สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1134 รับไหว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1134 รับไหว

เมื่อเห็นเริ่นซื่อเจี๋ยขึ้นไปบนหลังม้าเรียบร้อยแล้ว ไป๋จิ่นจื้อจึงหันม้ากลับ จากนั้นพาเริ่นซื่อเจี๋ยมุ่งหน้าติดตามขบวนกองทัพของต้าเยี่ยนไป

แม้ร่างกายของเริ่นซื่อเจี๋ยจะอ่อนแอ ภาพตรงหน้าพร่ามัวเป็นพักๆ ทว่า เมื่อคิดได้ว่าเขากำลังจะได้กลับไปยังแคว้นต้าเยี่ยนจึงอดตื่นเต้นไม่ได้ เขากำบังเหียนม้าควบตามหลังไป๋จิ่นจื้อไปติดๆ กลัวว่าตัวเองจะตามไม่ทันขบวน

เซี่ยสวินและมู่หรงเหยี่ยนพากองทัพใหญ่กลับไปยังเมืองเหมิง พวกเขาไม่มีทางเคลื่อนขบวนเร็วกว่ากลุ่มของไป๋จิ่นจื้อที่มีเพียงไม่กี่คนได้ ไม่นานไป๋จิ่นจื้อจึงไล่ตามพวกเขาทัน

มู่หรงเหยี่ยนได้ยินว่าไป๋จิ่นจื้อพาเริ่นซื่อเจี๋ยมาส่งจึงรีบควบม้าย้อนกลับไปรับตัวเริ่นซื่อเจี๋ยด้วยตัวเอง

ไป๋จิ่นจื้อเห็นมู่หรงเหยี่ยนจึงรีบยกมือคารวะ “ต้องขอโทษด้วย พี่หญิงใหญ่สั่งให้ข้านำคนมาคืนให้พวกท่าน ทว่า…พอข้ารู้ว่าจะได้ทำสงครามจึงลืมเรื่องอื่นไปเสียสิ้น ข้าทำให้เสียเวลาไปหลายวัน หวังว่าท่านอ๋องเก้าจะไม่ถือสา”

“เกาอี้จวินเกรงใจเกินไปแล้ว เริ่นเซียนเซิงกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว ลำบากเกาอี้จวินแล้ว” มู่หรงเหยี่ยนคารวะไป๋จิ่นจื้อเช่นเดียวกัน

หลู่หยวนเผิงมองไปทางอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน เขารู้สึกว่าคนผู้นี้ช่างคุ้นตานัก ทว่า ไม่รู้ว่าเคยพบที่ใด เมื่อคืนตัวเริ่นซื่อเจี๋ยให้ต้าเยี่ยนเสร็จ ขณะเดินทางกลับหลู่หยวนเผิงจึงกล่าวกับไป๋จิ่นจื้อ “เหตุใดข้าจึงรู้สึกคุ้นตาอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้นี้นัก”

“เมื่อก่อนเจ้าสนิทกับมู่หรงลี่ไม่ใช่หรือ หลานชายคล้ายคลึงกับอาตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลก…”

กล่าวจบไป๋จิ่นจื้อจึงเอ่ยเร่งหลู่หยวนเผิง “พวกเรารีบกลับกันเถิด วันนี้คือวันสิ้นปี พี่ชายห้าบอกว่าคืนนี้พวกเราจะทานเกี๊ยวร่วมกัน ธรรมเนียมของพวกเรากองทัพไป๋…หากทำสงครามอยู่ภายนอก แม่ทัพใหญ่จะมานั่งทานเกี๊ยวร่วมกับทหารทุกคนในกองทัพ” ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

“ใช่ๆ ได้ยินว่ามีเกี๊ยวไส้ช้างด้วย ข้ายังไม่เคยกินเนื้อช้างมาก่อนเลย เจ้ารอข้าด้วยสิ!” หลู่หยวนเผิงรีบขี่ม้าตามหลังไป๋จิ่นจื้อไป

ตกดึกหิมะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ

ร่องรอยแห่งสงครามในเมืองผิงตู้ถูกเก็บกวาดจนสะอาด ไฟในเมืองผิงตู้สว่างไสว หลังคาบ้านเรือนที่หลังไม่ถูกกองทัพช้างจนพังต่างสว่างไสวจากแสงของโคมไฟ แสงสีแดงสะท้อนเปล่งประกายท่ามกลางหิมะในยามค่ำคืน

เหล่าทหารยังคงช่วยกันจัดการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ถูกกองทัพช้างจนพังเสียหายเมื่อวานท่ามกลางแสงไฟที่ส่องสว่าง

“เร่งมือกันหน่อย ซ่อมเสร็จแล้วพวกเราจะได้รีบกลับไปกินเกี๊ยว!”

“ข้าได้ยินว่าเสี่ยวไป๋ไซว่กำลังห่อเกี๊ยวให้พวกเราอยู่ที่กระโจมรักษาตัวของทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ในเกี๊ยวมีเงินสอดอยู่ด้วย ข้าต้องได้กินเกี๊ยวตัวที่เสี่ยวไป๋ไซว่ห่อให้ได้ ข้าจะได้โชคดีทั้งปี!”

ทหารพากันหัวเราะออกมาอย่างครื้นเครง เร่งมือกันซ่อมแซมบ้านเรือนให้เสร็จ

ทหารที่ได้รับบาดเจ็บและทำแผลเสร็จแล้วในกระโจมรักษาตัวต่างมานั่งช่วยกันห่อไส้เกี๊ยวที่พ่อครัวผัดเสร็จและนำมาให้

ไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงอวี๋ ไป๋จิ่นจื้อ เสิ่นคุนหยาง เสิ่นชิงจู๋ เซียวรั่วไห่ หยางอู่เช่อ เฉิงหย่วนจื้อ เสิ่นเหลียงอวี้ หลู่หยวนเผิงและซือหม่าผิงล้วนช่วยกันห่อเกี๊ยวอยู่ในกระโจมรักษาตัวกับทหารคนอื่นๆ

ทหารกองทัพไป๋รู้อยู่ก่อนแล้วว่าไป๋ชิงเหยียนต้องมาที่นี่เพราะนี่คือธรรมเนียมของกองทัพไป๋เมื่อต้องฉลองคืนวันสิ้นปีขณะทำสงครามอยู่ต่างแดน

หลังจากแม่ทัพใหญ่ไป๋เวยถิง รองแม่ทัพใหญ่ไป๋ฉีซานและแม่ทัพคนอื่นๆ ของกองทัพไป๋จากไป เสี่ยวไป๋ไซว่ของพวกเราเข้ามารับหน้าที่ดูแลกองทัพไป๋และกลายเป็นแม่ทัพใหญ่คนใหม่ของพวกเขา

ถึงแม้บัดนี้เสี่ยวไป๋ไซว่จะกลายเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวแล้ว ทว่า ในสายตาของพวกเขาเสี่ยวไป๋ไซว่ยังคงเป็นเสี่ยวไป๋ไซว่คนเดิมของพวกเขา พวกเขารู้ดีว่าเสี่ยวไป๋ไซว่ต้องสานต่อธรรมเนียมของกองทัพไป๋ต่อไปแน่นอน

ขณะทำสงครามเสี่ยวไป๋ไซว่จะนำทัพเป็นด่านหน้าเสมอ!

เมื่อทำสงครามเสร็จเสี่ยวไป๋ไซว่จะไปเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดในกระโจมพักรักษาตัว

คืนวันสิ้นปีเสี่ยวไป๋ไซว่ต้องมาฉลองกับเหล่าทหารที่นางเห็นเป็นครอบครัวเดียวกันแน่นอน

กระโจมหลังใหญ่อีกหลังถูกกางขึ้นหน้ากระโจมพักรักษาตัวของทหาร พ่อครัวใช้ดินเหนียวแปะเตาถ่านไว้อีกชั้น กระทะใหญ่กำลังเดือดระอุ พร้อมที่จะใส่เกี๊ยวลงไปต้มได้

ทหารในกองทัพมีจำนวนมาก ทุกคนไม่สามารถเข้าไปห่อเกี๊ยวกับไป๋ชิงเหยียนได้ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนพยายามให้ทหารทุกคนได้ทานเกี๊ยวที่นางใส่เงินไว้ด้านในอย่างทั่วถึง

ไป๋ชิงเหยียนและทหารที่ได้รับบาดเจ็บช่วยกันห่อเกี๊ยวอย่างรวดเร็ว เมื่อทหารที่เก็บกวาดสนามรบและซ่อมแซมบ้านเรือนกลับมาจะได้ทานเกี๊ยวร้อนๆ ได้ทันที

ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่บนที่นั่งด้านหน้าสุดในกระโจมรักษาตัว หมอหง ไป๋ชิงอวี๋ ไป๋จิ่นจื้อ เสิ่นคุนหยาง เสิ่นชิงจู๋ เฉิงหย่วนจื้อ เสิ่นเหลียงอวี้ หยางอู่เช่อนั่งถัดลงมาจากไป๋ชิงเหยียน

จานเกี๊ยวถูกทยอยยกเข้ามาด้านใน ทหารหลายคนกล่าวว่าตนเองได้ทานเกี๊ยวที่มีเงินอยู่ด้านในแล้ว ทุกคนต่างดีใจกันยกใหญ่

ถ่านในเตาผิงในกระโจมรักษาตัวส่งเสียงปะทุขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้เปิดประตูกว้าง ทว่า คนที่อยู่ด้านในกลับไม่รู้สึกหนาวแม้แต่น้อย

วันนี้ญาติผู้ใหญ่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ไป๋ชิงเหยียนคือพี่สาวคนโตจึงเตรียมเงินอั่งเปาไว้ให้ไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นจื้อ หญิงสาวมอบให้น้องทั้งสองของตัวเองก่อนเดินทางมาห่อเกี๊ยวที่กระโจมรักษาตัวของทหารแล้ว

หมอหงเตรียมอั่งเปาไว้ให้ไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นจื้อเช่นเคย

ไป๋ชิงเหยียนรีบปฏิเสธ “ท่านหมอหง ข้าแต่งงานแล้วจะทำตัวเป็นเด็กเหมือนเคยได้เช่นไรเจ้าคะ ปีนี้ข้าขอไม่รับอั่งเปาแล้วนะเจ้าคะ”

หมอหงยัดอั่งเปาใส่มือไป๋ชิงเหยียนพลางยิ้มกว้างอย่างมีความสุขกว่าเดิม “ต่อให้คุณหนูใหญ่แต่งงานมีลูก ต่อให้คุณหนูใหญ่จะกลายเป็นย่าคน ทว่า ในสายตาของข้าคุณหนูใหญ่ก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี ข้ายังมีโอกาสอยู่ฉลองคืนวันสิ้นปีกับคุณหนูใหญ่อยู่กี่ปี ข้าก็จะมอบอั่งเปาให้คุณหนูใหญ่ตามนั้นขอรับ วันหน้าหากข้าต้องตามไปอยู่กับเจิ้นกั๋วอ๋อง ต่อให้ข้าอยากให้ก็คงไม่มีโอกาสมอบให้คุณหนูใหญ่อีกขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนมองดูหมอหงที่บัดนี้ผมเริ่มขาวโพลนหมดทั้งศีรษะท่ามกลางแสงไฟในกระโจม อาจเป็นเพราะความลำบากในการเดินทางมายังสนามรบทำให้รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของหมอหงเด่นชัดกว่าเดิม

ไป๋ชิงเหยียนกำอั่งเปาในมือแน่น พยายามข่มความร้อนผ่าวที่ขอบตา จากนั้นกล่าวกับหมอหง “ท่านหมอหงต้องมีอายุยืนยาว วันหน้าไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้นที่อยากได้อั่งเปาจากท่านหมอหง ลูกในท้องของข้าก็รอรับอั่งเปาจากท่านอยู่นะเจ้าคะ”

“หากพี่หญิงใหญ่มีลูกสักสิบคน คลังสมบัติของท่านหมอหงจะไม่สะเทือนหรือเจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อรับอั่งเปาจากหมอหงมาเขย่าประเมินน้ำหนัก “ข้ารู้สึกว่าอั่งเปาค่อนข้างหนักทีเดียวเจ้าค่ะ”

หมอหงได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนจึงหัวเราะออกมาอย่างดีใจกว่าเดิม “รับไหว รับไหวขอรับ ข้าจะมอบให้แน่นอน…”

หมอหงกล่าวจบจึงหันไปทางเสิ่นคุนหยาง “เจ้าดูสิ คุณหนูใหญ่กับคุณหนูสี่เริ่มทวงอั่งเปาให้เด็กในท้องของคุณหนูใหญ่แล้ว”

“คุณหนูสี่กล่าวถูกแล้ว เสี่ยวไป๋ไซว่ต้องคลอดลูกอีกหลายคนเพื่อเงินอั่งเปาของท่านแน่นอน ยิ่งให้เงินอั่งเปาก็ยิ่งมีความสุข!” เสิ่นคุนหยางกล่าวจบจึงหยิบอั่งเปาออกมาจากอกของตัวเอง จากนั้นยื่นให้ไป๋ชิงเหยียน

“ข้าคือสหายร่วมเป็นร่วมตายของท่านรองแม่ทัพใหญ่ เสี่ยวไป๋ไซว่เรียกข้าว่าลุงเสิ่น ข้าขอบังอาจคิดว่าตัวเองคือญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของเสี่ยวไป๋ไซว่ นี่คืออั่งเปาที่ข้าเตรียมให้เสี่ยวไป๋ไซว่ เสี่ยวไป๋ไซว่อย่าปฏิเสธเลย”

ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าว นางพยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นทำความเคารพเสิ่นคุนหยางในฐานะผู้ด้วยอาวุโสกว่า “ขอบคุณลุงเสิ่นมากเจ้าค่ะ”

“คุณชายห้า นี่ของท่าน!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท