สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1125 รุนแรง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1225 รุนแรง

เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจึงตัดสินใจได้ในทันที กองทัพศัตรูไล่ตามมาทางด้านหลัง เมืองผิงตู้ถูกตีแตกแล้ว พวกเขาไม่มีทางหนีอีกแล้ว…

บางทีด้านหน้าอาจมีกองทัพซุ่มโจมตีอยู่ ทว่า หากข้ามแม่น้ำตันสุ่ยไปได้พวกเขาจะไปถึงเมืองเฉวี่ยนหยา พวกเขามีกองทัพช้างที่สามารถข้ามแม่น้ำได้อย่างง่ายดาย ทว่า กองทัพที่ดักซุ่มอยู่ไม่สามารถข้ามตามไปได้อย่างง่ายดายแน่นอน ดังนั้นซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นตัดสินใจจะบุกออกไป ถึงแม้จะมีกับดักรออยู่เบื้องหน้า ทว่า ขอเพียงพวกเขาบุกออกไปให้เร็วที่สุดอย่างน้อยก็คงสูญเสียไม่มากสักเท่าใดนัก! ทว่า หากพวกเขาหยุดอยู่ตรงนี้เท่ากับรอความตายเท่านั้น!

เมื่อคิดได้ดังนี้ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นจึงสั่งให้กองทัพช้างรีบข้ามแม่น้ำตันสุ่ยไปให้เร็วที่สุด

เสียงขลุ่ยดังขึ้นอีกครั้ง ช้างยักษ์ส่งเสียงร้องพลางชูงวงขึ้นสูง ช้างทุกตัวเข้าไปคุ้มกันช้างศึกซึ่งเป็นพาหนะของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นอยู่ตรงกลางวงล้อม จากนั้นมุ่งหน้าเดินไปยังทางออกของหุบเขาหานเหวินอย่างรวดเร็ว

พื้นดินที่เสิ่นคุนหยางยืนอยู่สั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นและกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งเดินเข้ามาในวงล้อมหมดแล้วเสิ่นคุนหยางจึงผุดลุกขึ้นยืนพลางตะโกนขึ้น “โจมตี!”

ทันใดนั้นคบเพลิงจากหน้าผาสองด้านสว่างขึ้นทันที ทหารต้าโจวที่ร่างกายเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะต่างลุกขึ้นยืนแล้วยิงธนูไปยังกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งซึ่งอยู่ด้านล่างหุบเขา น้ำมันสนและน้ำมันเพลิงถูกราดลงไปด้านล่างทีละถัง ลูกธนูไฟพุ่งตรงไปด้านล่างไม่หยุดหย่อน

หัวของลูกธนูไฟปักลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยน้ำมัน เปลวไฟซึ่งอยู่ตรงปลายลูกศรมอดดับชั่วครู่…ทว่า ไม่นานไฟก็ลุกลามขึ้นอีกครั้งพลางกระจายตัวตามพื้นดินออกเป็นวงกว้าง จากนั้นลุกโหมขึ้นลามไปยังขาของกองทัพช้างเหล่านั้นทันที สิ่งมีชีวิตทุกอย่างในหุบเขาหานเหวินกำลังถูกเผาไหม้

เปลวเพลิงลุกโหมจากที่ต่ำขึ้นสู่ที่สูงตามแรงลมราวกับกำลังล่าเหยื่อของตัวเองอย่างหิวกระหาย หากเหยื่อประมาทคงถูกกลืนกินทั้งร่างแน่นอน

เมื่อทหารต้าโจวเห็นไฟลุกลามขึ้นแล้วจึงพากันโยนห่อพริกแห้งและพริกไทยลงไปด้านล่าง

เปลวไฟที่ลุกโหมกระหน่ำเผาไหม้พริกไทยและพริกแห้งจนเกิดเสียงปะทุดังขึ้นเล็กน้อย ควันฉุนลอยขึ้นกลางอากาศสู่ท้องฟ้าเบื้องบน

ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของกองทัพช้างและทหารเทียนเฟิ่ง เป็นภาพที่รุนแรงและโหดร้ายกว่าสงครามเมื่อครู่เสียอีก

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเบิกตาโพลง เขานึกไม่ถึงเลยว่าจะมีกองกำลังมากมายเช่นนี้ดักโจมตีเขาอยู่

“บุกออกไป!” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นตวาดลั่น เขาพยายามข่มอาการสำลักอย่างรุนแรงของตัวเอง จากนั้นใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกไว้ “รีบบุกออกไปเดี๋ยวนี้!”

หากไม่บุกออกไปตอนนี้ เมื่อกองทัพต้าโจวอีกกองไล่ตามมาทัน…พวกเขาคงไม่มีหวังแล้ว

เมื่อไฟลุกขึ้นพื้นน้ำแข็งจึงละลายหายไปจนหมด ช้างยักษ์ไม่จำเป็นต้องเดินอย่างระมัดระวังเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว พวกมันออกวิ่งไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียงคำสั่งจากขลุ่ยทันที

กองทัพช้างของเทียนเฟิ่งบุกฝ่าวงล้อมออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี เสิ่นคุนหยางเล็งธนูไปทางปากทางออกของหุบเขาเวิ่ง ลูกธนูไฟพุ่งทะยานออกไปปักลงบนม้ายักษ์ตัวหนึ่งตรงบริเวณทางออก ลูกธนูไฟดูเหมือนจะมอดดับลงท่ามกลางหิมะของค่ำคืนที่มืดมิด

ทว่า วินาทีที่กองทัพช้างกำลังจะบุกไปถึงทางออกของหุบเขา…

“พึ่บ…”

เปลวไฟขนาดใหญ่ลุกโหมขึ้นที่ตัวม้ายักษ์ที่ถูกราดด้วยน้ำมันสน เปลวเพลิงลุกโหมขึ้นสู่ท้องฟ้าจนบริเวณโดยรอบสว่างจ้าขึ้นมาทันที

ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นไม่มีเวลาคิดทบทวน เขารู้ดีว่าต้าโจวนำม้ายักษ์ไปขวางที่บริเวณทางออกของหุบเขาเพราะต้องการกักกองทัพช้างของเทียนเฟิ่งไว้ในหุบเขาแห่งนี้ หากพวกเขาบุกออกไปไม่สำเร็จทุกคนรวมทั้งเขาต้องตายอยู่ในนี้แน่นอน!

เขาจะตายไม่ได้เด็ดขาด เขาคือจักรพรรดิของแคว้นเทียนเฟิ่ง!

แม้ช้างยักษ์จะเป็นของล้ำค่าของเทียนเฟิ่ง ทว่า จะปล่อยให้ของล้ำค่าเสียชีวิตอยู่ที่นี่ทั้งหมดหรือยอมเสียสละเพียงบางส่วนเพื่อให้บางส่วนมีชีวิตอยู่ต่อไปคือทางเลือกที่ไม่จำเป็นต้องลังเลแม้แต่น้อย

ช้างศึกที่ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นนั่งอยู่หยุดวิ่ง ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นใช้เกราะบังธนูไฟที่พุ่งตรงมาทางเขา จากนั้นตะโกนสั่งเสียงดัง “บุกออกไป! ให้ช้างยักษ์บุกเปิดทางให้พวกเราก่อน!”

สิ้นเสียงขลุ่ย ช้างยักษ์ที่ถูกไฟเผาเหล่านั้นมุ่งตรงไปยังร่างของม้ายักษ์อย่างไม่คิดชีวิตทีละตัว

ตัวที่หนึ่ง…สอง…สาม…

ฝูงช้างยักษ์ที่ถูกธนูไฟยิงใส่ร่างไม่รู้กี่ดอกพุ่งตรงเข้าไปกระแทกม้ายักษ์ที่อยู่ตรงปากทางออกอย่างรวดเร็วและรุนแรงเพื่อเปิดทางให้กองทัพที่อยู่ทางเบื้องหลังมีโอกาสหนีรอดไปได้

“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้! ยิงเร็วเข้า รีบเทน้ำมันลงไป ใช้พริกไทยและพริกแห้งเผาขวางทางพวกมันเอาไว้ให้ได้!”

เมื่อทหารต้าโจวได้ยินคำสั่งของเสิ่นคุนหยางจึงรีบเร่งมือ พวกเขาโยนพริกแห้งและพริกไทยไปทางม้ายักษ์ทันที

กลิ่นฉุนอย่างรุนแรงจนแทบทำลายปอดของคนให้พังทำให้คนบริเวณนั้นไม่สามารถหายใจได้ อย่างน้อยมนุษย์ก็สามารถกลั้นหายใจได้สักระยะหนึ่ง ทว่า ช้างที่เดิมทีมีประสาทรับกลิ่นที่เร็วกว่าผู้อื่นได้รับกลิ่นเช่นนี้หลายครั้งติดต่อกันจนมันคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง

ธนูไฟพุ่งตรงไปกระทบโดนตัวช้างศึกซึ่งเป็นพาหนะของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น จากนั้นร่วงหล่นลงบนพื้น เกราะของช้างศึกถูกไฟเผาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นสละเสลี่ยงที่เป็นวัตถุนำไฟไปแล้ว เขานั่งอยู่ตรงบริเวณลำคอของช้าง มือหนึ่งจับเชือกซึ่งคล้องคอช้างอยู่แน่น อีกมือถือโล่บังธนูไฟ เขาตวาดออกคำสั่งให้ช้างศึกพุ่งตรงไปยังม้ายักษ์ตัวนั้นโดยเร็วที่สุด

ช้างศึกค่อยๆ ล้มลงทีละตัว ช้างยักษ์ที่คุ้มกันอยู่ข้างกายของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นวิ่งชนช้างด้วยกันเองหรือต้นไม้ข้างทางอย่างคลุ้มคลั่ง…

กองทัพช้างของเทียนเฟิ่งคลุ้มคลั่งขึ้นมาเองโดยที่ฝ่ายศัตรูยังยืนอยู่บนที่สูง ไม่ได้ลงมาต่อสู้กับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ

“เร็วเข้า เร็ว!”

ช้างยักษ์พุ่งไปกระแทกม้ายักษ์ที่ไฟลุกท่วมตัวตามคำสั่งของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น พวกมันส่งเสียงร้องแหลมออกมา พยายามใช้ชีวิตของตัวเองกระแทกม้ายักษ์ให้กระเด็นออกไปไกลเพื่อเปิดทางให้คนด้านหลัง

พลธนูโจมตีรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทว่า ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นสั่งให้ทุกคนบุกออกไปโดยไม่ต้องสนใจสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น

พวกเขาชนม้ายักษ์กระเด็นออกมาจากหุบเขาด้วย ช้างยักษ์บางตัวกลิ้งล้มลงบนพื้นทันทีที่ออกมาจากหุบเขาได้เพราะถูกไฟเผาร่างจนทนไม่ไหว ช้างที่วิ่งตามออกมาสะดุดร่างของช้างตัวหน้าจนล้มลงบนพื้นเช่นเดียวกัน

แม้แต่เครื่องแต่งกายของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นก็ถูกไฟเผาเช่นเดียวกัน เขารู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหนังของตัวเอง รู้สึกแสบร้อนบริเวณใบหน้าที่น้ำตาไหลออกมาโดน เขาจ้องไปยังแม่น้ำตันสุ่ยนิ่ง ขอเพียงเขาข้ามแม่น้ำไปได้สำเร็จทุกอย่างก็จะสิ้นสุดลง

ขณะที่ช้างศึกของซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกำลังวิ่งใกล้ถึงแม่น้ำตันสุ่ย จู่ๆ มันก็สะดุดช้างตัวที่ล้มอยู่ด้านหน้าล้มลงบนพื้นอย่างทนต่อไปไม่ไหว ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกลิ้งล้มลงบนพื้นเช่นเดียวกัน

“ฝ่าบาท!” ลูกศิษย์ของจอมเวทย์เบิกตาโพลง เขาหย่อนตัวลงมาจากช้างพาหนะของตัวเอง ปล่อยมือออกจากช้างศึกปล่อยให้มันทะยานไปด้านหน้าต่อไป ส่วนตัวเขากลิ้งล้มลงบนพื้น เขาข่มความหน้ามืดของตัวเองประคองซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นลุกขึ้น จากนั้นหันไปสั่งทหารเทียนเฟิ่งที่อยู่ทางด้านหลัง “รีบพาฝ่าบาทหนีไปเร็ว!”

ทหารเทียนเฟิ่งที่อยู่ด้านหลังลดความเร็วช้างของตัวเองลง จากนั้นหย่อนตัวลงมาจากเชือกพลางรับตัวซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นที่สลบหมดสติไปมาอุ้มไว้ เขาหันไปมองศิษย์คนโตของจอมเวทย์แวบหนึ่ง “ท่านศิษย์…”

ด้านหลังไม่มีช้างเหลืออยู่อีกแล้ว ลูกศิษย์คนโตของจอมเวทย์จะทำเช่นไร!

“พาฝ่าบาทหนีไป ไม่ต้องสนใจข้า!” ลูกศิษย์คนโตของจอมเวทย์ตวาดลั่น

มีเพียงฝ่าบาทยังมีชีวิตอยู่ เทียนเฟิ่งจึงจะมีความหวังต่อไป

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท