ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 105 ความไม่สงบในทิศเหนือ ⑪ กำแพงแห่งวารี

ถนนสู่อาณาจักร

105 ความไม่สงบในทิศเหนือ ⑪ กำแพงแห่งวารี

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

พระอาทิตย์ยามเช้า ขึ้นมา หว่างขาของผมเบาอย่างส้นเชิง การต่อสู้เมื่อคืน ไข่ของผมมันหนักมากจนมันเป็นอุปสรรค แต่ผมได้ปลดปล่อยทุกอย่างออกไปแล้ว

「ได้โปรดยกโทษให้ความหยาบคายของหนู เอเกอร์-ซามะ! การสอบสวนนักโทษได้……」

ขณะที่ซีเลียเข้าเต็นท์มา เธอหายใจลึกๆสองครั้ง เพื่อทำให้ใจของเธอเย็นลง เธอเป็นผู้ใหญ่แล้วตอนนี้

「อย่างที่คาดว่านี่จะเกิดขึ้น แต่นี่มันน่ากลัว」

「ไม่ใช่เธอดูมีความสุขเรอะ?」

「มันดูเหมือนเธอจะไม่เข้าใจอะไรซักอย่างเลย」

「ฮ่าาฮฮฮิ้……ทำหนู…….ใหญ่……หนา……ท้อง……ทำให้ท้อง……」

ไม่ล่านอนค่ำหน้าก้นโด่ง เธอไม่ควรจะมีสติแต่เธอเหวี่ยงตูดของเธอ

「เอเกอร์-ซามะนั้นไม่มีใครเทียบและเหนือสามัญสำนึกไป ดังนั้นได้โปรดรั้งมือเล็กน้อย พ่อไม่ต้องปล่อยขนาดนั้นจนมันเป็นแอ่ง……」

ฟุมุ ผมยิงออกไปมากมายข้างในมดลูกของเธอ เพราะเธอชอบมันจริงๆ

「เธอใช้ยามั้ย?」

「ไม่ มันดูเหมือนเธอไม่ได้ใช้」

ซีเลียส่ายหัวของเธอ

「เดาว่าจะมีเด็กๆมากขึ้น」

ผมไม่รู้ว่ามันจะง่ายขนาดนั้นมั้ย แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ผมจะดูแลมันอย่างดี เพราะทั้งหมด ไมล่าเป็นผู้หญิงของผมแล้ว

เมื่อผมถูตูดที่ส่ายไปส่ายมา เมล็ดพันธุ์เล็ดออกมาด้วยเสียงที่ร้ายกาจตอบกลับมา

หลังจากนั้นเราได้ทำการเดินทัพ หลังจากที่ผมโอบกอดซีเลียและเลอาห์ มันไม่มีอะใดๆที่ขวางทางไปจุดหมายของเราอีกแล้ว จุดหมาย เมืองบาร์เรล่า

—————————————————————

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา เมืองตัวแทนพันธมิตรแห่งยูเรส บาร์เรล่า สภา

「ถ้าอย่างนั้น เราจะเริ่มการประชุมเพื่อปรึกษาเรื่องการหยุดโจมตี」

「หยุดโจมตี?」

เมื่อผมมองคนพูดชายหลังค่อมและนั่งกลับไปที่เก้าอี้

「ไม่ใช่ว่านายอยากได้การเจรจาที่ยุติธรรมและเท่าเทียมเหรอ?」

เฮลเกน ผู้บัญชาการเหล่า ส่งเสียงที่ประหลาดใจ

「ส-สุดท้ายท้ายสุด นี่เป็นการเจรจาเพื่อสันติ……」

หลังจากที่เดินหน้ามาสู่บาร์เรล่า เราเริ่มเตรียมการต่อสู้ล้อมเมือง แต่ประตูเมืองถูกเปิด และผู้ส่งสาส์นวิ่งออกมาหาเรา ผมปล่อบไปตามนั้นเพราะผมเห็นใจควาามต้องการที่จะคุยสิ่งต่างๆออกมาในการประชุม ในฐานะที่พวกเขายอมแพ้ แต่เมืื่อหลังจากที่ผมได้ยินคำว่า ‘หยุดโจมตี’ หลังจากที่มาถึงจุดนี้ ผมไม่รู้ว่าเขากล้าหาญ หรือแค่โง่เต็มตัว จากที่ผมได้ยินมาจากไมล่า มันควรจะเป็นอย่างหลัง

「เราได้ตัดสินใจกันอย่างเป็นเอกฉันที่จะตัดความสัมพันธ์กับมากราโด จากตอนนี้ต่อไป เราจะก่อพันธมิตรกับโกลโดลเนีย และสู้กับพวกเค้าด้วยกัน คำร้องจากมากราโดให้สร้างแนวหน้าร่วมกันได้ถูกส่งมาให้เรา แต่ทั้งหมดนั้น……」

ผมไม่ตต้องฟังเหตุผลโง่ๆนี้ให้จบ

「ชั้นไม่อยากให้นายเข้าใจผิด เราหาทุกอย่างที่นายเสนอได้ด้วยตัวเองได้ ในทางตรงกันข้าม เงื่อนไขที่จะจบสงครามคือนายต้องมอบทุกอย่างที่เราต้องการมา」

「ถ-ถ้าเช่นนั้น จะรับประกันตัวเรามั้ย?」

ผมตอบไปด้วยหน้าที่ไร้สีหน้า

「ยกเว้นแต่ชีวิตและความปลอดภัยของนาย เรารับประกันอะไรอย่างอื่นไม่ได้」

ถ้าพวกเขาจะต่อต้าน ผมไม่ถือ ตอนนี้ที่กองทัพพันธมิตรได้ถูกกวาดล้างไปแล้ว กองกำลังที่เหลือๆที่กระจายตัวกันไป  ของลอร์ดศักดินานอกจากบาร์เรล่ามันมีจำกัด ผมแค่ต้องเผาทุกเมืองอย่างเป็นระบบระเบียบ

「แกมันทรราช!!」

「แกอวดดีแค่ไหนกันหลังจากที่แกทำลายข้อตกลงตั้งแต่ทีแรก!」

「ถ้าพูดให้เจาะจง ถ้าคุณและครอบครัวย้ายไปที่โกลโดเนีย ผมรับประกันได้ว่าคุณจะใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร」

ลีโอโพลต์แซมข้อมูลของเขาเข้าไป ผมเดาว่าผู้ส่งสาส์นจากราชาก็เคยพูดอะไรบางอย่างแบบนั้น

ลอร์ดศักดินาเสียงดังและเริ่มเอะอะ แต่หนึ่งในพวกเขายกมือขึ้น

「ถ้าผมขอถาม ลอร์ดฮาร์ดเลตต์วิสเคานต์แห่งโกลโดเนีย……นั่นถูกมั้ยครับ? ตั้งแต่ตอนแรก ผมมีญาติมากมายที่โกลโดเนีย แม้แต่ตอนนี้ ผมมีมาร์เควสคนหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นคณะรัฐมนตรี และอาจจะทำตัวเป็นมิตรของพวกเราได้」

แม้ว่าเขาได้พูดว่า ‘คนหนึ่ง’ ผมไม่ได้จำชื่อของรัฐมนตรีคนให้เลย ถ้าให้เริ่มพูด รัฐมนตรีคนหนึ่งคนนั้นจะช่วยที่นี่เหรอ? นั่นทำไมผมไม่ชอบการเจรจา และมันแย่ที่สุดเป็นพิเศษ เมื่อมันเป็นเรื่องการพึ่งคนอื่น และใช้ความสัมพันธ์ทางสายเลือด หรือความสนิท

「การเจรจานี้มาจากราชา……」

เฮลเก้น ที่อยากจะคัดค้าน ไม่มีคำพูดอะไรให้พูดและแค่เงียบ ผมสั่งให้ยามของหน่วยคุ้มกันและทั้งหมดเปิดหน้าต่างห้องประชุมที่หน้าต่างปิดอยู่

「อะ-อะไรคือ……」

「นี่คือ……」

รับหน้าต่างเปิดเป็นสัญญาน และเสียงที่มันคงเริ่มสะท้อนและสั่นโถงรวมตัว เสียงนั้นมาจากเสียงฝีเท้าและเกือกม้า จากการเดินทัพที่ต่อเนื่องของทหารรอบห้องโถง มันเป็นเสียงที่ทำให้เสียงของใครก็ตามจมหายไปแล้ว และพร้อมกับหนึ่งคำของผม มันจะใช้ไม่ถึง 30 นาทีที่จะให้บาร์เรล่าจบมอยู่ในไฟแห่งนรก

ผมขยับไปข้างหลังขณะที่ผมดูลอร์ดศักดินาตัวแทน นั่งที่โต๊ะกลม จากนั้นผมทุบโต๊ะด้วยกำลังทั้งหมดของผม……มันงอ ขอโทษ

「ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข จะรับไม่รับ?」

ไม่มีใครกล้าที่จะเปิดปาก

และดังนั้น พันธมิตรแห่งยูเรสยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขและมันถูกผนวก กำหนดการการปลดอาวุธและการปกครองการยึดครอง จะถูกทิ้งไว้ให้เจ้าหน้าที่รัฐสภาที่มาจากโกลโดเนีย และเหล่าที่สาม ระหว่างที่ผมและกองทัพส่วนตัวจะมุ่งหน้าลงใต้

—————————————————————

สองอาทิตย์ต่อมา

「ยุ่งมาก ไปใต้ แล้วไปเหนือ……」

「มันเลี่ยงไม่ได้ หนูได้ยินมาว่าพระองค์สั่งการทหารด้วยตัวเองเพื่อกลยุทธ์นี้」

อย่างที่ซีเลียพูด เรามุ่งหน้าไปเมืองอัลโตเบิร์กตอนนี้ ซึ่งเป็นเมืองท่าในโกลโดเนีย ที่เจริญรุ่งเรืองในฐานะของฐานไว้แลกเปลี่ยนกับต่างชาติกับสหพันธรัฐ ราชาออกจากเมืองหลวงและเข้าเมืองไปกับองครักษ์จักร์วรรดิไปแล้ว

「มันไม่ต้องพูดถึงว่าเป้าหมายของการโจมตีเป็นมากราโด」

โดยธรรมชาติแล้ว ประเทศของดยุคมากราโดในอีกฝั่งของท่าของอัลโตเบิร์ก เพราะมันถูกแยกโดยแม่น้ำ ผมคิดเหตุผลอื่นที่จะรวมทหารในเมืองท่าไม่ได้ นอกจากทำแผนลงพื้นดินที่จำเป็น

「แต่หนูได้ยินมาว่ามากราโดมีทัพเรือ ชาติของเรามีบางอย่างแบบนั้นมั้ย?」

หลายทศวววษที่ผ่านมามันไม่มีชาติอื่นนอกจากอาร์คแลนด์ที่ไปสู้กับชาติอื่น ยกเว้นการต่อสู้เล็กๆ มากราโดที่อีกฝั่ง มีทัพเรือจำนวนหนึ่งสำเหรือภัยนั้น

ในทางกลับกันโกลโดเนีย ไม่ได้ไปสู้กับกำลังกองทัพ ดังนั้นไม่มีมีทัพเรือที่ดีเหนือการใช้ไปกำจัดโจร เพราะการแลกเปลี่ยนกับต่างชาติผ่านแม่น้ำมันเจริญรุ่งเรือง พวกเขามีเรือมมากมาย แต่มันจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะขนและส่งทหารโดยใช้เรือพลเมืองที่ไม่มีอาวุธ

「พ่อไม่รู้จนกว่ามันจะเกิดขึ้น……ราชาไม่ได้โง่ขนาดนั้น พ่อมั่นใจว่าเค้ามีแผนอะไรบางอย่าง」

「พ่อพูดถูก……พูดถึงแล้ว เรื่องของเลอาห์ ที่ขี่อยู่กับพ่อ」

「มีอะไร?」

ผมสนทนากับซีเลีย ที่ขี่อยู่บนหลังม้าข้างผม ระหว่างที่เลอาห์ ขี่ยู่ข้างหน้าของผม

「สะโพกเธอลอยแปลกๆ ไม่ใช่เหรอ?」

「ยังไงซะ เดาว่าอย่างนั้น」

「เธอจงใจปกคลุมตัวเธอเองด้วยผ้าคลุมท่อนล่างเธอมองไม่เห็นถูกมั้ย?」

「นั่นมันมีแนวของมันมั้ยล่ะ?」

「ไม่ใช่การสั่นนั้นมันมากเกินไปแค่จากการขี่ม้าเหรอ?」

「อย่างนั้นเหรอ?」

「หน้าของเธอแดง และเธออั้นเสียงของเธอเองอยู่」

「เรื่องนั้นก็อาจจะจริง」

「……พ่ออยู่ข้างใน ไม่ใช่เหรอ?」

「อย่าพูดมันดังมากสิ」

「งื้อออออ!!!」

เลอาห์กัดนิ้วของเธอเองและโยนหัวมาข้างหลัง เสียงของการน้ำแตกของผมควรจะผสมไปกับเสียงเดินทัพ และไม่ควรถูกได้ยินโดยคนเหล่านั้นที่อยู่รอบๆเรา

「……หนูขี่ต่อนะ」

「แน่นอน มาเลย」

「ปีปี้ด้วย!」

การเดินทัพดำเนินต่อไปอย่างมีความสุข

—————————————————————

ราชามาหาเราด้วยตัวเองเพื่อทักทายเราหลังจากที่เรามาถึงในอัลโตเบิร์ก

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ ฉันเหนื่อยกับการรอแล้ว! ความสำเร็จของเจ้าในครั้งนี้ แน่นอนว่ามันไม่มีผู้ใดเทียบ!! ฉันรู้ ว่าเจ้าเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่เมื่อมาคิดว่าเจ้ามีความสามารถได้เยี่ยงนี้ในการนำทัพ ฉันไม่รู้ว่าจะชื่นชมตาของฉันเองดีหรือไม่」

ราชาวิ่งลงมาจากบัลลังก์ และตั้งคฤหาสน์ชั่วคราวของลอร์ดศักดินา และจับมือของผม

「แต่ยัง มันยังมีศัตรูอยู่มากมายหลงเหลืออยู่ ฉันจึงพูดอะไรเฉพาะเจาะจงไม่ได้ แต่ฉันสัญญา ที่จะมอบรางวัลที่ใหญ่กว่าเหนือผู้ใดทั้งสิ้น」

นั่นจะช่วยได้เยอะเลย ผมใช้ทุนสงครามไปหมดจริงๆ ดังนั้นอดอล์ฟจะคลานอยู่ตอนนี้

「ปฏิบัติการลงพืนในมากราโด……นั่นเป็นงานสุดท้ายมั้ยครับ?」

ราชาปล่อยมือผมและมองไปที่แม่น้ำ

「อุมุ สตูร่าก็เป็นศัตรูของเราเช่นกัน และประเทศนั้น มีทหารรับจ้าง เป็นกองกำลังหลัก พวกเขาไม่ควรจะสามารถที่จะรวมทหารรับจ้างเพื่อสู้กับประเทศของเราได้」

ทหารรับจ้างก็ไม่ใช่พวกงี่เง่าด้วย แะจำนวนคนที่แหกคอกที่จะเข้ารวมฝ่ายที่แสดงถึงสัญญานความพ่ายแพ้มากๆ สามารถนับได้ด้วยมือเดียว

「ฉัน ก็ได้รับสาส์นมาจากรัฐบาลสตูร่า ที่กล่าวไว้ว่าพวกเขา อยากจะคงอยู่ซึ่งความเป็นไม่เลือกฝักเลือกฝ่าย ในความเป็นจริงนั้น ศัตรูผู้เดียวมีแค่มากราโด แต่……พวกเขาได้ถูกทำร้ายไปหนหนึ่งแล้ว และ เรามีจำนวนที่เหนือกว่า ดังนั้น เมื่อเราลงพื้นไปที่ฝั่งนั้น ชัยชนะของเรา ไม่ใช่สิ่งในนอกจากอะไรที่ยืนยันแล้ว!」

มันมีเรือนับไม่ถ้วนอยู่ที่ท่า และทหารกองทัพกลาง ที่ระงับเทรียจนเสร็จขึ้นเรือทีละคนทีละคน มันเป็นภาพที่ท่วมท้น

「ผมได้ยินมาว่าศัตรูมีทัพเรือที่ทรงพลัง แต่ท่านจะไปมือเปล่าเหรอ?」

ราชายิ้มกว้างและตบไหล่ผม

「ฮ่าฮ่าฮ่า ฉัน อาจจะไม่ได้มีทักษะเช่นเจ้าในฐานะนายพล แต่ฉัน ไม่ได้เขลาเช่นนั้น กองทัพเรือของมากราโด มันเป็นเพียงความว่างเปล่า!」

เรือใหญ่ 30 ลำ อยู่ที่ที่ราชาชี้ ด้วยทรงยาวและแคบชี้ไป และพายนับไม่ถ้วนออกมาจากด้านข้าง เรือมันต่างจากเรือพลเมืองอย่างสิ้นเชิญ และมีใบเรืออยู่ด้วย ดังนั้นพวกเขาพึ่งพาลมเพื่อเดินทางได้ และที่สุดของทั้งหมด มันมีเครื่องดีดหินและบาลิสต้า และอาวุธอื่นๆ อยู่บนดาดฟ้าเรือ

 「พวกมันนั้นเป็นเรือรบที่ซื้อมาจากสหพันธรัฐ! เมื่อเรือเหล่านี้มาถึง มันไม่มีสิ่งใดที่ต้องกลัวจากทัพเรือของมากราโด!」   

 「นี่มันค่อนข้าง……」   

ผมเป็นมือสมัครเล่นในเรื่องเกี่ยวกับทัพเรือ แต่พวกมันดูเหมือนจะเก่ง ถ้าเขามีเรือพวกนี้ เขาอาจจะเอาชนะทัพเรือมากราโดได้

 「ฉันจะใช้เรือเหล่านี้ ไว้ด้านหน้า และใช้พวกมันพรุ่งนี้ เพื่อข้ามแม้น้ำด้วย ฉันเชื่อว่าเหล่าทหาร เหนื่อยแล้วในวันนี้ แต่เจ้าจะคิดเยี่ยงไรเกี่ยวกับการตกแต่งความสำเร็จของเจ้า พวกร่างวัลที่ส่องประกายอีกสิ่ง โดยการนำทัพไปสู่มากราโด」   

หลังจากมาไกลเท่านี้แล้ว ผมไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำของของราชา ผมกำลังจะยอมรับ แต่บางคนตัดเข้ามา

 「ได้โปรดรอก่อนครับ พระองค์!」   

คนที่ส่งเสียงเป็นขุนนางดั้งเดิม ที่มีส่วนร่วมนฐานะกองทัพของลร์ด

 「กองทัพวิสเคานต์ฮาร์ดเลตต์อยู่ในการต่อสู้มากมาย เมือเทียบกัน กองทัพของเราอยู่แค่แในการต่อสู้ป้อมปราการ……ผมและกองทัพของผม ก็มีความต้องการสำหรับโอกาสที่จะสร้างผลงาน ผมจะใช้จิตวิญญานการต่อสู้นั่น เพื่อเพิ่มความสำเร็จให้ท่านอย่างแน่นอน!!」   

นั่นทำให้ผมจำได้ คนเหล่านี้แค่โจมตีป้อมปราการ และไม่ใช้ดินแดนอาร์คแลนด์เก่าที่ถูกครองโดยเทรีย มันยากที่จะพูดว่าป้อมปราการพ่ายแพ้ไปในการโจมตีซึ่งๆหน้า ดังนั้นผมสงสัยว่าเค้ามีอะไรบางอย่างอยู่ในใจมั้ย

 「……นนนนุ ผมก็มีแผนที่จะตามคนคุ้มกันด้านหน้าไป หลังจากที่พวกเค้าลงพื้นและข้ามแม่น้ำแล้ว……」   

ไม่ว่าโกลโดเนียจะมีเรือขนส่งมากแค่ไหน พวกเขาขน 50 000 หรือ 60 000 ไปด้วยกันไม่ได้ เมื่อคิดว่าเหล่ากองทัพกลางได้ขึ้นเรือไปแล้ว ที่ที่ว่างมันมีแค่ไม่กี่พัน และถ้าผมจะไป ผมคิดว่าจะให้ทหารม้าธนูไปกับผม

เมื่อผมพิจารณาว่าผมจำเป้นต้องแข่งขันเรื่องนี้มั้ย ท้องของผมเริ่มเจ็บ โอ้ใช่ หอยที่จะกินจากหมู่บ้านใกล้กับทะเลและตามแม่น้ำกลิ่นตุๆ ผมกินโดยที่ไม่ได้สนใจมาก แต่มันอาจจะทำให้ผมท้องเสียนิดหน่อย ถ้าผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้ ผมต้องเตรียมหลายอย่างให้พร้อม และมันยากที่จะอั้นการท้องเสียด้วย

 「พระองค์ครับ กองทัพของผมได้สู้ในการต่อสู้ที่มากพอแล้ว ผมว่ามันดีที่สุดที่จะยอมแพ้กับตำแหน่งคนคุ้มกันด้านหน้า」   

มันจะไม่สำคัญจริงๆว่าผมจะไปก่อนหรือไม่ ทหารส่วนใหญ่ไม่อยากตาย ดังนั้นพวกเดียวที่กระตือรือร้นที่จะแซงแถวมีแค่พวกชนชั้นสูง

หน้าของขุนนางสว่างขึ้นในความสุข ระหว่างที่ราชามีหน้าที่ไม่ค่อยสนใจเล็กน้อย

 「เข้าใจแล้ว……ถ้าเช่นนั้น ฉัน ไม่มีสิ่งใดจะพูด ฉันจะปล่อยการคุ้มกันแนวหน้าให้เจ้า เคาตน์แบนด์ ออดอเรียน…………」   

มันเลี่ยงไม่ได้ เพราะทั้งหมด ผมแต่พูดความรู้สึกของผมหน้าทุกคนเหมือนทีซีเลียชอบทำไม่ได้

—————————————————————

วันต่อมา

เรือหลายร้อยเดินทางด้วยกัน สู่ท่าฝั่งตรงข้ามตรงหน้าเรา ระหว่างที่เราเตรียมการกันอย่างช้าๆในฐานะคนคุ้มกันด้านหลัง ตัดสินจากคลื่นในแม่น้ำ พวกเขาเดินทางไปในทิศทางเฉียงๆ ดังนั้น เมื่อคิดถึงระยะทาง มันไม่ควรจะใช้เวลาพวกเขามากไปกว่าสองชั่วโมงเพื่อไปถึงพื้น

เราไปอยู่กันบนเนินเขาในเมือง เพื่อดูปฏิบัติการทางทหารในความหลงใหล

 「มันเป็นครั้งแรกที่หนูดูการต่อสู้ของทัพเรือเลย หนูตื่นเต้นมากเลย」   

 「เหมือนกัน」   

 「พี่ด้วย!! พี่มั่นใจว่ามันจะน่าประทับใจแน่ๆเลย!!」   

ตาของซีเลียและอิริจิน่าเป็นประกาย พูดถึงแล้ว ปีปี้และลูน่าท่วมท้นจากการเห็นแม่น้ำเป็นครั้งแรกในชีวิต และยังอยู่ในความมึนงง อย่างที่คาด ผมพาไมล่าออกมากับผมไม่ได้ ผมเลยปล่อยเธอไว้ในห้องที่ที่บ้านส่วนตัวที่ผมเช่า เลอาห์ไม่ได้สนใจในสงครามจริงๆ และสนใจอยู่อย่างเดียวคือการโดนผมเอาใจ เธอเลยไม่มาดูแม่น้ำ

 「เอเกอร์-ซามะ! มันเริ่มแล้ว!!」   

 「ได้เวลาแล้วเหรอ?」   

เรื่อรบของมากราโดออกมาจากจุดหมายเป้าหมาย ที่ท่าฝั่งตรงข้าม ระยะมันค่อนข้างไกล ผมเลยเห็นชัดๆไม่ได้ แต่เรือพวกเขาดูเหมือนจะเล็กกว่าเรือที่เรามีมาก แม้ว่าจะมีพวกมันอยู่เยอะ

 「มันมีผ้าสี่ผืน……และมีแปดผืนบนฝั่งเรา」   

 「มีทหาร 20 คนอยู่บนมัน!」   

มันดูเหมือนลูน่าและปีปี้เห็นมันได้อย่างชัดเจน ช่างเป็นสายตาที่น่าทึ่ง

 「ฝั่งเรายิงก่อน」   

ลูกบอลไฟปิดอย่างต่อเนื่องจากเรือของเรา พวกเขาน่าจะใช้เครื่องดีดหินเพื่อยิงหินติดไฟ พวกมันส่วนใหญ่ตกไปในแม่น้ำ แต่เรือลำหนึ่งถูกยิงโดนและไฟลุกชั่วคราวก่อนจะจมลงไป

ขณะที่พวกเขานำระยะเข้าไปใกล้ขึ้น พวกเขาต้องได้เริ่มยิงบาลิสเตแล้ว เพราะจำนวนของเรือศัตรูที่ติดไฟมันเพิ่มขึ้น ศัตรูควรจะยิงกลับมาด้วย แต่มันไม่ได้ดูเหมือนว่ามันจะมีผลมาก

 「นี่มัน……จบแล้ว ไม่ใช่เหรอ」   

 「พวกเขาเสร็จเรามั้ย!?」   

มันเป็นการพัฒนาฝ่ายเดียวไม่ว่าจะมองอย่างไร และแม้แต่ซีเลียกับอิริจิน่าก็มั่นใจว่าพวกเขาจะชนะแล้ว

แต่สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ เรือศัตรูเปลี่ยนทิศทาง ดั่งจะปฏิเสธกระแสน้ำ และทำการล่องอย่างไม่สนใจ ไปสู่เรือขนส่งที่ข้างหลัง

 「พวกเค้าจะโจมตีพวกเราแม้ว่าจะเป็นแค่เรือขนส่งเหรอ?」   

ยังไงซะผมเป็นมือสมัครเล่นเมื่อมันเป็นศึกกองทัพเรือ และผมทำได้แค่ดูและเอะอะว่าใครดูชนะหรือแพ้

เกือบจะพูดว่า ‘พวกเราจะไม่ให้พวกเขาผ่านไป’ เรือรบหักหางเสือของพวกเขา ทำให้ศัตรูเปลี่ยนทิศทางในเวลาเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายมุ่งหน้าสู่กัน ชิดระยะในันที มิตรของเราเริ่มยิงเครื่องดีดหินและบาลิสเตของพวกเขา แต่การเคลื่อนไหวของศัตรูเร็วกว่า ที่มาจากต้นน้ำลงไปปลายน้ำ ตรงกันข้ามกับมิตรของเรา ที่ต่อต้านกระแสน้ำอยู่ และเคลื่อนที่อย่างหน่วงๆ

ผ่านกัน เรือศัตรูโยนวัตถุติดไฟหลายอย่างซ้ำๆ น่าจะเป็นหม้อน้ำมัน ตรงๆไปที่เรือฝั่งเรา ในพริบตาเดียว เรือรบของเราใกล้กับสิบลำติดไฟ

 「เราเสร็จเค้าเหรอ!?」   

 「แต่ถ้าพวกเค้าไปต่อมันจะเป็นตาเราที่ไปตามปลายน้ำต่อ ไม่ใช่ว่าสถานะของการต่อสู้มันจะพลิกอีกครั้งเหรอ?」   

อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนที่ซีเลียพูด ศัตรูเปลี่ยนทิศศทางก่อนจะผ่านเราไปอย่างสิ้นเชิง และไปขนานกับเรือของมิตรเรา ระหว่างที่ยังชิดกับพวกเขา เมื่อผมดูอย่างระวัง เรือของมิตรโอนเอนเมื่อหันข้างให้เรือของพวกเขากับกระแสน้ำ ระหว่างที่เรือศัตรูเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอุปสรรค

 「มันเป็นขนาด ไม่ใช่เหรอ」   

ลีโอโพลต์อยู่ที่นี่!?   

 「เรือของมิตรเราโดนผลจากกระแสน้ำเยอะ และไม่สามารถจะจะเลี้ยวได้อย่างง่ายๆ เรือรบของสหพันธรัฐ คิดว่าเราจะสู้ในแม้น้ำกว้าง……ลงไปสู่ปลายน้ำโดยมีกระแสน้ำที่เบา แต่แม่น้ำนี้มมันแคบและเร็วเกินไป」   

ศัตรูปะทะอย่างดุเดือดกับมิตรของเรา ในสภาพที่แออัดกัน จากปีปี้ พวกเขาเทียบเรือและสู้กัน

คาวุ่นวายดำเนินต่อไป ส่วนหนึ่งของศัตรูอ้อมสนามรบและต้านกระแสน้ำ จจากนั้น พวกเขาใช้พายและพายไปตามกระแสน้ำเพื่อเพิ่มความเร็ว

 「พวกเค้ามีเจตนาที่จะพุ่งเข้าชน!?」   

 「พุ่งเข้าไปด้วยที่กระแทกที่หัวเรือสู่ท้องเรือ!!」   

ศัตรูพุ่งเข้าไปทำละลำทีละลำ เล็งไปที่ข้างเรือมิตรเรา ที่หันหางเสือไม่ได้อย่างที่พวกเขาต้องการ เพราะการต่อสู้ระยะประชิด เรือรบศัตรู ชนด้านข้างด้วยการพุ่งใส่ที่เพิ่มความเร็ว คว่ำและจมไป เรืออีกลำโยนไฟใส่เขาด้วย ดังนั้นมันไม่ใช่สถานการณ์ที่พวกเขาจะสู้ได้อย่างดี

 「ชั้นเดาว่ามันจบแล้ว」   

 「มันเป็นเราที่แพ้ เราต้องรีบไปขนทหารที่ขึ้นเรือลง……มันดูเหมือนเราช้าไป」   

กองเรือศัตรู ที่จบเรือรบของเราหมดแล้ว มุ่งหน้าตรงมาที่เรือคนส่ง ที่ดูทุกอย่างจากข้างหลัง แม้ว่าพวกเขาอยากจะรีบหนี เรือขนส่งหลายลำที่อัดกันใกล้ๆมันช้า และไม่สามารถที่จะทำการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วได้ เตรียมจะโจมตีด้วยไฟ ทหารตักน้ำใส่ถึง

ศัตรูไม่ไดโจมตีด้วยเรือของพวกเขาทั้งหมดแต่เขาหาเรือขนส่งมิตรของเรา ด้วยแค่หลายลำ

 「นั่นอะไร? ทำไม่พวกเค้าไม่มาหมด?」   

 「……ศึกทัพเรือมันก็อยู่นอกความเชี่ยวชาญของผมด้วย ผมเลยไม่ค่อยจะมั่นใจ」   

แต่ไม่นานคำตอบก็เปิดเผยตัวเอง เรือพายอย่างดุดันแต่จากนั้นมันท่วมไปด้วยไฟนรก พวกเขาต้องแพร่น้ำมันใส่ตัวเอง และลูกเรือกระโดดลงไปในแม่น้ำ เรือที่ติดไฟ ไร้คน พุ่งชนกองเรือมิตรของเรา

พวกเขาเตรียมสำหรับการโจมตีเช่นหม้อน้ำมัน แต่บางอย่างที่เหมือนเรือทั้งลำที่ติดไฟและพุ่งชนพวกเขามันอยู่นอกความคาดหวังของทุกคน เรือถูกชนทันทีและติดไฟ และแม้แต่ลามมันไปสู้เรือใกล้ๆ

เพราะมันไม่มีที่ไหนให้วิ่งในแม่น้ำ ทหารทั้งหมดกระโดดออกจากกองเรือที่ไฟลุกไหม้ ทหารบางคนที่ยังใส่เกราะ ถูกไฟล่าของในเรือและกระโดดลงไปด้วย แต่อย่างเป็นธรรมชาติ พวกเขาไม่ลอยขึ้นมาอีก

ศัตรู เมื่อยืนยันว่ากองเรืออยู่ในความตื่นตกใจเข้าหาระหว่างที่สร้างระยะพอที่จะไม่ให้ไฟไปติด และยิงธนูไฟ เรือขนส่ง ถูกเปลี่ยนเป็นคบเพลิงไหม้ๆ ต้อนรับตอนกลางคืนโดยการไหม้ไปอย่างต่อเนื่องและส่องสว่างสูเมืองด้วยแสงที่น่ากลัว

มีแค่เรือห้าลำ จากเรือรบใหญ่สามสิบล้ำจากกองเรือของราชาเหลืออยู่ และหายไปไกลออกไปในแม่น้ำ มีแค่ทหาร 2000 คนที่เหลือรอด และสามารที่จะลงพื้นได้จากทั้งหมด 20 000

โกลโดเนีย เมื่อเสียวิธีที่จะข้ามแม่น้ำ เสียวิธีที่จะโจมตีมมากราโด และความทะเยอทะยานของราชา ที่จะปกครองทั้งที่ราบกลางทิศเหนือ ถูกกันด้วยกำแพงแห่งวารี ที่แม้แต่ไม่สามารถเอาชนะได้มากกว่าป้อมปราการมาจิโน

เมื่อดูภาพที่กว้างขึ้น ผลสุดท้ายมันทิ้งรสชาติขมห้อยหลังชัยชนะที่ท่วมท้นที่ได้ในสงคราม ก่อนหน้านี้

—————————————————————

 「แต่นั่นมันเกือบไป ถ้าเราออกเดินทางกับการเดินทางก่อนหน้า เราจะเป็นคนที่ตายไปแล้ว」   

ไม่มีขุนนางที่ไปแทนนผมกลับมาเลย ผมอยากจะขอบคุณการท้องเสียของผม

 「ท้องเสีย……งั้นเหรอ……?」   

มันดูเหมือนซีเลียมีแผลทางใจแค่การคิดเกี่ยวกับมัน

 「ช-ใช่! ถ้ามาสเตอร์ต้องการ……หนูทำมันได้! เพื่อมาสเตอร์ที่รักของหนู สกปรกมันไม่มีอะไรเลยสำหรับหนู!」   

เลอาห์พูดอะไรกัน มันน่าจะไปดินแดนอื่นที่ไม่รู้จัก  

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 21 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม (จบ)

หน่วยของลูกน้อง: 9400

ทหารราบ: 2000, ทหารม้า: 1200, นักธนู: 700, ช่างศึก: 200, ทหารม้าธนู: 5300

ลูกน้อง: ลีโอโพลต์ (หัวหน้าของเจ้าหน้าที่และรองผู้บัญชาการกองทัพ), ซีเลีย (ผู้ช่วย, กัปตันผู้คุ้มกัน), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการทหารม้าธนู), ปีปี้ (มาสคอต), เลอาห์ (ผู้ดูแลกลางคืน), ไมล่า (นักโทษของเซ็กส์)

ตำแหน่งปัจจุบัน: ——

 

ความสำเร็จ: 

กวาดล้างกองกำลังป้องกันทิศตะวันออก (ยอมแพ้), ยึดครองโรเลล, กำจัดกองทัพมากราโด, ทำลายกองทัพจักรวรรดิของเทรีย, ทำให้ป้อมปราการมาจิโน่พ่ายแพ้ (ร่วม), ต่อต้านกองทัพพันธมิตรแห่งยูเรส, ให้ยูเรสยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข

—————————————————————    

ขอบคุณสำหรับเงิน 100.48 บาท

เป้าหมายเดือน 7/66

เป้าค่าเน็ต 200/200

รับยา ยาหมด 200/200

ค่าห้องโรงพยาบาลยาย 928/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท