ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 47 สงครามอาร์คแลนด์ ④ ศึกตัดสิน

ถนนสู่อาณาจักร

47 สงครามอาร์คแลนด์ ④ ศึกตัดสิน

 

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

 

「เอเกอร์-ซามะ…ทุกคนได้รวมกันที่ห้องโถงแล้ว ท่านไม่คิดว่าท่านควรจะออกไปที่นั่นเหรอ?」

 

「ชั้นจะไปแล้ว ชั้นไม่ต้องรีบ เกอะ!」

 

ซีเลียได้มองผมด้วยการหรี่ตาเหมือนจะพินิจพิเคราะห์ผม มันไม่ใช่บางอย่างที่ผมต้องรีบ ผมได้ตัดสินใจที่จะรอคำสั่งจากกองกำลังหลักว่าผมควรจะออกไปจากเมืองนี้หรือไม่ ผูส่งสาสน์ควรจะมาเย็นนี้ไม่ก็คืนนี้

「โอ้ใช่ การผัดผ่อนชีวิตของหมูนั่นได้ยืดไปจนถึงเช้าใช้มั้ย…? แต่ถ้าชีวิตเค้ายืดไป เค้าไม่ควรจะมีปัญหากับเรื่องนั้น」

 

「งั้นหนูจะให้พวกเค้ารู้เพื่อรอพร้อม ได้โปรดเร็วๆเท่าที่ทำได้」

 

「ได้ ชั้นรู้ อออุ!」

 

ตาของซีเลียหรี่ลงอีก ผมได้นอนตะแคงบนเตียงและซีเลียได้มองไปที่เท้าผม เน้นไปที่รอยปูดใหญ่ภายใต้ผ้าห่ม คนหนึ่งคนได้โผล่หน้าของเธอออกมาจากข้างในผ้าห่ม

 

「หนูกำลังคิดจะบริการการแข็งตอนเช้าของท่าน แต่ท่านต้องไปแล้วเหรอ?」

 

「ไม่ ได้โปรดทำต่อ มันจะเป็นปัญหาถ้าเธอหยุดตอนนี้」

 

「หนูเข้าใจแล้ว ทุกคน ทำมันให้เข้มข้นกว่านี้」

 

ข้างในผ้าห่มเสียงดูดได้เสน่หามากกว่าเดิมและมีเสียงอู้อีได้ยินได้

 

「ขนาดที่เหลือเชื่อ ยังมีที่แม้ว่าห้าคนจะวางปาก」

 

「ดูที่ไข่ด้วย มันน่าทึ่งมาก หนูสงสัยว่าเมล็ดพันธุ์ถูกเก็บสะสมอยู่ที่มันมากเท่าไหร่」

 

「เมื่อวาน นี่ได้ถูกเทเข้าไปในหนูใช่มั้ย? บางทีหนูอาจจะ…」

 

「เอ็นใหญ่นี้เป็นคนที่ขโมยเราจากหมูนั่นใช่มั้ย? ขอบคุณคุณเอ็น~」

 

เด้งออกมา; สาวคนละหน้าได้โผล่ออกมาจากข้างในผ้าห่ม ปากของเธอเปียกและรู้สึกน่าเร้าใจ

 

「อืม ลอร์ดศักดินา…ไม่ไอหมูตัวผู้นั่นได้ข่มขู่ครอบครัวเราในหมู่บ้านโดยการจับตัวประกัน นั่นทำไมเมื่อเค้าตาย หนูจะมีความสุขมาก~」

 

รู้ว่าผมถือชีวิตเขาอยู่ในมือเธอขอร้องอ้อมๆกับผม

 

「ถ้าชายคนนั้นไปแล้วงั้นหนูจะเป็นของฮาร์ดเลตต์-ซามะอย่างสมบูรณ์ได้ ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?」

 

「หนูอยากจะเป็นผู้หญิงของท่านจริงๆ~」

 

ได้ยินผู้หญิงเหล่านี้ปรารถนาเป็นเสียงเดียวกันให้เขาตาย ผมรู้สึกเห็นอกเห็นใจชายคนนั้นเล็กน้อย และเมื่อดูกายของพวกผู้หญิงที่มีรอยแผลเป็นเหล่านี้หลงเหลืออยู่ มันน่าจะเป็นที่เขาสมควรได้รับ

 

「ชั้นเกือบจะถึงแล้ว ชั้นหวังพึ่งเธอนะ」

 

「ได้เลย~」 「ชั้นจะเอาปลายนะ เค๊?」 「ชั้นจะดูดด้านข้าง」

 

ไม่สามารถที่จะเห็นอะไรจากภายใต้ผ้าผมได้เพิ่มความรู้สึกเงี่ยนของผมเพิ่มขึ้น ไม่ว่าเมื่อวานผมจำทำกับพวกเธอไปมากแค่ไหน ผมรู้สึกถึงการปลดปล่อยครั้งใหญ่ได้มา

 

「ฮย้าา!」 「เหมือนน้ำพุเลย…」 「หนูใส่มันทั้งหมดเข้าไปในปากไม่ได้」 「ว้าา มันเป็นแอ่งเลย」

 

ผมลูบหัวทุกคนอย่างเบาๆ และออกจากเตียงเพื่อใส่เสื้อ ริต้าและสาวคนอื่นได้ส่งผมและผมมุ่งหน้าไปที่ห้องโถง ลอร์ดศักดินาจะได้เจอกับชะตาที่สาวๆต้องการ มันดูเหมือนเข้าได้พ่นข้อมูลออกมา แต่ถ้าเราปล่อยเขาอย่างที่ตกลง มันมีความไม่สะดวกมากมายในอนาคต

—————————————————————

「ชั้นให้พวกนายรอ」

「「「「สวัสดียามเช้า」」」」

 

ผู้บัญชาการกองร้อยสามคน ลีโอโพลต์ ย้อกลี่ย์ได้รอผมอยู่ อย่างแรกผมรับรายงานจากผู้บัญชาการแต่ละกองเกี่ยวกับสภาพของทหารของพวกเขา ทหารที่เป็นทหารเต็มตัวไม่มีการบาดเจ็บมาก พวกเขาก็ยังได้พักในเมืองด้วย ดังนั้นพวกเขาไม่มีความเหนื่อยสะสม พวกเขาพร้อมที่จะบุกเข้าไปในเขตศัตรูได้ทุกเวลา

 

แม้ว่าทหารอาสาได้สูญเสีย มันจะมีทหารชุดใหม่ไหลเข้ามา ดังนั้นจำนวนมันจะจบที่การเพิ่มขึ้นแทน แล้วก็หลังจากที่ได้ยินว่าดาโทรห์นพ่ายแพ้ มันดูเหมือนบางคนจากหมู่บ้านรอบข้างก็อยากจะเข้าร่วมด้วย

 

ดาโทรห์นเป็นเมืองแกนกลางของหมู่บ้านรอบข้าง และในการที่มันตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา มันได้ทำส่วนใหญ่ในบริเวณรอบข้าง รวมถึงหมู่บ้านที่ยังไม่ถูกยึดครองอยู่ภายใต้การควบคุมของเราด้วย

 

「งั้น หมูนั่นพูดมั้ย?」

 

「ใช่ นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับกองทัพทิศเหนือ」

 

พวกเขาเก็บข้อมูลทั้งหมดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ข้อมูลที่ละเอียดได้ถูกเขียนในกระดาษและถูกส่งมอบมาให้ผม จากรายงานกำลังทางทหารของกองทัพทิศเหนือมี 20,000 คน นายพลสูงสุดคือ มาร์เกรฟ กิล่า แอสโลดิธ ทหารผู้มีประสบการ์ที่อาร์คแลนด์ชื่นชม และนายพลที่มีชื่อเสียง แต่ใน 20,000 คนนั้น ที่มีปัญหามากที่สุดเป็นทหารม้าหอกเหล็กที่มีจำนวน 2000 ทหารม้าหนักของกองทัพกลางมีไม่ถึงแม้แต่ 1000 คนดังนั้นเมื่อคิดเกี่ยวกับมัน มันเป็นการเทียบที่ข่มขู่

 

「นอกจากนั้น ผมได้ยินจากเจ้าหน้าที่รัฐสภาเกี่ยวกับภูมิประเทศและข้อมูลเกี่ยวกับหมู่บ้าน」

 

「แล้วลูกชายล่ะ」

 

ลีโอโพลต์หยุดครู่หนึ่ง

 

「ที่ชายคนนั้นรู้ไม่มีอะไรนอกจากเรื่องหยาบคาย」

 

ผมอยากจะได้ยินมันนิดหน่อยว่ามันเกี่ยวกับเรื่องอะไรแต่มันจะเป็นการสนทนาน่าสะอิดสะเอียน

 

「นายได้บอกทุกอย่างที่พวกนั้นรู้กับชั้นแล้วเหรอ?」

 

「ครับ ไม่มีข้อมูลที่มีประโยชน์มากกว่านี้จากพวกเขา ยังไงก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐสภาจะยังมีประโยชน์อยู่」

 

นั่นใช่แล้วเราควรจะมัดเจ้าหน้าที่รัฐสภาและมอบเขาให้กับกองกำลังหลัก ผมจะจัดการกับพวกเข้าอย่างไรดี?

 

「ลีโอโพลต์ ชั้นไปสัญญาแบบไหนกับพวกเค้า?」

 

「ถ้าพวกเขาบอกข้อมูลที่น่าสนใจ งั้นพวกเราอาจจะรู้สึกเหมือนอยากปล่อยตัวพวกเค้าไป」

 

นั่นหมายถึง ผมยังฆ่าเขาได้แบบนี้ แต่มันจะค้างคาใจผม มาเก็บคำสัญญาของเราไว้เถอะ

 

「พาลอร์ดศักดินากับลูกชายมา」

—————————————————————

ลอร์ดศักดินาและลูกชายของเขาได้ถูกดึงตัวและพาไปที่พลาซ่า ตรงใจกลางของเมือง เชือกถูกคลาย ผู้คนจากบ้านใกล้เคียงได้สงสัยว่าอะไรเกิดขึ้นและออกมา

 

「ทุกคน ฟังให้ดี! คนนี้เป็นลอร์ดศักดินาเก่าและลูกชายเค้า! พวกเค้าจะเป็นอิสระจากตอนนี้ไป」

 

หน้าที่คุ้นเคยได้กลัว มีคนรับใช้ผู้หญิงที่กลับไปที่เมือง ถ้าเขาพวกถูกปล่อยตัวตอนนี้พวกเขาน่าจะแก้แค้นคนในเมือง

ชาวบ้านคนอื่นก็มีหน้าที่โกรธและไม่มีความสุขด้วย

 

「พวกเค้าจะถูกปล่อยตัว ยังไงก็ตาม เค้าจะไปที่ไหนและจะเกิดอะไรขึ้นกับเค้าหลังจากนี้ไม่ใช่ความกังวลของชั้น!」

 

ลอร์ดศักดินาและลูกชายเขาพยายามจะประท้วงแต่เสียงของพวกเขาได้ถูกเมิน มันดูเหมือนว่าจะค่อนข้างเงียบ; ผู้คนในเมืองนี้ได้กระซิบหากันในเสียงที่เกือบจะไม่ได้ยิน

 

「กองกำลังของชั้นได้ยุ่งกับการจัดการกับชัยชนะหลังจากสงคราม ชั้นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเมืองไม่ได้」

 

ผมหันและกลับไปที่คฤหาสน์ หมูได้ร้องไห้แต่ผมไม่ได้ยินมัน พลเมืองได้ปิดระยะระหว่างพวกเคาและลอร์ดศักดินาและลูกชายของเขาทีละก้าวทีละก้าว

มากกว่านั้น คนรับใช้เก่าที่มีตาที่แดงก่ำได้ถือไม้และหินในมือ เสียงคำรามของความโกรธและเสียงเชียร์สามารถได้ยินได้ แต่ผมไม่หันกลับไปมอง แม้ว่ามีการสังหารหมู่เกิดขึ้น การดูมันมันน่าเบื่อ

—————————————————————

ในตอนเย็น ผู้ส่งสาส์นที่มาจากกองกำลังหลักได้มาถึง จากพวกเขา กองกำลังหลักได้มุ่งหน้ามาที่ดาโทรห์นเป็นเส้นตรง

 

ภารกิจของเราถูกเปลี่ยน ภารกิจของการสอดแนมเป็นแนวหน้าได้สำเร็จแล้ว เราจะเสริมการป้องกันของเมืองนี้และเตรียมการการประจำการของกองกำลังหลัก

 

คนในเมืองดาโทรห์นมี 1500 ดังนั้นมันน่าจะไม่สามารถรับกองกำลังหลักของกองทัพกลาง ที่มีจำนวนคนมากกว่าสิบเท่าได้ งั้นที่รอบข้างต้องถูกใช้และตั้งแคมป์ และไม่ใช่แค่เพียงข้างในที่มีกำแพงปกป้อง แต่รอบข้างก็มีรั้วและคูเมืองด้วย

 

「ทหารทั่วไปได้สลับกันทำหน้าที่พื้นฐาน ระหว่างที่งานพิเศษได้ถูกทำโดยเหล่าทหารช่าง」

 

ทันใดนั้น ทหารได้ขยับอย่างยุ่งๆ และผู้คนได้มองด้วยหน้าที่ไม่สบายใจ ไม่มีพลเมืองที่จะต้องรับกองทัพที่ใหญ่ขนาดนี้ และมากกว่านั้นเมื่อมันเป็นกองทัพจากต่างชาติ

 

「หัวหน้าของฮาร์ดเลตต์-ซามะจะมามั้ย?」

 

หอสังเกตการณ์ได้เหมาะสมและผมได้ดูไปทั่วเมืองจากระเบียง โดยมีริต้ายืนอยู่ข้างหลังผม

 

「ใช่ บารอนราดาห์ล เค้าเป็นผู้นำกองทัพและหัวหน้าของชั้น」

 

ผู้บัญชาการกองพันอื่นและเจ้าหน้าที่ได้อยู่ระดับเดียวกับผมด้วย

 

「มันดีกว่าที่หนูจะเป็นคู่กับคนนั้นด้วยมั้ย?」

 

「เค้าไม่เหมือนชายที่เหมือนหมูก่อนหน้านี้ แต่เขาค่อนข้างหล่อ ดังนั้นถ้าเธออยากถูกโอบกอดโดยชั้นทำตามที่ต้องการเลย」

 

ริต้าได้นำปากเธอมาใกล้ผม

 

「ถ้าคนนั้นต้องการผู้หญิง หนูจะให้สาวๆคนอื่นไป หนูจะไม่ไป」

 

ก่อนหน้านี้ริต้าเสนอตัวเธอเพื่อปกป้องผู้หญิงคนอื่น แต่ตอนนี้ คุณจะไม่คิดถึงคำที่ออกมาจากเธอ

 

「หัวใจของหนูได้ตกหลุมรักฮาร์ดเลตต์-ซามะ หนูจะไม่ปล่อยให้ชายคนอื่นแตะต้องหนู」

 

เธอคุกเข่าที่เท้าของผม และผมคิดว่าเธอจะไปหาหว่างขาของผม แต่เธอเลียเท้าของผมอย่างอ่อนโยน

 

「หนูจะอายุ 30 ในไม่นานนี้ ได้โปรดให้หนูอยู่รอบๆเป็นเวลานานๆ」

 

เธอได้ถูเท้าของผมด้วยแก้มระหว่างที่มีหน้าที่เต็มไปด้วยความปิติยินดี มันดูเหมือนว่าเธอคือผู้หญิงที่ได้รับความสุขเมื่อโดนกระทำอย่างเหนือกว่า แม้ว่าเธอมีความสุขกับการโดนกระทำอย่างเหนือกว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอในอดีตได้โหดร้ายเกินไป ดังนั้นความต้องการของเธอมาระเบิดกับผม

—————————————————————

สีวันต่อมา: ตอนเช้า

 

「นายทำได้ดี ในการเป็นผู้คุ้มกันแนวหน้า」

 

「มันไม่มีอะไร แค่เตะพวกลูกกระจ๊อกน่ะ」

 

กองทัพกลางที่อีริชนำได้มาถึงที่เมืองทีละกองทีละกอง จากรายงานของผม เขาตัดสินว่าศึกตัดสินได้ใกล้เข้ามาแล้ว เขาได้รวมทุกทีมที่กระจายอยู่รอบบริเวณ และรวมทหารทั้งหมดของจริง

 

「จากสายลับ มีหลายพื้นที่ที่มีความไม่สงบเกิดขึ้นในอาร์คแลนด์ เพราะทั้งหมด ปรกติแล้วพวกเค้าเป็นประเทศที่พลเมืองส่วนใหญ่ไม่พอใจกับการเมือง พวกเค้าจะทำอะไรแน่นอน」

 

「มันถึงเวลาแล้ว?」

 

「ไม่มีผิดพลาดเกี่ยวกับมัน มันได้ใกล้เข้ามาแล้ว」

 

「ซีเลีย เร่งการก่อสร้างค่าย มันเหลือเวลาไม่มากแล้ว」

 

「รับทราบ」

 

ซีเลียได้ออกไปหลังจากที่ทำความเคารพอย่างคม เหมือนทหารที่ไม่แตกแถว มันน่ารักอย่างไรก็ไม่รู้

 

「จำนวนของศัตรูมี 20,000 หือ?」

 

「มันใช้เวลาที่จะรวมกองกำลังนอกจากกองทัพทิศเหนือ 20,000 นี่น่าจะเป็นทั้งหมดของพวกเค้า」

 

จำนวนของกองทัพนั้นเท่ากันถ้าเรารวมกองทัพชาติ ความสามารถในการสั่งการของคู้ต่อสู้ก็มาจากนายพลที่สมควรจะมีชื่อเสียง แต่อีริชก็มากความสามารถด้วย ไม่มีความด้อยกว่าที่สังเกตเห็นได้ที่นี่ ปัญหาคือทักษะของทหารและจำนวนของกองกำลังติดอาวุธหลัก

 

「ทหารม้าหอกเหล็ก 2000 คน จะค่อนข้างน่ารำคาญที่จะจัดการ」

 

「มันดีกว่าสำหรับเราที่จะท้าทายพวกเค้ามากกว่าให้พวกเค้ามาท้าทายเราที่นี่」

 

「นายจะสร้างค่ายและล้อมมันด้วยการป้องกันเหรอ?」

 

「ปรกติแล้ว การโจมตีจากด้านข้างจะเป็นกำลังที่เคลื่อนไหวก่อน แต่เวลาได้อยู่ฝ่ายเรา เรามีของเยอะ ถ้าเราได้คงสถานะของพวกเราตอนนี้ไว้ กลุ่มคนจะกบฏไปทีละคนทีละคน」

 

「คนใจร้อนที่จะเคลื่อนไหว…ศัตรูเหรอ?」

 

แน่นอนว่า นั่นเป็นความเห็นของลีโอโพลต์แต่ผมพูดมันเหมือนความคิดผมเอง เขาไม่น่าจะถือ

 

งั้นมีที่ให้เรารวบรวมของ มันไม่มีที่เหมาะที่อื่นนอกจากที่เราอยู่ที่นี่ที่มีความสูงแล้ว

 

「ด้วยนั่นในใจ ชั้นจะสร้างค่ายป้องกัน」

 

「ได้ งั้นปล่อยหน่วยสอดแนมไปรอบๆที่นี่ รวมข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้」

 

「จนกว่าจะถึงตอนนั้น เสริมความแข็งแกร่งของค่าย และทหารจะพัก มันเป็นคฤหาสน์ที่ใหญ่อย่างไม่จำเป็น ดังนั้นเลือกห้องที่นายต้องการได้เลย」

 

ปรกติแล้วห้องของลอร์ดศักดินาที่หรูหราที่สุดจะถูกมอบให้อีริชอยู่ แต่ห้องนั้นเป็นห้องที่คนรับใช้และผมปกคลุมไปด้วยน้ำจากตัวเรา อย่างที่คนหนึ่งคาดเดาได้ อีริชจะรู้สึกไม่สบายที่อยู่ในห้องแบบนั้น ดังนั้น มาผนึกห้องนั้นและใช้มันเพื่อความรู้สึกดีอย่างเดียวเถอะ

 

「โปรดมาทางนี้」

 

คนรับใช้ได้นำอีริชไปที่ห้องลูกชายโง่ มันเป็นห้องที่ก้าวข้ามห้องลอร์ดศักดินาที่ถูกปิดผนึกในแง่ของความหรูหรา และสภาพมันก็ไม่ใช่ปัญหาด้วย

 

「ฮาร์ดเลตต์-ซามะได้โปรดมาทางนี้ที่ห้องนี้…」

 

ห้องที่ริต้าพาผมมานั้นเรียบง่ายเมื่อดูเผินๆ แต่มีเพียงเตียงที่ใหญ่อย่างแปลกๆ

 

「อัศวินในห้องนี้เป็นสัตว์ตัวผู้ที่ลงมือกับคนรับใช้บ่อยครั้ง ห้องของเขาเรียบร้อยแต่เตียงได้ถูกสั่งมาเป็นพิเศษ และเป็นบางอย่างที่ดีกว่าของลอร์ดศักดินา」

 

มันดูเหมือนการทำให้ริต้าเป็นของผมมันเป็นไปได้ที่จะได้ประโยชน์หลายอย่าง

 

「แต่ไม่มีเก้าอี้หรือโซฟาเลย นำมาจากห้องว่างได้มั้ย?」

 

「หนูขอโทษที่หนูไม่สังเกต! ตอนนี้ยกโทษให้หนูกับเรื่องนี้ด้วย」

 

ริต้าได้คุกเข่าสีขาตรงหน้าผม เธอบอกว่าจะให้ผมนั่งบนเธอเหรอ?

—————————————————————

มันเป็นซักพักหนึ่งที่สิ่งที่ทำมีเพียงการสร้างค่ายและการเข้าใจหมู่บ้านรอบข้างกับภูมิศาสตร์ และไม่มีอะไรเคลื่อนไหวจริงๆ ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษนอกจากโอบกอดกับริต้า นั่นทำให้ผมนึกได้ มันดูเหมือนหนึ่งในแม่บ้านก็ได้ถูกโอบกอดโดยอีริช

 

เขาไม่ใช่พวกที่เล่นไปทั่ว แต่เขาในที่สุดก็ถึงขีดจำกัดของวิถีชีวิตในสนามรบ

 

「เขาอ่อนโยนและใจดี และมันรู้สึกดีกว่าลอร์ดศักดินาคนเก่ามาก ขนาดของอุปกรณ์เค้าก็เหมาะสมชั้นเดาว่า」

 

ผมไม่คิดว่าผู้หญิงควรจะพูดถึงขนาดของเอ็นเมื่อส่ายเอวอยู่บนชายอีกคน กายของแม่บ้านได้ถูกแบ่งระหว่างอีริชและผม และเพราะเราแค่เล่นไปทั่วกับเธอมันไม่น่าจะเป็นเรื่องไหญ่

 

มือของแม่บ้านคืบคลานไปรอบๆเอ็นผมบอกผมว่า ‘ของเค้าประมาณขนาดนี้’ และชี้ไปที่ขนาดแต่ผมตัดสินใจที่จะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร ไม่นาน ผู้หญิงที่ส่ายเอวได้ถึงขีดจำกัดและลำดับในการเรียงเป็นแบบนี้: ผู้หญิง1 ไปหา ริต้า ไปหา ผู้หญิง2 ไปหา ริต้า มันดูเหมือนริต้าได้หลงเสน่ห์ผมโดยสิ้นเชิง ผมเลยจะดึงผู้หญิงคนอื่นกลับไปหนึ่งขั้นและมอบลำดับความสำคัญให้กับเธอ

 

「เอเกอร์-ซามะ! รายงานจากทหารม้าเบา…และ ทำไมท่านทำนี่อีกแล้ว?!!」

 

「ไม่ว่ายังไง แค่บอกรายงานชั้นมา」

 

「มาดูกัน! พบทีมที่ดูเหมือนเป็นกำลังหลักของศัตรู จำนวนนั้นมากกว่า 15,000 อยู่ระยะการเดินอีกครึ่งวันจะมาถึง มาทางทิศใต้!」

 

ในที่สุดพวกเขาก็ได้ออกมา กองกำลังหลักของศัตรู

 

「ส่งทีมสอดแนมเพิ่มเติม ทุกหน่วยเตรียมพร้อมต่อสู้ ชั้นจะออกไปไม่นานนี้」

 

「ทีมสอดแนมได้ออกไปแล้ว หนูก็จะเตรียมตัวด้วย!」

 

ซีเลียพุ่งออกไป ผมก็ไม่มีเวลาที่จะผ่อนคลายและโอบกอดผู้หญิงอีกต่อไป ริต้าดูไม่เต็มใจที่จะจากกับผม

 

แต่ผมจับเอวเธอและโจมตีเธออย่างรุนแรง มันไม่เหมือนช่วงเวลาที่มีกันจนถึงตอนนี้ ในการทำให้เป็นจังหวะเดียวกัน แต่มันเหมือนกับการแทงส่วนที่ลึกที่สุดและทำลายเธอ เพราะการเคลื่อนไหวที่เหลือเชื่อของผม ริต้าทำอะไรไม่ได้นอกจากจะเหวี่ยงไประหว่างที่กระตุก ผมคิดว่าเธอกจะกรีดร้อง แต่เธอได้กัดผ้าปูเตียงและทน ดังนั้นไม่มีแม้แต่เสียงเล็กน้อยเล็ดไป

 

การได้รับประสบการณ์การแทงสุดกำลังของผมทำนั้นเพียงพอที่จะทำให้ผู้หญิงบ้าไป ในที่สุดริต้าก็เปิดตาเธอกว้างก่อนจะสลบและทรุดลงไป มีรอยเปื้อนสีเหลืองที่กระจายลงบนเตียง มันใช้เพียงสามนาทีที่จะน็อคริต้าและผมกระแทกเธอต่อไปจนกว่าผมจะถึงจุดสุดยอดของผม จากนั้นผมใส่เสื้อแล้วออกจากห้อง

 

「เธอเล็ด」 「เซ็กส์ที่น่าทึ่ง…」 「เป็นไปได้มั้ยว่าสิ่งที่ขยายท้องของเธอเป็นเมล็ดพันธุ์ของเค้า?」 「อุว้าา มันพ่นออกมาเลย!」

 

ด้วยเสียงผู้หญิงอยู่ข้างหลังผม ผมมุ่งหน้าไปที่สนามรบ

—————————————————————

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์! นายเตรียมตัวรึยัง」

 

「ชั้นออกไปได้ทุกเวลา」

 

ทั้งทีมได้ออกมาที่หน้าเมืองแล้ว มันไม่เหมือนกับว่าเราต้องป้องกันจากการล้อมเมือง หอสังเกตการณ์ได้ยืนยันการเห็นศัตรูแล้ว ความตึงเครียดของทหารได้ไต่ไปที่จุดสุดยอด

 

ในท้ายที่สุด พวกเราที่ยืนอยู่ในที่ราบก็สามารถจะเห็นรูปลักษณ์ของศัตรูค่อนข้างชัดเจน

 

「งดงาม」

 

คุณบอกได้เมื่ออีริชได้เล็ดเสียงของเขาออกมา ศัตรูได้อยู่ในรูปแบบอย่างงดงามโดยไม่มีใครอยู่นอกแถว และเดินหน้ามาทั้งแบบนั้น อีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าเราได้เรียงอยู่ในดาโทรห์น

 

ทหารม้าคนเดียวได้ควบมาที่นี่ เขาได้ถือธงขาว มันดูเหมือนว่าเป็นผู้ส่งสาส์น

 

「นี่คือคำพูดของผู้บัญชาการทหารทิศเหนือที่รุ่งโรจน์ของอาร์คแลนด์ มาเกรฟ แอสโลดิธ ใครเป็นผู้บัญชาการ?」

 

「ชั้น」

 

อีริชก้าวไปข้างหน้า

 

「เราจะไม่ยกโทษให้กองทัพและพฤติกรรมที่ป่าเถือนของคุณ แม้อย่างนั้น ถ้าคุณนำทหารไปจากดาโทรห์นและคืนของที่ขโมยมา เราสาบานด้วยใจที่เมตตาว่าเราจะไม่โจมตีคุณ อย่างนั้นเป็นอย่างไร!」

 

มันดูเหมือนพวกเขาได้กังวลเกี่ยวกับการขาดเสบียง ไม่มีความจำเป็นต้องตอบการข่มขู่ที่เฉยๆของพวกเขา เห็นว่าไม่มีคำตอบจากเรา ผู้ส่งสาส์นได้จากไปและการเคลื่อนไหวของศัตรูดำเนินต่อไป

 

「ทีมนักธนูอยู่ข้างหน้า?」

 

เราก็มีนักธนูวางอยู่ข้างหน้า ค่ายเป็นแต่ดินที่กองกัน แต่เมื่อสู้กันในที่ราบ แค่อะไรที่สูงขึ้นมาเล็กน้อยก็ได้มอบการปกป้องเพียงพอก็มีค่ามาก

 

สถานะการของเราก็ควรจะเห็นได้โดยศัตรูแต่พวกเขาไม่ลดความเร็วเลยซักนิดและมุ่งหน้าหาเราต่อไป

 

「ยิง-!」

 

กัปตันของทีมนักธนูตะโกน เราเป็นคนแรกที่ปล่อยลูกธนูของเราก่อน

 

「จริงๆ พวกเขาเก่ง」

 

แนวหน้าของศัตรูใช้การเคลื่อนใหญ่ที่คุ้นเคยและยกโล่ใหญ่และรับลูกธนู มีเพียงจำนวนน้อยที่ล้มลงไป

 

เหมือนกับจะคืนที่ติดค้าง พวกเขายิงธนูกลับมา และทหารบางคนได้ตาย แต่เนื่องจากค่าย เราก็ไม่สูญเสียไปมากด้วย

 

ในครั้งนี้เราได้ยิงลูกธนูไฟ พวกเขาได้รับมันในแบบเดียวกัน แต่โล่ได้ไฟลุกและรูปแบบได้ถูกรบกวน ในจับหวะเปิดนั้น เราได้ยิงลูกธนูไฟอย่างต่อเนื่อง ค่อนข้างมีจำนวนหนึ่งที่ล้มลงไป

 

「เท่าที่มา มันค่อนค่างเรียบง่าย」

 

ผมเห็นด้วยกับความเห็นของลีโอโพลต์ แม้แต่คนโง่ก็คิดอะไรแบบนั้นได้

 

และการตอบสนองต่อไปคือ…

 

นักธนูของศัตรูแยกทางกัน และจากช่องว่างทหารราบได้วิ่งมาระหว่างที่ตะโกน โล่ของพวกเขาเล็ก แทนที่จะป้องกันลูกธนูพวกเขาจะกระโดดเข้าใส่เราก่อนที่เราจะยิงพวกเขาได้

 

นักธนูที่ยิงสองครั้งหยุดและเราตอบด้วยทหารราบของเรา

 

「ครั้งนี้อีริชอยู่ที่นี่ ชั้นเลยยืนอย่างสบายๆรอบๆนี้ไม่ได้」

 

「มีความต่างระหว่างทักษะของทหาร แต่ให้พูดมันง่ายๆ ค่ายป้องกันได้ทำให้เสมอกัน การโจมตีธรรมดาจะไม่สรุปสิ่งต่างๆ」

 

กองกำลังของศัตรูก็ได้ดันมาข้างหน้ากองพันของผม ทหารเริ่มโจมตีสวน ทหารม้าหนักจะไม่แสดงความแข็งแกร่งออกมาในการต่อสู้อิสระสำหรับทุกคนแบบนั้น ดังนั้นพวกเขาได้ยืนพร้อมอยู่ข้างหลัง

 

「ชั้นก็จะไปที่ด้านหน้าด้วย ให้ชั้นรู้ถ้าสภาพของสิ่งต่างๆได้เปลี่ยน」

 

「ผมก็จะตามไปด้วย!」

—————————————————————

หลังจากนั้น ศัตรูได้พุ่งเขาตีด้วยทหารราบและเราป้องกันสิ่งนั้น มันเกิดขึ้นสามครั้ง พวกเราทั้งสองได้สูญเสียคนไปจำนวนเท่าๆกัน ศัตรูพยายามจะเน้นการโจมตีหนักที่ปีกหนึ่ง พ่ายแพ้ด้วยความตั้งใจและกลยุทธ์อีกหลายอย่าง แต่อีริชเป็นผู้บัญชาการที่ยอดเยี่ยม ทุกอย่างได้ถูกมองทะลุปรุโปร่ง การสกัดกันได้หยุด ศัตรูไม่มีทางเลือกนอกจากจะโจมตีซึ่งหน้า

 

โจมตีจากข้างหน้าด้วยศัตรูที่จำนวนเท่ากันและกำจัดพวกเขาเป็นงานที่ยาก สภาพของการต่อสู้เท่าเทียมกัน ผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นในความว่างเปล่า ผมก็ได้ฟันศัตรูตายไป 30 คน แต่มันเป็นการต่อสู้ระหว่างกองทัพใหญ่ ดังนั้นมันไม่ได้มีผลอะไรมาก

 

「อย่างต่อไปมาแล้ว! เตรียมพร้อม!」

 

ทหารได้ดูเหนื่อยขณะที่พวกเขาเย้ยหยันระหว่างที่ศัตรูได้โจมตีเป็นครั้งที่สี่ เมื่อเทียบกับการโจมตีเริ่มต้นความเร็วในการเดินของพวกเขาช้า รูปแบบของพวกเขาเละเทะ

ความเหนื่อยได้มีผลกับทหารของศัตรูด้วย สภาพนั้นเท่ากัน ทหารได้สาปแช่งภายใต้ลมหายใจของพวกเขาระหว่างที่จัดแถวพร้อมต่อสู้ใหม่

 

แต่ศัตรูที่ควรจะบุกเข้าตีได้ยกโล่ใหญ่ขึ้นมา พวกเขาแทงโล่ไปที่พื้นตรงหน้าของพวกเขาและไม่ขยับ เพื่อตอบสนองการเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดนี้ พวกเขาบอกพวกของเขาให้บอกผู้ส่งสาส์น

 

「ทหารม้าหนักของศัตรู ออกมาตรงกลาง! เป็นวิกฤติกับฐาน! ต้องการกำลังเสริมด่วน!」

 

แม้ว่ามันพูดได้ว่าภายนอกนั้นดูดี เมื่อมันเป็นการต่อสู้ระหว่างหลักหมื่น มันยากที่จะเข้าใจภาพเต็มๆ พูดนั่นแล้ว พวกเขาสามารถจะซ่อนเสียงของทหารม้าที่เตรีบมพร้อมได้อย่างไร? ผมไม่มีเวลาจะดาบดื่มไปกับการสำนึก ถ้าผู้บัญชาการสูงสุดได้ถูกกำจัด ทหารส่วนใหญ่จะจบ ถ้าอีริชตายมันจะจบ

 

ผมอยากจะรีบและควบออกไปทันที แต่ศัตรูตรงหน้าผมได้รอนั่นอยู่ เมือนเราหันหลังให้กับพวกเขา พวกเขาจะโจมตีเราโดยไม่ต้องสงสัย

 

「อากอร์! ทนมันด้วยสองกองร้อยและทหารอาสา! มันโอเคถ้าจะถอยทัพ」

 

「รับทราบ!」

 

ผมนำทหารราบหนึ่งกองร้อยและทหารม้าภายใต้การควบคุมของผม และไปที่ฐานของอีริช ศัตรูข้างหลังผมจะเริ่มโจมตี เสียงของดาบปะทะกันได้ร้องอยู่ข้างหลังผม

—————————————————————

สถานการณ์ที่ฐานแย่กว่าที่ผมคิด ทหารม้าหอกเล็กของศัตรูได้ฉีกเข้ามาในการป้องกัน ตามสิ่งนั้นมา ทหารราบได้บุกรุกและเริมการต่อสู้ระยะประชิดหลายที่

 

ผมดูความเคลื่อนไหวของศัตรูเพื่อจะเข้าใจสถานการณ์ สองระยะออกไปมีทีมที่ได้จัดรูปแบบสี่เหลี่ยมต่อการตีล้อม อีริชได้อยู่ที่นั้น ด้วยหน้าม้าที่อยู่ตรงหน้าและบุกเข้าตีเพื่อเจาะทะลุศัตรู เราได้ไปเจอกับอีริช

 

「ขอโทษ! นายช่วยชั้น」

 

「สถานการณ์ค่อนข้างแย่」

 

「ทหารราบได้ถือไม้แทนที่จะเป็นอาวุธ และพวกเขาโยนสิ่งนั้นทับคูเมือง เพื่อให้ทหารม้าส่วนใหญ่พุ่งเข้าตีข้างหน้าได้ โล่ใหญ่มันเป็นการอำพราง มันไว้เพื่อซ่อนพวกนั้นที่ใส่เกราะเหล็ก」

 

ทหารม้านั้นใหญ่กว่าขนาดทั่วไป ด้วยความลึกของคูเมืองพวกเขาจะไม่สามารถข้ามได้ นอกจากนี้ ถ้าพวกเขามีเป้าหมายไปที่ส่วนหนึ่งของรั้วที่สามารถผ่านได้เพื่อทำลาย พวกเขาสามารถจะฝ่าเข้ามาในแบบนั้นได้ด้วย พวกเขาเห็นผ่านนั่นไป; ยังมีพลหอกได้ถูกวางอยู่ผั่งหนึ่งเยอะไป

 

「ถ้าเป็นอย่างนั้น เราต้องขับพวกเขาออกไป พุ่งเข้าไปที่รูปแบบของศัตรู!」

 

「พวกเค้าแข็งแกร่ง」

 

「ชั้นก็ได้ทำบางอย่างแบบนั้นด้วยตัวชั้นเองด้วย นี่เป็นบางอย่างที่ดีกว่านั้นอีก」

 

ทหารม้าหอกเหล็กได้จัดแถวต่อสู้ใหม่ ในท้ายที่สุดได้เตรียมพร้อมที่จะเหยียบย่ำฐาน จำนวนดูเหมือนจะเป็น 1000 ผมจะทำกองกำลังของผมไปข้างพวกเขาและตีฝ่าไปที่นั่น

 

「ศัตรูโจมตี!」 「มันเป็นทหารม้าหนัก! ระวังตัว」

 

คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแน่นอนว่าเป็นผม มันยากที่จะกำจัดทหารม้าหอกเหล็กที่ได้ใส่อุปกรณ์หนักด้วยลูกธนูและดาบ แต่ถ้ามันเป็นหอกใหญ่ของผม มันจะไม่ต่างมากจากการทำลายหุ่นไล่กา

 

ผมกระโดดออกและฟันลงไป ซีเลียและลีโอโพลต์ได้แทงดาบเข้าไปในช่องว่างระหว่างชุดเกราะอย่างฉลาด เพื่อปลิดชีวิตพวกเขา แต่สำหรับผม พวกเขามีทักษะที่ค่อนข้างเหมือนพระเจ้า

 

「น่าเกรงขาม! ระวังตัว!」

อัศวินที่ดูทั่วไปได้หันหอกและเข้าหาผม และแทงอย่างมีทักษะ ผมจับหัวหอกและเขาเปิดตาในความประหลาดใจ แต่พผมไม่ต้องยั้งมือ ผมได้จับหอกและโยนอัศวินและเขาได้ลงไปที่หอกของพวกของเขา

 

การต่อสู้ระยะประชิดดำเนินต่อไปอย่างไม่มีกำหนด อย่างที่คาด คุณจะหายใจไม่ทัน แค่พุ่งเข้าตีศัตรูตรงหน้า ฟันพวกเค้าลงและขยี้พวกเขา คนของผมได้ฟันศัตรู และภาพของศัตรูที่ถูกสามารถสังหารหมู่ถูกเห็นได้อีกครั้ง

—————————————————————

「ถอย-! ถอยก่อนตอนนี้-!」

 

อย่างไรก็ไม่รู้เสียงทรัมเป็ตที่ไม่ดีได้ถูกได้ยินเมื่อผมหายใจไม่ทัน และไม่มีศัตรูล้อมรอบอีกแล้ว

 

「ศัตรูได้ถอยแล้ว! ส่งเสียงแห่งชัยชนะ!」

 

「โออออออออออ้–!!」

 

พวกนายได้มีเอะอะกัน บ้ากันเรื่องอะไร? เมื่อผมมองขึ้นไป ผมเห็นทหารม้าหอกเหล็กถอย ทหารราบก็รีบวิ่งแต่มันยังมีความล้าดังนั้นค่อนค่างมีจำนวนหนึ่งได้ถูกฆ่า

 

「เอเกอร์-ซามะ! ท่านทำได้!」

 

「สำหรับตอนนี้เราได้ออกมาจากวิกฤตินั้นแล้ว」

 

「ผู้บัญชาการ! เดี๋ยวนี่อะไรน่ะ?!!」 「น่าทึ่ง~! นายทำนี่ด้วยตัวนายเองเหรอ?」

 

รอบผมมีแต่ศพของทหารหอกเหล็ก 50 คนได้เปิดเผยอยู่

พูดถึงแล้ว ผมจำเวลาที่ผมฆ่าไปประมานเท่านี้ได้

การจ้องด้วยความประหลาดใจเห็นได้รอบๆผม ผมหยิบหอกที่ปกคลุมในเลือดเหมือนกันกับชุดเกราะ

และกลับไปที่ฐาน

 

ผมได้ปล่อยให้ลูกน้องจัดการกับการจัดการกับหอกและโล่ขณะที่ผมไปนอน อย่างที่คาดมันเป็นซักพักแล้วตั้งแต่ผมได้เหนื่อยขนาดนี้ ซีเลียที่กังวลได้ตรวจทั้งตัวของผม แต่มันดูเหมือนจะไม่มีแผล

 

ในการต่อสู้ครั้งล่าสุด ศัตรูได้มีทักษะ แต่ผลคือเราสามารถจะบังคับพวกเขากลับไปได้ ศัตรูควรจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากด้วย เรายังมีที่ให้หายใจจนกว่าจะถึงการโจมตีครั้งต่อไป ดังนั้นผมจะหลับนิดหน่อย ซีเลียได้มาในผ้า และผมหลับระหว่างที่ได้รู้สึกถึงความรู้สึกที่เล็กและนุ่ม

—————————————————————

「เอเกอร์-ซามะ! เอเกอร์-ซามะ!…ชั้นขอโทษมากๆ!」

 

ผมได้พยายามจะนอนเหมือนท่อนไม้แต่ได้ถูกตบ เมื่อผมลุกขึ้น ซีเลียได้ลดหัวของเธอ

 

「ขอโทษที่หยาบคาย แต่มันฉุกเฉิน! ศัตรู้จะรุกเข้ามาผ่านเรา จำนวนยังไม่รู้เพราะพระอาทิตย์ตกดิน」

 

อีริชได้มาโดยไม่รอ

 

「อ้อมเหรอ?」

 

「ใช่ ชั้นไม่รู้รายละเอียด เผื่อไว้ กองพันของนายจะป้องกันทางเข้าของเมือง」

 

ผมไม่คัดค้าน กองพันของผมสูญเสียกำลังไปค่อนข้างมากจากการต่อสู้ก่อนหน้า แต่แม้อย่างนั้น พวกเขาก็เป็นกองพันระดับสูงสุดข้างในกองทัพ มันไม่ได้ไกลจากประตูเมืองถ้าจำเป็นกำลังเสริมจะมาในไม่นาน

 

ไม่นานผมก็ได้เสียใจกับความคิดที่ไร้กังวลของผมหลังจากที่เข้าประจำตำแหน่ง ทหารม้าหอกเหล็กประมาณ 1500 คนถูกเห็นได้ พวกเขาน่าจะเป็นคนสุดท้ายที่เราสู้ด้วยยกเว้นคนที่ได้ตายไป

 

「เฮ้ เอาน่า ทหารม้า 1500 คนกับเมืองที่ว่างเปล่า พวกเขาคิดอะไรอยู่?」

 

เมื่ออยู่ในคำถาม ผมควรจะถามลีโอโพลต์สำหรับคำแนะนำ เขาจะรู้ว่าต้องทำอะไรด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

「ถ้าพวกเค้าเผ้าเมืองงั้นกองทัพของเราจะเสียฐานไป หรือบางทีพวกเขามาเพื่อนำเสบียงที่สำรองกลับ และถ้าพวกเค้าออกมาแบบนี้ น่าจะ…」

 

มีทหารม้าหนึ่งคนได้เข้ามา ลูกธนูไฟได้ถูกยิงเหนื่อหัวของพวกเขา มันมีแร่บางอย่างอยู่ในนั้น และไฟสีฟ้าได้เต้นอยู่ในท้องฟ้า

 

「มันอย่างที่ผมคาด…การโจมตีตอนกลางคืนจากทุกทิศทาง ศัตรูจะตัดสินใจผู้ชนะในศึกตัดสินสั้นๆนี้ ผมคาดไม่ได้ว่าศัตรูอยากได้เสบียงมากขนาดนี้」

 

โอออออ้ เสียงได้สั่นผ่านพื้น และเสียงได้มาถึงฐาน สำหรับฐานการจู่โจมตอนกลางคืนได้เริ่มขึ้น

 

「เมื่อมันเป็นแบบนี้แล้วเราควรทิ้งเมืองและไปเจอกับกองกำลังหลัก มันเจ็บที่เสียเมืองไปแต่ถ้าทำกลังหลักได้ถูกตีฝ่า งั้นทุกอย่างจะจบ」

 

เขาต้องใจร้อนนิดหน่อยแน่ แต่เขาไม่ได้ฟังดูตื่นตกใต มันน่าจะฉลาดสำหรับผมที่จะตามคำแนะนำของลีโอโพลต์ที่ใจเย็นและสำรวม เพราะทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดทหารม้าหนัก 1500 คนด้วยกองกำลังที่เรามีอยู่ตอนนี้

 

「ชั้นจะไม่ทิ้งเมืองแต่กองพันจะไปเจอกับกองกำลังหลัก」

 

แน่นอนว่าลีโอโพลต์ทำหน้าตาสงสัย

 

「คุณหมายความว่ายังไง?」

 

「ชั้นจะปกป้องประตูเมืองนี้ ถ้าชั้นปกป้องมันจนกว่าพวกของชั้นกันการโจมตีตอนกลางคืนนี้ได้ ถ้างั้นทหารม้าหอกเหล็กที่อยูี่ที่นี่จะติดกับเหมือนหนู」

 

「นั่นมันไม่มีเหตุผล!」

 

ทำให้ซีเลียร้องออกมาอย่างนี้มันแย่ แต่ผมเมินเธอ

 

「ถ้าชั้นอยู่ข้างหลังประตูรั้ว มากที่สุดที่จะโจมตีชั้นได้คือทีละสามคน จัดการกับสถานการณ์ให้เรียบร้อยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้แล้วกลับมาที่นี่」

 

「คุณจะตายนะ คุณรู้มั้ย?」

 

「ชั้นจะไม่ตาย ถ้านายไม่รีบไปพวกเค้าจะพุ่งเข้าตีนายนะรู้มั้ย?」

 

ลีโอโพลต์ที่เห็นผมไม่ยอมแพ้ รับการบัญชาการกองพัน และมุ่งหน้าไปหากองกำลังหลัก จากนั้นเขาจับซีเลียที่ทำอะไรไม่ถูกและจากไปด้วยกัน

 

「ขอให้โชคอยู่ข้างท่าน」

 

คำพูดสุดท้าย ที่สั้น แต่หวาน

—————————————————————

ศัตรูได้อยู่ตรงหน้าผม ผมไม่จำเป็นต้องขี่ม้าเพื่อปกป้องประตูเมือง ผมกำลังจะไล่ชวาร์ซหลังจากปิดประตูเมือง แต่เจ้าโง่นั่นได้วิ่งมาที่ฝั่งนี้ของประตูเมือง ผมได้ตามไปเพื่อจะให้เขาไปให้พ้น เขาร้องและถอยไป

 

「มันเป็นซักพักแล้วตั้งแต่ชั้นมีการต่อสู้ถึงตาย」

 

ผมโยนฝักของแอ่งคู่ทิ้งไปและแทงดาบไว้บนพื้น ถ้านนน่าเห็นนี่ เธออาจจะหัวโขกผม

 

ด้วยดาบและหอกอยู่ใกล้ๆ ผมจะทำให้มั่นใจว่าจะแทงพวกมันทุกคน ประตูรั้วได้เอี๊ยดและมีดาบแทนที่หมุด มันเป็นการบุกฝ่าประตูเมืองที่เรียบง่าย ผมไม่มีเจตนาจะปิดผนึกมัน แต่ผมจะมอบนรกให้พวกนั้นที่เขาพยายามจะฝ่าประตูเมืองมา

 

ผมแบกหอกไว้บนไหล่และลดตัวลง ผมจะไม่วางมือไปที่หน้าผมเพื่อยืนยัน แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมยิ้มอยู่

—————————————————————

เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์   19ปี        ฤดูใบไม้ร่วง

ชนชั้น:  กองทัพกลางผู้บัญชากองพลที่ 3 กองพันผสม

 

ทีม:  กองพลที่ 1 กองร้อยหทารม้า ทหารม้าหนัก 130 หน่วย, ทหารม้าเบา 20 หน่วย

 

กองร้อยทหารราบ 3 กอง  180 คน,  150 คน,  120คน

 

เหล่าทหารช่าง  200 คน

 

ทหารอาสา  350 คน

 

รวม 1150 คน

 

ลูกน้องกองทัพ:  ซีเลีย (ผู้ติดตาม), ลีโอโพลต์ (ผู้ติดตาม-และ-นักยุทธศาสตร์), อากอร์ (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), คาร์ล (ผู้บัญชาการกองร้อยทหารราบ), แม็ก (ผู้บัญชาการเหล่าทหารช่าง), คริสตอฟ (พลทหาร), ย้อกลี่ย์ (ผู้จัดการทหารอาสา)

 

อาวุธ:  แอ่งคู่ (ดาบยาว), บัลดิชใหญ่ (หอก)

 

อุปกรณ์:  เกราะเต็มตัวเหล็กระดับสูง, ผ้าคลุมสีดำ (ต้องสาป)

 

สถานที่ปัจจุบัน:  ดินแดนของอาร์คแลนด์ส่วนเหนือ เมืองดาโทรห์น

 

ความสำเร็จ:  ปราบแนวหน้าของศัตรู (ร่วม)

 

ยึดหมู่บ้าน x8  , ยึดเมืองดาโทรห์น  , ขับไล่ทหารม้าหอกเหล็ก

 

 

 

เวอร์ชั่นไม่เซ็นเซอร์อ่านได้ที่ tunwalai หรือ readAwrite

เป้าหมายเดือน 3/66

ค่าเน็ต 0/200

ค่าไฟ 0/1000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท