สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1197 ยังทำไม่สำเร็จ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1197 ยังทำไม่สำเร็จ

กองทัพต้าโจวปฏิบัติต่อผู้ที่ยอมสารภาพตามความจริงก่อนที่จะถูกถามอย่างไม่โหดร้ายเท่าใดนัก กล่าวว่าต้องพาพวกเขาไปยังคุกใหญ่ก่อน เขาบันทึกคำสารภาพของชาวบ้านทุกคนไว้หมดแล้ว ชาวบ้านยอมสารภาพตามความจริงดังนั้นเมื่อเรื่องทุกอย่างสิ้นสุดลงพวกเขาจะได้รับการปล่อยตัว ชาวบ้านเหล่านั้นกล่าวขอบคุณทหารต้าโจวและยอมตามพวกเขาจากไปแต่โดยดี

ไม่นานทหารต้าโจวก็ตรวจพบปัญหาจากหลายครอบครัว พวกเขาพบว่าคนที่มีพิรุธหลายคนยังไม่ได้กลับเข้าไปในบ้านของตัวเอง แน่นอนว่าบางคนคือชาวบ้านธรรมดาที่กลับบ้านไม่ทัน ทว่า บางกลุ่มคือทหารซีเหลียงที่มีฝีมือในการต่อสู้ ข่าวถูกส่งไปให้หลิ่วผิงเกาอย่างรวดเร็ว หลิ่วผิงเกาจัดระเบียบรายงานเหล่านั้นจากนั้นส่งให้ไป๋ชิงเหยียนดู

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ในที่สุดไป๋ชิงเหยียนจึงเงยหน้ามองแผนที่เมืองเจียงจือและเมืองใกล้เคียง หญิงสาวกำลังครุ่นคิดว่าจะทำสงครามเช่นไรก็ได้ยินคนรายงานว่าแม่ทัพชราชุยซานจงเดินทางมาขอพบจักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่หน้าประตูเมืองแล้ว

หลิ่วผิงเกาขมวดคิ้วมองไป๋ชิงเหยียนพลางกล่าวขึ้น “หากฝ่าบาทจะเสด็จออกไปพบแม่ทัพชราชุยซานจงที่นอกเมือง กระหม่อมจะไปกับฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“จับสายลับซีเหลียงที่แฝงตัวเข้ามาในเมืองได้เท่าใด” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม

“ทูลฝ่าบาท ตอนนี้จับเป็นได้สี่สิบเอ็ดคน เสียชีวิตไปยี่สิบเจ็ดคนพ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วผิงเกาตอบ

ไป๋ชิงเหยียนออกคำสั่งได้ทันท่วงที สายลับเหล่านั้นจึงยังไม่ทันตั้งตัว ชาวบ้านซีเหลียงกลัวว่าตัวเองต้องรับผิดชอบเรื่องที่พาทหารซีเหลียงเหล่านั้นเข้าเมืองมาด้วยจึงรีบสารภาพทันทีที่ทหารต้าโจวมาถึงบ้านของตัวเอง สายลับของซีเหลียงหลายคนถูกจับตั้งแต่ยังไม่ทันหลบหนีออกจากบ้านด้วยซ้ำ

ต่อมาแม่ทัพหลี่เจียงที่มีหน้าที่สำรวจชาวบ้านเร่ร่อนจงใจปล่อยข่าวออกไปว่าสายลับซีเหลียงสังหารชาวบ้านซีเหลียงที่รู้ตัวตนของพวกเขาเพื่อปกปิดตัวตนของตัวเอง

ชาวบ้านได้ยินจึงยิ่งหวาดกลัว ไม่กล้าเก็บสายลับซีเหลียงเหล่านั้นไว้ในบ้านเพราะเห็นแก่เงินเพียงเล็กน้อยอีก พวกเขาต่างสารภาพความจริงให้กองทัพต้าโจวรับรู้

แม้ทุกคนจะชอบเงิน ทว่า ต้องมีชีวิตอยู่จงจะมีโอกาสใช้เงินเหล่านั้น

ไป๋ชิงเหยียนยิ้มเย็น “นึกไม่ถึงเลยว่าแม่ทัพชราชุยจะส่งสายลับเข้ามาในเจียงจือมากเช่นนี้ สืบต่อไป น่าจะยังมีอีก!”

“ฝ่าบาทจะพาตัวพวกเขาไปทั้งหมดหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วผิงเกาถาม

“นำศพของพวกนั้นไปด้วย!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

“พ่ะย่ะค่ะ!”

แม่ทัพชราชุยซานจงลงจากหลังม้าเรียบร้อยแล้ว เขานั่งอยู่บนเบาะรองนั่ง บ่าวรับใช้ชายสองคนที่คนหนึ่งถือโคมไฟ อีกคนถือชุดน้ำชายืนอยู่ข้างกายเขา ด้านหลังคือแม่ทัพซีเหลียงสองนายที่กำลังยืนจูงม้าอยู่

แม่ทัพชราชุยซานจงเงยหน้ามองกำแพงเมืองเจียงจือที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าของเขามีรอยเหี่ยวย่นตามอายุ แววตาและสีหน้าเคร่งขรึม ผมขาวโพลนถูกรวบสูงอย่างเป็นระเบียบ หนวดและเคราถูกลมพัดจนสะบัดเล็กน้อย

เขาสวมชุดเกราะกลับมายืนในสนามรบอีกครั้งหลังผ่านไปสามสิบปี นึกไม่ถึงเลยว่าสงครามแรกที่เขาต้องทำคือการโจมตีเมืองเจียงจือ

ไม่นานประตูเมืองเจียงจือถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ไป๋ชิงเหยียนสวมชุดนักรบหญิงคลุมทับด้วยเสื้อคลุมกันลมขนจิ้งจอกสีขาวขี่ม้าออกมาจากเมืองช้าๆ

เมื่อแม่ทัพซึ่งยืนอยู่ด้านหลังแม่ทัพชราชุยซานจงเห็นทหารกลุ่มหนึ่งตามไป๋ชิงเหยียนออกมาด้วยจึงหวาดระแวงขึ้นทันที

แม่ทัพซีเหลียงคนหนึ่งเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างกายแม่ทัพชราชุยซานจง จากนั้นคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นพลางกล่าวขึ้น “ท่านแม่ทัพ ดูเหมือนว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะพาทหารกลุ่มหนึ่งออกมาด้วย พวกเขาเหมือนจะมาอย่างมาดร้าย พวกเรา…”

แม่ทัพชราชุยซานจงยกมือขึ้นห้าม “จักรพรรดินีแห่งต้าโจวผู้นี้คือทายาทของตระกูลไป๋ นางไม่มีทางใช้กลอุบายต่ำช้าตอนออกมาพบข้าเช่นนี้ นี่คือนิสัยของแม่ทัพ คือความหยิ่งทะนงของคนตระกูลไป๋”

แม่ทัพซีเหลียงได้ยินแม่ทัพชราชุยซานจงกล่าวเช่นนี้จึงได้แต่ยืนกัดฟันกรอดอยู่ด้านข้าง

ครั้งนี้คือสงครามครั้งสุดท้ายของซีเหลียง พวกเขารวบรวมกองกำลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดของแคว้นมาไว้ที่นี่หมดแล้ว หากพ่ายแพ้แคว้นจะดับสูญทันที แม่ทัพซีเหลียงเป็นกังวลมาก เขากลัวว่าแม่ทัพชราชุยซานจงจะจบชีวิตลงที่นี่ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มทำสงครามด้วยซ้ำ

ข้างกายของไป๋ชิงเหยียนคือแม่ทัพและขันทีอย่างละคน ด้านหลังของหญิงสาวคือทหารต้าโจวที่แบกสิ่งใดออกมาไม่รู้ แม่ทัพกัดฟันกรอด เขาหันไปกล่าวกับสหายของตัวเองเสียงเบา “เจ้ากลับไปถ่ายทอดคำสั่งให้พลธนูเตรียมพร้อม หากมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงจงรอฟังสัญญาณจากข้า ปกป้องแม่ทัพชราชุยซานจงให้ได้”

“ได้!” แม่ทัพอีกคนรับคำและลอบกลับไปยังกองทัพใหญ่ของตัวเอง

แม่ทัพชราชุยซานจงเห็นไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าเข้ามาช้าๆ เขาจึงจับมือบ่าวรับใช้ชายลุกขึ้นยิ้มๆ

บ่าวรับใช้ชายที่ถือตะเกียงอยู่รีบเข้าไปช่วยประคองแม่ทัพชราชุยซานจงที่ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบากให้ลุกขึ้น

ไป๋ชิงเหยียนลงจากหลังม้า นางเห็นแม่ทัพชราชุยซานจงกำหมัดคารวะนาง “คารวะจักรพรรดินีแห่งต้าโจว!”

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้วางมาด หญิงสาวกำหมัดคารวะแม่ทัพชราชุยซานจงเช่นเดียวกัน “แม่ทัพชราชุยอายุแปดสิบกว่าแล้ว ทว่า ยังยินดีออกมาทำศึกเมื่อซีเหลียงกำลังเผชิญศึกหนัก ไป๋ชิงเหยียนนับถือยิ่งนัก!”

แม่ทัพชราชุยซานจงมองไป๋ชิงเหยียนแล้วนึกถึงไป๋ฉีซานขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ คุณธรรมของคนตระกูลไป๋ทุกคนล้วนเป็นเช่นนี้ แม้จะทำสงคราม ทว่า คนตระกูลไป๋ไม่เคยไม่ให้ความเคารพและชื่นชมแม่ทัพของฝ่ายศัตรู

แม่ทัพชราชุยซานจงมองไปทางทหารและศพของทหารด้านหลังที่ถูกทหารต้าโจวพาตัวและแบกมา เขารู้ทันทีว่าคนเหล่านั้นคือสายลับที่ถูกเขาส่งแฝงตัวเข้าไปในเมืองเจียงจือ จากจำนวนที่เห็นดูเหมือนว่าไป๋ชิงเหยียนจะจับคนเหล่านั้นได้ประมาณครึ่งหนึ่งแล้ว

การทำสงครามกับคนตระกูลไป๋ต้องรอบคอบและมีสติอยู่ทุกเมื่อจริงๆ

“เชิญจักรพรรดินีแห่งต้าโจว!” แม่ทัพชราชุยซานจงจับมือบ่าวรับใช้พลางผายมือเชิญไป๋ชิงเหยียน จากนั้นหันไปสั่งแม่ทัพซีเหลียงที่ยืนอยู่ด้านหลัง “ไปพาตัวคนมา!”

ไป๋ชิงเหยียนมองดูเบาะรองนั่งที่แม่ทัพชราชุยซานจงสั่งให้คนเตรียมไว้ให้นางก่อนหน้านี้ จากนั้นจับมือเว่ยจงนั่งลงบนเบาะยิ้มๆ

แม่ทัพชราชุยซานจงนั่งลงเช่นเดียวกัน เขากล่าวกับไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “ฝ่าบาท บัดนี้กองทัพซีเหลียงหกหมื่นนายกำลังล้อมเมืองเจียงจืออยู่ ข้ารู้ว่าฝ่าบาทกำลังตั้งครรภ์ รู้ว่าซีเหลียงกำลังดิ้นรนเฮือกสุดท้าย พวกเราไม่ทำสงครามครั้งนี้ดีหรือไม่ ฝ่าบาทเรียกกองทัพใหญ่ของฝ่าบาทกลับมา ห้ามให้พวกเขาโจมตีเมืองอวิ๋นจิง ซีเหลียงจะมอบเมืองและชาวบ้านซีเหลียงทั้งหมดที่ต้าโจวยึดได้ในตอนนี้ให้แก่ต้าโจว สองแคว้นยุติสงครามกันเพียงเท่านี้ดีหรือไม่ ตอนนี้อวิ๋นพั่วสิงเสียชีวิตไปแล้ว ฝ่าบาทน่าจะไว้ชีวิตคนที่เหลือในซีเหลียงบ้าง”

ไป๋ชิงเหยียนคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ แสงไฟของตะเกียงในมือของเว่ยจงส่องกระทบใบหน้าหญิงสาวจนเห็นเพียงริบหรี่ ทว่า กลับสะท้อนแววตาที่หนักแน่นและราบเรียบของหญิงสาวอย่างชัดเจน แววตาของหญิงสาวไม่มีความหวาดกลัวอยู่แม้แต่น้อย

“แม่ทัพชราชุยซานจงคงยังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงที่ต้าโจวต้องยกทัพโจมตีซีเหลียง…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงราบเรียบอย่างไม่รีบร้อน น้ำเสียงแฝงไปด้วยความนับถือแม่ทัพชราชุยซานจง

“ไม่ใช่เพราะกองทัพไป๋ต้องการแก้แค้นอย่างนั้นหรือ” แม่ทัพชราชุยซานจงถาม

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ส่ายหน้า หญิงสาวมองไปทางแม่ทัพชราชุยซานจงนิ่ง “แม่ทัพชราชุยซานจง ต้าโจวยกกองทัพบุกซีเหลียงเพื่อแก้แค้นจริง ทว่า สิ่งสำคัญกว่านั้นคือต้าโจวต้องการรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่ง สานปณิธานที่อยากเห็นใต้หล้ามีแต่ความสงบสุขของตระกูลไป๋ให้เป็นจริง บัดนี้ข้ายังทำสิ่งนั้นไม่สำเร็จ ไป๋ชิงเหยียนจะกล้าถอยหลังเพราะหวาดกลัวอันตรายได้อย่างไรกัน เช่นนี้ข้าจะมีหน้าไปพบบรรพบุรุษของข้าได้อย่างไร”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท