ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 140 หนี

ถนนสู่อาณาจักร

140 หนี

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

「เดินหน้า เดินหน้า!!」

ตามผมมา คือทหารม้าหนัก 200คน ทีมคุ้มกัน และคนเก่งของหน่วยทหารม้า ทหารม้าธนูทรงพลัง แต่การป้องกันของพวกเขาด้อยกว่า ซึ่งน่าจะหมายถึง การเสียกำลังพลจำนวนมาก ถ้าเราใช้พวกเขาในแผนการตีฝ้าด้วยกำลัง พวกเขาไม่เหมาะกับแผนในครั้งนี้

ทหารม้าหนักโดยทั่วไปแล้วค่อนข้างช้า แต่ตอนนี้ พวกเขาวิ่ง ด้วยความเร็วที่คิดไม่ได้เลย เหมือนผู้ส่งสาสน์ด่วน เพราะมีพวกเขาอยู่จำนวนน้อยมาก ม้าสำรองถูกนำมาด้วย ดังนั้น การไม่พักที่ปรกติเป็นไปไม่ได้ ถูกทำให้เป็นไปได้

「อย่าลดความเร็ว! ถ้าเราดำเนินการเชื่องช้า และวังหลวงแพ้ก่อนที่เราจะไปถึงที่นั้น มันจะเป็นเรื่องตลกเต็มๆ」

ปรกติแล้ว มันจะใช้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ที่จะไปที่นั่น จากราเฟน แต่มันน่าสงสัง ว่าวังหลวง จะทนอยู่ได้นานขนาดนั้นมั้ย เพราะมันไม่ใช้ป้อมปราการ เราต้องไปที่นั่น เร็วที่สุดเท่าที่เราทำได้

「ทหารของโกลโดเนียเหรอ!? คิดว่าทำอะไรอยู่บนโลกนี้กัน」

「นี่เป็นการตอบคำร้องของราชินีเซเลสติน่า! จงดูสัญลักษณ์ของราชา!」

เมื่อเราควบทหารม้าหนักผ่านเมือง ยามเมืองรีบออกมาด้วยความตื่นตกใจ แต่ด้วยผู้ส่งสาส์น์ ที่นำจดหมายจากเซเลสติน่านำเรามา ยามเมืองกลายเป็นเชื่อฟัง หลังจากถูกแสดงจดหมายให้เห็น

「การเขียนแบบเด็กๆนี้ มันเป็นพระนางแน่นอนแต่ มันเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ?」

มันปรากฏว่าเหตุการ มันแค่ใกล้กับเมืองหลวง และข้อมูลยังไปไม่ถึงลอร์ดศักดินาและเมือง ที่อยู่ไกลออกไป

「ไม่มีเวลาจะอธิบาย! ……นายจะเข้าใจ ในไม่นาน」

ยามเมืองจ้องอย่างว่างเปล่า ขณะที่ผู้ส่งสาส์นตัดการพูดให้สั้นลง เพราะยามเมืองทั้งหมดน่าจะเปลี่ยนเป็นศัตรู เมื่อวังหลวงพ่าย และราชาถูกเปลี่ยน มันไม่ใช่เป็นเป็นไม่ได้ที่จะตีพวกเขาพ่าย ขณะที่เราผ่านแต่ละเมือง แต่มันไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดที่สุด ไม่ว่าจะกรณีไหน เราแค่ต้องรีบผ่านไปตอนนี้

เราทำการเดินทัพที่เข้มงวดของเรา ซึ่งปรกติแล้ว มันจะใช้เวลาทหารม้าเบาสามวัน และทหารม้าหนักเพิ่มอีกวันหนึ่งไปบนนั้น ในสองวัน ระหว่างที่สับเปลี่ยนม้า ด้วยความเร็ว ที่เราเหินฝ่าอากาศเมืองหลวงชองอาณาจักรมอลต์ เบียโด ในที่สุดก็เข้าสู่ระยะสายตา

「ควันเห็นมาได้จากที่นั่นที่นี่……แต่มันไม่ได้ดูเหมือนว่า ไฟนั้นเผาอย่างสว่างไสว」

「พูดอีกอย่าง วังหลวงยังป้องกันได้อยู่?」

ผมตอบคำถามไมล่าไม่ได้ มีความเป็นไปได้ด้วย ที่การขาดไฟ หมายถึงว่าวังได้พ่ายไปแล้วด้วย

「ประตูเมืองถูกปิด」

「จึ……」

ซีเลียทำหน้าบูด ขณะที่เธอออกความคิดเห็น เพราะทั้งหมดมันใช้เวลาและความพยายามจำนวนมาก เพื่อเปิดประตูเมือง ไม่ต้องสงสัย ว่าศัตรู จะสามารถจัดระเบียบพวกเขาเองได้

「ไม่ มันไม่เป็นไร ได้โปรดเดินหน้าต่อไปในความเร็วเท่าเดิม!」

แต่ผู้ส่งสาส์น ที่นำทางเราไม่ได้ลดความเร็ว

「มันไม่ใช่กับดักเหรอ?」

ไมล่ามีความสงสัย แต่ถ้าเรามาล่าช้าที่นี่ เรจะไม่สามารถทำวัตถุประสงค์ของเราสำเร็จไม่ว่ายังไง ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเชื่อเขา

ผู้ส่งสาส์นเร่งความเร็วขึ้น และตะโกนอย่างดัง ขณะที่เขาเข้าหาประตูเมือง

「เรามาเพื่อช่วยราชินีที่รักของเรา! เปิดประตูเมือง!」

ผมคิดว่าลูกธนูจะบินมา แต่ไม่มีการตอบ และจากนั้น ประตูเมืองเปิดเงียบๆ

「นี่คือ……」

「พุ่งเข้าตีแบบนี้เลย!」

เราจัดสองแถว และวิ่งผ่านประตูเมือง ในความเร่งรีบ นายประตู ทั้งหมดหันหลัง

「พวกเขาค่อนข้างจะเป็นยามเมืองของเมืองหลวง และลูกน้องของพาโบล และพวกเขา ไม่มากก็น้อย เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพกบฏ แต่ ไม่มีใครซักคน ที่ชอบพระองค์มากกว่าพระนาง」

พวกเขา ไม่เคารพคำสั่งเจ้านายไม่ได้ แต่พวกเขาแกล้ง ทำเป็นว่าไม่เห็นอะไรเลยได้ ขณะที่เราผ่านมา เรายกหอกของเราเล็กน้อย ผมเดาว่า มันชัดเจน บางคนที่ชอบไอ้แมลงหวี่แมลงวันหยิ่งยะโส ของชายคนนึง มากกว่าเด็กน่ารักๆ มีอะไรหลวมในหัวแล้ว

เราผ่านประตูเมือง ของกำแพงเมือง วังหลวง มาสู่สายตาเราอย่างรวดเร็ว วังถูกล้อมไปทุกด้าน โดยทหารหลายพัน และมีเสียงของการต่อสู้ไปทุกที่ เรามาถึงแล้ว วังยังไม่พ่าย ถ้ามันยังถูกล้อมอยู่

「ทุกหน่วย เข้าสู่ขบวนแถวตีฝ่า」

มันจะเป็นข้างในเมือง ดังนั้น สุดท้ายแล้วมันจะเป็นขบวนแถวแนวนอนที่แคบๆ แต่นั่นสะดวกสำหรับเรา

「ศัตรู ปรากฏว่ามีจำนวนมากกว่า 10 เท่า เมือพูดคร่าวๆ เราจะทำการโจมตีเหรอ?」

「เราไม่มีทางเลือกมาก ใช่มั้ยล่ะ?」

ไมล่า คิดเล็กน้อย ก่อนจะยิ้ม

「ศัตรู ล้อมทั้งที่ ดังนั้น กองกำลังของพวกเค้ากระจัดกระจาย ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเค้าจะไม่ตาดถึงเรา ที่จะผ่านประตูเมืองอย่างง่าย ดังนั้น มนจะเป็นการโจมตีไม่ทันตั้งตัวโดยสมบูรณ์ เราตีฝ่าไปได้」

ได้เลย ถ้าหนูพูดอย่างนั้น งั้นมันไม่ต้องสงสัยเกี่ยวกับมันเลย

「แต่ ถ้าเราอยู่ในวังหลวง เราจะถูกล้อมด้วยเหมือนกัน……」

มาคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น เมื่อเราเข้าไปแล้ว เราจะทำได้ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง

เราชิดระยะกับวัง และทหารที่ล้อมอาคาร สังเกตการมาถึงของเรา อย่างที่คาด

「บุกกกกกกกก!!」

「โอออออออ้-!!」

ทหารทั้งหมดส่งเสียงคำรามแห่งสงคราม ในเวลาเดียวกัน ที่คำสั่งถูกสั่งออกไป แทงหอกไปด้านหน้า และควบสุดความเร็ว ไปข้างหน้าด้วยม้า พวกกบฏ ไม่มีเวลาที่จะตั้งแถวหอก

「โกลโดเนีย!? พวกมันมาจากที่ไหนกันวะ?!! เราไม่ถูกให้ข้อมูลเลย เมื่อพวกมันผ่านประตูเมืองมา!」

「พวกนี้มันอะไรกันวะ!?」

「อุว้าาาาา พวกเค้าอยู่ที่นนนนี่!!」

การปะทะเข้ากับศัตรู ถูกตามมาด้วยการตะโกน พร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น ของเหล็กปะทะร่างกายเข้าหากันและกัน ศัตรูที่อยู่ข้างหน้า ถูกแทงโดยหอก และส่งบินไปโดยม้า

「เดินหน้า เดินหน้า! แทงผ่านมันให้หมด」

อิริจิน่า อาละวาดบนหลังม้า ตรงกลางของมันทั้งหมด ด้วยการท่วงแทง เหมือนสายฟ้าที่ต่อเนื่อง กำจัดทหารของศัตรูทีละคนตามๆกัน เพราะไม่มีกำแพงของหอก ทหารราบของศัตรู ไม่ได้น่ากลัวเลยซักนิด ไม่ว่าพวกมันจะมีผู้ชายกี่พันคน ถ้าเราไม่เสียความเร็วไป เราจะเหยียบย่ำฝ่ายเดียว

「โซร่าาา」

ผมก็เหวี่ยงหอกของผมอย่างไม่สะทกสะท้าน ทหารศัตรู ถูกตีกระเด็นไป จากการโจมตีของผม และถูกส่งบินไปสู่ระยะที่ยอดเยี่ยม ชนเข้ากับส่วนบนของกำแพงวัง  ศัตรูที่ถูกฟันด้วยใบมีดของหอกของผม ถูกเฉือกแยกออกจากกัน และชิ้นส่วร่างกาย กระจัดกระจายไปยากำแพงวังสีขาว ตกแต่งผิวมัน ด้วยรอยเปื้อนนที่เหมือนดอกไม้สีแดง ก่อนจะไหลลงไปสู่พื้นดิน

「รวมเข้าด้วยกัน! ตั้งโล่!」

ทหารศัตรู มารวมตัวกันตรงหน้าเรา และตั้งโล่ขึ้น ผมเดาว่า พวกมันพยายามที่จะทนการพุ่งเข้าตีของเรา ไม่วีธีใดก็วิธีหนึง โดยไม่มีหอกยาว

「ไปกันเถอะ ชวาร์ซ」

ชวาร์ซเพิ่มความเร็วของเขามากขึ้น สู่กำแพง แห่งโล่

「เค้าไม่ช้าลงเหรอ?」

「เค้าตั้งใจจะชนเรา!」

ถูกแล้ว ชวาร์ซควบไปสุดความเร็ว และปะทะเข้าตรงๆกับกลุ่มของศัตรู ที่ถือโล่ ม้าธรรมดา จะบาดเจ็บที่ขา และล้มลง หลังจากทำอย่างนั้น แต่ตัวหนึ่งนี้ ไม่ใช่ม้าทั่วไปของพวกคุณ

「「「กย้าาาา!!」」」

ชวาร์ซวิ่งเขาใส่พวกมั้น และทหารศัตรูประมาณห้าคนกระเด็นไป จากนั้น ผมเหวี่ยงหอกลงไปและขยี้ศัตรูสามคนมากกว่านั้นในทีเดียว ความเร็วของชวาร์ซ พื้นฐานแล้วไม่เปลี่ยนไป ขณะที่เขาเหยียบกระทืบ ผ่านศัตรูที่ล้ม และวิ่งไปข้างหน้าต่อไป

「ท่านเอเกอร์ซามะ จากที่ไหน-……ระ-! เราควรจะไปมั้ย?」

ซีเลียถาม ขณะที่เธอฟันคอ ศัตรูที่ผ่านมาระหว่างการสนทนา

「มันตัดสินใจไปแล้ว จากข้างหน้า」

ถ้าพวกเขาล้อมทั้งหมด มันจะเหมือนกัน ไม่ว่าเราจะโจมตีจากที่ไหน งั้น ทำไมแค่ไม่กล้าๆ โจมตีไปจากข้างหน้าล่ะ

「เปิดประตู! เปิดปประตู!!」

เมื่อเห็นศัตรูหายไปหลังจากการพุ่งเข้าตีด้านหน้าของเราประตูหลักวังเปิดอย่างช้าๆ

「พวกเค้าต้อนรับเรา ไปกันเถอะ」

เราดันผ่านศัตรูไม่กี่คนที่เหลือ และรีบเข้าไปในวัง เมื่อพวกเขาเห็นพวกเขาทั้งหมดผ่านไปแล้ว ประตูปิดอย่างช้าๆ

「ทำอะไรน่ะ? ตามศัตรูไปแล้วท่วมเข้าไปข้างใน! เรายึดวังได้ทีเดียว ตามช้านนน」

เมื่อเห็นโอกาสตอนที่ประตูเปิด หนึ่งในกัปตัน นำลูกน้องหลายสิบมาพร้อมกับเขา และไหลเข้ามาหลังเรา เขามีเจตนา ที่จะหาอะไรขัดประตูรั้ว เพื่อที่เขาจะเรียกทหารพวกเดียวกันได้

「แต่มันจะไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ」

ผมจับหอกไว้ที่เอว เก็บพลัง ก่อนที่จะเหวี่ยงแนวนอน ฟันไม้ที่ขัดอยู่และทหารออกเป็นสองซีก อิริจิน่า ไปยืนบนทาง กันข้างหน้าของประตูหลัก และรั้งทหารศัตรู ที่กำลังจะรีบเข้ามาไว้ ปีปี้ ลูน่า รูบี้ และกิโด้ปล่อยลูกธนู ลอบยิงทหารที่พยายามจะเปิดประตูค้างไว้อย่างแม่นยำ

「อ๊า……อ๊าาาาาา……」

ในทันทีนั้น ไม่มีอะไรเหลือที่ขวางประตู และในที่สุดประตูหลักก็ถูกปิดลง คนที่อยู่ข้างในมีแค่ 200 ที่ผมพามากับผม บวกกับทหารที่ปกป้องวัง พร้อมด้วยกันกับทหารกองทัพกบฏที่กล้าหาญ 10 คน

「……」

「น-นี่คือ……รู้มั้ย……」

「เดาว่านายแค่ซวย」

ผมหันหลังให้พวกเขา และมุ่งหน้าเขาไปสู่ส่วนลึกของวัง ที่เซเลสติน่าควรจะอยู่ เสียงร้องที่น่าสงสาร และเสียงการสังหารหมู่ สะท้อนอยู่ข้างหล้งผม

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์!! พอมาคิดว่าท่านจะมาสนับสนุนเรา」

「ผมค่อนข้างที่จะยอมแพ้ คิดว่ามันจะไม่ทันเวลา……แต่อย่างที่คาด กับท่าน」

ข้าหลวง ลาวอย และราชาคนเก่า วิ่งเหยาะๆมาเพื่อทักทายผม ผมไม่ได้มาเพื่อสนับสนุน ดังนั้นผมเงียบ และคำนับหนึ่งครั้ง

「พูดจากใจ ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถกันได้ แม้แต่สองวัน」

「ท่านได้ยินข่าว เกี่ยวกับกบฏเหรอ?」

ข้อมูลที่ผมรู้มา ควรจะจำกัด อยู่กับแค่เซเลสติน่าที่เขียนจดหมาย แต่ผมมีความคิดคร่าวๆ ว่าอะไรเกิดขึ้น จากสายลับ

「อุมุ……ไอ้พวกลูกชายโง่นั่น! ก่อความวุ่นวาย เพราะเค้าสองคนนอิจฉาเซเลสติน่าที่น่ารักของผม! ไม่ต้องพูดถึงเลย ว่าพวกเค้าได้รวมบรูตัสเเข้าไปกับพวกเค้าด้วย……ผมไม่รู้ ว่าทำไมคนนั้น ไปด้วยกันกับไอ้โง่สองคนนั้น」

ไม่ใช่อย่างนั้น คนก่อเหตุเรื่องนี้น่ะ มันบรูตัสอย่างแน่นอน และลูกชายสองคนนั่นแค่ไปด้วย ถ้าไอ้โง่สองคนนั้น เป็นคนนำ ส่วนใหญ่ของทหารจะตามราชินี เพราะคนก่อเหตุ เป็นบางคนที่ทหารเชื่อใจ มันเป็นไปได้ ที่ทหารจะเคลื่อนพล และสิ่งต่างๆมาไกลขนาดนี้

 「ก่อนที่เราจะรู้มัน ทหารส่วนใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของการกบฏแล้ว และพวกเดียวที่เรามีเหลือ คือทหาร 500 คนที่นี่」   

ดิเอโก ดูผิดดหวังเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าผมพาทหารมากับผมแค่ 200 คน

 「ท่านทำได้ดี ที่ตีฝ่าด้วยทหารจำนวนเท่านี้……แต่มันจะยาก ที่จะเปลี่ยนคลื่นของการต่อสู้แบบนี้……」   

 「ชั้นขอโทษที่จะพูด」   

เมื่อบรรยากาศที่น่ากลัวกำลังจะปกคลุมเรา เสียงที่มีชีวิตชีวา สลายพวกมันไป

 「เอเกอร์~!」   

เสียงฝีเท้าที่เด้งๆสามารถได้ยินมา และเซเลสติน่า วิ่งมาหาผม กระโดดเข้าสู่อ้อมอกของผม

 「ชั้นดีใจจังจ้า! เจ้ามาเพื่อช่วยชั้น! มันน่ากลัว……ชั้นกลัวจ้า」   

เซเลสติหน้า ฝังหน้าของเธอเข้าสู่อกของผม ดิเอโก มองดูด้วยสีหน้าที่อิจฉา ไม่มีเวลา สำหรับเรื่องนั้นตอนนี้นะ

 「ถ้าหนูอยากจะกอดบางคน แล้วลาวอยโดโนะ หรือพ่อหนูล่ะ?」   

 「หลังปู่จะเจ็บเพราะเค้าแก่ พ่อเหม็น」   

ดิเอโกห่อไหล่ และตกลงไปที่เข่า

 「เอเกอร์ ชั้นอยากจะให้เจ้าช่วยเราทีจ้า ทุกคนรุนแรง และน่ากลัว……」   

ขอโทษ ผมน่าจะเป็นคนที่รุนแรงที่สุดในกลุ่ม

เมื่อได้ยินการสนทนานั้นดิเอโก และลาวอย มองหน้ากันและพยักหน้า ดั่งว่าพวกเขา ได้มุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะทำอะไรบางอย่าง

 「ฮาร์ดเลตต์โดโนะ มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ที่จะระงับกบฏ แต่ ท่านตีฝ่าวงล้อม และออกจากที่นี่ได้มั้ย?」   

ทันใดนั้น ดิเอโกใช้เคโกะ[คำให้เกียรติ]

 「ชั้นทำมันได้ ถ้าไม่ ชั้นจะไม่มา」   

 「……ได้เลย ผมจะฝากเซเลสติน่าไว้กับท่า เธออาจจะเสียตำแหน่งราชินีไป แต่มันไม่เปลี่ยนความจริง ที่ว่าเธอเป็นลูกสาวที่น่ารักของผม และผม ให้เธอมาตายอยู่ที่นี่ไม่ได้」   

 「ทุกคน! พวกนายจะอุทิศชีวิต เพื่อพระนางเซเลสติน่ามั้ย?」   

ทหารรอบเรา ตอบด้วยเสียงตะโกนที่ดังสะท้อน ราชาคนนี้ทำมากไม่ได้ แต่เขาค่อนข้างถูกชอบมาก

 「หืม? หืม? เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ทุกอย่างจะไม่เป็นไรแล้ว ที่เอเกอร์อยู่ที่นี่ตอนนี้เหรอจ๊ะ?」   

ดิเอโก กอดเซเลสติน่าแน่นๆ

 「ฟังนะ ลูกเซเลสติน่าที่น่ารักของพ่อ ลูกยังเป็นแค่เด็ก ลูกจะมีเวลา ที่ค่อนข้างยากลำบาก อยู่ข้างหน้าของลูก พ่อและปู่จะดูแลลูกไม่ได้อีกแล้ว」   

 「หนูไม่เข้าใจ พ่อพยายามจะพูดอะไรน่ะพ่อจ๊ะ」   

 「ถ้ามันเป็นฮาร์ดเลตต์โดโนะ เค้าจะสามารถปกป้องลูกได้ ปฏิบัตกับเค้า ว่าเป็นพ่อของลูก……ไม่ พ่อยอมเรื่องนั้นไม่ได้ ปฏิบัติกับเค้า ว่าเป็นพี่ชายของลูก และฟัง อะไรที่เค้าพูด」   

หลังจากที่ลูบหัวของเซเลสติน่า  ดิเอโก แยกเธอออกไปจากเขา และชักดาบ

 「เปิดประตู เราจะสู้ฝ่าออกไป!!」   

 「ครับท่าน!」   

 「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ ผม หวังพึ่งท่านนะ……ดูแลเซเลสติน่า」   

 「รับทราบ」   

ผมมาด้วยเจตนานั้น ตั้งแต่แรก

 「มันจะเป็นการตะลุมบอน」   

 「แต่นั่นเป็นแผนที่ดีที่สุด」   

เปิดประตูทั้งหดะหมายถึง ศัตรูจะท่วมเข้ามาภายในทีเดียว ในทางกลับกัน มันหมายถึง จำนวนรวมของทหาร จะกระจายออกระหว่างแต่ละประตู วัตถุประสงค์ของเรา คือแค่การให้เซเลสติน่าหนี ซึ่งหมายถึง เราหนีจากที่ ที่กองกำลังศัตรู มีจำนวนน้อยที่สุด ในจากที่ที่ศัตรูไหลเข้ามา

 「ทุกคน ขึ้นบนหลังม้า มันจะยากกว่าตอนเราเข้ามา คนเหล่านั้นที่บาดเจ็บ ถอดเกราะและขี่กับคนอื่น อย่าทิ้งใคร」   

 「ครับท่าน!」   

ทหารวังเสร็จการเตรียมตัวพวกเขาเอง สำหรับโชคชะตา ที่น่ากลัว ระหว่างดิเอโก ยิ้มบนใบหน้าของเขา ทหารของผมเน้นสมาธิ ไปสู่ศึกที่ยากลำบายภายหน้า เซเลสติน่า อยู่ในหมู่คนทั้งหมดนั้น และยังไม่รู้ ว่าอะไรเกิดขึ้น ขณะที่เธอร้องไห้สับสน ผมอุ้มเธอขึ้น และให้เธอขี่ชวาร์ซ

 「เปิดประตู—-!!」   

ประตูหน้า และประตูหลังเปิดออก และแม้ว่าประตู สำำหับการหนีฉุกเฉินเท่านั้นเปิดออก ด้วยบรูตัส ที่รู้เรื่องเกี่ยวกับกองทัพดีมาก ทางเลือก ที่จะหนีผ่านทางออกฉุกเฉินนั้นเสียไป ทันทีที่เขาเปลี่ยนเป็นคนทรยศ

 「การป้องกันดูเหมือนจะบาง ที่ประตูหลัง!」   

ลาวอยตะโกน ผลของการตีฝ่าประตูหน้า ศัตรูรวมตัวกันที่ข้างหน้า ระหว่างที่ประตูหลัง มีคนน้อยกว่าเมื่อเทียบกัน

 「วิ่งผ่านพวกมัน!!」   

เราควบผ่านวัง และวิ่งไปสู่ประตู พุ่งเข้าตีศัตรู ที่ก็พุ่งเข้าตีเข้ามาข้างในวัง สับสน เมื่อการพุ่งเข้าตี ถูกตอบ ด้วยการพุ่งเข้าตี ศัตรู กลับไปสู่ประตูทันที และเมื่อผมคิดดว่าเราหนีได้ แนวหน้ารับชุดเน้นการยิงขิงปืนธนู และล้มลง

 「ชั้นคิดว่าแกจะมา ที่ที่มันบางกว่า」   

บรูตัสและพาโบลยืนอยู่ที่นั่น พวกมัน นำหน่วยปืนธนู ประกอบไปด้วยทหารหลายสิบ ยืนเรียงกันในแถวเดียว แต่ว่าจะเป็นทหารม้าหน้ก พวกเขา ไม่สามารถที่จะกันการโจมตีจากปืนธนู ในระยะใกล้ๆได้อย่างสิ้นเชิง มากกว่านั้น มันยากสำหรับพวกเขา ที่จะวิ่งผ่านพวกมัน ในที่แคบๆของวัง

 「ชั้นจะต้องให้แกส่งราชินีมา」   

 「กูจะฆ่าอีขยะไร้ค่านั่น!!」      

 「พี่……กระซิก」   

ระหว่างบรูตัสที่ใจเย็น และพาโบลที่เดือดดาล ผมเลือกบรูตัส เป็นคนเดียวผมผมคุยด้วยได้

 「ชั้นไม่เห็นเหตุผล ที่จะต้องฟังทหารกบฏ บอกให้ชั้นทำอะไรๆ」   

 「ถ้าแกมอบเธอซะ ชั้นจะไม่ยิงทหารของแก」   

 「ไอ้เหี้ย! กุจะฆ่าหมู่พวกมึงให้หมด!」   

ด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น บรูตัสบอกผม ว่ามันธรรมชาติ สำหรับกกองทัพกบฏ ที่อยากได้ชีวิตของสาว เพื่อที่ผมจะไม่มีความประทับใจที่ไม่ดีกับเขา แต่มันไม่ต้องถามเลยสำหรับพาโบลนะ แต่ นั่นไม่เป็นไร

 「เอเกอร์ ออุ」   

เซเลสติน่า รัดมือของน้องเค้าไว้รอบเอวผม และกอดแน่นๆ ไม่มีความจำเป็น ต้องคิด

ผมให้เซเลสติน่า อยู่บนหลังม้า และลงจากชวาร์ซ

 「ไม่จำเป็นต้องเจรมา มาใส่ชั้นด้วยดาบของนาย」   

ผมยิ้ม ขณะที่ผมเหวี่ยงหอกไปทั่ว ซีเลียและคนอื่นๆ ก็พร้อมสำหรับการต่อสูด้วย ไม่มีประโยชน์ ที่จะคุย อีกแล้ว

 「เข้าใจแล้ว……แกทิ้งชั้น ให้ไม่มีทางเลือก」   

 「กูจะฆ่ามึง!มึง! ผู้หญิงของมึงจะถูกซ้อมปางตาย แล้วจะถูกทำเป็นของเล่น!」   

ผมเตะพื้น และพุ่งไปข้างหน้า ชิดระยะ ระหว่างทีมปืนธนูในพริบตา

 「ยิง!」   

ทันที่ที่พวกมันจะยิง ผมม้วนไปบนพื้น เพื่อหลบลูกดอก ในเวลาเดียวกัน กิโด้และคนอื่นๆ ปล่อยลูกธนู เพื่อกวาดล้างศัตรู

แรง และความแม่นยำของปืนธนู นั้นน่าเกรงขาม แต่ความเร็วในการยิง มันเทียบไม่ได้กับธนูและลูกธนู ในช่องเปิด ที่สร้างโดยความจำเป็นที่จะต้องใส่กระสุน ผมกระโดดเข้าไปที่แถวของศัตรู และเหวี่ยงหอก ใส่พวกมัน

 「อุว้าาา!」 「กย้าาาา!!」      

 「ปกป้องปืนธนู!」   

ทหารที่ถือดาบและโล่ วิ่งมา เพื่อปกป้องทีมปืนธนูที่ไร้การป้องกัน

 「ช่างน่าขัน ที่พยายามจะหยุดชั้น! !」   

ด้วยการเหวี่ยงเต็มกำลังของหอกของผม ผมฉีกหัวของหารผ่าครึ่งไปด้วยกันกับโล่ที่เขายก ในทีเดียว ทิ้งตัวไว้ที่พื้น จากนั้นใช้แรงส่ง เพื่อเตะข้างศัตรูสองคนไป

ผมจับดาบที่แทงใส่ผม และงัดพวกมันด้วยกำลังที่ยิ่งใหญ่ คืนไปด้วยหัวโขกใส่พวกมันแต่ละตัว และทำหน้าพวกมันยุบ

ผแทงทหารที่หยุดเคลื่อนไหว เนื่องจากความสับสน และโยนมันเพื่อไปตกแต่งประตูหลัง ให้พวกมันถูกแทง พวกมัน ปล่องเสียงกรีดร้องในความทุกข์ทรมาน ที่แสบแก้วหู

 「ไอ้คนนี้มันนรกอะไรกันวะ……เค้าเป็นสัตว์ประหลาดโดยพื้นฐานเลย! ไป ทุกคน ไปแล้วฆ่ามัน!」   

บาโบลเตะทหาร เพื่อให้พวกเขาเข้ามา ไอ้คนนี้แม่งน่ารังเกียจ จนหยดสุดท้ายเลย

ศัตรู ตัดสินที่จะวิ่งหาผมด้วยกัน แม้ว่าจะกลัว แต่จริงๆแล้วนั้นช่วยผมเก็บเวลาไว้ และปัญหาที่จะต้องเข้าใกล้พวกมัน

 「ก้าาาาาา!!」   

ตามเสียงคำราม ที่เต็มไปด้วยความร้อนแรง ผมเหวี่ยงหอกไปทั่ว ด้วยกำลังทั้งหมดของผม หั่นทุกคน ภายในระยะ 3 เมตรเป็นชิ้นๆ  หรือตีพวกมันกลับไปอย่างแรง จนพวกมันไปไร้การเคลื่อนไหวอยู่บนพื้น เมื่อเห็นว่ามันไม่มีศัตรูอยู่รอบผมแล้ว ผมนับคนที่มันอยู่ที่พื้น คร่าวๆ 15 ซึ่งเป็นจำนวนที่พอสมควร

ระหว่างที่ผมสู้ ซีเลียและคนอื่นๆ ปรากฏว่าจบทหารปืนธนูไปแล้ว ด้วยนั่น ภัยที่ใหญ่ที่สุด ถูกกว่าดล้าง ทหารศัตรู เตรียมตัวที่จะหนีตอนนี้ ซึ่งมันก็เป็นเวลาที่สมบูรณ์แบบ ที่จะตีฝ่า

 「อย่าถอยทัพ!」   

บางที เข้าใจสถานการณ์ที่มือ ตัวบรูตัสเองก้าวมาข้างหน้า และตะโกน ทหารศัตรู ที่หวั่นไหวมากขึ้นอย่างช้าๆ เริ่มที่จะได้ความสงบกลับคืนมา เขาค่อนข้างเป็นนายพล ที่มีความสามารถ

 「ผมจะจัดการไอ้เจ้านี่! ได้โปรดช่วยด้วยเหมือนกันนะครับ พระองค์ พาโบล」   

 「เอ๋!? อ้าา ชั้นด้วยเหรอ? เอ๋? ได้เลย…..」   

เมื่อผมมองดูที่ร่างกายของผม ผมห็นได้ ว่าผมปกคลุมไปด้วยเลือดของเหยื่อของหอกของผม และแม้แต่มีเศษของไส้บนไหล่ของผม มันขวางทาง ผมเลยจับมัน และโยนมันใส่พาโบล

 「อว้า! หยุดน้าาาาา!!」   

เขาใช้ “การต่อสู้จริง” ที่มหัศจรรย์ของเขา ไม่ใช่เหรอ

พร้อมด้วยการตะโกนเป็นสัญญาน ผมพุ่งเข้าตีไปหาบรูตัสและพาโบล ผู้ที่ยืนพร้อม ด้วยดาบสองมือ

 「บรูตัส! หอกเค้ายาวนะเว้ย เราจะเสียเปรียบด้วยดาบ!」   

 「พระองค์ ถอยไปหน่อยครับ มีต้นไม้อยู่เยอะในลานหลัง ดังนั้น เค้าเหวี่ยงหอกอย่างอิสระไม่ได้ แทงเค้า เมื่อท่านเห็นช่องเปิด!」   

ลานหลัง ใกล้ประตูหลัง แน่นอนว่ามีต้นไม้เยอะ ซึ่งทำให้ดูเหมือนแคบ ปรกติแล้ว มันเป็นที่ที่ไม่เหมาะที่จะเหวี่ยงหอกไปทั่วแต่……ถ้าพวกมัน หนาแค่นั้น มันไม่ควรจะเป็นปัญหา

 「นั่นดี!!」   

ผมเหวี่ยงหอก พื่งพากำลังป่าเถื่อน แต่ออย่างที่บรูตัสพูด ต้นไม้เข้ามาขวางทาง แม้ว่าต้นไม้ หักเป็นชิ้นๆ แทนที่จะเป็นหอกของผม ทหารที่พยายามจะซ่อนในเงาของต้นไม้ ถูกฟันแยกเป็นสองซีก ไปด้วยกันกับต้นไม้ และทรุดลงไป

 「กุ่…….กำลังมันเหมือนที่อธิบายใจข่าวลือเลย」   

ถ้าผมจบบรูตัสซะ ทหารจะไม่เป็นระเบียบ คิดว่ามันจะจบ ด้วยการโจมตีทีเดียว ผมเหวี่ยงหอกของผมขึ้น แนวตั้งเล็กน้อย และนำมันลง ด้วยกำลังทั้งหมดของผม ดาบของพวกนั้น ที่พยายามจะกัน การฟาดของผม จะหัก และแม้ว่าพวกเขาจะหลบไปข้างหลัง ผมฆ่าได้แค่ด้วยการแทงตามไป

 「ฟู่นนน!」   

แต่บรูตัส ปะทะหอกของผมด้วยดาบของเขาและเบี่ยงมันลงไปสู่พื้น เพราะแรงส่งนั้นยิ่งใหญ่เกินไป ผมหยุดครึ่งทางไม่ได้

 「จึ!」   

หอก ระแทกเข้าสู่พื้นดิน และเตะกลุ่มควันขึ้นมา แต่นอน ไม่มีทาง ที่เขาจะพลาดช่องเปิดและเหวี่ยงดาบของมือลงมา สู่บนหัวของผม

ผมเสียสมดุล ผมเลยนำหอกกลับมาไม่ได้ ไม่มีทางเลือก นอกจากจะใช้แรงหน่อยที่นี่

ผมดันหอก ลึกลงไปในพื้นมากว่าเดิม และตักไปที่เท้าของเขา หอกปรกติ จะงอและหัก แต่นี่ไม่ใช่หอกปรกติ

 「อะไร!?」   

หอกแหวกว่ายใต้พื้นดิน และทำให้พื้นดนิใต้ขานั้นสั่น ทำให้บรูตัสเสียสมาธิในการฟันดาบของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมเบี่ยงเบนดาบ ที่เสียงแรงส่งของมันด้วยเกราะแขน และดึงหอกของผมจากพื้นดิน และพักมันที่ไหล่ของผม

 「ชั้นตกใจ」   

 「คำพูดของชั้นเลยล่ะ」   

ผมเห็นบรูตัสเริ่มเหงื่อเย็นไหลอยู่ ขณะที่เขาสร้างความคิดเห็น ไม่เพียงแค่เขาทำโอกาสที่สมบูรณ์แบบหลุดลอยไปจากเขา ระยะห่างระหว่างตัวเขาเองและศัตรูของเขานั้นกว้างพอ และไม่มีความเสียเปรียบที่ต้องหลบเลี่ยง ที่จะต่อต้านบางคน ที่ถือหอก กำลังเสริมที่สำคัญนั้น……

 「เร็วเข้า! สนับสนุนบรูตัส!」   

 「พระองค์ด้วยเหมือนกัน ตอนนี้มันเป็นเวลา ที่จะได้แสดงพลังทางทหารของท่านแล้ว!」   

 「อย่าโง่น่า มึงคิดวากูเอาชนะนั่นได้เหรอไงวะ?! กูหมายถึง ก็ชนะได้ แแต่ไม่ใช่ตอนนี้!」   

ผมรู้สึกเสียใจ สำหรับเขาที่ต้องมีพวกพ้องโง่ๆแบบนั้น พวกพ้องของผมดูการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งอย่างมั่นใจ ระหว่างที่ตีทหารศัตรูพ่าย และเปิดทางไปสู่ประตูเมือง เราควรจะหนีได้ทันที

 「มาจบสิ่งนี้กัน」   

 「มา」   

วิชาดาบของบรูตัสนั้นของจริงไม่เหมือนพาโบล ผมจะไม่เข้าไปใกล้และสู้เขา

ผมกำหอกแน่นๆ และแทงเขาซ้ำๆ ผมแทงเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และแม่นยำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

 「กุ่ อออุ แก-!」   

บรูตัสพยายามจะกันการโจมตีของผมอย่างสิ้นหวัง แต่ไม่สามารถ จะกันได้อย่างสมบูรณ์ เพราะการโจมตีองผมค่อนข้างหนักหน่วง ก่อให้เกิดเลือด พุ่งออกมาจากหว่างขาและไหล่ของเขา เเพราะระยะ เขาไม่สามารถจะโจมตีกลับใดๆได้ แค่ถูกต้อนจนมุมอยู่ฝ่ายเดียว

 「คิดว่านี่ขึ้ขลาดมั้ย?」   

 「หุบปาก!」   

 「งั้น แล้วนี่ล่ะ?」   

นี่เป็นการโจมตีต่อเนื่องสามครั้ง ที่เรียนรู้มาจากการดูอิริจิน่า — การโจมตีสู่แต่ละที่ หว่างขา ท้อง และอก บรูตัสสามารถที่จะกันการโจมตีได้สองที แต่ไม่สามารถจะกันการโจมตีสู่อกของเขา ขณะที่ปลายของหอกพุ่งตัวมันเองผ่านเกราะโซ่ และเข้าสู่ร่างกายของเขา

 「กวั้ะะะะ!」   

เลือดสดๆไหลลงจากแผล และเขาล้มไปที่เข่าอย่างไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม อาการบางเจ็บนั้น ปรากฏว่าตื้น และจะไม่ถึงตายสำหรับเขา

เตรียมการที่จะจบสิ้นชีวิตเขา ผมเหวี่ยงออกไปด้านหนึ่ง และกวาดเขาแนวนอน ระหว่างที่บรูตัสยังเลือดไหนออกกจากหน้าอกของเขา เขาดึงดาบมือเดียวจากที่เอวของเขา แล้วไขว้ทั้งสองอาวุธเข้าด้วยกัน เพื่่อหยุดหอกของผม

ด้วยเสียงเหล็กที่เข้มข้นดังสะท้อน ดาบทั้งสองเล่มแตกกระจาย และแขนซ้ายของเขาหักด้วยเช่นกัน บรูตัสล้มลง และกลิ้งไปที่พื้น ดั่งเขาถูกส่งบินไป และกระแทกเข้ากับกำแพง ไอเลือดออกมาเมื่อกระแทก เขารู้ว่าการกลิ้งไปทั่วอย่างไม่ระวังที่สนามรบ หมายถึงความตายจะมาสู่เขาในไม่นาน

แต่ตาของเขาดูเหมือนจะเสียจุดเน้นไป แขนหนึ่งของเขา ห้อยเปลี้ยนอย่างผิดปรกติ และเขาไม่มีออาวุธอีกแล้ว ไม่มีทางไหนสำหรับเขาที่จะกันการโจมตี แม้ว่าจะเป็นเด็กน้อย ผมไล่กวดเขา แม้คิดว่า เขาไม่จะตามเรามา ถ้าผมได้จบเขาที่นี่ซะ แต่……

 「ดิเอโกที่สองถูกสังหารแล้ว—-!!」   

เสียงโห่ร้องยินดีที่ดัง ปะทุขึ้นที่อีกปลายฝั่งของวัง

 「-!! ม่ายยยยย!! พ่ออออออออ!!」   

การร้องที่เป็นสุดขีดของความเศร้าโศกเสียใจ ดังออกมา ถ้าดิเอโกได้ตายเสียแล้ว พกพ้องของเขา จะท่วมวังอย่างรวดเร็ว ถ้าเราไมรีบซะ ทางออกจะปิดตัวลงโดยสิ้นเชิง

 「ไปกันเถอะ」   

ผมปล่อยบรูตัสที่เลือดอาบและไม่มั่นคงไว้คนเดียว และเดินหน้าตีฝ่าประตูหลังไป แตพาโบลยืนขวางทาง พร้อมกับดาบของเขา

 「ถอยไป」   

 「ได้ครับ!」   

พาโบลยอมและเปิดทางทันที เขาหนีความตายมาได้อย่างเฉียดฉิว ผมเดาว่า

 「ถอยทัพกลับไปที่ราเฟน! เร็วเข้า!」   

เราเร่งความเร็ว เพื่อวิ่งออกไปจากประตูหลังบนม้าของเราประตูเมืองและกำแพงเมือง ถูกเปิดอย่างไม่ได้ตั้งใจ แค่เหมือนกับก่อนหน้า ผมเลยผ่านมันด้วยความยินดี

 「ว้าาาาา……พ่อ……ปู่……ทำไมอะไรมั่นออกมาน่ากลัวอย่างนี้……」   

เซเลสติน่าสะอื้น ซ้ำๆ ขณะที่กอดผม นายประตู ผู้ที่เป็นกองทัพกบฏไม่มากก็น้อย วางหอกของเขาลง และก้มหัวด้วยสีหน้าขอโทษขอโพย มันมีทหารบางคนที่ร้องไห้เศร้าโศกเสียใจโดยมีหัวแนบกับพื้นด้วย

 「ท่านเอเกอร์ซามะ เราสูญเสียกำลังพลไม่มากนัก และไม่มีสัญญานของศัตรูไล่ตามเรามา」   

ผมพยักหน้ากับซีเลีย และเราขึ้นม้าสำรอง ที่ทิ้งไว้ที่ประตูเมือง เมื่อตอนแรกเราได้เข้ามา และเร่งความเร็วอีกครั้ง ทหารม้าหนัก ช้ากว่าทหารม้าปรกติ แต่เมื่อพวกเขาวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาทำได้ มันยังยากที่จะไล่ตามหลังพวกเขา

มากกว่านั้น พวกเขาไม่มีเวลาว่างมากพอ ที่จะทำอย่างนั้น หลังจากการสู้ระยะประชิดในวัง ตราบใดที่เราไม่ช้าลงไป เราไม่ต้องกังวล เกี่ยวกับการต่อสู้ในอนาคต เราได้สำเร็จภารกิจของเรา ที่เราจะออกมาทำให้สำเร็จ และกลับบ้าน โดยขนเซเลสติน่าที่ร้องสะอื้นมา ช่างเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกที่ความรู้สึกนี้มันเป็น

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูร้อน

สถานะ: เคานต์แห่งอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออกของโกลโดเนีย ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ

พลเมือง: 142,000 เมืองศูนย์กลาง ราเฟน: 16,000

กองทัพที่บัญชาการ: 3500 (ยกเว้นทหารม้าธนู)

สินทรัพย์: 47,400 ทอง (เรียกรวมพลกองทัพผู้สมัครใหม่ -600) หนี้: 20 000 ทอง

อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบใหญ่), หอกดวอร์ฟ,  ดาบเหล็กกล้ามือเดียวชั้นสูง

ครอบครัว: นนน่า (ภรรยา), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย),เมล (ภรรยาน้อย), คู (คนรัก), รู (คนรัก), มิเรล (คนรัก), เลอาห์ (ประกาศตัวเองว่าเป็นทาสกาม), เคซี่ (ผี). มิทตี้ (คนรัก), อัลม่า, ครอลล์ (ไม่ใช่หนุ่มบริสุทธิ์), เมลิสซ่า (คนรัก), มาเรีย (คนรัก), ริต้า (คนรักเอ็นใหญ่), แคทเธอรีน (คนรัก), โยกุริ (หมกตัวอยู่แต่บ้านยุคใหม่), ปีปี้ (ผู้ติดตาม), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน), โดโรเธีย (คนรัก อยู่ในเมืองหลวง), เซเลสติน่า (ราชินีลี้ภัย) ← ใหม่

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทอริน่า (ลูกสาว), แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด (ลูกชาย), โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ), รูบี้ (ผู้ติดตามของลูน่าและคนรัก), ไมล่า (เจ้าหน้าที่เพื่อสันติสุข), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), กิโด้ (คนคุ้มกัน), ทริสตัน (ผู้ติดตาม), แคลร์ & ลอรี่ (แม่ค้าอย่างเป็ฯทางการ), ชวาร์ซ (ม้า), ลิเลียน (ดาราหญิง)

คู่นอน: 128, เด็กที่เกิดแล้ว: 31

—————————————————————   

 เป้าหมายเดือน 9/66

ค่าเน็ต 100/200

กาแฟ 0/300

คอมใหม่ 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

แปลโดย: wayuwayu

โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook   

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท