บทที่ 815 โจรกบฏถูกจับ
บทที่ 815 โจรกบฏถูกจับ
จวนลู่ มู่ซืออวี่ยืนอยู่ข้างเตียง นางเอ่ยถามท่านหมอที่กำลังตรวจชีพจร “ลูกสาวข้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”
ท่านหมอตอบ “โชคดีที่คุณหนูร่างกายแข็งแรง หากเป็นคนธรรมดาแช่น้ำเย็นเช่นนี้ ร่างกายคงย่ำแย่ไปนานแล้ว”
“เช่นนั้นนาง…”
“คุณหนูไม่เป็นอะไรมาก ทว่านางต้องพักฟื้นสักระยะ อย่างไรเสียอยู่ในอากาศหนาวเย็นขนาดนั้น แม้ร่างกายจะแข็งแรงก็ไม่อาจทนรับความทรมานได้”
“เช่นนั้นท่านก็เขียนเทียบยาเถิดเจ้าค่ะ!”
“ได้”
ลู่จื่อชิงและลู่ฉาวจิ่งคอยอยู่ข้าง ๆ
“ท่านแม่ มีคนรังแกพี่หญิงหรือเจ้าคะ?” ลู่จื่อชิงเอ่ยถาม
มู่ซืออวี่ลูบหัวของลู่จื่อชิง “ในโลกนี้มีคนเลวร้ายมากมาย แม่ไม่ได้ปกป้องพี่หญิงเจ้าให้ดีทำให้นางถูกคนเลวรังแก แต่แม่สัญญา ภายหน้าจะปกป้องพวกเจ้าด้วยความระมัดระวังให้มากยิ่งกว่านี้ ไม่ให้พวกเจ้าถูกคนรังแกได้”
“ท่านแม่ ข้าไม่ต้องการให้ท่านปกป้อง ข้าจะจะปกป้องตนเอง” ลู่จื่อชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ขอเพียงข้าเก่งกล้ามากพอ นั่นจึงจะไม่ถูกคนรังแก”
“อายุยังน้อย เหตุใดทำตัวราวกับผู้ใหญ่เช่นนี้หืม?” มู่ซืออวี่ส่งรอยยิ้มจาง ๆ ให้นาง
ลู่ฉาวจิ่งแตะลงบนคิ้วของมู่ซืออวี่เอ่ยเสียงหวานเจื้อยแจ้ว “ท่านแม่ไม่ต้องกังวล พี่หญิงไม่เป็นไร ข้าจะดูแลพี่หญิงให้ดีเอง ให้พี่หญิงพักนิดหน่อยนางก็ดีขึ้นแล้ว เช่นนี้ท่านแม่ก็จะสบายใจอย่างเมื่อก่อน”
“เด็กดี”
“ฮูหยิน คุณหนูกลับมาได้อย่างปลอดภัย นับว่าสวรรค์คุ้มครองแล้ว ท่านอย่ากังวลไปเลยนะเจ้าคะ” ซางจือนำอาหารเข้ามา “ทานอะไรหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ท่านไม่ได้ทานอะไรนานแล้วนะเจ้าคะ”
“ตอนนี้ข้ากินไม่ลง” มู่ซืออวี่เอ่ย “เจ้าได้ยินเสียงหรือไม่ เสียงนั้นมาจากในวังหลวง ข้าจะกินลงได้อย่างไร?”
ขณะที่มู่ซืออวี่เฝ้าลู่จื่ออวิ๋น นางก็ต้องปลอบลูกทั้งสองคนไปด้วย
นางดูลู่จื่ออวิ๋นกินยาต้ม จากนั้นจึงให้บ่าวรับใช้ยกโจ๊กผักมาแล้วป้อนให้คนป่วยทานเพื่อรองท้องสักหน่อย
ท่านหมอไม่ได้บอกว่าเสี่ยวอวิ๋นเอ๋อร์จะฟื้นขึ้นมาเมื่อใด เพียงกล่าวว่าร่างกายไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรมาก ถึงแม้นางจะหมดสติไปก็ไม่นานนัก
“ฮูหยิน สถานการณ์ในวังยังไม่สงบเจ้าค่ะ”
“คอยสังเกตการณ์พวกเขา หากมีอะไรไม่ถูกต้องให้รีบบอกข้าทันที”
“ฮูหยิน ครั้งก่อนฝ่าบาทให้ท่านไปจัดวางกลไกหรือเจ้าคะ?”
“วังหลวงเป็นที่ใดกัน? ข้าจะไปจัดวางกลไกลสุ่มสี่สุ่มห้าได้หรือ? ฝ่าบาทตั้งใจจะทำเช่นนั้น เพียงแต่ข้าปฏิเสธข้อเสนอของพระองค์ไปและวางกลไกในพระตำหนักที่พระองค์มักจะตรวจฎีกาอยู่ที่นั่นเท่านั้น”
“หากรู้ก่อนมิสู้วางกลไกไปเสีย ป่านนี้โจรกบฏพวกนั้นคงถูกจับไปนานแล้ว”
“สามีข้าตามตรวจสอบพวกมันมาหลายปี ตามจับคนไปทุกหนทุกแห่ง กล่าวกันตามหลักก็นับว่ารู้จักพวกมันมาไม่น้อย คิดว่าคราวนี้คงจัดการให้สิ้นซากได้”
ลู่อี้เข้าใจศัตรูคู่อาฆาตพวกนี้หรือไม่?
แน่นอนว่าเข้าใจ
เขาไม่เพียงแต่สืบพบความเป็นมาของเซียวหลีเท่านั้น แต่ยังรู้ด้วยว่าเหตุใดบนร่างกายพวกเขาล้วนสักลายเสือดาว
เสือดาวเป็นสัตว์ประจำอาณาจักรเหลียง เหตุที่เซียวหลีเลือกเสือดาวเป็นสัญลักษณ์ นั่นเป็นเพราะเขามีสายเลือดของอาณาจักรเหลียงไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่ง
กล่าวไปแล้วเซียวหลีผู้นี้ก็นับได้ว่าเป็นเชื้อพระวงศ์เช่นกัน
เพียงแต่ราชวงศ์ของเขาไม่ใช่ราชวงศ์ของฟ่านหยวนซี หากแต่เป็นราชวงศ์ก่อนหน้า
เซียวหลีสานต่อเจตนารมณ์ที่ไม่อาจสำเร็จลุล่วงของบิดา เขาต้องการล้มล้างราชสำนักในตอนนี้ เพื่อนำใต้หล้าของตนกลับคืนมา เบี้ยของเขาสั่งสมมาหลายชั่วอายุคน ก่อนหน้านี้ทุกอย่างยังราบรื่นดี กระทั่งได้พบกับสกุลลู่ เขาพบอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากนั้นก็ประหนึ่งสุนัขที่กำลังจะจมน้ำ*[1] เขาถูกคนของลู่อี้ไล่ล่าไปทุกหนทุกแห่ง
เซียวหลีคนนี้ก็พอมีความสามารถเช่นกัน ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถหาผู้มีพรสวรรค์เฉพาะตัวมากมายเพียงนี้มาได้ ทั้งในมือยังมีพวกที่ทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าอีกกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม วันนี้ถึงคราวที่เขาต้องตื่นจากความฝันแล้ว
ผู้ใดให้เขารนหาที่ตายถึงนี่เล่า?
เซียวหลีมองคนของตนถูกควบคุม ส่วนเขากลับไร้กำลังจะตอบโต้ เขานั่งอยู่บนพื้น เงยหน้าที่อาบย้อมไปด้วยเลือดขึ้นมองลู่อี้ ผู้ชนะที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเยือกเย็น
“เจ้าอย่าได้โอหังไปหน่อยเลย ข้าตกอยู่ในมือพวกเจ้าแล้วหมายความว่าพวกเจ้าจะได้นั่งพักผ่อนสบายใจอย่างนั้นหรือ?” เซียวหลียิ้มเยาะ
“เจ้าเอ่ยถึงเซวียนอ๋องหรือ?” ฉีเซียวเอ่ย “เจ้าคงไม่คิดว่าเซวียนอ๋องจะเป็นไพ่ตายของเจ้าจริง ๆ กระมัง?”
“หากข้าเดาไม่ผิด ตอนนี้เซวียนอ๋องคงไปอาณาจักรเหลียงแล้ว” เซี่ยคุนเอ่ย “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าฮ่องเต้อาณาจักรเหลียงจะยอมเป็นศัตรูของเราเพื่อลูกเขยที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรผู้นี้หรือ?”
“ข้าวางแผนมานานกว่าสิบปี นับแต่ยังเยาว์ก็ติดตามท่านพ่อไปหาผู้มีพรสวรรค์ทั่วใต้หล้ามาใช้งาน ทว่าทันทีที่สกุลลู่ของพวกเจ้าปรากฏตัว ภรรยาผู้นั้นของเจ้าปรากฏตัว แผนแล้วแผนเล่าที่ข้าวางไว้ก็พังทลายลง หากไม่ใช่เพราะพวกเจ้า ตอนนี้ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ยังไม่แน่ว่าจะเป็นผู้ใด ข้าควรฆ่าพวกเจ้าไปเสียตั้งนานแล้ว…”
เซียวหลีถูกพาตัวออกไป
“ฝ่าบาทเล่า?” ฉีเซียวเอ่ยถาม
“อยู่ในห้องลับ วางใจเถอะ ทุกอย่างปลอดภัย”
“ใต้เท้า พวกเราหาพระนางฮองเฮาพบแล้วขอรับ” ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้หนึ่งพาซ่างกวนจิ่นซิ่วมา
ซ่างกวนจิ่นซิ่วเอ่ย “พวกมันหนึ่งคนแปลงโฉมเป็นข้า ผู้ที่อยู่ข้างกายฝ่าบาทเป็นตัวปลอม ตอนนี้จะทำอย่างไร? ฝ่าบาทจะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่?”
ลู่ฉาวอวี่ขมวดคิ้ว “เมื่อครู่นี้คนของข้าบอกว่าฝ่าบาทและฮองเฮาเข้าไปในห้องลับ หากฮองเฮาเป็นตัวปลอม ฝ่าบาทไม่ทันได้สังเกต เกรงว่าพระองค์กำลังตกอยู่ในอันตราย”
“เข้าไปในห้องลับแล้วตามหาคนประเดี๋ยวนี้”
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ทางเข้าห้องลับและลู่อี้ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนนั้น
เมื่อพวกเขานำคนเข้าไปในห้องลับก็เห็นเพียงฮ่องเต้นอนจมกองเลือดอยู่
ฟ่านหยวนซี
เขาถูกกระบี่แทงแล้ว
ฟ่านหยวนซียังคงมีสติหลงเหลืออยู่ เมื่อเห็นพวกเขาเข้าไปก็ยิ้มอย่างอ่อนแรง “ไล่ล่าเหยี่ยวมาทั้งวัน สุดท้ายดวงตาข้ากลับถูกเหยี่ยวแผดเผา คราวนี้… ข้าก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน”
“จะต้องไม่เป็นไรอย่างแน่นอน” ลู่อี้พยุงเขาขึ้นมา “หมอหลวง… รีบไปตามหมอหลวงเดี๋ยวนี้”
“เจ้าคนแอบอ้างผู้นั้นแสร้งทำได้คล้ายคลึงทีเดียว เพียงแต่เมื่อครู่ข้าไม่มีเวลาสนใจนาง ย่อมไม่ได้สังเกตว่านางมีปัญหาเป็นธรรมดา ต่อมาข้าพานางหนีออกจากห้องลับจึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทว่าข้าก็ยังตกหลุมพราง แต่นางก็ไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบ ข้าสังหารนางภายในกระบี่เดียว คมดาบข้ายังคมอยู่ใช่หรือไม่?”
“ฝ่าบาทกล่าวให้น้อยลงเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“เกรงว่าหากหยุดพูดแล้ว ข้าจะไม่มีโอกาสได้พูดอีก”
“ฝ่าบาทจะเป็นทหารหนีทัพหรือ? ตอนนั้นที่ข้าช่วยท่านเถลิงอำนาจ พวกเราตกลงกันแล้ว ขอเพียงท่านยังอยู่ในอำนาจหนึ่งวัน ข้าก็จะเป็นขุนนางที่มีอำนาจที่สุด หากท่านไปแล้ว เช่นนั้นเกียรติยศความมั่งคั่งของข้าไม่สูญสิ้นหรือ?”
“ท่านแม่เคยกล่าวว่านางมีความสัมพันธ์อันดีกับคนในหุบเขาเทพโอสถ บางทีคนในหุบเขาเทพโอสถอาจมอบโอสถชั้นเลิศให้นาง ข้าจะให้คนไปหาแม่ข้าประเดี๋ยวนี้!” ลู่ฉาวอวี่กล่าว
“รีบไป”
มู่ซืออวี่กำลังดีใจที่ลู่จื่ออวิ๋นฟื้นแล้ว หลังจากได้ยินเรื่องราวจากอีเจี้ยนที่รุดมาจากวังหลวง นางก็ให้ซางจือไปหยิบโอสถรักษาชีวิตที่ซ่อนไว้ก้นกล่องมามอบให้อีเจี้ยนทันที
“นี่เป็นของขวัญจากน้องสะใภ้ ใต้หล้านี้มีเพียงสองเม็ด เม็ดหนึ่งเป็นมรดกตกทอดของหุบเขาเทพโอสถ อีกหนึ่งเม็ดมอบให้ข้า น้องสะใภ้ของข้ากล่าวว่าตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ทานลงไปจะช่วยรักษาชีวิตไว้ได้”
“ขอบคุณฮูหยิน ข้าจะรุดกลับวังหลวงประเดี๋ยวนี้!” อีเจี้ยนรับยาแล้วหมุนกายจากไป
[1] สุนัขที่กำลังจะจมน้ำ หมายถึง คนเลวที่หมดอำนาจลงไป