สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1175 ใกล้ระเบิดออกมา

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1175 ใกล้ระเบิดออกมา

ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดแน่น “เหตุใดแม่ทัพเย่จึงต้องทำถึงขั้นนี้ด้วย”

“ไม่ได้มีเพียงกองทัพไป๋เท่านั้นที่กล้ารบจนตัวตาย ซีเหลียงของข้าก็มีทหารที่พร้อมตายเพื่อแคว้นเช่นเดียวกัน!” น้ำเสียงของเย่โส่วกวนหนักแน่น “หากจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเห็นข้าเป็นดังคู่แข่งก็อย่าได้กล่าวสิ่งใดอีกเลย ทหารซีเหลียงของพวกข้ายินดีตายเพื่อแคว้น ทว่า ไม่มีทางมีชีวิตอยู่จนเห็นซีเหลียงตกเป็นของผู้อื่นแน่นอน”

ทหารซีเหลียงที่ยืนอยู่บนกำแพงเม้มปากนิ่ง มีเพียงเสียงสะบัดของธงประจำกองทัพซีเหลียงเท่านั้น

ขอบตาของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าว ไม่นานหญิงสาวจึงโค้งกายคำนับเย่โส่วกวนหนึ่งครั้ง “ยินดีใช้ชีวิตของตัวเองปกป้องแผ่นดินซีเหลียงทุกตารางนิ้ว ไป๋ชิงเหยียนนับถือท่านมาก…”

ไป๋ชิงอวี๋โค้งกายคำนับเย่โส่วกวนเช่นเดียวกัน

ไป๋ชิงฉี ไป๋จิ่นซิ่ว ไป๋ชิงเจวี๋ย ไป๋ชิงอวิ๋น ไป๋จิ่นเจา ไป๋จิ่นหวาและไป๋จิ่นเซ่อยกหมัดคารวะเย่โส่วกวน

เย่โส่วกวนหมุนกายเดินจากไปยังกำแพงด่านเย่เฉิง

สงครามครั้งสุดท้ายกำลังจะเกิดขึ้น

“ทหารกล้าของซีเหลียงทุกคน!” เย่โส่วกวนตะโกนเสียงดังลั่น “แคว้นกำลังเผชิญภัยใหญ่หลวง พวกเรายินดีสละชีพปกป้องบ้านเมืองของเราจนกว่าตัวจะตาย”

“ปกป้องจนตัวตาย!”

“ปกป้องจนตัวตาย!”

“ปกป้องจนตัวตาย!”

ทหารซีเหลียงที่อยู่บนกำแพงเมืองมีจำนวนไม่มาก ทหารซีเหลียงที่ได้รับบาดเจ็บแทบทุกคนตะโกนออกมาเสียงดังกระหึ่ม พวกเขาพร้อมสละชีพของตัวเองเพื่อซีเหลียง

ไป๋ชิงเหยียนน้ำตาคลอ

ในฐานะนับรบเหมือนกันไป๋ชิงเหยียนเข้าใจความเด็ดเดี่ยวและเหตุผลของเย่โส่วกวน…

สิ่งที่นางสามารถทำได้เพื่อแสดงความเคารพเย่โส่วกวนคือการทำสงครามครั้งนี้ให้จบโดยเร็วที่สุด

เสียงสู้รบดังขึ้นอย่างน่าหวาดหวั่น ทหารที่เหลืออยู่เพียงไม่มากของซีเหลียงถูกต้าโจวจัดการภายในเวลาอันสั้น

ก่อนที่เย่โส่วกวนจะเสียชีวิตลง ร่างของเขาที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังคลานนำธงประจำกองทัพซีเหลียงไปปักลงบนกำแพงเมือง คนอยู่…ธงอยู่!

ธงประจำกองทัพซีเหลียงคือความศรัทธาของชาวซีเหลียง เป็นศรัทธาที่มีความสำคัญกว่าชีวิตทหารอย่างพวกเขาหลายพันเท่า

ทว่า เขาเหนื่อยแล้ว เขามองไปทางซากศพที่กองเกลื่อนกลาดอยู่เต็มด่านเย่เฉิง มองไปทางธงประจำกองทัพที่หล่นอยู่บนพื้น

ภาพที่ปรากฏแก่สายตาที่พร่ามัวลงเรื่อยๆ ของเย่โส่วกวนท่ามกลางลมที่กรรโชกแรงคือภาพกองทัพไป๋ที่ขึ้นมาบนกำแพงเมืองได้สำเร็จ ทว่า พวกนั้นไม่ได้เข้ามาใกล้เขามากนัก ดวงตาที่ค่อยๆ ดับสนิทลงของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ลมแรงพัดกรรโชก เกล็ดหิมะสีขาวปลิวว่อนกลางท้องฟ้าที่มืดมิดในยามค่ำคืน

เขารู้สึกเหมือนมองเห็นมารดาของตัวเอง นางนั่งอยู่ใต้ต้นดอกสาลี่ด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา เขามองเห็นน้องชายที่จากไปก่อนวัยอันควรเพราะอนุแพศยาผู้นั้นของบิดา น้องชายกำลังส่ายหน้าสะบัดดอกสาลี่ให้หล่นลงจากศีรษะ จากนั้นส่งยิ้มไร้เดียงสามาให้เขาพลางเอ่ยเรียกเขาว่าพี่ชาย…

เย่โส่วกวนยกยิ้มมุมปากอย่างขมขื่น ในปากเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

คุ้มกันไม่ไหวแล้ว ทำสงครามต่อไปไม่ไหวแล้ว!

ช่างเถิด…

หากตระกูลไป๋เป็นคนได้ครอบครองซีเหลียง รวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จ เขาก็อยากเห็นใต้หล้าที่มีแต่ความสงบสุขที่บุตรสาวของไป๋ฉีซานกล่าวไว้จากบนฟ้าเช่นเดียวกัน

ท่านแม่ ข้าปกป้องด่านเย่เฉิงและครอบครัวของเราไว้ไม่ได้ ท่านจะตำหนิข้าหรือไม่ขอรับ

ท่านแม่ ความจริงข้าก็อยากเห็นใต้หล้าที่มีทหารแต่ไร้ซึ่งสงครามเช่นเดียวกัน

ท่านแม่ ต่อไปข้าไม่ต้องทำสงครามอีกแล้ว ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่าน จะคอยดูแลท่านและน้องชายให้ดี

ท่านแม่ น้องชาย ข้ามาหาพวกท่านแล้ว!

ไม่นานลมหายใจของเย่โส่วกวนดับสนิทลง รอยยิ้มยังคงค้างอยู่บนใบหน้าของเขาเช่นนั้น ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขาคิดสิ่งใดอยู่ก่อนสิ้นใจ

วันที่สิบสอง เดือนหนึ่ง รัชศกหยวนเหอปีที่สอง เกาอี้จวินและแม่ทัพเสิ่นคุนหยางยึดเมืองสยาเจี้ยนได้

วันที่สิบสี่ เดือนหนึ่ง รัชศกหยวนเหอปีที่สอง กองทัพไป๋ที่นำโดยจักรพรรดินีแห่งต้าโจวยึดด่านเย่เฉิงซึ่งเป็นด่านที่โจมตียากที่สุดของซีเหลียงได้

ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้คนฝังร่างของเย่โส่วกวนไว้บนยอดเขาของด่านเย่เฉิง จากนั้นแกะสลักถ้อยคำรำลึก ‘ยินดีสละชีพของตัวเองปกป้องแผ่นดินทุกตารางนิ้วของซีเหลียง’ ไว้หน้าหลุมศพของเขา

ไม่ว่าต้าโจวหรือซีเหลียงล้วนไม่เคยขลาดแคลนทหารที่เลือดร้อนและยินดีสละชีพเพื่อบ้านเมืองเช่นนี้!

ตระกูลไป๋ได้รับบาดเจ็บในสงครามครั้งนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น พวกเขาทำแผลเพียงลวกๆ จากนั้นไป๋ชิงเหยียนจึงพาทุกคนของตระกูลไป๋ไปจุดธูปเคารพศพทหารกองทัพไป๋ที่สละชีพของตัวเองในสงครามครั้งนี้ จากนั้นไปเคารพศพของเย่โส่วกวนต่อ

ไป๋ชิงเจวี๋ยเห็นหยางอู่เช่อมีเรื่องอยากกล่าว เขามองไปทางพี่น้องที่กำลังจุดธูปเคารพศพอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นเดินตรงไปหาหยางอู่เช่อ

ขณะลงจากเขาไป๋ชิงอวี๋กล่าวถึงเรื่องการเดินทางกลับเมืองหลวงของไป๋ชิงเหยียน “บัดนี้ข่าวเรื่องที่ต้าโจวยึดด่านเย่เฉิงได้ภายในเวลาสองวันคงแพร่ไปยังเมืองอื่นของซีเหลียงแล้ว พวกเราคงทำสงครามได้ง่ายขึ้น พี่หญิงควรเดินทางกลับเมืองหลวงได้แล้วขอรับ…”

ไป๋ชิงฉีที่เอามือไขว้หลังเดินอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนอีกฝั่งกล่าวเสริม “ใช่ขอรับ พี่หญิงใหญ่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรนำทัพออกรบเป็นด่านหน้าอีกแล้วขอรับ ทายาทคนแรกในรุ่นถัดไปของพวกเราไม่ควรเกิดในสนามรบขอรับ หลู่ไท่เว่ยและบรรดาขุนนางในเมืองหลวงคงไม่ยอมให้องค์ชายหรือองค์หญิงองค์แรกของราชวงศ์เกิดในสนามรบแน่นอนขอรับ”

“เดิมทีพี่ก็ตั้งใจว่าจะเดินทางกลับเมืองหลวงหลังจากยึดด่านเย่เฉิงเสร็จอยู่แล้ว” ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองไป๋จิ่นซิ่วพลางเอ่ยถาม “ตั้งแต่เจ้าและอาอวี๋มารวมตัวกับพวกเราพี่ยังไม่มีโอกาสถามเจ้าเลยว่ากองทัพช้างของเทียนเฟิ่งหนีไปได้จำนวนเท่าใดหลังจากพวกเจ้าจับอาเค่อเซี่ยได้ที่ภูเขาหลิวเซียง”

“ต้าเยี่ยนเป็นคนเก็บกวาดเรื่องภายหลังเจ้าค่ะ ทว่า ข้าคิดว่าคงหนีไปได้ไม่มาก อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเป็นคนนำทัพออกรบด้วยตัวเอง แม่ทัพใหญ่ของฝ่ายนั้นถูกพวกเราจับตัวได้แล้ว พวกเขาคงหนีไปได้ไม่มากเจ้าค่ะ ตอนนั้นข้ารีบร้อนมาช่วยพี่หญิงใหญ่โจมตีด่านเย่เฉิงจึงมอบหมายให้อันชิงซานพาคนไปเก็บกวาดสถานที่และรับผิดชอบเรื่องส่วนแบ่งกับต้าเยี่ยนเจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นซิ่วประคองแขนของไป๋ชิงเหยียนเดินลงจากภูเขาพลางกล่าว

“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงขอรับ ข้ากำชับแล้วว่าต้าเยี่ยนกำลังขาดแคลนเสบียง แบ่งส่วนแบ่งให้ต้าเยี่ยนมากหน่อยก็ไม่เป็นอันใด การซื้อใจทหารต้าเยี่ยนคือสิ่งสำคัญที่สุด” ไป๋ชิงอวี๋รู้จุดประสงค์ของไป๋ชิงเหยียน เสียสละผลประโยชน์ส่วนน้อยในตอนนี้เพื่อผลประโยชน์ที่มากกว่าหลังสองแคว้นรวมเป็นหนึ่งในวันข้างหน้า “เมื่อแบ่งส่วนแบ่งกันเรียบร้อย อันชิงซานจะส่งของเหล่านั้นมายังด่านเย่เฉิงทั้งหมดขอรับ”

“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋ชิงเจวี๋ยวิ่งมาอย่างรีบร้อน “หลี่เทียนเจียวหนีกลับไปเมืองอวิ๋นจิงและขึ้นครองราชย์อีกครั้งสำเร็จแล้วขอรับ นางกล่าวว่าหลี่เทียนฟู่เป็นหุ่นเชิดของเทียนเฟิ่ง นางคือจักรพรรดินีที่ได้รับสืบทอดตำแหน่งจากจักรพรรดิองค์ก่อนโดยชอบธรรม! ตอนนี้ซีเหลียงคงรู้แล้วว่าหลี่เทียนฟู่ถูกพวกเราจับตัวไว้ หากข่าวนี้แพร่กระจายไปยังทุกเมืองของซีเหลียง แม่ทัพคุ้มกันเมืองเหล่านั้นคงเลือกทอดทิ้งหลี่เทียนฟู่แล้วหันไปสนับสนุนหลี่เทียนเจียวแทนขอรับ”

เมื่อไป๋ชิงอวิ๋นที่นั่งอยู่บนเกี้ยวได้ยินข่าวนี้เขาไม่ได้รู้สึกตกใจเท่าใดนัก เขากล่าวขึ้นช้าๆ “ด่านเย่เฉิงถูกทำลายแล้ว ต่อให้หลี่เทียนเจียวกลับไปเป็นจักรพรรดินีที่เมืองอวิ๋นจิง ทว่า กำลังใจของทหารซีเหลียงสูญเสียไปแล้ว”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางไป๋ชิงอวิ๋นยิ้มๆ นางขยับผ้าห่มคลุมขาให้ไป๋ชิงอวิ๋นพลางพยักหน้า “เสี่ยวซื่อและลุงเสิ่นยึดเมืองสยาเจี้ยนได้แล้ว ด่านถัดไปคือโจมตีถังกู่ ดังนั้นพวกเจ้าจึงต้องตรงไปยังเมืองอวิ๋นจิงอย่างเดียวเท่านั้น พี่จะอยู่สร้างด่านป้องกันที่เย่เฉิง เสร็จแล้วพี่จะกลับเมืองหลวงทันที”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท