ตอนที่ 593 ยมทูตขาวดำ!
ถ้าหากได้รับการรักษาผ่านมือของตัวเองแล้วยังไม่รู้สาเหตุอาการป่วยของฉวีเจินเจิน โจวเจ๋อคงไม่ต้องเป็นเถ้าแก่แล้ว
หนอนพยาธิที่ถูกตัวเขาดึงออกมา เข้าไปบุกรุกพื้นที่อย่างชัดเจน ดูดพลังชีวิตภายในร่างของฉวีเจินเจิน ซึ่งเท่ากับสกัดกั้นแมลงพิษที่จะมอบพลังชีวิตให้กับฉวีเจินเจิน และหนอนพยาธิตัวนั้นที่โดนเล็บของเขาฆ่าตายไม่ถือว่าตัวอ้วนมากเท่าไร หมายความว่าหนอนพยาธิตัวนี้เพิ่งเข้าไปอยู่ได้ไม่นาน และสภาพของฉวีเจินเจินก็ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นช่วงนี้เท่านั้น
สาเหตุที่เป็นลมในวันนี้ เป็นเพราะถูกสะสมมาเป็นเวลานานสุดท้ายร่างกายรับไม่ไหวจึงทรุดตัว ซึ่งหมายความว่า นอกจากหนอนพยาธิที่โดนเล็บของเขาจิกตายแล้ว ก่อนหน้านั้นยังมีหนอนแมลงที่คล้ายกันจำนวนไม่น้อย แต่พวกมันกินจนอิ่มเปลี่ยนกะ ‘กลับบ้าน’ ไปนานแล้ว เมื่อคิดทบทวนได้ดังนี้แล้ว สรุปเป็นฝีมือของใครกันแน่ จึงไม่ต้องคิดให้มากความเลยจริงๆ
“อ้อ คุณรู้แล้ว” หญิงสาวตัวดำเข้าใจทันที แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เหมือนกำลังตอบว่า กินข้าวหรือยัง กินแล้วประมาณนั้น
“แค่นี้เหรอ” โจวเจ๋อถาม
“แล้วต้องพูดอะไรอีก” หญิงสาวตัวดำเงยหน้ามองโจวเจ๋อพลางถาม
“แค่นี้เหรอ” โจวเจ๋อเดินไปข้างหน้า ใช้เท้าเตะไปที่ท้องน้อยของหญิงสาวตัวดำ หญิงสาวตัวดำร้องด้วยความเจ็บปวดนอนขดตัวอยู่บนพื้น เลือดไหลตรงมุมปากแต่กลับไม่ตะโกนอะไร
ทว่าเวลานี้เดดพูลหัวสีเขียวที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเหมือนจะผุดออกมาจากดิน ดินเรียบที่อยู่โดยรอบเริ่มนูนขึ้นช้าๆ
“แม้แต่นายก็คิดจะต่อต้านใช่ไหม!” แน่นอนว่าโจวเจ๋อรู้สึกถึงความผิดปกติของเดดพูล เขาจึงหันไปตวาดใส่ทันที
เดดพูลจึงหยุดสั่นถอยกลับไปเงียบๆ สำหรับความหวาดกลัวที่มีต่อโจวเจ๋อ เป็นสิ่งที่ฝังเข้าไปในกระดูกของเขา และเขาไม่สามารถต่อต้านได้เลย
เขากับหญิงสาวตัวดำมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่อย่างนั้นหญิงสาวตัวดำคงไม่นำเขาลงไปปลูกในดินเพื่อหล่อเลี้ยงบำรุงใหม่อีกครั้ง แต่ความรู้สึกดีที่เขามีต่อหญิงสาวตัวดำ ไม่อาจเทียบกับความหวาดกลัวที่มีมาตั้งแต่เกิดแบบนั้น
“เหอะๆ” หญิงสาวตัวดำยื่นมือเช็ดมุมปากของตัวเอง แต่ไม่ได้ร้องเรียกและไม่ร้องไห้โวยวาย เธอได้แต่นิ่งเงียบกระทั่งพูดอย่างสมเหตุสมผล “แปลงผักต้องการปุ๋ย หน้าบ้านมีพอดี ฉันจึงไปหยิบมาใช้ ทำไมล่ะ”
‘ทำไมล่ะ’ สามคำนี้เธอพูดเสียงสูงทันที! เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ยินยอมเป็นอย่างยิ่ง!
คุณทำฉันขาหัก ทำให้ฉันได้แต่นั่งรถเข็นหรือไม่ก็โดนแบกใส่หลัง ฉันช่วยดูแลบำรุงร่างกายลูกน้องของคุณ พอขาดของบำรุงก็ไม่ได้รบกวนคุณให้คิดหาทางด้วยตัวเอง แต่ฉันก็ไม่เคยคิดโกงเลยสักนิด เพราะเอามาบำรุงให้ลูกชายบุญธรรมของคุณทั้งนั้น! แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอม!
“ตัวเธออยากทำ ก็ทำเอง แต่อย่าทำให้ผมต้องโดนหางเลขไปด้วย” โจวเจ๋อนั่งลงยองๆ ตรงหน้าหญิงสาวตัวดำ ยื่นมือจับคางของเธอ เพื่อให้เธอจ้องตากับเขา
“คุณก็รู้ว่าในร้านมีกี่คน และมีกี่คนที่ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ คุณทำแบบนี้ ผมไม่ต้องรอให้คนของยมโลกขึ้นมาจับคนหรอก ไม่แน่อีกไม่นานอาจจะมีฟ้าผ่าลงมาระเบิดพวกเราให้ตายกันหมด!”
“ถุย!” หญิงสาวตัวดำถ่มเลือดปนน้ำลายออกมา กระเด็นไปโดนหลังมือของโจวเจ๋อ จากนั้นจึงหัวเราะพูดว่า “คุณมันหน้าด้าน” 艾琳小說
โจวเจ๋อไม่พูดสักคำ
“จริงๆ เลย คนอย่างคุณฉันเจอมาเยอะแล้ว เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนก็ไม่ว่าอะไร อย่างน้อยฉันเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองนับว่าเป็นคนเลวแล้ว แต่คุณเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองแถมยังตั้งป้ายโชว์! ทุเรศจริงๆ”
โจวเจ๋อไม่โกรธแต่จงใจพูดเสียงต่ำ ถามอย่างใจเย็นว่า “คุณคิดว่า กินข้าวไม่ได้ แล้วผมจะตายใช่ไหม”
“ฉันไม่ได้เอาอันนี้มาข่มขู่คุณ” หญิงสาวตัวดำหันคอของตัวเอง กัดฟันแล้วเอ่ยว่า “แต่ฉันไม่ผิด! ใช่ ฉันเป็นทาสของคุณ! คุณกับคนนั้นที่อยู่ในร่างของคุณทำฉันขาหัก วางยาพิษใส่ฉัน กักขังฉัน ให้ฉันเป็นทาส ก็สมควรแล้ว! หลักการที่ว่าคนอื่นถือมีดข้าเป็นเนื้อปลา ฉันเข้าใจ! เวลานับร้อยนับพันปี พวกเราทำไร่ทำนาก็ใช้ชีวิตแบบนี้! แต่ฉันไม่ผิด คุณอยากให้ฉันยอมรับผิด ก็ได้ ฉันจะยอมรับ! คุณตบหน้าฉัน คุณจะฆ่าฉัน ก็ได้ คุณกุมขังฉัน นี่คือสิทธิ์ของคุณ! แต่ในใจลึกๆ ของฉันไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิด!”
โจวเจ๋อมองหญิงสาวตัวดำที่อยู่ตรงหน้า เล็บเริ่มงอกยาวออกมาช้าๆ ชั่ววินาทีเดียว ส่วนลึกในนัยน์ตาของโจวเจ๋อไหลวนไปด้วยเจตนาที่อยากสังหารคน คุณสามารถพูดได้ว่าอารมณ์ที่อยากฆ่าคนเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ถูกอิ๋งโกวพาไปนรกก่อนหน้านั้นและยังอารมณ์ค้างอยู่ และสามารถพูดได้ว่าโจวเจ๋อเกิดความไม่พอใจตามสัญชาตญาณเมื่อลูกน้องพูดกับตัวเองแบบนี้ แถมยังวางมาดไม่ยอมแพ้ตัวเอง แน่นอนว่ายังมีความกลัวที่โจวเจ๋อไม่อยากตายไปพร้อมกับหญิงสาวตัวดำคนนี้ด้วย!
ภายในร้านหนังสือ รวมตัวเองแล้ว มีผีดิบอยู่สามคน! ลองไปถามเด็กผู้ชายดูว่าตัวเขาชอบใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำไหมไม่ใช่! เพราะเขากลัว เขากลัวว่าถ้าหากตัวเองขึ้นมาอยู่บนพื้นดินสักวันหนึ่งตัวเองจะโดนฟ้าผ่าตาย!
ตอนนี้หญิงสาวตัวดำลงมือกับฉวีเจินเจิน และตัวเขาเป็นคนลงมือช่วยชีวิตเธอไว้ แต่เรื่องนี้ถ้าหากปล่อยไว้ต่อไป วันพรุ่งนี้เธออาจจะเอาเลือดคนมาบูชายัญให้คุณคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ
เขาลังเลอยู่นาน แล้วจึงค่อยๆ เก็บเล็บกลับไป จากนั้นโจวเจ๋อพูดเสียงต่ำว่า “ไม่มีครั้งหน้าแล้ว” ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้น เปิดประตูบานเล็กเดินกลับไปร้านหนังสือ
อันที่จริง โจวเจ๋อรู้ดี เรื่องนี้ควรจะให้ทนายอันเป็นคนจัดการ เพราะเขาน่าจะทำได้ดีกว่าตัวเอง เมื่อกลับมานั่งบนโซฟาแล้ว โจวเจ๋อจึงหลับตา
อิงอิงเห็นว่าเถ้าแก่อารมณ์ไม่ดี จึงไม่ตะโกนเสียงดังถามว่าใครหน้าไหนทำให้เถ้าแก่โมโห แต่เธอเดินไปข้างหลังของเถ้าแก่ด้วยความใส่ใจ ช่วยนวดศีรษะให้เถ้าแก่เบาๆ
“เถ้าแก่ ไม่ต้องโกรธนะเจ้าคะ”
“อืม”
“โกรธแล้วทำลายสุขภาพ อย่าโกรธดีกว่านะเจ้าคะ ข้าจะอ้อนให้ท่านดู หงิงๆๆ…”
…
และในสวนผัก เดดพูลที่ไม่กล้าขยับตัวก่อนหน้านั้นเริ่มคลานออกมาช้าๆ ขาทั้งสองข้างท่อนล่างของเขาไม่มีอีกแล้ว แต่แทนที่ด้วยรากไม้ที่แน่นขนัด ประดุจรากของต้นไม้แก่ก็ไม่ปาน เขาอาศัยสองมือคลานไปอยู่ข้างกายหญิงสาวตัวดำ และใช้มือทั้งสองข้างของตัวเองกับเถาวัลย์ของตัวเองห่อหุ้มตัวของหญิงสาวตัวดำไว้
“ออกไป!” หญิงสาวตัวดำถมึงตาใส่เดดพูลที่กล้าโผล่ขึ้นมาในเวลานี้ เดดพูลสีหน้าสงบนิ่ง กระทั่งหัวเราะอย่างคนซื่อซึ่งเป็นท่าประจำของเขา แต่กลับไม่ทำให้คนรู้สึกว่าเขากำลังหัวเราะจริงๆ
“เหอะๆๆ…” เสียงหัวเราะนี้ เวลานี้ได้ฟังแล้วรู้สึกรำคาญอยู่บ้าง หญิงสาวตัวดำใช้สายตามองดวงตาของเดดพูลอีกครั้ง จากนั้นจึงหน้าถอดสี แล้วตบหน้าเดดพูลทันที
‘เปรี๊ยะ!’ เธอตบหน้าแรงสุดขีด
“เหอะๆๆ…” เดดพูลยังคงหัวเราะอย่างคนซื่อต่อไป
“นายมันไอ้เหี้Xกินขี้ นายๆๆ!!! นายพยายามต่อต้านความกลัวเขาที่อยู่ในใจของตัวเอง! นายกล้าโกรธเขาเหรอ นายมันเลว ไอ้เหี้X ไอ้โง่ ไอ้งั่ง!” หญิงสาวตัวดำด่าเป็นชุด ทุบหน้าอกของเดดพูลไม่หยุด
“เหอะๆๆ…”
หลังจากระบายความโกรธออกมาแล้ว หญิงสาวตัวดำจึงจ้องดวงตาของเดดพูล แล้วพูดเตือนว่า “ฉันเป็นทาสของเขา เขาจะด่าจะตีก็เป็นเรื่องที่สมควร ตอนแรกใครสั่งให้ฉันสู้เขาไม่ได้เล่า! แต่นายล่ะ นายกล้าได้ยังไง เก็บความคิดพวกนี้ไปเลย ความคิดเหล่านี้จะทำร้ายนาย นายโง่หรือเปล่า”
“เหอะๆๆ…”
“ถึงแม้เขาจะไม่ยอมรับ แต่นายก็ไม่ต่างจากลูกชายบุญธรรมของเขาจริงๆ นายเป็นลูกชาย เขาเป็นพ่อ เขาคนนั้นฉันมองออก อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าเป็นคนของตัวเอง จะทำดีด้วยสุดๆ นายดูทนายคนนั้น ดูคนอื่นๆ ในร้านหนังสือต่างติดตามเขา เอาใจเขา เพราะอะไร เพราะอยู่กับเขาแล้วได้ดี!
ทนายคนนั้น ผีดิบสาวที่อยู่ข้างกายเขา กระทั่งเจ้าลิงตัวนั้น! นี่คือโอกาสและโชคชะตาของนาย เป็นโชคของนาย เรื่องในชาติที่แล้ว ฉันไม่สนว่านายจะจำได้กี่มากน้อย แต่ฉันขอให้ลืมทั้งหมด ถึงแม้ฉันจะถูกเขาบีบคอตายทั้งเป็น จมน้ำตาย นายก็ไม่ต้องโกรธและเสียใจเพื่อฉัน นายเกิดมาก็หน้าตาอัปลักษณ์แล้ว มีเพียงคอยเกาะบารมีของเขาเท่านั้น นายถึงจะมีความหวัง ถึงจะมีทางออก นายรู้ไหม”
“เหอะๆๆ…”
หญิงสาวตัวดำค่อยๆ เปลี่ยนสีหน้าเป็นผ่อนคลายขึ้น และพูดไม่ออกอยู่บ้าง จากที่เธอด่ากลับกลายเป็นหัวเราะขึ้นมา
“เหอะๆๆ…”
“เหอะๆ”
…
อิงอิงกำลังนวดให้โจวเจ๋อ เธอนวดเก่งมาก อันที่จริงนวดเก่งหรือไม่เก่งเป็นเรื่องรอง หลายครั้งถ้าหากหมอนวดสวยมากพอ จะต้องการคนนวดเก่งไปทำไม
เถ้าแก่โจวหลับตาเพลิดเพลินอย่างเงียบๆ ผ่านไปสักพักหนึ่ง อิงอิงก้มหน้า ใช้ริมฝีปากแนบข้างหูของเขาแล้วเริ่มหายใจรดเบาๆ โอ้ว สบายจัง!
แต่โจวเจ๋อกลับสะดุ้งตื่นในทันใดแล้วถามว่า “ใครสอนคุณ”
“ข้าเรียนเองค่ะ เถ้าแก่ ชอบไหมเจ้าคะ ถ้าหากชอบวันหลังข้าจะนวดให้ท่านทุกวันเจ้าค่ะ” จริงๆ แล้วนักพรตเฒ่าเป็นคนสอน เอ่อ ถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือ เป็นนักพรตเฒ่าหาสาวใหญ่มาสอนอิงอิง เพราะอิงอิงถามนักพรตเฒ่าว่า การนวดแบบไหนถึงจะทำให้ผู้ชายรู้สึกสบาย
ยังดีที่ครั้งนี้นักพรตเฒ่ารู้จักระวังตัว สั่งให้อิงอิงรับประกันอย่าบอกความลับนี้ ดังนั้นอิงอิงจึงไม่พูดถึงนักพรตเฒ่า โจวเจ๋อก็ไม่ได้ถามอย่างละเอียด เขารู้สึกทอดถอนใจอยู่ในใจ ถ้าหากลูกน้องทุกคนของตัวเองเหมือนอิงอิงจะดีแค่ไหน และสบายมากขนาดไหน ทว่านี่เป็นเพียงความคิดเท่านั้น มีอิงอิงคนเดียว ตัวเขาเองก็ควรรู้จักพอ
“อ้อใช่ ใน ‘หนังสือฝึกฝนทักษะของสาวใช้’ พูดถึงเรื่องการจัดการไหม”
“มีเจ้าค่ะ เถ้าแก่!” อิงอิงตอบทันที
“อ้อ อธิบายว่ายังไงบ้าง”
“ห้ามอิจฉา ต้องใจกว้าง ต้องมีสายเลือดสืบสกุลมากมายเพื่อสามีของตัวเอง ต้องดูแลนางสนมให้ดี…”
“โอเคๆ พอแล้วๆ” โจวเจ๋อบิดขี้เกียจ แต่เวลานี้กลับเห็นคนสองคนยืนอยู่หน้าประตูร้านหนังสือ คนหนึ่งใส่ชุดสีขาว อีกคนหนึ่งใส่ชุดสีดำ ทั้งสองคนเดิมทีเดินเข้ามาจากด้านนอกก็เหมือนคนปกติ แต่ตอนที่ผลักประตูเข้ามาในร้านหนังสือใบหน้ากลับขาวซีดทันที เบ้าตายุบลงไป และเวลานี้อุณหภูมิในร้านหนังสือดูเหมือนจะลดลงฮวบฮาบเพราะพวกเขาสองคน!
ทั้งสองคนหมุนตัว เผชิญหน้ากับโจวเจ๋อ คนหนึ่งยิ้มมุมปากซ้าย อีกคนหนึ่งยิ้มมุมปากขวา ก้มหน้าเล็กน้อยพร้อมกัน จ้องมองโจวเจ๋อตามตรง
ยมทูตขาวดำเหรอเ
………………………………………………………………………..