ตอนที่ 1206 เนื้อชิ้นงาม
องครักษ์ลับไป๋เหล่านั้นไม่กล้ารอช้า พวกเขารีบกลับไปรายงานเรื่องนี้ให้ไป๋ชิงเหยียนซึ่งอยู่ในเมืองเจียงจือทราบทันที
ไป๋ชิงเหยียนฟังจบจึงวางม้วนไม้ไผ่ในมือลง แม่ทัพชราชุยซานคงแพร่กระจายข่าวเรื่องที่นางถูกล้อมไว้ในเมืองเจียงจือให้คนที่ด่านเย่เฉิงรับรู้แล้ว ตอนนี้…หากหยางอู่เช่อไม่ได้กำลังส่งกองทัพมาช่วยเหลือ เขาก็คงทำเพียงส่งคนมาสืบสถานการณ์ที่เมืองเจียงจือทุกวันเพราะไม่ได้รับสัญญาณควันขอความช่วยเหลือจากนางจึงรู้ว่านางมีแผนอื่นในใจแล้ว ดังนั้นแม่ทัพชราชุยซานต้องบุกโจมตีเมืองเจียงจือเพื่อบีบให้หยางอู่เช่อยกทัพเสริมมาช่วยเหลือนางให้ได้
ไป๋ชิงเหยียนคำนวณเวลาที่สั่งให้ตู้ซานเป่าทำงาน หลายวันมานี้นางเพิ่มกำลังคนให้ตู้ซานเป่า เขาคงทำเรื่องที่นางสั่งเกือบเสร็จแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนลุกขึ้นยืน หญิงสาวหาจดหมายลับที่เขียนเสร็จนานแล้วจากนั้นยื่นให้องครักษ์ไป๋ “ให้คนนำจดหมายลับนี้ไปหาตู้ซานเป่า สั่งให้ตู้ซานเป่าขุดหลุมทางออกให้เสร็จภายในวันนี้ให้ได้ เมื่อคนที่ถือจดหมายลับออกไปจากหลุมได้ให้เขารีบตามหาสายลับที่หยางอู่เช่อส่งมาให้เจอ หากไม่เจอจงอย่ารอช้ารีบมุ่งหน้าไปยังด่านเย่เฉิงและมอบจดหมายลับให้หยางอู่เช่อทันที ตอนนี้ซีเหลียงอยากให้สายลับของเรากลับไปรายงานความเคลื่อนไหวทางนี้จนใจแทบขาด พวกเขาไม่มีทางขวางสายลับส่งสารของพวกเราแน่”
“ส่งองครักษ์ไป๋อีกคนออกจากหลุมมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ต้องไปถึงเมืองไป๋หลงก่อนฟ้ามืดให้ได้ บอกแม่ทัพคุ้มกันเมืองเป่ยหลงว่าเมื่อได้รับจดหมายแล้วเริ่มเคลื่อนไหวอย่างครึกโครมที่สุด ต้องทำให้สายลับของซีเหลียงคิดว่าพวกเขาจะนำเสบียงอาหารไปส่งที่เมืองเจียงจือในวันมะรืนให้ได้ ระวังกับดักของซีเหลียงให้ดี ข้าไม่สนว่าพวกเขาจะทำสงครามเช่นไร ทว่า ต้องเอาชนะให้ได้! ไม่เพียงเอาชนะให้ได้อย่างเดียวเท่านั้นต้องทำให้ทหารซีเหลียงที่ไปดักซุ่มปล้นเสบียงอาหารจากพวกเขาไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับไปได้อีกด้วย!”
“ขอรับ” องครักษ์ไป๋รับคำ เขารับจดหมายลับมาจากไป๋ชิงเหยียนจากนั้นจากไปทำตามคำสั่งทันที
ไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จากนั้นเดินไปสำรวจความเรียบร้อยบนกำแพงเมืองทั้งสี่ด้านพร้อมกับองครักษ์ลับไป๋
หญิงสาวคำนวณเวลา วันนี้ซีเหลียงจุดควันทำอาหารนานกว่าทุกวัน
หรือว่าพวกเขาทำเช่นนี้เพราะไม่ต้องการจุดไฟทำอาหารสองครั้งให้ต้าโจวหวาดระแวง พวกเขาตั้งใจเตรียมอาหารแห้งสำหรับคืนนี้และพรุ่งนี้เช้าทีเดียวเลย ทหารซีเหลียงจะได้บุกโจมตีต้าโจวพรุ่งนี้เช้าได้อย่างเต็มที่
หลิ่วผิงเกาเดินตามหลังไป๋ชิงเหยียน เขาไม่เห็นสิ่งผิดปกติของกองทัพซีเหลียง พวกเขาปฏิบัติเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมา
ไป๋ชิงเหยียนหันกลับไปคำนวณระยะเวลาตั้งที่นางปฏิเสธทำสัญญาสงบศึกกับแม่ทัพชราชุยซานจง หากหยางอู่เช่อจะยกทัพมาช่วยเหลือเขาคงมาถึงนานแล้ว
หลิ่วผิงเกายืนฟังเสียงธงโบกสะบัดครู่หนึ่ง จากนั้นก้าวเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน “ฝ่าบาทไม่ต้องกังวลพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะปกป้องเมืองเจียงจือด้วยชีวิตพ่ะย่ะค่ะ”
หลายวันมานี้ไป๋ชิงเหยียนวางแผนป้องกันเมืองอย่างรอบคอบที่สุด ทุกครั้งที่ซีเหลียงทำอาหารหญิงสาวจะเดินขึ้นมาสำรวจสถานการณ์บนกำแพงเมืองเองทุกครั้ง เขาได้ยินเว่ยกงกงกล่าวว่าเมื่อฝ่าบาทเสด็จกลับไป ฝ่าบาทจะยืนอยู่หน้าแผนที่หลายชั่วยาม ฝ่าบาทกำลังตั้งครรภ์อยู่ นางไม่ควรหักโหมถึงเพียงนี้
“แม่ทัพหยางอู่เช่อผู้คุ้มกันด่านเย่เฉิงคงรู้ข่าวเรื่องที่เมืองเจียงจือถูกล้อมไว้แล้ว เขาคงส่งสายลับมาสืบสถานการณ์หลายครั้ง ทว่า เขากลัวว่าข้าจะมีแผนอื่นในใจจึงไม่กล้าบุ่มบ่ามยกทัพมาช่วยเหลือพวกเรา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ”
ไป๋ชิงเหยียนหันกลับไปมองค่ายทหารของซีเหลียง
“พรุ่งนี้แม่ทัพชราชุยคงเริ่มบุกโจมตีเมืองเจียงจือเพื่อบีบให้แม่ทัพหยางอู่เช่อนำทัพเสริมมาช่วยเหลือพวกเรา เขาจะได้ดักซุ่มโจมตีกองทัพเสริมจากด่านเย่เฉิงจนสิ้นซากแน่นอน”
กองทัพซีเหลียงต้องการยึดด่านเย่เฉิงคืนเพื่อตัดแหล่งเสบียงอาหารของกองทัพหลักของต้าโจว
หลิ่วผิงเกามองไปทางค่ายทหารซีเหลียงอย่างไม่อยากเชื่อ “โจมตีเมืองหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“จากการคาดเดาของข้าที่มีต่อแม่ทัพชราชุยซานจงที่เอาแต่ล้อมเมืองโดยไม่โจมตีเสียที แม่ทัพชราชุยน่าจะกำลังรอให้เมืองไป๋หลงส่งเสบียงอาหารมาให้เจียงจือ เดิมทีแม่ทัพชราชุยคงอยากรอให้ยึดเสบียงอาหารของต้าโจวได้ก่อน จากนั้นค่อยบีบให้กองทัพเสริมจากด่านเย่เฉิงยกทัพมาช่วยเหลือพวกเรา จากนั้นดักซุ่มโจมตีพวกเขา” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน
หลิ่วผิงเกาพยักหน้า การทำสงครามเช่นนี้จะทำให้ซีเหลียงมีทางรอด
“คนรอบคอบอย่างแม่ทัพชราชุยซานจงสั่งให้โจมตีเมืองเจียงจือในวันพรุ่งนี้ เขาไม่กลัวว่าความเคลื่อนไหวของกองทัพจะรู้ไปถึงหูคนเมืองไป๋หลงแล้วเมืองไป๋หลงจะไม่ส่งเสบียงมาหรือพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่าอย่างไรเมืองไป๋หลงก็อยู่ไม่ห่างจากเจียงจือสักเท่าใดนัก…”
ไป๋ชิงเหยียนเม้มปาก นางครุ่นคิดอย่างละเอียด
“พวกเราได้เปรียบกว่าแม่ทัพชราชุยเพราะพวกเรารู้ว่าเมืองไป๋หลงจะส่งเสบียงมาให้พวกเราประมาณวันที่สิบเอ็ดหรือสิบสองเดือนนี้ ทว่า แม่ทัพชราชุยทำได้เพียงคาดเดาจากระยะเวลาที่เมืองไป๋หลงส่งเสบียงมาครั้งที่แล้วเท่านั้น”
หลิ่วผิงเกานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นกล่าวขึ้น
“ทว่า ก่อนหน้านี้พวกเราส่งเสบียงมาค่อนข้างถี่เพราะต้องนำไปเลี้ยงดูชาวบ้านในด่านเย่เฉิง บัดนี้ด่านเย่เฉิงมีเสบียงอาหารมากเพียงพอแล้ว ระยะเวลาการส่งเสบียงของเราจึงไม่บ่อยเท่าก่อนหน้านี้อีกแล้ว”
“แม่ทัพชราชุยซานอาจปล้นเสบียงอาหารไปได้แล้ว…”
ไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางค่ายทหารซีเหลียงพลางขมวดคิ้วแน่น
“กระหม่อมคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้พ่ะย่ะค่ะ แม่ทัพคุ้มกันเมืองไป๋หลงเป็นคนรอบคอบมาก หากฝ่าบาทไม่ได้สั่งให้พวกเขาส่งเสบียงมายังเมืองเจียงจือ เขาไม่มีทางส่งเสบียงมาที่นี่โดยพลการแน่พ่ะย่ะค่ะ”
หลิ่วผิงเกาค่อนข้างสนิทกับแม่ทัพคุ้มกันเมืองไป๋หลง
“ที่สำคัญแม่ทัพคุ้มกันเมืองไป๋หลงรังเกียจคนซีเหลียงมาก ตอนแรกเขาอยากถวายฎีกาเสนอให้ฝ่าบาทไม่ต้องมอบเสบียงอาหารของต้าโจวให้ชาวบ้านซีเหลียง ทว่า กระหม่อมห้ามเขาไว้พ่ะย่ะค่ะ”
คนเช่นนี้จะรีบร้อนส่งเสบียงอาหารมาช่วยเหลือคนซีเหลียงได้อย่างไรกัน เขาไม่ถ่วงเวลาไว้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
“เช่นนั้น…” ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าพลางถอนหายใจเบาๆ ออกมาอย่างโล่งอก
“แสดงว่าแม่ทัพชราชุยซานจงเชิญขอทัพเสริมมา เขาต้องส่งทัพเสริมเหล่านั้นไปปล้นชิงเสบียงแน่นอน”
“ซีเหลียงยังมีทัพเสริมจากที่ใดอีกพ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วผิงเกามีสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“ยังมีเมืองซีเหลียงอีกหลายเมืองที่ต้าโจวยังยึดมาครอบครองไม่ได้ กองทัพเสริมคงมาจากเมืองเหล่านี้ ทัพเสริมจากเมืองเดียวคงไม่มากพอ ทว่า หากมีเมืองที่สอง สาม สี่ ห้าล่ะ หากเมืองเหล่านั้นรวมตัวกันคงมีจำนวนไม่น้อยทีเดียว”
คำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนทำให้ร่างของหลิ่วผิงเกาชาวาบไปทันที
“ฝ่าบาท หากพวกนั้นขโมยเสบียงอาหารของพวกเราไปได้ เกรงว่า…”
ไป๋ชิงเหยียนกลัวหลิ่วผิงเกาจะกดดันจึงหันไปกล่าวกับเขา
“ข้าอาจคิดมากเกินไปเอง! บางทีแม่ทัพชราชุยซานอาจแสร้งทำเป็นบุกโจมตีเมืองให้หยางอู่เช่อเห็นเท่านั้น ตอนนี้ซีเหลียงมีกองกำลังเหลือเพียงเท่านี้แล้ว!”
น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนไม่ดัง ทว่า ได้ยินชัดเจน
“แม่ทัพชราชุยซานคงไม่อยากให้ทหารซีเหลียงสละชีพบุกโจมตีเมืองจริงๆ แน่”
“ฝ่าบาท ไม่ว่าซีเหลียงจะแสร้งทำเป็นบุกโจมตีเมืองหรือบุกโจมตีเมืองจริงๆ พวกเราก็ควรเตรียมป้องกันไว้ก่อนพ่ะย่ะค่ะ พวกเราต้องทำลายกองทัพซีเหลียงให้ได้มากที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
หลิ่วผิงเกายืนอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียน
“ถึงแม้พรุ่งนี้พวกเขาจะไม่บุกโจมตีเมืองพวกเราก็ควรเตรียมตั้งรับไว้ก่อน เมื่อพวกเขาบุกมาจริงๆ พวกเราจะได้สอนบทเรียนให้พวกนั้น กัดเนื้อชิ้นงามของพวกเราสักสองสามทีพ่ะย่ะค่ะ!”