ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 98 ความไม่สงบในทิศเหนือ ④ เวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้

ถนนสู่อาณาจักร

98 ความไม่สงบในทิศเหนือ ④ เวทีที่ถูกจัดเตรียมไว้

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลที่สาม–】

รถเกวียนสามคันและทหารม้าเป็นโหล เข้าหาป้อมปราการมาจิโน่ เส้นป้อมปราการที่เทรียภาคภูมิใจมาก จากข้างใต้ เร็วกว่าที่ทหารที่ประจำการอยู่ จะปล่อยลูกธนูออกมาได้ ม้าตัดอกไป และโยนคบเพลิงในรถเกวียน น้ำมันต้องถูกเทไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะรถเกวียนเผาไม้ในเปลวเพลิงทันที สร้างไฟใหญ่ สีย้อมเผาใหม้และควันสีแดงพวยพุ่งไปข้างบน

ทหารม้ากลับไปทางใต้ และออกมา ปล่อยให้รถเกวียนไหม้ต่อไป ทหารวิ่งออกมาจากปราสาท เพื่อดับไฟ แต่รถเกวียนและคบเพลิงผสมกันนั้นทำเปลวเพลิงที่ใหญ่เกินไป ดังนั้นไฟไม่หายไปอย่างง่ายดาย และควันสีแดงพวยพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า และเห็นได้ง่าย จากระยะไกล—————————————————————

【–มุมมอง โกลโดเนีย–】

ในเวลาเดียวกัน แคมป์กองทัพกลางของโกลโดเนีย

การประชุมสงครามดำเนินต่อไปในบรรยากาศที่หนักหน่วง ขณะที่การตีเมืองไม่คืบหน้า และมีแค่ผู้สังเวยที่กองกันขึ้นไป เป็นครั้งคราว เสียงที่โกรธเคืองของเจ้าหน้าที่กองทัพคำรามดังก้อง แต่ข้อสรุปไม่มีใครไปถึง เหตุการที่หยุดการปรึกษากันที่ไม่ออกดอกออกผลนี้คือควันแดงที่พวยพุ่ง ขึ้นมาจากสามตำแห่ง

ได้ยินรายงานเกี่ยวกับจรวดท้องฟ้าสีแดง นายพลคนแรกที่กระโดดออกกมาตรงจากเต็นท์คืออีริช เพื่อยืนยันสิ่งที่เขาเห็น เขาปิดตาของเขาและเปิดมันขึ้นมาใหม่

「สุภาพบุรุษ การสนทนานี้หมดความหมายแล้ว」

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ทำการอ้อมป้อมปราการมาจิโน่สำเร็จ จากทิศตะวันออก ป้อมปราการถูกแยกออกมาตามลำพัง และเส้นทางเสบียงถูกตัดแล้ว」

เสียง ‘โออ้’ ก้องขึ้นมาจากทุกคนที่อยู่ตรงนี้ เจ้าหน้าที่ทหารบางคน ไม่ได้ดูเหมือนจะเชื่อว่าการอ้อมที่เป็นความจริงไม่ได้แบบนี้จะเกิดขึ้น แต่สัญญานควันขึ้นมา จากทางใต้ของป้อมปราการ ไม่ว่าพวกเขาจะดูมันอย่างไร ไมว่าทฤษฎีไหนจะถูกนำมาใช้ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากจะรับรู้ ว่าวิสเคานต์ฮาร์ดเลตต์และกองทัพของเขา ได้ล้อมไปทางใต้ของป้อมปราการ

「สุภาพบุรุษ ไม่นานมันจะเป็นการโจมตีที่ทุ่มเททั้งหมดครั้งที่ห้า ทำไมไมให้สัญญานควัญของเราเป็นการเผาไหม้ของป้อมราการล่ะ?!」

ผู้บัญชาการแพร่ข่าวการอ้อมที่สำเร็จลุล่วงของทหารองพวกเขา และอารมณ์ของคนในแคมป์ฟื้นขึ้นมาโดยทันที

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลทที่สาม/เทรีย–】

ในเวลาเดียวกัน ป้อมปราการมาจิโน่ ป้อมกลาง

「……ผู้บัญชาการครับ มันปรากฏว่ามีทหารม้าที่ไม่รู้จักเข้าหาจากทางใต้ และเผารถเกวียนบางคันก่อนจะหนีไป」

นายพลแก่ยังดูหดหู่ ขณะที่เขาแนะนำทหาร

「ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมันมากขนาดนั้น หน่วยแยกออกมาของโกลโดเนียแค่พยายามจะส่งสัญญานควัน ปรากฎการณ์นี้จะถูกเห็นอย่างชัดเจนโดยศัตรูข้างหน้า การโจมตีโดยทุ่มกำลังทั้งหมดจะมาในไม่ช้า…… ไปเตรียมตัว」

บรรยากาศในห้องสั่งการมันมืดมนอย่างแปลกๆ แม้ว่าพวกเขา ควรจะเพิ่งได้ป้องกันการโจมตีครั้งที่สี่ เพิ่มเติมจากการที่บางคนได้ล้อมพวกเขาข้างหลัง ตอนนี้ป้อมปราการถูกแยกออกมาตามลำพัง ตราบใดที่ศัตรูไม่พ่ายแพ้ เสบียงจะไม่มา ไม่ว่าป้อมปราการมันจะทนทานแค่ไหน มันสู้ไม่ได้ถ้าลูกธนูหมด และถ้าอาหารหมดไป ทหารจะวิ่งหนี

「เราได้สกัดอาหารมาจากโรงเก็บของด้วยความคิดที่ว่าเราจะได้รับการเติมเสบียงหลังจากทั้งหมด……」

มันมีทหารอยู่ 40 000 คนรวมอยู่ในป้อมปราการมาจิโน่ มันไม่มีอาหารเหลือเผื่อในเทรียและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรวบรวมอาหารสำหรับทหาร 40 000 คนให้กินหลายเดือน

ทหารจำนวนหลายคนกินและดื่มทุกวัน เทพธิดาที่ยิ้มให้กับทหารผ่านศึกแก่ตอนนี้ได้ถูกขโมยไปแล้วโดยโกลโดเนีย แม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลย ทุกอย่างจะตามมาหาเขาในทันที

「ท่านเคานต์มาจิโน่ ศัตรูไม่ได้มีกองกำลังมาก ถ้าเราส่งทหารของเราออกไปบ้าง และไล่พวกเค้าออกไป เราจะเชื่อมต่อเส้นทางเสบียงของเราได้」

「ชั้นได้พิจารณาเรื่องนั้นแล้ว แต่เหตุผลที่ชาวนาสู้เหมือนทหารเกณฑ์เต็มตัวได้เพราะการปกป้องจากป้อมปราการ คนที่อ้อมมาหารเรา ควรจะเป็นลอร์ดฮาร์ดเลตต์ และกองทัพของเขา คนที่อาละวาดในความขัดแย้งก่อนหน้า ถ้าเราปะทะกับเขาและทหารม้าที่ทรงพลังของเขาในสนาม จะเกิดอะไรขึ้น……」

「แต่ถ้าเราให้เรื่องนี้เป็นต่อไปแบบนี้ มันจะเป็นแค่เรื่องของเวลา ก่อนที่ป้อมปราการจะพ่ายแก้」

「จากหน่วยสอดแนม อำนาจกองทัพของเค้า มันประมาณ 10 000 ที่ทหารม้าจำนวนครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้น ถ้าเราทำการต่อสู้ขึ้นมา เราจะต้องการอย่างน้อย 20 000 ถ้าเราส่งมากขนาดนั้นไปหาเขา เราจะทนศัตรูข้างหน้าเราไม่ได้ ถ้าเราสู้ ป้อปราการจะพ่ายแพ้ตอนนี้!」

นายพลแก่ไม่ได้พูดถึงอะไรเพราะมันจะมีอิทธิพลกับกำลังใจ แต่เขาก็มีความแคลงใจเกี่ยวกับทักษะการนำทัพของเขาด้วย เขามีความมั่นใจในศึกป้องกันที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันของป้อมปราการและขับไล่การโจมตีของศัตรู แต่เรื่องการต่อสู้ที่สนาม มันเป็นเรื่องราวที่ต่างออกไปเลย สภาพของการสู้รบมันเปลี่ยนไปตอนไหนก็ได้ และความลังเลแค่เล็กน้อย จะเชิญชวนความพ่ายแพ้มา ในตอนที่เขายังหนุ่ม เขามีส่วนร่วมมกับสงครามในอาร์คแลนด์และเขามีประสบการณ์ในการบัญชาการ แต่ประวัติงานของเขาในเรื่องการต่อสู้สนามนั้นแย่มาก

แม้ว่าเขามีความได้เปรียบบางอย่างอยู่ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เป็นนายพลที่กล้าหาญ ที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้บนสนาม ดังนั้นเขาจินตนาการไม่ได้เลยว่าเขาจะชนะลอร์ดฮาร์ดเลตต์ในการต่อสู้ที่สนามเปิดกับเขา

「แต่ยังมีความหวัง」

「กำลังเสริมจากเมืองหลวงเหรอ……?」

เจ้าหน้าที่หนุ่มเสียงฟังดูสงสัยเล็กน้อย มันจริงที่ว่ามีแค่กำลังเสริมที่จะพลิกสถานการณ์ที่น่าสมเพชที่หมกอยู่ในป้อมการการและต่อสู้ แต่มันมีแค่ทหารประมาณ 3000 เหลืออยู่ในเมืองหลวง และนั่นมันเป็นจำนวนน้อยที่สุดที่ต้องการ สำหรับป้อมปราการในเมืองจะทำงานได้ ดังนั้นไม่มีพวกเขาซักคนเดียวที่เคลื่อนไหวได้ คนที่พึ่งพาได้มีแค่องครักษ์จักรวรดิจากทางใต้ ที่จะต้องพากลับมมาอยา่งรวดเร็ว และมีแค่ประมาณ 5000 คน แม้ว่าพวกเขามีอุปกรณ์อย่างดีและมีทักษะ มันน่าสงสัยอย่างที่สุด ว่าพวกเขาไล่หน่วยที่แยกออกมาของโกลโดเนีย ที่จำนวนมันไปถึง 10 000 ได้

「นั่นไม่ใช่……ทั้งหมด」

นายพลแก่บังคับรอยยิ้มออกมา

—————————————————————

ในเวลาเดียวกัน เมืองหลวงของเทรีย ทริสเนีย

「เราต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยป้อมปราการมาจิโน่ไม่ให้ถูกแยกออกมาตามลำพัง!」

「แต่เราจะไปเอากำลังทหารมาจากไหน?」

「องครักษ์จักรวริ์จะมาถึงในไม่ช้า! แม้ว่าพวกเค้าจะจำรวนด้อยกว่า ถ้าพวกเค้าสู้อย่างสิ้นหวัง-」

「คิดว่าเราทำบางอย่างได้ด้วยแค่ความรู้สึกอย่างเดียวเรอะ?!」

「มี 40 000 ในป้อมปราการนะ รู้มั้ย? เรานำออกมาหมื่นหรือสองหมื่น และช่วยโรเลลด้วยตัวเอง……」

「ถ้าเราทำอย่างนั้นและพวกเขาข้ามกองำลังหลักเรามา ทหารที่ใกล้กับจำนวน 10 000 จะท่วมเข้ามา! ถ้าอย่างนั้นเราจะจบเห่ตอนนั้น」

「ผู้บัญชาการป้อมปราการมีความสามารถที่จะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้! บางทีเราประเมินความสามารถเคานต์มาจิโน่สูงเกินไป ……」

ก่อนที่เรื่องที่ซับซ้อนจะเปลี่ยนเป็นการโต้เถียงว่ามันเป็นความผิดใคร นายกรัฐมนตรีก้าวมาข้างหน้าหาราชา

「โอ้ราชาผู้ยิ่งใหญ่ กองทัพและป้อมปราการขอเราเผชิญหน้าอยู่กับปัญหา」

ระหว่างที่ราชามองลงไปที่นายกรัฐมนตรี ตาของเขามองไปทั่วอย่างกระสับกระส่าย

「การที่สามารถผ่านป่าเอิร์กมาได้……ชั้นได้ยินมาว่าฮาร์ดเลตต์เป็นการเกิดใหม่ของหมาป่า แต่ไม่ใช่ว่าเค้าเป็นปีศาจอะไรบางอย่างเหรอ?」

นายกรัฐมนตรี ไม่มีเวลาที่จะสร้างความบันเทิงให้นิทานปรัมปราของราชา เขาเลยเมินราชาและพูดที่เขาอยากจะพูดต่อ

「ถ้าเรื่องนี้ดำเนินต่อไป ป้อมปราการมาจิโน่จะใชห้เสบียงอาหารและลูกธนูจนหมดไป และจากนั้นตกสู้น้ำมือของศัตรู แต่ก่อนที่เรื่องนั้นจะเกิดขึ้น เราคววรจะกำจัดศัตรู ที่ยึดครองโรเลล」

「การ- การสร้างสันติกับโกลโดเนียไม่ใช่ทางเลือกหรอกเหรอ? ชั้นโอเคที่จะยอมแพ้ดินแดนไปบ้างนะ รู้มั้ย?」

นายกรัฐมนตรีกรีดร้อง ‘เป็นไปไม่ได้’ อย่างเงียบๆในหัวของเขา เมื่อพิจารณาการกระทำที่โกลโดเนียทำหลังจากความพ่ายแพ้ของอาร์คแลนด์ในสงคราม พวกเขาอยากจะกลืนกินเทรียทั้งหมด; พวกเขาจะไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยเทรียให้มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข

「จากหนึ่งในสายลับที่ผมส่งไป หลังจากที่ได้รับดินแดน โกลโดเนียร่วมมืออกับพวกคนเหล่านั้นที่ไม่ภักดีกับอาร์คแลนด์ และฆ่าทุกคนที่เค้าพบว่ามาจากเทรีย」

「อ-อย่างนั้นเหรอ? ……งั้นชั้นเดาว่าเราสร้างสันติไม่ได้」

แแน่นอนว่านั่นไมใช่ความเป็นจริง; มันเป็นคำโกหกที่นายกรัฐมนตรีสร้างเพื่อเลี่ยงจากการที่ให้ราชาสร้างปัญหาเรื่องการสนับสนุนสันติและความรัก

「แต่ความจริงคือเราไม่มีกองกำลังมากพอที่มือ คือความจริง ประเทศรอบข้างนั้นพูด- 「มันใกล้กับฤดูการเกีบเกี่่ยว」「มันยากที่จะตัดสินใจว่าใครดีกว่าจากอะไรที่เค้าพูดและ-」 ควรจะมีส่วนร่วมกับสงครามและเทียบพวกเขามั้ย」

TLN ทุกคนพูดพร้อมกัน

ทุกคนมีสีหน้ามืดมนกับสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้

「แต่ผลจากการเจรจาซ้ำๆกับประเทศดยุคมากราโด ผมสำเร็จในกาารดึงกำลังเสริมมาจากพวกเขาได้บ้าง」

ห้องประชุมมีชีวิตชีวาทันที และแม้แต่ราชาก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ของเขา

「ช่างมหัศจรรย์! งั้นกำลังเสริมจะมาเหรอ!? งี้พวกเขามีเท่าไหร่? และเมื่อไหร่??」

「มันจะมี 10 000 ดังนั้นถ้าพวกเขาผสมกับองครักษ์จักรวรรดิ พกเขาควรจะทำการสู้ที่ดีได้……และเกี่ยวกับเวลา」

ทุกคนกลืนน้ำลาย ถ้าเขาพูดว่าสองเดือน สถานการณ์ที่สิ้นหวังจะไม่เปลี่ยนแปลงไป

「ตอนเริ่มของสงคราม พวกเขามุ่งหน้ามาหาเราผ่านสตูร่า และตอนนี้ได้มาถึงทางใต้ของเมืองหลวง ด้วยเรือแล้ว」

เสียงที่วุ่นวายเปลี่ยนเป็นการคำรามที่โกรธเคือง

「อะไร-?!」

「ไม่มีทางน่า!」

「นายอนุญาติให้กองกำลังของประเทศอื่นลงพื้นที่ประเทศของเราโดยราชายังไม่ได้ยอมรับเหรอ?」

「นายกรัฐมนตรี……ท่านมีความคิดมั้ยว่าท่านทำอะไรลงไป?」

 「นี่เป็นการเชิญชวนภัยต่างประเทศ! ท่านและครอบครัวของท่านจะได้รับโทษประหาร」   

 「นี่เป็นการละเมิดที่ประหารได้ทันที!」   

นายกรัฐมนตรีไม่หวั่นไหวจากขุนนางที่โมโหแม้ว่าทำไกลขนาดที่ทำให้ราชาผู้ยิ่งใหญ่แต่โกรธเคืองอย่างเงียบๆ

 「ความอยู่รอดของประเทศขึ้นอยู่กับวิกฤตนี้ ที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้; ถ้าผมถูกประหารตอนนี้ กำลังเสริมจากมากราโดจะไม่ทำอะไรและประเทศนี้จะถูกกลืนโดยโกลโดเนีย」   

 「……นายกรัฐมนตรี ถ้ากำลังเสริมนี้ ช่วยป้อมปราการมาจิโน่ได้ งั้นนายจะถูกยกย่องเป็นฮีโร่และผู้กอบกู้ของประเทศ และบาปที่ชวนภัยต่างประเทศจะถูกยกเลิก แต่ในกรณีที่พวกเค้าล้มเหลว นายจะครอบครัวของนายจะได้บทลงโทษเดิม」   

 「ผมรู้เต็มอกครับ」   

การประชุมจักวรรดิจบในบรรยากาศที่ตึงเครียดอย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อที่จะดูโชคชะตาของการต่อสู้ตัดสินนี้จนจบ นายกรัฐมนตรีไปเพื่อพบกองทัพ 10 000 คนบนคำสั่งของราชา

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】   

ในเวลาเดียวกัน โรเลล

 

 「อ๊าาา—!! หนูจะตายหนูจะตายยยย!!」      

 「ผู้หญิงจะไม่ตายจากบางอย่างที่เหมือนเอ็นของชั้น แล้วจุดนี้ล่ะเป็นยังไง?」   

 「ฮฮฮฮฮฮฮฮฮิ้—!! มันหนนาและมันถูจุดที่ดีขนาดนั้น! มันรู้สึกดีเกินไปจนหนูตายจากการแตกได้!!!」   

 「เธอจะแตกจากจุดนี้เหรือ!? นั่น แตกสิถ้างั้น!!」   

ผมแทงไม้เนื้อเข้าไปในส่วนลึกของข้างในเธอหลายครั้งก่อนจะน้ำแตก ผู้หญิงปิดหน้าเธอด้วยมมือและกรีดร้องเหมือนสัตว์ป่า ช่างเป็นอีตัวที่ความไวสูง

 「อ่าาาาาาา!! ฮฮฮฮฮฮิ้!! อ่าา อ่าา-! โอออออ่…… โออออ่…………」 

ผู้หญิงที่นั่งบนผมระหว่างที่ผมขัดสมาธิโยนหัวของเธอไปข้างหลังดั่งเธอคอหัก ตาของเธอม้วนกลับไป และเธอล้มลง เหมือนที่เธอพูด มันดูเหมือนเธอตาย แต่เธอยังหายใจอยู่ เธอน้ำแตกต่อไปแม้กระทั่งตอนนี้ ดังนั้นถ้าเธอไม่กินน้ำ เธออาจจะกระหายน้ำ

โสเภณีนี้ถูกพามาหาผมโดยพวกขุนนางโง่ๆสามคน เธอดูกระฉับกระเฉง ผมเลยโอบกอดเธอ เธอมีกายที่ควาามไวสูงอย่างเหลือเชื่อ  

 「เอเกอร์-ซามะ……เสร็จรึยัง?」   

ซีเลียเข้ามาในห้องและจ้องผู้หญิงที่งอตัวเหมือนกุ้ง

 「อาา ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดี……มันได้เวลาที่ควันขึ้นมาแล้ว ใช่มั้ย?」   

ด้วยการห่อไหล่ เอ็นที่อ่อนของผมถูกดึงออกมาจากหว่างขาผู้หญิง

 「ใช่ ถ้าพ่อดู กองทัพกลางทำการเริ่มการโจมตีแล้วตอนนี้」   

ในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ผมและทั้งหน่วยของผมอยู่ในโรเลล ระหว่างที่ฟื้นกำลังของเรา นั่นเป็นเพราะเราได้เดินทัพอย่างไม่จบสิ้นผ่านดินแดนชาติภูเขา ดังนั้น ทหารได้สร้างความเหนื่อยที่ค่อนข้างมาก เมืองเอ่อล้นไปด้วยอาหารและเสบียงที่เอาาไว้ให้ป้อมปราการ ดังนั้นทหาร 10 000 คนจะได้สาารอาหารมากมาย

 「ตราบใดที่เราอยู่ตรงนี้ ป้อมปราการจะไม่ได้รับเสบีง ทหารส่วนใหญ่ควรจะพักอยู่」   

เทรียส่งรถเกวียนจากเมืองหลวงเพื่อส่งเสบียงให้มาจิโน่ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แต่พวกเขาถูกจับโดยเครือข่ายทหารม้าที่ลาดตระเวณของเราและเปลี่ยนเป็นการอาบฝนเลือด

โดยไม่มีเสบียงจุดใหญ่ในโรเลล มันเป็นไปไม่ได้ที่จะข่นส่ง เสบียงที่รักษาป้อมปราการใหญ่แบบนั้นดีๆได้

 「อีกฝ่ายอยู่ในการค่อนข้างทีกินกันไม่ลง」   

ผมลูบไล้หน้าอกของผู้หญิงที่สลบอย่างอ่อนโยน เธอไม่ควรจะมีสติ แต่เธอปล่อยเสียงออกมาที่ให้ผมรู้ว่าเธอรู้สึกดีอยู่

 「ใช่ ในทางตรงกันข้าม มันหมายถึงเราไม่มีอะไรทำมาก แม้ว่าเรามีอาวุธตีเมืองมาก เราใช้พวกมันบนเมมืองหลวงไม่ได้」   

มันอาจจะน่าสนใจที่จะฝ่าป้อมปราการจากข้างหลัง แต่ถ้าพวกเขายึดโรเลลคืนระหว่างช่องเปิดนั้น ผมจะทุกทิ้งโดยที่ไม่มีอะไรเลย มันดีที่สุดที่จะรออยู่ที่นี่ และทำผู้หญิง

 「แต่ถึงอย่างไร ผู้บัญชาการของป้อมปราการนั้นค่อนข้างที่จะเป็นคนแบบดั้งเดิม เค้ารู้ว่าถ้าสิ่งต่างๆดำเนินต่อไปแบบนี้ที่มันเป็น เขาจะอยู่ในอันตราย หนูคิดว่าเค้าจะแบ่งกองกำลังของเค้าและส่งบางคนมาใส่เรา」   

 「เค้าอาจจะกลัวอีริช…… เขาอาจจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ไม่เสี่ยงและพยายามอย่างโครตดีเพื่อที่จะไม่กระตุ้นปัญหา」   

หรือบางทีเขายังไม่ถูกต้อนจนมุมอย่างสมบูรณ์ เขาอาจจะแขวนอยู่บนความหวังอะไรบางอย่าง

 「ถ้ามันเป็นรูปแบบของกำลังเสริมบางอย่าง ไม่ใช่สิ่งต่างๆจะน่าสนใจเหรอ?」   

ผมนำมือของผมห่างจากผู้หญิงและใส่เสื้อผ้าของผม เธอลูบไล้ไปทั่วหาผมและยืดมือออกมอย่างสิ้นหวัง ขอโทษ แต่นี่มันเป็นเรื่องวันเดียว; ไปหาชายดีๆ

 「โอ้ชั้น โอ้ชั้น ถ้ามันไม่ใช่ฮาร์ดเลตต์! ซามา พบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง? เธอเป็นโสเภณีที่ชั้นสูงที่สุดในเมืองนี้……」   

ขุนนางที่แนะนำโสเภณีให้ผมรออยู่ข้างนอกห้อง เขาถูมือของเขาเร็วกว่าอะไรบางอย่างที่ผมเห็นมาก่อน

 「บารอนโบ็คเกะ ใช่มั้ย? เธอดี ตอนนี้ ชั้นจะคืนเธออย่างสุภาพ」   

 「มันบักกะครับ งั้นตอนนี้ เกี่ยวกับสันติของเราในอนาคตด้วย」   

 「ตราบใดที่นายไม่ต่อต้านนายจะไม่ถูกทำร้าย นอกจากนั้น ทุกอย่างที่เหลือเป็นผลข้างเคียงจากสงคราม; ไม่มีอะไรที่ถูกตัดสินใจ」       

บารอน ‘บากะ’ ทำหน้าที่ไม่พอใจ แต่ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเขา หลังจากที่สังหารเคานต์ ผมชี้ดาบของผมกับผู้คิดตามของเขาสามคน รวมถึงเขา เพื่อที่จะถามว่าเขาจะต่อต้านด้วยไหม

หนึ่งในพวกเขาตะโกนชื่อแม่ของเขาออกมาและร้องไห้น้ำตาแตก อีกคนฉี่ราด และคนนี้ขี้แตก โดยการเป็นคนขี้ขลาดอย่าฮาร์ดคอร์ พวกเขาไม่มีไข่ที่พยายามยามจะทำอะไรทั้งสิ้น และพวกเขาทำให้นักโทษหรือพลเมืองตามเขาด้วยไม่ได้เช่นกัน

พวกเขาสามคนดูเหมือนจะมีทักษะพิเศษของเขาเอง: เรียงจากผู้หญิง ไวน์ และนักแสดงข้างถนนที่โด่งดัง บางทีพระเจ้าทำผิดพลาดในการรับมือกับการเกิดของพวกเขา ถ้าพวกเขามีทักษะในการเล่นไทโกะ* พวกเขาอาจจะสามารถแสดงทักษะออกมาได้

 TLN กลองใหญ่ของญี่ปุ่น กลองศึก   

 「เถิบไป!」   

ชายที่ซีเลียตะโกนใส่ ขยับไปที่มุมของห้องโถง ชายที่โตแล้ว ไม่ควรจะกลัวสาวอายุ 17……

—————————————————————   

ผมเข้าคฤหาสน์ลอร์ดศักดินาด้วยกันกับซีเลีย และเดินไปที่ห้องทานอาหารที่ถูกใช้เป็นห้องประชุม ลีโอโพลต์และคนอื่นรวมกันข้างในแล้ว

 「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ สัญญานควันถูกยิงขึ้นไปโดยไม่มีปัญหา ตอนนี้ ป้อมปราการมาจิโน่ส่งกองกำลังใหญ่มาหาเราไม่ได้แล้ว」      

 「เข้าใจแล้วว มีอย่างอื่นให้พิจารณามั้ย?」   

ลีโอโพลต์กางแผนที่ใหญ่ขึ้นมาบนโตะ และวางวัตถุทรงทหาร ขอโทษที่ผมล้อนาย ผมนึกว่านายเล่นกับทหารของเล่น

 「อย่างแรก ป้อมปราการมาจิโนะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพกลางข้างหน้า เราตัดการสื่อสารกับเมืองหลวงของพวกเค้า ดังนั้นพวกเค้าส่งทหารมาในทิศทางเราอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้」   

ช่าย ผมรู้ส่วนนั้น 

 「ต่อไปเป็นความจริงที่ว่าหน่วยสอดแนม ค้นพบว่าองครักษ์ 5000 คนที่ใกล้กับป่าเอิร์กเดินไหน้าไปที่เมืองหลวงจากทิศใต้」

 「5000? งั้นมันอาจจะดีกว่าถ้าเราขยี้พวกเค้าระหว่างเวลานั้น」   

 「เราจะเสียเวลาไปถ้างั้น……แล้วก็ ดูจากจำนวน พวกเขาจะไม่น่าทำอะไรที่เป็นเชิงรุก」   

น่าจะไม่ เพราะทั้งหมด พวกเขาเป็นกลุ่มที่หมกอยู่ในสิ่งปลูกสร้างสำหรับป้องกัน พวกเขาขาดไปอย่างแน่นอนถ้าพวกเขาพยายามจะยึดคืนเมืองที่มีจำนวนมากกว่าทหารของพวกเขา

 「และสุดท้าย นี่」   

ลีโอโพลต์วางชิ้นหนึ่งของวัตถุที่เมืองท่าเล็กๆทางใต้ของทริสเนีย

 「กองกำลังในที่แบบนั้นเหรอ?」   

ซีเลียพูดขึ้นมาโดยไม่คิด การวางกองกำลังมากเกินในในเมืองท่าเล็กๆไกลจากสนามรบมันน่าสงสัยอย่างแน่นอน

 「มันถูกค้นพบโดยการค้นหาที่ยืดไปของหน่วยสอดแนม ไม่มีข้อมูลมมากที่รู้ แต่พวกเขาไม่ควรจะมีกองกำลังมากกว่าหนึ่งพันหรือสองพันที่นั่น」   

 「นั่นหมายถึงมันไม่ใช่เทรีย」   

 「ใช่ สตูร่าหรือมากราโด……น่าจะเป็นอย่างนั้น」   

 「มันไม่ใช่สตูร่า ประเทศนั้นมีแค่ทหารรับจ้าง และถ้ามีการรับสมัตรถูกเซ็นออกมา พ่อค้าจะรู้เกี่ยวกับมัน」   

แคลร์พูดว่าประเทศนั้น จ้างแค่เล็กน้อยที่นั่นที่นี่ และมันไม่ได้เป็นบางอย่างที่ขนาดใหญ่

 「คุณพูดถูก มากราโด ไม่เหมือนประเทศอื่นใกล้ๆ พวเค้าค่อนข้างที่จะระวังเกี่ยวกับประเทศของเรา พวกเค้าน่าจะอยากให้เทรียชนะเพื่ออำนาจชาติของโกลโดเนีย จะลดลงไปเล็กน้อย」      

 「งั้นเราจะต่อสู้กับกองทัพนี้เหรอ?」   

  「น่าจะ……ยกเว้นในสถานการณ์นี้ มากราโดจะสับสนอย่างไม่ต้องสงสัยด้วย」        

เขาหมายถึงอะไร? ผมไม่เข้าใจมมัน ดังนั้นผมเดาว่าผมจะถูกตูดใหญ่ๆของอิริจิน่าสำหรับตอนนี้

—————————————————————   

 【–มุมมอง บุคคลที่สาม–】 

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ทางใต้ของทริสเนียแคมป์กองทัพของประเทศดยุคมมากราโด

 「ไม่มีกองทัพสำรองเหรอท่านพูด!?」   

คนที่ตะโกนอยู่ตอนนี้เป็นเคานต์ของประเทศของดยุคมากราโด และผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังที่เดินทางไปรบ ผู้บัญชาการแรดกัลฟ์

 「กองกำลังของศัตรูดันกับเส้นป้อมปราการอยู่ เราไม่มีที่ว่างให้ทิ้งกองกำลังไว้ข้างหลัง……」   

ดั่งจะถูกกดดันโดยพลังที่เข้มข้น คนที่ตอบอย่างเลี่ยงๆคือนายกรัฐมนตรี ดูนอย ที่เพิงมา

 「ทิ้งกองกำลังให้ว่างและทิ้งกองทัพสำรองมาเป็นสองเรื่องที่ต่างกันไป ถ้าเราไม่มีกองทัพสำรอง ถ้าการฝ่าหรืออ้อมเกิดขึ้น งั้นทัพหน้าทั้งหมดจะทรุดตัวทันที! ไม่ใช่เหตุผลหลักสำหรับประเด็นตอนนี้มันเหมือนกันเหรอ!?」   

 「ต-ตอนนี้ องครักษ์จักรวรรดิ 5000 คนมุ่งหน้ามาทางนี้ เพื่อที่พวกเค้าจะเข้าร่วมกับท่าน……」   

 「ถ้าท่านส่งกองกำลังออกไปหลังจากที่พวกเค้ากลับมาจากกำหนดการที่แน่น พวกเค้าจะไม่สามารถที่จะสู้อย่างที่คิดได้ ทหารมันต่างจากอุปกรณ์นะ」   

เมื่อแรดกัลฟ์เห็นนายกรัฐมมนตรีดูหดหู่ เขาถอนหายใจอย่างลับๆ ก่อนส่งคราม เมื่อพวกเขาปรึกษากันซ้ำๆเกี่ยวกับการสร้างกำลังเสริม เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่มีทักษะ แต่เมื่อสงครามเริ่มขึ้น ความเป็นมือสมัครเล่นของเขาโดดเด่นมากเกินไป การมีเชื้อสายครอบครัวที่มีประวัติเป็นหทาร และเกี่ยวข้องกับกองทัพตั้งแต่เขายังประมาณ 10 ขวบ เขาเห็นสิ่งต่างๆอย่างที่เขาไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ

แผนดั้งเดิมของเขา คือสำหรับป้อมปราการที่รั้งศัตรูไว้ได้ และถ้าฝ่ายของเขาได้เปรียบ เขาจะกระโจนใส่ศัตรูที่เหนื่อย แต่ถ้าพวกเขาเสียเปรียบ พวกเขาจะปรากฏตัวเป็นกำลังเสริมสำหรับป้อมปราการ

แผนนั้นถูกขยี้ทันทีที่การอ้อมใหญ่ของศัตรูจัดเจน แต่แม้อย่างนั้น ถ้าศัตรู มีแค่ 10 000 เขายังเชืื่อได้ว่าเขาสามารถกำจัดพวกเขาโดยการให้ควาามร่วมมือกับกองกำลังสำรองของเทรีย

สิ่งต่างๆลำบากขึ้นเพราะไม่มีกองทัพสำรอง เขาคาดหวังมากไม่ได้จาก องครักษ์จักรวรรดิ 5000 คนที่เหนือยจากการเพิ่งกลับมา ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาไม่มีทางเลือกน้อกจากจะสรุปด้วยทั้งสองฝ่ายมีกองกำลัง 10 000 คน

 「ผมขอร้องท่านล่ะ…… ถ้าผมแพ้การต่อสู้นี้ ประเทศของผมจะถึงวาระ」 

นายกรัฐมนตรีคำนับแรดกัลฟ์อย่างลึก แรดกัลฟ์ที่มีสถานะทางสังคมตำแหน่งที่ต่ำกว่า ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรถ้าโกลโดเนียยึดเทีรย มันจะขัดต่อควาหวังของประเทศบ้านเกิดของเขา ถ้าพวกเขาขยายดินแดนของพวกเขา พวกเขาจะเป็นศัตรูที่มากราโดยืนขึ้นสู้ไม่ได้อีกต่อไป

 「งั้นนี่เป็นศึกตัดสินของเราเหรอ……?」   

แรดกัลฟ์ได้หนีความตายมาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ถ้าเขาล้มเหลวแม้แต่ครั้งเดียว เขาจะไม่มายืนอยู่ตรงนี้ตอนนี้ ครั้งนี้มันเพียงแต่กำลังเท่ากัน; เขาพูดว่าเขาจะชนะไม่ได้อย่างแน่นอน แต่มันไม่ใช้เรื่องที่พ่ายแพ้ได้ด้วย นี้เป็นที่ที่เขาควรจะพนัน

 「มันเลี่ยงไม่ได้ เราะต้องไปที่กำลังปัจจุบันของเรา เราจะให้องครักษ์จักรวรรดิตามสำหรับตอนนี้」   

 「แล้วก็ส่งผู้ส่งสาส์นไปที่ป้อมปราการให้ส่งหทาารเพื่อทำการโจมตีขนาบ……」   

แรดกัลฟ์พยักหน้าเงียบๆ กำลังเสริมที่อาจจะพลาดจังหวะเวลาการโจมตีและมีการสื่อสารที่พึ่งพาไม่ได้นั้นไร้ค่า แต่มันไม่เจ็บที่จะจะพยายามเรียกร้องบางอย่างจากพวกเขา

 「ธงสีดำสสนิทที่ฮาร์ดเลตต์โบกสะบัด……กองทัพของหมาป่าปีศาจ ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควร」   

 「ผมหวังพึ่งท่านนะ อนาคตของตระกูลของผมอยู่บนเส้นตาย……」

ระหว่างที่ขจัดคำพูดของนายกรัฐมนตรี เขาหันหาทหารของเขาและยกดาบของเขาขึ้น

 「สุภาพบุรุษ มันเป็นเวลาออกเดินทาง ศัตรูเป็นนายพลผู้กล้าหาญ ผู้ที่สร้างชื่อให้เค้าเองในสงครามอาร์คแลนด์ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์และกองทัพที่เค้านำอยู่」      

ทหารไม่ถอยแม้แต่นิ้วเดียว พวกเขาได้ฝึกมาอย่างดี

 「กำจัดพวกเค้าและพัฒนาชื่อเสียงของตัวเอง ไปกันเถอะ!」   

ด้วยเสียง ‘โอ้!’ สั้นๆ กองทัพเดินทางไปรบของมากราโดและเทรียที่มี 10 000 คนเริ่มทำการเดินทัพ

การเคลื่อนไหวของพวกเขาถูกพบโดยหน่วยสอดแนมของโกลโดเนียทันที และมันเป็นแค่เรื่องของเวลา ก่อนที่ทั้สองฝ่ายจะปะทะซึ่งกันและกัน

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 21 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม

หน่วยของลูกน้อง: 11 200

ทหารราบ: 2700, ทหารม้า: 1500, นักธนู: 800, ช่างศึก: 200, ทหารม้าธนู: 6000

ลูกน้อง: ลีโอโพลต์ (หัวหน้าของเจ้าหน้าที่และรองผู้บัญชาการกองทัพ), ซีเลีย (ผู้ช่วย, กัปตันผู้คุ้มกัน), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการทหารม้าธนู, ปีปี้ (มาสคอต)

ตำแหน่งปัจจุบัน: โรเลล

ความสำเร็จ: 

กวาดล้างกองกำลังป้องกันทิศตะวันออก (ยอมแพ้), ยึดครองโรเลล

—————————————————————   

 เป้าหมายเดือน 7/66

ค่าเน็ต 200/200

รับยา ยาหมด 0/200

ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 460/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook   

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท