ตอนที่ 1159 เลือดต้องชำระด้วยเลือด
แม้ก่อนหน้านี้ซือหม่ารั่วตานจะเป็นคนอารมรณ์ร้อน ทว่า นางเป็นเพียงเด็กสาวที่มีจิตใจบริสุทธิ์และมีเมตตาคนหนึ่งเท่านั้น นางไม่เคยคิดหวาดระแวงคนที่ดีต่อนาง โดยเฉพาะคนในครอบครัวของตัวเอง นางไม่เคยพบหน้าเซวียเหรินอี้มาก่อน นางไม่สนใจว่าจะถูกแย่งการแต่งงานครั้งนี้ไปหรือไม่ ทว่า คนเหล่านั้นทำให้ท่านแม่ของนางต้องตาย ซือหม่ารั่วตานไม่มีทางอภัยให้คนเหล่านั้นอย่างแน่นอน!
ซือหม่ารั่วตานร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน นางเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อยและสิ้นหวัง “หม่อมฉันไม่ได้ต้องการสิ่งใดเลย ทว่า หม่อมฉันต้องการแม่ของหม่อมฉัน แม่ของหม่อมฉันถูกพวกเขาหลอกให้ฆ่าตัวตายเพคะ!”
ซือหม่ารั่วตานกำชายเสื้อของตัวเองแน่น นางร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ “ท่านแม่ของหม่อมฉันฆ่าตัวตายไปแล้ว นางตายไปด้วยความคิดที่ว่าตระกูลซือหม่าจะทำให้หม่อมฉันกลายเป็นคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์จริงๆ พวกเขาหลอกท่านแม่ของหม่อมฉัน พวกเขาเป็นคนทำให้ท่านแม่ตาย หม่อมฉันไม่มีแม่อีกต่อไปแล้ว พวกเขาฆ่าท่านแม่ของหม่อมฉัน พวกเขาบีบให้นางต้องตาย หม่อมฉันจะล้างแค้นตระกูลซือหม่าให้ได้เพคะ!”
เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นและตวาดด้วยความโกรธของซือหม่ารั่วตาน ดวงตาของหลูหนิงฮว่าแดงก่ำขึ้นทันที นางรู้ดีว่าบุตรสาวของขุนนางต้องโทษจะถูกส่งตัวไปยังที่ใด
สภาพของซือหม่ารั่วตานในตอนนี้ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน
นอกจากไป๋ชิงฉีที่สืบรู้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับซือหม่ารั่วตานอย่างละเอียดแล้ว คนที่เหลือในห้องเพิ่งเคยรับรู้เรื่องราวที่เต็มไปด้วยความแค้นของซือหม่ารั่วตานเป็นครั้งแรก
หลังจากฟังเรื่องราวของซือหม่ารั่วตานจบไป๋จิ่นเจาโมโหจนแทบทนไม่ไหว นางลุกขึ้นประคองซือหม่ารั่วตานให้ลุกขึ้น จากนั้นกล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “พี่เหลียวเฉิน ไม่ว่าท่านจะเป็นพี่เหลียวเฉินหรือพี่ซือหม่าท่านก็คือสหายของข้าไป๋จิ่นเจาผู้นี้ เมื่อกลับไปถึงเมืองหลวงข้าจะแก้แค้นให้พี่และท่านแม่ของพี่เอง ข้าจะพาพี่ไปพบเซวียเหรินอี้ ไปบอกเขาว่าพี่คือคู่หมั้นตัวจริงของเขา!”
ไป๋จิ่นเจามีนิสัยรักความยุติธรรมคล้ายคลึงกับไป๋จิ่นจื้อมากที่สุด
เมื่อได้ยินเรื่องราวที่น่าสงสารเช่นนี้ สาวน้อยแทบอยากถือดาบบุกไปยังจวนซือหม่าในเมืองหลวงเสียตอนนี้เลย!
เกิดเป็นคนจะทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน! คนที่รับเขามาเป็นบุตรบุญธรรมคือตระกูลซือหม่า คนที่ทอดทิ้งเขาก็คือตระกูลซือหม่า สุดท้ายไม่เพียงแย่งการแต่งงานของผู้อื่นไป ยังคิดบังคับให้นางแต่งงานกับพ่อหม้ายชราอีก นี่มันเรื่องชั่วช้าสกปรกอันใดกัน คนพวกนี้ไม่แตกต่างอันใดกับตระกูลบรรพบุรุษไป๋ที่ซั่วหยางแม้แต่น้อย
ซือหม่ารั่วตานมองไปทางไป๋จิ่นเจาทั้งน้ำตา นางรู้จักไป๋จิ่นเจามาระยะหนึ่งแล้ว นางรู้ดีว่าไป๋จิ่นเจาเป็นคนรักความยุติธรรม ซือหม่ารั่วตานส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าจะเป็นคนชำระแค้นของข้าด้วยตัวเอง ที่สำคัญข้าไม่ได้เสียดายการแต่งงานในครั้งนี้ ข้าทำเพื่อท่านพ่อและท่านแม่ของข้าเท่านั้น ตอนนี้พวกท่านล้วนไม่อยู่แล้ว การแต่งงานในครั้งนี้จึงไม่สำคัญสำหรับข้าอีกต่อไป”
ตอนแรกซือหม่ารั่วตานจำสิ่งใดไม่ได้จริงๆ ทว่า เมื่อผ่านไปครึ่งเดือนความทรงจำของนางจึงค่อยๆ กลับมา ทว่า นางยังแสร้งทำเป็นความจำเสื่อมต่อไป ไม่ยอมไปจากกองทัพไป๋ นางกลัวว่าผู้อื่นจะไล่นางไปเมื่อรู้ว่าความทรงจำของนางกลับมาแล้ว ดังนั้นนางจึงแสร้งทำเป็นคนโง่ที่จำสิ่งใดไม่ได้ต่อไป
นางยอมรับว่าตอนแรกนางมีจุดประสงค์ที่ไม่ดี ที่นี่มีน้องสาวและน้องชายของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอยู่ หากนางได้แต่งงานกับน้องชายของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ได้กลับไปยังเมืองหลวงอย่างมีเกียรติ นางจะสามารถแก้แค้นตระกูลซือหม่าได้แน่นอน
ทว่า นางไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำทั้งหมด นางชอบแม่ทัพและคุณหนูของตระกูลไป๋เหล่านี้จริงๆ นางชอบ…ไป๋ชิงฉีจริงๆ นางชอบบุรุษคนที่เสี่ยงชีวิตช่วยนางไว้โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองผู้นี้ ชอบความเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดของเขา
นางไม่เคยคิดอาจเอื้อมเป็นภรรยาเอกของไป๋ชิงฉี แม้เป็นได้เพียงแค่อนุนางก็ยอม ขอเพียงนางได้อยู่ข้างกายของเขาเท่านั้น
ทว่า ความคิดเหล่านี้ค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ หลังจากที่ได้นางรู้จักคุณหนูตระกูลไป๋เหล่านี้มากขึ้นทุกวัน ตอนนี้นางอยากสร้างผลงานเป็นของตัวเองเหมือนที่คุณหนูตระกูลไป๋เหล่านี้ทำ…
“หม่อมฉันอยากแก้แค้นจึงอยู่ในกองทัพไป๋ต่อ! ตอนแรกหม่อมฉันมีความคิดสกปรกอย่างแต่งงานกับน้องชายของฝ่าบาท กลายเป็นสะใภ้ของราชวงศ์ผู้สูงส่ง หม่อมฉันฝันอยากกลับไปเมืองหลวงอย่างมีเกียรติทุกวัน ฝันอยากเห็นวันที่ตระกูลซือหม่าต้องมาสยบแทบเท้าของหม่อมฉัน!” ซือหม่ารั่วตานไม่เคยกล่าวออกมาจากใจจริงเท่าครั้งนี้มาก่อน “ทว่า เมื่อหม่อมฉันเห็นคุณหนูห้า คุณหนูหก คุณหนูเจ็ดและฝ่าบาท หม่อมฉันจึงได้สติขึ้นมา ก่อนหน้านี้หม่อมฉันคิดมาตลอดว่าสตรีจะแก้แค้นได้ต้องพึ่งพาบุรุษเท่านั้น ทว่า ตอนนี้ฝ่าบาทเป็นคนปกครองแคว้น หม่อมฉันมีหนทางให้เลือกเดินมากกว่าเดิม หม่อมฉันสามารถสร้างความดีความชอบในกองทัพได้เหมือนฝ่าบาท หม่อมฉันสามารถไปสอบคัดเลือกขุนนางได้ จะได้ไม่เสียแรงที่ท่านพ่อและท่านแม่เคยอบรมสั่งสอนหม่อมฉันมาเพคะ”
ท่านพ่อตั้งนามให้นางว่าตาน…คงไว้ซึ่งความสะอาดบริสุทธิ์ ท่านพ่ออยากให้นางสะอาดบริสุทธิ์เหมือนน้ำ นางไม่อยากทำให้ท่านพ่อของนางต้องผิดหวัง
ซือหม่ารั่วตานก้มศีรษะทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นหันไปก้มศีรษะให้คนอื่นๆ ในตระกูลไป๋และหลูหนิงฮว่า นางมองไปทางไป๋ชิงฉีแวบหนึ่ง นางตัดสินใจแล้วว่าจะเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ในใจตลอดชีวิต นางก้มศีรษะให้ไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง “ซือหม่ารั่วตานสารภาพทุกสิ่งกับทุกท่านในตระกูลไป๋หมดสิ้นแล้ว ซือหม่ารั่วตานขอโทษที่นำปัญหาวุ่นวายมาให้ทุกท่าน ซือหม่ารั่วตานจะจดจำบุญคุณของท่านอาจารย์ คนตระกูลไป๋และท่านแม่ทัพที่เคยช่วยชีวิตข้าไว้ไปจนวันตาย หากข้ายังมีชีวิตอยู่ วันหน้าต้องตอบแทนบุญคุณทุกท่านแน่นอนเจ้าค่ะ วันนี้ข้าขออำลาท่านอาจารย์และทุกคน ณ ที่นี้เจ้าค่ะ”
ซือหม่ารั่วตานก้มศีรษะคำนับแนบพื้นอีกครั้งทั้งน้ำตา
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางซือหม่ารั่วตานอย่างเข้าใจความแค้นที่มีในใจของนาง ตอนนั้นนางกลับมาพร้อมความแค้นที่มีต่อคนที่ทำลายตระกูลไป๋เช่นเดียวกัน ความเกลียดชังในตอนนี้มากล้นจนแทบระเบิดออกมา
ไป๋ชิงเหยียนจับมือชุนจือลุกขึ้น จากนั้นเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าซือหม่ารั่วตาน นางก้มไปประคองซือหม่ารั่วตานให้ลุกขึ้น “ในเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะไม่พึ่งพาบุรุษ อยากสร้างผลงานด้วยน้ำมือของตัวเอง เช่นนั้นเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไปจากกองทัพไป๋ ที่สำคัญท่านอาหลูคืออาจารย์ของเจ้าแล้ว เจ้าถือเป็นคนของกองทัพไป๋เช่นเดียวกัน”
“ฝ่าบาท…” ซือหม่ารั่วตานกล่าวเสียงสะอื้น
“ตอนนี้ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าทำ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการยึดด่านเย่เฉิง เจ้ายินดีจะทำหรือไม่”
ซือหม่ารั่วตานได้ยินเช่นนี้จึงรีบพยักหน้ารัว “ซือหม่ารั่วตานยินดีทำเต็มที่เพคะ”
“ดี นั่งลงก่อนเถิด พวกเราทานไปสนทนากันไป…” ไป๋ชิงเหยียนยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้ซือหม่ารั่วตานพลางตบมือของสาวน้อยเบาๆ
ความแค้นระหว่างซือหม่ารั่วตานและตระกูลซือหม่าเป็นเรื่องของซือหม่ารั่วตานคนเดียว ไป๋ชิงเหยียนหวังว่าซือหม่ารั่วตานจะไม่ถูกความแค้นครอบงำจนทำร้ายตัวเองจนแปดเปื้อนไปด้วย
เซียวรั่วไห่เล่าเรื่องการปลอมตัวเป็นบุตรสาวของเย่อิงน่านลอบเข้าไปในด่านเย่เฉิงให้ซือหม่ารั่วตานฟังอย่างละเอียด
ซือหม่ารั่วตานพยักหน้า “ข้าทำได้ ทว่า ข้าต้องพบหน้าฮูหยินและคุณหนูท่านนั้นก่อน หากสืบรู้นิสัยและพฤติกรรมความชอบของฮูหยินผู้นั้นได้มากเท่าใดยิ่งดี เผื่อบ่าวรับใช้ผู้นั้นหยั่งเชิงข้าเจ้าค่ะ!”