ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 155 สงครามมากราโด ⑦ ศึกตัดสิน ณ ที่ราบนอร์ด

ถนนสู่อาณาจักร

155 สงครามมากราโด ⑦ ศึกตัดสิน ณ ที่ราบนอร์ด

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

มันเป็นหนึ่งอาทิตย์ หลังจากที่กองเรือสหพันธรัฐโอลก้า ทำลายทัพเรือของมากราโด ไม่มีอะไรยืนขวางทางเราจากการข้ามแม่น้ำ ดังนั้นทั้งกองทัพ ยกเว้นทหารที่บาดเจ็บที่ถอยไป ลงพื้นที่ท่าแนเดล และบริเวณรอบๆ ในหมู่ทหารนั้นแน่นอนว่ามีลีโอโพลต์ ไมล่า และซีเลียและอิริจิน่าที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ด้วย

「ฮาร์ดเลตต์โดโนะ แผลมันไม่เป็นไรแล้วตอนนี้!」

อิริจิน่าลดกางเกงของเธอ และโชว์แผลเป็นที่ต้นขาของเธอให้ผมดู แผลเป็นเหมือนของลึกลับอะไบางอย่างกับเธอ แต่มันจะหายไปทันที เมื่อผมทายาดีๆใส่บนัน

「ของหนูก็รักษาแล้วด้วย!」

ซีเลียเปิดเผยไหล่ของเธอให้ผม แผลของเธอเล็กกว่าของอิริจิน่า ดังน้นมันก็แทบมองไม่ออกแล้ว

「ใช่  พ่อเข้าใจ……แต่นั่นเป็นการแสดงความเสียใจบางรูปแบบเหรอ?」

「「เอ๋?」」

พวเธอทั้งสองคนมองไปรอบๆ ไล่สายตาของทหารทันที แต่หว่างขาพวกเขาปูดขึ้นมาอย่างมองเห็นได้ ทหารไม่ได้นอนกับผู้หญิงใดๆ ตั้งแต่พวกเขาได้ก้าวเข้ามาในสนามรบ ดังนั้น เมื่อมีเลดี้สวยๆเปิดเผยต้นขาและไหล่ของพวกเธอ มันทำให้เกิดการตอบสนองแบบนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

「อย่ามองงงง!」

「หืม? หืม?」

ซีเลียอาย ระหว่างที่อิริจิน่ไม่รู้เรื่อง แต่ทั้งหมดในทั้งหมด มันเป็นปฏิบัติการลงพื้นที่สำเร็จ

「งั้น……กิโด้เป็นยังไงบ้าง ?」

「อ๊ะ……」 「นุ……」

ซีเลียและอิริจิน่า  ดูเหมือนจะหมดคำพูด นั่นหมายถึงเขาจะไม่รอดเหรอ?

「กิโด้บาดเจ็บหนัก และเครื่องในเสียหายอย่างหนัก เค้าสามารถที่จะเลี่ยงการตายทันทีได้ไม่ทางใดก็ทางนึง แต่แผลของเค้าติดเชื้อ และเค้าดิ้นรนในความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน หมอแนะนำว่าเค้าคงจะไม่อยู่นาน และอาจจะเห็นอกเห็นใจเค้ามากกว่า ที่จะให้เค้าตายในทันที」

ลูน่า พูดด้วยน้ำเสียง ที่ไร้ซึ่งอารมณ์ มันต้องยากสำหรับเธอ ที่เห็นช่วงเวลาสุดท้ายของเด็กชายที่รักเธอมาก

「ปล่อยให้เค้าสู้กับความตาย ชั้นมีความหวังนิดหน่อยหลังจากทั้งหมด」

「……เค้าทรมานจริงๆนะ」

「แม้อย่างนั้น มันอาจจะเป็นนรกสำหรับเค้าตอนนี้ แต่……ถ้าเค้ารอดชีวิต เค้าลิ้มรสสวรรค์ได้」

ลูน่าไม่พูดอะไรอีก เธอต้องคิด ‘หนูไม่อยากจะมองดูกิโด้ทุกข์ทรมาน แต่หนูอยากจะให้เค้ารอดชีวิตถ้าเป็นไปได้’

「ยังไงซะ เราจะไม่ช่วยเค้า โดยกลามาพล่ามกันอยู่ที่นี่ ถ้าเราแพ้ที่นี่ และพวกเราทั้งหมดโดนสังหารหมู่ เราจะเอาเกวียนไว้หน้าม้า มาสู้เพื่อที่จะเอาชนะกับศัตรูก่อนเถอะ」

「งั้น ถ้าคุณจะอนุญาตผมม」

ลีโอโพลต์ รอกรคุยเกี่ยวกับกิโด้ให้จบลง ก้าวมาข้างหน้าโดยไม่ลังล และกางแผนที่ออก ลูน่าและซีเลียจ้องเขา แต่เขาไม่ได้สนใจพวกเธอ มันน่าจะไม่ถูกต้อง ถ้าลีโอโพลต์ไม่ได้เป็นอย่างน้น

「การให้ทั้งกองทัพของเราลงพื้น หมายถึง ความได้เปรียบทางจำนวนของศัตรูพังทลายไปแล้ว ในสถานการณ์นี้ การตีวงล้อมนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่ากรกระจายกองกำลัง ศัตรูถอยทัพจากท่าแรนเดลไปอย่างช้าๆแล้ว หลังจากที่พวกเค้าได้รวมทหารในที่ราบ พวกเค้าเป็นไปได้มากที่สุดว่าจะเลือกการต่อสู้ตัดสิน」

นั่นก็ถูกยืนยันแล้วโดยคนเฝ้าระวัง แต่มันคาดหวังได้ว่าพวกเขาถอยทัพอย่างเป็นระเบียบ เพราะพยายามจะเลี่ยงการต่อสู้ไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับการเตรียมการที่ไม่พอเพียงจะทำให้พวกเขาอยู่ในความเสี่ยงแทน

「มีความเป็นไปได้มากแค่ไหน ที่พวกเค้าจะป้องกันอยู่กันในปราสาท」

เมืองหลวงของพวกเขา โอโดรอส ไม่ได้ไกลไปมาก พวกมันมีกำแพงเมองที่แน่นหนาจำนวนหนึ่ง จนพวกเขาอาจจะวิ่งกลับไปที่นั่น

「ไม่มีเลย ถ้าพวกเค้าทำบางอย่างเหมือนการป้องกันอยู่กันในปราสาท กองทัพที่เผชิญหน้าอยู่กับปฏิบัติการลงพื้นของลอร์ดราดาห์ลจะถูกกวาดล้าง โดยการโจมตีขนาบข้าง และพวกเค้าจะแค่ถูกล้อมจากสามทิศทาง มากกว่านั้น กองกำลังหลักของพวกเค้า ประกอบไปด้วยทหารราบหนัก ซึ่งพูดไม่ได้ว่าเหมาะกับการป้องกันการโดนล้อมเมือง」

「ฟุมุ ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเค้าจะอยู่กันตรงไหน?」

「พวกเค้าน่าจะอยู่ในในที่ราบนอร์ด จุดกึ่งกลางระหว่างเมืองหลวง และท่าแรนเดล เพื่อรับมือกับกองทัพของเราซึ่งมีความได้เปรียบในเรื่องจำนนวนพวกเค้าจะต้องการกำลังเสริม และจะถอยทัพถึงจุดหนึ่ง และเหมือนก่อนหน้านี้ พวกเค้าต้องการที่ ที่พวกเค้าใช้ภูมิประเทศและพยายามจะทำให้ขบวนแถวของเราไม่เป็นระเบียบ……พวกเค้าไม่มีที่ไหนอีก นอกจากที่นั่น」

「งั้นเราให้เวลาอะไรศัตรูไม่ได้ เราควรจะทำการเตรียมการทันที มาติดต่อกองทหารที่หนึ่งกับที่สองด้วย」

「ใช่ แต่เราคาดหวังว่าจะไปรวมกับพวกเค้าสำหรับการต่อสู้ตัดสินไม่ได้นะ」

「ชั้นรู้」

กองเรือสหพันธรัฐดูเหมือนจะได้ปรากฏมา ที่กองทหารที่หนึ่งของอีริช และจัดการกับทัพเรือของศัตรูด้วยกันกับเมืองที่พวกเขามีแผนที่จะทำปฏิบัติการลงพื้นเมองที่มีจำนวนประชากรมากก่วา 10,000 เสียหายจากการยิงปืนใหญ่อย่างต่อเนื่องครึ่งวัน และเปลี่ยนเป็นนรกที่เผาไหม้

อีริชและพวกเขามีความสุข ที่ศัตรูถอยทัพไป และได้ทำปฏิบัติการลงพื้นสำเร็จ แต่มันดูเหมือนพวกเขา จะไม่สามารถทำการออกศึกได้อีกครั้งในไม่นาน เพราะพวกเขามีเวลาที่ยากลำบาก  ในการรวมเสบียงที่จำเป็น หลังจากที่เมืองเปลี่ยนเป็นเละเทะ

「มันดูเหมือนเหล่าที่สอง ยังต้องการเวลาที่มากจำนวนหนึ่งเพื่อที่จะลงพื้นหลังจากที่ได้เสียเรือไปหลายลำ จากการพยายามจะลงพื้นในฝน」

ผมไม่รู้ว่าใครบัญชาการเหล่านั้น แต่เขาทำอะไรกัน?

「โอเค งั้นทุกคนรวมหน่วยของตัวเอง! คนที่ว่าง มาด้วยกันกับชั้นที่เตียง」

「「「ทันทีเซอร์!」」」

หลังจากนั้น ซีเลียเดินหน้าอย่างเร็วสุดขีด เพื่อที่จะจัดระเบียบหน่วยของเธอ และรีบเข้ามาที่เต็นท์ แต่ปีปี้ ถูกเอ็นผมกระแทดอยู่ในเวลานั้น ทำให้ซีเลียส่งเสียงครวญที่โกรธออกมา

—————————————————————

หลายวันหลังจากนั้น ที่ราบนอร์ด

ฝนที่สร้างปัญหาให้เรา ทันทีที่สงครามเริ่ม หายไปโดยไร้ร่องรอย ฤดูหนาวก็เข้ามาแล้วด้วยเหมือนกัน และทั้งสองกองทัพเผชิญหน้ากันใต้ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง เกือบจะโปร่งใส โดนไม่มีอะไรขัดขวางวิวของเราในที่ราบ ทั้งสองฝ่ายสามารถที่จะสบตากันโดยไม่มีผิดพลาด

「อย่างที่ผมคาด พวกเค้าทมีกำลังเสริมมาบ้าง ทหารของศัตรู เพิ่มไปเป็นประมาณ 35,000 เทียบได้กำจำนวนที่เรามี」

「ไม่ แต่เรามีมากกว่า 40,000 นะ」

ผมเดาว่า เขาไม่ได้รวมกองทัพของลอร์ดบริวารในการคำนวนของเขา

ศัตรู มีกองทัพที่มีทหารราบเป็นแกนกลาง และทหารม้าที่ซ้ายและขวา เพื่อเสริมขบวนแถว สำหรับเรา กองทัพของอาณาจักร แยกไปซ้ายกับขวา โดยมีกองทัพส่วนตัวของเรา ส่งออกไปอยู่ตรงกลาง

พวกเขาต้องได้เชื่อ ว่าไม่มีเหตุผลที่จะซ่อน หลังจากที่โชว์มันแล้วครั้งหนึ่ง ทหารราบหนักของศัตรูเตรียมพร้อมโล่ใหญ่แล้ว และสร้างขบวนแถวกล่องจำนวนหนึ่ง ผมมีเวลาที่ยากลำบาก ที่จะรับมือกับขบวนแถวแบบนั้น เมื่อผมเห็นมันเป็นครั้งแรก

「ไอ้กล่องนั่นอีกแล้ว เราทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพวกเค้าได้มั้ย?」

「ได้ แผนเดียวกันจะไม่ดีเลย์เราเป็นครั้งที่สอง」

ลีโอโพลต์ ออกคำสั่งอย่างละเอียดให้กองทัพ พร้อมด้วยสีหน้าที่สงบบนใบหน้าของเขา ผมจะปล่อยกลยุทธ์การรบให้เขา

ผมจับหอกของผมไปที่พระอาทิตย์ และมองดูอย่างระวัง ผมได้ทำสิ่งที่อุกอาจกับหอกนี้ กระนั้น มันไม่มีแม้แต่การบิ่นหรือรอย มันสร้างมาจากอะไรบนโลกนี้กัน?

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ ศัตรูเคลื่อนไหว」

มันเหมือนเวลาที่เราสู้กับอะไรเหล่านี้มาก่อน — แผนที่พวกเขาจะมาข้างหน้า ในขบวนแถวกล่องเหล็กของพวกเขา กล่อง ก่อจากประมาณ 1000 คน แค่เหมือนในอดีต และ มีพวกมันอยุ่ 20 กล่อง  ล้อมโดย ทหารราบ 10,000 คน และทหารม้า 5000 คน ส่งออกมาในขบวนแถวปรกติ

「บล็อคการเข้าหาของเรา และตัดขบวนแถวของเรา จากนั้นกางออก เมื่อพวกเค้าเข้าสู่แถวของเรา……น่าจะเป็นบางอย่างที่เค้ามีแผนที่จะทำ」

「เราควรจะเคลื่อนไหวของเราด้วย」

「เตรียมไอนั่นมา มันไม่เป็นไรที่จะปล่อยให้ทั้งกองทัพส่วนตัว ยกเว้นทหารม้าธนู เคลื่อนไหวอย่างอิสระเหรอ?」

ในแง่ของกำลังทหาร มันไม่ควรจะมีปัญหาที่ต้องการกองทัพอาณาจักร ที่ถูกส่งออกไปเป็นกองกำลังหลักของพวกเขา

「ทหารม้าธนู เดินหน้าไปข้างหน้า ลูกธนูจะไม่เจอกล่องพวกนั้น เล็งไปที่ทหารราบรอบๆเค้า และอย่าเข้าใกล้เกินไป」

「ได้ยินคำสั่งหัวหน้าแล้วใช่มั้ย สู้ถึงตาย!」

ลูน่ายกดาบของเธอขึ้นเหนือหัว และทหารม้าชาร์จไปข้างหน้า ยังไงซะ ทหารม้าะธนูเปราะบาง ดังนั้นมันจะมีปัญหา ถ้าพวกเขาจำนวนมากเกินไปตาย

ขบวนแถวเหมือนแฟแลงซ์ <วายุ: ขบวนทหารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทั่วไปประกอบไปด้วยทหารราบหนักที่ถือหอก> หยุดเท้าของพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นทหารม้าธนู 4000 คนชาร์จเข้าไปหาเขา พวกเขาตั้งโล่ไปที่พื้น และยื่นหอกออกมา  มาตรการต่อต้านททหารม้าของพวกเขา พิจารณาได้่าเป็นกำแพงเหล็ก ชัดเจน ว่าดาบและลูกธนู จะไม่ผ่านโล่หนานั้น แต่ทหารท้า เป็นภัยที่น่ากลัวกับทหารราบ ผู้ที่ไม่สามารถจะวิ่งไปซ่อนหลังโล่เหล่านั้นได้

「เรียงหอกยาว อย่าแยกจากด้านข้างของขบวนแถว!」

พวกเขาน่าจะใช้วิธีเดิมๆ เพื่อรับมือกับทหารม้า และน่าจะคาดถึงการยิงธนูสนับสนุนจากกล่อง แต่นั่นมันไร้เดียวสา — มันจะไม่เป็นการต่อสู้ระยะใกล้

ทหารม้าะธนูชาร์จไปหาศัตรู ในขบวนแถวแนวตั้งยาวๆ และพร้อธนูแทนที่จะเป็นดาบ

「ส่งไปทางซ้าย!!」

ผู้บัญชาการที่หัวของขบวนแถว ตะโกนออกไปและเปลี่ยนเส้นทางอย่างเร็ว โดยธรรมชาติ หน่วยที่ตามหลังมาเคลื่อนที่ไปตามนั้น และยิ่งลูกธนูใส่ศัตรู

ตั้งแต่เมื่อผมรวมพวกเขาเข้ามาในกองทัพ นี่ คือกลยุทธ์ที่พวกเขาฝึกมาเยอะที่สุด ขบวนแถวต่อต้านทหารม้าพร้อมด้วยหอกยาว ใหญ่เกินไปที่ทหารม้าจะพังทลาย

「งั้นนี่ก็เป็นหน่วยทหารม้าธนูของโกลโดเนีย!」

「ใจเย็น! อย่าเสียขบวนแถว!」

หลังจากที่ได้โชว์แผนให้พวกเขาดู พวกเขาทำการตอบโต้บางอย่าเพื่อรับมือกับมัน ขณะที่หน่วยหอก ยกโล่เล็กเพื่อบล็อคลูกธนู แต่ระยะการยิงมันใกล้เกิินไปสำหรับทหารม้าธนู และมันเป็นงานง่ายองพวกเขา ที่จะเล็งไปที่ทหารที่ไม่มีโล่ หรือเล็งไปที่ช่องเปิดที่ไม่ได้ปกปิด ดังนั้น เพิ่มจำนวนการเสียกำลังพลของศัตรู ยิ่งมากขึ้นไปอีก

 「ศัตรูพังทลายแล้ว!」      

 「เราควรเคลื่อนที่ทหารม้าของกองทัพอาณาจักรด้วย」   

ซีเลียตะโกนอย่างมีความสุข ระหว่างที่ลีโอโพลต์ ยังไร้สีหน้าอยู่เหมือนเคย

 「พูดถูก ไป แต่อย่าไปแตะกล่องเข้าล่ะ」   

ทหารม้าของกองทัพอาณาจักร รีบออกไปในพริบตา หลังจากหารม้าธนูผ่านไปเหมือนลมกรรโชก เพื่อที่จะเข้าใกล้เพื่อโจมตีด้วยหอกและดาบของพวกเขา พวกเขาได้รับการเสียกำลังพล จากหอกและลูกธนูสกัดกั้น แต่ขบวนแถวที่พังทลาย ไม่สามารถที่จะปัดการโจมตีทั้งหมดได้ น้ำหนักและขนาดของทหารม้า ค่อนข้างที่จะเป็นภัยให้กับทหารราบ ขณะที่พวกเขา ถูกดันไปที่สุดทางหนึ่ง

 「ไม่มีปัญหากับการฝึกหรือการสั่งการด้วยเหมือนกัน ลอร์ดราดาห์ลได้ฝึกพวกเค้ามาดี ……พวกเค้าฆ่าได้ที่ข้างหน้ามั้ย?」   

 「จึ ไอโง่เอ้ย」   

หนึ่งทีมของทหารม้าจากอาณาจักร ใช้แรงส่งที่ได้จากการฉีกทหารราบศัตรู เพื่อที่จะโจมตีขบวนแถวกล่อง พวกเขาพวกเขาตัดหอกที่งอกออกกมาจากกล่อง และแทงหอกของตัวเองเข้าสู่ช่องว่าง และกำจัดทหารไปบางคน มากเท่านั้นคือดี

 「ผมบอกพวกเค้าว่าอย่าไป……」   

รูถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว ด้วยทหารสดใหม่จากข้างในกล่อง และหอกยื่นออกมาจากข้างหลังโล่ กำจัดทหารม้าไปคนสองคนกลับไป เพิ่มเติมจากนั้น ลูกธนูและปืนธนู ตกลงไปจากเหนือหัวของทหารม้า ที่เสียจุดที่จะโจมตีไป ถอยกลับมา ระหว่างที่แบกความสูญเสีย

มากกว่านั้น ทหารม้าของศัตรู พุ่งเข้าใส่พวกเขาจากด้านข้างเหมือนจะรอช่วงเวลานี้อยู่ ถ้านี่ดำเนินต่อไป เจ้าพวกคนที่ไม่เกี่ยวข้องนั่นจะถูกล้อม

 「……ให้ทั้งกองทัพอาณาจักรทั้งหมดเดินหน้าไปข้างหน้า เราทิ้งพวกเค้าไม่ได้」   

ด้วยคำสั่งเดียว กองทัพของอาณาจักร ซึ่งใกล้กับ 30,000 คน เริ่มเคลื่อนไหว เมื่อเห็นอย่างั้น ศัตรูยอมแพ้ที่จะล้อมเดินมาข้างหน้า และชาร์จเราแทน

 「ชั้นไม่อยากจะปะทะกับพวกเค้าจากข้างหน้า」   

 「มันช่วยไม่ได้ สถานการณ์เปลี่ยนตลอดเวลา……เราใช้ปืนใหญ่ได้ถ้าเราอยู่ข้างหลัง」   

เรายังใช้ปืนใหญ่ได้ ถ้าศัตรูมาหาเรา แต่มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเคลื่อนไหวปืนใหญ่ไปจากเรา มันใช้เวลาและความพยายาม เพื่อที่จะเคลื่อนที่ของเหล่านั้น ปืนใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วที่เราสร้างเป็นพิเศษ มีความสามารถทางสมรรถนะตำกว่า แตกหักง่าย ปากกระบอกหนาและหนัก พวกมันไม่ใช่วัตถุที่จะแบกไปแบกมากัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

 「นายบ้าไปแล้วอย่างหนักเหรอ?」   

 「ไม่ ไม่มีปัญหา แต่เราต้องแยกขบวนแถวแฟแลงซ์ออกมาเดี่ยวๆก่อน มาให้ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ไปแทนปืนใหญ่เถอะ」   

 「ได้เลย มาออกศึกกันเถอะ……ชั้นมีบางอย่างต้องพูดกับนายทีหลังนะ ลีโอโพลต์」   

 「หูผมพร้อม」   

ทั้งสองกองทัพ เดินทัพหากันอย่างช้าๆ และมีแค่ระยะสั้นๆ ก่อนที่เราจะถึงระยะที่เราปล่อยลูกธนูได้ กองทัพของโกลโดเนีย ตกใจเล็กน้อย หลังจากเห็นขบวนแถวที่แปลกประหลาดของมากราโดเป็นครั้งแรก ผมยืนที่ข้างหน้า กวัดแก่วงหอกของผม

 「ไม่ต้องกังวล ชั้นได้กำจัดขบวนแถวนั้นมาก่อน ไม่มีอะไรต้องกลัว! มันเหมือนกันกับการแทงผู้หญิงอย่างง่ายๆ หลังจากที่เปิดซิงเธอไป!」   

ทั้งที่เงียบไป เหี้ยละ  ผมพลาด

 「ซัดมันให้หมอบ! ช้าร์จจจจจจ–!!」   

 「โอ๊ะ โอออออ้—-!!?」   

ผมพยายามจะเนียนไปด้วยกำลัง และตะโกนต่อไป นั่นเกือบไปแล้ว

ศัตรูก็พุ่งเข้ามา เมื่อพวกเขาเห็นเราเร่งฝีเท้า ซีเลียติดอยู่ข้างผม กังวลว่าผมจะได้รับบาดเจ็บเหมือนครั้งที่แล้ว และสาบาน ว่าจะไม่แยกจากผมอย่างแน่นอน

ชวาร์ซร้องและดิ้นตัวเขาไปทางซ้าย มีหลายถุงห้องลงมาจากฝั่งซ้ายของเขา

 「พ่อจะทำอะไรกับพวกนั้น?」   

 「พ่อคิดว่าพ่อจะไปแทนปืนใหญ่」   

เพราะปืนใหญ่เคลื่อนที่ไม่ได้ ผมนำลูกบอลเหล็กหลายลูกมากับผม เห็นได้ชัดว่า พวกมันค่อนข้างที่จะหนัก เพราะชวาร์ซมอบหน้าตาที่ไม่มีความสุขนี้มาให้ผม บอกผมว่าให้รีบเข้าแล้วโยนไอ้พวกนั้นไปได้แล้ว

 「แม้ว่านายจะไม่บอกชั้น……นั่น!」   

ผมเขวี้ยงลูกบอลเหล็ก ไปที่กล่องที่ใกล้ที่สุด ยังมีระยะอยู่ระห่างพวกเรา ดังนั้นลูกบอลตีแนวโค้ง และตกลงไปสู่ตรงกลางของขบวนแถว ผมได้ยินเสียงเหล็ก แต่รายละเอียดนั้นไม่รู้

 「ที่เหลือมาแล้ว!」   

ผมเริ่มชินกับมันแล้วตอนนี้ ผมปล่อยลูกบอลในที่ดีๆได้ เริ่มจากนัดต่อไป นัดแรกกระแทกอย่างแม่นยำเข้าจากหน้าขบวนแถว และน็อคสองคนไปกับโล่ของพวกเขา เชิญชวญเสียงเชียร์จากพวกเดียวกัน

 「มันไม่ได้ทรงพลังอย่างที่คาดไว้ หอกอาจจะมีพระสิทธิภาพมากกว่า」   

 「แต่มันจินตนาการไม่ออกเลยสำหรับมนุษย์ที่จะแม้แต่ไปเขวี้ยงลูกบอลเหล็กหนักปานนั้นนะ」   

 「มันเป็นการออกกำลังกายที่ดี หลังจากบาดเจ็บ……โอว่า!」   

แค่เมื่อผมกำลังจะโยนนัดสุดท้าย ทหารม้าศัตรูแทงหอกใส่ผมกระทันหัน ผมทุบหัวเขาด้วยไอ้นั้นอยู่ในมือผมโดยสัญชาตญาณ ใส่น้ำหนักของผมทั้งหมดอยู่หลังมัน

 「กยู้-!!」   

จบเขา……หรือพูดให้ถูกต้องมากกว่า ที่จะพูดว่าเขาระเบิด หลายสิ่งเล็ดออกมมาจากทหาร ที่เข้าหาผมด้วยหอกของเขา และโดนทุบด้วยลูกบอลเหล็ก

 「มันเป็นนัดสุดท้ายของชั้นด้วย」   

 「ฮฮฮฮฮฮฮฮิ้!」 「บริซระเบิด!」 「อสูรรรรรรร!」   

ทหารม้าที่เหลือวิงหนี นี่มันมีประสิทธิภาพในวิธีของมันเอง ผมเดาว่า

 「ยังไงซะ โชว์ข้างๆนั่นจบแล้ว ดันไปข้างหน้า!」   

พวกเดียวกันและศัตรู ปะทะใส่กันเหมือนกัน ทหารที่ตะโกน และเสียงเหล็กกระทบกัน และเสียงร้องแห่งความตาย ทำเสียงของผมหายไป — นี่คือสนามรบ

พวกเดียวกันของเราดันพวกเขากลับไปอยู่ฝ่ายเดียว จากตั้งแต่เริ่มสู้ ทหารม้าศัตรู พยามจะขู่เราจากด้านข้าง แต่ทหารม้าธนูของเรา และทหารม้าของอาณาจักร บล็อควพกเขาไว้ ไล่พวกเขาไปแทน ระหว่างที่กองทัพอาณาจักรเอาชนะศัตรูจากข้างหน้า และแม้แต่กองทัพของลอร์ดบริวารได้ความเหนือกว่า ขณะที่พวกเขาล้อมไปรอบๆและโจมตีจากด้านข้าง

แต่ความเหนือกว่านั้น ก่อนที่จะปะทะกับขบวนแถวแฟแลงซ์อย่างแท้จริง คนแรกที่ท้าทายพวกเขา คือกองทัพขุนนางที่อยู่ในเครือของลอร์ดบริวาร

 「น-นี่อะไร? ปล่อยลูกธนู! แทงหอก!」   

 「ไม่มีพวกมันซักอย่างที่มีผล! เราหยุดศัตรูไม่ได้! พวกเค้าฉีกขบวนแถวของเรา!」   

ทหารราบหนัก ค่อนข้างที่จะช้า ด้วยน้ำหนักของอุปกรณ์และโล่ของพวกเขา แต่ก้าวเท้าที่ช้าๆและมั่นคงนั้น แบ่งกองทัพด้วยความแน่นอน จากนั้น เมื่อพวกเขาไปถึงบริเวณกลาง อีกคำสั่งหนึ่งได้ตะโกนออกมา

 「แยกออกไป!」   

โล่ของพวกเขาถูกโยนลงไปข้างล่าง และทหารกระจายไปทุกทิศทาง จากข้างในกล่อง พวกเขาเจอกับการต่อต้านที่น้อยนิดไปถึงไม่มีเลย ขณะที่พวกเขาโจมตีจากข้างในขบวนแถวของกองทัพ กองทัพขุนนางนั่นถูกทำลายไปในทันที และทั้งหมดของกองทัพลอร์ด หวั่นไหวจากการดูทุกอย่างคลี่คลาย

เพื่อทำให้เรื่องมันแย่ลงกว่าเดิม บางหน่วยของกองกำลังหลังขอกองทัพอาณาจักรข้างหน้า ถูกแบ่งออกเป็นสอง และขยี้ในรูปแบบเดียวกัน สภาพของการต่อู เปลี่ยนจากความได้เปรียบของโกลโดเนียที่ท่วมท้น ไปสู่ความเท่าเทียมกัน

ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆมาจากฐาน ที่ลีโอโพลต์อยู่ ผมเดาว่ามันใช่ไม่ใช่เวลาที่ถูกต้อง

 「แยกออกไป–!!」      

กล่องเปิดหลังจากที่ก้าวลึกเข้ามาในขบวนแถวของศัตรู ผมได้รอนั่นอยู่ หาจังหวะที่ศัตรูเปิดออกพอดี ผมกระโดดเข้าไปตรงกลางของกองทัพกับชวาร์ซ

 「ถ้านายจะเปิด งั้นหอกของชั้นก็ผ่านไปได้」   

ผมแทงศัตรูบนทางของผม และเกือกมม้าของชวาร์ซส่งพวกเขาบินไป ขณะที่ผมเดินหน้าไปสู่ตรงกลาง ของขบวนแถวของพวกเขา ชวาร์ซจะทำให้ทหารราบหนักบาดเจ็บ ถ้าเขาเหยียบอย่างไม่ระวัง ดังนั้นเขาพยายามจะเหยียบส่วนที่นุ่ม

 「อุว้าาา! เค้าอยู่นี่ เค้าอยู่นี่อีกแล้ว!」   

 「ทำไมเค้ามาโผล่แค่ต่อหน้าเราวะ!」   

มันดูเหมือนคนพวกนี้ มีส่วนร่วมในการโจมตีท่าแรดเดล พวกเขาเริ่มปากเสียใส่ผม ทันทีที่พวกเขาเห็นหน้าผม

 「หนวกหู! ชั้นไปที่ไหน มันไว้สำหรับชั้นตัดสินใจเอง」   

คุยเกี่ยวกับคนเหมือนเคซี่ ผมเหวี่ยงหอกของผม และส่งพวกเขาบินไป ผมได้ยินเสียงกรีดร้องในทิศทางที่ผมส่งพวกเขาไป ดังนั้น พวกเขาไม่ควรจะตาย ขอบคุณพระเจ้า

มันดูเหมือนจะมีศัตรูมาอยู่ไม่ขาดสาย ขณะที่ผมอยู่ในขบวนแถวของฝูงคน แค่เหวี่ยงหอกผมนิดหน่อยจะสร้างความวุ่นวาย ผมนขาดมือนิดหน่อย ดังนั้นผมวางหอกไว้ที่ไหล่ขอผมที่มือหนึ่ง จากนั้นดึงดูอัลเครเตอร์ด้วยอีกมือ จากนั้นหวี่ยงไปทีสองที 10 หรือ 20 เปลี่ยนเป็นศพอย่างง่ายๆ

 「คุ! ไอ้นี่ ชั้นแม้แต่หยุดเค้าได้ถ้าชั้นเสียสละชีวิตตัวเองมั้ย……อึ๋น?」   

ชายวัยกลางคนที่พูดรื่นหูถูกฟันเป็นสองซีก ทหารหนุ่มรีบตะโกนเข้ามาเพื่อแก้แค้น แต่กระเด็นไปในอากาศ ถูกแทงโดยหอกจากพวกของผมหนึ่งคน และสลบไปในความเจ็บปวด

ด้วยความสับสนใหญ่ ศัตรูเสียโอกาสที่จะโจมตี และพวกของผมสามารถที่จะฟื้นจากการที่ขบวนแถวถูกแบ่งออก รวมกลุ่มกันใหม่อีกครั้งสำเร็จ มันปรากฏว่ากองทัพที่อีริชฝึกไม่ได้อ่อนแอ ตอนนี้ศัตรูถูกแยกออกไปตามลำพัง ตรงกลางระหว่างเขตของพวกเดียวกัน

 「ตอนนี้ชั้นแค่ต้องหา และกำจัดผู้บัญชาการ เพื่อที่จะจบกล่องพวกนี้้……」   

เมื่อผมมองไปรอบๆ ผมเจอชายที่แต่งตัวดี ตะโกนปากมาก

 「นายทำอะไรอยู่!? ในสถานการณ์แบบนี้ นายควรจะเข้าสู่ขบวนแถวโจมตีอีกครั้ง ถอยหลังกลับชั่วคราว……」   

เจอเขาแล้ว

 「เจอนายแล้ว มันเป็นนายใช่มั้ย!?」   

 「เก่ะ! ว้าาาาา! ใครก็ได้ปกป้องชั้นที! เร็วเข้าแล้วปกป้องชั้น!」   

ทหารศัตรูไม่กี่คนกันทาง และยืนระหว่างผมและผู้บัญชาการที่หนีไป

 「นายขวางทางอยู่」   

ผมสไลซ์พวกเขาหนึ่งคนด้วยหอก น็อคอีกคนในอากาศ และฟันเขากลางอากาศไปสู่คนที่สาม แต่ดาบของคนที่สี่เฉี่ยวหน้าชวาร์ซ และทำเขาเสียสมดุลย์

 「ไอ้ระยำ!」   

ผมแทงผ่านหัวใจของทหารคนที่สี่ และโยนเขาไปข้างๆ แต่ตอนนี้ผู้บัญชาการได้วิ่งไปไกลแล้ว มันเลี่ยงไม่ได้ มันอาจจะใช้เวลาอยู่บ้าง แต่ผมจะทำให้แน่ใจ……

 「กุ่เกี๊ยะ-」   

ลูกธนูบินตรงผ่านคอผู้บัญชาการที่วิ่งอยู่ หันกลับไปเพื่อดูว่ามันมาจากไหนกัน ผมเห็นปีปี้ ปล่อยพวกมันจะหว่างขี่ไหล่คริสตอฟ ด้วยคนทั้งหมดในการต่อสู้ระยะประชิดแบบนี้ ปีปี้ตัวเล็กไม่มีทางที่ชัดให้ยิง มันเป็นครั้งแรก ที่คริสตอฟได้มีส่วนช่วยในการต่อสู้

 「กกุ่……ห-หนัก……ให้เธอลงเร็วๆ」   

จริงอ่ะ ส่วนไหนของปีปี้ที่หนัก ที่ฉันยกเธอได้อย่างอย่างๆด้วยมือเดียว? ถ้านายแม้แต่ทำอย่างนั้นไม่ได้ งั้นนายจะไม่สามารถยกผู้หญิงแล้วเย่อเธอนะ

มันเป็นตอนนั้นธนูไฟสีเขียวถูกยิงไปในอากาศจากฐาน มันดูเหมือนพวกเขาพร้อมแล้ว

 「รักษาขบวนแถวระหว่างที่ถอยหลังช้าๆ」   

กองทัพทั้งหมดล็อคกันอยู่ในความดิ้นรนหาคนเหนือกว่า ทิ้งการต่อสู้ของพวกเขา และพวกเดียวกันของผมเริ่มถอยกลับไปอย่างช้าๆ ศัตรูตัดสินใจว่าเราทนแรงกดดันของพวกเขาไม่ได้ และได้เข้าสู่ขบวนแถวแฟแลงซ์อีกครั้ง และเดินทัพมาข้างหน้าอย่างช้าๆ

บนฝั่งขวาและซ้ายของศัตรู มี 500 ทหารม้าวิ่งตีขนานกับขบวนแถวของพวกเขา พวกเขาถือวัตถุติดไฟบางอย่างอยู่ในมือ

 「นั่นอะไร?」   

 「ดูเหมือนอาวุธตีเมือง」   

น้ำมัน ถูกเทลงไปในหม้อพอร์ซเลนและไฟโผล่มาที่ผิวด้วย ถ้าพวกเขาติดเชือกกับมันหลังจากควงไปรอบๆไม่กี่ครัง ที่ที่โดนโจมตีจะเผาไหม้อย่างดุร้าย

มันไม่ใช่อาวุธตีเมืองเป็นพิเศษ มันไม่มีระยะมาก ดังนั้นมันต้องการคนใช้ที่จะต้องเข้าไปใกล้ และดังนั้นจะทำให้พวกเขาเป็นเป้าหมายที่จะถูกโจมตีด้วยลูกธนู มันไม่มีผลมากกับกำแพงหิน และมีจุดอ่อนอีกมากมาย ดังนั้นไม่ได้มีประโยชน์มากสำหรับอาวุธนี้ แม้ว่าไฟจะทรงพลัง

บางที มันตัองสินใจแล้ว ว่ามันจะมีผลกับทหารราบหนัก และบนความเชื่องช้า มนุษย์ ยังมีคนอยู่ใต้ชุดเกราะ

 「อึ๋น? ด้านข้างศัตรู……ไม่ เท้าของพวกเค้า? ทำไมพวกเค้าไม่โยนมันไปตรงกลาง?」      

ทหารม้าโยนหม้อน้ำมันไปที่ด้านข้างของศัตรู หรือพูดอีกอย่าง ทหารที่อยู่นอกสุด แค่พอที่จะเผาเขา และไม่ได้ตรงๆใส่ตรงกลาง

 「ยังไงซะ นี่เป็นที่ลีโอโพลต์ทำ แค่ผ่อนคลายและดูเถอะ」   

ทหารม้าเหล่านั้น น่าจะถือหม้อน้ำมันพวกนั้นมาด้วยมือ และไม่มีแม้แต่หอกกับพวกเขา พวกเขาเข้าหาหลายครั้ง จากด้านข้าง และโจมตีแฟแลงซ์ด้วยฟจากด้านข้าง มันอาจจะดูเหมือนการโจมตีพวกนี้ ไม่ใช่อะไรนอกจากการก่อกวน แต่การโจมตีไฟจากด้านข้างพวกนั้น ดันกล่องเข้าใกล้กันและกันอย่างช้าๆ

 「เข้าใจแล้ว มันไม่เหมือนว่าพวกเค้าเดินลุยไฟได้ ไม่ว่าโล่จะใหญ่แค่ไหน」   

ทหารที่อยู่ตรงขอบของขบวนแถว โฟกัสบนการรักษาแถว และไม่มีทางที่เขาจะยินดีเดินลุยไฟ ในท้ายที่สุด ทั้งขบวนแถวกล่อง เบี่ยงไปใกล้ตรงกลาง และกล่องข้างกัน ถูกดันให้เปลี่ยนทิศทางด้วย

 「งั้น พวกเค้ารวมกันที่ตรงกลาง」      

 「เข้าใจแล้ว……แค่อีกนิดหน่อย」   

กองทัพอาณาจักรถอยอย่างช้าๆเหมือนเคย และกองทัพส่วนตัวของผมไม่ได้เคลื่อนไหตั้งแต่ทีแรก มันไม่ใช่เพราะอู้งาน แต่พวกเขาไม่เหมาะกับการต่อสู้ธรรมดา

ทหารม้าโจมตีซ้ำๆอีกหลายครั้ง และรอจนกว่าขบวนแถวกล่องของศัตรูเกือบจะชิดกัน ก่อนที่จะยิงธนูใส่พวกเขา ลูกธนูเหล่านั้นไม่ใช่ลูกธนูธรรมดา แต่เป็นลูกธนูไฟ ที่ใช้ในการตีเมือง

 「อุว้าาา!」 「ร้อน!」      

ลูกธนูไฟไม่เจาะทะลุโล่เหล็ก แต่พวกมันยังสามารถก่อกวนฟุตเวิร์คของทหารร เมื่อมันถูกสะท้อนและตกที่เท้าของพวกเขา แม้ว่าไฟที่เล็กน้อยนิดเดียว ที่เผาตัวของเขา จะทำให้พวกเขาดึงเท้าถอยด้วยปฏิกิริยาตอบสนอง แต่นี่มันยังไม่จบ

บาลิสต้าถูกใช้ต่อ……ยิงลูกธนูไฟใหญ่ที่ส่งโล่บินไป และทหารไฟลุก เพิ่มเติ่มจากนั้น ทหารของกองทัพส่วนตัวเข้าสู่ขบวนแถวป้องกัน และโยนหม้อติดไฟที่มีน้ำมัน และส้างไฟใช้พวกเขา ไฟนับไม่ถ้วน ห่อหุ้มข้างหน้าของศัตรู

 「ไฟข้างหน้า! กระทืบมัน!」   

 「พวกมันมาจากทุกที่เลย เลื่อนโล่ไปเราเห็นอะไรที่ยู่ข้างหน้าเราไม่ได้」   

ศัตรูต้วมเตี้ยม และมีวิสัยทัศน์ที่ห่วย พวกมันไม่ควรจะสามารถรับมือกับไฟที่มาใส่พวกเขาจากทุกทิศทางได้

 「ช่างเป็นไฟที่เหลือเชื่อ…… แต่ไม่ใช่ว่ามันจะดีกว่าเหรอ ที่จะทำนี่ตั้งแต่แรกน่ะ?」   

 「ไม่ ศัตรูจำเป็นต้องแพ็คหากันแน่นๆ และที่สำคัญกว่านั้น ทหารราบและทหารม้าที่ส่งมารอบๆพวกเค้า มาอยู่ที่นี่ไม่ได้ ทหารที่ถูกสั่งไปให้จุดไฟ ไม่ได้ใส่อุปกรณ์ที่ไว้สู้ศัตรู ที่เคลื่อนไหวไปรอบๆได้อย่างอิสระ」   

เนื่องจากการต่อสู้ที่ดุดันก่อนหน้า ทหารราบและทหารม้าที่ไม่มีการป้องกันจากกล่อง ได้กระจายไปแล้ว และไม่สามารถที่จะทำหน้าที่ของพวกเขาได้ นั่นคือที่เรา สามารถจะทำตามใจได้ตอนนี้ยังไง แต่ถึงอย่างไร ไม่ใช่แค่ข้างหน้า แต่ไฟ ซึ่งลุกโหมใส่พวกเขาจากซ้ายและขวา ลุกอย่างรุนแรกด้วย เขาทำได้ดี ที่รวมศัตรูเข้าที่ที่เขามีเป้าหมาย

 「เดิน! เดินเว้ย! เราจะถูกเผาตาย!」   

 「อย่าแตกแถว! เราจะถูกยิงด้วยธนู」   

 「อย่ามาไร้สาระน่า! นายจะบอกให้เราอยู่ในไฟนี้เหรอไง!」   

 「ถอยเหอะ! เราจะถูกฆ่าหมดนะถ้าแบนี้!」   

พวกเขาจะไม่แค่รักษาขบวนแถว ระหว่างที่อยู่ในไฟที่ลุกโชน ดังนั้น ศัตรูส่วนใหญ่ทิ้งโล่ และไปหาที่ที่ไม่มีไฟไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ลูกธนูไฟที่ตกใส่พวกเขา พิสูจน์ความมีประสิทธิภาพของมัน หล่นไป และเผาทหารที่แตกขบวนแถว

ทหารม้าธนู เตรียมสำหรับนรกทันทีที่พวกเขาปล่อยลูกธนูไฟ พวกเขาใส่เพิ่มเข้าไปที่ภาพที่มันโหดร้ายอยู่แล้ว ไม่มีโอกาสใดๆแล้วสำหรับผมที่จะไปบู้ประชิดกับพวกเขา ผมเลยกลับไปที่ฐาน และไปยืนข้างลีโอโพลต์

 「นั่นมันเหลือเชื่อเลยนะ」   

 「มันด้วยเหตุผลนี้ อาวุธตีเมืองถึงได้ถูกส่งมา ขบวนแถวกล่องของทหารราบหนัก โดยพื้นฐานแล้วทำให้มันเป็นปราสาทบนสนามรบ ดังนั้น เราแค่ต้องมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม และเราควรจะสามารถกำจัดพวกเขาได้」   

ศัตรูที่ข้างหน้าขบวนแถวได้เสียขบวนแถวไปแล้ว และพยายามจะหนี แต่ทหารที่แพ็คข้าด้วยกันที่ข้างหลัง เลี่ยงไม่ให้พวกเขาทำอย่างนั้น หน่วยข้างหลัง ไม่สามารถที่จะเข้าใจสถานการณ์บนสนาม และยังเดินหน้าไปข้างหน้าต่อ

 「มันได้เวลาแล้วตอนนี้」   

 「งั้นชั้นจะมอบโทษของความตายให้พวกเขาเหรอ?」   

 「นั่นเป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการสูงสุด แล้วก็ยังเป็นสิทธิพิเศษด้วย」   

ให้ตายซี่ <วายุ: ยาเระยาเระ> เราถูกดันกลับโดยศัตรู และถอยถึงจุดที่ที่เรามีแผนที่จะซุ่มโจมตีศัตรูตั้งแต่ตอนแรก ถ้าเป็นแบบนั้น เราควรจะสามารถใช้พวกมันได้

 「ปืนใหญ่ทั้งหมด……ยิง!」   

ปืนใหญ่ คำรามอย่างดัง ดังพอที่จะดึงเสียงกรีดร้องจากศัตรู และแม้ว่า 10 ปืนใหญ่ ยังดูเหมือนเป็นจำนวนที่เล็กน้อย หลังจากที่ได้เป็นพยาน การเน้นการยิงปืนใหญ่จากกองเรือสหพันธรัฐ มันควรจะมีพลังมากพอในระยะใกล้

แม้แต่ทหาร เกือบจะรักษาแถวไว้ไม่ได้อยู่แล้ว และถูกส่งบินไปโดยลูกเหล็กที่ยิงใส่เขาจากข้างหน้า และถูกกำจัด โดยไม่มีการต่อต้านใดๆ

ในที่สุด ศัตรูเริมหนีพ่าย และพวกเขาทั้งหมดรีบจะหนี หลังจากที่ได้โยนดาบและโล่ทิ้งไป หน่วยด้านหลัง ที่เทียบกันแล้วมีการเสียกำลังพลจำนวนน้อยกว่า ยังจะเดินหน้า ในการเผชิญหน้ากันทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั่น

 「ทุกหน่วย……ชาร์จ!! ฆ่าพวกมันให้หมดทุกคน!」   

กองทัพอาณาจักร กองทัพส่วนตัว ทหารและทหารม้าทั้งหมดปนกัน และไล่ตามศัตรู กองทัพลอร์ดบริวารที่วิ่งหนี ได้รวมตัวพวกเขาและไล่ตามไปด้วยเหมือนกัน การกระทำที่เป็นระเบียบดีไม่จำเป็นต้องถูกทำอีกต่อไป เราแค่ต้องล่าศัตรูและฆ่ามัน มีโอกาสที่บางๆที่ทหารราบหนักจะวิ่งแซงเรา

ด้วยการต่อสู้วันนี้ และการไล่ตามไปที่ตามมา มันปรากฏว่า กองทัพมากราโด ได้เสียกองกำลังไปใกล้กับ 30,000 ใน 35,000 ทหารส่วนใหญ่ ได้กลายไปศพที่ไหม้เกรียม ผมเลยมั่นใจไม่ได้ถึงจำนวนที่แน่นอน แต่มันชัดเจน ว่าพวกเขาแพ้ราบ มากขนาดนี้ควรจะพอที่จะทำให้พวกเขาหมดใจที่จะสู้แล้ว โดยเฉพาะเมื่อทหารราบหนักอีลิทของพวกเขา ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง

 「จุดจบสงครามใกล้เข้ามาแล้วเหรอ?」   

 「นือโม๊ะ…… นือโม๊ะโม๊ะ!」   

ผมพึมพำ ระหว่างที่ลูบหัวของผู้หญิงห้าคนเบาๆ ที่สู้เพื่อที่จะเอาเอ็นของผมเข้าปาก

พูดถึงแล้ว คริสตอฟโดนโล่ที่ทหารโยนโล่ใส่เขาในความสิ้นหวัง ระหว่างที่ไล่ตามศัตรู และถูกน็อคร่วง เขาเลยจัดการทหารซักคนในครั้งนี้ไม่ได้ด้วยเหมือนกัน

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม

ผู้บัญชาการกองทหารที่สาม

ทีมลูกน้อง: 39,900

กองทัพส่วนตัว: 7900 (หน่วยที่ถูกพามาเพื่อต่อสู้เท่านั้น)

ทหารราบ: 2500, ทหารม้า: 500. พลธนู: 700, ช่าง: 300, ทหารม้าธนู: 3900 ปืนใหญ่: 8 (เสียหาย 2 เมื่อยิง)

กองทัพของอาณาจักร – 2 เหล่า: 25,500

กองทัพลอร์ดบริวารเพื่อนบ้าน: 6500

เพิ่มเติม – ทีมป้องกันราเฟน : 1000

ลูกน้องกองทัพ:

ลีโอโพลต์ (รองผู้บัญชาการสูงสุด), ซีเลีย (ผู้ช่วย), ไมล่า (ผู้บัญชาการ), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการของทหารม้าธนู), ปีปี้, ทริสตัน (เฝ้าบ้าน), กิโด้ (อาการสาหัส)

ตำแหน่งปัจจุบัน: เดินทางจากที่ราบนอร์ด ไปสู่เมืองหลวง โอโดรอส

ความสำเร็จ: ยึดท่าแรนเดล, กวาดล้างกองทัพมากราโด

—————————————————————      

ผู้แปล:

สวัสดีครับ wayuwayu ครับ

จะขอแจ้งข่าวร้าย ละข่าวดีทีจะมาช้าซักหน่อย

ผมจะเปลี่ยนแนวการแปล เป็นการแปลทีละเรื่อง เพื่อที่จะเหมาะแก่การรับชบ มากกว่า หนึ่งตอนในหนึ่งวัน 20:00 โดยจะเริ่มอัพโหลดเมื่อ 17:00

ข่าวดีก็คือ เอเกอร์จะเป็นเรื่องที่สาม ซึ่งจะต่อจาก “นักดาบนุ่มนิ่มกับพลังโจมตีศูนย์” เป็นเรื่องแรก และ “ผมตื่นมาควบคุมยานอวกาศที่แข็งแกร่งที่สุด” เป็นเรื่องที่สอง เอเกอร์จะตามหลังจากนั้น

คาดว่าจะได้ทำเอเกอร์ตอน เดือน 3/2567 วันที่ 1 ถ้ากำหนดการเปลี่ยนจะแจ้งล่วงหน้า หรือสอบถามได้ที่ Fackbook

ขออภัยและขอบคุณที่ติดตาม

 แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ สปอนเซอร์ตอนให้อัพโหลดตอนเพิ่มทันที แจ้งได้ทาง Facebook ครับ

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท