ทันใดนั้นไป๋หลี่เจียเจวี๋ยก็หรี่ตาลง แล้วหิมะที่อยู่บนพื้นก็ค่อยๆ ลอยขึ้นในอากาศ เผยให้เห็นร่างของคนสองคนที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยยื่นมือออกไปดึงเฮ่อเหลียนเวยเวยเข้าสู่อ้อมแขนโดยไม่สนใจบุตรแห่งราชานรกแม้แต่นิดเดียว
เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่มาตามแขนขาระหว่างมองไปที่เขา แล้วจึงยิ้มออกมา ขนตาของนางยังมีน้ำแข็งติดอยู่ ”เมื่อครู่นี้บุตรแห่งราชานรกช่วยจับข้าเอาไว้ พวกเราก็เลยออกมาช้าไปหน่อย”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยไม่ตอบเฮ่อเหลียนเวยเวย แต่กลับหันไปบีบคอบุตรแห่งราชานรกแทน ”เจ้าเป็นคนที่ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศแล้วคว้าร่างนางไว้ตอนที่สุสานหลวงถล่มหรือ”
บุตรแห่งราชานรกสำลักออกมาอย่างแรง ”ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าตอนนั้นสุสานจะถล่มลงมา ตอนที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น ข้ากำลังให้สุนัขสองหัวตามกลิ่นของเจ้าอยู่ต่างหาก จะโทษข้าได้อย่างไร”
”เจ้าไปอยู่ที่ไหนก็มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นที่นั่น ท่านพ่อของเจ้ามัวแต่ทำอะไรอยู่ เขาควรตีสั่งสอน แล้วจับเจ้าขังไว้ในยมโลก ไม่ใช่ปล่อยให้เจ้าออกมาสร้างความเสียหายให้กับโลกมนุษย์” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยไม่พอใจที่เฮ่อเหลียนเวยเวยติดต่อกับคนของนรกมาแต่ไหนแต่ไร อย่างไรนางก็เป็นมนุษย์ นางจึงไม่ควรญาติดีต่อสิ่งมีชีวิตที่ทั้งสกปรกและเป็นอันตรายเช่นนี้
บุตรแห่งราชานรกรู้ว่าใครบางคนคงหงุดหงิดขึ้นมาอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงโบกมือแล้วเอ่ยว่า ”ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าตอบแทนเรื่องที่ข้าช่วยชีวิตนางเสียหน่อย เรามาคุยกันเรื่องที่เจ้าขัดคำสั่งสวรรค์เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองกันดีกว่า อีกอย่างหนึ่ง ข้ามาที่นี่ก็เพื่อภรรยาของเจ้า ไม่ใช่เจ้า ราชาปีศาจช่วยใจเย็นลงก่อนได้หรือไม่ เจ้าฆ่าปีศาจพวกนั้นจนเลือดอาบไปทั่วทุกที่ ข้ายังเป็นเด็ก ดังนั้นภาพที่เต็มไปด้วยเลือดและความรุนแรงเช่นนี้จึงไม่ดีต่อข้า ท่านพ่อของข้าให้ความสำคัญกับการอบรมสั่งสอนข้ามาโดยตลอด และไม่อนุญาตให้ข้าฆ่าคนบนโลกมนุษย์ ข้าเป็นเด็กดีเชื่อฟังเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นอย่าบังคับให้ข้าต้องสู้กับเจ้า พวกเราจะแพ้กันทั้งสองฝ่าย!”
”แพ้กันทั้งสองฝ่ายหรือ” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยยกเขาขึ้น ดวงตาของทั้งสองสบกัน ก่อนเขาจะเยาะขึ้นว่า ”เจ้าแน่ใจหรือ”
บุตรแห่งราชานรกกลืนน้ำลาย ก่อนตอบว่า ”ข้าเสนอให้เราเจรจาสงบศึกกันก่อน เจ้าไม่ควรลงไม้ลงมือกับเด็กที่อ่อนกว่าเจ้ามากถึงเพียงนี้ พี่ชาย”
ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยรู้สึกขยะแขยงกับคำพูดน่ารักนั้น เขารีบโยนเด็กชายทิ้งทันที
บุตรแห่งราชานรกเผลอกินหิมะเข้าไปเพราะติดอยู่ในกองหิมะ ขาสั้นๆ ของเขาปัดป่ายไปทั่วอากาศ จากนั้นจึงดึงตัวเองออกจากหิมะเหมือนดึงแคร์รอตออกจากพื้นดิน
แน่นอนว่าจูเก่ออวิ๋นคิดว่าจะได้เห็นการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง
หรืออย่างน้อยบุตรแห่งราชานรกก็ควรจะขึ้นเสียงใส่ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยสักครั้ง
ว่ากันว่าโอรสคนที่เจ็ดของราชาแห่งนรกเป็นเด็กชั่วร้ายและเจ้าอารมณ์ เขาสามารถทำให้วิญญาณนับร้อยตนร้องไห้ได้ด้วยการคำรามเพียงครั้งเดียว
คนอ่อนต่อโลกอย่างจูเก่ออวิ๋นนึกไม่ถึงเลยว่าสิ่งแรกที่บุตรแห่งราชานรกทำก็คือ.. ส่องกระจก!
”ข้ายังหล่ออยู่ เฮ้อ ผิวของข้าช่างขาวราวหิมะ ผมของข้าช่างดกดำ ดวงตาของข้าช่างเป็นประกายระยิบระยับ ฟันของข้าก็ช่างขาวสะอาดยิ่งนัก จะมีใครหล่อเหลาได้มากกว่าข้าอีกหรือ ข้าอยากถ่ายรูปตัวเองแล้วส่งไปให้เสี่ยวโกวทางวีแชตเพื่อคลายความเจ็บปวดจากโรครักของพวกเราเหลือเกิน” บุตรแห่งราชานรกประทับใจในความงามของตัวเอง จนลืมไปว่าเขาอยู่ในโลกสมัยโบราณไม่ใช่สมัยปัจจุบัน… รอข้าก่อนนะ เสี่ยวโกว!
มุมปากของจูเก่ออวิ๋นยังคงกระตุกไม่หยุดระหว่างที่รอว่าบุตรแห่งราชานรกจะพูดอะไรออกมาอีก
เด็กชายหายวับไปพร้อมกับเคียวสีดำขนาดใหญ่ในมือ ก่อนจะมาปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเฮ่อเหลียนเวยเวยในระยะเจ็ดชุ่น ”เจ้าต้องฟื้นความทรงจำทั้งหมดของตัวเองกลับมาเพื่อเกิดใหม่ท่ามกลางความทุกข์นั้น แล้วกลับมายังโลกมนุษย์พร้อมกับพลังธรรมะของตัวเอง มีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เจ้าสามารถปิดประตูระหว่างแดนปีศาจกับโลกมนุษย์ได้ ไม่อย่างนั้นทันทีที่ภพภูมิทั้งหกหายไป และเส้นทางแห่งการเกิดใหม่กลับตาลปัตร จะไม่มีใครรอดชีวิตไปได้อีก”
”ความทรงจำของข้าหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยหรี่ตาลงเล็กน้อย ”ความทรงจำจากตอนนั้น ชาติก่อนหรือ”
บุตรแห่งราชานรกส่ายหน้าพลางหลบตาผู้ขับไล่วิญญาณร้าย แม้เสียงของเขาจะยังเด็ก แต่มันก็ฟังดูขึงขังจริงจัง ”ไม่ใช่ความทรงจำจากชาติที่แล้วของเจ้า แต่เป็นความทรงจำจากสมัยที่เจ้าเป็นหนึ่งในบรรดาพระอรหันต์และอาศัยอยู่ที่ภูเขาซวีหมี”
”เป็นหนึ่งในบรรดาพระอรหันต์หรือ” นัยน์ตาของเฮ่อเหลียนเวยเวยหดตัวด้วยความตกใจ
บุตรแห่งราชานรกลูบจมูกตัวเองเล็กน้อย ”นี่คือสิ่งที่เขียนไว้ในบันทึกที่ข้าแอบอ่านมา พูดสั้นๆ ก็คือ สมัยนั้นเจ้าเป็นหนึ่งในสาวกของพระพุทธเจ้า ทีแรกข้าคิดว่าทุกอย่างจะกลับเป็นปกติถ้าเจ้าสามารถนำพลังวิญญาณของตัวเองกลับมา และให้กำเนิดลูกได้ ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าเจ้าจะไปยั่วโมโหเคราะห์สวรรค์พันปีของพระพุทธศาสนาเข้า เวลานี้สาวกอีกคนหนึ่งของพระพุทธเจ้าลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว แต่โชคร้ายที่เจ้าไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะนางได้ ในอีกเก้าชั่วยาม นางจะท้าทายสวรรค์ด้วยการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาตัวเอง และเอาพลังธรรมะไปจากเจ้า เมื่อถึงตอนนั้น ไม่ใช่แค่เจ้า แต่จุดจบของทุกสรรพสิ่งจะถูกบิดเบือน ทุกคนจะหายไปจนหมด จะไม่มีตัวตนอันเหนือธรรมชาติอันใดอยู่ในภพทั้งสามอีก และทุกชีวิตจะต้องถูกกำจัด ข้าคิดว่าศาสนาพุทธทำเช่นนี้เพื่อกำจัดความรักอันไม่ถูกต้องทั้งปวง ลัทธิเต๋าเองก็เห็นด้วยกับวิธีนี้เพราะพวกเขาห้ามไม่ให้มีตัวตนอันเหนือธรรมชาติที่พวกเขาควบคุมไม่ได้อย่างเช่นเจ้ากับราชาปีศาจนั่นอยู่ ดังนั้นแน่นอนว่าปีศาจทุกตนในนรกย่อมถูกแสงแห่งพระพุทธองค์กวาดล้างเช่นกัน ปีศาจและสัตว์อสูรทุกตนจะต้องถูกกักขังอยู่ในทะเลเลือด เหมือนที่พวกเขากักขังราชาปีศาจในสมัยนั้น แต่ราชาปีศาจทำเช่นนั้นด้วยความสมัครใจ หนทางเดียวที่จะทำให้เขาสามารถเกิดใหม่เป็นมนุษย์และอยู่นอกเหนือภพภูมิทั้งหกได้คือการทำลายวิญญาณของตัวเอง แต่ตอนนี้ดอกบัวทองคำผู้เป็นสาวกอีกคนหนึ่งของพระพุทธเจ้าต้องการทำลายเจ้า ราชาปีศาจย่อมไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นได้ อีกอย่างหนึ่งบรรดาสาวกของพระพุทธศาสนาก็ทำเกินไป ทำไมพวกเขาถึงต้องการกำจัดความรักอันไม่ถูกต้องทั้งหมดไปจากโลกอย่างกะทันหันเช่นนี้ด้วย แม่นาง ข้าเชื่อในรักแท้ ข้าจะสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มที่!”
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เฮ่อเหลียนเวยเวยก็เหลือบมองเด็กชายตัวน้อย แล้วยิ้มออกมา ”เสี่ยวโกวกับเจ้าก็ไม่ใช่คู่ที่ถูกต้องตามหลักการของพวกเขาเหมือนกัน”
”พวกเราผูกพันกันด้วยรักแท้” บุตรแห่งราชานรกเอ่ยด้วยสีหน้าดำทะมึน
ริมฝีปากของเฮ่อเหลียนเวยเวยกระตุกทุกครั้งที่นางได้ยินเรื่องไร้สาระพวกนี้จากเด็กชาย
องค์ชายยังคงโหดร้ายเช่นเดิม เขาใช้สายตาเย็นชาราวกับน้ำแข็งมองไปที่บุตรแห่งราชานรกแล้วถามว่า ”เจ้าแน่ใจหรือว่าความรักของเจ้าไม่ใช่รักข้างเดียว”
บุตรแห่งราชานรกถลึงตาใส่ แต่คิ้วที่ขมวดเข้าหากันนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยสีหน้างดงามและน่าลุ่มหลงอย่างรวดเร็ว ”ต่อให้มันจะเป็นรักข้างเดียว แต่ข้าก็อยากให้คนคนนั้นมีชีวิตอยู่ เจ้าคงไม่มีวันเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพวกข้าได้ จะว่าไป ความรู้สึกของข้าก็คงจะคล้ายๆ กับต้นโพธิ์ต้นนั้นกระมัง” เขาพูดพร้อมกับจ้องมองเฮ่อเหลียนเวยเวย แล้วเผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายออกมาเมื่อเห็นนางเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสับสน ”โอ้ จริงสิ แม่นาง เจ้าคงยังไม่รู้ว่าต้นโพธิ์ที่ว่านี้คือใคร เขาคือผู้พิทักษ์ของตระกูลผู้ขับไล่วิญญาณร้าย แต่เขาไม่ได้ปกป้องคนในตระกูลคนใด กลับเป็นเจ้าเพียงคนเดียว เขาน่าสงสารยิ่งนัก พระพุทธเจ้าเกิดใหม่ในรูปลักษณ์มากมายแตกต่างกัน และเจ้าเองก็ไม่ได้หน้าตาเหมือนเมื่อก่อนก็จริง แต่ใครเล่าจะคิดว่าเจ้าจะจำต้นโพธิ์ต้นโปรดของตัวเองไม่ได้ สมัยนั้นเจ้าจะนั่งสวดมนต์อยู่ข้างต้นโพธิ์ต้นนั้นทุกวัน บางครั้งก็ช่วยรดน้ำให้ต้นโพธิ์ นอกจากนั้นเจ้ายังตั้งชื่อให้เขาอีกด้วย แต่ตอนนี้เจ้ากลับจำเขาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว มันคงเหมือนอย่างที่คนเขาพูดกันว่าคนที่เจ็บปวดก็คือคนที่ตกหลุมรักก่อน”
”ต้นโพธิ์ต้นโปรดของนางหรือ” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยระเบิดหัวเราะออกมา ความชั่วร้ายวาบขึ้นในดวงตาของเขา เขาโน้มตัวเข้าไปหาบุตรแห่งราชานรกแล้วเอ่ยอย่างคุกคามว่า ”เจ้าหนู ข้าคิดว่าสมองของเจ้าคงทำงานผิดพลาดแล้ว ข้าต่างหากที่เป็นคนโปรดของนาง ไม่ใช่ต้นโพธิ์”
”ฮ่าๆ กังวลขึ้นมาแล้วหรือ” บุตรแห่งราชานรกหัวเราะราวกับเพิ่งค้นพบความลับบางอย่างเข้า ”ก็ดี ในบัญชีนรกเขียนเอาไว้ว่าถ้าตอนนั้นไม่ใช่เพราะเจ้า พระชายาก็คงไม่ปิดเส้นทางพระพุทธศาสนาทั้งหมดของตัวเอง จนส่งผลให้พลังและวิญญาณของนางหยุดนิ่ง สุดท้ายนางจึงไม่มีหนทางอื่นนอกจากต้องกลับชาติมาเกิดใหม่ คนที่ทำลายพลังธรรมะทั้งหมดของนางก็คือเจ้า…”