สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย – บทที่ 872 ทันทีที่นางมาถึงก็กลายเป็นท่านยายแล้ว

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

บทที่ 872 ทันทีที่นางมาถึงก็กลายเป็นท่านยายแล้ว

บทที่ 872 ทันทีที่นางมาถึงก็กลายเป็นท่านยายแล้ว

มู่ซืออวี่และคนอื่น ๆ เร่งฝีเท้าตามซ่างกวนหมิงเสียและอู่อันอ๋องเข้าไปในวังโดยเร็ว

“เรื่องใหญ่เพียงนี้ เด็กคนนั้นกลับไม่เขียนจดหมายถึงเรา” มู่ซืออวี่บ่น “หากเรารู้เรื่องก่อนหน้านี้ คงมาถึงที่นี่เร็วกว่าเดิม ไม่ต้องรอจนป่านนี้”

“ราชสำนักของอาณาจักรฮุ่ยแทบจะวางอยู่บนไหล่ของผู้สำเร็จราชการแทน ท่านมีฐานะเป็นถึงพระชายาผู้สำเร็จราชการแทน ทั้งยังเป็นผู้นำด้านการค้า เรื่องมากมายล้วนต้องมีท่านคอยจัดการ นางไม่อยากให้ท่านเป็นกังวลจึงปิดบังเรื่องนี้ วันนั้นนางกล่าวไว้แล้วว่า หากเฉิงจิ่นกลับมา นางจะกลับไปอาณาจักรฮุ่ย พาลูกของพวกเขาไปให้พวกท่านดู”

“ไม่จำเป็นต้องให้นางพากลับไป ข้ามีขาของตนเอง อยากมาก็มาได้ทุกเมื่อ” มู่ซืออวี่รุดไปถึงหน้าพระตำหนักฮองเฮา พลันเอ่ยถามขึ้นมาอย่างเป็นกังวล “เหตุใดไม่มีเสียงแม้แต่น้อยเล่า?”

“คงกลัวว่าท่านเป็นห่วง เมื่อครู่นี้ข้ายังได้ยินเสียงจากข้างในอยู่เลย ทุกอย่างปกติดี” ซ่างกวนหมิงเสียกล่าว

“ชิงเอ๋อร์ เจ้ากับน้องชายรออยู่ข้างนอก แม่จะเข้าไปดู” มู่ซืออวี่เอ่ย “ซางจือ เจ้าไปนำน้ำมา ข้าจะล้างมือก่อนเข้าไป”

ก่อนที่ซางจือจะได้ขยับ ขันทีเล็กที่อยู่ข้าง ๆ ก็ลงมือจัดการแล้ว

ซางจือเปิดประตูออก มู่ซืออวี่จึงรีบเดินเข้าไป

ลู่จื่ออวิ๋นนอนอยู่บนเตียง ปากกัดผ้าเอาไว้ พยายามอดทนอย่างถึงที่สุด

เมื่อเห็นสภาพเช่นนั้นของลูกสาว หัวใจของมู่ซืออวี่พลันเจ็บแปลบขึ้นมา

นางนั่งลงบนขอบเตียง คว้ามือลู่จื่ออวิ๋นมากุมเอาไว้

ลู่จื่ออวิ๋นจ้องมองมารดา ดวงตาของนางแดงก่ำ

มู่ซืออวี่หยิบผ้าออกจากปากของลูกสาวแล้วดุเสียงแผ่ว “เด็กโง่ การคลอดบุตรเจ็บปวดมาก ไยเจ้าต้องอดกลั้นเอาไว้ แม่อยู่นี่แล้ว แม่จะอยู่กับเจ้า เจ้าจะไม่เป็นไร”

“ท่านแม่” ลู่จื่ออวิ๋นบีบมือมู่ซืออวี่แน่น “ท่านมาที่นี่ได้ ดียิ่งนัก”

ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ลู่จื่ออวิ๋นได้พบกับคนที่นางอยากพบมากที่สุด แม้กระทั่งความเสียใจที่ซ่อนอยู่ข้างในก็เลือนหายไปแล้ว

“พี่หญิง พวกเราก็มาแล้วเช่นกัน ท่านแม่บอกว่าเรายังเล็ก ไม่ยอมให้เราเข้าไป” ลู่จื่อชิงตะโกนเข้ามาจากข้างนอก “ท่านคลอดดี ๆ เล่า คลอดออกมาให้ข้าดู จะได้รู้ว่าที่แท้เป็นเขาน่าเกลียดหรือว่าข้าน่าเกลียดกว่ากัน”

ลู่จื่ออวิ๋นนึกขันขึ้นมา

“เสี่ยวชิงเอ๋อร์ผู้นี้ นิสัยไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยเลยนะเจ้าคะ”

“ไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อยจริง ๆ มิหนำซ้ำยังหนักข้อขึ้นยิ่งกว่าเดิม” มู่ซืออวี่เอ่ย “รอเจ้าคลอดแล้ว จับตาดูนางให้ดี ๆ เถิด เจ้าจะได้รู้ว่าความสามารถในการทำลายล้างของน้องสาวมีมากเพียงใด”

ใบหน้าของลู่จื่ออวิ๋นบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด “โอ๊ย…”

ติงเซียงยกของกินเข้ามา เมื่อนางเห็นทุกคนในสกุลลู่ ถ้วยในมือของนางเกือบหล่นลงแตกอยู่รอมร่อ

ทว่าเมื่อนึกถึงลู่จื่ออวิ๋นที่อยู่ข้างใน ติงเซียงก็ไม่มีเวลาพูดคุยกับนายน้อยสกุลลู่อีกต่อไป ทำได้เพียงยกของหวานเข้าไปเท่านั้น

“ฮูหยิน…” ติงเซียงคุกเข่าลงเมื่อเห็นมู่ซืออวี่

มู่ซืออวี่ยื่นมือออกไป “เอามาให้ข้าเถอะ”

นางป้อนของหวานให้ลู่จื่ออวิ๋นด้วยตนเอง

ขั้นตอนต่อจากนี้ มู่ซืออวี่อยู่เคียงข้างลู่จื่ออวิ๋น ทว่าพวกนางไม่ต้องรอนานเกินไปนัก เพียงครึ่งชั่วยามถัดมา การขยับตัวของเด็กก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดก็ออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องของลู่จื่ออวิ๋น

“อุแว้ อุแว้ อุแว้…”

เสียงร้องไห้ของเด็กแผดดังลั่นห้อง

ซ่างกวนหมิงเสียได้ยินเสียงนั้นก็ปลื้มปีติเป็นอย่างมาก “คลอดแล้ว คลอดแล้ว…”

ดียิ่งนัก!

ในที่สุดก็คลอดแล้ว

เมื่อสตรีให้กำเนิดบุตรก็เท่ากับเฉียดประตูผีไปหนึ่งก้าว โชคดีที่ลูกสะใภ้ไม่ได้ทำผิดบาปร้ายแรง จึงให้กำเนิดบุตรออกมาอย่างปลอดภัย รอเซี่ยเฉิงจิ่นกลับมา เขาย่อมต้องดีใจเป็นล้นพ้นอย่างแน่นอน

“ขอแสดงความยินดีกับองค์หญิงใหญ่และอู่อันอ๋อง พระนางฮองเฮาได้ให้กำเนิดองค์ชายน้อยออกมาอย่างปลอดภัยแล้วเพคะ”

“ฮองเฮาเป็นอย่างไรบ้าง?” อู่อันอ๋องเอ่ยถาม

“พระนางสภาพจิตใจดียิ่งเพคะ” หมอผดุงครรภ์เอ่ย “ท่านหมอหลวงตรวจอาการให้พระนางแล้ว เพียงพักผ่อนให้เพียงพอ จะต้องดีขึ้นในเร็ววันแน่นอนเพคะ”

ข้ารับใช้วังหลวงเร่งทำความสะอาดภายในพระตำหนัก

หลังจากกลิ่นเลือดข้างในไม่รุนแรงเท่าก่อนหน้านี้ ซ่างกวนหมิงเสียก็เข้าไปหาลู่จื่ออวิ๋น

ในตอนนี้เอง ลู่จื่ออวิ๋นได้จัดแจงร่างกายตนเองเรียบร้อยแล้วและกำลังนอนอยู่บนเตียง น้องชายและน้องสาวของนางที่มาจากแดนไกล รวมไปถึงซ่งหานจือที่มาพร้อมกับลู่จื่อชิงเองก็เข้ามาเยี่ยมนางพร้อมกัน

ฉินโม่ถงยืนเฝ้าอยู่นอกประตู

ยามนี้เขาเป็นเด็กรับใช้ของซ่งหานจือ สถานที่เช่นนี้ไม่ใช่ที่ที่เด็กรับใช้ผู้หนึ่งจะก้าวเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าได้

ฉินโม่ถงไม่เคยนึกฝันว่าผู้ที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แท้จริงแล้วเป็นครอบครัวของฮองเฮาอาณาจักรเฟิ่งหลิน ยิ่งไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะเป็นสกุลลู่ที่โด่งดัง สตรีสูงศักดิ์ผู้นั้นกลับกลายเป็นมู่ซืออวี่ แบบอย่างของสตรีทั่วหล้า

ลู่จื่อชิงมองเด็กน้อยในเปลนอนที่กำลังหลับปุ๋ย นางมองซ้ายทีขวาที มองตั้งแต่บนลงล่าง ยกมือขึ้นลูบคางตนแสดงสีหน้าว้าวุ่น

ยามนี้ลู่จื่ออวิ๋นเหนื่อยอ่อนยิ่ง ทว่าท้ายที่สุดเมื่อได้พบกับครอบครัวตนเอง นางก็อดใจไม่ยอมพักผ่อน ด้วยเกรงว่าหากหลับตาลง เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วจะพบว่าตนกำลังฝันไป แท้จริงแล้วครอบครัวนางอยู่ห่างออกไปไกลแสนไกลหลายพันลี้ในอาณาจักรฮุ่ย

“อวิ๋นเอ๋อร์ นอนเสียเถอะ แม่อยู่นี่ ไม่ไปไหนทั้งนั้น” มู่ซืออวี่ปัดผมของลู่จื่ออวิ๋นออกจากหน้าผากนาง

ลู่จื่ออวิ๋นรับคำเสียงเบา แล้วค่อย ๆ หลับตาลง

ไม่รู้ว่านานเพียงใด เมื่อลู่จื่ออวิ๋นตื่นขึ้นมา ฟ้าก็มืดแล้ว

มู่ซืออวี่พิงอยู่กับเตียง ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ

ทันทีที่ลู่จื่ออวิ๋นลืมตาขึ้นมา นางก็เห็นมารดาอยู่ข้าง ๆ หัวใจของนางพลันอบอุ่น สัมผัสได้ถึงความเป็นจริงขึ้นมาเล็กน้อย

ที่แท้มารดานางมาแล้วจริง ๆ

นางไม่ได้ฝันไป

ติงเซียงเดินเข้ามา “ฮองเฮา หิวแล้วกระมังเพคะ บ่าวให้คนไปนำเครื่องเสวยมาแล้ว”

“ชู่ว!” ลู่จื่ออวิ๋นส่งสัญญาณให้นางเงียบ

มู่ซืออวี่เป็นห่วงลู่จื่ออวิ๋นจนผล็อยหลับไปงีบหนึ่ง เมื่อได้ยินเสียงจึงตื่นขึ้นมา

“เป็นอะไรหรือ?”

“ท่านแม่ ทำให้ท่านตื่นแล้ว”

“ข้าก็หิวแล้วเช่นกัน” มู่ซืออวี่เอ่ย “เจ้าเพิ่งคลอดลูก ทานอะไรรองท้องเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าหน่อยเถิด อย่างไรเสียลูกน้อยก็ฝากไว้กับแม่นมแล้ว ตอนนี้ยังหลับอยู่ห้องข้าง ๆ”

เสียงของลู่จื่อชิงดังเข้ามาจากด้านนอก

มู่ซืออวี่ได้ยินเสียงจึงให้ติงเซียงออกไปดู

ติงเซียงพาลู่จื่อชิงเข้ามา

“พี่หญิง ข้าคำนวณดูแล้วว่าท่านต้องตื่นตอนนี้อย่างแน่นอน” ลู่จื่อชิงกล่าว

“พี่หญิงเจ้าเพิ่งคลอดลูก ร่างกายอ่อนแอ ต้องการพักผ่อนให้มาก ๆ” มู่ซืออวี่เอ่ย “เจ้าอยู่นิ่ง ๆ ไม่รบกวนนางไม่ได้หรือ?”

“ข้าเกรงว่าพี่หญิงจะเบื่อจึงมาอยู่เป็นเพื่อน” ลู่จื่อชิงกล่าว “นอกจากนี้ ข้ายังเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างมือแล้ว รับรองว่าข้าสะอาดแน่นอน ย่อมไม่นำ ‘แบคทีเรีย’ อะไรนั่นที่ท่านแม่ว่ามาทำร้ายพี่หญิงอย่างแน่นอน”

“ดี เจ้าว่าง่ายที่สุดแล้ว” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “เจ้าเพิ่งมา พี่หญิงไม่อาจไปเที่ยวเล่นกับเจ้าได้ ถือเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของตนเอง อยากเล่นอย่างไรก็เล่นอย่างนั้นเถิด”

มู่ซืออวี่คิดจะห้ามลู่จื่ออวิ๋นไม่ให้เอ่ยเช่นนั้นแต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว นางพูดออกไปเรียบร้อยแล้ว

“เจ้านี่นะ ไม่รู้จักความร้ายกาจของนางเอาเสียเลย” มู่ซืออวี่ส่ายหน้าเบา ๆ “อีกไม่กี่วัน เกรงว่าเจ้าแม้กระทั่งอยู่เดือนก็อยู่อย่างสงบไม่ได้แล้ว วัน ๆ คงได้ยินแต่ผู้คนในวังร้องเรียนนาง”

“ข้าจะเป็นคนเชื่อถือไม่ได้อย่างที่ท่านแม่กล่าวได้อย่างไรกัน?” ลู่จื่อชิงประท้วง “วางใจเถิด ข้าจะต้องเป็นเด็กดี ไม่ก่อเรื่องอย่างแน่นอน เพียงแต่พี่หญิง วังนี้ของท่านสกปรกเกินไปแล้วนะเจ้าคะ!”

“เหตุใดไม่สะอาดเล่า?” การจัดการคนในวังของลู่จื่ออวิ๋นไม่ได้เข้มงวดเพียงนั้น ทว่าก็ไม่ได้หละหลวมเช่นกัน จนกระทั่งถึงตอนนี้ยังไม่ได้ยินว่าในวังจัดการเรื่องใดผิดพลาดเลย

“เมื่อครู่นี้ข้าเห็นนกบินผ่าน นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้กินนกย่างนานแล้วจึงยิงมันตกลงมา นึกไม่ถึงว่าจะมีข้อความอยู่บนนั้น” ลู่จื่อชิงส่งกระดาษข้อความนั้นให้พี่สาว

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย

Status: Ongoing
ใครกล้าทำร้ายวายร้ายตัวน้อยทั้งสอง ภรรยาตัวร้ายอย่างข้าไม่ปล่อยไว้แน่

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท