ถนนสู่อาณาจักร – ตอนที่ 206 ปืนใหญ่ดวอร์ฟ

ถนนสู่อาณาจักร

206 ปืนใหญ่ดวอร์ฟ

 

 

–มุมมองเอเกอร์–

ทิวทัศน์ทั้งหมดที่เห็นได้จากหน้าต่างรถม้าเป็นสีน้ำตาลแดง ตรงกันข้ามกับท้องฟ้าสีฟ้าเพื่อทำให้มันดูยิ่งหดหู่มากขึ้น

เสียงกุกๆกักๆของล้อรถม้ากำลังวิ่งได้ยินได้ขณะเราเดินทางไปตามทาง

「ที่นี่แห้งหมือนเคย」

「ไม่มีน้ำอยู่ใกล้ๆดังนั้นไม่มีที่ดินที่นี่เตรียมเพาะปลูกเป็นนาได้」

ซีเลีย ผู้กำลังนั่งข้างผมออกความคิดเห็นตรงๆเกือบเหมือนเธอพูดกับตัวเอง

ผมถูหัวเธอคิดว่าเธอน่ารัก แม้ว่ามันทำให้ผมเธอเละเทะ ทำให้เธอรีบแก้มันอย่างเร็ว

ไม่นานมานี้ผมทำทรงผมของเธอเละเพื่อที่ผมจะจับตูดและนมเธอได้ระหว่างเธอยุ่งกับการจัดทรงผมของเธอ

「ปีปี้ชอบมันที่นี่ นี่คืออะไรที่หนูเห็นตลอดเวลาเมื่อหนูยังเด็ก」

ปีปี้ชี้ออกไปนอกหน้าต่างฝั่งตรงข้ามกับรถม้าและบอกผมเกี่ยวกับสัตว์ดำที่เธอเห็น

โชคร้าย สายตาของผมไม่ได้ดีพอที่จะเห็นเงาหรือทรงของมอนสเตอร์

สายตาของชาติภูเขาคมเหมือนเหยี่ยว

「อ่ะนี่นายท่าน~」

ผมจิบน้ำผลไม้ซึ่งลีอาห์มอบให้ผม

มันมีรสค่อนข้างเปรี้ยวแแต่มันยังสดชื่นในบรรยากาศแห้งๆนี้

ผมดื่มทุกอย่างในแก้วแม้มันดูเหมือนยังมีรอผมอยู่มากกว่านั้น

แก้มลีอาห์พองออกและเมื่อผมจูบเธอ น้ำผลไม้หวานไหลออกมาจากปากของเธอมาสู่ปากของผม

นั่งอยู่ตรงกลางของรถม้า เธอลูบหว่างขาและอกของผมด้วยมือของเธอเรื่อยๆ

มันดูเหมือนเธอรู้สึกมีความสุขมากที่สุดเมื่อเธอสามารถทำให้ผมมีอารมณ์ทางเพศ

「เราถึงที่นั่นรึยัง ลีโอโพลต์?」

「เรามีกำหนดการไปถึงตรงเวลา ลินต์บบลูมควรมาให้เห็นภายในไม่กี่ชั่วโมง」

การตอบของเขามีเสียงไม่มีความรู้สึกปรกติ จากนั้นปิดตาเขาอีกครั้งดั่งหน้าที่ของเขาหมดแล้ว

เขาทำตัวเหมือนคนใหญ่คนโตและหนีการตอบที่คิดมาดีๆอย่างเฉลียวฉลาด แต่ผมแน่ใจมันเพราะเขากำลังคิดบางอย่างซุกซน

ยกตัวอย่างเช่น……

นีน่า ผูกำลังนั่งข้างลีโอโพลต์คำนับให้ผมเล็กน้อย

สาวคนนี้น่ารักสำหรับการเป็นผู้ช่วยของคนไร้สังคมนี้ตลอดเวลา เธอค่อนข้างมีหน้าน่ารักและร่างกายเธอเป็นโค้งเว้ามากขึ้นเมื่อเทียบกับครั้งแรกที่ผมมเจอเธอ

「แน่นอนว่าเขาเกี่ยวพันกับเธอทุกคืนและมีความสุขกับตัวเอง」

「อออุ!」

อุ้ย ผมพูดนั่นออกมาดังๆ

ลีโอโพลต์พูดบางอย่างกับนีน่าขณะเธอกำลังปกปิดหน้าที่หน้าแดงของเธอ

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์พูดอะไรๆออกมาดังๆบ่อยครั้งโดยไม่ได้คิด เธอไม่ต้องตอบทุกคำ」

「ด-ได้」

เดี๋ยวก่อนนะ นายกำลังล้อฉันอยู่เมื่อกี้นี้ ไม่ใช่เหรอ

กล้าดีอย่างไร เพื่อเป็นการแก้แแค้นผมจะตดในที่ปิดนี้

มันเป็นแบบเหม็นจริงๆ มาดูกันว่าชอบมันไหมเล่า

ลีโอโพลต์แค่เมินมัน ระหว่างซีเลียและสาวๆคนอื่นกำลังมองผมอย่างเย็นชา

 

 

「ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งดีหรือไม่ที่ดวอร์ฟไม่พูดกับใครเลยยกเว้นฉัน」

เหตุผลที่พวกเรามุ่งหน้าไปลินต์บลูมนั้นเพื่อไปตรวจดูปืนใหญ่ที่เราไว้วางใจให้พวกเขาทำ

เห็นได้ชัดว่าความพยายามของพวกเขาออกดอกออกผล ซึ่งก็คือเหตุผลที่พวกเขาเรียกผมให้ไปเอง

พวกเขาไม่ได้ดูเหมือนเชื่อใจมนุษย์มากมายยกเว้นผม

「การพัฒนาปืนใหญ่จะมีผลกับความแข็งแกร่งของกองทัพเราในสงครามในอนาคตมาก เพราะทั้งหมด เราไม่มีทางเลือกให้เลือกมากถ้าลอร์ดฮาร์ดเลตต์จากเราไปหลายวัน」

นั่นไม่เป็นไรและก็ดีอยู่ แต่ทำไมนายมาด้วย?

ผมกังวลเกี่ยวกับไมล่าผู้กระตือรือร้นมากเกินไป ผู้ถูกไว้วางใจเรื่องกิจการทหารในราเฟน

มันเพราะนี่สำคัญเท่าที่เขาบอก?

โดยบังเอิญ พร้อมปีปี้ที่มุ่งหน้ากลับหมู่บ้าน ลีอาห์ได้ถูกปล่อยให้ดูแลครึ่งล่างของผม

มากกว่านั้น มีรถม้าใหญ่อีกคันตามหลังเรา

รถม้านั้นเป็นของเซเลสติน่า ผู้ทนไม่ได้ที่จะแยกจากผมแม้แต่หนึ่งวัน มาด้วยกันกับผมเป็นการเที่ยวชมสถานที่ซึ่งผมกำลังมุ่งหน้าไป

จริงๆแล้วผมไม่อยากได้คนเยอะมากเกินไป…… โดยเฉพาะคนเหล่านั้นจากชาติอื่นที่จะมาเห็นที่นี่แต่เพราะกลุ่มเดียวเท่านั้นที่มาคือเซเลสติน่าและโมนิก้า มันควรไม่เป็นอะไร

ทูตมอลต์ที่เหลือทำบางอย่างกับอดอล์ฟในราเฟน

พวกเขาต้องวุ่นกันอย่างตื่นเต้นเกี่ยวกับสินค้านำเข้าทั้งหมด

ซึเลียพูดอย่างกล้าๆกลัวๆระหว่างพักหัวไว้กับหน้าอกของผม

「มาเรียซังและพวกที่พ้องพร้อมกับผู้หญิงจากเทรียไม่ได้อยู่นั่นเพื่อมาส่งเรา」

นั่นเพราะผมซั่มพวกเธอเยอะก่อนออกมาและพวกเธอทั้งหมดยังยืนไม่ได้

ผมคิดว่ามีแค่แคทเธอรีนสามารถส่งเราได้ด้วยการช่วยเหลือจากไม้ค้ำ

เราคุยกันเกี่ยวกับประเด็นไม่สำคัญเพื่อฆ่าเวลาและก่อนผมรู้ตัว ควันดำสถูเห็นได้ในทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป เมืองเหมืองลินต์บลูมและเมืองอุตสาหกรรมสร้างรอบเหมืองเหล็กและโรงสีเหล็กกล้า แล้วก็เป็นจุดที่มอบเสบียงเหล็กในโกลโดเนียที่โดดเด่น

พร้อมด้วยไฟที่ไม่เคยดับของโรงสีเหล็กและควันที่พวยพุ่งมาอย่างต่อเนื่องจากที่ว่างเปล่านี้

ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนของวัน มันทำให้ผมจินตนาการถึงสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นในตำนาน – มังกร

「ยินดีต้อนรับกลับมา ลอร์ดศักดินาซามะ พระนางเซเลสติน่า!」

เมื่อรถม้าไปถึงเป้าหมาย ชายวัยกลางคนกระโดดออกมาเพื่อทักทายเรา

เขาเป็นหัวหน้าของเมืองลินต์บลูม……. ผู้ผมจำชื่อไม่ได้

เซเลสติน่าทักทายเขาด้วยสวัสดียามเช้าปรกติ แค่ถูกเตือนให้จำโดยโมนิก้าเท่านั้นว่าให้พูดด้วยท่าทางที่สง่างามมากกว่านี้

มันเป็นภาพเหมือนเคย

「เหมือนที่ฉันสื่อสาร ฉันจะอยู่ในความดูแลของนาย ดวอร์ฟอยู่ไหน?」

จากรายงาน พวกเขาหลายคนมาที่นี่ชั่วคราว

「ทางนี้ครับ ผมก็เตรียมการคนติดตามคุ้มกันด้วย! แล้วเรื่องการเตรียมทานอาหารค่ำ……」

「ฉันจะเอาคนติดตามคุ้มกันของตัวเอง ขณะสำหรับอาหารค่ำ นายตัดสินใจได้เลย」

หัวหน้าของเมืองด้วยกันกับพวกผู้ชายคนอื่นรอบเขากระโดดในความตกใจจากเสียงดุๆเล็กน้อยของผม

แต่จริงๆแล้วผมไม่ได้โกรธ…… พวกเขากลัวผมมากๆหรือ?

ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรดีๆมาจากการเดินรอบเมืองระหว่างลีโอโพลต์อยู่กับผม

ผมควรทำธุระที่นี่ให้เสร็จก่อน

「ดวอร์ฟอยู่ที่นี่ในโรงงานนี้ที่ไว้สำหรับเหตุผลทางกองทัพ」 

ที่ซึ่งผมถูกนำมาเป็นโรงงานโดดเด่นแม้แต่ในลินต์บลูม ที่อุปกรณ์หลากหลายแบบสำหรับกองทัพส่วนตัวเหมือนอานม้าและอาวุธถูกสร้าง

เพราะผมหาอุปกรณ์เหล็กกล้าและเหล็กของตัวเองได้ ผมเสริมความแข็งแกร่งกองทัพของผมได้อย่างมั่นคงเรื่อยๆ

แต่ดวอร์ฟไม่ได้รออยู่ในโรงงาน พวกเขาอยู่ที่สนามยิงปืน ซึ่งไว้สำหรับทดสอบปืนใหญ่ที่พวกเขาสร้าง

หน้าสลดใจบนหน้าเยินๆเปลี่ยนเป็นการยิ้มใหญ่เมื่อพวกเขาเห็นผม

กางทั้งสองมือกว้างและวิ่งมาสู่ผมคนแรกคือบัลบาโน่ ผู้อาจสร้างแผ่นดินไหวที่ทำอย่างนั้น

「มันเป็นสักพักแล้ว ซี้! จะดีถ้านายมาบ่อยกว่านี้」

「เหมือนเคย นายดูค่อนข้างตัวใหญ่」

บัลบาโนนั้นสูงพอกันกับดวอร์ฟคนอื่นแต่เขามีโครงร่างเป็นกล้ามและมีร่างกายดูทนทานกว่า

ขาสั้นหนาของเขากระแทกดังมาทางผมขณะเขาเดินนั้นเป็นภาพที่น่าขันดี แม้ว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่แม้แต่ผมมีปัญหาในการเขาชนะถ้าคนหนึ่งเพียงพิจารณาพละกำลังของเขา

「มาฉลองการเจอกันใหม่ก่อน ดื่ม」

แก้วใหญ่ที่ยื่นให้ผมเติมเต็มด้วยของพิเศษของพวกเขา เหล้าเข้มสุดขีด

ลีอาห์ก้าวถอยหลังหลังจากได้กลิ่นที่ลอยโชยนิดๆมา

ระหว่างซีเลียก้าวเข้ามาข้างหน้า

แม้ว่าเธอรับมือเหล้าไม่ได้ เธอชอบดื่มมัน

「อย่าทำมันซีเลีย ถ้าหนูดื่มนี่ หนูอาจเริ่มเต้นเปลือยกายต่อหน้าชายที่ไหนก็ไม่รู้」

「ออุ…… ห-หนูจะดื่มตอนกลางคืนกับเอเกอร์ซามะ」

ผมหัวเราะและรับแก้วใหญ่ที่เสนอ กลืนน้ำลงไปทั้งหมด

ไม่มีอะไรจะเป็นไปได้ดีถ้าผมปฏิเสธเหล้าจากดวอร์ฟ

นั่นและจริงๆแล้วผมชอบรสชาติของเหล้านี้ที่ดูเหมือนเผาคอของคนหนึ่ง

「โออ้ นายต่างออกไปเหมือนที่ฉันคิด มันน่าเสียดายว่าชายแบบนายเป็นมนุษย์」

หน้าเข้มของบัลบาโน่ผ่อนคลายขณะเขาออกความเห็นอย่างมีความสุข

ผมปฏิเสธข้อเสนอให้ดื่มอีกแก้ว

ถ้าผมดื่มมากกว่านี้ ผมจะไม่สามารถทำงานของผมได้

ผมน่าจะจับโสเภณีที่ผ่านไปผ่านมาและคุยกับนายระหว่างเธอดูดฉันอยู่

「มาคุยเกี่ยวกับปืนใหญ่ก่อนเมาเถอะ เราดื่มจนร่วงได้คืนนี้ ฉันตรียมเหล้าคุณภาพสูงได้เยอะมากเท่าที่นายต้องการ」

ดวอร์ฟอีกคนยิ้มกับคำพูดของผม

พวกเขารักเหล้าของพวกเขาจริงๆ

「ปืนใหญ่คือท่อเหล็กบางๆที่ผู้ชายจากที่ราบพูดถึง ใช่มั้ย?」

บัลบาโน่ชำเลืองอย่างไม่สนใจใส่ปืนใหญ่ที่ผมเตรียมมาเป็นแบบและประกาศ

「นี่ไม่ดี」

「บอกฉันว่าอะไรของมันไม่ดี」

คนหนึ่งเรียกว่าของชำรุดได้ แต่เราจะไม่มีการเดินหน้าถ้านายหยุดที่นี่

「ความคิดของการจุดไฟใส่ฐานของท่อนี้และใช้แรงระเบิดเพื่อส่งลูกเหล็กนั้นน่าสนใจ แต่ท่ออ่อนแอแบบนี้จะพังและบิดเบี้ยวในไม่นาน」

「ใช่ นั่นก็ทำไมฉันคิดว่าพวกนายทำบางอย่างเพื่อพัฒนาพวกมันได้」

บัลบาโน่ส่ายหัวของเขา

「เราทำบางอย่างดีกว่าของนาย ยังไงก็ตาม วัสดุมันแตกง่ายเกินไปตั้งแต่แรก มันไม่สำคัญว่ามีคนสร้างบางอย่างด้วยเหล็กหยาบนี้ พวกมันส่วนใหญ่จะออกมาแบบเดียวกันและมันจะไม่อยู่นาน」

「หืมมม……」

ลีโอโพลต์และผม บวกกับซีเลีย ทั้งหมดมีสีหน้ามีปัญหาขณะเราเอียงหัวอยู่ในความคิด

เหล็กกล้าไม่แข็งแกร่งพอ…… ถ้าเป็นอย่างนั้น เราทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับมันไม่ได้

ตอนนี้เมื่อผมคิดเกี่ยวกับมันดู ดวอร์ฟได้พูดมาตลอดเวลานี้ พูดว่าเหล็กกล้าและเหล็กเป็นโลหะอ่อนแอ

「ไม่มีอะไรดีทำได้จากเหล็ก แต่ฉันแค่ปฏิเสธคำขอจากเพื่อนไม่ได้ นายแนะนำผู้หญิงถึกและหนาให้ฉันด้วย แล้วฉันก็ชอบที่เธอขนดกด้วย」

บัลบาโนไปที่มุมของโรงงานและดึงวัตถุบางอย่างที่เขาเตรียมออกมา

อย่างที่คาด มันไม่สำคัญว่าเผ่าอะไรที่คนหนึ่งมาจาก พวกผู้ชายรักผู้หญิง…… แต่ความชอบพวกเขาต่างกันอย่างยิ่งใหญ่

「นี่คือ…… ปืนใหญ่? มันใหญ่มาก…… เกือบเหมือนของของเอเกอร์ซามะเลย」

ลีโอโพลต์และซีเลียจ้องอย่างสงสัย…… ณ ปืนใหญ่สิบกระบอกที่เรียงกันตรงหน้าพวกเขา

ปืนใหญ่ทำจากดวอร์ฟรูปแบบคล้ายกับอันที่เรามีแต่เพิ่มไปสองเท่าและมีการออกแบบประณีตมากกว่า

ที่สุดของทั้งหมด สีของปืนใหญ่เข้มกว่าเหล็กกล้า หมายถึงพวกเขาใช้วัสดุต่างกันเพื่อทำพวกมันอย่างชัดเจน

「นี่คือ…… บางอย่างที่พวกนายทำเหรอ?」

「มันเป็นการออกแบบโบราณแต่ฉันคิดว่าไม่มีจุดหมายในการเปลี่ยนทั้งหมดเมื่อสร้างมันด้วยตัวเราเอง เราใช้วัสดุของเราเอง」

ผมเคาะพวกมันเบาๆและพวกมันทั้งหมดดูเหมือนหนาและแข็งและจะไม่พังหลังจากการใช้ไม่กี่ครั้ง

เมื่อผมคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับมัน พวกเขาพูดว่าพวกมันถูกยิงไปแล้วสิบครั้งและแน่นอนว่าไม่มีข้อเสียและการบิดงอของปากกระบอก

「ด้วยปืนใหญ่เหล่านี้ นายน่าจะใช้ดินปืนได้มากกว่าหลายเท่า! ไม่ต้องพูดถึงว่ามันใหญ่มาก!」

บัลบาโน่ยื่นอกด้วยความภาคภูมใจแต่ลีโอโพลต์มีหน้าตาบูดๆอยู่บนหน้าของเขา

ผมไม่พูดอะไรสักอย่าง เดาได้ถึงอะไรที่เขากำลังคิด

「เราจะไม่สามารถใช้ปืนใหญ่เหล่านี้ในศึกที่กว้างได้ พวกมันก็จะทำให้ความเร็วการเดินทัพของเราช้าลง」

บังบาโน่จ้องลีโลโพลต์ผู้จงใจออกความคิดเห็น

มันดีที่พวกมันใหญ่และทนทาน แต่ปืนใหญ่เหล่านี้หนักเกินไป

สำหรับพวกมันตอนนี้…… เราขนพวกมันด้วยรถม้าไม่ได้ และเราจะช้าลงมากๆแม้ว่าด้วยการให้ม้าหกตัวลากมันไป

「อืม พวกมันมีขนาดหนึ่งถ้าเราติดพวกมันไว้อยู่กับที่ กำแพงเมืองธรรมดาจะถูกเป่ากระเด็นในพริบตา พวกมันเป็นปืนใหญ่ยอดเยี่ยม」

บัลบาโนยื่นอกด้วยความภาคภูมิใจอีกครั้งและเห็นด้วยกับผม

ลีโอโพลต์ไม่พูดอะไรสักอย่างมากไปกว่านี้

ถ้าอย่างนั้นเขายินดีเล่นบทตัวร้าย…… เขาไม่ได้เป็นคนน่าชื่นชม

แน่นอนเพราะเขาเข้าใจว่าคนรู้สึกอย่างไรไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ผมยังมีความกังวล

「เตรียมปืนใหญ่พวกนี้ด้วยวัสดุนั่นได้ง่ายมั้ย?」

「เราไม่ได้ใช้มากเท่าที่เราทำกับหอก แต่เราใช้อะไรที่เราเก็บมาเพื่อทำปืนใหญ่ ฉันไม่คิดว่าเราทำได้มากกว่านี้สักพัก」

「หืมม……」

นั่นไม่ได้แก้ปัญหาจริงๆถ้าอย่างนั้น

มันไม่สำคัญว่ามันเป็นปืนใหญ่หรืออะไรก็ช่าง มันยังเป็นแค่อาวุธอย่างเดียว

ผมอยากได้อาวุธที่คุณภาพใช้งานได้หลายอย่างมากกว่างานชิ้นเอกคุณภาพสุดขีดหนึ่งชิ้น

「พวกนายสร้างบางอย่างดีๆออกมาจากเหล็กได้มั้ย?」

「ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมนายหมกมุ่นอยู่กับบางอย่างเหมือนเหล็ก อะไรดีมากเกี่ยวกับโลหะที่ขึ้นสนิมง่าย?」

บัลบาโน่นั่งอย่างไม่สนใจบนเก้าอี้โลหะ

ก้นเขาใหญ่พอที่จะยื่นออกมาจากเก้าอี้แต่ละข้างและเตี้ยพอที่เท้าของเขาไม่ไปถึงพื้น

มันตลกดีที่ได้เห็นขาเขาแกว่งไปทั่วในอากาศเหมือนเด็กๆ

「อืม…… มันเพราะยกเว้นโลหะพิเศษ เหล็กกล้านั้นแข็งที่สุด」

มิทริลและโลหะอันถูกใช้โดยดวอร์ฟนั้นแข็งแกร่งอย่างท่วมท้น แต่เราได้อะไรนั่นจำนวนเยอะๆไม่ได้

มันใช้งานได้จริงและธรรมดามากกว่าที่จะใช้เหล็กกล้า

อย่างไรก็ตาม เหล็กกล้าดูเหมือนไม่เพียงพอที่จะเป็นวัสดุสำหรับปากกระบอกปืนใหญ่

ช่างในโรงงานข้างหลังผมก็พยักหน้าด้วย

พวกเขาดูคุ้นๆ…… จากชาติแห่งไฟ ถ้าผมจำไม่ผิด……

หืมม ผมลืม

「แน่นอนนั่นจริงเมื่อเป็นเรื่องความแข็ง แต่ถ้าเราเน้นกับการมีความแข็งแกร่งมากพอทนระเบิด ถ้าอย่างนั้นทองแดงดีกว่า」

「ทองแดง?」

ผมจำได้ว่าดาบและหอกของผมถูกทำขึ้นมาจากทองแดงที่จุดหนึ่งหรือจุดอื่น

แต่อะไรๆแบบนั้นถูกปฏิบัติเป็นเหมือนของโบราณแล้วทุกวันนี้

「มันหนักพอรับการกระแทกและมันยืดหยุ่น……」

บัลบาโน่เริ่มพูดอย่างอวดตนเกี่ยวกับบางอย่าง แต่มันไม่มีเหตุผลกับผมเลยสักนิด

「ฮ่ะยู้มมม!」

ผมถูท่อนล่างซีเลียระหว่างแกล้งตอบเหมือนผมเข้าใจ

ผมสนุกกับตูดลีอาห์ด้วย

อุมุ ต้นขาทั้งสองของพวกเธออวบ เหมือนแบบที่ผมชอบพวกมัน

ผมจะวางหน้าไว้ระหว่างพวกมันคืนนี้

การถูกขนาบโดยต้นขาทั้งสองของพวกเธอระหว่างปีปี้เลียเอ็นของผม…… นั่นฟังดูมหัศจรรย์

「ข-เข้าใจแล้ว……」 「ทองแดงไม่ได้แม้แต่ถูกพิจารณาเลย」

「เราจะต้องตรวจว่ามีที่ไหนในอุโมงค์ที่มีทองแดงหรือสังกะสี!」

เหล่าช่างกลายเป็นมีชีวิตชีวากับบางอย่าง

ลีโอโพลต์ดูเหมือนกำลังคิดอย่างตั้งใจเกี่ยวกับบางอย่าง

ผมแค่ดีใจที่ปัญหาถูกแก้แล้ว

ผมจะปล่อยที่เหลือให้กับลีโอโพลต์

「นั่นไว้ก่อน ฉันมีบางอย่างที่ฉันอยากให้นายเห็น นายจะทึ่ง」

เห็นได้ชัดว่า ปืนใหญ่ที่เตรียมโดยบัลบาโน่ไม่ได้พิเศษเกินไป

ในสายตาของเขา เขาเห็นมันว่าเป็นบางอย่างเลียนแบบการออกแบบโบราณของเรา

มันช่วยไม่ได้ ผมควรซาบซึ้งที่อย่างน้อยเขาสร้างพวกมันไดยไม่ได้โกรธ

หลังจากเดินด้วยกันสักพักกับบาลบาโน่ผู้ดีใจ เรามาถึงอาคารหนึ่ง

「มันอยู่ข้างในที่นี่?」

เขายิ้มอย่างมั่นใจ ดังนั้นผมแน่ใจว่าบางอย่างจะออกมา

「ตอนนี้มาดูงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา!」

「ฉันรอคอยมัน? อย่าแค่สร้างบรรยากาศ เร็วเข้าแล้วเอามันออกมา」

มือของบัลบาโน่กางและเขาไม่เคลื่อนไหว

อะไรเกิดขึ้นที่นี่ นายกำลังบอกฉันให้ดูอาคารแต่ไม่มีอะไรออกมาเลย

「อ-เอเกอร์ซามะ…… นี่คือ!!」

ซีเลียตะโกนในความทึ่ง

เมื่อดูที่ซึ่งเธอชี้ ผมเห็นแค่อาคาร…… ไม่ นี่คือ-

ผมคิดอย่างแน่ใจว่านี่แค่อาคาร แต่โครงสร้างมันดูแปลกหลังจากดูใกล้ๆ

ไม่มีทางเข้าและทางออกและมีบันไดที่ด้านข้างซึ่งนำไปสู่บางที่

ผมก็เห็นเฟืองและสปริงที่นั่นที่นี่และในที่สุด มีท่อยาวที่ยืดออกมาจากอาคาร อันคล้ายกับปากกระบอกปืนใหญ่

「นี่…… ทั้งสิ่งนี้คือปืนใหญ่?」

「นั่นถูกแล้ว! ความสง่างามและความทนทานทำให้มันเป็นงานชิ้นเอกของดวอร์ฟของแท้!」

ความสูงมันสูงเท่าตึกสองชั้นได้อย่างง่ายๆ

ส่วนซึ่งดูคล้ายกับแท่นยืนไม่ได้ดูเหมือนโลหะธรรมดาด้วย สปริงและเฟืองทุกประเภทเรียงกันอย่างท่าทางซับซ้อนและติดกับมัน

มันดูซับซ้อนมากและผมไม่รู้เลยว่าจะใช้มันอย่างไร

อย่างไรก็ตามอะไรที่ดึงดูความสนใจของผมมากที่สุด คือปากกระบอกยักษ์

ความยาวของมันทำให้ปืนใหญ่ที่เราเห็นก่อนหน้าดูเหมือนของเล่น…… มันมากกว่าสิบเมตรได้อย่างง่ายๆ

มันคืองานสง่างามและมีรายละเอียดอันถูสร้างโดยดวอร์ฟ

บัลบาโนยิ้ม รู้สึกพอใจหลังจากเห็นเราตกใจ

「มันแค่ใช้เราหนึ่งหรือสองวันเพื่อสร้างปืนใหญ่ที่นายเห็นก่อนหน้า เราเทความพยายามของเราทั้งหมดทำเจ้าเด็กแสบนี่! ชื่อของมันคือเออร์แกน ชื่อดีทรงพลัง ไม่คิดเหรอ?」

「ใช่…… มันเหลือเชื่อ มันนานเท่าไหร่ตั้งแต่ฉันตกใจขนาดนี้?」

มันไม่ใช่คำเยินยอ

ปืนใหญ่กลไกยักษ์ที่ ต่างเป็นโลกจากแค่อาคารธรรมดา มีความแข็งแกร่งพอที่จะท่วมท้นคนเหล่านั้นผู้เห็นมันทั้งหมด

เมื่อปืนใหญ่สัตว์ประหลาดสูงชันนี้ถูกยิง มันน่าจะทำลายกำแพงปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองสีขาวของสหพันธรัฐด้วย

ซีเลียและผมตะลึงระหว่างลีอาห์และปีปี้ ผู้ไม่เข้าใจจริงๆว่าปืนใหญ่คืออะไร แค่ไม่สนใจอาวุธและเล่นดึงกัน

มันโดยไม่ต้องพูดว่ามีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ยังเก็บความสงบไว้ได้คือลีโอโพลต์

「ถ้าอย่างนั้น…… เราใช้นี่ยังไง?」

「ยังไง นายพูด แน่นอนว่านายแค่ยัดมันด้วยดินปืนและกระสุน และจากนั้นยิงมัน」

คนนี้กำลังพูดอะไร?

「เล็งมันไปที่ไหน?」

「เล็งที่ศัตรูเราจะไม่ยิงพวกเดียวกัน」

คนนี้ไม่ปรกติเหรอ? บางทีเขาต้องการวันหยุด

「และศัตรูอยู่ที่ไหน?」

「……」

ณ จุดนี้ ผมรับรู้ว่าลินต์บลูมเป็นภูมิภาคห่างไกล ที่ซึ่งการโจมตีของศัตรูนั้นเป็นไปได้ยาก เมื่อศัตรูมาที่นี่จริงๆ ไม่ใช่แค่ราเฟน แต่ทั้งดินแดนจะถูกยึดครองแล้ว

เมื่อเมื่อคิดเกี่ยวกับมันแค่เพื่อสำหรับการตอบคำถาม อย่างเดียวที่การโจมตีมาได้คือฝูงของสัตว์ดำหรือกองทหารไม่กี่คนที่นั่นที่นี่

ถ้าเรายิงเจ้านี่ใส่ศัตรูไร้ค่า พวกเราจะเป็นคนเอะอ่ะใหญ่

「เราขนส่งมันไปราเฟนสักวิธีหนึ่งได้มั้ย?」

พี่กำลังคิดอย่างเดียวกัน ซีเลีย

แต่พื้นฐานแล้วสิ่งนี้ใหญ่เท่าอาคารดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้

แม้ว่าถ้าหลายร้อยคนดึงมัน มันจะไม่กระดิกเลยสักนิด

「……เราใช้นี่เป็นปืนใหญ่สัญญาณเพื่อบอกเวลาได้มั้ย?」

「นั่นจะเป็นการสิ้นปลืองดินปืน นอกจากนี้ มันจะทำให้ช่างผู้อยู่ในเมืองตีลังกา」

อะไรนี้ดูเหมือนต้องการดินปืนทั้งถังเพื่อยิงหนึ่งลูก……

「สิ่งนี้…… ก็ถูกสร้างโดยวัสดุเดียวกันกับปืนใหญ่ใหม่นั่น ใช่มั้ย?」

「ใช่! เราใช้มันมากกว่าปืนใหญ่ไร้ค่านั่นห้าสิบเท่า…… หรือร้อยเท่า」

ผมจะอยากได้ปืนใหญ่ 100 ประบอกทำจากวัสดุนั่นแทน

นั่นจะหมายถึงผมไม่ต้องกังวลว่าจะขาดปืนใหญ่อีก

อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนผมบ่นกับดอวร์ฟผู้ช่วยตามคำขอ

「แล้วก็ พวกนายใช้ไม้ไหม้เพื่อทำเหล็กกล้า แต่นั่นมันเสียเปล่า มีบางอย่างที่ดีมากกว่าไม้ถ้านายอยากทำเหล็กกล้า」

ดวอร์ฟใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำตลอดชวิตตดังนั้นพวกเขาไม่มีโอกาสได้รับไม้มาก

มันก็เพราะต้นไม้รอดชีวิตในความร้อนและชื้นของถ้ำไม่ได้

「มันเพราะเรามีต้นไม้เหลือเฟือในที่ราบ นอกจากนี้ เราใช้มันเป็นเชื้อเพลิงได้ ไม่ใช่เหรอ?」

บัลบาโน่และดวอร์ฟคนอื่นไม่ได้ออกจากถ้ำบ่อย

ถ้าพวกเขาไม่ใช้ต้นไม้ อะไรที่พวกเขาใช้เป็นเชื้อเพลิง?

「เราใช้นี่」

บัลบาโน่นำหินดำจากกระเป๋าของเขาออกมา 「นั่นถ่านหินเหรอ? แน่นอนเราหาได้ง่ายๆที่นี่」

ก่อนผมรู้ช่างข้างหลังได้มารวมตัวกัน

「สำหรับเรา มันใช้ดีกว่าฟืนหรือถ่าน」

ถ่านหินไม่ได้หายากเป็นพิเศษ

มันปรากฏในสายแร่มากมายและมันถูกขุดออกมาบ่อยพร้อมกันกับแร่อื่นๆ

ถ้าคนหนึ่งโยนเข้าไปในไฟ มันถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ แต่มันเร็วและถูกกว่าที่ใช้ฟืนแทนพยายามขนส่งมันจากเหมือง ซึ่งทำไมเราไม่ได้ใช้มันมากนอกจากพื้นที่ซึ่งมันถูกผลิต

ไม่มีต้นไม้มากอยู่ใกล้ลินต์บลูมดังนั้นถ่านหินคืออะไรที่พวกเขาใช้เป็นเชื้อเพลิงปรกติ

「ถ้าจะเผามัน ไม่ใช่นี่ดีกว่าเหรอ? มันใช้ความพยายามและเวลามากกว่าเพื่อตัดต้นไม้และขนมัน」

ดวอร์ฟกำลังบอกช่าง แต่พวกเขามีรอยยิ้มเกร็งๆอยู่บนหน้าพวกเขา

「ไม่…… ถ้าเราใช้ถ่านหินในการผลิตเหล็กองค์ประกอบจะเข้าไปในเหล็กกล้าและมันจะใช้ประโยชน์ไม่ได้」

「โอ้ ถ้าอย่างนั้น มันไม่ได้ผลเหรอ?」

บัลบาโนหันไป ดูเหมือนเชื่อต่างออกไป

「โง่ นั่นชัดเจนว่าถ้าเผามันเลย นายจำเป็นต้องเผาถ่านระหว่างปิดมัน จากนั้นเทน้ำเป็นพิษทิ้ง……」   

อา มันไม่ใช่ความรู้ของผมด้วยศัพท์เฉพาะแบบนี้ คุยกับช่างเลย

ผมถูตูดซีเลีย

บัลบาโน่ขึ้นเสียงด้วยความภาคภูมิใจระหว่างพองอกของเขาระหว่างช่างฟังพร้อมดวงตาเบิกกว้าง

การสนทนามีชีวิตชีวาของพวกเขาทำให้เออร์แกนมโหฬารดูเหมือนเหงาๆ

 

 

หลังจากนั้น บัลบาโน่นำดวอร์ฟคนอื่นๆเพื่อดื่มเหล้าไม่กี่แก้วกับผมก่อนผมไปดูรอบเมืองรู้สึกเมาเล็กน้อย

ไม่มีเหตุผลที่ผมจะอยู่ข้างหลังสำหรับการคุยเกี่ยวกับช่างทั้งหมด

นอกจากนี้ช่างดูเหมือนอยากทำหลายอย่างจริงๆที่พวกเขาเรียนรู้มาจากดวอร์ฟอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ดวอร์ฟไม่ได้เปิดอกให้มนุษย์เยอะนอกจากผม แต่ผมแน่ใจว่าท่าทางพวกเขาอ่อนขึ้นแล้วหลังจากดื่มแก้สองแก้วและพวกเขาจะตอบคำถามใดๆอยที่คนหนึ่งถามอย่างมีความสุขตราบเท่าที่คนนั้นไม่ทำอะไสักอย่างที่ทำให้เขดูโกรธ

「ฟุมุ…… มันเป็นสักพักแล้วตั้งแต่พี่มองมันชัดๆ มันเทียบไม่ได้กับอะไรที่มันเป็นก่อนหน้า」

「มันเป็นเมืองที่เหลือเชื่อ……มันไม่เหมือนเบียโดเลยสักนิด」

ซีเลีย, ลีอาห์และเซเลสติน่าด้วยกันกับโมนิก้าและปีปี้อยู่ที่นี่

ผมเดินรอบเมืองมาด้วยกันกับห้าสาวที่กล่าวมาก่อนหน้า

กิโด้และคริสตอฟก็อยู่กับเราเป็นผู้คุ้มกันแต่ผมแค่กังวลเกี่ยวกับเหล่าคุณนาย

จำนวนประชากรลินต์บลูมนั่น 4000 ทำให้มันเป็นเมืองขนาดกลาง แต่ช่างและเตาเผาทั้งหมดที่เรียงรายกันอยู่ถนนทำให้มันดูเหมือนเมืองใหญ่กว่าที่มีจำนวนประชชากร

ในทางกลับกัน ไม่มีร้านที่ขายสินค้าชั้นสูงและร้านไม่กี่ร้านที่ขายของจำเป็นที่รวมกันเป็นกลุ่มในบริเวณหนึ่งของเมือง

「เพราะทั้งหมดลินต์บลูมซื้อทุกอย่างจากของจิปาถะ, เสบียงอาหารและแม้แต่น้ำจากแคลร์ซัง」

ดินแดนรอบเมืองเป็นที่ดินร้างว่างเปล่า ดังนั้นไม่มีนาถูกสร้าง

มีแค่น้ำเป็นพิษถูกดึงออกมาจากบ่อได้ ดังนั้นไม่มีวิธีอื่นเพื่อได้รับน้ำดื่ม

รถเกวียนแคลร์ขนน้ำแห่งชีวิต หมายถึงมันปลอดภัยที่จะพูดว่าเธอกุมชีวิตของเมืองไว้ในมือเธอ

เธอเป็นคนผู้จ้างและจ่ายคนเหมืองและคนในเมือง แต่อาหาร, เครื่องดื่มและทุกอย่างที่พวกเขาใช้ในชีวิตประจำวันของพวกเขาถูกซื้อมาจากแคลร์ด้วยเหมือนกัน

ไม่ต้องพูดถึง ราคาถูกพิจารณาว่าถูกไม่ได้เมื่อเทียบกับเมืองอื่น

มากกว่านั้น ทุกอย่างจากการเช่าบ้านที่ผู้คนมีชีวิตอยู่ไปสู่เสื้อผ้าที่โสเภณีใส่ถูกควบคุมโดยแคลร์

เมืองนี้เป็นฐานเหมืองสำคัญและในเวลาเดียวกันเป็นปราสาทของแคลร์ ซึ่งเธอได้สร้างและพนันชะตาชีวิตบนเงินทั้งหมดที่ถูกแลกเปลี่ยนที่นี่

「เอเกอร์ซามะ…… ดูทางนั้น」

ผมเอื้อมมือออกไปสู่กางเกงขาสั้นด้านล่างซีเลีย

「ไม่ใช่นั่น! ทำไมท่านมาทำนั่นในที่แบบนี้!!? หนูหมายถึงดูตรงนั้น!」

โอ้ ผมเข้าใจผิด คิดว่าซีเลียทำตัวกล้าหาญสักครั้งหนึ่งและตื่นเต้น

เธอกำลังชี้สู่พื้นที่ขนสัมภาระ ที่รถเกวียนจำนวนเหลือเชื่อรวมกันและน้ำหลายถังกำลังถูกขนลง จากนั้นแทนที่ด้วยโลหะก้อนใหญ่

「หนูทำการนับคร่าวๆและมีพวกมันอย่างน้อย 50 และน่าจะไม่มีรถเกวียนน้อยกว่า 100 ซึ่งเข้าและออกเมืองทุกวัน」

มีรถม้ามากขึ้นที่ไปมาเมืองนี้มากกว่าราเฟน

อาหาร, น้ำและถ่านซึ่งถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตเหล็กถูกต้องการเป็นจำนวนมากมายทุกวัน

ถ้าพวกเขาสามารถใช้ถ่านหินแทน นั่นจะช่วยได้กับปัญหาเชื้อเพลิงของพวกเขา

「ด้วยคาราวานผ่านถนนมากขนาดนี้…… ไม่ใช่พวกเผ่าป่าเถื่อนหรือมอนสเตอร์อออกมาโจมตีเหรอ?」

โมนิก้ามองโลกตามความเป็นจริงไม่เหมือนเซเลสติน่าและลีอาห์ ผู้ดูเหมือนไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความจริง

「จริงๆแล้วเราไม่เป็นอะไรในเรื่องนั้น」

เหตุผลคือเพราะทางสู่ลินต์บลูมนั้นโหดร้ายสุดขีด ถ้าเธอเดินทางเลยถนนที่ดูแลอย่างดีจนน่าประทับใจ ไม่มีแม้แต่ถิ่นฐานของมนุษย์สักที่เดียว และน้ำธรรมชาติไม่มีที่ไหนเลย หมายถึงก็อบลินหรือมอนสเตอร์ไร้ค่าตัวที่เล็กกว่าอยู่ใกล้ไม่ได้

ถ้าพูดว่ากลุ่มกองโจรกำลังรอเหยื่อที่ผ่านมา ไม่มีที่ซึ่งพวกเขาสร้างฐานได้อยู่ดี

แม้ว่าถ้าพวกเขาเจอจุดซ่อนดีๆ รอบข้างของพวกเขายังมีสัตว์ดำดุร้าย แม้ว่าจำนวนน้อยลงจากการถูกล่า

มอนสเตอร์เหล่านั้นจะเลียปากหลังกองโจรผู้หัวเราะหลังจากเจอคาราวาน

มันเป็นความคิดแย่จนไรสาระว่ามีตำแหน่งที่ปลอดภัยนอกเหนือจากที่ซึ่งคนหนึ่งตั้งแคมป์ตอนกลางคืน

ยามเมืองถูกแต่งตั้งให้ปกป้องคาราวานอย่างเป็นธรรมชาติ แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าพวกเขาเกือบถึงที่หมายตอนกลางคืน พวกเขารีบเร่งรรถเกวียนอย่างสิ้นหวังสู่กองประจำการที่ถูกตั้งทุกทางเลี้ยวซึ่งทำหน้าที่เป็นป้อมปราการและที่พักด้วย

「แต่มันเหงาที่ไม่มีนาเลยนะจ้ะ …… หนูชอบเห็นชาวนาทำงานยุ่งๆ」

เซเลสติน่ามาจากมอลต์ ซึ่งเป็นชาติทำนา ดังนั้นมันอาจดูเหมือนว่างเปล่าเล็กน้อยสำหรับเธอ

เมืองนี้มีทองเป็นภูเขาฝังอยู่ข้างใต้ แต่ไม่ต้องสงสัยว่ามีความรู้สึกแปลกเกี่ยวกับมัน

ผมรู้ว่ามันจะไม่เป็นตัวแทนการเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์

เซเลสติน่าเอื้อมไปสู่หว่างขาผมอย่างไร้เดียงสา แม้ว่าเธอถูกหยุดโดยโมนิก้า ผู้จ้องผม

ณ ทันใดนั้น ถังขนน้ำเต็มผ่านเรา

พ่อค้าเรียงถังและเรียกลูกค้าด้วยเสียงดัง

「น้ำดื่มซึ่งมาถึงเมื่อกี้! สองทองแดงสำหรับน้ำเหยือกหนึ่งเต็มๆ!」

「「แพงมาก!」」

ซีเลียและโมนิก้าส่งเสียงของพวกเธอออกไป

มันอาจเป็นเหยือกใหญ่ แต่ผู้คนน่าจะกินสามเหยือกทุกวันในเมืองแห้งๆนี้

คนเหล่านั้นผู้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ร้อนอาจกินมากกว่านั้น

ผมน่าจะคุยกับแคลร์เกี่ยวกับนี่……

「ไม่มีใครมีเงินแบนั้น」 「เอาเท่าเดิมลุง」

「จึ คนจน ถ้าอย่างนั้น นายกินน้ำเหม็นๆสองแก้วได้สำหรับหนึ่งทองแดง ดื่มมากเท่าที่ต้องการ」

เข้าใจแล้ว มีน้ำถูกกว่าด้วย

ถ้าเป็นแบบนั้น งานพวกเขาจะไม่ลดลงเพราะความกระหายน้ำ สุดท้ายพวกเขาจะอยากดื่มน้ำสะอาดอร่อยๆทันทีที่พวกเขาทำได้

มันอาจเป็นความคิดซึ่งแคลร์มีเพื่อช่วยให้เธอยกระดับตัวเองให้เป็นใหญ่

「เธอคิดอะไรๆออกมาดีจริงๆ คนนั้นลงนรกแน่นอน」

ซีเลียอยู่ในอารมณ์เสียแล้วตอนนี้เพราะวิธีคิดฉลาดนี้

บางทีผมจะเล่นรอบแม่ค้าหญิงโลภมากนี้และให้เจี๊ยวของผมไหลเข้ารูตูดเธอโดยบังเอิญ

「แต่นั่นแค่พ่อค้าแม่ค้าเป็น พี่พูดไม่ดีเกี่ยวกับเธอไม่ได้เพราะพี่ก็ได้กำไรจากเธอ」

ผมก็รับกายของเธอด้วยกันกับร่างกายเล็กๆของลอรี่ ดังนั้นผมบ่นไม่ได้

ในความเป็นจริง เมืองนี้หลักๆแล้วถูกสร้างโดยแคลร์

「นั่นทำให้พี่นึกได้ แคลร์ควรรู้ว่าพี่มาที่นี่…… กระนั้นเธอไม่แสดงตัวออกมา」

ไม่มีเหตุผลให้เธอมาเป็นพิเศษ แต่ไม่นานนี้เธอพยายามกล่อมผมเรื่องข้าวสาลี ดังนั้นผมแค่คิดว่าเธอจะมาอยู่ดี

「เกี่ยวกับประเด็นเรื่องข้าวสาลี มันดูเหมือนแคลร์และอดอล์ฟเจรจาเกี่ยวกับส่วนหนึ่งของที่นำเข้ามาจากมอลต์ทั้งวันเมื่อวาน」

อดอล์ฟเจรจาเรื่องการค้าขายกับคนของมอลตร์ระหว่างทำงานกับแคลร์เกี่ยวกับการรับมือสินค้านำเข้า

บนนั้น เขาก็คิดเกี่ยวกับสะพานน้ำด้วย ซึ่งได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการสร้าง

ช่างเป็นชายที่ยุ่ง มันไม่เป็นอะไรถ้าเขาทำงานที่ความเร็วช้ากว่านี้

ไม่ว่ากรณีไหน ซีเลียรู้เกี่ยวกับทุกอย่าง

ผมจูบแก้มเธอขณะเรากำลังเดิน

「ท-ทำนั่นในที่แบบนี้…… มันน่าอาย」

เธอพูดปัดอย่างมีความสุข

ผมจะทำยิ่งมากกว่านี้…… คอหนู…… หน้าอกหนู…… ต้นคอหนู

「ค-คนเห็นได้! ทุกคนเห็นไดดดด้!!」

「ดีจัง…… ซีเลียจัง นายท่าน~ หนูจูบนายท่านด้วยได้มั้ย?」

「หนูอยากจู๊บ~~ ด้วย!」

「เออ้ หยุดนี่! พยายามซั่มหมู่กลางเมืองหรือยังไง!?」

เราเดินรอบเมือง ซื้อเนื้อสัตว์ดำค่อนข้างถูกและดื่มน้ำค่อนข้างแพง 

เมื่อเราเสร็จการเที่ยวชมเล็กๆของเรา เสียงดังของระฆังดังก้องทั่วทั้งเมือง

มันจวนได้เวลาตอนเย็น…… ถ้าอย่างนั้นบางทีระฆังนี้เป็นสัญญาณของเวลาตะวันตกเหรอ?

ระฆังหยุดดังและจากนั้นฝูงผู้ชาย…… คนเหมือง ถ้าให้พูดให้ถูกต้อง ขยี้ตาพวกเขา ทำให้พวกเขาตื่นขึ้นและออกมาจากบ้านทั่วทุกที่

เข้าใจแล้ว ระฆังนั้นเป็นระฆังที่บ่งบอกเวลาเปลี่ยนกะ

ลินต์บลูมเป็นเมืองเหมืองเหล็กก่อนอะไรทั้งสิ้น แต่เหล็กบนพื้นที่มีนั้นคุณภาพไม่ดีและขึ้นสนิม

นั่นทำไมอุโมงถูกขุดลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อล่าแร่คุณภาพดีมากกว่า

ไม่มีความรู้สึกเรื่องเวลาหลังจากเข้าอุโมงค์ ดังนั้นคนเหมืองถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มและสลับกันระหว่างกะกลางวันและกลางคืนเมื่อทำงานในภูเขา

ทันทีเมื่อคนเหมืองของกะกลางคืนมุ่งหน้าไปสู่เหมือง คนเหมืองจากกะกลางวันทั้งหมดกลับเมือง

เล็งช่วงเวลานี้คือร้านค้าข้างทางและโสเภณี

ไม่มีเวลาที่หาเงินดีกว่าเมื่อคนเหมืองตัวโตกลับมาจากทำงานเพื่ออาหารและผู้หญิง

「ว-ว้าว น่าทึ่ง……」

「พระนาง ท่านต้องไม่ดูนะ!」

ดวงตาของเซเลสติน่ากกว้างเมื่อโสเภณีเร้าความต้องการจากสัญชาตณาณของคนเหมืองด้วยการกระทำเยอะจนไร้สาระของพวกเธอ

มันน่าทึ่งจริงๆ พวกเธอบางคนเปิดตูดและหน้าอกและเมื่อคนเหมืองทำการสบตาในแบบใดๆ พวกเธอแยกปากจิ๊ออก

ไมล่าคอยมองในราเฟน ดังนั้นโสเภณีที่รูปลักษณ์เช่นนี้จะถูกจับทันที

「จำนวนของคนที่นี่เพิ่มอย่างเร็ว มันจะเป็นเรื่องใหญ่ถ้าบางอย่างเกิดขึ้นดังนั้นเซเลสติน่าควรกลับไปที่โรงแรม」

คนเหมืองไม่ใช่คนผู้พิจารณาถึงคนอื่นหรือสุภาพถ้าให้พูดอย่างน้อย

มันจะแย่ถ้าบางอย่างเกิดขึ้นกับเซเลสติน่าและลีอาห์ที่น่ารัก

「ถ-ถ้าอย่างนั้นหนูด้วย……」

ผมจูบซีเลียด้วยและให้ทุกคนไปที่โรงแรมด้วยกัน

「อออุ่- ……แต่หนูอยากอยู่ข้างพี่……」

「พี่จะกลับมาหลังจากเสร็จธุระ」

ขณะซีเลียกำลังจะมุ่งหน้ากลับกับทุกคน คนเหมืองเมาเรียกออกไปหาเธอ

「ฮู้ววว! เฮ้ เธอ ดูดีฉิบหายเลยว่ะ! ยกนึงเท่าไหร่? ฉันค่อนข้างรวยวันนี้……」

「หุบปาก!」

การเตะดุร้ายของซีเลียกระแทกหว่างขาของชาย ทำให้คนเหมืองล้มสู่พื้นเงียบๆ

ความต่างในวิธีที่เธอปฏิบัติกับพวกผู้ชายนอกจากผมนั้นเป็นเหมือนกลางคืนกับกลางวัน ส่วนนั้นของเธอกระตุ้นความรู้สึกเหนือกว่าของผม

ผมปล่อยคนติดตามคุ้มกับผู้สับสนและมุ่งหน้าสู่เป้าหมายของผมด้วยตัวผมเอง

มีความร้อนแปลกๆและพลเมืองอยู่หนาแน่นในมุมของลินต์บลูมที่บาร์และซ่องอยู่ใกล้ๆกันมาก

ผู้คนไหล่ชนกันและก่นด่าระหว่างเดินผ่าน

อุมุ นี่เป็นสถานการณ์ค่อนข้างดี

ผมลูบตูดของโสเภณีแต่งตัวยั่วยวนในฝูงของคน

นี่ก็รู้สึกดีแต่สิ่งหนึ่งแน่นอนที่โผล่ขึ้นมาในสถานการณ์นี้คือ……

「ระยำ!! เงินฉันหายไปไหน!!? บางคนล้วงกระเป๋าฉัน!!」

คนเหมืองที่มีกายใหญ่โตตะโกนกลางทาง

เขาจับคนรอบเขาด้วยเสียงแหบดุแต่ถ้าเขาแค่รู้มันตอนนี้เท่านั้น ถ้าอย่างนั้นคนล้วงกระเป๋าน่าจะจากไปนานแล้ว

「ระยำ ระยำเอ๊ย!! ฉันมีสามเงินอยู่ในนั้นวันนี้!」

เขากระทืบเท้าของเขาในความโมโห ก่อให้คนรอบๆเขาหัวเราะเยาะ

「เฮ่ะ มันเพราะเขาเป็นคนบ้าผู้เดินไปทั่วด้วยเงินแบบนั้น」

「พูดอะไรวะไอ้บัดซบ!?」

ชายโมโหทันทีและต่อหน้าของผู้ชายที่เยาะเย้ยเขา

ด้วยมวลกล้ามเนื้อที่เห็นได้ นั่นทีเดียวหลับกับคู่ต่อสู้ของเขา

มีเสียงกรี๊ดเบาๆจากบางคนรอบข้างแต่การต่อยกันระหว่างคนเหมืองไม่ควรใช่บางอย่างไม่ปรกติ

มันไม่ได้เปลี่ยนไปเป็นเรื่องใหญ่

「รับนั่นไป ไอ้โง่! ไม่มีทางที่กูจะแพ้ไอ้อ่อนแบบแกหรออก……」

ชายก็หมดความอดทนจากการโดนล้วงกระเป๋าแล้ว และแค่ด่าออกไปกับชายผู้ล้ม

เมื่อมองดูอีกที ผู้ชายนั้นสูงกว่าผมด้วย และกล้ามเนื้อปูดโปนเขาปิดทั้งร่างกาย

เขาไม่ได้ดูเหมือนบางคนมีชนชั้นหรือฉลาด แต่ผมไม่เกลียดคนไฟแรงเหล่านี้

รอยยิ้มที่ชัดเจนขึ้นจากหน้าผมเมื่อผมคิดเกี่ยวกับอะไรแบบนี้

「เฮ้แก แกเพิ่งยิ้ม ใช่มั้ยวะ!!」

เขามาตะคอกใส่ผม

โสเภณีและร้านค้าสร้างระยะและเลี่ยงตัวเองจากการเข้ามาเกี่ยวข้อง

「โอ้? พูดกับฉันเหรอ?」

「แน่นอนมันเป็นมึง มีปัญหากับกูหรือไงวะ ไอ้ซี้!?」

อืม คนเหล่านั้นผู้ใช้ชีวิตนอกเมืองไม่ได้คุ้นเคยกับหน้าตาของผมมากเกินไปหลังจากทั้งหมด

ถ้าพวกเขาจำผมได้ ผมอาจไม่ถูกเห็นว่าเป็นคนเพิ่มเลือดขึ้นหัวให้บางคนแบบนี้

「ฉันไม่มีอะไรกับนาย ฉันแค่นึกบางอย่างตลกๆได้」

「ไอ้เวร-!!」

ผมหลบหมัดแรกที่ลอยมาใส่ผม อ้อมขาไปเกี่ยวขาเขาและทำเขาล้ม

เขาดูเข้มแแข็ง แม้ว่าไม่มีเหตุผลที่จะสู้ มีแค่มือสมัครเล่นเท่านั้นที่จะทำบางอย่างแบบนั้น

「พรืด」 「โคตรไม่เท่」 「เขาเซล้มอย่างดีเลย」 「เขาแค่เหมือนหน้าตาของเขาทุกอย่าง หัวกล้ามโง่ๆ」

การล้อเลียนจากคนดูจุดไฟใต้คนเหมืองไปมากขึ้น

อาา ตอนนี้มันมาถึงจุดนี้แล้ว ไม่มีทางเลือกนอกจากสู้

「ก-กูจะฆ่ามึง!」

「่อย่าพูดบางอย่างรุนแรงมาก ที่นี่ ฉันจะให้แกต่อยฉัน」

ผมตบท้องดั่งบอกให้เขาต่อยผมตรงนั้น

ไม่มีเหตุผลสำหรับผมที่ต้องสู้ถึงตายกับเขา

ผมจะแค่เล่นไปทั่ว

ผู้ชายยิ้มและง้างแขนกลับ

「อย่ามาเสียใจดีกว่านะ!!」

การเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างช้า ถ้าผมอยากทำ ผมน่าจะหลบเขาได้อย่างน้อยสิบครั้ง

แต่ผมจงใจให้เขาต่อยผมในท้อง

「โออ้」

「อะไรวะ-! มึงไม่ล้มได้ไง!?」

อย่างที่คาดกับคนเหมืองผู้ภาคภูมิใจกำลังกาย

หมัดเขาค่อนข้างแรง

แม้ว่ามันไม่พอเอาชนะผม

「ต่อไปเป็นตาฉัน」

ผมง้างแขนกลับด้วยเหมือนกัน

คนเหมืองชะงักไปเร็วๆ แม้ว่าเขาเข้าใจเจตนาผมอย่างเร็วและถอดเสื้อโยนทิ้ง ตบท้องของเขาเหมือนที่ผมทำก่อนหน้า

「ใจถึงว่ะ! เอาเลยแล้วต่อยฉัน หมัดมึงจะไม่ทำอะไรสักอย่าง……」

หมัดผมเข้าเป้าบนท้องของเขาด้วยเสียงตุ้บ

กล้ามเนื้อท้องของเขาค่อนข้างใหญ่ แต่หมัดผมจมลงร่างเขาลึก

「กุ่! ก่ะ! โอ่กกกก……」   

มันดูเหมือนผู้ชายดิ้นรนเพื่อหายใจขณะเขางอตัวระหว่างจับท้อง แม้ว่าเขาเลี่ยงหล่นไปที่เข่าที่พื้นได้

เหลือเชื่อ เขายังยืนได้

「ต่อไป…… เป็นตา…… กู…… อุ่กกก……」

「เป็นอะไรมั้ย? เราหยุดที่นี่ได้นะรู้มั้ย?」

นี่เป็นแค่การเบี่ยงความสนใจเล็กน้อย ผมอยากให้เขาทำงานอย่างมีความสุขและจ่ายภาษีพรุ่งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามผู้ชายไม่ได้ดูเหมือนเขายอมแพ้เวลาไหนใกล้ๆ บวกกันกับคนเริ่มก่อเป็นวงกลมระหว่างพนันเหรียญเงินและเหรียญทองแดง ผมต่ออยู่ 1:5

「โอ่ร่าาา!」

「กุ……」

หมัดโดนท้องของผมอีกครั้ง ขาเขาควรรู้สึกอ่อนแล้วตอนนี้ แตหมัดยังมีกำลังมากกกว่าหมัดแรก

มันทำลมออกผมเล็กน้อย

「ฮี่ฮี่…… ม-มาเลย」

ชายกอดอกและเปิดเผยท้องให้กับผม ผมจะทำให้เขาบาดเจ็บจริงๆถ้าผมต่อยเขาต่อ

มันจะจบด้วยหมัดนี้

ผมใส่สะโพกไปหลังการโจมตีและต่อย

「ฮึ่นพรึ่!」

ทันทีเมื่อหมดผมปะทะกับร่างกายของเขา ของที่ชายเพิ่งกินเข้าไประเบิดออกมาจากปากเขาเหมือนเหมือนน้ำพุแล้วเขาร่วงลงพื้น

คนดูโห่ร้องยินดีและพนันเงินมากขึ้น

ผมอาจทำเกินไปนิดหน่อย

「เฮ้ เธอสองคน」

「ฮ๋าานน?」 「คุณ」

ผมเรียกโสเภณีเซ็กซี่สองคนและมอบให้พวกเธอหนึ่งทองจากกระเป๋าของผม

「อุ่ฮ่า เหรียญทอง!พวกเราสองคนยินดีใช้กลางคืนกับพี่!」

นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ผมทำ

「เธอดูคนนี้จนถึงเช้าได้มั้ย? ถ้าเธอมีอารมณ์ ดูดเอ็นเขาด้วย」

「เอ๋? อะไรที่ท่าน-……」

ผมรู้สึกค่อนข้างผิด

เขาอาจไม่อยากทำงานอีกแล้วหลังจากโดนขโมยกระเป๋าและถูกทำให้สลบ

「ว่าว ช่างเป็นชายมีน้ำใจ」 「ใจดีจัง…… พี่ดูเหมือนพี่จ่ายดี อยากซื้อหนูมั้ย?」

「เดี๋ยว ไม่ใช่นั่นลอร์ดศักดินาซามะเหรอ?」 「มันรู้สึกเหมือนฉันเคยเห็นเขามาก่อนในราเฟน」

ไม่ดีแล้ว ถ้านี่เป็นการเอะอะใหญ่ ซีเลียจะโกรธผมอีกครั้ง

ผมควรออกจากที่นี่

ผมหนีออกจากความวุ่นวายทั้งหมดและหาที่ซึ่งมีไม่กี่คน

มันอาจเป็นความคิดดีที่ซื้อเหล้าแรงๆเป็นของฝาก

「เจ้าของร้าน นั่นถังนึง……」

เมื่อผมเอื้อมไปกระเป๋าของผมเพื่อจ่าย ผู้หญิงที่ตัวเล็กชนเขากับหน้าอกของผม

「อะร้า ขอโทษเกี่ยวกับนั่น」

ผู้หญิงเคลื่อนที่อย่างลื่นไหลและเดินผ่านผม พยายามจากไปกับกระเป๋าที่ถูกขโมย…… แต่ผมจับก้อนเส้นผมยาวของเธอ

「ฟุ่กิ่ย้าาาา!」

「คืนกระเป๋า ฉันจะไม่สามารถซื้อเหล้าได้ถ้าเธอไม่คืน」

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงกลายเป็นดุหลังจากนำกระเป๋าไว้ในหน้าอกของเธอ

「นี่เป็นของฉัน! มีข้อพิสูจน์ว่ามันเป็นของนายมั้ย!?」

ถ้าเธอแค่ยอมรับอย่างเชื่อฟัง ฉันจะไม่ตามเธอมาหรอก

「……ถ้าอย่างนั้นกระเป๋านั้นกี่เงิน」

「กุ่…… เหรียญเงินไม่กี่เหรียญ และน่าจะเหรียญทองแทง ฉันจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้」

「ผิดแล้ว มีอยู่ 50 ทอง」

ผมมีมากขนาดนั้นในนั้นตลอด

เพื่อพูดให้แม่นยำกว่านั้น ผมมีแค่ 49 ทองเท่านั้นหลังจากผมจ่ายออกไปนิดหน่อยก่อนหน้า

ผู้หญิงเปิดกระเป๋าและดวงตาเบิกกว้าง

「น-นี่อะไร……」

กระเป๋าอีกใบตกจากชายเสื้อของผู้หญิงที่หวั่นไหว

ไม่เพียงแค่นั้นเท่านั้น พวกมันมีสองใบ…… ทั้งสองใบทำหยาบๆและไม่ใช่บางอย่างซึ่งปรกติแล้วผู้หญิงถือ

มันดูเหมือนสาวคนนี้เป็นโจรล้วงกระเป๋าต่อเนื่อง

「จึ!」

ผู้หญิงพยายามวิ่งหนีพร้อมกระเป๋าของผม

เหมือนที่ผมพูด อย่าวิ่ง

「เฮ้ เอามันมา」

ผมจับมือเธอและดึงเธอกลับ จากนั้นโอบแขนของผมรอบไหล่ของเธอ

มันดูเหมือนโจรพยายามลักพาตัวผู้หญิง

「หยุดนะ! ปล่อยฉันไปปป!!」

ผู้หญิงกรีดร้องดั่งว่าเธอถูกไฟคลอกและผู้คนเริ่มรวมตัวกัน

เธอน่าจะคิดว่าผมจะถอยจากนั้น…… ช่างโชคร้าย

「ลอร์ดศักดินาซามะ ได้รับบาดเจ็บมั้ย!?」

อย่าร้องมาก เธอทำให้ยามเมืองผู้รู้จักหน้าฉันวิ่งมา

「ล-ลอร์กศักดินา!?」

「นั่นใช่แล้ว ตอนนี้คืนกระเป๋าของฉัน」

ผมต้องเจอคนหลังจากนี้และผมไปมือเปล่าไม่ได้

ผมต้องซื้อของฝากป้าง

「เธอคือพัตตา โจรล้วงกระเป๋า! อย่าบอกฉันนะว่าเธอ……」

สีหน้ายามเมืองเปลี่ยนเมื่อพวกเขาเห็นสาว

ยามเมืองที่ดูแลบริเวณอาจโมโหถ้าพวกเขาเจอว่าผมถูกล้วงกระเป๋า

「อา อ่ะฮ่าฮ่า……」

ถ้าผมพยักหน้า แน่นอนเธอจะถูกโยนเข้าคุกเป็นเวลานาน

หรือบางที หัวหน้าของเมืองจะปฏิบัติกับนี่เป็นกรณีพิเศษและฆ่าเธอ

เธอมีหน้าสวยและตูดงาม

มันจะน่าเสียดายถ้าเธอถูกฆ่าหรืออยู่ไปเปล่าในคุกแค่จากการขโมย

「เราแค่เล่นๆกันน่ะ นายไปได้ตอนนี้」

「ด-ได้…… นี่ไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอ?」

แน่นอน ความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้น

หลังจากยามเมืองจากไป ผมปล่อยพัตตาหลังซอยเปลี่ยวและจับไหล่เธอ

「ต-ต้องการอะไร? ฉันหมายถึง ให้ช่วยอะไรคะ……」

「ฉันเว้นให้เธอจากการต้องไปคุกครั้งนี้ ยังไงก็ตามแต่ ฉันแค่ปล่อยเธอไปไม่ได้…… ดึงกางเกงในลงและเปิดกระโปรงของเธอ」

พัตตาลังเลชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นถอนหายใจยอมแพ้และลดกางเกงใน

「ฮ่าา ฉันว่าหนึ่งยกกับนายไม่มีอะไรเทียบกับเข้าคุก…… ได้โปรดอย่าทำอะไรไม่ดี」

「แน่นอนว่าไม่ ฉันจะแค่ใส่เอ็นฉันเข้าไปปรกติ เธอจะแค่ปล่อยให้ฉัน…… แตกใน」

「ถ้าอย่างนั้นลอร์ดศักดินาค่อนข้างเป็นบ้ากาม ได้ เอาเลย」

ผมนำมือเธอไว้บนกำแพงของซอยเปลี่ยวและม้วนกระโปรงของเธอขึ้นและจับสะโพกเธอจากข้างหลัง

เพราะเธอมีตัวเล็ก รูของเธอก็เล็กด้วย และระหว่างที่ปรกติแล้วผมทำการลูบไล้ทั่วถึงก่อนแทงเข้าไป นี่ก็เป็นการลงโทษด้วยเหมือนกัน

แค่แหกนิดหน่อยควรจะไม่เป็นไร

มันดีที่ผมทำมันจากข้างหลัง เพราะทั้งหมดเธออาจกลัวเมื่อเธอเห็นเจี๊ยวบวมใหญ่ยักษ์ของผม

「อืม เอาล่ะนะ」

「่ได้เลย…… นายจะปล่อยฉันไปหลังจากเราแทงกัน ถูกมั้ย?」

「แน่นอน โซร่าาา!」

ผมจับสะโพกเธอแน่นๆและดันเข้าสู่รูของเธอ

ผมรู้สึกถึงการต้านทานมหาศาลแต่ผมสามารถไปถึงข้างหลังข้างในเธอได้ด้วยการแทงแรงๆหนึ่งครั้ง

ผมรู้สึกถึงเจี๊ยวผมดันแยกเนื้อของเธอข้างในอุโมงค์แน่นของเธอได้และความรู้สึกจากช่องคลอดของเธอเต้นจากการกระแทกของการแทงของผม

「อะไร-! อุ่กิ่ย้าาาาาาาา—!! อะไรของนี่เนี่ย–!?」

โอ้เอาน่า อย่ากรีดร้องจากนี่

มันไม่เหมือนว่าฉันทรมานเธอ

「คุ แท่งไม้…… นายแทงฉันด้วยแท่งไม้ ไม่ใช่เหรอ!? นายจะฆ่าฉันจริงๆ ไม่ใช่เหรอ!? นายจะประหารฉัน ไม่ใช่เหรอ!?」

「ฉันไม่ได้แทงเธอด้วยแท่งไม้ มันแค่เจี๊ยวของฉัน」

สาวหันมาในน้ำตาแลละดูลำแท่งที่ฝังเข้าไปในรูเธอครึ่งหนึ่งและกรีดร้อง

「ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย…….. มันใหญ่มาก! เจี๊ยวนั้นยิ่งใหญ่กว่าแท่งไม้อีก!! ไม่ไหว ท้องฉันเจ็บ! นายกำลังฉีกฉัน!」

นี่คือการลงโทษดังนั้นมันช่วยไม่ได้ถ้ามันเจ็บ

เธอจะไม่เป็นไร แม้แต่ปีปี้รับฉันเข้าไปได้ดังนั้นร่างกายผู้หญิงไม่พังจากนี่หรอก

มันอาจเร็วเกินไป แต่ผมขยับทันที

「อ๊าาาา-! ฉันจะตาย! เจี๊ยวแท่งไม้กำลังแหกรู้ฉ้านนน ฉันจะตายแล้ววว-!!」

「เอาน่า เอาน่า มันจะดีกว่านี้ไม่นาน ฉันจะเติมเต็มท้องเธอเพื่อให้เธอเลิกล้วงกระเป๋า」

「อ๊าาา—!! มันกำลังกระแทกมดลูกฉ้าน–!」

 

 

ผมให้พัตตากลับใจด้วยเจี๊ยวและอสุจิของผมและเจอคนที่ผมอยากเจอ

คนนั้นคือ…… คุณหญิงขนดกที่คุ้นเคย ผู้หญิงดวอร์ดที่ผมนอนด้วยในอดีต เธอติดต่อกับผมผ่านบัลบาโน่และอยากเจอผมไม่สำคัญว่าอะไร ดังนั้นผมรูัสึกจำเป็นต้องทำแม้ว่าค่อนข้างต่างจากความชอบของผม

เมื่อผมมาถึง เธอกำลังอุ้มเด็ก แม้ว่าเธอยิ้มอย่างอ่อนโยนและกระโดดเข้าอกผมด้วยร่างกายขนดก

ขนร่างกายเธอยิ่งดกกว่าก่อนหน้า

เพิ่มเติมจากนั้น หน้ามีหนวดของเธอทำให้ผมสงสัยว่าเธอเป็นผู้หญิงจริงๆไหม ผมจำเป็นต้องตรวจหว่างขาสองหรือสามครั้งเพื่อให้แน่ใจ

เธอมีแขนขาสั้นและตัวหนา และขณะผมรู้สึกถึงความกร้านจากผมของเธอจากการกอดเธอ ผมเทน้ำเชื้อไปในผู้หญิงคนที่สองของวัน

 

 

วันต่อมา

「เอเกอร์ซามะ…… มีข่าวลือเกี่ยวกับท่าน」

「ข่าวลือแบบไหน? ซีเลีย หน้าหนูเนียนจริงๆ หนูก็ไม่มีหนวดด้วย」

「ทำไมหนวดจะขึ้นหน้าหนูล่ะ!? ……ข่าวลือว่าท่านซั่มผู้หญิงในซอยเปลี่ยว」

「นั่นทำงาน ในฐานะลอร์ดศักดินา พี่ปกป้องความสงบสุขในลินต์บลูมและดัดนิสัยผู้หญิงที่เลือกเดินทางผิด」

「ผู้หญิงคนนั้นนั่งหน้าคฤหาสน์ตั้งแต่เช้าตรู่ เธอพูดอะไรเหมือน “หนูอยากให้เขาโอบกอดหนูอีกครั้ง” “หนูไม่ถือแม้เป็นทาสเซ็กส์”」

ผมลงโทษเธอแต่ตอนนี้เธอติดพันผมหรือ? ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์นั้นเป็นอะไรที่ลึกลับ

แต่ตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้จะหยุดล้วงกระเป๋าแล้ว

เธอเป็นการซั่มที่ดี ดังนั้นผมจะลุยอีกยกก่อนผมจากไป บางทีอ่อนโยนกว่าครั้งนี้

เธอไม่ขนดกด้วยเหมือนกัน

「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์์ ดูเหมือนคุณไม่มีเวลาจะมามีอารมณ์」

「……ต้องการอะไร ลีโอโพลต์?」

ผมไม่ได้พูดอะไรสักอย่าง กระนั้นเขารู้ว่าผมกำลังคิดอะไร

「ข่าวมาจากราเฟน ชาติอื่น…… ชาติประชาธิปไตยลิบาติสส่งผู้ส่งสาส์นมา พวกเขาอยากให้เรามุ่งหน้ากลับไปเร็วที่สุดทันทีเมื่อเราเสร็จธุระของเราที่นี่」

「หลังจากงานเลี้ยงเต้นรำ มันยุ่งที่นี่…… โอ้อืม ฉันว่าฉันจะกลับบ้าน」

「ผมจะทำการเตรียมการทันที」

ลินต์บลูมไม่ใช่ที่ซึ่งอยู่นานๆตั้งแต่แรก

ไม่มีห้องน้ำที่นี่ดังนั้นมันจะยากสำหรับผมที่จะโอบกอดบางคนและปกคลุมไปด้วยน้ำหวาน

ซีเลียและลีอาห์จะกลับไปกับผมระหว่างปีปี้จะกลับสู่ชาติภูเขาที่เธอไม่ได้ไปสักพัก

ผมจะส่งรางวัลความภักดีและขอให้เธอมอบการฝากทักทายจากผม

「เราจะกลับทันทีเมื่อการเตรียมการเสร็จ……」

ดวงตาของผมสบกับดวงตาแฉะของพัตตา ผู้กำลังนั่งที่ทางเข้า

เมื่อเธอพบบผม เธอขอร้องอย่างสิ้นหวังให้ผมเสพสมกับเธอด้วย

เธอตกหลุมรักขนาดนี่แค่จากการที่เธอถูกกระทำชำเราเสียๆหายๆคืนเดียว…… ช่างมหัศจรรย์

บางทีผมจะให้ความบันเทิงเธอจนกว่าเราต้องไป

เมื่อผมแก้หน้ากางเกงและเรียกเธอให้เข้ามา สาววิ่งมาพร้อมรอยยื้มใหญ่บนหน้าของเธอ

แน่นอน เธอไม่มีหนวดด้วยเหมือนกัน

 

 

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 23 ปี ฤดูใบไม้ร่วง

สถานะ: มาร์เกรฟอาณาจักรโกลโดเนีย ลอร์ดศักดินาผู้ยิ่งใหญ่ของบริเวณตะวันออก ราชาแห่งภูเขา เพื่อนของดวอร์ฟ เพื่อนของราชาแห่งอเลส

พลเมือง: 162,000  เมืองหลัก – ราเฟน: 24,000 ลินต์บลูม: 4000

กองทัพ: 5500 คน

ทหารราบ: 3000, ทหารม้า: 1000, พลธนู: 1000, ทหารม้าธนู: 500

ปืนใหญ่: 19, ปืนใหญ่มาก: 10, ปืนใหญ่สุด: 1 (เป็นไปไม่ได้ที่จะเคลื่อนไหวจากลินต์บลูม)

สำรอง: 3000

หน่วยรักษาความปลอดภัย: 100

สินทรัพย์ 9100 ทองคู่นอน: 214, เด็กผู้เกิดแล้ว: 48

 

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

ถนนสู่อาณาจักร

ถนนสู่อาณาจักร

Status: Ongoing
นี่เป็นเรื่องราวของนักสู้ทาสอายุน้อย ในสังเวียนใต้ดิน เขาไม่รู้เกี่ยวกับอดีตของเขา หรือเขาไปอยู่ที่ที่เขาอยู่ได้ยังไง, มีเพียงว่าชื่อเขาคือ เอเกอร์, และเขาแข็งแกร่ง วันหนึ่งเขาฆ่านายและหนีไปจากสังเวียน, เข้าร่วมกลุ่มของทหารรับจ้างในฐานะสมาชิกใหม่ ระหว่างภารกิจของเขา เขาได้พบกับแวมไพร์, ลูซี่, ผู้ที่สังหารหมู่กลุ่มของเขา ด้วยพลังเหนือมนุษย์ หลังจากที่ได้เรียนรู้ว่า เอเกอร์ รู้จักแต่การฆ่าเท่านั้น, ลูซี่ ให้เขาอยู่ที่บ้านของเธอ, สอนเขา และดูแลเขา สองปีผ่านไป, และในวันจากลาของเอเกอร์, พวกเขาสองคนแลกเปลี่ยนสัญญา ถ้าเอเกอร์เป็นราชา และปกครองแผ่นดินของป่าเอิร์ก, เขาสามารถมาเพื่อพาเธอไปในฐานะผู้หญิงของเขาได้ ทำสิ่งนั่นให้เป็นเป้าหมายในชีวิต, เอเกอร์ออกเดินทางเพื่อเป็นฮี่โร่, ราชา, และสร้างอาณาจักรของเขาเอง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท