สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1202 เก่งกาจ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1202 เก่งกาจ

“ถ่ายทอดคำสั่งลงไปให้ทหารซีเหลียงทุกคนเตรียมรับมือ คืนนี้หากต้าโจวกล้าบุกมาโจมตีพวกเรา พวกเราจะไม่ปล่อยให้พวกมันมีชีวิตรอดกลับไปเด็ดขาด!”

“ขอรับ!”

แม่ทัพชราชุยซานจงเชื่อว่าไป๋ชิงเหยียนต้องบุกโจมตีค่ายทหารคืนนี้อย่างแน่นอน นอกจากทหารที่เขาสั่งให้ไปดักซุ่มโจมตีอยู่ที่นอกค่ายแล้ว แม่ทัพคนอื่นต่างอยู่กับแม่ทัพชราชุยซานจงในกระโจมใหญ่

เทียนไขที่เต็มไปด้วยน้ำตาเทียมถูกเปลี่ยนเล่มใหม่ ท้องฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้น ทว่า กองทัพต้าโจวกลับยังไม่บุกมาโจมตีค่ายทหารซีเหลียง

อย่าว่าแต่แม่ทัพชราชุยซานจงที่อายุแปดสิบกว่าเลย แม้แต่แม่ทัพคนอื่นที่รออยู่ในกระโจมพร้อมกับแม่ทัพชราชุยซานจงยังรู้สึกอ่อนล้ามาก

เมื่อท้องฟ้าสว่างเต็มที่ แม่ทัพซีเหลียงคนหนึ่งจึงหันไปกล่าวกับแม่ทัพชราชุยซานจง

“ท่านแม่ทัพ ข้าคิดว่ากองทัพต้าโจวคงไม่บุกมาโจมตีพวกเราแล้ว พวกเขาเปิดปิดประตูเมืองเพราะต้องการทำให้พวกเราคิดว่าพวกเขาจะบุกมาโจมตี ต้องการทำให้พวกเราเสียพลังโดยเปล่าประโยชน์ขอรับ”

แม่ทัพชราชุยซานจงไม่ใช่คนหัวรั้น เมื่อเห็นท้องฟ้าสว่างจ้าขึ้นเขาจึงรู้ทันทีว่าตัวเองหลงกลไป๋ชิงเหยียนเข้าให้แล้ว ทว่า กองทัพซีเหลียงล้อมอยู่รอบเมือง พวกเขาไม่ได้อยู่บนกำแพงสูง ต้าโจวสามารถบุกโจมตีซีเหลียงได้ง่ายดายกว่าพวกเขาบุกโจมตีเมืองเจียงจือ

แม่ทัพชราชุยซานจงเป็นคนรอบคอบมาโดยตลอด เมื่อคิดได้จึงเอ่ยสั่ง

“ให้ทหารสลับกันไปพักผ่อน ห้ามกลับไปนอนทุกคน ต้าโจวอาจบุกโจมตีพวกเราตอนกลางวัน”

แม่ทัพซีเหลียงที่กำลังหาวรีบรับคำและไปถ่ายทอดคำสั่งทันที

“ท่านแม่ทัพชราชุยพักผ่อนเถิดขอรับ ท่านไม่ได้นอนมาทั้งคืนร่างกายจะรับไม่ไหวเอานะขอรับ”

แม่ทัพซีเหลียงคนหนึ่งกล่าวโน้มน้าว

แม่ทัพชราชุยซานจงพยักหน้า เขาโบกมือไล่ให้แม่ทัพซีเหลียงกลับไปพักผ่อน ทว่า กำชับขึ้นอย่างไม่วางใจ

“จัดกำลังคนจับตาดูความเคลื่อนไหวของต้าโจวให้มากพอ หากเมืองเจืองจือมีความเคลื่อนไหวใดๆ จงรีบมารายงานข้าทันที”

“ท่านแม่ทัพไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะดูแลเองขอรับ” แม่ทัพซีเหลียงกล่าวอย่างนอบน้อม

เหล่าแม่ทัพเดินออกมาจากกระโจมของแม่ทัพชราชุยซานจง แม่ทัพหนุ่มคนหนึ่งบ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์

“แม่ทัพชราชุยซานจงอายุมากแล้วจึงหวาดระแวงเกินไปหรือไม่ เหตุใดต้องให้พวกเราคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของต้าโจวอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ด้วย! พวกนั้นมีกองกำลังเพียงหยิบมือจะกล้าบุกมาโจมตีพวกเราอย่างนั้นหรือ เอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”

“ระวังคำของเจ้าด้วย!” สหายของแม่ทัพผู้นั้นหันไปมองกระโจมของแม่ทัพชราชุยซานจงแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวเสียงเบา

“เจ้าอย่าลืมว่าแม้เมืองเจียงจือจะมีทหารเพียงนิดเดียว ทว่า พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับจักรพรรดินีไป๋ชิงเหยียนแห่งต้าโจว อย่าลืมสงครามหุบเขาเวิ่ง ขนาดแม่ทัพอวิ๋นพั่วสิงยังเสียชีวิตด้วยน้ำมือของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว แม้แต่เหยียนอ๋องก็ยังต้านทานไม่ได้”

ได้ยินประโยคนี้แม่ทัพหนุ่มผู้นั้นจึงได้แต่เม้มปากพลางพยักหน้าเบาๆ เขาหวนนึกถึงตอนที่หลี่เทียนเจียวนำศพของเหยียนอ๋องกลับมายังเมืองอวิ๋นจิง จากนั้นคุกเข่าขอร้องแม่ทัพชราชุยซานจงอย่างไม่สนศักดิ์ศรี

แม่ทัพอวิ๋นพั่วสิงที่ดุดันและแข็งแกร่งที่สุดในซีเหลียงของพวกเราเสียชีวิตด้วยน้ำมือของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว เหยียนอ๋องก็เช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ควรดูถูกจักรพรรดินีแห่งต้าโจวผู้นี้ จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของพวกเขาถึงขนาดยอมคุกเข่าขอร้องให้แม่ทัพชราชุยซานจงนำทัพออกรบด้วยตัวเอง แสดงว่ามีเพียงแม่ทัพชราชุยซานจงเท่านั้นที่สามารถเอาชนะจักรพรรดินีแห่งต้าโจวได้ มิเช่นนั้นจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของพวกเขาไม่มีทางคุกเข่าให้ขุนนางแน่นอน

เมื่อคิดได้ดังนี้แม่ทัพหนุ่มจึงพยักหน้า “พวกเรากลับไปพักผ่อนเถิด หากกองทัพหลักของต้าโจวย้อนกลับมาช่วยเหลือจักรพรรดินีแห่งต้าโจวของพวกมัน พวกเราต้องทำสงครามครั้งยิ่งใหญ่อีก!”

ตอนที่ทหารต้าโจวที่นอนหลับเต็มอิ่มทั้งคืนเดินขึ้นไปบนกำแพงเมืองอย่างกระปรี้กระเปร่า ทหารซีเหลียงที่ไม่ได้หลับนอนทั้งคืนอ่อนล้าเต็มที ทหารครึ่งหนึ่งของซีเหลียงกลับไปนอนพักในกระโจมของตัวเอง ส่วนทหารที่ยังไม่ได้พักผ่อนกำลังเหนื่อยล้าถึงขีดสุด พวกเขาทั้งเหนื่อยทั้งหิว ฝืนทำหน้าที่ต่ออย่างไร้เรี่ยวแรง

เมื่อไป๋ชิงเหยียนเดินตรวจตราบบกำแพงเมืองเสร็จจึงหันไปสั่งหลิ่วผิงเกา

“กลางวันนี้ให้ทหารทำอาหารเร็วกว่าเดิมครึ่งชั่วยาม”

หลิ่วผิงเกาตะลึง เมื่อคิดได้ว่าไป๋ชิงเหยียนอาจให้พวกเขาบุกไปโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงในวันนี้จึงรีบรับคำอย่างตื่นเต้น

กินอิ่มจะได้ทำสงครามได้อย่างเต็มที่!

เมื่อคืนทหารซีเหลียงคิดว่าต้าโจวจะบุกโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงจึงอยู่รอตั้งรับทั้งคืน ตอนนี้คงเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก นี่คือเวลาที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะบุกโจมตีซีเหลียง พวกเขาต้องโจมตีจนซีเหลียงไม่มีทางตอบโต้กลับได้อย่างแน่นอน

ไม่นานข่าวเรื่องที่ต้าโจวทำอาหารก่อนเวลาครึ่งชั่วยามจึงถูกรายงานไปยังแม่ทัพชราชุยซานจงที่เพิ่งนอนหลับได้ไม่นาน แม่ทัพชราชุยซานจงจับมือบ่าวรับใช้ลุกขึ้นนั่ง เขาสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ จากนั้นใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้า

“พวกนั้นจงใจก่อกวนพวกเราเมื่อคืนจนพวกเราไม่ได้พักผ่อนเพื่อบุกโจมตีวันนี้จริงๆ ด้วย! โชคดีที่ท่านแม่ทัพส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของต้าโจวเอาไว้”

แม่ทัพซีเหลียงคนหนึ่งกล่าวด้วยความโมโห

แม่ทัพชราชุยซานจงได้สติจากความเย็นของผ้าเย็น การทำอาหารก่อนเวลาครึ่งชั่วยามต้องมีควันไฟในการประกอบอาหาร ไป๋ชิงเหยียนจะไม่ถึงนึกช่องโหว่ที่ชัดเจนเช่นนี้เลยหรือ

บางทีไป๋ชิงเหยียนอาจจงใจเผยช่องโหว่นี้ให้พวกเขาเข้าใจผิด บางทีนี่อาจเป็นแผนการเหมือนเมื่อคืน ทว่า ตอนนี้ทหารซีเหลียงเหนื่อยล้ากันแทบทุกคน นี่คือเวลาอันดีที่ต้าโจวจะบุกโจมตีซีเหลียง

ไม่ว่าครั้งนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงกลอุบายของต้าโจวอกีครั้งแม่ทัพชราชุยซานจงก็ต้องป้องกันไว้ก่อนอยู่ดี

เพราะซีเหลียงไม่เหมือนต้าโจว ตอนนี้พวกเขาพ่ายแพ้ไม่ได้!

แม่ทัพชราชุยซานจงตระหนักรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดไปแล้ว การป้องกันที่ดีที่สุดคือการบุกโจมตี!

ทว่า สถานการณ์ของซีเหลียงในตอนนี้ทำให้แม่ทัพชราชุยซานจงบุกโจมตีไม่ได้จริงๆ

ประการแรกสิ่งแลกเปลี่ยนในการบุกโจมตีเมืองมากเกินไป การบุกโจมตีเมืองจะเกิดความโกลาหล หากต้าโจวจุดสัญญาณควันเรียกทัพมาช่วยเหลือซีเหลียงจะถูกโจมตีจากหลายด้านทันที ซีเหลียงไม่มีเสบียงที่มากพอเหมือนกับต้าโจว

ที่สำคัญแม่ทัพชราชุยซานจงมีแผนการอยู่ในใจแล้ว

ทว่า การทำเช่นนี้ทำให้ซีเหลียงตกเป็นฝ่ายถูกกระทำมากเกินไป เขาต้องทำสิ่งใดเป็นการเตือนต้าโจวให้อยู่อย่างสงบเสงี่ยมสักหน่อย

“แม่ทัพหม่า ถ่ายทอดคำสั่งให้แม่ทัพที่ล้อมอยู่ทางประตูทิศตะวันตกของเจียงจือนำทหารไปดักซุ่มโจมตีหน้าประตูเมือง ต้องทำให้ต้าโจวเห็นและข่มขู่ให้พวกนนั้นหวาดกลัวให้ได้ คืนนี้ทหารซีเหลียงของพวกเราจะได้นอนหลับพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ แม้กินไม่อิ่มก็ควรได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม เมื่อพักผ่อนเต็มที่จะได้มีแรงไปปล้นชิงเสบียงของต้าโจว พวกเราจะได้รบชนะกองทัพใหญ่ของต้าโจวได้!”

แม่ทัพในกระโจมมองหน้ากันไปมา ในท้ายจึงรับคำและเดินออกจากกระโจมไป

ไม่นานไป๋ชิงเหยียนจึงรับรู้ข่าวเรื่องทหารที่ซุ่มโจมตีอยู่ที่หน้าประตูเมืองทิศตะวันตกที่แม่ทัพชราชุยซานจงจงใจเปิดเผยให้นางรู้

“โว้ย!” หลิ่วผิงเกาตบศีรษะตัวเองอย่างรู้สึกผิด “กระหม่อมไม่ดีเอง กระหม่อมดีใจเกินไปจึงลืมเตือนพวกทหารว่าอย่าใช้ควัน นี่เท่ากับเป็นการบอกให้ทหารซีเหลียงรับรู้ว่าพวกเราจะบุกไปโจมตีพวกมัน”

หลิ่วผิงเกาอดชื่นชมความเก่งกาจของแม่ทัพชราชุยซานจงไม่ได้

“ข้าบอกเจ้าเมื่อใดว่าจะบุกโจมตีค่ายทหารซีเหลียงวันนี้”

ไป๋ชิงเหยียนกำตำราไม้ไผ่ในมือพลางเอ่ยถามยิ้มๆ

หลิ่วผิงเกานิ่งอึ้งไปทันที

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท