สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 847 สิงเจียซือจากไปอีกครั้ง

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 847 สิงเจียซือจากไปอีกครั้ง

บทที่ 847 สิงเจียซือจากไปอีกครั้ง

เซี่ยคุนนำกองหนุนไปเสริมทัพที่ชายแดน

ราษฎรเรียงรายเป็นแถวรอส่งพวกเขาไป เช่นเดียวกับตอนที่มาส่งฟ่านหยวนซี

สำหรับทหารเหล่านี้ การสร้างคุณงามความชอบท่ามกลางช่วงเวลาแห่งความโกลาหลจะเปลี่ยนชะตาชีวิตของทั้งครอบครัว ขอเพียงพวกเขากลับมาอย่างมีชีวิตได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นจะต้องมีชีวิตกลับมาให้ได้เสียก่อน

ตราบใดที่รอดชีวิตกลับมาได้ อะไรล้วนมีทั้งสิ้น แต่หากไม่อาจมีชีวิตกลับมา นั่นหมายความว่าศพก็ไม่อาจกลับบ้านเกิด กลายเป็นเพียงหนึ่งในวิญญาณนักรบมากมายบนชายแดนเท่านั้น

อันอวี้อยู่ในโรงน้ำชา ยืนโบกมือไปทางเซี่ยคุน

เซี่ยคุนพยักหน้าให้นางแล้วนำทหารออกเดินทาง

อันอวี้เห็นอันอี้หางอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย

ดูเหมือนเขาจะกลับมาเป็นพี่ชายที่นางชื่นชมก่อนหน้านี้แล้ว ความหม่นหมองที่ปกคลุมทั่วทั้งกายเขาเลือนหายไป คนทั้งคนเปล่งรัศมีส่องประกายเจิดจรัส

นับตั้งแต่ยังเล็ก พี่ชายเป็นผู้ที่คอยปกป้องคุ้มครองนางมาโดยตลอด

ครั้นเติบใหญ่ขึ้นมา พี่ชายก็เป็นผู้ที่นางนับถือมากที่สุดเช่นกัน

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด พวกเขาพี่ชายน้องสาวถึงเริ่มเหินห่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งการนั่งทานข้าวพร้อมหน้ากันก็กลายเป็นเรื่องเกินจริง

นางรู้ดีว่าการตายของมารดาเป็นเหตุให้พวกเราพี่ชายน้องสาวต้องห่างไกลกัน พี่ชายรู้สึกผิดต่อนางมาโดยตลอด เรื่องเหล่านั้นที่มารดากระทำทำให้เขารู้สึกว่านี่เป็นบาปของตนเอง ถึงได้ไม่กล้าเผชิญหน้ากับนาง

อันที่จริงแล้ว อันอวี้ไม่เคยนึกตำหนิพี่ชายเลย

นางมีชีวิตที่มีความสุขและอยากให้พี่ชายมีความสุขเช่นกัน

มู่ซืออวี่เดินเข้ามามองไปยังกลางฝูงชน

นางสายตาดี มองเพียงปราดเดียวก็พบอันอี้หางอย่างรวดเร็ว

เห็นได้ชัดว่าอันอี้หางไม่ได้คาดหวังว่านางจะมาปรากฏตัว แววตาของเขาจึงปรากฏความประหลาดใจขึ้นมาแวบหนึ่ง

มู่ซืออวี่โบกมือให้เขา

แววตาของอันอี้หางสลับซับซ้อนไปด้วยม่านอารมณ์

นั่นเป็นสตรีที่เขาเคยตกหลุมรัก

ดูสิ นางสูงส่งราวกับจันทร์กระจ่างบนฟากฟ้า โชคดีที่เขาไม่กล้านึกหวัง ถึงได้ไม่ทำให้ตนดูน่าอับอายถึงเพียงนั้น

เขามองไปรอบ ๆ พยายามมองหาสตรีที่อยู่กับตนมานานหลายปี ทว่าโชคไม่ดีที่เขามองไม่เห็นนาง นางตั้งท้องหลายเดือนแล้ว โอกาสเช่นนี้ก็ไม่เหมาะให้นางมาส่งจริง ๆ

“พี่หญิงมู่ ท่านฉลาดเพียงนี้ ท่านว่าสถานการณ์ทางชายแดนอันตรายมากจริงหรือไม่? ฝ่าบาทหายตัวไปแล้วจริง ๆ หรือ?”

“สถานการณ์ทางชายแดนเป็นอย่างไร พวกเราที่อยู่ทางนี้ไม่อาจรู้ได้แน่ชัด รายงานการรบส่งมาอย่างเร่งด่วนจากแดนไกลถึงแปดร้อยลี้ ย่อมใช้เวลาหลายวันกว่าจะส่งมาถึง บางทีเมื่อรายงานส่งมาถึงเรา สถานการณ์ทางนั้นอาจไม่เหมือนเดิมแล้ว เพียงแต่ ข้าได้ยินว่ากองทัพหนุนของสามีเจ้าเตรียมการมานาน ไม่ได้เป็นการตัดสินใจอย่างเร่งด่วนเพราะการหายตัวไปของฝ่าบาทในยามนี้”

“หมายความว่าอย่างไร?”

“หมายความว่าแม้นไม่มีรายงานทางการรบฉบับนี้ก็ถึงเวลาที่สามีเจ้าต้องออกรบแล้ว”

“ข้าเข้าใจแล้ว นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้ล่วงหน้า”

“ไม่ผิด ดังนั้นไม่ต้องร้อนใจไป ข้าเชื่อว่าพวกเขาไม่สู้ในสนามรบที่ไร้ความมั่นใจอย่างแน่นอน ฝ่าบาทสำคัญเพียงนี้ ข้างกายย่อมต้องมีคนมากมายคอยปกป้อง คงไม่เกิดเรื่องกับเขาอย่างง่ายดายเป็นแน่ อีกทั้งสนามรบนั้นวุ่นวาย การไม่พบผู้ใดไปชั่วขณะย่อมเกิดขึ้นได้ ข่าวการหายตัวไปจึงไม่ค่อยแม่นยำนัก”

อาวุธลับของเผ่าอวิ๋นอิงพร้อมแล้ว สิงเจียซือจึงนำชาวเผ่าอวิ๋นอิงมาขอบคุณและกล่าวคำอำลา

มู่ซืออวี่ให้คำแนะนำกับสิงเจียซือ “เผ่าอวิ๋นอิงพึ่งกองกำลังจากภายนอกนั้นไม่เพียงพอ ในเมื่อสตรีที่นั่นแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีจำนวนมาก เหตุใดพวกเจ้าไม่ซื้อแรงงานแข็งแรงกลับไปแก้ไขปัญหาจำนวนประชากรเผ่าอวิ๋นอิงเล่า?”

“หากซื้อบุรุษนอกเผ่ากลับไป เกรงว่าจะควบคุมไม่ได้ง่าย ๆ เจ้าค่ะ” สิงเจียซือเอ่ย

สตรีเผ่าอวิ๋นอิงที่อยู่ข้าง ๆ นางพยักหน้า

“ครั้งนี้มีสกุลขุนนางหลายสกุลที่ถูกยึดทรัพย์ อีกทั้งสกุลพวกเขาก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ในจวนขุนนางเหล่านี้ไม่ขาดผู้คุ้มกันฝีมือดี แถมผู้คุ้มกันเหล่านี้ยังบริสุทธิ์ พวกเจ้าเลือกคนส่วนหนึ่งกลับไปแต่งงานกับสตรีเผ่าอวิ๋นอิงได้ เช่นนี้ไม่เพียงแต่พวกเขาจะมีทะเบียนบ้านของคนทั่วไปเท่านั้น ภายหน้าพวกเขายังไม่ต้องเป็นทาสเมื่อรอนแรมอยู่ในอาณาจักรฮุ่ย ทั้งยังสามารถสอบขุนนางได้รับยศถาบรรดาศักดิ์จากอาณาจักรได้อีกด้วย”

“จริงหรือ?”

“เหตุใดจะไม่จริงเล่า? ชาวอวิ๋นอิงก็เป็นคนของอาณาจักรฮุ่ยเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาอยู่ในที่ที่ห่างไกล ที่นั่นพวกเราอาจดูแลไม่ได้มากนัก ครานี้พวกเจ้ามาหาข้าได้ ข้าจึงได้ตัดสินใจแล้ว หากภายหน้ามีเรื่องอะไรก็ให้มาหาข้า”

“นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งจริง ๆ ผู้คุ้มกันเหล่านั้นถูกขายเป็นทาส ก่อนหน้านี้พวกเขาอยู่ที่บ้านเจ้านายทำเรื่องใดก็ตรวจสอบได้ง่าย หากเราซื้อบุรุษที่มีอุปนิสัยดี อีกทั้งยังมีความกระตือรือร้น ยินดีจะใช้ชีวิตธรรมดา ๆ ก็เหมาะกับสตรีเผ่าอวิ๋นอิงจริง ๆ” สิงเจียซือเอ่ย “ขอบคุณฮูหยินที่แนะนำ”

“ข้าเพียงรับผิดชอบในการออกความเห็นเท่านั้น รายละเอียดเรื่องนี้เจ้าต้องจัดการด้วยตนเอง สิ่งที่เจ้ากล่าวเมื่อครู่นี้ถูกต้องทีเดียว ในเมื่อจะหาคนมาแต่งงาน อุปนิสัยมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จะต้องมั่นใจว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเคยมีพฤติกรรมไม่ดีอะไรบ้าง นอกจากนั้นพวกเจ้ายังลงทะเบียนบุรุษที่พวกเจ้าต้องการพาไปกับทางการก่อนออกเดินทางได้ หากพวกเขาก่อเรื่องอะไร ย่อมไม่อาจหลบหนีประกาศจับจากทางการพ้น เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะหนีขึ้นป่าขึ้นเขา”

สิงเจียซือต้องจากไปแล้ว ย่อมต้องไปบอกลาลู่ฉาวอวี่ ทั้งสองคนนับว่าเป็นสหายกันแล้ว มิหนำซ้ำยังพูดคุยกันได้อย่างสบายใจยิ่งกว่ามู่ซืออวี่เสียอีก

ลู่ฉาวอวี่รู้ว่านางกำลังหาสามีให้สตรีเผ่าอวิ๋นอิงจึงเอ่ยปากแนะนำ “ข้ามีลูกน้องกลุ่มหนึ่ง พวกเขาลำบากตรากตำเพื่อสกุลลู่มามาก ต่อมาด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างจึงอยากมีชีวิตที่ธรรมดา หากแม่นางเผ่าอวิ๋นอิงยินดีก็สามารถลองคบหากับพวกเขา ดูว่าพอเข้าตาหรือไม่ แน่นอนว่าเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่ต้องเต็มใจทั้งสองฝ่าย ลูกน้องของข้าเหล่านั้นก็ต้องเต็มใจเช่นกัน”

“ในเมื่อเป็นลูกน้องสกุลลู่ แต่ละคนล้วนต้องเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน ใต้เท้ายินยอมจริง ๆ หรือ?”

“พวกเขาทำเพื่อสกุลลู่เรามามาก สมควรแก่เวลาพักผ่อนแล้ว แน่นอนว่าแม้พวกเขาบางคนจะได้รับบาดเจ็บมา ทว่าทักษะพวกเขาจัดว่าไม่เลว นอกจากนี้พวกเขายังมีเงินปลอบขวัญจากสกุลลู่เรา ความเป็นอยู่ย่อมไม่ย่ำแย่เกินไป”

สิงเจียซือถามความเห็นจากเผ่าอวิ๋นอิง จากนั้นจึงได้พบกับลูกน้องของลู่ฉาวอวี่

ลูกน้องเหล่านี้ไม่ได้บาดเจ็บทุกคน บางคนไม่ได้รับบาดเจ็บ เพียงแต่อยากมีชีวิตที่ธรรมดา สกุลลู่จึงปล่อยพวกเขาไป

สิงเจียซือรู้ว่าลูกน้องที่ไว้ใจได้ของสกุลใหญ่เหล่านี้ล้วนผ่านการใช้เงินมหาศาลเพื่อฝึกฝนมา ดังนั้นสกุลใหญ่เหล่านั้นล้วนกระตือรือร้นที่จะรีดเค้นประโยชน์จากพวกเขาออกมาให้ได้มากที่สุด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผู้ที่มีมนุษยธรรมอย่างสกุลลู่

เมื่อเทียบกับบุรุษที่ซื้อมาจากข้างนอก ลูกน้องสกุลลู่ย่อมดีกว่า

สิงเจียซือพาแม่นางเผ่าอวิ๋นอิงนับสิบคนมา ในนั้นมีห้าคนยังไม่ได้แต่งงาน ทั้งห้าคนนี้เพียงต้องเลือกสามีจากลูกน้องสกุลลู่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกตาต้องใจกันเข้าแล้วจริง ๆ

ก่อนที่สิงเจียซือจะพาพวกเขาจากไป สกุลลู่ได้จัดงานแต่งอย่างเรียบง่ายขึ้น ทั้งยังให้สัญญาว่าในเมื่อเผ่าอวิ๋นอิงแต่งงานกับสกุลลู่ของพวกเขาแล้ว ภายหน้าหากมีปัญหาก็สามารถมาหาสกุลลู่ได้ทุกเมื่อ

เผ่าอวิ๋นอิงได้รับการสนับสนุนจากสกุลที่มีอำนาจมากที่สุดในอาณาจักรฮุ่ย เรื่องนี้ทำให้พวกเขายินดีเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็ยิ่งซาบซึ้งใจและให้ความสำคัญกับสิงเจียซือมากขึ้น

“ลูกน้องของเจ้าไม่เพียงแต่ต้องการแต่งงานและใช้ชีวิตธรรมดา ๆ กระมัง?” มู่ซืออวี่เหลือบมองลู่ฉาวอวี่

“นอกจากเผ่าอวิ๋นอิงแล้ว บนทุ่งหญ้ายังมีชนเผ่าอื่นๆ อีกมากมาย ชนเผ่าเหล่านี้ก็เหมือนกับกองทรายที่กระจัดกระจาย หากรวมตัวกันย่อมกลายเป็นกองกำลังที่ทรงพลังอย่างแน่นอน แต่อันที่จริงพวกเขาก็ถึงเวลาต้องแต่งงานก่อร่างสร้างตัวด้วยเช่นกัน”

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท