่วสิงทำกับเสี่ยวสือชือกับอวิ๋นเทียนเอ้าต่อหน้าเขาให้เขารับรู้ถึงความเจ็บปวดนั้นบ้าง

ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่ใช่อวิ๋นพั่วสิง นางจะไม่ทำเช่นนั้น ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เมื่อเฉิงหย่วนจื้อได้ยินนามของรองแม่ทัพใหญ่ของตนออกมาจากปากของอวิ๋นพั่วสิง ได้ยินสิ่งที่คุณชายสิบเจ็บของตระกูลไป๋เคยถูกกระทำ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงฉานขึ้นมาทันที ความโกรธเกลียดครอบงำจนเขาเกือบเสียสติ เขารู้สึกเหมือนมีไอสังหารจากขุมนรกแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา เฉิงหย่วนจื้อยกดาบขึ้นสูงจากนั้นฟันลงไปที่คอของอวิ๋นพั่วสิง…

ศีรษะเปื้อนเลือดของอวิ๋นพั่วสิกระเด็นออกไปไกล…

แม้จะลมหายใจสิ้นแล้ว ทว่า อวิ๋นพั่วสิงยังคงมองเห็นอยู่ เขาเห็นหิมะที่ตกโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่มืดมิด เห็นเลือดของตัวเองสาดกระจายอยู่กลางอากาศจนหิมะขาวรอบกายเปื้อนเลือดของเขาเต็มไปหมด

ก่อนที่สายตาของอวิ๋นพั่วสิงจะมืดสนิทลงเขารู้สึกเหมือนตัวเองได้ย้อนกลับไปในช่วงเวลาในอดีต

เขาเกิดมาในตระกูลทายาทสายหลักของตระกูลอวิ๋น เขาคือหลานชายคนโตของตระกูล หากตอนนั้นเขาไม่เข้าร่วมกองทัพก็คงต้องรับตำแหน่งต่อจากบิดาในราชสำนักตามการจัดการของคนในตระกูล เขาคงกลายเป็นขุนนางของซีเหลียงที่สามารถคานอำนาจระหว่างจักรพรรดิแห่งซีเหลียงและขุนนางในราชสำนักได้

เขาได้รับเลือกให้เป็นสหายร่วมเรียนกับจักรพรรดิแห่งซีเหลียงตั้งแต่จักรพรรดิองค์ก่อนของซีเหลียงยังไม่ประสูติแม้ว่าตอนนั้นเขาจะมีอายุมากกว่าสหายร่วมเรียนทั้งหมดก็ตาม

จักรพรรดิองค์ก่อนคือโอรสซึ่งเกิดจากฮองเฮา ตอนพระองค์ประสูติอวิ๋นพั่วสิงอายุสิบปี จักรพรรดิองค์ก่อนฉลาดตั้งแต่วัยเยาว์ พระองค์เป็นที่รักของบรรดาขุนนางและบิดาของพระองค์ กล่าวได้ว่าพระองค์คือรัชทายาทที่ถูกกำหนดไว้อย่างลับๆ ตั้งแต่แรกแล้ว ทว่า จักรพรรดิที่เพรียบพร้อมเช่นนี้กลับตัวติดเขามาก พระองค์ไม่ได้ประจบเอาใจเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากเขา ทว่า เห็นเขาเป็นดั่งครอบครัวและพี่ชายจริงๆ

ตอนนั้นบิดาของเขาเข้มงวดกับเขามากเพราะเขาคือความหวังของตระกูลอวิ๋น หากเขาทำไม่ได้ตามที่บิดาตั้งเป้าไว้เขามักจะถูกโบยทุกครั้ง เขาอายจึงไม่กล้าบอกให้ผู้ใดรับรู้ ทว่า จักรพรรดิองค์ก่อนของซีเหลียงกลับสังเกตได้ทุกครั้ง…

เขาจำได้ว่าครั้งนั้นมีพายุหิมะตกในซีเหลียงครั้งใหญ่ จักรพรรดิแอบขโมยยาจากหมอหลวงแล้วยัดใส่มือเขาตอนที่เขาเข้าไปในวังหลวง ดวงตาสีดำคู่งามคู่นั้นจ้องเขาพลางกล่าวขึ้น “ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าฉลาดมาก ไม่มีผู้ใดรู้เด็ดขาดว่าข้าขโมยยามาให้ท่าน ข้าไม่มีทางให้คนอื่นรู้ว่าท่านถูกทำโทษแน่นอน!”

ตอนนั้นจักรพรรดิองค์ก่อนของซีเหลียงมีพระชนมายุเพียงสามพรรษาเท่านั้น หิมะตกลงบนขนตายาวของเขาจนดูเหมือนไข่มุก นั่นคือดวงตาที่บริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่อวิ๋นพั่วสิงเคยเห็นมา

ตอนจักรพรรดิองค์ก่อนพระชนมายุสิบเจ็ดพรรษา พระองค์สละชีวิตของตัวเองรับอุ้งเท้าหมีแทนเขาซึ่งอายุมากกว่าตัวเองถึงสิบปีเพื่อให้เขามีโอกาสสังหารหมีตัวนั้นให้ตาย ทว่า จักรพรรดิซีเหลียงเกือบเอาชีวิตไม่รอดในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน…

จักรพรรดิซีเหลียงหมดสติไปสามวัน อวิ๋นพั่วสิงคุกเข่าอยู่หน้าประตูวังหลวงสามวันเช่นเดียวกัน สิ่งแรกที่จักรพรรดิซีเหลียงทำหลังฟื้นขึ้นมาคือขอร้องไม่ให้บิดาของตัวเองลงโทษเขา

ต่อมาพระวรกายของจักรพรรดิซีเหลียงแย่ลงทุกวัน พระองค์มีชีวิตอยู่ได้ด้วยยาบำรุงและยารักษามากมาย ทว่า พระองค์ไม่เคยรู้สึกเสียใจที่เคยเสี่ยงชีวิตช่วยเขาเลยสักครั้ง กลับเอาแต่บอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอันมากแม้ตอนนั้นจะไอหนักจนหน้าแดงก่ำไปทั้งหน้าก็ตาม

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จักรพรรดิซีเหลียงมีพระชนพรรษาครบยี่สิบปี ทว่า ตอนนั้นพระวรกายของพระองค์อ่อนแอจนไม่สามารถเข้าหอกับพระชายาเอกได้ดังนั้นพระองค์จึงไม่สามารถมีทายาทได้ ขุนนางที่เคยสนับสนุนรัชทายาทเริ่มหันไปสนับสนุนองค์ชายสองและองค์ชายสามแทน เขาพวกเขาคิดว่ารัชทายาทที่พระวรกายอ่อนแอเช่นนี้อาจมีอันเป็นไปได้ทุกเมื่อ

พวกเขาเปลี่ยนไปราวกับว่าพวกเขาไม่เคยชมอดีตจักรพรรดิแห่งซีเหลียงในตอนที่ยังเป็นเพียงรัชทายาทว่าทรงมีเมตตาและคุณธรรม สิ่งสำคัญที่สุดคือพระวรกายของจักรพรรดิจะอยู่ควบคุมสถานการณ์ในราชสำนักให้มั่นคงไปได้นานเท่าใด สร้างประโยชน์ให้พวกเขาและตระกูลได้นานเท่านั้น

นับแต่นั้นเป็นต้นมาอวิ๋นพั่วสิงจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำให้รัชทายาทขึ้นเป็นจักรพรรดิของซีเหลียงให้ได้

เขาอาศัยบารมีของตระกูลตัวเองและตระกูลพ่อตาจนมีที่ยืนในราชสำนักอย่างมั่นคง อีกทั้งควบคุมอำนาจทางทหารของซีเหลียงไว้ในมือ เขามุ่งมั่นจะสนับสนุนให้จักรพรรดิองค์ก่อนของซีเหลียงที่เหล่าขุนนางไม่เห็นด้วยให้ขึ้นครองราชย์ขึ้นครองบัลลังก์ของซีเหลียงให้ได้

ต่อมาเขาทำสำเร็จ เขาควบคุมอำนาจทางการเมืองและทหารของซีเหลียงไว้ในมือโดยไม่สนความเห็นของคนหมู่มาก เขาสังหารองค์ชายสองและองค์ชายสาม จากนั้นสนับสนุนให้โอรสที่เกิดจากฮองเฮาซึ่งถูกเหล่าขุนนางละเลยขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิของซีเหลียง

เขาสาบานว่าจะปกป้องฝ่าบาทของเขาและซีเหลียงด้วยชีวิต สาบานว่าจะยอมเป็นดาบเล่มคมในมือของฝ่าบาท จะทำทุกอย่างที่ฝ่าบาทสั่งให้เขาทำโดยไม่มีข้อแม้ เขาสวามิภักดิ์ต่ออดีตจักรพรรดิแห่งซีเหลียง ควบคุมตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดของซีเหลียง ทำให้ฝ่าบาทกลายเป็นคนมีอำนาจที่แท้จริงในซีเหลียง ทว่า ความขัดแย้งระหว่างเขาและตระกูลทั้งแปดทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน

ดังนั้นหลังจากอดีตจักรพรรดิของซีเหลียงถูกลอบปลงพระชนม์ ขณะที่เขายังทำสงครามอยู่ในสนามรบ ตระกูลทั้งแปดของซีเหลียงจึงก่อความวุ่นวายขึ้นโดยหยิบยกเรื่องที่จักรพรรดิองค์ก่อนของซีเหลียงมีเพียงธิดาขึ้นมาเป็นประเด็น เมืองอวิ๋นจิงจึงเกิดความวุ่นวายขึ้น ตระกูลทั้งแปดคิดก่อกบฏแย่งชิงบัลลังก์ไปครอง

ตอนเขากลับไปยังเมืองอวิ๋นจิง เขาพบหลี่เทียนเจียว เขาได้ยินหลี่เทียนเจียวกล่าวว่าก่อนที่เสด็จพ่อของนางจะจากไปได้กำชับนางไม่ให้นางเชื่อใจผู้ใดในใต้หล้าทั้งสิ้น ทว่า นางสามารถเชื่อใจอวิ๋นพั่วสิงได้ มีเพียงอวิ๋นพั่วสิงเท่านั้นที่สามารถปกป้องซีเหลียงได้

อวิ๋นพั่วสิงน้ำตาร่วงทันทีที่ได้ยินคำกล่าวนั้น ดังนั้นเขาจึงสนับสนุนให้หลี่เทียนเจียวขึ้นครองบัลลังก์ อวิ๋นพั่วสิงอยากจัดการกับตระกูลทั้งแปดด้วยวิธีเดียวกับที่เขาเคยทำก่อนหน้านี้ ทว่า อวิ๋นพั่วสิงพบว่าตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว โชคดีที่หลี่เทียนเจียวซึ่งเป็นสายเลือดของจักรพรรดิองค์ก่อนของซีเหลียงไม่ใช่คนอ่อนแอ หญิงสาวยกระดับฐานะของบัณฑิตยากจนให้ขึ้นมามีอำนาจต่อกรกับตระกูลทั้งแปดได้

ทว่า ต่อให้หลี่เทียนเจียวจะมีความสามารถและพรสวรรค์มากเพียงใด ต่อให้เขาจะพยายามทำทุกทางมากเพียงใด หากในแคว้นมีตระกูลทั้งแปดที่ทำตัวเป็นปลิงดูดเลือดซีเหลียง นอกแคว้นมีศัตรูแข็งแกร่งที่ร่วมมือกันคิดทำลายซีเหลียงอยู่ ต่อให้เก่งเพียงใดซีเหลียงก็เปลี่ยนแปลงสิ่งใดไม่ได้แล้วจริงๆ

เขาทำผิดต่อฝ่าบาทที่ไม่สามารถปกป้องซีเหลียงไว้ได้…

เขารู้สึกเหมือนจะมองเห็นดวงตาที่บริสุทธิ์สดใสคู่นั้นของอดีตจักรพรรดิแห่งซีเหลียงท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย

ดวงตาของอวิ๋นพั่วสิงค่อยๆ มืดลง ร่างเขาเกร็งกระตุกเป็นครั้งสุดท้าย ทุกอย่างสิ้นสุดลงแล้ว

“ท่านปู่!”

เสียงร้องเรียกอวิ๋นพั่วสิงอย่างเจ็บปวดของอวิ๋นเทียนเอ้าดังก้องไปทั่วภูเขาไหลอัน ทว่า ท่านปู่ของเขาไม่ได้ยินแล้ว!

แม่ทัพอวิ๋นพั่วสิงผู้เกรียงไกรของซีเหลียงสิ้นใจลงที่ภูเขาไหลอัน

เฉิงหย่วนจื้อหอบอย่างรุนแรงหลังจากตัดศีรษะของอวิ๋นพั่วสิงสำเร็จ…

น้ำตาของเขาเกือบไหลพรากออกมาจากดวงตา เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีฟันดาบไปยังคอของอวิ๋นพั่วสิง ดาบที่ยังคงมีรอดเลือดติดอยู่หล่นลงบนพื้น เฉิงหย่วนจื้อโดนโซเซเข้าไปใกล้ศีรษะของอวิ๋นพั่วสิง จากนั้นก้มหยิบศีรษะของเขาขึ้นมาชูสูงทั้งน้ำตาพลางตะโกนเสียงดังลั่น

“ท่านรองแม่ทัพใหญ่ ข้าเหล่าเฉิงแก้แค้นให้ท่านสำเร็จแล้วขอรับ! คุณชายสิบเจ็บ สหายทุกคนของกองทัพไป๋ เหล่าเฉิงแก้แค้นให้ทุกคนสำเร็จแล้ว!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท