ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 187 ศึกเก็บกวาดผู้คลั่งไคล้มากราโด ① การปะทะบนทุ่งหญ้า

ถนนสู่อาณาจักร

187 ศึกเก็บกวาดผู้คลั่งไคล้มากราโด ① การปะทะบนทุ่งหญ้า

31 – 39 นาที

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

ผมนำทหาร 13,000 ไปด้วยกันกับผมและมุ่งหน้าตรงทิศตะวันออก

เราลงใต้สู่ซานโดร่า จากนั้นไปทิศตะวันตกและจากตรงนั้น…… เดินหน้าบนถนนสู่ทริสเนีย

ผมโยกหน้าโยกหลังอยู่บนหลังของชวาร์ซขณะผมมองดูป่าเอิร์กผ่านไปที่ทางขวา

「เส้นทางค่อนข้างขรุขระเมื่อเทียบกับส่วนก่อนถึงซานโดร่า」

สำหรับการออกศึกนี้ ผมได้นำทหารส่วนใหญ่ในดินแดนของผมมาด้วยกันกับผม

อย่างเป็นธรรมชาติ ผมไม่ได้นำมาแค่ซีเลีย แต่ทุกคนจากกองทัพจากลีโอโพลต์ไปจนถึงทริสตันก็ออกเดินทางด้วยเหมือนกัน

「นั่นมันปัญหาโลกที่หนึ่ง มัน เพราะทั้งหมดไม่มีเส้นทางแบบรอบราเฟนตลอด」

ผมกอดซีเลียและลูบหัวเธอ

「ฮู้ว! ท-ทหารกำลังดูอยู่」

นั่นไม่มีอะไรให้ต้องกังวล มันเป็นสามัญสำนึกกับพวกเขาแล้วว่าหนูเป็นคนรักของพี่

「เราเกือบอยู่ใน……ดินแดนบารอนฮาเม」

「มันเป็นลอร์ดบาเรที่เราได้ส่งผู้ส่งสาส์นแล้วดังนั้นเราควรสามารถตั้งแคมป์ใกล้กับเมืองได้」

เราได้รับอนุญาติจากขุนนางตะวันตกส่วนใหญ่ก่อนหน้ากับการออกศึกของเรา

มันเพราะนนน่าจัดงานเลี้ยงเต้นรำและงานเลี้ยงน้ำชาเป็นประจำที่ความสัมพันธุ์ของเรากับพวกเขาดี

「ยังไงซะ จริงๆแล้วมันความแข็งแกร่งของกองทัพ ปรกติแล้ว มันจะเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะปฏิเสธเราว่าความสัมพันธ์เราเป็นอย่างไร」

ลีโอโพลต์โยนน้ำเย็นบนความสำเร็จของนนน่าผู้สามารถมีส่วนร่วมได้เป็นครั้งแรก

「เพราะทั้งหมดเมื่อเราประจำการในดินแดนวิสเคาตน์ชาวานเนสเมื่อวาน เขาเกือบกลัวจนน่าสงสารเลย」

ซีเลียยิ้มอย่างขมขื่น

เราตั้งแคมป์รอบเมืองที่มีพวกเขา 5000 คนจนเกือบเหมือนเราตั้งการตีวงล้อม

แต่เราเพียงแต่ปล่อยให้ทหารเราพักใกล้เมือง ไม่มีเจตนาไม่ดีอื่นหลังการกระทำของเรา

「ตอนนี้เมื่อพี่คิดดูแล้ว มันเหมือนกันกับสาวคนนั้น」

เมื่อคืน ผมอยู่ในห้องในคฤหาสน์ชาวานเนสที่คุณหนูแอบเข้ามาอย่างลับๆตอนกลางคืน

เธอขอร้องให้ผมสร้างรักกับเธอดังนั้นผมเลยไม่ออมมือ

「คนนั้นเห็นว่าเป็นสาวจากตระกูลย่อย แต่เธออยู่ในสภาพน่าสงสารตอนนี้นะ ที่มีตาเหลือกกลับไปหลังจากฉี่แตก」

「อุมุ เธอเป็นสาวบริสุทธ์ มากกว่านั้น เธอสวย ดังนั้นพี่ลืมใช้ยาคุม พี่อาจทำให้เธอท้อง」

การจ้องเขม็งอันเย็นชาชี้ตรงมาทางผมจากซีเลียและไมล่า

มาเปลี่ยนหัวเรื่องเถอะ

「ที่สำคัญมากกว่านั้น ดูเหมือนมันจะเป็นยังไง? ทหาร 13,000 คนเพียงพอกับเมืองอโตรัวมั้ย?」

ลีโอโพลต์ ทริสตัน มันเป็นตานายแล้ว

「จากเครือข่ายข่าวกรองและข้อมูลซึ่งได้มาจากเมืองรอบข้าง อโตรัวมีจำนวนประชากร 30,000 และ พลเมืองมากกว่า 10,000 ผูถูกสมัครมาเป็นกองกำลังได้เมื่อจำเป็น」

「พวกเขาไม่เหมือนเราในเรื่องนั้นพวกเขาใช้พลเมืองทั้งหมดและทหารฉุกเฉิน」

ถ้าเป็นอย่างนั้นถ้าอย่างนั้นเราไม่ได้มีความเหนือกว่าพวกเขามาก

「มากกว่านั้น พื้นที่นาที่ถูกดูแลในบริเวณแคบระหว่างเมืองและบริเวณรายล้อม พวกเขารักษากองกำลังทหารมหาใหญ่ไม่ได้และพวกเขาไม่มีความยืดหยุ่นที่จะรับมือกับการโจมตีทุกรูปแบบ

「ป้อมปราการของเมืองทำหน้าที่เป็นการป้องกันอันเข้มแข็ง แต่พวกเขาแม้แต่ถอยทัพหรืออนุญาติให้พลเมืองอพยพก็ไม่ได้」

ลีโอโพลต์มองไปข้างหลัง

ที่นั่น ม้ากำลังดึงปืนใหญ่และชิ้นส่วนเครื่องดีดหินของเรา

ถ้าสถานการณ์ดำเนินไปสู้การต่อสู้ล้อมเมืองเต็มรูปแบบ จะไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีพลเมืองเสียสละมากมายบนฝั่งเขาด้วยเหมือนกัน

ถ้าเรารุกทะลุเข้าไปเหมือนผู้บุกรุก พวกเขาอาจต่อต้านอย่างทั่วถึง แม้ว่าเราแค่โจมตีด้วยเจตนาให้พวกเขาส่งฝ่ายผู้คลั่งไคล้มากราโดออกมา

「ถ้าเราพิจารณาสถานการณ์จากฝั่งของพลเมืองอโตรัว พวกเขาจะนำครอบครัวและตระกูลเข้าสู่อันตรายเพื่อปกป้องคนนอก ถ้าพวกเขาทำบางอย่างเหมือนพยายามต้านไว้ในป้อมปราการ ความไม่พอใจจะถูกแสดงออกอย่างรวดเร็ว」

「มากกว่านั้น กองทัพอโตรัวค่อนข้างจะทรงพลังด้วย และพวกเขาจะสู้กับเรานอกเมืองแน่นอนถ้าพวกเขาเห็นว่าเราไม่มีกองกำลังใหญ่โต」

เข้าใจแล้ว แต่เราจะไม่แพ้แม้ว่าเราสู้ศึกนอกเมือง

ตราบใดที่ภูมิศาสตร์ถูกต้องผมสัญญาได้ว่าทหารม้า 5000 ของเราจะมีความได้เปรียบแน่นอนที่สุดกว่า

「แล้วก็ อีริชบ่นจนถึงหยดสุดท้ายว่ามันจะดีกว่าถ้ากองทัพอาณาจักรถูกส่งออกไปด้วย」

「อธิบดีของกิจการกองทัพน่าจะอยากให้โอกาสนี้เพื่อแสดงอิทธิพลกับชาติทางใต้ แต่ปรกติแล้วจะไม่มีทางเลือกนอกจากรับมันเป็นคำสั่งนะ……」

「มันช่วยได้จริงๆที่เรามีตัวเงื่อนไขที่จำเป็นให้เมืองใกล้ๆให้เปิดทาง」

เงือนไขที่ว่ามานั้นคือ “กองกำลังน้อยที่สุดที่จำเป็นสำหรับไว้ปราบอโตรัวจะถูกอนุญาตให้ผ่านไป โดยถ้าอาณาจักรรวมอยู่ด้วย มันจะทำให้ทหารเป็นหมื่นเป็นกองกำลังใหญ่พอที่จะถูกพิจรณาเป็นการรุกรานและจะไม่ถูกอนุญาต

「เราจงใจเจรจาส่วนนั้นด้วย」

「แต่ถ้าเราแพ้แบบนี้ มันจะน่าอับอาย นายมีแผนอะไรมั้ย?」

「ผมไม่มี」

ผมจับหัวทริสตัน

「โอ้ย! ได้โปรดหยุด! หัวผมกำลังถูกขยี้!」

「มันเป็นความจริง แผนไม่จำเป็น แม้แต่โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์จากแผนเราชนะได้ด้วยแค่การขยี้แผนศัตรูและโจมตีจากข้างหน้า」

พูดนั่นตั้งแต่แรก ถ้านานกว่านี้แม้แต่นิดเดียวหัวของทริสตันจะถูกขยี้ในมือของผม

มาสบายๆและเดินทัพไปข้างหน้าเถอะถ้าอย่างนั้น

 

 

ดินแดนนครรัฐ: ที่ราบ

「พวกเขามา เหมือนที่เราวางแผนทุกอย่าง」

「จำนวนของพวกเขา…… มากกว่า 10,000 เล็กน้อย มันมากกว่าที่ฉันคิด」

สนามรบที่เราเลือกสำหรับการต่อสู้ของเรากับกองทัพคนอโตรัวคือที่ราบกระจายไปด้วยเนินเขา

เนินเขาลาดอย่างอ่อนโยนดังนั้นพวกมันไม่ควรกลายเป็นอุปสรรค์ในการสู้ของเรา

「ลีโอโพลต์ นายคิดว่ายังไง?」

「ชัดเจนว่าพวกเขาผิดผลาดในการเลือกสนามรบ ถ้าเราถอยอีกนิดเราจะสู้ในหุบเขาที่มันจะไม่เหมาะสมกับการส่งกองทัพใดๆออกไป」

「มันจะยากสำหรับศัตรูที่จะสู้ได้ดี บางทีพวกเขาไม่ชอบนั่นเหรอ?

ซีเลียแสดงตัวออกมาข้างหลังผม

「ศัตรูกำลังสู้ศึกป้องกัน และจะไม่ถือถ้าพวกเข้าไม่พิชิตเรา เราจะเป็นหนึ่งในคนที่สุดท้ายจะเหนื่อยแทน」

「เมื่อพูดนั่นแล้ว การมีกองทัพศัตรูอยู่ใกล้มันไม่สบายใจสุดขีด และถ้าพวกเขาถอยไปมากกว่านี้ พวกเขาก็จะกังวลเกี่ยวกับการโจมตีไม่เป็นจังหวะบนแปลงผักและนารอบอโตรัว มันดูเหมือนพวกเขาคิดถึงพลเมืองของพวกเขามากกว่าที่ตอนแรกเราคิด」

ถ้าอย่างนั้นบางทีพวกเขาจะเห็นด้วยที่จะส่งฝ่ายนั้นมาถ้าเราเอาชนะพวกเขาแค่ทีเดียวเพราะพวกเขาไม่ชอบการต้านอยู่ในป้อมปราการต่อต้านพวกเรา

「มาหวังว่าเป็นอย่างนั้นเถอะ ทหารทั้งหมด เข้าสู่ขบวนแถวต่อสู้」

บนคำสั่งของลีโอโพลต์ กองทัพรีบเปลี่ยนทำให้ ทหารราบ 4000 และนักธนู 1000 นำโดยไมล่าบนปีกขวา ระหว่างกองทัพ 3000 กระจายออกไปทางปีกซ้ายถูกนำโดยทริสตันผู้ไม่เต็มใจ ลูน่านำทหารม้าธนูและอิริจิน่านำทหารม้า พร้อมที่จะเดินหน้าทุกเวลา

ลีโอโพลต์อยู่ข้างผม และจะทำหน้าที่เป็นผู้กำกับการต่อสู้ทั้งหมด

「เอเกอร์ซาม้า!」  「ผมจะปกป้องหัวหน้า」 

ซีเลียกำลังนำหน่วยติดตามคุ้มกันและชิดใกล้กับผมกิโด้ก็เรียงกันอยู่ข้างเธอ

ปีปี้กำลังขี่ม้าอยู่ข้างหลังผม

นั่นจะเป็นทหารม้าธนูด้วย

「อืม มาดูกันว่าศัตรูจะเคลื่อนไหวยังไง」

ผมจะพุ่งเข้าตีกับทหารม้าตั้งแต่เริ่ม แต่ศัตรูคือคนผู้เรายังไม่รู้ไพ่ในมือ

「ศัตรูได้ส่งออกมาเท่ากันบนซ้ายและขวา! พวกเขากำลังเดินทัพมาข้างหน้าอย่างช้าๆ」

เข้าใจแล้ว ศัตรูระวังตัวคล้ายกัน

จากอะไรที่ผมเห็นได้ อโตรัวไม่มีทหารม้ามาก

พวกเขาเกือบทั้งหมดกำลังถือโล่และหอกสั้นหรือดาบ

「พวกเขาคล้ายกับทหารราบติดอาวุธหนักของมากราโด…… แม้ว่าทหารเหล่านี้กำลังถือโล่เล็กกว่าและดูคล่องตัวมากกว่า」

「พวกเขาดูเหมือนอาจจะมาเข้าใส่เราจากข้างหน้า」

มาปล่อยมันให้กับลีโอโพลต์ตั้งแต่เริ่มเถอะ

กองทัพอโตรัวและกองทัพของผมเข้าหากันและกันจากข้างหน้า และพลธนูจากแต่ละกองทัพมุ่งมาสู่หน้าของขบวนแถว

ในช่วงเวลาต่อมา ชุดการยิงลูกธนูถูกยิงพร้อมๆกันจากทั้งสองฝ่าย เฉี่ยวผ่านลูกธนูของกองทัพตรงกันข้ามและตกลงเป็นฝนใส่หัวของทหาร

「มันดูเหมือนพวกเขาอยู่ในระยะเดียวกันกับธนูประกอบของเรา」

ศัตรูยิงลูกธนูของพวกเขาในท่าทางซึ่งเป็นระเบียบและความแม่นยำของพวกเขาค่อนข้างเข้าเป้า

「กุ่อ้า!」 「ว้า!」

พลธนูของเราตั้งโล่ไม้ใหญ่และยิงจากข้างหลังพวกมัน แตต่ก็ยังมีทหารบางคนผู้ถูกยิงและถูกฆ่า

ศัตรูได้รับประสบการณ์อย่างเดียวกันและขบวนแถวของพวกเขาแค่ไม่เป็นระเบียบเล็กน้อย

「ชุดยิงที่สอง! ยิง!」

ชุดยิงที่สองถูกยิงและตกเป็นฝนลงบนศัตรู

ศัตรูก็ยิงชุดยิงที่สอง ณ เวลาเดียวกัน หมายถึงพวกเขามีทักษาคล้ายกัน

「พวกเราทั้งสองตั้งโล่ใหญ่ และไม่มีพวกเราสักฝ่ายพจัดการอีกคนได้ไม่สำคัญว่าจะยิงลูกธนูอีกมากเท่าไหร่」

「เราจะทำการเคลื่อนไหวที่นี่ บาลิสต้าเสร็จการตั้ง」

ลีโอโพลต์เก็บสายตาไว้ข้างหน้าระหว่างมอบสัญญาณ

ใกล้กลางกองทัพหลัง บาลิสต้า 40 ตัวถูกชี้ไปที่ศตรูผู้กำลังยิงพร้อมทหารเราบนปีกขวา

หนึ่งซึ่งขนาดเล็กกว่าบาลิสต้าสร้างสำหรับการล้อมเมืองก็ถูกเติมกระสุนและถูกดึงบนรถเกวียนโดยไม่ถูกแยกชิ้นส่วน ระยะและพลังการยิงของมันด้อยกว่าบาลิสต้าเต็มรูปแบบแต่อาวุธเหล่านี้ใช้ความลำบากน้อยกว่าเพื่อติดตั้งและถูกใช้ในการต่อสู้นอกเมืองได้

ระยะของพวกมันมากกว่าธนูธรรมดาดังนั้นพวกมันจะไม่เข้าไปอยู่ในการยิงกันของนักธนู

「ยิง!」

สัญญานถูกส่งมอบและลูกดอกใหญ่บินฝ่าในอากาศตามมาด้วยเสียงแหลมเบาๆ

ด้วยน้ำหนักอันเทียบไม่ได้กับลูกธนู พวกมันทำลายโล่ที่ตั้งขึ้นมาและกวาดศัตรูลงหลายคนทั้งหมดทีเดียว

「นั่นค่อนข้างทรงพลัง…… ยังไงก็ตามความแม่นยำของมันแย่」

「พวกมันไม่ได้ติดแน่นกับพื้น ดังนั้นมันช่วยไม่ได้」

จาก ลูกธนูยักษ์บิน 40 ดอก มีแค่ไม่กี่ลูกใกล้กับการโดนขบวนแถวศัตรู

นั่นไกลจากการเป็นการโจมตีตัดสิน

「โอ้อื้ม มันทำให้พวกเขาค่อนข้างไม่เป็นระเบียบ」

「ให้ทหารม้าเราพุ่งเข้าตีไปสู่ตรงกลางขบวนแถวของพวกเขามั้ย?」 

ซีเลียอยากสรุปอะไรๆทันที

แต่…… มันยังเร็วเกินไป

 「ศัตรูยังอยู่ในการควบคุมกองกำลังของพวกเขา ถ้าเราพุ่งเข้าตีไปตอนนี้ เราจะเจอปัญหาการโจมตีสวนที่ดุดัน」

「มุ」

การมีลีโอโพลต์ตอบสวนเธอ ซีเลียพองแก้มในความไม่สบอารมณ์

ผมดึงแก้มเธอและปล่อยให้อากาศออกและมอบคำสั่งให้สู่ลูน่าและทหารม้าธนูของเธอ

 「สั่งทหารม้าธนูให้แยกไปทางซ้ายและขวาจากนั้นให้พวกเขายิงจากด้านข้าง ล้อมไปข้างหลังและยิงพวกเขาให้พรุน…… แค่พยายามเลี่ยงการสู้ระยะประชิด」

ลีโอโพลต์พยักหน้าด้วยเหมือนกันและส่งต่อคำสั่งสู่กลุ่มอื่น

ทหารม้าธนูแบ่งพวกเขาเองเป็น 2000 ทางซ้ายและ 2000 ทางขวา จากนั้นเพิ่มความเร็วเพื่อล้อมศัตรู

ศัตรูไม่ได้มีทหารม้าผู้มีทักษะดังนั้นพวกเขาส่งกองกำลังออกมาเพื่อสกัดกั้นพวกเขาไม่ได้ ซึ่งหมายถึงพวกเขาควรเข้าสู่ท่ายืนแบบป้องกันต่อต้านทหารม้า

พลธนูศัตรู ณ หัวของกองทัพกำลังจะเปลี่ยนเป้าหมายสู่ทหารม้าธนูผู้เข้าหาพวกเขาจากซ้ายและขวา แต่ถูกเลี่ยงไม่ให้ทำโดยกชุดยิงคุ้มกันจากนักธนูฝ่ายเราแบบที่ถูกสั่งการโดยลีโอโพลต์ และเคลื่อนที่ในแบบที่พวกเขาต้องการไม่ได้

ถ้าศัตรูไม่ระวังและเปลี่ยนขบวนแถวตอนนี้ มันจะทำให้พวกเรารุกพลธนูไปข้างหน้าและยิงทั้งกองทัพพวกเขาเป็นฝน

 「เอาล่ะ พวกเขาตีวงล้อมรอบขนาบซ้ายและขวา…… โฮ่ พวกเขาค่อนข้างเก่ง」

ทันทีเมื่อศัตรูเห็นพวกเขาถูกขนาบจากด้านข้าง พวกเขาตั้งโล่และหอกเรียงแถวในทันที

เพื่อที่จะไม่มีผลต่อความเป็นระเบียบ ซึ่งหมายถึงพวกเขายังคงโจมตีสวนอย่างทรงพลังได้ถ้าเราไม่ระวังและพุ่งเข้าตีเข้าไปตอนนี้

 「อย่างไรก็ตาม ทหารม้าธนูไม่เหมือนทหารม้าปรกติ」   

ศัตรูผู้คาดหวังถึงการพุุ่งเข้าตีจากด้านข้างถูกสาดด้วยห่าฝนอันดุดันของลูกธนู

ขบวนแถวของศัตรูการเป็นกระจัดกระจายหลังจากได้รับชุดยิงจากซ้ายและขวา

แม้ว่าพวกเขาอยากโจมตีสวน พลธนูพวกของเราตรงหน้าพวกเขากำลังยิงเน้นไปที่พวกเขา ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้ยิงกลับ

 「ตอนนี้เราพุ่งเข้าตี……หมึกก๊า-」   

ผมดึงแก้มซีเลียผู้ตื่นเต้นอีกครั้ง

ยังก่อน ศัตรูเพิ่งเริ่มเปลี่ยนขบวนแถวของพวกเขา

เพื่อรับมือกับภัยปัญหา ทหารศัตรูแบกโล่และเคลื่อนที่ตามกันทีละคนไปสู่ด้านข้าง

ถ้าอย่างนั้นพวกเขาเปลี่ยนขบวนแถวระหว่างที่ถูกยิง

ศัตรูยังไม่ตกสู่สภาพของความวุ่นวายตอนนี้

 「ปีกซ้าย ปีกขวา เดินหน้าไปด้านหน้า」   

ในที่สุดลีโอโพลต์ก็มอบคำสั่งให้ไมล่าและทริสตัน

 「แต่ถ้าอย่างนั้นทหารราบของเราจะตกอยู่ใต้ธนูของศัตรู」   

ซีเลียพยายามยืนยันความสงสังของเธอ แต่ไม่มีทางเลยที่ลีโอโพลต์จะไม่รู้อะไรที่ชัดเจนแบบนั้น

 「ฉันไม่ถือ การเคลื่อนไหวต่อไปจะตัดสินอะไรๆ」   

ได้รับคำสั่ง ปีกขวาและซ้ายเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เดินทัพแม้ว่าได้รับผู้เสียชีวิตจากลูกธนู

ผมปฏิเสธคำขอที่สามของอิริจิน่าที่จะออกไปแนวหน้า และดูกลุ่มอื่นก้าวไปข้างหน้า

 「กลุ่มศัตรูเน้นมาที่ข้างหน้า!」   

อย่างเป็นธรรมชาติ พวกเขาจะไม่สามารถป้องกันกับพลธนู 1000 และทหารราบ 7000 ถ้าเป็นอย่างอื่น

ทหารม้าธนูซึ่งโจมดีจากด้านข้างก็วิ่งไปสู่ข้างหลัง

มันจะใช้เวลาสำหรับทหารม้าธนูในการเปลี่ยนทิศทางและพุ่งเข้าตีพวกเขาอีกครั้ง ซึ่งก็คือทำไมพวกเขาตัดสินใจที่จะเน้นไปบนภัยข้างหน้าพวกเขา – ทหารราบที่เข้าหา

 「อืม ตอนนี้แหละ!」   

ทหารม้าธนูผู้ได้วิ่งไปข้างหลังของศัตรูหันกลับบนม้าและปลดปล่อยลูกธนูระหว่างยังหันหน้าไปทางอื่น

 「อุว้า!」  「ยิงหันหลังเรอะ!?」

ทันทีเมื่อศัตรูรู้สึกโล่งใจว่าพวกเขารอดจากคลื่นบุกระลอกแรกและคิดว่าหลังพวกเขาปลอดภัย ลูกธนูเทลงใส่พวกเขาจากด้านหลังเหมือนฝนสาด

กองทัพซึ่งปรากฏว่าค่อนข้างทรงพลังมาจนถึงตอนนี้รีบตกอยู่ในความไม่เป็นระเบียบ

 「ฉันพนันว่าพวกเขาทำอย่างนั้นไม่ได้」   

ผมพยายามฝึกทหารให้กลายเป็นทหารม้าธนูนอกจากนักรบจากชาติภูเขา และผลลัพธ์ก็คือพวกเขาส่วนใหญ่สามารถยิงลูกธนูระหว่างหันไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ค่อนข้างจะไม่มีพวกเขาสักคนเลยที่สามารถยิงไปด้านข้างระหว่างวิ่งไปข้างหน้า และเมื่อพวกเขาพยายามหันหลัง มันมีคนมากกว่าผู้ที่ตกม้าของพวกเขาและทำตัวเองบาดเจ็บมากกว่าผู้คนผู้สำเร็จ

ผมถามปีปี้และกีโด้ว่ามันมีเล่ห์กลอะไรไหม แต่พวกเขาแค่ตอบมาด้วย “ไม่ใช่มันเป็นไปได้ถ้าหัวหน้าระวังมากกว่านั้นนิดหน่อยหรือ?”

ดังนั้นเองผมเดาว่าทักษะอันผมชินที่ได้เห็นมาหลายปีไม่สามารถถูกลอกเลียนแบบด้วยแค่การฝึกครึ่งๆกลางๆ

 「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์」   

 「อุมุ ฉันรู้」   

มันเป็นเวลาอันรอมานานสำหรับซีเลีย ผมจะให้เธอรู้

 「ท-ทุกหน่วย บุกกกกกกุ!」   

 「「อุ่โออออออออออออ้–!!」」   

เธอพูดติดขัดตอนที่สำคัญมากที่สุด

ซีเลียพยายามแก้ใหม่แต่เธอจมโดยเสียงของการคำรามแห่งสงครามของทหารและเสียโอกาสของเธอไป

หน่วยทหารราบบนปีกซ้ายเปลี่ยนความเร็วจากการเดินทัพเร็วสู่การพุ่งเข้าตีเต็มรูปแบบ

เมื่อเห็นว่าเราทำการโจมตีเต็มรูปแบบ ศัตรูรีบดึงกลุ่มพลธนูของพวกเขากลับและดันทหารราบของพวกเขาเองมาข้างหน้าเพื่อพยายามรับมือกับทหารราบฝ่ายตรงข้าม

การปะทะดุดันเกิดขึ้นระหว่างพวกเราผู้พุ่งเข้าตีและทหารศัตรูที่ยืนประจำที่อยู่

 「แนวหน้าได้เข้าปะทะกับศัตรู」   

ทหารราบสู้กับทหารราบเราในการเข้าปะทะกันอันดุดันนี้ เหวี่ยงหอกและดาบใส่กันระหว่างพยายามรุกไปข้างหน้า

ทหารจากสองฝั่งล้มกันที่อัตราใกล้ๆกัน และแม้ว่าพวกของเราจะรุกศัตรูถอยหลังไปช้าๆเรื่อยๆ มันจะไม่กลายเป็นการโจมตีตัดสินสู่พวกเขา

 「การโจมตีเต็มรูปแบบหลังจากพวกเขาไม่เป็นระเบียบจากชุดยิงด้านหลัง และเรายังรุกทะลุไปไม่ได้เหรอ?」   

มองดูทหารศัตรูอีกครั้ง อโตรัวติดอาวุธแม้กระทั้งทหารระดับต่ำสุดด้วยชุดเกราะเหล็กและโล่ ทำให้มันยากกับการฟันพวกเขาล้ม

ผมคิดว่าศัตรูของผมก็ติดอาวุธพร้อมด้วย แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายมีอุปกรณ์ค่อนข้างคล้ายกัน ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิ์จะแพ้ถ้าพวกเขาไม่ระวัง

 「เอเกอร์ซามะ เรารุกพวกเขากลับไปไม่ได้!」   

ศัตรูก้าวกลับหลังไปคืบอย่างสุดแสนจะเล็กน้อยระหว่างพวกของเราก้าวไปข้างหน้าก้าวจิ๋วๆ กระนั้นทั้งสองฝ่ายได้รับจำนวนผู้เสียชีวิตเท่ากัน

จากนั้น ทหารม้าธนูยิงลูกธนูมาอีกชุดยิง – เฉียงๆขึ้นแค่เพียงพอเพื่อไปถึงศัตรู – จากข้างหลังขณะขบวนแถวของเขาจัดรูปแบบตัวมันเองซึ่งก่อกวนกองทัพศัตรูชั่วคู่เร็ว แต่ไม่ได้กลายเป็นความผิดพลาดตัดสินศึก

 「ลีโอโพลต์ พวกเขาทนได้นานกว่าที่คาดไว้」

 「ใช่ ผมได้รับรายงานเกี่ยวกับทักษะระดับสูงของพวกเขา แต่นี่เหนือความคาดหมาย」   

เราจำเป็นต้องแรงกว่านี้นิดหน่อยที่นี่

ผมส่งสัญญานให้กับลีโอโพลต์ด้วยดวงตาของผม

 「ปีกซ้าย ปีกขวา ล้อมศัตรูบนฝั่งของพวกนาย」   

ไมไมล่าและทริสตันเปลี่ยนจุดโจมตีไปสู้ขอบของขบวนแถวขณะพวกเขายังเข้าปะทะศัตรูอย่างต่อเนื่อง

อย่างเป็นธรรมชาติ การถูกล้อมจากทั้งสองฝั่งจะถึงตายดังนั้นศัตรูเทียบการเคลื่อนไหวของเราและเอียงกองกำลังไปด้านข้าง

ตอนนี้ ตรงกลางเปิดขึ้น

 「ตามพี่มา อิริจิน่า ไปกันเถอะ!」

 「นี่คืออะไรที่หนูรออยู่เลย! ได้เวลาเสียบหอกพวกเขาแล้ว!」   

ผมพุ่งเข้าที่ไปข้างหน้าพร้อมกันกับอิริจิน่าและทหารม้าในหน่วยติดตามคุ้มกันของผมซึ่งเธอจะเป็นคนดูแล

ในความตื่นตกใจ ศัตรูพยายามจะเข้าสู่ขบวนแถวต่อต้านทหารม้า แต่เพราะกองกำลังหลักถูกลากไปข้างๆโดยทหารราบของเรา พวกเขาไม่มีจำนวนพอที่จะทำอย่างนั้น

ตอนนี้เราควรสามารถเขมือบพวกเขาได้

 「พุ่งเข้าตีไปข้างหน้า ฉีกศัตรู」   

เราควบไปข้างหน้าในแถวแนวนอนคนเดียว อย่างไรก็ตาม เพราะความต่างในความเร็วของม้าของเรา ผมอยู่ข้างหน้าสุด

 「เอเกอร์ซามะ! ได้โปรดอย่าเอาตัวเองไปสู่ข้างหน้าสุด!」   

 「พวกเขาจะพุ่งเป้าไปที่ท่าน」   

ซีเลียและกีโด้ตะโกนใส่ผม แต่ไม่มีทางที่ผมจะชะลอได้ตอนนี้

ผมจะไปแบบนี้

ขาชวาร์ซแบกผมไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนสายลมขณะลูกธนูที่ส่งตรงมาสู่ผมจากซ้ายและขวาไม่สามารถโดนเป้าหมายของพวกเขา

สิ่งเดียวเท่านั้นที่พิจารณาว่าเป็นภัยกับผมคือศัตรูข้างหน้า ผมมุ่งหน้าไปใส่กับศัตรูระหว่างปัดลูกธนูซึ่งแม่นพอที่จะเข้าใกล้กับผม

 「ทุกหน่วย ขบวนแถวแบบป้องกันทหา-…… อะไรวะ-!」   

ชวาร์ซกระโดดขึ้นเมื่อเขาเห็นศัตรูเริ่มก่อตั้งกำแพงหอก

ร่างใหญ่ของม้ากระโดดข้ามหัวหอกอย่างง่ายๆและลงพื้นตรงๆบนหัวของพลหอก

 「กุบโบ่ะ」  「กุเอออออ้!」   

สองศัตรูถูกกระทืบจนตายอย่างน่าสมเพชโดยร่างใหญ่มหาศาลระหว่างผมจัดการทหารใกล้ๆคนอื่น มีทหารไม่กี่คนที่ผมพลาด แต่รีบโดนธนูสู่หน้าลั่น

โอ้ ใช่ ปีปี้ขี่ม้าข้างหลังผม เธอเบาบางเสียจนผมลืมเธอเลยว่าเธออยู่ตรงนี้

ไม่มีเหตุผลสำหรับผมที่ต้องรอศัตรูผู้พยายามปิดประชิดผมเป็นวงกลม

ผมให้ชวาร์ซไปข้างหน้า ผู้ซัดใครก็ตามที่กันเส้นทางอยู่หน้าเขาล้มกระจาย ระหว่างผมฟันหน้าไหนก็ตามผู้ชี้หอกมาสู่เรา

 「ปีปี้จะทำส่วนของเธอด้วย」   

ปีปี้จัดการศัตรูที่มีปืนธนูด้วยความแม่นยำแบบกลางเป้า

อย่างที่คาดจากเธอ เธอไม่พลาดแม้แต่หนึ่งการยิง

 「ลอร์ดศักดินาซามะเปิดรู! ตามเขาป๊าย!」

 「เอเกอร์ซาม้า รอก่อน!」   

ทหารม้าพวกเดียวกันท่วมผ่านรูซึ่งผมเปิดในขบวนแถวของศัตรู ขณะที่ขบวนแถวของพวกเขาถูกฉีกแยกจากกันทันที

ตอนนี้มันดูเหมือนว่าผมไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการกันหลังผม

「หยุดทหารม้าดำโว้ย!」   

「อย่ามาถามบางอย่างไม่มีเหตุผลเซ่ เขามันกระทิงคลั่งแล้วนั่น!」   

「แกเรียกใครว่ากระทิงวะ!?」   

หอกผมแทงทหารผ่านโล่ของเขาและเขาถูกโยนสูงขึ้นในอากาศ

ชวาร์ซต้ององไม่ชอบนั่นด้วยเหมือนกันและไล่ทหารผู้ตะโกนความคิดเห็นเหล่านั้นเพื่อที่เขาจะเตะพวกมันได้

นั่นควรเป็นการพุ่งเข้าตีหนึ่งแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องวิ่งผ่านแคมป์ศัตรู

「ตอนนี้มาใส่ฉันสิ ถ้าแกเอาชนะฉัน แกอาจมีโอกาสชนะนะ!」   

「มุน…… ให้เราได้ทำการต่อสู้!」   

หนึ่งชายขี่ม้าผู้ดูเหมือนผู้บัญชาการศัตรูพุ่งเข้าตีมาใส่ผมพร้อมหอก

คนนี้กล้า

「เซซซ่!」   

「ฮึ่ม!」   

เกือบจะเหมือนยกแทงหอก หนึ่งจังหวะตัดสินของเราโดนเป้า – การโจมตีของเขาถูกกันกระเด็นออกไปโดนเกราะซึ่งปกป้องไหล่ของผมระหว่างของผมนั้นฉีกกายเขาลงเป็นครึ่งผ่านเกราะ

ทหารใกล้เคียงมองๆในความตกอกตกใจกับภาพและก้าวถอยหลัง

「มีอะไร? นั่นทำให้กลัวเรอะไง?」   

ผมลงม้าจากชวาร์ซและจัดการกำหอก

หน่วยติดตามคุ้มกันของผมก็กระโดดลงจากม้าและไขว้ดาบกับศัตรูบนเท้า

「ดอรย่าา!」   

ผมกวาดเท้าทหารผู้ดันโล่มาข้างหน้าผม และใช้ทหารล้มนั้นเป็นที่เหยียบแล้วฟาดหัวทหารอีกคน

ผมให้ทหารไร้หัวไปไกลๆ ผู้ยังคงยืนอยู่ด้วยหอกของผมและเขาบินไปในอากาศ

「ฮฮฮฮี๊!」  「อุว้า เขามาทางนี้!」

ผมนำหลังผมเข้าสู่การโจมตีแบบเน้นพลังเต็มที่และหั่นทั้งสองทหารครึ่ง ปล่อยให้ครึ่งล่างยืนระหว่างครึ่งบนถูกส่งบินไปในอากาศและสาดเทเครื่องในไปทุกที่ผ่านแผลเปิดที่ด้านล่าง

อย่างที่คนหนึ่งจะคาดได้ เลือดเป็นตันของพวกเขาฉีดกลับและมาติดบนผม

ผมมองดูดีๆไปรอบ…… ศัตรูเริ่มตีตัวออกห่างจากผม

「ย่าาาาาา–」   

ผมเลื่อนเขตการมองมาที่ซีเลียและผมเห็นเธอกำลังฟันศัตรู

ร่างกายที่ฝึกใหม่ของเธออนุญาตให้ทำการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและเธอใช้ความว่องไวเธอเพื่อเอาชนะทหารศัตรูอย่างท่วมท้น

แต่เกราะเหล็กซึ่งใส่โดยทหารเลี่ยงจากการให้เขาล้มในหนึ่งที……

「ย่าา ชุ่ เออ้!」   

เธอเหวี่ยงด้ามดาบของดาบเธอใส่หมวกเกราะจากนั้นฟันต้นขาของทหารผู้กำลังเซ

เมื่อศัตรูไม่สามารถรับความเจ็บและทรุดลงเข่า เธอแทงดาบของเธอเข้าสู่ช่องว่างในหมวกเกราะของทหารยืนบนเข่าเพื่อปลิดชีพเขาลง จบชีวิตเขาหลังจากร้องในความเจ็บปวด

「หนูทำมันได้แล้ว」   

「ทำได้ดีมาก แต่อย่าทำมากเกินตัวล่ะ」   

กิโด้ก็ดูเหมือนสู้ในระดับเดียวกันถ้าไม่ใช่มีความได้เปรียบ

นอกจากที่มีร่างกายที่ใหญ่กว่าบุคคลส่วนใหญ่ในเผ่าภูเขา กิโด้ก็มาพรสรวรรค์ธรรมชาติสำหรับวิชาดาบ

เขาไม่ด้อยลงเกินไปมากแม้ว่าเขาไม่ได้อยู่บนหลังม้า

「ต่อไป!」   

ซีเลียฟันข้อมือของศัตรูผู้วิ่งเข้าใส่เธอ อ้อมไปด้านข้างของศัตรูและแทงเข้าสีข้างของทหาร

เธอมองผมเหมือนอยากให้ผมชมเธอ แต่ชายตัวใหญ่มากเข้าใกล้เธอจากข้างหลังกำลังถือดาบค่อนข้างใหญ่เหนือหัว

「ตายซะ อีหนูน้อย!」   

ผมกันการฟันจากดาบซึ่งกำลังตก

「อะไรที่มึงกำลังคิดจะทำ…… กับผู้หญิงของกู!」   

ผมฟันชายขึ้นจากง่ามไข่สู่หัวเขาและหั่นเขาเป็นสองชิ้น ทิ้งแผ่นหั่นหลังบางๆไว้ข้างหลังก่อนจะเตะกายที่เหลือของเขาเข้าสู่ทหารอีกคน

ชายตัวใหญ่มากถูกส่งไปข้างหลัง และร่างกายของเขาก็ถูกแยกออกเป็นครึ่งส่วนอย่างรวดเร็ว และโจมตีด้วยความกลัวสู่หัวใจของทหารรายล้อมทั้งหมด

「ศัตรูกำลังเริ่มถอยทัพ!」   

「ทั้งสองฝั่งก็กำลังทรุดตัว! การตีวงล้อมครึ่งวงกลมสมบูรณ์แล้ว」   

ศัตรูเข้าสู่ความไม่เป็นระเบียบจากการโจมตีจากข้างหน้าและไม่สามารถรับมือกับการโจมตีด้านข้างได้

ไมล่าและทริสตันทำงานด้วยกันโดยไม่ล่าช้าและสำเร็จการตีวงล้อมครึ่งวงกลมรอบศัตรู

ด้วยนี่ ศัตรูอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบอย่างเต็มรูปแบบ

「ทหารม้าธนูเสร็จการจัดขบวนแถวใหม่! พวกเขาเริ่มพุ่งเข้าตีจากข้างหลังศัตรู!」   

มันถูกสรุปแล้ว ศัตรูไร้ซึ่งกำลังจะอดทนการโจมตีจากหน้า, หลัง, ซ้าย, และขวา

การครวญโกรธเคืองเปลี่ยนสู่การร้องตื่นตกใจและทั้งกองทัพในที่สุดก็ถอยในความวุ่นวาย……

เปลี่ยนสภาพของการต่อสู้ไปสู้การแตกพ่ายอย่างสมบูรณ์

「อย่าหยุดเดิน! ยิงธนูต่อไปเรื่อยๆ」   

กลุ่มที่เข้ปะทะการต่อสู้ระยะประชิดรวมกำลังทั้งหมดและเดินหน้าอย่างช้าๆ

มันกำลังจะทำให้มั่นใจว่าไม่มอบโอกาสผ่อนคลายให้ศัตรูแม้แต่หนึ่ง

ด้วยลูกธนูตกลงมาบนพวกเขาเป็นฝนและแรงกดดันของทหารตีล้อมแคบลงเรื่อยๆของเราๆ ศัตรูฟื้นตัวไม่ได้และในที่สุดก็ทิ้งเกราะหนักและดาบก่อนจะวิ่งหนี

「มันจบแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องไล่ตาม」   

กองทัพศัตรูสร้างจากพลเมือง ดังนั้นการฆ่าไม่จำเป็นในทางตรงกันข้ามจะมอบความมุ่งมั่นตั้งใจให้พวกเขาต่อต้านจนถึงจุดจบ

「เราชนะอีกแล้ว!」   

「เรายอดเยี่ยมที่สุด!」   

การตะโกนของชัยชนะและเสียงโห่ร้องยินดีปะทุขึ้นจากทหาร

ผมก็เข้าร่วมเทศกาลโดยการหยิบซีเลียและให้เธอขี่ไหล่ผม ปีปี้ทำยิ่งกว่านั้นโดยการปีนผมและซีเลียอย่างคล่องแคล่วและยกมือเธอขึ้นเมื่อขึ้นไปสู่จุดสูงสุด

และการโห่ร้องยินดีของทหารยิ่งดังขึ้น

「รายงานผู้บาดเจ็บ」   

ลีโอโพลต์ ผู้ไม่เป็นผลลัพธ์ของบรรยากาศมีชีวิตชีวา ยืนข้างผมอย่างสงบและเริ่มบอกรายละเอียดมาให้ผม

การมีชายเถรตรงแบบนี้ข้างผมเมื่อผมมีสองสาวบนไหล่ของผมนั้นแค่แปลก

「ทหารม้า ทหารม้าธนู ทั้งสองเสียชีวิตไปประมาณ 50 และทหารราบได้รับความเสียหายผู้เสียชีวิตประมาณ 300 คน มันจะไร้ผลกับการเดินทัพของเรา」   

 「นั่นค่อนข้างน้อยแม้ว่าการต่อสู้จะดุดัน」

 「มันน่าจะเพราะทั้งสองฝ่ายติดอาวุธหนัก หมายถึงทั้งสองฝ่ายมีความสามารถป้องกันสูง ผมแน่ใจว่าทหารที่หนีไปไม่ได้เสียชีวิตไปมากกว่า 2000 ด้วยเหมือนกัน…… อย่างไรก็ตามกำลังใจต้องได้ดิ่งลงเหว」   

นั่นไม่เป็นไร เพราะเราไม่ได้มีเจตนาจะทำลายอโตรัวตั้งแต่แรก เพราะทั้งหมด เมืองที่รายล้อมเราอาจเอาเราเป็นเป้าหมายถ้าเราทำอย่างนั้น

เราแค่อยากโจมตีพวกเขาเพื่อขับไล่ผู้คลั่งไคล้มากราโดออกไป

 「การจัดขบวนแถวใหม่ของกองทัพเสร็จสมบูรณ์แล้ว มากลับไปเดินทัพต่อก่อนศัตรูรวมพวกเขาเองกันได้」

 「อืม มันดีกว่าที่จะเอาชนะอย่างสบายแทนที่จะแทบเกือบๆ มันช่วยเราให้ไม่ต้องพยายามด้วย」   

ไมล่าและทริสตันก็กลับมาแล้วด้วย

ผมบอกได้จากสีหน้าว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้มากจริงจังด้วย

 「ดูฮาร์ดเลตต์โดโนะ!」   

อิริจิน่า เช็ดเลือดที่หนูถูกปกคลุมก่อน สาวยิ้มแต่เลือดเต็มตัวไม่ได้เซ็กซี่มากเลย

 「อื้ม มารักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากนั้นเดินห้า」   

การเดินทัพของเราดำเนินต่อไป

 

 

–มุมมองบุคคลที่สาม–

นครัฐ: อเลส สภา

ชายหลายคนรวมกันอยู่ในอาคารยิ่งใหญ่สร้างจากหิน

ที่นี่คือบ้านของเสาหลักของนครรัฐอเลส ที่ซึ่งแม้แต่ราชาก็ไม่มีอำนาจอย่างสมบูรณ์ – ที่ซึ่งสภาตั้งอยู่

ผู้ส่งสาส์นผู้ก้าวมาข้างหน้ารายงานสู่สมาชิกสภา

「กองทัพคนอโตรัวได้พ่ายแพ้โดยคนโกลโดเนีย」   

“โออ้” – เสียงของความรำคาญเกินคาดหวังเล็ดออกมา

「แม้ว่าพวกเขาอ่อนแอเมื่อเทียบกับเรา ที่สามารถรับมือกับอโตรัวได้หมายถึงโกลโดเนียไม่ได้เป็นแค่ขี้ขลาดคนหนึ่ง」   

「ไม่ใช่ว่าพวกเขาแค่เอาชนะโดยการใช้ความได้เปรียบทางจำนวนเหรอ?」   

「ไม่ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เป็นแค่คนเดียวเท่านั้นผู้ถูกส่งออกมาในครั้งนี้ ……กองทัพหลวงของโกลโดเนียไม่ได้สร้างการปรากฏตัว ฉันเน่ใจว่าจะไม่มีกองทัพใหญ่มา」   

สมาชิกสภาปรึกษากันในหมู่พวกเขาก่อนถูกหยุดโดยการปรบมือของผู้อาวุโสผู้นั่งอยู่ ณ ตรงกลาง

「เงียบ! นี่ไม่ใช่ที่ซึ่งผู้หญิงจะมาคุยไม่มีสาระ สร้างการปรึกษาที่มีประโยชน์มากกว่านี้」   

เสียงเงียบลงอย่างเร็ว

「อโตรัวถูกตีน่วมอย่างหนัก มาเกรฟ……ฮาร์ดเลตต์ของโกลโดเนียควรเดินทัพไปข้างหน้าและโจมตีเมือง」   

อเลสตั้งอยูทางทิศตะวันตกของอโตรัว นอกเส้นทางหนึ่งคนนั้นที่ใช้เพื่อเดินทัพเข้าไปสู่เมือง

ดังนั้น พวกเขาจะไม่ได้รับผลอะไรแม้ว่าโกลโดเนียเดินทัพเข้าไปสู่อโตรัว

「แต่มันไม่ได้รู้สึกดีเลยที่เขาทำอะไรตามใจเขาต้องการในดินแดนของเรา」   

หนึ่งในสมาชิกสภาสร้างสีหน้าบูดบึ้ง ระหว่าสมาชิกคนอื่นคัดค้าน

「ตอนนี้ อโตรัวกำลังได้รับผลที่พวกเขาก่อ พวกเขาเรียกตัวเองว่าผู้คลั่งไคล้มากราโด ใช่มั้ย? ……ช่างป่าเถื่อน ไม่มีการพูดตัวเองออกมาจากประเด็นนี้แล้ว」   

「แน่นอน และถ้าพวกเขาไม่มอบบุคคลที่ต้องการเราไม่มีทางเลือกนอกจากคิดว่าพวกเขาไม่นอทกันและกัน」   

หัวหน้าของสภาฟังการประกาศของสมาชิกสภาอย่างเป็นทางการและเงียบๆแล้วจากนั้นมอบคำตอบของเขา

「อุมุ ถ้าอย่างนั้นอเลสจะไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ถ้าอโตรัวกลายเป็นซากสิ้น นั่นจะแค่เป็นผลของการกระทำของพวกเขาเอง ตราบใดที่พวกเขาไม่ที่อะไรที่ป่าเถือนเหมือนสังหารหมู่พลเมือง มันไม่เป็นไรที่จะปล่อยพวกเขาไว้ตามลำพัง」   

「เห็นด้วย」   

「นั่นจะดีที่สุด」   

เมื่อสมาชิกสภาออกมาเห็นด้วยกับความคิดเห็นคร่าวๆ ประตูห้องเปิดอย่างกว้าง

「ฉันขอให้สมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติรอ!」   

สมาชิกสภาปิดหูของพวกเขาด้วยสัญชาตญาณ และปิดเสียงดังที่ลั่นหู

「มันเร็วไปที่จะทิ้งอโตรัว!! มีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรระหว่างพวกเขาและเหล่าเมืองซึ่งดำเนินมาเป็นรุ่นๆแล้ว! ไม่ใช่ว่าเวลาอันฉุกเฉินแบบนี้เป็นเมื่อความสัมพันธ์ฉันมิตรควรจะถูกแสดงออกมาเหรอ!?」   

「โอ้ฉัน ไม่ใช่นั่น…… ราชากิลเดรสหรือ……」   

ผู้บุกรุกที่ถูกพูดถึงว่าเป็นราชาดูตัวสูงประมาณ 190 พร้อมด้วยร่างกายใหญ่โตจนแม้แต่คำว่ากำยำจะไม่พอในการจะอธิบาย เขาพูดถึงสมาชิกสภาในท่าทางมีชีวิตชีวา

「กองทัพโกลโดเนียนั้นด้อยกว่าเมื่อเทียบกับเรา เกือบเหมือนลูกกวางน้อยที่ดิ้นรนจะยืนด้วยขา! เราขยี้พวกเขาได้โดยไม่ต้องพยายามเลยสักนิด! แม้แต่กองทัพหลักของโกลโดเนียก็ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย!」   

「นั่นน่าจะจริง……」   

ไม่มีใครกล้าต่อต้านคำพูดเหล่านั้นด้วยนั่นที่พิจารณาได้ว่าเป็นประโยคจากความคิดอันมีเหตุผล

อเลสมีจำนวนประชากร 40,000 และค่อนข้างเป็นรัฐที่ใหญ่ในหมู่นครรัฐอื่น

อุตสาหกรรมและเกษตรกรรมของพวกเขาค่อนข้างเจริญรุ่งเรือง แต่ความเป็นจริงซึ่งแยกออกมาชัดเกี่ยวกับอเลสคือความแข็งแกร่งของกองทัพที่ท่วมท้น

จำนวนของชายหนุ่มที่พวกเขาเกณฑ์ได้ในเวลาฉุกเฉินคือ 15,000 และจะสร้างกองทัพที่ใหญ่ที่สุด

อย่างไรก็ตาม พวกหนุ่มเริ่มได้รับการฝึกทหาร ณ อายุน้อยๆตอน 10 ขวบ และจะไม่ถูกแยกออกจากการฝึกซ้อมเจาะวิชาเข้าหัวจนกว่าการเกษียณที่อายุ 45

มันโดยไม่ต้องพูดถึงเลยว่าพวกเขาฝึกวิชาดาบ แต่ไม่มีชายสักหนึ่งคนสามารถใช้หอก, ธนู, มีดบิน, และแม้แต่ศิลปะการต่อสู้มือต่อมือ

มันเป็นสามัญสำนึกว่าเหล่าผู้ชายของอเลสบีบคอหมูป่าตายได้ด้วยมือเปล่าและแม้แต่ฆ่าหมีด้วยแค่มีดได้

พวกผู้ชาย 15,000 คนเหล่านั้นเป็นเก่งที่สุดของที่สุด พร้อมที่จะมอบชีวิตเพื่อปกป้องประเทศและราชาของพวกเขา

「ราชาของเราจะช่วยอโตรัวถ้าพวกเขาต้องการสันติ แต่พวกเขาเป็นคนผู้กลายเป็นบ้าไป」   

「นั่นมันความขัดแย้งภายใน! ถ้าเราอยากสรุปปัญหานี้ เราควรสรุปมันด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่ยืมความช่วยเหลือของคนนอก!」   

ราชาคัดข้ายคำพูดของสมาชิกสภาทันที

「กองทัพชั้นสูงของอเลสจะไม่พ่ายแพ้ในการต่อสู้ที่จำนวนเท่ากัน อย่างไรก็ตาม เลือดจะหลั่ง…… ประโยชน์อะไรที่เราจะได้จากการหลั่งเลือดให้อโตรัว?」   

「ราชาคนก่อนของอโตรัวขอให้ฉันดูแลลูกสาวเขาบนช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเขา! มันมีเวลาที่สัญญานั้นสำคัญมากกว่าเลือด!」   

กิลเดรสตอบโดยไม่ลังเล แต่สมาชิกสภาไม่ได้ดูเหมือนจะเห็นอกเห็นใจ

สมาชิกสภากำลังคิดเกียวกับแผนการอะไรๆต่างๆอันยิ่งใหญซึ่งเกี่ยวของและถูกใช้กับอเลสแทนที่จะเป็นสถานการณ์ส่วนตัวของราชา

สมาชิกปรึกษากันต่อไปในหมู่พวกเขาช่วงเวลาหนึ่งจนในที่สุดประธานสภาก็สรุปความคิดเห็นของทุกคน

「ฉันเข้าใจว่าอะไรที่ท่านกำลังคิด อย่างไรก็ตาม ฉันจินตนาการไม่ได้ว่ามันมีเหตุผลอันสมควรสำหรับเราในการแทรกแซงกับการต่อสู้นี้ ดังนั้นเอง สภาจะ…… ไม่ยอบรับการรวมตัวกันหรือการนำทหารมาออกศึก! ได้โปรดเข้าใจว่านี่นั้นเพื่ออเลส」   

  「……」   

ราชาออกจากห้องโถงรวมพลในท่าทางรุนแรงเหมือนกันกับที่เขาเข้ามาในห้อง กระแทกประตูบนทางออกไป

การตัดสินใจของสภาผูกราชาไว้

พูดให้แม่นยำกว่านั้น ตราบใดที่พวกเขาไม่อนุมัติมัน ราชาไม่สามารถเคลื่อนกองทัพ

อย่างไรก็ตาม กิลเดรสไม่มีเจตนาเชื่อฟังการตัดสินใจนั้น

「ราชาของของกระผม มันไม่ได้หรือ?」   

「อุมุ พวกเขาพูดเกี่ยวกับผลประโยชน์และเหตุผลอันสมควร แต่สภามันแค่พวกปวกเปียก」   

คนที่ล้อมราชาอยู่ทั้งหมดเป็นพวกผู้ชายที่มีร่างกายกำยำเหมือนราชาถ้าไม่ใหญ่ไปกว่านั้นอีก

พวกเขาทั้งหมดกำลังใส่กางเกงในหนังพร้อมด้วยผ้าคลุมรอบกายใหญ่โตปูดโปน

「ถ้าอย่างนนั้นมาแค่เมินสมาชิกสภา」   

「เราทำนั่นไม่ได้ การไปต่อต้านสภาแม้ว่าพวกเขาขี้ขลาดจะเป็นการกบฏกับประวัติศาสตร์อเลสเอง」   

มันไม่เหมือนว่ากิลเดรสไม่ได้คิดเกี่ยวกับประเทศ

ในความเป็นจริง บางคนอาจพิจารณาได้ว่าเขาเป็นคนที่รักอเลสมากที่สุด

เขาละเมิดกฎของบ้านเกิดบิดาที่รักยิ่งของเขาไม่ได้

「ถ้าอย่างนั้นเล่ห์กล……」   

「ฉันจะออกไปเดินเล่น」   

ฮ๋าา? – พวกผู้ชายรอบเขาเอียงหัวในความงง

「ฉันจะไปเดินเล่นกับมิตรที่สง่างามของฉัน! มันจะไม่มีารเกลี้ยกล่อมหรือการรวมกองกำลัง นี่เป็นเพียงแค่การเดินเล่นอย่างสบาย!」   

เหล่าชายรอบเขากลายเป็นยิ้มเต็มที่

「เข้าใจแล้ว เป็นความคิดที่ดีอะไรเช่นนี้! ได้ยินนั่นมั้ย ราชาจะไปเดินเล่น!! รวมพลบุคคลผู้มีความสามารถ」   

ราชาตอบเสียงตะโกนดังลั่นอันก้องรอบเขา

「คนแก่ที่สุดในครอบครัว คนเหล่านั้นผู้ไม่มีลูก เหล่าชายผู้แต่งงานใหม่ – พวกเขาทั้งหมดเข้าร่วมในการเดินเล่นนี้ไม่ได้! การมีความสุขนี้ จะถูกจำกัดแค่บุคคลผู้ถูกเลือกไม่กี่คนเท่านั้น!」   

「ถ้าอย่างนั้น……การเดินเล่นนี้จะของท่านจะไปเดินกันที่ไหน?」   

「นั่นชัดเจน ทิศตะวันออกของอโตรัว หุบเขาลึกทอกอร์!!」   

เหล่าผู้ชายโห่ร้องยินดิ

การเป็นพวกผู้ชายที่แท้จริงของอเลส พวกเขาเชื่อว่าการสู้อยู่เหนือสุดของทุกสิ่งและการเสียชีวิตคนหนึ่งคนเพื่อเติมเต็มเหตุผลนั้นเป็นเรื่องเล็กที่จะขอ

 

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูร้อน

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ 

พลเมือง: 160,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 23,000 ลินต์บลูม: 4000

กองทัพส่วนตัว:  12,600 คน

ทหารราบ: 6700, ทหารม้า: 950, ทหารม้าธนู: 4000

กองทัพสำรองเข้ากองทัพแล้ว

ปืนใหญ่: 18

สินทรัพย์: 300 ทอง (ฉลองการคลอด เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของราเฟน -7000) (ออกศึก -10,000) (รายได้ภาษี +5000)

คู่นอน: 202, เด็กผู้เกิดแล้ว: 46

  

แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน