ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 161 การพิจารณาคดีคนทริสเนีย

ถนนสู่อาณาจักร

161 การพิจารณาคดีคนทริสเนีย

22 – 28 นาที

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

ทริสเนีย: อดีตวังหลวง

「โดยไม่ต้องสงสัย คุณเป็นราชาของมาราโด กิวกิส II ใช่มั้ย」

「……ใช่ แน่นอนว่าฉันเป็นคนนั้น」

ระหว่างที่ยังอยู่ในเสื้อคลุมที่หรูหรา ราชาของมากราโด เค้นคำตอบออกมาด้วยสีหน้าที่ขมขึ่นบนหน้าของเขา ราชาของโกลโดเนีย ทูตของสหพันธรัฐโอลก้า ผู้ที่เดินทางด้วยกองเรือ อยู่ข้างหน้า ระหว่างที่อีริช และเคนเนธอยู่ใกล้ๆ ส่งสายตาที่ข่มขู่ใส่เขา

ผมก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่ถูกเตรียมที่นั่งไว้ด้านข้าง แทนที่จะเป็นข้างหน้า มันดูเหมือนซีเลียเข้ามาไม่ได้ ดังนั้นไมล่าถูกนำเข้ามาข้างผม ในฐานผู้ช่วย ผมแค่ลูบต้นขาเธอเบาๆก่อนหน้า แต่ยั้งตัวเองไว้ หลังจากที่เธอมองผมอย่างน่ากลัว

「คุณหาเรื่องต่อสู้ โดยไม่มีศีลธรรมกับโกลโดเนียด้วยกันกับสหพันธรัฐโอลก้า และฆ่าทหารและพลเมืองของพวกเขา ฉันพูดอะไรผิดไปไหม?」

「นั่นไร้สาระ! ไม่ใช่มันเป็นโกลโดเนียรึที่เริ่มสงครามน่ะ!!?」

「ต้นกำเนิดเหตุการณ์นั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณแทรกแซงกับเทรีย!」

คนที่พูดอย่างรุนแรงสู่ราชาของมากราโด คืออัยการสูงสุด เคานต์อะไรนั่น ปรกติแล้ว คนหนึ่งจำเป็นต้องคุกเข่าต่อหน้าราชวงค์ แม้ว่าคนนั้นมาจากประเทศอื่น และการพูดที่หยาบคายแบบนี้ จะไม่ได้รับอนุญาต

「เพิ่มเติมเข้าไป คุณปลูกฝังความรู้สึกของความไม่เป็นมิตรกับประเทศอื่นใส่พลเมือง และก่อให้เกิดการต่อต้านที่ไม่จำเป็น」

แน่นอนว่ามันจริง ที่มากราโดแทรกแซงกับสงครามระหว่างเทรียและโกลโดเนีย แต่ตอนนี้การหยุดโจมตีนั้นถูกตกลงทั้งสองฝ่ายแล้ว นั่นคือเหตุผลตรงๆ ที่สงครามไม่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ปรกติแล้ว มากราโดจะมีโอกาสได้ส่งเสียงความไม่พอใจด้วย

「มากกว่านั้น คุณใช้กำลังกับสาธารณรัฐสตูร่า เพื่อที่จะนำเมืองมารวมเป็นหนึ่ง ด้วยวิธีการที่ใช้ความเป็นใหญ่กว่า และภัยของกองกำลังติดอาวุธของคนป่าเถื่อน……」

แต่นี่ไม่ใช่การตัดสินที่เป็นกลาง นี่มันไม่มีอะไรนอกจากหลอกลวง ศาลเตี้ย เพื่อที่จะทำให้ โทษและความรับผิดชอบทั้งหมด อยู่กับราชวงศ์มากราโด

「ดังนั้น ศาลยุติธรรมนี้ตัดสินว่าการเนรเทศจะไม่เพียงพอ ที่จะไถ่บาปของคุณ และการประหารคือตัวเลือกเพียงตัวเดียวเท่านั้น!」

「บาปของฉันคืออะไรกัน!? พวกแกทั้งหมดไปตายซะเถอะ ฉันไม่สนใจแล้ว」

「ฉันตัดสินให้ กิวกิสที่สอง สู่การประหารชีวิต」

อัยการสูงสุดและอีกฝ่าย นอกจากคนที่พูดอยู่ เงียบไป ระหว่างที่ยามนำราชาที่ดิ้นรนโดยแขนของเขา และนำเขาออกไปจากห้อง ผลต้องถูกสื่อไปให้ทหารข้างนอกแล้วทันที และเสียงเชียร์ที่ดังปะทุขึ้นหลังจากนั้น

ทหารที่ผมนำมากับผม ล้อมวังและทำหน้าที่เป็นห้องพิจารณาคดี เย้ยหยันและเรียกร้องการประหาร ให้เป็นการตัดสินโทษของบุคคลนั้น

「นี่มันแย่……」

ไม่ล่าพึมพำอยู่ข้างผม และผมเห็นด้วยโดยสิ้นเชิง การข่มขู่ผู้พ่ายแพ้สงครามตามที่คุณชอบใจ มันคาดว่าจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ถ้าอย่างไรนายก็จะตัดสินว่าตายอยู่ดี มันจะดีกว่าไหมที่จะแค่ฟันหัวเขาทันที

「ได้โปรดอย่าหลับ ทุกคนรอบๆเรา เป็นบุคคลที่สำคัญที่มีตำแหน่งเป็นเคานต์หรือสูงกว่า」

「ให้ตายเหอะน่า」

การพิจารณาคดีดำเนินต่อไป การตตัดสินความประหารให้ทุกคนจากญาติของราชา สู่ผู่คนที่รับผิดชอบในการนำกองทัพ พวกเขาทั้งหมดพ่นน้ำลายเอ่ยคำก่นด่า ขณะที่พวกเขาถูกลากไปโดยยาม ผมเดาว่าการลงโทษจะถูกดำเนินการทันที

「ดูเหมือนมันเกือบเสร็จแล้ว เฮ้ ไมล่า จะว่าไงถ้าหนูกับพี่ไปที่บาร์ใกล้ๆ แล้วดื่มกันซักแก้วสองแก้ว」

「……พี่น่าจะมีแผนพาหนูขึ้นไปชั้นบนหลังจากนั้น ใช่มั้ย」

「พี่อยากจะสร้างความรักกับหนูหนึ่งต่อหนึ่ง ในนานๆครั้งด้วยน่ะ」

โดยการแกล้งทำเป็นคุยกับเธออย่างลับๆ เพื่อที่จะไม่มีใครได้ยิน ผมจับมือเธอไว้มาวางที่หว่างขา

「แข็งแล้วเหรอ?」

「พี่จะใช้เจ้านี่เพื่อคนจิ๊หนูอย่างทั่วถึง」

แม้ว่าจะโกรธ ไม่ล่ายอมแพ้

「ต่อไป เราจะจัดการตัดสินอดีตราชาของเทรีย ทริสเนียที่สาม」

「……」

「ถ้าอย่างนั้น พวกเขาเลื่อนคดีนี้ไปสินะ」

อะไรแบบนี้มันพอแล้ว แค่ตัดสินพวกเขาทั้งหมดให้ตายแล้วจบๆได้แล้ว เรียงพวกเขาให้หมด แล้วแค่ตะโกน “ลงโทษประหารชีวิต” เพราะอย่างไรมันก็ไม่มีการลงโทษอื่นอยู่แล้ว

「ฉัน……ฉัน……ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ไม่ใช่สงครามมันเป็นบางอย่างที่ปรกติรึไง!?」

「คุณต้องรับผิดชอบบางอย่างนอกจากสงคราม คดีที่ก่อกับพลเมือง อย่างแรก คุณปกครองพลเมืองที่ได้มาใหม่ ในอดีตอาร์คแลนด์อย่างโหดเหี้ยม คุณชักนำการกบฎ และก่อการกระทำอมุษย์ นั่นก็คือการฆ่าพลเมือง!」

「นั่นมัน……เกิดขึ้นโดยที่ฉันไม่รู้……」

ไม่มีโอกาสที่ข้ออ้างแบบนั้นจะได้ผล สำหรับราชา

「ต่อไป คุณนำไฟขอสงครามมาสู่เมืองหลวง คุณทิ้งพลเมืองที่คุณสมควรจะปกป้อง และวางแผนที่จะหนีด้วยตัวเองพร้อมแค่ผู้ติดตามของคุณเท่านั้น และผลของมัน ก่อให้เกิดการสังเวยที่ไม่จำเป็น จากทหารทั้งสองฝ่ายเนื่องจากทำให้ข้อตกลงสันติภาพ่ล่าช้าไป」

「นะ-นั่นมัน-! ถ้าฉันตายไปหรือถูกจับ อาณาจักรจะพินาศ ดังนั้นฉันเลยคิดว่า ฉันหนีและให้ผู้คนยอมแพ้ได้……」

ราชาทริสเนียดิ้นไม่เหมือนราชาของมากราโด ชัดเจนว่าเขากลัวตายและเสียสติไปแล้ว

「เรามีเป็นพยานการกระทำที่ก่อโดยทริสเนียที่สาม……นี่!」

หนึ่งในผู้ชายถูกยามพามา และก้าวมาข้างหน้า

「เฮ้ เฮ้ อย่าบอกฉันนะว่าเขาพาขอทานมาเพื่อการนี้」

มันไม่รู้ว่าการเยาะเย้ยมาจากไหน แต่มันตรงๆอย่างที่อธิบาย ด้วยผมที่กระเซิง หนวดไม่โกนและตาโบ๋ ผู้ชายที่ถูกนำมาอธิบายได้อย่างเดียวว่าดีที่สุดก็เป็นขอทาน ร้ายที่สุดก็คนบ้า ถ้าเขาไม่ได้ใส่ชุดทางการ

「นายกรัฐมนตรี!? เจ้ายังมีชีวิตอยู่หรือ……」

「ระเบียบ……คุณที่อยู่ตรงนั้น บอกชื่อและตำแหน่งในอดีตมา」

ชายไม่ได้จ้องไปที่อัยการสูงสุด แต่แค่อดีตราชาของเทรียเท่านั้น เมื่อเขาเค้นคำตอบของเขาออกมา

「อันเซล์ม ดูนอยส์……มาร์เควสจากอาณาจักรเทรีย และอดีตนากรัฐมนตรี」

「อุมุ ถ้าเช่นนั้น จงอธิบายเหตุผลที่คุณไม่ได้รับการตัดสินที่นี่」

「บนคำสั่งของราชา ผมร่วมมือกับกองทัพมากราโด แต่พ่ายแพ้และได้รับบาดเจ็บ ระหว่างเวลาที่ผมซ่อนอยู่ในหมู่บ้านใกล้ๆ สงครามก็ได้จบลง」

「ฟุมุ……ถ้าเช่นนั้นคุณมาที่นี่เพื่อเป็นพยานเรื่องอะไร?」

「เกี่ยวกับนิสัยที่น่ารังเกียจ และความโหดร้ายทารุณของทริสเนียที่สาม」

「เจ้าพูดว่าอะไรนะ!?」

「บอกเขา」

มาร์เควสดูนอยส์ ผู้ที่พึมพำก่อนหน้านี้ สูดหายใจลึกๆกระทันหัน

「พฤติกรรมที่ขี้ขลาดของทริสเนียที่สามนั้น ชัดเจนว่ามันไม่ใช่เพื่อความเป็นอยู่ของประเทศ แต่เพื่อปกป้องตัวเขาเองและทรัพย์สินที่เขามี  ซึ่งควรจะเป็นทองและอัญมณีก้อนเดียวที่จะไว้สำหรับงบประมาณสงคราม พวกมันส่วนใหญ่เป็นรูปวาดยักษ์ ของโบราณและของอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำรงอยู่ของประเทศเลย」

「เข้าใจแล้ว」

ราชาอเอล็กซานโดร ที่เงียบมาจนถึงตอนนี้ ยิ้มส่วนหนึ่งบนใบหน้าของเขา ระหว่างที่ขุนนางนางคนอื่นของมากราโด ถูกดูหมิ่นอย่างทั่วถึง และในที่สุดก็เปิดปากของเขา

「มากกว่านั้น ระหว่างที่ผมได้รับบาดเจ็บ เขาตรีตาผมเป็นคนทรยศ ที่ไม่อยู่ในเมืองหลวง และฆ่าครอบครัวของผมหมด……ฆ่าทุกคน แม้แต่หลานชายตัวน้อยๆของผม………」

ดูนอยส์ หันหน้าหาขณะที่เขาร้องไห้ มันเป็นบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน แต่ผมพอจำได้ว่าเห็นฉากที่น่าขยะแขยงแบบนั้น

「นากยกรัฐมนตรี นี่ไม่ใช่บางอย่างที่คุณกุขึ้นมาหรือ!? ฉันแม้แต่ต้องกล่าวหาว่าคุณโกหกมั้ย!?」

「พระองค์! ชายแก่ที่น่าสมเพชนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหก!」

คนที่ดูนอยส์พูดด้วยว่าพระองค์ ไม่ใช่ราชาของเทรีย แต่ราชาของโกลโดเนีย ตัดสินจากสิ่งที่พูดกันมา ชัดเจนว่าคนหนึ่ง อยากจะอยู่ฝั่งดูนอยส์

ราชาผู้ที่ทิ้งประเทศของเขาและช่วยครอบครัวของเลยและสมบัติของเขา สู้กับ ผู้ชายผู้ที่กลับมาจากจุดจบของสงคราม และพบได้เพียงว่าครอบครัวของเขาทั้งหมดถูกฆ่าตาย และตัวเขาเองถูกตีตราว่าเป็นคนทรยศ ปฏิกิริยาตอบสนองจะเห็นอกเห็นใจอย่างหลังมากกว่า

「ไอ้ขี้ขลาด!」 「บางคนที่ไม่ได้ทนกับความลำบากของการต่อสู้ และมาเรียกลูกน้องว่าคนทรยศอีก-!」  「ไม่จำเป็นต้องตัดสินแล้ว แค่ตัดสินให้เขาตายๆไปซะ!」

ขุนนางที่เฝ้าดู เขวี้ยงการดูหมิ่นทีละคนตามๆกัน

「ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย……」

「มีบางอย่างที่คุณพบว่าตั้งคำถามได้อีกเหรอ?」

ไมล่าดูค่อนข้างจะไม่พอใจ ขณะที่ผมเอียงหัวในการไตร่ตรอง เธอก็ดูเหมือนจะเชื่อที่ดูนอยส์พูดและตัดสินใจว่าราชาเป็นคนผิด

「มันจริงที่ว่าเหตุผลของเขาฟังได้ และเป็นเรื่องที่น่าเชื่อว่าจริง แต่มันฟังดูแค่เหมือนบางอย่างที่เธอจะเห็นในการแสดงละครในโรงละคร」

มันดูเหมือนโศกนาฏกรรมที่นนน่าจะชอบ บางที่เธออาจจะสั่นในความโกรธกับฉากนี้ด้วยเหมือนกัน ผมไม่มีข้อพิสูจน์ แต่มันฟังแล้วเหม็นคาว อย่างไรก็ตาม อัยการสูงสุดและคนอื่นๆไม่ได้ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับผม หรือบางที่ฉากมันได้ถูกเขียนล่วงหน้าไว้แล้ว พวกเขาคุยกันไม่กี่คำกับราชา และจากนั้นส่งมอบการตัดสิน

「ทริสเนียที่สาม ความไม่ยุติธรรมและความขี้ขลาดเห็นได้ชัดเจน! ดังนั้นเอง ศาลยุติธรรมแห่งน้ ตัดสินว่าบุคคลนี้ ผู้ที่ทรยศความเชื่อใจของคุณนาง และใช้อำนาจของราชาไปในทางที่ผิด ให้เขาไปสู้การประหาร」

「จ-เจ้าผิดแล้วนะ! ดูนอยส์มันโกหก ฉัน……ฉัน……ฉัน-! ม่ายยย–! ฉันไม่อยากตาย ใครก็ได้ช่วยฉันที!!」

ไม่เหมือนราชาของมากราโด  ราชาของคนทริสเนีย ถูกลากไป เตะขาและกรีดร้อง ลาก่อน ฉันสงสัยว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก

「ช่างไม่น่าดูเลย แม้แต่ถึงสุดท้ายที่สุด……」

「ไม่สำคัญว่ามันไร้เหตุผลแค่ไหน นี่น่ะที่มันชะตา ของผู้พ่ายแพ้ดูเป็นยังไง」

ผมไม่อยากจะอยู่ฝ่ายแพ้ แล้วเมื่อแย่ที่สุดมันแย่ที่สุด ผมจะนำผู้หญิงของผมไปแล้ววิ่งหนีไปถึงจุดจบของโลก ……มันเพิ่งเข้ามาในหัวผมว่าผมจำเป็นต้องมีรถม้ามากมาย

หลังจากนั้น ผู้นำที่หนีไปของเทรีย ก็ถูกตัดสินไปทีละคน มันเกิดขึ้น ณ เวลานัน เมื่อผมถึงขีดจำกัดในการพยายามจะตื่น และผมเริ่มที่จะงีบหลับ

 「ดังนั้นเอง คุณไม่ได้เติมเต็มหน้าที่ทางศีลธรรม โดยล้มเหลวที่จะตักเตือนเรื่องการกระทำของราชา ระหว่างที่เป็นราชวงค์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง แล้วก็ยังมีความสุขอยู่แต่กับความหรูหรา ขอมอบโทษประหารชีวิต……」   

 「อาา……โอ้ได้โปรดเมตตา……ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ ไม่ได้รู้เกี่ยวกับกฎหมายเลย ไม่มีอะไรสักอย่างที่ทำได้แล้ว ได้โปรดอย่างน้อยไว้ชีวิตหนูเถอะ」   

 「แม่……」 「ได้โปรดเมตตา…….」 「ออออุ่……」      

ตาของผมยิงขึ้นไปหลังจากที่ผมได้ยินเสียงของผู้หญิงงามๆ มีมากกว่าหนึ่งด้วย!

 「สาวๆเหล่านั้นคือใครกัน」   

ไมล่ามองดูผม โกรธเล็กน้อยจากคำถามที่กระทันหันของผม

 「พี่หลับไปจริงๆเรอะ……พวกเธอคือภรรยา และลูกสาวทั้งสามของราชาของเทรีย แค่เหมือนกับคนอื่นๆ พวกเธอถูกตัดสินประหารชีวิต」   

สายตาของผมเปลี่ยนไปที่ชั้นยกสูง ที่ผมเห็นผู้หญิงผู้ที่ดูเหมือน 40 กลางๆ เธออายุมากไปถึงจุดๆหนึ่งและดูโทรม บางทีเนี่องมาจากความวิตกกังวล แต่เธอยังคงมีเสน่ห์ของคนที่อายุมากแล้วเกี่ยวกับเธออยู่ ลูกสาวของเธอค่อนข้างที่จะสวย ที่ได้สืบทอดสีออกแดงเล็กน้อย อยู่ที่ผมบลอนด์ของพวกเธอ จากแม่ของพวกเธอ

ลูกสาวคนโตสุดปรากฎว่าจะอยู่ในกลาง 20 และยังคงดูสวยงามแม้ว่าจะอยู่ระหว่างมองลงข้างล่างในน้ำตา ลูกสาวคนโตคนที่สอง น่าจะอยู่ในต้น 20 และได้โตขึ้นมาเป็นผู้หญิงที่ดูดี แต่ดูเหมือนจะตัวเล็กและอ่อนแอ ร่างกายของเธอสั่นไหว และน่าจะพยายามอย่างสิ้นหวังที่จะระงับความกลัวถึงขีดสุดที่เธอรู้สึก  ลูกสาวคนที่สาม ยังคงวัยรุ่นอยู่……ประมาณ 16 หรือ 17 ปี เธอร้องไห้ให้ตาถลน

 「ถ้าอย่างนั้น สี่คนเหล่านี้ อดีตราชินี ราชมเหสี มาร์เซลีน และลูกสาวของเธอ สเตฟานี บริดเจ็ท เฟลิซี่ จะถูกตัดสินประหา-…….」   

 「คัดค้าน-」 「……อะไรกัน!?」      

 「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์」   

ไมล่าตื่นตกใจ ผมแค่ดูขณะที่สาวสวยสี่นางถูกฆ่าไม่ได้หรอก

 「ล-ลอร์ดฮาร์ดเลตต์?」   

ผมยืนขึ้นกระทันหัน อัยการสูงสุดจึงส่งเสียงสับสนราชาและเคนเนธก็ดูเหมือนจะตกตะลึง อีริชเป็นคนเดียวเท่านั้นที่เอามือปิดหน้า

แต่ผมช่วยไม่ได้นอกจากจะพูดออกไป ผมแค่จะเถียงเพื่อการเถียง และทำให้สิ่งต่างๆมันพอไปได้ ด้วยวิธีใดวิทีหนึ่ง เพราะอย่างไรมันก็ดูเหมือนผมมีสิทธิ์ที่จะพูดอยู่ด้วย

 「แค่เหมือนกันก่อนหน้านี้ ถ้าราชานั้นอมนุษย์จริงๆ ไม่ใช่ว่าเราควรจะอนุญาตให้ภรรยาและลูกสาวของเขาพูดเรื่องนั้นด้วยหรือ? ไม่ เขาน่าจะทำให้มั่นใจว่าครอบครัวของเขา ไม่ทราบเกี่ยวกับการกระทำที่โหดเหี้ยมของเขาตั้งแต่ทีแรก」   

เมื่อเห็นว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะช่วยตัวเธอเองและเหล่าลูกสาวของเธอ ราชินีราชมเหสี มาร์ซีลีนพยักหน้าอย่างยิ่งใหญ่

 「ถ้าอย่างนั้น โทษประหารชีวิตจะเป็นการทำมากเกินไป กับบางอย่างที่เล็กน้อยอย่างการหนีออกจากประเทศ ยิ่งมากไปกว่านั้นอีกสำหรับผู้หญิง ผู้ที่แม้แต่จะสู้ก็ยังไม่ได้เลย」   

ไม่ว่าจะตำแหน่งอะไร การทิ้งประเทศของคนๆหนึ่ง และวิ่งหนีไป คือการกระทำที่เป็นไปได้ของชายอย่างต่ำช้า แต่มันจะไม่ใช่อย่างนั้นถ้าเขาแค่ปล่อยให้ลูกและภรรยาหนีไป มันอาจจะไม่น่าชื่นชม ที่ราชวงศ์จะทำอย่างนั้น แต่มันไม่ใช่บางอย่างที่ลงโทษประหารชีวิตเลยได้

 「ย-ยังไงซะ นั่นมัน……แต่คุณเห็นมั้ย……」   

โดยต้องพื้นฐานจากความประหม่าของอัยการสูงสุด การประกาศแรกของดูนอยส์นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งในบทของเรื่องใหญ่ด้วยเหมือนกัน เมื่อมีบางอย่างที่ไม่เข้าบทเข้ามากระทันหัน และมาระเบิดใส่ฉากนี้ เป็นธรรมชาติที่เขาจะลนลาน มองไปข้างหลังเขา ราชาและเคนเนธ ดูเหมือนจะปรึกษาย่างอย่างกันอยู่

 「……ทำไมเขาพูดให้พวกเธอกันวะ?」 「ฉันไม่รู้ว่ะ…….ฉันไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับลอดร์ฮาร์ดเลตต์มาก」      

เหล่าขุนนางเริ่มกระซิบหากัน พูดอะไรก็ได้ที่นายอยากพูดกัน ฉันจะช่วยผู้หญิงสวยๆเหล่านี้

 「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ มันอาจจะเป็นอย่างที่เจ้าได้พูดมา แต่บุคคลเหล่านี้คือราชวงศ์ และศัตรูของประเทศ ถ้าปล่อยไว้ตามลำพัง มันอาจจะสร้างความมิเป็นระเบียบที่มิต้องการอีกครา」   

ราชาพูดออกมาแทนอัยการสูงสุด

 「ได้โปรดขออภัยที่ผมโต้แย้ง แต่อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว พวกเธอจะไม่ถูกปล่อยไว้ในเมือง และพวกเธอจะย้ายไปอยู่ภูมิภาคชนบท ถูกนำชื่่อตระกูลของพวกเธอออกไป และจะแค่ใช้ชีวิตในฐานะคนธรรมดา ในฐานะมารดา และในฐานะลูก ผู้หญิงเหล่านี้ ก็ไม่มีความคิดที่จะแก้แค้นอยู่อีกแล้วด้วย」   

ชำเลืองมองมาร์เซลีน เธอส่ายหัวของเธออย่างควบคุมไม่อยู่

 「แม้ว่าคำพูดนั้นอาจจะนำไปใช้ได้กับคนที่กล่าวมานั้น เทรียยังคงมีผู้รอดชีวิต มีโอกาสที่กลุ่มต่อต้านเหล่านั้น จะนำผู้หญิงเหล่านี้ไปด้วยกันกับพวกเขา」   

ได้เลย นี่มันสมบูรณ์แบบ

 「ถ้าอย่างนั้น ผมจะรับบุคคลเหล่านี้ให้อยู่ในความดูแลของผม ผมจะรับผิดชอบและเฝ้าดูพวกเธอ ทำให้เกิดความมั่นใจว่าพวกเธอไม่ทำอะไรแปลกๆ」      

ที่ว่ามานี้ก่อให้เกิดการปลุกเร้าในหมู่ทุกคนรอบๆผม

 「อะไรกัน? ทำไมคุณจะทำบางอย่างที่มีปัญหาแบบนั้น และไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย」 「อย่าบอกฉันนะว่าคุณได้คิดต่อกับเทรียหรือ?」 「อย่าบอกฉันนะว่า……เหตุผลเบื้องหลังสงครามกับเทรียมันเพราะลอร์ดฮาร์ดเลตต์นั่นเอง」

เมื่อผมมองผู้คนที่พูดออกมา เหล่าผู้ชายรีบหลบตา ราชายืนยันอย่างไม่มีความสุข

 「……ฉันไม่สามารถที่จะเข้าใจเจตนาที่แท้จริงของเจ้าได้ การที่ไม่สามารถที่จะเข้าใจ สร้างความสงสัยที่มิจำเป็น บอกฉันถึงเหตุผลที่รับคนเหล่านี้เข้ามาในความดูแลของเจ้า」   

 「ผู้คนมากมาย เสียชีวิตไปในสงครามนี้ มันจะทำให้ผมเจ็บปวดที่จะเห็นความตายใดๆเพิ่มอีก……」   

ราชาหรี่ตาของเขา  ผมหลับระหว่างการตัดสินก่อนหน้า ดังนั้นข้ออ้างนี้น่าจะไม่ได้ผล เหล่าขุนนางที่รู้เกี่ยวกับชื่อเสียงของผม และรู้ถึงข่าวลือเกี่ยวกับผม ก็มองผมอย่างสงสัยด้วย ตัวผมข้างในใจของพวกเขา น่าจะปฏิบติกับชีวิตมนุษย์เหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่าขี้มูก แน่นอนว่ามันจริงถึงจุดๆหนึ่งแต่มันแค่สำหรับคนที่อยู่นอกครอบครัว และในวงคนรู้จักของผมเพียงเท่านั้น

 「……มันอาจจะเป็นหนึ่งเหตุผล แต่เหตุผลที่แท้จริงคือ-」   

สายตาของราชาและเหล่าขุนนางอื่น เพ่งมาที่ผม ได้ ผมจะบอกพวกเขา เจตนาที่แต่จริงที่ไร้การกลั่นกรอง

 「อย่างที่ท่านอาจจะสังเกตุ ผู้หญิงเหล่านี้งดงามมาก และผมอยากได้พวกเธอไว้ที่ปลายนิ้ว แม้ว่ามันจะทำให้ผมมีอันตราย」   

อากาศแข็งไป

 「เก๊ะปปปปุ่!」   

ทูตของสหพันธรัฐโอลก้าผู้ที่ดูห่วงโซ่ของเหตุการดำเนินไปอย่างเบื่อหน่าย พ่นชาออกมา เขาเป็นบางคนที่อยากรักษาภาพลักษณ์ แต่เขาไม่ได้ดูเหมือนจะหยุดหัวเราะได้เลย

ราชาและเคนเนธมองอย่างว่างเปล่า ระหว่างที่อีริชจับหัวของเขาด้วยสองมือ และล้มใส่โต๊ะโดยมีหน้าไปก่อน เหล่าขุนนางก็ไม่อาจพูดซักคำได้ด้วยเหมือนกัน

 「……ฮุฮ่าฮ่าฮ่า ฉันเข้าใจแล้ว ผู้หญิงอย่างนั้นหรือ? แน่นอนจริงว่าผู้หญิงเหล่านี้น่าตกตะลึง ฉันเข้าใจ เจ้าอยากจะแก้แค้นพวกเธอ นั่นมันรูปแบบดั้งเดมเลย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!」      

เมื่อเห็นว่าราชาหัวเราะอย่างเปิดเผย เหล่าขุนนาก็เริ่มที่จะหัวเราะคิกคักด้วย

 「อาา ฉันเข้าใจแล้ว」 「มันจริงด้วยที่ลอร์ดฮาร์ดเลตต์มีข่าวลือว่ามีความรักผู้หญิงที่ไม่พ่ายแพ้ใครเลย」 「ฉันได้ยินมาว่า เขามี 100 หญิง ล้อมรอบเขาเลยในดินแดนของเขาน่ะ」 「นั่นเป็นเหตุผลที่ดีพอสำหรับฉันแล้ว」 「ผู้หญิงข้างเขาก็เป็นคนรักของเขา หือ……」   

อออุ่ ผมอาจจะทำให้ตัวผมเองอับอายเล็กน้อย

 「ฉันเข้าใจเหตุผลของเจ้า! ถ้าเช่นนั้นคนเหล่านี้จะถูกวางไว้ภายใต้ความดูแลของเจ้า พวกเธอจะไม่ถูกอนุญาตให้ได้รับมอบตำแหน่งใดๆ หรือแต่งงานกับบุคคลที่มีตำแหน่ง มากไปกว่านั้น พวกเธอ จะไม่ถูกอนุญาตให้ออกไปจากดินแดนของเจ้า เข้าใจไหม?」   

 「ผมเข้าใจ」   

มาร์เซลีนดูเหมือนจะมีความรู้สึกที่ผสมปนเป หน้าของลูกสาวคนโดตสเตฟานี

สดใสขึ้น ลูกสาวคนโตคนที่สองบริดเจ็ทจ้องผม สาวคนทที่สามเฟลิซี่ ไม่ได้ดูเหมือนจะมีเงื่อนงำว่าอะไรเกิดขึ้นเลย

 「ตอนนี้……คุคุ เราตัดสินต่อเลยดีไหม?」   

ราชาระงับการหัวเราะของเขาอย่างสมบูรณ์ไม่ได้ และทูตสหพันธรัฐข้างเขาก็หัวเราะต่อไป ระหว่างที่จ้องพื้น อารมณ์ของในห้องนี้ค่อนข้างที่จะเป็นกันเองตอนนี้

 「……  !   !     ……  !  ?  」   

ไมล่าร้องเบาๆรัหว่างที่หยิกต้นขาและข้างผม ฮ่าฮ่าฮ่า ได้โปรดหยุด หนูจะทำให้พี่แข็ง

แล้วดังนั้นเอง การตัดสินฝ่ายเทรียจบลง และในที่สุดก็ถึงเวลาของไอ้พี่น้องโง่เง่าสองคน บาโบลและฮิลาลิโอ แล้วก็บรูตัส ถูกลากออกมา แม้ว่าพวกเขาจะแทบไม่ได้เดินหน้าเลยพรมแดนมามามาย พวกเขายังรุกรานพื้นดินของอาณาจักรโกลโดเนีย และถูกกำจัดโดรกองทัพอาณาจักร ดังนั้นพวกเขาจำเป็นที่จะต้องถูกปฏิบัติคล้ายกับราชวงศ์ของมากราโด……

 「อุมุ ตอนนี้ฉันจะขอตัว」   

ก่อนที่การพิจารณาจะเริ่มขึ้นราชาและเคนเนธยืนขึ้น ทูตจากสหพันธรัฐโอลก้าก็ยืนขึ้นจากเก้าอี้ และตามราชาไป โอ้ พวกเขาไม่มีความสนใจอย่างแน่นอนเลยหรือ?

 「คุ-!」   

การหัวเราเอ่อขึ้นมาในทูตอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นหน้าผม ทำให้เขามองลงไปข้างล่างและออกห่างจากผม เป็นคนที่หยาบคายจริง

 「อื้ม ถ้าอย่างนั้น ฮิลาลิโอ เบลเซ่ พาโบล ดาลาส เมลดัส บรูตัส การตัดสินสำหรับพวกคุณทั้งสามจะเป็น……」   

 「ก-กูแค่ทำตามที่พี่กูบอกอ้ะ!」   

 「กูก็……ไม่ดิ มันคือไอ้บรูตัสเว่ย เขาเป็นคนที่จัดการเรื่องทั้งหมด」   

ผมไม่ได้คาดว่าเจ้าคนเหล่านี้จะมีจดจบที่งดงามเลยสักนิด แต่ผมไม่มีความคาดหวังนะ ดังนั้นผมจะไม่ผิดหวัง

 「ปัญหานี้จะถูกมอบความไว้วางใจไว้ให้ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ และความสูญเสีย ค่าใช้จ่าย และค่าตอบแทนของกองททัพอาณาจักร จะถูกจ่ายจากสินทรัพย์ที่ยึดได้ นั่นคือทั้งหมด」   

อย่างไรกันนี่ เขาไม่ได้แม้แต่จะพยายามเลย

 「อย่างทที่หนูคิดเลย ประเทศเหมือนมอลต์์โดยพิ้นฐานแล้วไม่ได้มีตัวตนกับราชาเลย」   

 「แต่มันสะดวกสำหรับพี่มมากกว่าแบบนี้นะ」   

ผมจินตนาการถึการที่เซเลสติน่าออกมาต่อต้านราชาหรือเคนเนธ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้สำหรับผม มากกว่านอกจากพวกเขาจะไม่แยแสและปล่อยเรื่องนี้ผ่านไป

 「ยังไงซะ เรากลับไปที่บ้านกันดีมั้ย?」   

 「พี่จะ……เรียกหาหนูมั้ยก่อนที่เราจะกลับไป」   

 「ใช่ พี่จะสนุกนิดหน่อยก่อนที่กางเกงจะฉีก」   

 「เห้อ! ไม่เหมาะสม! ลามก!」   

แม้ว่าระหว่าที่ตะโกนอยู่ มีการยิ้มเล็กน้อยบนหน้าของเธอ

เราจะสนุกกันมากมาย — ขณะที่ผมควงแขนกับมมิล่าและอกไปข้างนอก ซีเลียยืนอย่างโอฬารข้างหน้าเรา และน้ำมูกไหลหยดออกมาจากจมูกเธอ มันดูเหมือนเธอรออยู่ในความหนาวมาตลอดเวลานี้ อิริจิน่าก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่เธอไม่สะทกสะท้านอย่างสิ้นเชิง ผมเดาว่าเธอจะเป็นแบบนั้น คนบ้าที่ไม่เป็นหวัด

ผมจูบเบาๆกับสาวที่รอ แต่เธอไม่ได้ปล่อยผมไปแค่นั้น แทงลิ้นเข้ามาในปากของผมและแลกเปลี่ยนน้ำลาย แลกเปลี่ยนการจูบที่มีไฟราคะให้กับเธอ

 「เฮ้ เฮ้……ท่านต้องล้อเล่นกับผม ใช่มั้ย?」   

 「บัดซบเอ้ย คนแบบท่านควรจะนำสาวๆทั้หมดของท่านแล้วออกไปจากที่นี่เสีย!」   

ผมรับรู้สถานการณ์ของผมเมื่อคนผ่านมมากสาปแช่งผม พร้อมด้วยมิล่าโอบแขนของผม ซีเลียจูบผม ผมก็ถูตูดอิริจิน่าที่ดูหิวด้วย

เราจะต่อเมื่อเรากลับไป

—————————————————————   

คืนนั้น

ผมนั่งอยู่คนเดียวบนโซฟาในห้องนอน และมีความสุขกับเหล้าแก้วหนึ่ง มันเป็นเหล้าระดับสูงที่เตรียมไว้ต้อนรับทูตจากสหพันธรัฐ  ดังนั้นอย่างเป็นธรรมชาติ มันมีรสชาติที่ประณีต

ในท้ายที่สุด มีการเคาะประตูเบาๆ

 「มันคือ เฮลวี หนูมาตามสัญญา」   

 「ได้ เข้ามาเลย」   

 「ขออภัย」   

ผู้หญิงผมดำผู้ที่เข้ามาในห้องเรียกว่าเฮลวี มันดูเหมือนเธอทำหน้าที่เป็นเลขาของบรูตัส แต่เพราะเธอไม่มีตำแหน่งทางสังคม และถูกยึดมาพร้อมกับเจ้านายของเธอ ระหว่างเวลาที่รุกราน เธอไม่ได้เข้าร่วมสักส่วนหนึ่งของแผนการ และพ้นผิด

เมื่อดูเธอตอนนี้ ความสูงเธอประมาณ 170 ซม. และค่อนข้างที่จะตัวสูงสำหรับผู้หญิงเมื่อนำมาพูดกัน หมายถึงจะมีความไม่สมดุล ร่างกายเธอไม่ได้แข็งแกร่งและทนทานเหมือนอิริจิน่า แต่เธอมีหน้าตาที่น่ารัก ซึ้งนั่นก็คือทำไมผมถึงเสียเวลาเพื่อพบเธอ เมื่อเธออยากจะพบผม

 「ถ้างั้น ต้องการอะไร?」   

เธอได้ถูกถือว่าไม่มีความผิดและปล่อยไปแล้ว ไม่ควรจะมีอย่างอื่นที่ผมจำเป็นต้องทำ

 「หนูอยากจะคุยกับท่านเกี่ยวกับท่านผู้นำบรูตัส」   

มือที่นำแก้วของเหล้ามาสู่ปากของผมหยุดเคลื่อนที่

 「เรื่องนี้เกี่ยวกับการไล่ท่านผู้นำไปทางใต้」   

เฮลวีจ้องมองผมต่อไป

 「ฮิลาริโอ พาโบล บลูตัส — ทั้งสามที่ว่ามานั้น จะถูกเนรเทศถาวรไปสู่ประเทศหนึ่งทางใต้……ควรจะเป็นอะไรที่ถูกพูดมา ใช่มั้ย? ปรกติแล้ว อาชญากรรมจะคู่ควรกับโทษประหารชีวิต แต่ราชินีเซเลสติน่าก็ร้องขอความเมตตาของพวกเขาเป็นการส่วนตัว แต่ฉันไม่ได้รู้สึกสักหนึ่งสิ่งกับพี่น้องนะ」   

 「และประเทศนั้นจะเป็นประเทศไหน? หนูไม่เชื่อว่าลอร์ดฮาร์ดเลตต์เกี่ยวข้องกับหลายประเทศทางใต้มาก ใช่มั้ยคะ?」   

 「ฉันพูดไม่ได้ การเนรเนศของเขามันเพื่อที่จะตัดความสัมพันธ์」   

น้ำตาเอ่อล้นมาจากตาของเฮลวี

 「หนู……ไม่ได้โง่ปานนั้น หนูรู้ว่าจุดหมายของพวกเขาคือโลกอื่น」   

 「……」   

ผมบอกลีโอโพลต์ให้ตัดสินพวกเขาอย่างเหมาะสมและจัดการกับพวกเขาบนทางมาที่นี่ เราไม่ได้ประหารเขาต่อหน้าเซเลสติน่า แต่เราก็ปล่อยพวกเขาให้มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ด้วย

 「ท่านผู้นำคือทุกอย่างกับหนู! หนูขอร้องท่านล่ะ ถ้าด้วยวิธิใดวิธีหนี่ง ท่านไว้ชีวิตของพวกเขาได้……พิจารณาโทษของเขาใหม่」   

 「……มันค่อนข้างที่จะยากน่ะ พี่น้องที่โง่นั่น จริงๆแล้วแค่เป็นสิ่งมีชีวิตวิตที่ไม่น่าพอใจเท่านั้น และจริงๆแล้วบรูตัสเป็นคนเดียวก่อความอันตรายได้มากที่สุด」   

 「ท่านผู้นำทำเพียงเพื่ออนาคตของประเทศ! ตอนนี้ที่เขาพ่ายแพ้แล้ว มันไม่มีเหตุผลทสำหรับเขา ที่จะโยนโลกนี้เข้าไปสู่ความวุ่นวาย!」   

 「เธอใกล้ชิกับบรูตัส แต่สำหรับฉันเขาไม่ใช่อะไรนอกเสียจากกบฎ และฉันไว้ใจเขาอย่างง่ายมากไม่ได้」   

 「ไม่นะ……」   

 「ที่สำคัญกว่านั้น เกี่ยวกับอนาคตของเธอ ถ้าเธออยาก……เฮ้ เดี๋ยวก่อน!」   

เฮลวีเริ่มแก้ผ้ากระทันหัน เธอนำทุกอย่างออกไป เริ่มจากกายท่อนบน และจากนั้นตามมาด้วยกายท่านล่าง จากนั้นเธอตกไปที่พื้นและแหวกขาออกกว้าง ชี้อวัยวะเพศขอเธอมาทิศทางผม เธอแหวกกลีบจิ้เธอออกห่างกัน ไกลมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เอาแม้แต่ข้างในจิ๊ของเธอให้ผมดู

 「หนูได้ยินว่าว่าลอร์ดฮาร์ดเลตต์มีความรักผู้หญิงที่มไม่่มีใครตีคู่ขนาน! หนูไม่สนว่าท่านจะใช้ร่างกายของหนูเป็นของเล่น! ท่านทำทุกอย่างกับหนูได้หมด ทำหนูแตกหัก ฆ่าหนู หนูไม่สน  นั่นทำไม! ถ้าท่านช่วยเขาได้สักวิธีใดวิธีหนึ่ง ช่วยท่านผู้นำด้วย ได้โปรด」   

ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าชื่นชม ถ้าเธอยินดีจะพยายามขนาดนี้ ผมจะพิจารณาใหม่ แต่ก่อนหน้านั้น

 「เธอแน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรือ? ฉันจะโอบกอดเธอจริงๆนะ」   

 「ถ้าท่านจะไว้ชีวิตท่านผู้นำ ถ้าอย่างนั้นหนูไม่สนใจ」   

ผมเติมแก้วด้วยเหล้า และมอบมันให้เฮลวี เธอรู้เจตนาของผมอย่างรวดเร็ว และดื่มน้ำนั้นหมดไปทันที

 「ขึ้นไปบนเตียงเถอะ เราจะคุยกันต่อที่นั่น เตรียมตัวไว้ด้วย เธออาจจะไม่มีวันกลับไปอยู่ข้างบรูตัสอีก」    

 「ค่ะ หนูเตรียมตัวแล้ว」   

ผมก็เริ่มถอดเสื้อผ้าผมออก ผมต้องรีบ ไม่อย่างนั้นกางเกงผมจะฉีกขาด

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูหนาว

สถานะ: เคานต์อาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ

พลเมือง: 150,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 18,000 ลินต์บลูม: 3000

ทหารใต้บัญชาการ:

กองทัพส่วนตัว: 8600

สินทรัพย์: กำลังคำนวณ

อาวุธ: ดูอัลเครเตอร์ (ดาบใหญ่), หอกดอร์ฟ, ดาบเหล็กกล้ามือเดียวระดับสูง

ครอบครัว: นนน่า (ภรรยาที่ท้อง), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อย), คุ (คนรัก), รุ (คนรัก), มิเรล (คนรัก), ลีอาห์ (ทาศเซ็กส์ที่ประกาศตัวเอง), เคซี่ (ผี), มิตี้ (คู่หมั้น), อัลม่า (เพิ่งเรียนรู้), ครอล (เพิ่งเรียนรู้), เมลิสซ่า (คนรัก), มาเรีย (คู่หมั้น), ริต้า (หัวหน้าเมดที่ท้อง), แคทเธอรีน (คู่หมั้น), โยกุริ (หมกตัวอยู่บ้านยุคใหม่ที่ทออง), ปีปี้ (ผู้ติดตาม), เซบาสเตียน (บัตเลอร์), โดโรเธีย (คนรัก ในเมืองหลวง), เซเลสติน่า (ราชินีมอลต์), โมนิก้า (นางกำนัล)

ลูก: ซู, มิว, เอคาเทอริน่า (ลูกสาว), แอนโตนิโอ, คลอดด์, กิลบาร์ด (ลูกชาย), โรส (ลูกสาวบุญธรรม)

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการ), รูบี้ (ผู้ติดตามลูน่า และคนรัก), ไมล่า (เจ้าหน้าที่สันติภาพ), ลีโอโพลต์ (เจ้าหน้าที่), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายในสุดเหนื่อย), กิโด้ (ป่วยติดเตียง), ทริสตัน (ฟฟฟี้), แคลร์ & ลอรี่ (แม่ค้าทางการ), ชวาร์ซ (ม้า), ลิเลียน (ดาราหญิง)

มาร์เซลีน, สเตฟานี, บริดเจ็ท, เฟลิซี่ (รับมาอยู่ในการคุ้มครอง)

คู่นอน: 140, เด็กที่เกิดแล้ว: 31    —————————————————————

วายุ: “ศาลเตี้ย = Kangaroo court ศาลจิงโจ้ :D”

 แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถาถูกใจ ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล สปอนเซอร์ตอนแจ้ง Facebook : “wayuwayu แปล”  ออกความคิดเห็นที่ Dek-D และ Tunwalai จะเห็น ขอบคุณมากที่อ่านครับ   

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน