ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 151 สงครามมากราโด ③ ไฟที่โหมกระพือที่ 48 ชั่วโมง

ถนนสู่อาณาจักร

151 สงครามมากราโด ③ ไฟที่โหมกระพือที่ 48 ชั่วโมง

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

「มันเป็นการโจมตีตอนกลางคืน-!!」

สายตาผมเปิดออกจากเสียงตะโกน ของคนเฝ้าระวัง และผมเขย่าปลุกซีเลีย

「ใส่เกราะ!」

「ฟุนย้า……มุ-! เยสเซอร์!!」

เราออกไปข้างนอก หลังจากที่ติดอาวุธของเราเอง เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อที่จะเห็นการปะทะดาบที่เข้มข้นได้เกิดขึ้นแล้ว อย่างที่คาดไว้ พวกมันแอบผ่านช่องเปิดที่กำแพงเมือง เพื่อที่จะโจมตีเรา

หารสลับกันหลับ ดัังนั้น พวกเขาคนสองคนได้ตื่นอยู่แล้ว แต่คุณเห็นความเหนื่อยในดวงตาของเขาได้ เพราะฝน มันก็ไม่ได้มีแสงมากด้วยเหมือนกัน ไม่มีรายละเอียดมากที่ถูกรู้ แต่มันไม่ได้ดูเหมือนการโจมตีที่ประกอบไปด้วยศัตรูจำนวนมาก กับการโจมตีตอนกลางคืน มีความเป็นไปได้ว่าจะตีโดนพวกเดียวกัน ถ้าทำอะไรเป็นกลุ่มใหญ่หลังจากทั้งหมด นี่น่าจะใกล้กับการรบกวนมากกว่า แค่เพื่อให้เราเหนื่อย

「อย่าถอยหลัง! พวกมันไม่ได้มีมาก ไล่พวกมันกลับไป!!」

ซีเลียสไลซ์ขึ้นจากหว่างขาศัตรู ที่ชาร์จมาใส่ผมระหว่างที่ผมตะโกนอยู่

「โด่ะย่าาาา!!」

มันฟันค่อนข้างที่จะลึก ความสูงของซีเลียก็เกี่ยวข้องกับมันด้วย แต่เธอเล็งที่หว่างขาหรือต้นขาของศัตรูหลายครั้ง แต่มันง่ายกว่าที่จะตัดหัวนะ ไม่ใช่เหรอ?

「อีเหี้ยนี่!」

สองศัตรูตามมา และฟันใส่ซีเลีย แต่เธอม้วนตัวไปข้างหน้า เพื่อที่จะหลบพวกมัน ก่อนที่จะสไลซ์ที่ข้อเท้าของชาย ชายถูกฟันเอ็นที่แผลฟันของข้อเท้า และล้มลง แต่อีกคนพยายามที่จะเตะซีเลีย ขณะที่เธอยืน

「เฮ้」

ผมจับเกราะหมวกและดึงเขาเข้าใกล้ผม

「ฮฮฮฮฮิ้!」

「อย่ามาเสือกแตะผู้หญิงกู!」

ผมทำกำปั้นด้วยทั้งสองมือ และทุบหัวเขาผ่านเกราะหมวก จากสองข้าง หัวเขาวิ้งไปซักพัก และน้ำเริ่มออกมาจากหลายแห่ง

「ท่านเอเกอร์ซามะ!」

「ระวัง ซีเลีย พ่อจะร้องไห้ถ้าหนูเจ็บ」

ผมเตือนเธอ ระหว่างที่แทงท้องของทหารศัตรูด้วยหอกของผม และโยนเขาไปข้างๆ

「ค่ะ! ท่านเอเกอร์ซามะก็ด้วย!」

ซีเลียโยนดาบของเธอขึ้นในอากาศ และจับดาบสั้นที่เอวของเธอ เขวี้ยงมันด้วยสองมือ ก่อนจะจับดาบที่หล่นลงมมา สองดาบสั้นที่เธอเขวี้ยงไป โดนสองศัตรูอย่างแม่นยำ ผมได้ยินเสียงร้องของความทุกข์ทรมานได้ เธอมีทักษะ ในหลายแง่หลายมุมเลย

ในเวลานั้น ผมได้ยินเสียงคนเอะอะในโรงม้า มันดูเหมือนศัตรูพยายามจะแอบขโมยม้า

「อะ-ไอ้ตัวนี้มันอะไรกันวะ!」

「กย้าาาา!」

เมื่อผมวิ่งไป ผมเห็นชวาร์ซยั้งศัตรูเอาไว้ — สามคนถ้าพูดให้แม่นยำ เพราะคนนึงได้ถูกกระทืบตายไปแล้ว

「นี่พอแล้ว! แค่ฆ่ามันเลย!」

「ไอ้นี่-……」

ก่อนที่ดาบจะโดนเป้าหมาย มันดีดขาหลังและมอบการถีบที่ร้ายการใส่ชาย ส่งให้ชายบินไป และขยี้กระโหลกของเขาระหว่างทำ เขาพุ่งเข้าชนศัตรูตรงหน้าของเขาด้วยร่างกาย และทิ้งเกือม้าใส่ทหารที่ล้มอย่างไร้ความปราณี

「กย้าาาาา!!」

ชวาร์ซ ผู้ที่น้ำหนักมากกว่าหนึ่งตัน ขยี้ศัตรูได้อย่างง่ายๆ ทำเสียงหัก ที่คล้ายกับเสียงกิ่งไม้แห้งที่ถูกเหยียบ

「นี่-! …………หือ?」

ศัตรูกำลังจะเข้าท่ายืนพร้อมด้วยหอก แต่มือและหอกนั้น ได้หล่นไปสู่พื้นแล้ว

「ขอโทษที่มันม้าข้า เห็นมั้ย ดังนั้นหยุดมาวุ่นวายยรอบเค้าไดมั้ยวะ」

「อ๊าาาาาาา……าาาาาาาาาาาาา……!!」

เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า ไปที่มือที่เขาเสียไป และที่ผมพูดไม่ได้เข้าหัวเขาเลย ผมจบเขาอย่างรวดเร็ว

ผมแทงชายที่ไม่ต่อต้านอย่างเรียบง่ายที่หัวใจ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนชวาร์ซ

「ซีเลีย สั่งการทหาร พ่อ……จะออกไปข้างนอกหน่อย」

ศัตรูท่วมจากรูของกำแพงเมืองต่อไป  พูดอีกอย่าง มันควรจะมีแค่ศัตรูในทิศทางนั้น และผมไม่ต้องกังวลว่าจะไปฟันเอาพวกเดียวกันเอง ถ้าผมอาลาวาด

「เราจะชาร์จเข้าไป ไปกันเถอะ」

ชวาร์ซดูเหมือนจะมีไฟ หลังจากที่ได้จัดการไปสามคน ผมจะให้เขาอาละวาด มากเท่าที่เขาต้องการ

「รีบเข้าไป!!」

ม้าดำนิล ชวาร์ซ พุ่งไปข้างหน้า ตรงไปสู่ความมืดดำสนิท

「อุว้าาา! อะ-อะไรวะ-!? กย้าาาา!!」

ผมชาร์จตรงเข้าไปในแถวของศัตรูบนชวาร์ซ พร้อมด้วยหนึ่งการโจมตีจากหอกของผม ผมน็อคศํตรูกลับไปหลายคน ระหว่างที่ชวาร์ซ กระทืบศัตรูคนไหนก็ตามที่เข้ามาขวาง

เราไม่ได้ให้เวลาใดๆพวกเขาตอบโต้เลย เสียงของเกือกม้าที่ควบ ดังสะท้อนในยามค่ำตืน ขณะที่ผมจัดการศัตรูที่ตกใจ ทีละคนตามๆกัน ตั้งแต่แรก มันถูกคาดไว้ก่อนแล้ว ว่าการต่อสู้กลางคืน จะมาจากระยะใกล้ แล้วอาวุธเหมือนธนูกับปืนธนู จะไม่ถูกใช้เนื่องจากความเสี่ยงที่จะยิงโดนพวกเดียวกันเอง แม้แต่หอกยาว ก็ยังเข้ามาขวางทาง ดังนั้นอาวุธหลักของศัตรู ประกอบไปด้วยหอกสั้นและดาบ หมายถึง ผมล่าพวกมันตายห่าทั้งหมดได้ฟรีๆ

「11! 12!」

ใช่แรงส่งจากการชาร์จ ผมแทงคนที่ 13 และแทงทะลุตัวเขา และใช้พลังงานที่เหลือ เจาะทะลุคนที่ 14 ด้วย อย่างที่คนหนึ่งคาดได้ มันจะเป็นอะไรที่หนักไป สำหรับที่จะยกมือเดียว ผมเลยลากสองคนที่ถูกเสียบไม้ด้วยหอกของผมเหมือนดังโกะ และดึงดูอัลเครเตอร์* <ผู้แปล: เปลี่ยนจากแอ่งคู่เป็นดูอัลเครเตอร์ ครับ> ด้วยมือซ้าย ขณะที่ผมผ่านแต่ละคนไปบนหลังม้า ผมสไลซ์พวกมันทีละคนทีละคน ทำให้พวกมัน จ้องอย่างตะลึงจนโง่ และหยุดเคลื่อนไหวไปเลยทั้งหมด แต่ผมได้ยินเสียงกรีดร้องข้างหลังผม นิดหน่อยหลังจากนั้น น่าจะเป็นเวลา ที่เป็นการดีเลย์ของตัวที่สไลด์ออกจากกัน เมื่อถูกสไลซ์

ผมเข้าสู่ตรงกลางของศัตรู หลังจากที่ได้ชาร์จมาซักพัก มันจะแย่ถ้าผมถูกล้อม

「ฮ-เฮ้ ไม่ใช่นั่นศัตรูเหรอ!?」

「ล้อมมัน! ด้วยทุกคน……」

「ชวาร์ซ หันซ้าย!」

ชวาร์ซหยุดใทันที และหมุนตัวไปทางซ้าย

「อุโออออ้!!」

เพราะผมลากมันไปทั่วที่พื้น ส่วนหนึ่งของร่างบนหอกของผมได้ฉีกขาดไป แต่ผมใช้กำลังของผมเพื่อยกมันลอยจากพื้นด้วยกำลัง ผมรู้สึกถึงกล้ามในแขนขวาของผมปูดออก

「ดอรรย่าาา!!」

ผมเหวี่ยงลงใส่ศัตรู ที่เข้าหามาจากข้างหน้า เสียงที่น่ากลัวดังก้อง ตัดสินจากการกระแทก ใกล้กับ 10 คนได้ถูกส่งบินกลับไป……และสองคน ที่ถูกเสียบไม้บนหอกของผม ได้บินไปไหนก็ไม่รู้ด้วย ตอนนี้มันเบาขึ้นเยอะ

「สะ-สัตว์ประหลาด ทั้งม้านั่นและคนขี่มันเป็นอสูร」

「ไม่มีทางที่เราจะจัดการกับบางคนแบบนี้……ข้ายังไม่อยากตาย!!」

นี่ควรจะทำลายกำลังใจของมัน แต่หอกหนึ่ง จู่ๆก็ได้กระโจนมาใส่ผมจากความมืดมิด ไม่มีเวลาสำหรับผมที่จะบล็อคด้วยหอกของผม ดังนั้นผมพยายามจะบิดตัวเพื่อหลบการโจมตี แต่ปลายมันขุดเข้าไปในต้นขาของผม และฟันผมตื้นๆ

「ดูเว้ย! แม้แต่พระเจ้าก็เลือดไหล! เค้าจะตายถ้าแกฟันมัน!」

หนึ่งชายที่ฟันผม ใส่ชุดอื่นไม่เหมือนทหารอื่นรอบๆเขา เข้าใจแล้ว งี้เขาคือผู้บัญชาการที่กล้าหาญ

「เราจะโจมตีพร้อมทุกคนต่อไป ถ้าเราจบเค้าได้ การได้ตำแหน่งขุนนาง อาจจะไม่ใช่แค่ฝะ-……ฮเกี้ยะะ?」

มันทำให้ผมโกรธ ที่เขาเป็นคนทำให้ผมบาดเจีบ ผมเลยเหวียงหอกด้วยสุดยอดกำลังของผม มันเร็วจัดจนเขา น่าจะแม้แต่มองก็ยังไม่เห็นมัน เขาพูดไร้สาระบางอย่างออกมา แต่มันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว หลังจากทั้งหมด ไม่มีอะไรเหลือบนหน้าของเขา ยกเว้นส่วนล่าง

「เอิ่ม……」

ผมชำเลืองมองทหารเร็วๆ ที่พยายามจะล้อมผม และสะกิดผู้บัญชาการเบาๆ ผู้ที่ยังยืนอยู่ แต่หายไปครึ่งหัวแล้ว ด้วยด้ามของหอกของผม ศพล้มไป และสร้างเสียบบึ้กอยู่บนพื้น หยุดศัตรู จากการก้าวเท้า

「กูจะกลับแล้ว แต่ตามมาสิถ้าอยากไล่ตามกู」

ชวาร์ซควบออกไป ในดับเบิ้ลไทม์ และศัตรูบนทางเปิดทางให้เรา แม้ว่ายังชี้หอกของพวกมันมาใส่เรา ผมไม่ได้รู้สึกว่า พวกมันหน้าไหนจะตามผมมาจากข้างหลัง

「เฮ้ ถ้าเราไม่ไล่ตามเค้า……」

「กูจะไปถ้ามึงไป」

「เว้นให้กูเหอะ」

เดาว่าทหารของศัตรูจะไม่ตาม นั่นหมายถึง ผมจะมีเวลาที่ง่ายกว่าในการสู้

「กุ่! มีมากกว่านี้อีกที่มันมา! รับไปซะ!」

การต่อสู้ที่ดุดัน ยังดำเนินต่อไปกลางเมือง ตรงกลางท้้งหมดนั้น คืออิริจิน่าที่อาละวาดที่หน้าสุดของทหารคนอื่น

เธอสู้อย่างหนัก ระหว่างที่ทำทหารอื่นสี่คน แต่มีศัตรูมากกว่า 30 อยู่ตรงหน้าของเธอ มันน่าประทับใจ ที่ว่ามีศพของห้าคนอยู่ที่เท้าของเธอแล้ว แต่มันยังเป็นงานที่ลำบากเกินไป ที่จะกำจัดพวกมันทั้งหมด

「อั่ก!」

หอกแทงต้นขาของอิริจิน่า เลือดไหลออกมา ละผู้หญิงที่รักของผม ครวญก่อนที่ผมจะรู้ มัน สิ่งเดียวที่ผมเห็นได้คือแดงเท่านั้น ชวาร์ซร้องอย่างร้ายกาจ — เห็นได้ชัดว่า เรารู้สึกอย่างเดียวกัน

「เข้าไปในนั้น ชวาร์ซ ฆ่าพวกแม่งให้หมด」

จากการควบที่รวดเร็วของฟูลสปรินต์์ ชวาร์ซเร่งความเร็ว และชาร์จเข้าไปที่ฝูงของศัตรูจากข้างหลัง พวกแม่งไม่กี่คนถูกขยี้ และกรีดร้อง แต่ผมไม่ให้พวกแม่งซักคนหนี พวกแม่งทั้งหมดจะตาย

「มึงเสือกมาทำผู้หญิงกูเจ็บ」

ผมลงจากชวาร์ซ และอย่างแรก ฆ่าสองคนตรงหน้าผมด้วยการแทงอย่างรวดเร็ว จากนั้นตีกระโหลกของอีกคนด้วยด้ามของผม ต่อไป ผมปล่อยหอกไว้กับที่ เพื่อที่ผมจะจับดูอัลเครเตอร์ได้ด้วยสองมือ

「อย่าคิดนะโว้ยว่ามึงรอดออกไปจากที่นี่ได้ ได้ยินมั้ย?」

「อะไรของไอ้นี่กันวะ!?」

「เข้าต้องการอะไรวะ จู่-กุ่ก!」

「ลืมเกี่ยวกับผู้หญิงข้างหน้าไปก่อน ไอ้เจ้านี่มันอันตรายมากกว่า! กุเอี้ยะ!」

ผมเหวี่ยงดูอัลเครเตอร์ไปรอบ ขณะที่ผมหมุนตัว เกือบจะเหมือนทอร์นาโด ฉีกผ่านคน ความคมที่น่ากลัวของใบมีด ไม่ใช่อะไรที่จะมาล้อเล่น และแม้ว่าผมจะไม่สามารถฆ่าศัตรูหลายตัวทั้งหมดได้ทีเดียวเมือนหอกของผม ผมสไลซ์ผ่านอะไรเหมือนดาบและโล่ได้ด้วยความง่ายดาย ถ้าผมใส่แรงไว้หลังการโจมตีของผม

「ฮย้าาาา!!」 「มือกูหาย!」 「ขากู」 「ท้องกูถูกฟันอ้ะ……ใครก็ได้……ช่วยกูด้วย……」

มือ ขา หัว และตัว ทั้งหมดถูกส่งบินไปในอากาศ และเลือดกระจายไปทุกที่ และมันเหมือนอยู่ในกลางพายุหมุนของน้ำสีแดง ผมไม่ได้แค่เหวี่ยงดาบไปรอบๆ ผมก็หัวโขกและถีบศัตรู จากนั้นผมจบมัน โดยการจับคางหรือคอมัน และขยี้พวกแม่งด้วยมือเปล่า ทหารสามสิบคน กลายเป็นชิ้นส่วนหลวมๆกระจายออกไป

「ชะ-……ช่วยด้วย……」

「ไม่」

ผมฟันศัตรูตัวสุดท้าย วิ่งดาบผมจากเหนือหัว ลงไปที่หว่างขา เปลี่ยนศัตรูทั้งหมดในบริเวณนี้เป็นศพ ผมวิ่งไปหาอิริจิน่า ผู้ที่พันผ้าพันแผลบนลูกน้องของเธอ

 「เป็นอะไรมั้ย?」      

 「ใช่ มันไม่ใช่แผลถึงตาย…….แต่หนูจะไม่สามารถสู้ได้เหมือนที่หนูอยากทำแบบนี้……」   

 「ไม่ หนูทำได้ดี ไปรักษาแผลข้างหลัง」   

 「แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดอย่างนั้น」   

 「พี่จะพยยามเป็นพิเศษเพื่อหนูด้วย แค่รอดชีวิต และตอบแทนบนเตียง」   

อิริจิน่า มองความเละเทะที่ผมสร้าง

 「โอเค……แต่เมื่ออะไรมันเริ่มแย่ หนูจะสู้!」   

ถ้าเวลานั้นมา พี่จะให้หนูหนี ผมบอกตัวเองแบบนั้นในหัวใจของผม ขณะที่ทหารนำอิริจิน่าไปข้างหลัง ก่อนที่ผมจะรู้มัน ทหารของศัตรูเริ่มถอยแล้ว

 「ดีมาก ทุกคน วางกำลังคนเฝ้าระวัง และพักหายใจ คลื่นลูกต่อไป น่าจะเป็นตอนเช้า」   

เราชนะชั่วคราว แต่ไม่มีอะไรที่ให้เชียร์ อย่างที่คนหนึ่งคาดได้ การต่อสู้สามครั้งติดกัน ตั้งแต่เช้าเมื่อวาน จะสร้างความเหนื่อยขึ้้นมา ไม่ต้องพูดถึง มันจะเป็นแค่หลายชั่วโมง ก่อนที่เราต้องสู้อีกครั้ง ถ้าเป็นแบบนี้ ในที่สุดทุกคนจะล้ม

 「ท่านเอเกอร์ซามะ!」   

 「โอ้ซีเลีย บาดเจ็บมั้ย?」   

 「หนูไม่เป็นไร พี่อิริจิน่าซังน่ะสิ……」   

 「ปีปี้ไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย」   

 「ขาพี่โดนแทง มันไม่ใช่แผลถึงชีวิต แต่พี่น่าจะไม่สามารถสู้ได้อย่างเพียงพอ」   

ผมลูบหัวปีปี้ ขณะที่เธอเล่นไปทั่วอย่างไร้เดียงสา

 「อย่างนั้นเหรอ……คริสตอฟเป็นคนเดียวที่ได้รับบาดเจ็บที่นี่ ไหล่ของเขาถูกฟันค่อนข้างจะดีเลย…….」   

ยังไงซะ นั่นโล่งใจ เรารู้จักกันมาเป็นเวลาค่อนข้างนาน ดังนั้นมันจะเศร้านิดหน่อย

 「ดาบศัตรูเปื้อนเลือดและลื่น ดังนั้นใบบีดไม่ผ่านบริเวณที่มีเกราะโซ่ บนนั้น แรงกระแทกน็อคเค้าสลบไป ดังนั้นศัตรูเข้าใจผิดว่าเค้าตาย」   

ผมควรจะแม้แต่พูดอะไรดีล่ะเนี่ย?

 「แผลเดียวของเขาเป็นการโดฟันเบาๆและช้ำ เค้าไม่มีสติตอนนี้ แต่เค้าจะพร้อมสู้้ทันทีที่เค้าตื่น」   

เจ้านี่ได้ผ่านศึกที่ยากลำบากมามากมายมาก และไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่ได้รับบาดเจ็บถึงตาย แต่เขาก็มีความสามารถที่หายาก ที่ไม่สามารถจะให้ประโยชน์อะไร กับความสำเร็จของกองทัพเลย

 「ไม่ว่าจะแบบไหน ครั้งต่อไปจะเป็นพรุ่งนี้เช้า ไปนอนเถอะ แม้ว่ามันจะแค่เวลาสั้นๆ」   

ผมพูดนั่นแล้วขณะที่ผมถอดชุดเกราะที่ปกคลุมด้วยเลือดของศัตรู มันค่อนข้างจะน่าปวดหัวที่จะต้องเปลี่ยนใส่ชุดเกราะ ทุกครั้งที่ศัตรูจมตี แต่ผมคิดว่าผมนอนหลับได้ง่ายกว่าในแบบนี้

 「อ๊ะ-! พ่อบาดเจ็บ……!」   

 「มันแค่แผลถลอกน่ะ เมินมันเถอะ」   

 「แต่……」   

 「ถ้าเราไม่นอนตอนนี้ เราจะไม่สามารถอยู่ไหวในการต่อสู้พรุ่งนี้ มันจะรักษาไปเองเมื่อพ่อหลับ」   

หลังจากที่ซีเลียได้คิดเกี่ยวกับมันซักพัก เธอรีบเปลือย อย่างเป็นธรรมชาติ ปีปี้ก็เปลือย ผมแค่อยากจะพักให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

แต่ซีเลียได้สังเกตว่าเอ็นของผมมันแข็งไปแค่ไหน

 「มันเพราะการสู้ทั้งหมด……มันดูแข็งมากกเหมือนมันเจ็บ ให้หนูได้ช่วยผ่อนคลายมันมั้ย?」   

 「ปีปี้ก็จะดูดด้วย เค๊?」   

เอ็นของผมได้เก็บกด และดันใส่ผ้าห่ม แต่ผมจะรู้สึกเสียใจ ที่ให้สาวๆบริการผม เมื่อรู้ว่าพวกเธอนั้นเหนื่อยแล้ว

 「พ่อไม่ถือ ดังนั้นนอนเถอะ ถ้าเรากอดดกันระหว่างที่เปลือย พ่อมั่นใจว่ามันจะปล่อยไปด้วยตัวมันเอง」   

เมื่อพูดนั่นแล้ว ผมนอนลงกับพวกเธอทั้งสอง พวกเธอเหนื่อยเหมือนที่ผมคิด เพราะมันยังไม่ได้ถึงแม้แต่นาทีเดียว และพวกเธอทั้งสองได้หลับไปอย่างเร็วแล้ว ผมก็น่าจะเหนื่อยด้วยเหมือนกัน เพราะตาของผมหนักขึ้นและหนักขึ้น

—————————————————————   

วันต่อมา

เพราะฝนที่ตกอย่างไม่มีจบสิ้น ตะวันยามเช้าไม่ขึ้นมา และทางเดียวที่บอกได้ว่ามันเช้าแล้ว มันมาจากท้องฟ้าที่สว่างขึ้นอย่างน้อยๆ สามเราเด้งออกจากเตียง

 「หนูจะพร้อมทันที!」   

 「ปีปี้โอเคแบบนี้!」   

ทั้งสองหยุดเคลื่อนไหว ทันทีหลังจากที่ลุกขึ้นมา

 「เหลือเชื่อ อย่างที่คาดกับท่านเอเกกอร์ซามะ」   

 「หัวหน้ามีแหล่งเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีวันหมด」   

แน่นอนพอ อสุจิของผมฉีดออกไป ระหว่างที่ผมหลับ และทำแอ่งน้ำใหญ่บนท้องเราทั้งสาม ปรกติแล้ว เมล็ดพันธุ์นี้จะไปย้อมอยู่ข้างในจิ๊ผู้หญิง……ขอโทษ ยกโทษให้พี่ด้วยที่ยิงพวกหนูอย่างไร้จุดหมาย

 「เมื่อการล้อมเมืองนี้จบลง พ่อจะฉีดทั้งหมดนี่ข้างในพวกเธอสาวๆอย่างถูกต้อง」   

 「แน่นอน มากเท่าที่พ่อต้องการเลย……ในช่องคลอดของหนู ในปากของหนู หรือแม้แต่ในตูดของหนู!」   

 「ปีปี้อยากได้ในตูด!」   

ได้เลย ตอนนี้ผมมีแรงจูงใจแล้ว มาลุยการต่อสู้ป้องกันนี้กันเถอะ

เราออกจากบ้าน พร้อมด้วยหลังคาที่ปกคลุมในลูกธนูเหมือนเม่น และเข้าสู้ตำแหน่งบนถนน เพราะการต่อสู้ หลายบริเวณของกำแพงเมืองนั้นพังทลาย และมันไม่ได้ถือว่าเป็นจุดไว้ป้องกันแล้วตออนนี้ ผมจะต้องสู้ภายในเมือง และไล่ศัตรูออกไป

 「ทุกคนฟัง! การโจมตีของศัตรูจะดื้อรั้น และพวกนายหลายคนน่าจะตาย แต่ถ้านาย สามารถที่จะปกป้องที่นี่และมีชีวิตรอดสำเร็จ……อาหารดีๆ ไวน์และผู้หญิง จะรอนายอยู่ กิน ดื่ม และปล่อยเมล็ดพันธุ์……ดังนั้น มันคุ้มค่าที่จะพนันชีวิต ไม่คิดว่าอย่างนั้นเหรอ!?」   

ทหารหัวเราะแห้งๆ ผมจะรับนี่ไว้ว่าพวกเขามีความสุข แม้ว่าพวกเข้าจะแกล้งทำ

 「ตอนนี้ นี่ จะเป็นการต่อสู้ถึงตาย!」   

ทหารของศัตรู รีบเข้ามาผ่านช่องที่นับไม่ถ้วนในกำแพงเมือง เราได้ตั้งตำแหน่งของเราบนถนนหลังสิ่งกีดขวางมากมาย ซึ่งได้สร้างโดยการแทงหอกและดาบ ที่ศัตรูทิ้งไว้ข้างหลังเมื่อคืนก่อน ในกองดินบนเกวียนที่ซ้อนกันและกองของ พร้อมด้วยปลายแหลมๆชี้ออกมา นี่เป็นแค่มาตรการป้องกันเล็กน้อย

เมื่อศัตรูเห็นแคมป์ป้องกันของเรา มันหยุดเคลื่อนไหว และเรียกพลธนูมาข้างหน้า

 「ลูกธนูมาแล้ว ปิดตัวเองด้วยอะไรบางอย่าง!」   

บ้านหลายหลังถูกถอดชิ้นส่วน เพื่อที่ทหารจะเอาแผ่นไม้หนาๆมาใช้กับตัวเองได้ ตราบใดที่ศัตรูไม่ได้ใช้ลูกธนูไฟ มันควรจะปกป้องทหารที่ซ่อนอยู่หลังไม้กระดานพวกนี้ จากลูกธนูใดๆที่กำลังจะมา

 「แต่มันน่าเบื่อทที่จะป้องกันการยิงซ้ำๆ เตรียมไอ้พวกนั้นรึยัง?」   

 「ใช่……เราจะทำนี่จริงๆเหรอ?」   

 「ใช่ มันจะน่าสนใจ ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?」   

ทหารนำหอกที่ได้มาจากศพของหารของศัตรูมาให้ผม ซื่งเป็นของเหลือจากการเสริมสิ่งก่อสร้างป้องกัน พวกมันส่วนใหญ่ความยาวประมาณเท่าๆกัน และถูกแบ่งเป็นหลายมัด มัดเข้าด้วยกันด้วยเชือกที่เรียบง่าย ผมหยิบมัดนั้นมาหนึ่ง และง้างแขนผมกลับไป ทหารยกโล่ เพื่อปกป้องลูกธนูใดๆที่บินใส่หัวของพวกเขา

 「ฟฟฟฟู่น!」   

มัดหอกที่ผมโยนด้วยพลังทั้งหมดของผม บินเป็นแนวโค้ง และลงพื้นใส่กลางพลธนูของศัตรู

 「กย้าาา!」   

 「เหี้ย! มันมีแม้แต่เครื่องตีเมืองเหรอ!?」   

ทหารศัตรูสามคน ถูกเสียบไม้พร้อมๆกัน

 「อีกดอกนึง」   

ผมหยิบหอกอีกมัน และเขวี้ยงมันส่งศัตรู มันดูเหมือนศัตรูได้เตรียมตัวสำหรับมันแล้วครั้งนี้ และทหารที่เป้าหมายของการตก ตั้งโล่……แต่ยังถูกเสียบไม้ กำลังจากลูกธนู เทียบได้กับเจวาลิน <ผู้แปล: หอกสำหรับปา>นั้น แต่อาวุธที่ผมโยน มันแค่หอกธรรมดา อย่างไรก็ตาม น้ำหนักของมัดหอกนั้นมันมากเกินไป เมื่อนำปัจจัยว่ามันได้พลังงานมาจากการโยน มันไม่ใช่บางอย่างที่โล่จะหยุดได้

 「บาลิสต้ามนุษย์……」   

ผมจะจำคนที่เพิ่งพูดนั่นเมื่อกี้นี้ ถ้าเขาสามารถที่จะรอดชีวิต ผมจะให้ผู้หญิงที่น่าเกลียดที่สุดกับเขา

ผมโยนมัดหอกพวกนั้นต่อไป และฆ่าศัตรูไปหลายสิบ ซึ่งช่วยทำให้พวกเดียวกันของผมตื่นเต้น แต่ไม่ได้มีผลกันทั้งการต่อสู้มาก ในท้ายที่สุด ศัตรูรู้ว่าลูกธนูนั้นไม่ได้ผล และสั่งพลธนูอยู่เฉยๆ และพร้อมที่จะเข้ามาหาเรา สำหรับการต่อสู้ระยะประชิด

ตอนนี้ศัตรูได้ชาร์จมาใส่เราแล้ว มันไม่มีเวลาที่จะเสีย ที่จะโยนทุกหอกใส่มัน

 「แกะเชือกทั้งหมมด ชั้นจะจบพวกมันทั้งหมดในทีเดียว」   

 「เอออ๋!? เห้อ นั่นไร้สาระน่า……」   

ซีเลียครวญ แต่ยังแกะเชือก 10 มัด ที่มีหอกประมาณ 50 เล่ม และกางมันออก ซึ่งผมแบกไว้บนไหล่ อย่างที่คาดได้ ผมจะไม่สามารถโยนทั้งหมดนี้ไปได้ไกลมาก ดังนั้น ผมต้องเข้าใกล้ศัตรูอีกนิด

 「อุโออออออออออออ้–!! ช้าร์จจจจ–!!」   

พร้อมด้วยศัตรู้ที่ดันมาข้างหน้า และพวกของผมที่ได้พร้อมอาวุธของพวกเขา ผมวิ่ง และเขวี้ยงหอกทั้งหมด ก่อนที่จะปะทะในไม่นาน หอกกระจาย และบินไปในทุกทิศทาง ตกลงไปเป็นห่าฝน ใส่ศัตรูที่โฟกัสอยู่กับสิ่งกีดขวางตรงหน้าของพวกเขา

ทหารของศัตรู ไม่สามารถที่จะรับมือกับการเทลงมาเป็นฝนของหอก และทีมหนึ่งถูกกำจัดทันที ขณะที่เขาปะทะกับพวกของผม แม้แต่พวกของผม ก็ยังประทับใจ แต่แม้ว่าหอกพวกนั้น เป็นหอกธรรมมดา การรวมกันขอน้ำหนักของหลายหอก ยังค่อนข้างที่จะหนัก ไหล่ของผมเมื่อยแล้วตอนนี้

 「ชั้นไม่เคยคิดว่ามันแปลกที่ผู้บัญชาการเหล่า เป็นบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์」   

 「ชั้นจะไม่ตกใจ ถ้าจริงๆแล้วเค้าเป็นออร์ค」   

 「หยุดพล่ามได้แล้ว! ดู คลื่นลูกต่อไปมาแล้ว!」   

ศัตรูตกใจแค่พริบตาเดียว เมื่อแนวหน้าถูกกวาดล้าง แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขายอมแพ้ หลายกอง ที่ประกอบไปด้วยทหารหลายร้อย แม้แต่รวมทหารม้าอยู่ด้วย ชาร์จเข้ามาใส่เรา ผมมอบการหมุน ให้หอกที่โปรดปรานขอผม ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้า

 「ยังไงซะ มาทำอย่างนี้เถอะ! มากองศพของพวกมันกัน」   

พวกมันน่าจะอยากให้ทหารม้า ก่อกวนเพื่อสร้างความวุ่นวายในแคมป์ของเรา เพราะพวกมันเป็นคนที่ชาร์จมาใส่เราก่อน ด้วยหอกของพวกมัน

 「ชั้นจะไม่ปล่อยแกหรอก」   

ผมแทงหอก ใส่หน่วยทหารม้าที่นำมา และแทงคอม้า จากนั้นเหวี่ยงมันไปที่ข้างๆ คนขี่ ก็กระเด็นออกจากหลังม้าอย่างรุนแรง และไปกลิ้งที่ไหนก็ไม่รู้ ในความเหนื่อยอย่างเละเทะ

 「ต่อไป!」   

ขณะที่ทหารม้าคนที่สองกระโจนใส่ผมด้วยหอกของมัน ผมหลบการโจมตี และจับอาวุธของเขา จากนั้นดึงเขาลงมาจากหลังม้าของเขาและขยี้คอของเขาด้วยเท้าของผม ผมฟันขาม้า ของทหารม้าคนที่สาม และทำให้คนขี่ล้มลง จากนั้นให้พวกของผมจบชีวิตของเขา

ในทางแคบแบบนี้ ที่มันง่ายที่จะคาดเดาการเคลื่อนไหวของพวกมัน พวกมัน ไม่สามารถที่จะใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของทหารม้าได้

 「พวกแกต้องไปเรียนรู้ ว่าจะใช้ทหารม้าให้ถูกได้ยังไง!」   

สำหรับทหารม้าคนที่สี่ ผมฟาดหน้าม้า ด้วยด้ามหอกของผม และน็อคมันสลบ จากนั้นแทงคนขี่ ที่กระเด็นไปสู่อากาศ ผมเหวี่ยงทหารที่ถูกแทงเสียบไม้ไปรอบๆ ก่อนที่จะโยนเขากลับไปใส่ศัตรู

ทหารของศัตรู ล่าถอยเล็กน้อย และจากนั้น พวกเขามองผมอย่างโกรธเคือง มันดูเหมือนทหารที่ผมโยน คือผู้บัญชาการที่พวกเขาเคารพนิดหน่อย

 「แก้แค้นให้บารอน! ทุกหน่วย……ช้าร์จจจจจ!!」   

 「แค่อย่างที่ชั้นต้องการเลย ข้าจะฆ่าพวกแกทุกคนให้ตายห่า!」   

ทั้งสองกองทัพ ปะทะใส่กันบนถนนแคบๆ การต่อสู้ที่ดุัน เริ่มต้นขึ้น

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม

ผู้บัญชาการกองทหารที่สาม

ทีมลูกน้อง: 43,700

ท่าแรนเดล

กองทัพอาณาจักร: 1400

ชายฝั่งตะวันออก

กองทัพส่วนตัว: 8000 (หน่วยที่ถูกพามาเพื่อต่อสู้เท่านั้น)

ทหารราบ: 2500, ทหารม้า: 500. พลธนู: 700, ช่าง: 300, ทหารม้าธนู: 4000 ปืนใหญ่: 10 (ของแท้ 1)

กองทัพของอาณาจักร – 2 เหล่า: 26,300

กองทัพลอร์ดบริวารเพื่อนบ้าน: 8000

ไม่ได้อยู่ภายใต้การบัญชาการของตัวเอกอย่างเคร่งครัด

เพิ่มเติม – ทีมป้องกันราเฟน : 1000

ลูกน้องกองทัพ:

ลีโอโพลต์ (รองผู้บัญชาการสูงสุด), ซีเลีย (ผู้ช่วย), ไมล่า (ผู้บัญชาการ), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการของทหารม้าธนู), ปีปี้ (มาสคอต), ทริสตัน (เฝ้าบ้าน)

ตำแหน่งปัจจุบัน: ท่าแรนเดล

ความสำเร็จ: ยึดท่าแรนเดล

—————————————————————   

 ขอบคุณสำหรับเงิน 100 บาท

แปลโดย: wayuwayu

เป้าหมายเดือน 10/66

ค่าเน็ต 100/200

กาแฟ 0/300

คอมใหม่ 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ ซื้อตอน จองตอน แจ้งได้ทาง Facebook ครับ   

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท