ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 156 สงครามมากราโด ⑧ จุดจบของนักรบ

ถนนสู่อาณาจักร

156 สงครามมากราโด ⑧ จุดจบของนักรบ

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

หลังจากชัยชนะของเราในที่ราบนอร์ด  ไม่มีศัตรูในบริเวณที่จะมายืนประจันหน้าเราได้แล้ว มันควรจะแค่เหมือนที่รกร้างที่ไม่มีคนอยู่……หรือเราคิด

「นี่มันคาดไม่ถึง」

「มันไม่ได้ดีเลย์เรามาก แต่นี่ไม่ดี」

ลีโอโพลต์และไมล่ามีหน้าที่บูดบนหน้าของพวกเธอ

อิริจิน่าและทหาร 300 คนที่ถูกแต่งตั้งให้เธอ กลับมาหารเราจากด้านข้าง พวกเธอถูกส่งไปที่หมู่บ้านเกษตร ใกล้กับถนน เพื่อให้เขายอมแพ้เรา……แต่ควันดำที่ขึ้นมา และหน้าตาของพูดหญิงที่บูดบึ้ง บอกผมว่าบางอย่างเกิดขึ้นนะ

「หมู่บ้านนั้นก็เหมือนกันด้วยเหรอ?」

「หนูบอกเค้าว่าหนูจะไม่รุนแรง ตราบใดที่พวกเค้ายอมแพ้…….แต่ชาวบ้านทั้งหมดชี้ดาบมาใส่หนู หนูเลยไม่มีทางเลือก นอกจากเผาทุกอย่างลง」

ผมโทษอิริจิน่าที่ทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆหรอก ถ้าชาวบ้านเมินคำแนะนำของเธอที่จะให้ยอมแพ้ และแม้แต่ถืออาวุธใส่เธองั้นพวกเขาไม่ใช่อะไรนอกจากทหารของศัตรู มันธรรมชาติ สำหรับพวกเขาที่จะถูกกวาดล้าง แต่ผมหวังว่าแค่ผู้หญิงและเด็กน้อยไม่กี่คนมากๆ จะติดร่างแหกับความเละเทะนี้นะ

「หมู่บ้านทั้งหมดบนทางมาตั้งแต่ท่าแรนเดล เป็นแบบนี้ กองกำลังของพวกเค้าไม่ได้พิเศษอะไร แต่นี่ไม่ได้รู้สึกดีจริงๆ……」

มันตรงๆเหมือนที่ไมล่าพูด เราเผาทุกๆเมืองและแต่ละเมืองและหมู่บ้าน ที่เราเจอบนทางไปที่เมืองหลวง เราไม่ได้ปล้นสะดมหรือขโมยจากที่นั่น แต่พลเมืองหยิบอาวุธใส่เรา มันไม่ใช่แค่เมืองที่มีคนไม่กี่คน แต่แม้แต่หมู่บ้านเล็กๆที่มีคนไม่กี่สิบ ก็ยังก่อตั้งกองทัพทหารอาสา และโจมตีเราตอนกลางคืน หรือซุ่มโจมตีเรา แน่นอน ไม่มีทางที่มือสมัครเล่นของมือสมัครเล่นส่วนใหญ่ จะทำให้เราล้าช้าลงได้ด้วยการโจมตีไม่ทันตั้งตัว และโดนตีพ่ายไปแทน

「การคิดเกี่ยวกับการปกครองพวกเค้าในอนาคต ด้วยความไม่เป็นมิตรกับเรามากขนาดนั้น ทำให้หัวพี่เจ็บ」

「ไม่มีทางที่เราจะปกครองคนพวกนั้นได้」

ผมให้ผู้หญิงมาและให้เธอดูดผม แต่เห็นได้ชัดว่า มันทั้งหมดเป็นการหลอกลวง และเธอกัด แรงที่สุดเท่าที่เธอทำได้ เดชะบุญ ธอค่อนข้างเป็นผู้หญิงที่สวยอยู่ และกะปู๋ของผมมันแข็งพอที่ฟันของเธอไม่ได้ไปตลอดทาง แค่นำการกระตุ้นที่มากกว่ามาให้ผม และทำให้ผมน้ำแตกทั่วเธอ เธออาละวาด ตะโกน ‘ชั้นจะฆ่าแก ศัตรูของผัวชั้น’ ระหว่างที่ปกคลุมไปด้วยน้ำเงี่ยนของผม ผมยอมแพ้ และเอาเหรียญทองให้เธอไม่กี่เหรียญและปล่อยเธอไป เธอโยนมันกลับมาใส่ผม

「ชั้นสงสัยว่าทำไมพวกเค้าเกลียดเรามากขนาดนี้」

「ดั้งเดิมแล้วมากราโดปกครองตามรัฐ ความไม่เป็นมิตรกับโกลโดเนีย น่าจะถูกปลูกฝังแม้แต่ก่อนหน้าความขัดแย้ง……พวกเค้า อาจจะพิจารณาว่าทหารที่ตาย  ที่พวกเค้าส่งไปที่เทรีย คือการเล่นโกงของฝั่งเรา」

「นี่มันน่ารำคาญนะ แต่มันจะไม่เปลี่ยนสิ่งที่เราต้องทำ – ล้มเมือหลวงและขยี้มากราโด เราทิ้้งปัญหาเรื่องที่จะรับมือกับพลเมืองยังไง ให้กับคนที่จะปกครองบริเวณนี้ละกัน」

ไมล่าเป็นทหารอย่างบริสุทธิ์ ดังนั้นเธอคุ้นเคยกับการเมือง แต่อะไรที่เธอพูด ถูกต้องอย่างแน่นอน แทนที่จะกังวลไม่จำเป็น อย่างแรกคือล้มเมืองหลวง

「โชคดี การได้รับเสบียงจะง่าย」

ลีโอโพลต์ พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา มันเป็นที่รู้กันดี ว่าเราต้องจ่าย เพื่อที่จะได้สิ่งใดๆมาเช่นอาหาร ถ้าหมู่บ้านยอมแพ้และตกอยู่ใต้การควบคุมของเรา แต่เราเอาทุกอย่างมาฟรีได้ ถ้าพวกเขาต่อต้าน

「ศัตรูโจมตีด้านหลัง ดูเหมือนจะเป็นทหารอาสา」

「เล็งไปที่หน่วยขนส่ง งั้นเหรอ……ช่างโง่」

มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง ที่จะเล็งไปที่หน่วยขนส่ง ที่คุ้มกันเบาๆ แต่เพราะกองทัพของผม มีทหารม้ามากกว่า พวกเขาต้อบโต้ได้เรียกว่าการโจมตี ทหารม้าจะคววบไปถุึงบริเวณ เร็วกว่าชาวบ้านจะเสร็จภารกิจด้วยเท้าได้แน่นอน

「ไม่มีความจำเป็นต้องรับมือกับพวกเค้า 500 ทหารม้าธนูอยู่ที่นั่น และกวาดล้างพวกเค้าได้อย่างง่ายดาย」

「ชั้นรู้ อย่าไปสนใจพวกเค้าและทำต่อไปเถอะ」

ฮ่าาา ผมอยากจะชิมผู้หญิงของมากราโดบ้างจัง

—————————————————————

เราเดินทัพกันต่อ ระหว่างที่ป้องกันการต่อต้านของชาวนา และซากของกองทัพมากราโดที่พ่ายแพ้ จนกว่าเราจะได้รับการบอกจากอีริช ว่าเขาเจออีกครึ่งของกองทัพศัตรู และกำจัดพวกเขาด้วยกองทหารที่หนึ่ง

เห็นว่า เพื่อที่จะรับมือกับกลยุทธ์ทหารราบหนัก เขาล่อพวกเขาไปที่บริเวณที่เป็โคลน ที่ชุ่มเพราะฝนตกหนัก และใช้อาวุธตีเมืองเหมือนเรา เพื่อที่จะกำจัดพวกเขา พวกเขาปะทะกับศัตรู ที่มากว่าหลายเท่าหลังจากนั้น และใช้จังหวะจากชัยชนะจากททหารราบหนัก เพื่อที่จะดันกองทัพศัตรูไปทั่ว จนกว่าในท้ายที่สุดเข้าไปในเมืองๆหนึ่งง และกวาดล้างพวกเขา

「อย่างที่ขนาดของบางคนที่มีความสามารถอย่างเค้า」

ผมไม่ได้มีโอกาสมากที่จะสู้ข้างอีริชหลังๆ แต่ผมรู้ว่าเขาเป็นผู้บัญชาการและนายพลที่ยอดเยี่ยม ผมสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าจับลีโอโพลต์ไปเข้าสังเวีบนเจอเขา

「มีบางอย่างที่ต้องการเหรอ?」

「ป่าว ไม่มีอะไร」

ไม่ว่าจะกรณีไหน เราไม่ควรจะเจออะไรอื่นบนทางไปเมืองหลวง นอกจากการโจมตีเล็กๆเหล่านั้น

มันดูเหมือนกองทหารที่สอง ได้ทำปฏิบัติการลงพื้นของพวกเขาสำเร็จ และล้มเมืองที่ลอร์ดบริวารและกองทัพของเขาหมกกันอยู่ พิจารณาขนาดของเมือง ศัตรูไม่ควรจะมีกองกำลังมากกว่า  5000 ผมอยากจะหาจริงๆว่าบนโลกนี้พวกเขาดิ้นรบกับกองทัพแมงหวี่ 5000 คนได้ยังไง

อีริชบอกผม ว่าให้ปฏิบัติดั่งพวกเขาไม่มีตัวตน

「มันดูเหมือนเราจะไปที่เมืองหลวงก่อน มาตั้งแคมปฺ์ก่อนที่พวกเค้าจะมาที่นี่เถอะ」

เรานำช่างของเรามาในครั้งนี้ด้วย พวกเขาไม่ได้ทำอะไร นอกจากสร้าง แม้แต่ในเเวลาสันติ ไม่มีกลุ่มไหนที่จะเก่งการสร้างแคมปฺ์ไปกว่าพวกเขาแล้ว

「เราให้ทหารประมาณ 5000 หนีไป ระหว่างที่กองทหารที่หนึ่ง ไม่ได้ให้พวกเขาวิ่งหนีจริงๆ ดังนั้นควรจะมีทหารประมาณ10.000 ถูกปล่อยไว้ในเมืองหลวงทั้งหมด แต่เมื่อดูมันตอนนี้นะ พวกเค้าอาจจะเชิงรุกไปใช้พลเมืองในการต่อสู้ป้องกัน」

เมืองหลวงของมากราโด โอโดรอส มีจำนวนประชากร 20,000 ทำให้มันยากสำหรับเรา ที่จะพลังท่วมท้นใส่เขาด้วยกำลังดิบๆ แม้ว่าเราจะไม่รวมเด็กเล็กๆและคนแก่ ในกองกำลังทหารของพวกเขา แต่เมื่อพูดนั่นน่ะ เรายังขยี้พวกเขาได้ ถ้าพวกเขาออกศึกมาด้วยตัวเอง

「เดาว่ามันดีกว่า ที่จะล้อมพวกเค้าและรอ」 

「โชคดี เราสามารถที่จะก่อตั้งเส้นทางเสบียงผ่านแม่น้ำได้ ต้องขอบคุณสหพันธรัฐ เราจะไม่มีปัญหาแม้ว่าจะอยู่ในการตีเมืองที่ยืดเยื้อ」

「แต่ชั้นอยากจะจบเร็วและกลับไปที่บ้านมากกว่า……ยังไงซะ ชั้นมั่นใจว่ามันจะไม่นานเกินรอ」

ผมรู้สึกมันด้วยสัญชาตญาณ

「ยังไงซะ ชั้นจะกลับไปที่รถม้าแป้ปนึง」

「ได้โปรดระวังเรื่องความดังของเสียงของคุณ เพราะทั้งหมดทหารถูกห้ามไม่ให้ข่มขืน」

มันขัดใจเเมื่อผมถูกบอกโดยลีโอโพลต์ด้วยหน้าตรงๆ

「เอ่ะเฮ่ม ย-ยังไงซะ ชั้นก็จะไปพักซักหน่อยด้วย…….」

ไมล่าตามผมมา

「อยากจะทำมันในชุดเกราะมั้ย?」

「ห-หนูไม่ได้ไม่เหมาะสมขนาดนั้น!」

「ถ้าอย่างนั้น ร้องให้พี่หยุดระหว่างขี่อยู่ข้างบนมั้ย?」

「หนูไม่ใช่ผู้หญิงสกปรกแบบนั้น!」

ผมคิดว่าลีโอโพลต์เพิ่งจะถอนหายใจอยู่ข้างหลังผม

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลที่สาม/มอลต์–】

ในเวลาเดียวกัน อาณาจักรมอลต์: เบียโด

「ทุกหน่วยออกศึก!! เป้าหมายของเราคือเมืองราเฟน ในดินแดนของฮาร์ดเลตต์! เราจะโจมตีให้เร็วเป็นไฟป่า และดุร้ายเหมือนพายุแรงๆ!!」

「ปรกติแล้วมันสลับกันโว้ย โง่ชิบเป๋ง」

พาโบลตะโกนอย่างดัง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ทหารที่ไม่ขยับ ในทางกลับกัน ฮิลาริโลแต่งตัวในชุดทางการ และสาปแช่งเขาจากด้างข้าง

「หุบปากเว้ย! ทำไมมึงอ่ะมาอยู่ที่นี่ ตั้งแต่ทีแรก? กูเป็นคนที่รับมือกับทุกอย่างเรื่องทหารนะไอสัตว์」

「การรุกรานเป็นปัญหาระดับประเทศไอ้ควาย และเพราะเราปกครองอาณาจักรด้วยกันไอเหี้ยโง่ เราให้คนนึงอยู่ข้างหลังไม่ได้ มึงไม่ต้องกังวลหรอกไอสัตว์ กูจะไม่แทรกแซง กูแค่จะดูจากข้างหลังไม่โง่เหมือนมึงหรอก」

「งั้นมึงไม่เห็นจะต้องมาเลยก็ได้ไอเหี้ย……」

ฮิลาริโอ ไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องกิจการทหาร ปรกติแล้ว เมื่อพาโบลไม่อยู่ที่วัง เขาจะคิดเกี่ยวกับการเดินหน้าดึงลอร์ดบริวารมาเป็นพวกมากกว่า

แต่อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าพาโบล สามารถที่จะนำทหารและยึดส่วนหนึ่งของพื้นที่ใหญ่ได้ด้วยตัวเอง? ความเชื่อใจจากลอร์ดบริวารและขุนนาง จะเพิ่มขึ้น และทริกกระจอกๆของเขาจะถูกเป่ากระเด็นทิ้งไป เพื่อที่จะเเลี่ยงนั่น ฮิลาริโอ จำเป็นต้องออกศึกด้วยตัวของเขาเอง เพื่อที่จะได้รับความสำเร็จมาด้วยเช่นกัน

แน่นอน ว่าเขาจะไม่เข้าไปในสนามรบที่อันตรายใดๆ และแค่ดูผลที่จะออกมาจากข้างหลัง ในโอกาสน้อยๆที่แผนของเขาพังทลาย เขาจะหนีในทันที และเราผลักความรับผิดชอบให้พาโบลได้ด้วย

「กูไม่คิดว่าไอเหี้ยพาโบลจะทำอะไรได้บาง ถ้าไม่มีบรูตัส แต่กูได้ยินว่าลอร์ดฮาร์ดเลตต์ไม่อยู่ เพราะสงครามระหว่างโกลโดเนียและมากราโด ไอ้เห้ยนั้น มันอาจจะความสามารถขี้ตีน แต่กองทัพ 10,000  คนน่ะ แม่งไม่ใช่ภาพลวงตา」

「มึงพูดส้นตีนอะไร พี่ชาย!?」

「ป่าว ไม่มีอะไรเหอะอย่าเสือก ที่สำคัญมากกว่านั้น คิดยังไงเกี่ยวกับการออกศึกทันทีไอสัตว์? ทหารไม่ได้ดูเหมือนพวกเค้าอยาจะฟังคำพูดที่น่าเบื่อของมึงเลยไอควาย แล้วก็ ถ้าหน้าเหี้ยอย่างมึงชักช้า มีโอกาสที่ลอร์ดฮาร์ดเลตต์จะกลับบ้านนะโว้ยไอเหี้ยโง่」

「ฮึ่ม ผู้ส่งสาส์นจากมากราโด บอกว่าการต่อสู้มันเข้าทางพวกเค้ามากกว่าไอสัตว์ เค้าจะไม่กลับมาระหว่างเวลานี้ไอควาย! บวกกับ กูนำปฏิบัติการรุกรานเป็นการส่วนตัวในครั้งนี้ไอสัตว์ และสิ่งต่างๆ เดินหน้าไปอย่างเป็นความลับไอควาย เมื่อถึงเวลาที่เขารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เราจะล้อมราเฟนไปแล้วไอควาย!」

「คงจะดีถ้าแม่งจริงเหอะไอสัตว์」

สัญญานให้รุกราน ถูกส่งออกไป และกองทัพ ที่ประกอบไปด้วยทหารของอาณาจักรมอลต์และทหารที่เกณฑ์ชั่วคราว ออกเดินทางจากเบียโดอย่างช้าๆ

—————————————————————

【–มุมมอง บุคลที่สาม/ทริสตัน–】

ครึ่งวันต่อมา

「ข่าวด่วนจากสายลับ ทหาร 10,000 จากอาณาจักรมอลต์เดินทางแล้ว ไม่ต้องสงสัยเกี่ยวกับมัน พวกเค้าจะมุ่งหน้ามาทางเหนือ สู่ดินแดนของเราครับ」

 「อ๊าาา……ชั้นว่าแล้ว」   

ทริสตันถอนหายใจออกมา ยาวพอที่จะทำให้ผู้ส่งสาส์นที่ส่งรายงานไม่สบายใจ เขารู้เกี่ยวกับการรวมกองกำลังล่วงหน้าไปเยอะแล้ว และได้เตรียมการมาตรการป้องกันแล้ว แม้อย่างนั้น เสียงก้องไม่จบสิ้น ของกาารถอนหายใจใหญ่ ทำให้เขาดูเหมือนเขากลัวที่จริงๆแล้ว จะเข้าไปสู่การต่อสู้

 「หน่วยสอดแนมยังตามพวกเค้าอยู่มั้ย? นานเท่าไหร่จนกว่าพวกเค้าจะมาถึงชายแดน?」   

 「หน่วยสอดแนมซ่อนตัวอยู่ ระหว่างที่ตามข้าหลวง การรุกรานของพวกเค้า ค่อนข้างที่จะช้า ดังนั้นมันจะใช้ประมาณ 10 วันสำหรับพวกเค้า ที่จะมาถึงชายแดน」   

ทริสตันเป็นผู้กอบกู้เดียว ของเครือข่ายหน่วยสอดแนมลับ และเครือข่ายข้อมูลที่ก่อตั้งโดยลีโอโพลต์ การเคลื่อนไหวของศัตรู ถูกอ่านอย่างสมบูรณ์แบบ

 「ฮ่าาา……งั้นเราจะดำเนินการไปตามแผน และอพยพคนใกล้กับชายแดน อย่างเป็นธรรมชาติ ได้โปรดช่วยขนส่งเสบียงอาหารด้วย」   

 「ผู้ส่งสาส์นออกไปแล้วครับ! สิ่งต่างๆ ดำเนินการอย่างราบรื่น」   

 「ฮ่า ไม่มีอะไรที่เราทำได้ตอนนี้ ที่มันมาถึงนี่แล้ว ชั้นเดาว่าชั้นจะแค่นำทหาร……และไปตั้งอยู่ที่ซานโดร่า เราเลี่ยงพวกเค้าจากการก้าวเข้ามาในดินแดนของเราไม่ได้จริงๆ แต่ลอร์ดฮาร์ดเลตต์จะโกรธ ถ้าเมืองล้ม」   

 「ถ้างั้น มาให้คุณ ผู้บัญชาการป้องกัน ถูกส่งไปที่นั่นโดยเร็วเท่าที่……」   

 「……ชั้นขี่ม้าไม่ได้ โปรดช่วยให้ชั้นขึ้นบนรถม้าที่เร็วที่สุดที่นายมีที」   

ผู้ส่งสาส์นจ้องอย่างว่างเปล่าไปที่ทริสตัน หัวหน้าสสูงสุดของการป้องกันดินแดน หรือทหารคนใดที่ขี่ม้าไม่ได้จริๆ ก็เหือนกับพ่อค้าที่คิดเลขไม่เป็น

 「ชั้นเป็นคนมาอาศัย ไม่ใช่ทหาร มันแค่ถ้าชั้นไม่ทำมันชั้นจะไม่ได้เงินไปซื้อหนังสือเลย และชั้นจะถูกส่งไปที่เหมืองด้วย ……อ๊าาาแค่คิดเกี่ยวกับมัน ก็ทำให้ชั้นอารมณ์เสียแล้ว」   

ทริสตันแพ็คหนังสือโปรดลงไปในกระเป๋า และเมื่อเขายืนขึ้นอย่างคับแค้นใจ ประตูเปิด

 「ทริสตัน! มันจริงมั้ยที่ศัตรูมา!?」   

นนน่าวิ่งเข้ามา พร้อมนมใหญ่ๆที่ส่ายไปของมัน เพื่อเลี่ยงตัวเธอเอง จากการล้มระหว่าที่ท้อง เธอมีเมดหลายคนช่วยจับตัวเธอไว้ การได้มีประสบการณ์ของความเห็นแก่ตัวโดยไม่คิดของผู้หญิงอย่างทั่วถึง สีหน้าของทริสตัน หม่นลงไปอีกนิด

 「โชคร้าย มันดูเหมือนอย่างนั้น ผมจะไปเพื่อสกัดกั้นพวกเค้าตอนนี้แหละ」   

วิธีที่เขาพูด แค่ทำให้ดูเหมือนว่า เขาจะไปซื้อของ ทำให้นนน่าถามอย่างไม่สบายใจอย่างรวดเร็ว

 「อะไรๆมันจะเป็นอะไรมั้ย!? เอเกอร์ซามะไม่อยู่ที่นี่ รู้มั้ยเนี่ย!?」   

พร้อมสามีที่รักของเธออยู่ที่นี่ เธอเชื่อใจอย่างแน่นอน ว่าอะไรๆจะไม่เป็นไร และแม้แต่มีใจเหลือที่จะไปผ่อนคลายด้วย ระหว่างที่ ไม่ว่ายังไง เธอก็รู้สึกสบายใจไม่ได้เลย กับชายที่ดูไร้กังวลคนนี้้ข้างหน้าเธอ

 「ฮ่าาา ยังไงซะอะไรๆมันจะไม่เป็นไร มั้ง? ยังไงมันก็อยู่ในความคาดหวังของผมแล้วไม่มากก็น้อยหลังจากทั้งหมด」   

 「มั้งเรอะ? ไม่มากก็น้อยเรอะ? ตั้งสติหน่อยซี่! ชีวิตของพวกเราทุกคนที่นี่ และลูกน้อยในท้องของเรา แขวนอยู่บนเส้นด้ายอยู่นะ! ถ้าซักเหตุผลนึงที่นายล้มเหลว และชั้นคลอดลูกคนนี้ไม่ได้ ชั้นจะแค้นนาย ไปตลอดชีวิตของชั้นเลย! แม้ว่าถ้าชั้นตายไป ชั้นจะเป็นผี และตามนาย จนกว่านายจะพินาศไปเลยนะ」   

 「……เข้าใจแล้วครับ ผมจะทำเต็มที่ละกัน」   

ฮ่าาา~ ทริสตันปล่อยถอนหายใจที่ใหญ่ที่สุดของวัน และมุ่งหน้าไปใต้

—————————————————————   

【–มุมมอง เอเกอร์–】

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา เมืองหลวงของมากราโด: โอโดรอส

 「ยิง!」   

ผู้บัญชาการแต่ละคนส่งสัญญาน และเครื่องดีดหินยิงหินและหม้อน้ำมันไปด้วยกัน วัตถุลอยบินไปเป็นแนวโค้ง ข้ามกำแพงสูงของเมืองโอโดรอส และลงพื้นข้างในเมือง เกิดควันสีดำ ตามมาด้วยเสียงกระแทกที่ดัง

 「เราแพ้พวกเค้าไม่ได้ ยิง!」   

ตามมาหลังจากเรา กองทหารที่หนึ่งของอีริช เริ่ยปล่อยการโจมตีของพวกเขา

ตอนนี้ อีริชและผม อยู่ด้วยกันในที่เดียวกัน วัตถุประสงค์เหมือนกัน ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่จะแยกเป็นสองฐาน เมื่อมาเจอกันใหม่ จำนวนรวมของกองกำลังของเรา มากกว่า 70,000 ดังนั้นมันจะดี ถ้าศัตรูออกมมาจากเมืองได้

 「มันเป็นซักพักแล้วนะ ที่ชั้นได้เห็นหน้านายบนสนามรบ」   

 「ใช่ พูดถึงแล้ว ชั้นได้ยินมาว่านายได้รับชัยชนะใหญ่เมื่อวันก่อน」   

 「ฮ่าฮ่า นายเป็นคนที่น่าประทับใจ กวาดล้างศัตรูในที่ราบ ชั้นแค่ต้อนพวกเค้าจนมุม หลังจากสู้หลายๆครั้ง」   

อีริชถอนหายใจ หลังจากที่เราเทียบความสำเร็จ

 「มาร์เควสฮูเวอร์ ทำอะไรอยู่กับกองทหารที่สอง……เค้าถูกทำให้ดูแลทางเหนือ ซึ่งสมควรจะตั้งการต่อต้านสุดท้าย แต่นี่คือผล ทหาร 30,000 ไม่สามารถเอามาใช้ได้เลยซักนิด แม้ว่าเขาจะแค่ไม่ให้ขายหน้ากับพระองค์ นี่มันมากเกินไป」   

เมือราชาตัดสินใจให้สามคนเป็นผู้บัญชาการกองทัพสูงสุด เขาเลี่ยงการแต่งตั้งหน้าที่ให้ฮูเวอร์ไม่ได้ แม้ว่ามันเป็นแค่หน้าที่สำรองและแม้ว่าฮูเวอร์จะได้รับอิทธิพลจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมของขุนนางกองทัพแม้แแต่ตอนนี้ ราชาก็แยกจากกองทัพของอาณาจักร ดังนั้น เขาน่าจะเลี่ยงดราม่าที่ไม่จำเป็นถ้าเป็นไปได้

แม้อย่างนั้น อีริชจินตนาการไม่ได้ว่าเขาจะไร้ประโยชน์มากปานนี้ หลังจากทีรับใช้กองทัพมานาน ถ้า 30,000 นั้นมาอยู่ตรงนี้ตอนนี้ มันจะเป็นไปได้ ที่จะพิจารณาการใช้กำลังดิบๆ เพื่อบังคับเราให้มีทางเข้าไป

 「มันไม่มีประโยชน์ ที่จะเสียใจกับความไร้ความสามารถของคนหัวหงอกหน้าเหี่ยวๆ เมื่อการต่อสู้นี่จบลง ชั้นจะขอให้เค้าเกษียณ ไปที่ที่อากาศดีๆซะเหอะ」   

 「นายมันค่อนข้างเป็นพิษนะ ไม่ใช่เหรอ」   

รอยยิ้ม คืบคลานมาบนหน้าอีริช นั่นใช่แล้ว สงครามควรจะทำระหว่างที่ยิ้ม

 「ไม่ว่ายังไง……นายไปได้ไอ้นั่นมาจากที่ไหนนั่น?」   

 「มันเป็นผลิตภัณฑ์เลียนแบบ โดยใช้ของของสหพันธรัฐเป็นแหล่งอ้างอิง แต่พวกมันเสียหายทันทีมันเลยยากที่จะหวังพึ่งมันน่ะ」   

แปดปืนใหญ่ยิงออกไปต่อหน้าอีริช ลูกเหล็กที่ถูกยิงออกไป ปะทะกับกำแพงหิน ส่งพลธนูที่ประจำการอยู่ข้างบนบิน และสร้างรอยแยกใหญ่ในพื้นผิว

แน่นอน ผมให้เขารู้แหล่งของผลิตภัณฑ์พวกนั้น ว่ามาจากคลอเดีย ที่ได้พวกมันมา จากช่องทางผิดกฎหมายไม่ได้

 「นายทำลายทั้งกำแพงไม่ได้เหรอถ้านายยิงนั่นน่ะ?」   

 「มันไม่ได้เรียบง่ายอย่างนั้น……อาา มันดูเหมือนอีกอันพังอีกแล้ว」   

ปืนใหญ่ทรงพลังแต่มันไม่ได้มีความแม่นยำพอ ที่จะโจมตีที่เดียวกันอย่างสม่ำเสมอหลายๆครั้ง และความทนทานขอมันต่ำเกินไป ที่จะจัดการยิงตัดสิน กับกำแพงที่ถูกต้องแบบนี้ แน่นอน ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ต่างไป ถ้าเรามีปืนใหญ่ มากกว่านี้เยอะๆ

 「มันใช้ความพยายามและเงินมากเกินไป」   

 「……เข้าใจแล้ว งั้นมันอาจจะดีกว่า ที่จะใช้เครื่องดีดหินนั่นแหละ」   

มันจะเป็นกรณีที่ดีที่สุด ถ้าเราพัฒนาปืนใหญ่ได้ แต่ช่างในดินแดนผม ไม่มีทักษะที่จะผลิดผลิตภัณฑ์ที่ทำโดยสหพันธรัฐซ้ำ

 「ไม่ใช่มันดูเหมือนการต่อสู้แค่กำลังจะสรุปแล้วเหรอ?」   

มีใกล้กับ เครื่องดีดหิน 100 ยิงวัตถุเข้าไปในเมือง และพลธนู 10,000 คนที่ยิงธนูไฟอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทหารม้าธนู ทั้งมิตรและศัตรูควรจะเข้าใจเหมือนกัน ว่าจุดจบใกล้เข้ามา บวกกับ ผมได้ยินว่า ศัตรูไม่ได้รับกำลังเสริมใดๆ

 「นายพูดถูก มันเป็นแค่เรื่องของเวลา แต่นี่ควรจะหมายถึง เมืองจะเป็นเหมือนนรกตอนนี้ พลเเมืองจะเกลียดเราค่อนข้างนิดหน่อยอย่างแหง」   

 「นั่นมันสายเกินไปนิดนะ ที่จะมาแคร์เกี่ยวกับนั่นตอนนี้」   

อีริชต้องได้เจอพลเมืองที่ลุกฮือ บนทางเดินทัพมา เขามองผมด้วยหน้าตาที่ขมขื่นบนหน้าของเขา

 「ไม่ว่าจะกรณีไหน เราควรจะล้มเมืองให้เร็ว เคนเนธน่าจะเป็นคนที่เรียกกองเรือสหพันธรัฐมาที่นี่ ถ้าอะไรๆมันต่อไปในแบบนี้ เค้าจะทำตัวว่าตัวเองสำคัญที่สุด」   

หลังจากที่กองเรือสหพันธรัฐทำลายทัพเรือของมากราโด  พวกเขาจอดเรือที่ท่าของโกลโดเนีย และผู้บัญชาการแม้แต่ประจำการทหารของเขาไว้ที่นั่น แน่นอนว่ามันดูเหมือนพวกเขาอยากจะตัดเข้ามา และจบสงคราม พวกเขาอาจจะเอาเปรียบเรา ถ้าเรารับมือกับอะไรอย่างแย่ๆ และดิ้นรนในการต่อสู้ของเรา

แค่เมื่อคำสั่งกำลังจะถูกส่งออกไป ให้เพิ่มความเข้มข้นของการโจมตี จู่ๆ ประตูเมืองก็เปิดออก

 「ประตูเมืองเปิด?」 「พวกเค้าจะชาร์จใส่เราเหรอ?」      

ทหารใกล้ๆเอะอะเกี่ยวกับมัน อย่างไรก็ตาม อีริชและผม รอก่อนที่จะทำการตัดสินใจ มันธรรมชาติที่จะเชื่อว่าเปิดประตูเมืองในสถานการณ์แบบนี้ เป็นสัญญานการยอมแพ้

ผู้ส่งสาส์นคนหนึ่งวิ่งมาข้างหน้า และเรียกออกมาในเสียงที่ดัง

 「ถ้าแกยอมแพ้ ชั้นสาบนว่าจะไม่มีการโจมตีใส่พวกแกต่อจากนี้ไป ทิ้งอาวุธและเรียงแถว……กุเกี๊ยะ !!」   

แต่คำตอบกลับมาให้ผู้ส่งสาส์น มาในรูปแบบของฝนธนู ด้วยกันกับกลุ่มของทหารท้าหนัก ชาร์จออกมาจากประตู มีศัตรูประมาณ 2000 พุ่งมาที่เรา เล็งไปที่ฐาน ที่อีริชและผมอยู่

 「โจมตีเรา? ไม่มีทาง พวกเค้าบ้าไปแล้ว……นายไปไม่ได้นะ เข้าใจมั้ย?」   

 「มมมุ」   

ผมเอื้อมไปหาหอกของผมอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่อีริชหยุดผม มันจริงที่ว่าเรากระจายกองกำลังของเรา แต่ไม่มีทางที่ทหารม้า 2000 จะผ่านมาที่ฐาน บริเวณที่คุ้มกันหนักที่สุด ที่มีทหาร 40,000 แพ็คอยู่ด้วยกันได้หรอก

พวกเขา เข้าพบกับฝนของลูกดอกใหญ่และลูกธนูทันที บางธนู แม้แต่มาจากธนูยิงซ้ำที่พิเศษไม่เหมือนใคร ทำให้ทหารม้ามากกว่าครึง ล้มไปเร็วกว่าที่พวกเขาพุ่งออกมา

 「พวกมันบ้าไปแล้วเหรอ?」   

 「ยังไงซะ พวกเค้าโดนยำซะเละเทะ แน่นอน พวกเค้าจะสิ้นหวัง」      

ทหารที่ส่งออกไปข้างหน้าทั้งหมด ยิ้มเยาะ ว่าพวกเขาไม่ต้องทำแม้แต่การขยับ เพื่อปกป้องฐาน

ไม่มีแม้แต่ครึ่งของศัตรูที่ยังเหลืออยู่ ขณะที่พวกเขาชิดระยะเข้ามาต่อ มันค่อนข้างเป้นการชาร์จที่ไม่ไตร่ตรอง

กระนั้นพวกเขาไม่หยุด แม้ว่าจะถูกยิงด้วยปืนธนู และกระเด็นบินด้วยลูกธนูใหญ่ ศัตรูรักษาแถวของพวกเค้า และไม่มีแม้แต่พวกเขาซักคนวิ่งหนี พวกเขาดันม้า ใกล้เข้ามา และใกล้เข้ามา มาสู่เรา จนทันช่วงเวลาที่พวกเขาถูกแทงเสียบไม้

ถ้าม้าของพวกเขาถูกยิงตาย พวกเขาวิ่งบนเท้าต่อ  และถ้าคนขี่ถูกยิงตาย ม้าวิ่งมาข้างหน้าต่อ ทหารที่ฐาน เสียความสงบไปอย่างช้าๆด้วย

 「ทำอะไรอยู่!? เน้นลูกธนูไปบนพวกเค้าดิ!」   

 「สั่งให้ทหารม้า โจมตีพวกเค้าจากด้านข้าง!」   

ขณะที่ศัตรูชาร์จใส่เรา หน่วยทหารม้าและหอก เข้าหาจากด้านข้าง และเก็บทหารม้าศัตรูไปคนสองคน ยังไงก็ตาม มันไม่สำคัญ ว่าถูกฆ่าไปมากเท่าไหร่ จากการโจมตีด้านข้าง ศัตรู โฟกัสมาที่การเดินหน้าไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่ว่าพวกเขาจะรับการเสียชีวิตไปซักกี่คน

 「หน่วยต่อต้านทหารม้า ขบวนแถวป้องกัน! ยกหอกขึ้น」   

ท้ายที่สุด ทหารใต้คำสั่งตรงของฐาน เข้าสู่ตำแหน่งป้องกันศัตรูฝ่าหน่วยที่ทำการตีเมือง ยังไงซะ มันเป็นไปได้มาก ที่พวกเข้าจะใช้กำลังสร้างทางผ่านพวกเขามา แต่กองกำลังของพวกเขา ถูกลดไปเหลือแค่ 500 ระหว่างที่พวกของเรา พื้นฐานแล้วไม่มีความเสียหายเลย

 「แต่ยังมีทหาร 10,000 คน อยู่ใต้คำสั่งตรงของฐาน ดังนั้น พวกเค้าจะผ่านทหารนั่นมายังไง?」   

 「นายสนับสนุนฝั่งไหนกัน?」   

ขบวนแถวป้องกัน ที่ไม่มีช่องโหว่ ถูกวางไว้ข้างหน้าของศัตรู ที่ถูกเก็บสองทางโดยทหารม้า — ทำลายขบวนแถวจากระยะไกล เหมือนทหารม้าธนู หรือช้าลง และปัดหอกออกไป — แต่ถ้าพวกเขาเลือกทางเลือกหลัง มิตรของเราจะไล่ทัน ล้อมพวกเขาจากข้างหลัง และกวาดล้างพวกเขาในพริบตา

มันเป็นจากนั้น ศัตรูนั่น เลือกอีกทางเลือกหนึ่ง

 「ไม่มีทาง! ยังไงพวกเค้าก็จะชาร์จใส่เราอยู่ดีเหรอ!?」 「ไม่ดีแล้ว หน่วยที่ตามมาจะฝ่ามา!」      

ทหารม้าหนักชาร์จมาข้างหน้าต่อ เข้าไปในขบวนแถวป้องกัน ใช้แรงส่ง และน้ำหนักของอุปกรณ์ที่หนักของพวกเขา เพื่อขยี้หน่วยหอก และเปิดทางให้ทหารม้าที่ตามมาข้างหลังพวกเขา อย่างเป็นธรรมชาติ มีการปะทะที่น่ากลัว ระหว่างศัตรูและหอก และศัตรูรับการเสียชีวิตไปเยอะ ลดจำนวนของพวกเขา ไปสู่จำนวนไม่กี่สิบ

แต่ถึงอย่างไร พวกเขาทำต่อไป และวิ่งผ่านพลธนู ผู้ที่มีเจตนา จะสนับสนุนหน่วยหอก และรีบตรงมาใส่เรา เมินทหารคนอื่นในฐาน หน่วยของศัตรู ถูกเก็บทีละคนตามๆกันต่อไป จาก 50 สู่ 30 สู่ 20 แม้อย่างนั้น พวกเขาแค่จะมาข้างหน้าอย่างเดียว

ชายที่นำฝูง ตะโกนดังๆ

 「ชื่อข้าคือแรดกัลฟ์! ฮาร์ดเลตต์์ช ถ้าแกเป็นนายผลผู้กล้าหาญจริง แกจะออกมา และจะสู้กับชั้น!」   

มันดูเหมือนเขาพูดถึงผมโดยชื่อของผม

เขาเหวี่ยงหอกไปรอบๆ และลบทหารที่บล็อคทาง และฟันรั้ว เพื่อที่ม้าของเขาจะสามารถเดินหน้าได้ ในที่สุดม้าของเขาก็ถูกแทงโดยหอก และเขาถูกบังคับให้ลงจากม้า แต่ชายที่ล้ม ลุกขึ้นมาอย่างเร็ว และวิ่งมาใส่ผมต่อ ระหว่างที่เหวี่ยงหอกของเขา รูปลักษณ์ที่เลอะโคลน และการกระทำที่สิ้นหวังไม่ได้ดูแล้วไม่น่าดูเป็นอย่างน้อย กับผม

 「เอเกอร์ มันจะดีกว่าถ้านายไม่ไปคิดอะไรโง่ๆนะ เราจัดการกับไอ้นี่ โดยการยิงเค้าให้ตายได้」   

มันเป็นซักพักแล้ว ตั้งแต่ที่เขาเรียกผมว่าเอเกอร์ เดาว่า เขาก็เสียความสงบไปจำนวนหนึ่งด้วย

 「ผู้บัญชาการสูงสุดควรจะอยู่ข้างหลัง ชั้นจะอยู่ที่นี่」   

ผมยกหอก และไห้เจ้าแแรดกัลฟ์นั่นรู้ ว่าผมอยู่ไหน แต่ผมจะไม่ไปหาเขา ผมจะท้าทายเขา ถ้าเขาสร้างทางผ่านทหารตรงหน้าผมมาได้

 「งั้น แกก็อยู่นั่น!!」   

ขณะที่แรดกัลฟ์กวัดแกว่งหอกของเขา หน่วหอกแทงอาวุธของพวกเขาไปใส่เขา ระหว่างที่หน่วยปืนธนูยิงเป็นชุดตามด้วยชุด แต่เค้ายังคงไม่พ่ายแพ้ ลูกน้องคนสุดท้ายของเขารีบไปช่วยและปกป้องเขา กันลูกดอกของปืนธนูด้วยตัวของเขา และเปลี่ยนเป็นเม่น

 「นายพล……ผมหวังว่าให้ท่านโชคดี……ผมจะไปรอ ที่โลกอื่น」   

 「อุมุ มันจะไม่นาน ดื่มและนั่งรอ!」   

 「เหมือนชั้นจะให้นายทำหรอก!!」   

อิริจิน่าและซีเลีย พุ่งออกไปจากขวาและซ้ายของผม เพื่อที่จะปกป้องผม แต่ผมไม่มีเวลาพอที่จะหยุดพวกเธอ

 「อย่ามากันชั้น!」   

เขากันการโจมตีต่อเนื่องที่เข้มข้น ได้อย่างไรก็ไม่รู้ด้วยมือเปล่าของเขา และโยนเธอไปข้างๆ ต่อไป เขากันดาบของซีเลียได้อย่างง่ายๆ ปัดการโจมตีของเธอไป และเตะเธอไปที่พื้น

 「กุ่……」   

 「โฮ่ว……」   

 「ฮ่าา ฮ่าา……ฮาร์ดเลตต์」   

มันเกือบจะเหมือนที่ผมสู้เป๊ะๆเลย — ได้ มาเลย ดูดีๆ คุณเห็นได้ว่าตาเขาแดงก่ำ และเขาไม่เห็นใครแล้วนอกจากผม ผมไปทำอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เขาแค้นผมขนาดนั้นเหรอ?

อิริจิน่าและซีเลีย ดูเหมือนจะไม่บาดเจ็บไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และพร้อมดาบของพวกเธออีกครั้ง แต่ผมหยุดพวกเธอจากการไปไกลมากกว่านี้ เข้าน่าจะแกร่งกว่าหนูน่ะสาว หนูไม่น่าจะหนีอย่างไร้รอยขีดข่วนได้ในครั้งหน้า

ยืนนิ่งๆตรงหน้าผม ทำให้มันเป็นเป้าหมายสำหรับหน่วยปืนธนู ที่เล็งจะยิงเขาใหร่วง

 「มันไม่จำเป็น」   

ผมยกหอกกออกไปเพื่อหยุดพวกเขา ในเวลาเดียวกัน มิตรบางคนก่อเป็นวงกลมรอบเรา และสร้างพื้นที่ให้เรา

เขาทำได้ดี ที่มาที่นี่ด้วยแค่ทหาร 2000 ผมจะตอบโต้ไปตามนั้น

 「ชื่อของชั้นคือแรดกัลฟ์ และนายคือลอร์ดฮาร์ดเลตต์!?」   

 「นั่นใช่แล้ว ต้องการอะไรกับชั้น?」   

 「ทำได้ดีมาก ในการต่อสู้ที่น่าประทับใจที่เทรีย! แต่ชั้นมานี่โดยแบกความเสียใจของลูกนองของชั้นเอาไว้ ตอนนี้ที่การต่อสู้มันจบไปแล้ว นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของชั้น…….มา รับคำขอดวลถึงตายของชั้น」   

ผมไม่มีความจำเป็นต้องรู้ไปมากกว่านั้น มาสู้กันเลย

 「ได้เลย เข้ามาหาชั้น」   

 「ออง การ์ด! อุโอออออออ้!!」   

หอกที่เหวียงลงมาหาผม คือฮาลเบิร์ด ซึ่งผมบล็อคด้วยหอกของผม แต่เขาบังคับให้ผมต้องถอยหลัง เขามีกำลังอยู่พอตัว สู้้ได้กับดวอร์ฟเลย

 「อุโอออออออ้!!」   

เมื่อเห็นว่าผมขยับไปข้างหลัง เขาตามมาด้วยกวาดจากด้านข้าง และแทงขึ้นมา เขาโจมตีของเขาต่อไป ผมกันการโจมตีของเขาสำเร็จ แต่ถอยหลังทุกครั้ง ผมอยากจะโจมตีสวน แต่ถ้าผมไม่ระวัง ผมอาจจะโดนฟันหัวแหก   แม้ว่าเกราะเหล็ก ยังกันกับกำลังแบบนี้ไม่ได้เลย

 「มีอะไร!? นายจะกันอย่างเดียวเรอะไง!?」   

เพราะผมไม่ได้ทำอะไรที่จะโจมตีกลับไป เขาเตรียมที่จะเหวี่ยงครั้งใหญ่ เล็งไปที่การโจมตตีถึงตาย นี่เป็นโอกาสของผมแล้ว

ผมเล็งจังหวะการแทงขึ้น ให้ไปเจอกับการเหวี่ยงลเต็มกำลังของเขาขณะที่อาวุธของเราปะทะกัน เสียเหล็กที่แก้วหูจะแตก ดังขึ้นมาและหญ้าแห้งบนพื้น กระจายไปสู่สายลม

กำลังของการกระแทกที่มหาศาล น็อคผมกลับไป แต่ก็ดันเขาไป พาเข่าของเขาไปที่พื้นด้วย

ด้วยระยะที่ถูกสร้างระหว่างเรา ตอนนี้เราจะใช้ระยะแทงของหอกไม่เหมือนใครของผม ผมเป็นผู้ที่ทำก่อน ดำเนินการแทงสามส่วน ไปที่คอ อก และท้องของเขา แต่แรดกัลฟ์บล็อคการโจมตีทั้งหมดของผม และแทงสวนกลับมาที่หน้าของผม

หอกเฉี่ยวแก้มของผมไป และดึงเลือดแรก ดันหอกเขากลับไปด้วยเกราะแขนของผม ผมเหวี่ยงหอกลงไป เจตนาที่จะแยกเขาเป็นสองส่วนในการโจมตีทีเดียว แต่เขาบิดตัวของเขา เพื่อหลบการโจมตีอย่างเชี่ยวชาญ จากนั้นสวนด้วยการแทงที่ดุดัน เล็งมาที่หัวใจของผม

ผมเบี่ยงการโจมตีด้วยด้ามของหอกผมด้วยปฏิกิริยาตอบสนอง แต่เปิดตัวสำหรับการโจมตีต่อเนื่องของเขา ผมบล็อกการโจมตีที่สี่และห้า แต่ผมช้าที่จะสกัดกั้นการโจมตีสุดท้าย เล็งมาที่เข่าของผม

 「เสร็จชั้น!」   

 「ยังก่อน!」   

ผมยกขาขึ้นข้างหนึ่ง และหมุนตัวของผม เพื่อหมุนโจมตีด้วยหอกของผม การโจมตีเฉี่ยวไหล่ของเขาไป แต่เพราะผมอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มันคง มันไม่ได้เป็นแผลที่ลึกพอ ยังไงก็ตาม ผมจะไม่มองข้ามที่เขาเซ สร้างช่องเปิดให้ผม

 「ฟู่นนน!」   

ผมเหวี่ยงหอกอย่างดุดันลงไปใส่เขา ซึ่งอาจเป็นการโจมตีที่เรียบง่าย แต่ไม่ใช่การเหวี่ยงที่บล็อคอย่างไม่ตั้งใจที่สุดได้

เขาก็ใช้ความพยายามทั้งหมดของเขา เพื่อชนกับการโจมตีของผมด้วยหอกของเขา แต่บนครั้งที่สามที่เราปะทะกัน อาวุธของเขาพังทลาย เขารีบชักดาบเพื่อบล็อคครั้งที่สี่ แต่เขาถูกส่งกลิ้งไปบนพื้น เขาต้องได้ทำหน้าผากถลอก ขณะที่เลือดไหลลงจากหัวของเขา ย้อมหน้าเขาเป็นสีแดงครึ่งหนึ่ง

ขณะที่ผมกำลังจะแทงเขาก่อนเขาลุก เขาปาเลือดมาใส่ผมด้วยมือ ตัวผมเกร็งโดยสัญชาตญาณ กับการทำกระทันหัน

 「นั่น!」   

ดาบของเขาฝังไปที่สีข้างผม เลือดพุ่งออกมา และผมเอื้อมมือไปกดแผลโดยไม่ได้ตั้งใจ

 「กุ……」   

 「อะ-! ไอ้บัดซบเอ้ย !!」 「ไม่ขายขี้หน้าเหรอไงวะ !!?」   

ทหารที่ล้อมเย้ยเขา คนที่เอะอะมากที่สุดคือซีเลีย แลถ้าอิริจิน่าไม่หยุดเธอ เธอจะกระโดดออกมา และโจมตีเจ้านั้น

ผมไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันจริงๆ ถ้าพูดจากใจ เราไม่ได้แข่งในทัวร์นาเมนต์วิชาดาบกันอยู่ นี่เป็นหนึ่งต่อหนึ่งบนสนามรบ และมันเป็นศึกถึงตาย ที่อะไรก็ได้ถ้าคุณชนะ

 「มาจบนี่เถอะ」   

 「ใช่」   

แผลของผมไม่ไปถึงเครื่องใน แต่มันก็ไม่ตื้นด้วย เขาดูงุ่มงามมนิดหน่อย บางทีเขารู้สึกเจ็บอยู่บ้าง จากการโจมตีก่อนหน้าของผมด้วย เราทั้งสองคน น่าจะอยากสรุปการต่อสู้นี้ เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

ผมทิ้งหอกของผม และชักดูอัลเครเตอร์ มันจะจบในพริบตา

 「เซยย่าาา!」   

 「เหี้-!」   

ผมวิ่งใส่เขา และไขว้ดาบกับแรดกัลฟ์ เขาฟันใส่ผมเฉียงๆ เมินการป้องกันทั้งหมด ซึ่งผมวางแผนที่จะหลบแบบเฉี่ยวๆ แต่มันน่าจะถูกอ่านโดยเขาจากแรกเริ่ม ขณะที่เขาเปลี่ยนมุมการโจมตีของเขาเล็กน้อยพร้อมกัน ดั่งจะตามการเคลื่อนไหวของผม

ผมหลบได้มั้ย? โลกดูเหมือนจะเคลื่อนไหวในสโลว์โมชั่น ขณะที่ผมบิดฝั่งซ้ายของตัวผม แต่รู้สึกว่าใบมีดฟันผม แต่การโจมตีของเขา ไม่ได้ไปถึงกระดูก

ด้วยการกระจายของเลือด ดาบผ่านตัวผมไป แต่ผมเห็นแรดกัลฟ์ที่ไร้การป้องกันอย่างสมบูรณ์ ณ ทันใด ผมสามารถรู้สึกว่ารอยยิ้มเล็กๆ มาถึงหน้าของผม

มันมีเสียงฟันที่คม ช่วงเวลานั้น ที่มันรู้สึกเหมือนตลอดกาล จริงๆแล้วจบในพริบตา ทหารทั้งหมดดูกังวล รอผลของการดวลของเรา

 「เอเกอร์ซาม้าาาา!! หนูจะช่วยพ่อตอนนี้!」   

หนูไม่ต้องมาหรอก มันจบแล้ว

น้ำพุของน้ำ ยิงออกไปจากไหล่ของผม แต่ท้องของแรดกัลฟ์แยกออก และปล่อยเครื่องในไหลลงพื้น การต่อสู้ จบแล้ว

เขาปล่อยดาบ ล้มลง ระหว่างที่ยังหันหน้าหาผมระหว่างนั้น ความเจ็บที่ไหล่ของผม ทำให้ผมล้มไปที่ก้น มือเขาจับเท้าของผม แต่การกำหลวมๆ หลังจากที่เล็ดเลือดและไส้ทั่วพื้นไปหมด เขาน่าจะไม่รอด อีกไม่มากไปกว่านาที

 「……ชั้น……แกร่งมั้ย?」   

 「แรดกัลฟ์ นายเป็นชายที่แกร่งที่สุด ที่ชั้นได้สู้มาจนถึงตอนนี้」   

 「อย่างนั้นเหรอ……อันการ์! ดีเตอร์! ชั้นกำลังไป เราหัวเราะกับความพ่ายแพ้ของชั้น ขณะที่เราดื่มด้วยกันได้!」   

แรดกัลฟ์มองขึ้นไปบนฟ้า ระหว่างที่นอนหงายหลัง ยืดมือเขาไปสู่สวรรค์ จากนั้น เสียไประหว่างที่ตาของเขายังเปิดกว้าง ช่างเป็นการจบที่กล้าหาญ — เขามีรอยยิ้มที่พอใจ อยู่บนใบหน้า

 「เห้อ! เห้อ! พ่อไปได้รับบาดเจ็บแบบนั้นอีกแล้ว!!」   

ผมลูบซีเลียที่ร้องไห้อย่างอ่อนโยน เธอรักษาไหล่และสีข้างของผม

 「เค้าเป็นชายที่น่าประทับใจดี พ่ออาจจะมีความสุข ที่จะให้เค้าโอบกอดพ่อ ถ้าพ่อเป็นผู้หญิง」   

เมื่อคิดอีกที ผมถอนคำพูดดีกว่า — เมื่อจินตนาการถึงหน้าหนวดๆดูดผม มันแขยงว่ะ

ไม่นานหลังจากการตายของแรดกัลฟ์ และลูกน้องทั้งหมดขอองเขา ธงขาว ยกกขึ้นจากวัง ราชวงศ์มากราโดยอมแพ้อย่างสิ้นเชิญ และแม้แต่ราชวงศ์เทรีย ที่อยู่ภายใต้การปกป้องของมากราโด ก็ยอมแพ้กับเราอย่างสิ้นเชิงด้วย

สงครามกับมากราโดในที่สุดก็จบแล้ว แต่ในเวลาเดียวกัน ผมได้รับการแจ้ง ว่าอาณาจักรมอลต์ โจมตีบ้านของผม ผมเดาว่าการต่อสู้ จะดำเนินต่อไป

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม

ผู้บัญชาการกองทหารที่สาม

ทีมลูกน้อง: 39,900

กองทัพส่วนตัว: 7900 (หน่วยที่ถูกพามาเพื่อต่อสู้เท่านั้น)

ทหารราบ: 2500, ทหารม้า: 500. พลธนู: 700, ช่าง: 300, ทหารม้าธนู: 3900 ปืนใหญ่: 7

กองทัพของอาณาจักร – 2 เหล่า: 25,500

กองทัพลอร์ดบริวารเพื่อนบ้าน: 6500

เพิ่มเติม – ทีมป้องกันราเฟน : 1000

ลูกน้องกองทัพ:

ลีโอโพลต์ (รองผู้บัญชาการสูงสุด), ซีเลีย (ผู้ช่วย), ไมล่า (ผู้บัญชาการ), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการของทหารม้าธนู), ปีปี้, ทริสตัน (เฝ้าบ้าน), กิโด้ (???)

ตำแหน่งปัจจุบัน: เมืองหลวงโอโดรอส

ความสำเร็จ: ยึดท่าแรนเดล, กวาดล้างกองทัพมากราโด, ชนะการต่อสู้ตัวต่อตัวกับแรดกัลฟ์, ยืดเมืองหลวงโอโดรอส (ร่วม)

—————————————————————   

วายุ: สวัสดีครับ วันพุทธ เราจะมาเจอกันแบบนี้ ผมจะเพิ่มตัวเลขขึ้นมาด้านล่าง เพื่อที่จะอัพเดทเรื่องนักดาบนุ่มนิ่มที่แปลอยู่ ขณะที่สำหรับเอเกอร์แล้ว เมื่อเรื่องแรกจบ จะมีเรื่องที่สองตามมา คาดไว้ว่าทั้งหมดจะเสร็จ และเริ่มแปลเอเกอร์ได้เมื่อ 04/67 ระหว่างนี้ ได้โปรดอดใจรอ ขอบคุณ และขออภัยที่ให้รอนานครับ

(1/2)31/82

 แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ สปอนเซอร์ตอนให้อัพโหลดเพิ่มทันที แจ้งได้ทาง Facebook ครับ   

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน