สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 811 สมกับที่เป็นลูกสาวนาง

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 811 สมกับที่เป็นลูกสาวนาง

บทที่ 811 สมกับที่เป็นลูกสาวนาง

เมื่อลู่จื่ออวิ๋นตื่นขึ้นมาก็รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก

ทันทีที่นางลืมตาก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ที่นี่เป็นถ้ำแห่งหนึ่ง ไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากเตียงหินหนึ่งหลังกับโต๊ะหนึ่งตัว บนโต๊ะนั้นมีกาน้ำและเทียนตั้งอยู่ อย่างอื่นล้วนไม่มี

ทางออกเล่า?

เหตุใดถ้ำนี้ไม่มีทางออก?

ไม่ มิได้ไม่มีทางออก เพียงแต่มีกลไก

ลู่จื่ออวิ๋นลุกขึ้นจากเตียงอย่างยากลำบาก ทว่ายาในร่างกายนางบอกว่าตอนนี้นางไม่อาจขยับตัวได้แล้ว นับประสาอะไรกับจะออกไปจากที่นี่

บนร่างนางยังคงสวมใส่เสื้อผ้าหรูหรา ปิ่นระย้าทองบนศีรษะไม่ได้หายไป ผู้ที่จับนางมาไม่ได้ต้องการเงิน มิเช่นนั้น บนร่างนางมีเพชรนิลจินดามากมายเพียงนี้ ย่อมไม่มีทางที่จะไม่หายไปแม้แต่ชิ้นเดียว

นางนอนลงไปตามเดิม

“นางหลับไปอีกแล้วหรือ?”

ภายในห้องลับห้องหนึ่ง ชายที่กำลังตัดแต่งกิ่งดอกไม้ได้ยินสิ่งที่ลูกน้องมารายงานก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

“ขอรับ”

“น่าสนใจ” ชายผู้นั้นยิ้มเยาะ “ไม่เสียแรงที่เป็นบุตรสาวลู่อี้ กล้าหาญทีเดียว”

สตรีที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยอย่างไม่พอใจ “เหตุใดไม่ฆ่านางเสีย?”

“ฆ่านาง? เจ้ารู้ความสำคัญของนางหรือไม่?” ชายผู้นั้นถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าซีดเซียวใบหน้าหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม หากมู่ซืออวี่เห็นหน้าเขา ย่อมรู้จักอย่างแน่นอน คนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นเซียวหลี อดีตแม่ทัพที่ปราชัยให้แก่นาง

“ลู่อี้กับมู่ซืออวี่ทำลายแผนการใหญ่ของเรา บัดนี้ลูกสาวของพวกมันอยู่ในกำมือเราแล้ว เหตุใดไม่ฆ่านางเสีย?”

“คิดจะฆ่านางยังไม่ง่ายดายรึ ก็แค่สะบัดมือเท่านั้น เพียงแต่พวกเจ้าไม่อยากเห็นลู่อี้กับมู่ซืออวี่เป็นบ้าหรือไร? บุตรสาวผู้นี้ของนาง ความงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วใต้หล้า หากทุกคนได้รู้ว่านางเป็นบุปผาที่ถูกเหยียบย่ำ เจ้าว่าพวกมันสองสามีภรรยาจะเอาหน้าไปวางไว้ที่ใด?”

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็…”

“ไม่ มาเล่นเกมกันก่อนเถอะ” เซียวหลีเอ่ย “ข้าอยากรู้นักว่า คราวนี้มู่ซืออวี่จะช่วยลูกสาวของนางอย่างไร”

ในห้องลับไม่เพียงมีเซียวหลีและสตรีสวมหน้ากากผู้หนึ่งเท่านั้น ทว่ายังมีคนที่คุ้นเคยอีกหลายคน หนึ่งในนั้นคือ จ้าวจื่อโม่หรือก็คือคุณชายโม่ผู้ที่เคยถูกบีบให้หลบหนีผู้นั้น ส่วนคนอื่น ๆ แต่ละคนล้วนมีความแค้นต่อมู่ซืออวี่และสามีของนาง

“นายท่าน ฟ่านเหยี่ยนติดต่อกับอาณาจักรเหลียงแล้ว อีกไม่นานชายแดนจะเกิดความโกลาหล”

“เกรงว่าอาณาจักรเหลียงเพียงอาณาจักรเดียวจะสั่นคลอนพวกเขาไม่ได้”

“พวกเราทำข้อตกลงกับราชวงศ์อาณาจักรใกล้เคียงอื่น ๆ แล้วไม่ใช่หรือ? ถึงตอนนั้นหากยกทัพมาพร้อมกัน บดขยี้ที่นี่ให้เป็นชิ้น ๆ มู่ซืออวี่เป็นต้นไม้เงิน กิจการทั้งหมดของนางกำลังผลิดอกออกผล ตอนนี้อาณาจักรอื่น ๆ ล้วนอิจฉา!”

“ดังนั้น สิ่งที่มีค่าที่สุดไม่ใช่เมืองเหล่านี้ หากแต่เป็นฮูหยินลู่ตัวเป็น ๆ” เซียวหลีเอ่ย “จดหมายส่งไปแล้วหรือยัง?”

มู่ซืออวี่อ่านจดหมายในมือนาง

ในจดหมายเขียนไว้ว่า ‘ลูกสาวเจ้าอยู่ในกำมือข้า หากต้องการช่วยเหลือนาง ให้มาเพียงลำพัง…’ อะไรทำนองนี้

“จากจดหมายนี้พวกท่านบอกอะไรได้บ้าง” มู่ซืออวี่ยื่นจดหมายให้กับลู่อี้และคนอื่น ๆ

ลู่อี้ดูแล้วก็ส่งต่อให้เซี่ยคุน เซี่ยคุนดูแล้วก็ส่งต่อให้ฉีเซียว ฉีเซียวดูแล้วก็ส่งต่อให้ลู่เซวียนกับลู่ฉาวอวี่

ลู่จื่ออวิ๋นหายตัวไป สกุลลู่ใกล้จะหมดความอดทนแล้ว

“ที่อยู่บนนั้นต้องเป็นของปลอม” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “หากท่านไปที่นั่นจะไม่พบอะไรเลย”

“เมื่อครู่ผู้ใดรับจดหมายนี้มา?” ลู่อี้เอ่ยถาม

“เรียนท่านอัครมหาเสนาบดี เป็นข้าน้อยขอรับ” พ่อบ้านกล่าว “คนผู้นั้นเดิมต้องการฝากจดหมายไว้กับยามเฝ้าประตู เพียงแต่ยามเฝ้าประตูไม่กล้าตัดสินใจจึงให้คนผู้นั้นรอแล้วเรียกข้าน้อยออกไป ข้าน้อยสังเกตคนผู้นั้นอย่างถี่ถ้วน พบว่าเป็นเพียงเด็กรับใช้ทั่วไป ถึงแม้ข้าน้อยจะจดจำเขาได้ ก็เกรงว่าจะหาตัวเขาออกมาไม่พบ เพียงแต่ข้าสังเกตเห็นว่ารองเท้าของเขามีโคลนเปียกติดอยู่ โคลนเปียกนั้นเต็มไปด้วยหินกรวด นอกจากนี้ที่ขอบรองเท้ายังมีกลีบดอกเฟื่องฟ้าติดอยู่ด้วยขอรับ”

“โคลนเปียก หินกรวด กลีบดอกเฟื่องฟ้า…” ฉีเซียวพึมพำ “ข้าอยู่ในเมืองหลวงทำงานมาหลายปีเพียงนี้ มีที่ใดไม่เคยไปบ้าง? มีที่หนึ่งที่มีทั้งสามสิ่งอยู่ในที่เดียว นั่นคือเขาหวงอู๋….”

“เขาหวงอู๋อยู่ใกล้ ๆ กับที่อยู่ที่เขียนไว้ในจดหมาย” เซี่ยคุนเอ่ย “หรือว่าพวกมันพาคนไปซ่อนไว้ที่นั่น?”

“ข้าจะไปตามที่อยู่ที่เขียนไว้ในจดหมายก่อน” มู่ซืออวี่เอ่ย “ถึงแม้พวกมันจะไม่อยู่ แต่จะต้องส่งคนไปเฝ้าที่นั่นอย่างแน่นอน หากพวกมันอยากชักนำข้าไปที่นั่นย่อมดีใจที่ได้เห็นข้า เพื่อปั่นหัวข้าแล้วพวกมันย่อมต้องติดต่อข้ามา นี่เป็นวิธีล่อเสือออกจากถ้ำ”

“พวกเราเร่งมือกันเถอะขอรับ” ลู่ฉาวอวี่เอ่ย “เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ตกอยู่ในเงื้อมมือโจร ไม่รู้ว่าจะหวาดกลัวเพียงใด”ไอรีนโนเวล

โจรส่งจดหมายมาให้มู่ซืออวี่ เห็นได้ชัดว่ามีความแค้นเก่ากับนาง

มู่ซืออวี่ใคร่ครวญดูก็รู้ว่าผู้ที่ทุ่มเทเพื่อระบายความโกรธถึงเพียงนี้ นอกจากหัวหน้ากบฏที่หลบหนีไปในตอนนั้นก็ไม่มีผู้ใดอีกแล้ว

คนผู้นั้นเกลียดนางมาก เพื่อระบายโทสะ เขาจะต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อทรมานนาง บัดนี้ลูกสาวของนางตกอยู่ในมือของอีกฝ่าย อีกฝ่ายจะต้องใช้เสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์เป็นหมากเพื่อควบคุมนางอย่างแน่นอน

หวังแค่เพียงอาวุธลับและยาพิษที่ซ่อนอยู่บนตัวเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์พวกนั้นจะช่วยถ่วงเวลาไว้ได้

ไม่ผิด! กำไลบนข้อมือเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์ รองเท้าที่นางสวม เครื่องประดับบนผม และต่างหูของนางล้วนมีอาวุธหรือไม่ก็ยาพิษซ่อนอยู่

ยาพิษบางชนิดเพียงสัมผัสเล็กน้อยก็ฆ่าคนได้ อาวุธลับก็อาบยาพิษเช่นกัน ขอเพียงแค่ถูกยิงก็ตายได้ง่าย ๆ

“นางไปแล้วจริง ๆ หรือ?” เซียวหลีได้ยินลูกน้องมารายงานก็แสยะยิ้มออกมา “ถึงแม้นางจะฉลาด แล้วอย่างไร ถึงกระนั้นยังมีจุดอ่อนอยู่ไม่ใช่หรือ พวกเจ้าจัดการอย่างนี้…”

มู่ซืออวี่มายังสถานที่ที่โจรลักพาตัวเหล่านั้นบอก เป็นดังที่พวกเขาคาด ไม่เห็นแม้แต่เงาของเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์

ทว่าในตอนนี้เอง เด็กรับใช้ของโจรผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวออกมา มอบจดหมายให้มู่ซืออวี่อีกฉบับ

มู่ซืออวี่อ่านเนื้อหาในจดหมาย สีหน้าไม่น่าดูเท่าใดนัก

“บอกเจ้านายของเจ้าว่า ข้าอยากต่อรองกับเขา คนที่เขาเกลียดก็คือข้า ข้ายินดีแลกตัวเองกับลูกสาว”

ลูกน้องนำคำพูดมาถ่ายทอดให้เซียวหลีฟัง

“สตรีนางนั้นเจ้าเล่ห์เพทุบายยิ่งนัก” สตรีสวมหน้ากากเอ่ยขึ้น “นางคิดจะล่อลวงนายท่านออกไป”

ในตอนนี้เอง ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามา “นายท่าน แม่นางน้อยผู้นั้นหนีไปแล้วขอรับ”

เซียวหลีลุกขึ้นโดยพลัน สีหน้าไม่น่าดูชม “เหตุใดจึงหนีไปได้?!”

“เจ้านายบอกว่าไม่อาจให้นางอดตายได้ ต้องส่งอาหารให้วันละสามมื้อตามปกติ เมื่อครู่นี้เพิ่งมีคนส่งอาหารเข้าไป ไม่นานก็ออกมา เดิมทีพวกเราไม่ได้คิดอะไร ครั้นเห็นว่าประตูปิดไม่สนิท จึงจะไปปิดมัน กลับเห็นคนส่งอาหารนอนตายอยู่ในถ้ำขอรับ”

“จะบอกว่านางใช้ตัวตนคนส่งอาหารออกมา อีกทั้งยังหนีไปนานแล้วหรือ?” เซียวหลีเอ่ยเสียงเย็น “พวกเจ้าแม้กระทั่งรูปร่างแม่นางน้อยผู้หนึ่งยังมองไม่ออกรึ? ตอนนี้มัวรีรออะไรอยู่เล่า?! ไปค้นหาซะ…”

“นางถูกวางยา กล่าวกันตามหลักแล้วคงเดินไปได้ไม่ไกล” สตรีสวมหน้ากากเอ่ย “ข้าก็จะไปหานางเช่นกัน จะต้องจับนางกลับมาให้ได้อย่างแน่นอน”

“ตอนนั้นมู่ซืออวี่ก็พ้นเงื้อมมือข้าไปได้ นึกไม่ถึงว่าวันนี้ลูกสาวนางจะหนีไปได้อีก สมกับเป็นแม่ลูกกันจริง ๆ ลู่จื่ออวิ๋นก็ฉลาดอยู่บ้าง!”

————————

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท