ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 599 ร้านหนังสือออกโรง!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 599 ร้านหนังสือออกโรง!

เมื่อโจวเจ๋อถามเสร็จ จึงเก็บภาพวาดขึ้นมา และเขายังใจกว้าง โยนภาพวาดไปทางเจ้าลิงโดยตรง เจ้าลิงน้อยกระโดดขึ้นมารับภาพวาดอย่างแม่นยำ

ในเมื่อก่อนหน้านี้เป็นเพราะสามารถใช้ปากกาพิฆาตอย่างเจ้างั่งได้แล้ว และตัวเองก็ยังสามารถควบคุมพลังบางส่วนของสมุดหยินหยางได้ ดังนั้นเขาจึงเก็บสมุดหยินหยางกลับมาจากเจ้าลิงน้อย แล้วค่อยมอบของเล่นชิ้นใหม่ให้มัน

อิงอิงกัดริมฝีปากแดงไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเธอจำเป็นต้องย่อยข้อมูลที่ได้รับเมื่อครู่ ถึงแม้สมองจะสับสนและจิตใจว้าวุ่น แต่อิงอิงก็มีวิธีแก้ปัญหาให้ตัวเอง ยามที่ตัวเองไม่รู้ว่าควรจะเลือกอย่างไรควรจะทำอย่างไร เถ้าแก่สั่งให้เธอทำอะไรเธอแค่ทำมันก็พอ! ถึงแม้จะเหมือนไร้สมอง แต่กลับเป็นวิธีที่ดีที่สุด

“ไม่ต้องรู้สึกละอายใจ และไม่ต้องคิดมาก ในเมื่อเธอหลอกคุณ และสั่งให้ผมเผาคุณ เธอจะต้องมีแผนอย่างอื่นแน่นอน” โจวเจ๋อเป็นห่วงและใส่ใจอิงอิงมากกว่าใครเสมอ

เขาเป็นคนเย็นชามาตลอด หากจะพูดแบบไม่น่าฟังคือใจดำไม่สำนึกบุญคุณอยู่บ้าง แต่ถึงแม้จะเป็นก้อนหิน เมื่อเจอความประณีตและตั้งใจของอิงอิงหนึ่งถึงสองปีหัวใจก็อุ่นขึ้น

“เถ้าแก่ ฉันข้ารู้เจ้าค่ะ” อิงอิงเม้มปาก สายตาเริ่มสดใสขึ้นมา

ทนายอันเห็นโจวเจ๋อลุกขึ้น จึงรู้ว่าเถ้าแก่ไม่คิดจะรีรอแม้แต่วินาทีเดียว อยากจะรีบไปดูสถานการณ์ที่วัดเฉิงหวงเมี่ยวโดยตรง สงสัยเถ้าแก่จะเครียดเรื่องของผีดิบสาวคนนี้เป็นอย่างมาก ไม่อยากปล่อยเวลาให้มีอุปสรรคที่ยาวนาน

ทนายอันเสียใจเล็กน้อย เดิมทีเขาอยากจะคุยเรื่องสัพเพเหระเกี่ยวกับการเดินทางในนรกกับเถ้าแก่ แต่คงต้องเก็บไว้ก่อน ทว่าเขารู้สึกหัวใจคันยุบกยิบกอยากรู้จริงๆ ถึงกระนั้นเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปสตาร์ทรถก่อน

“อิงอิง คุณอยู่เฝ้าบ้านนะ” โจวเจ๋อไม่คิดจะพาอิงอิงไปด้วย ถ้าหากถึงตอนนั้นต้องเผชิญหน้ากับแม่นางไป๋จริงๆและอิงอิงอยู่ในเหตุการณ์เช่นกัน ต้องเกิดความกระอักกระอ่วนเป็นแน่ ขณะเดียวกันยังต้องป้องกันแม่นางไป๋หาวิธีบีบเค้นอิงอิงให้อยู่หมัดด้วย

อิงอิงพยักหน้า เพื่อบอกว่าตัวเองรู้แล้ว และไม่อยากพูดอะไรมาก เธอไม่โวยวายว่าตัวเองจะต้องไปให้จงได้สำหรับคำของโจวเจ๋อ เธอยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไข

โจวเจ๋อพอใจเป็นอย่างยิ่ง แล้วผิวปากเรียกเจ้าลิงน้อยหนึ่งที จากนั้นจึงเดินไปที่เคาน์เตอร์ปิดสมุดการบ้านของเด็กผู้ชาย ขณะเดียวกันได้ตะโกนเรียกไปทางห้องครัวหนึ่งครั้ง เพื่อบอกให้พวกเขาออกมาพร้อมกัน หลังจากรอให้ทุกคนขึ้นรถของทนายอันแล้ว ทนายอันจึงตั้งจีพีเอสแล้วขับรถไปทันที

ตอนนี้โกวซินตอนนี้กำลังมึนงงเป็นอย่างมาก เป็นความสับสนอย่างสุดซึ้ง เขาที่คิดว่าตัวเองเป็นตัวเลือกของสวรรค์มาตลอด เป็นโอรสแห่งสวรรค์ เพราะโชคชะตาและบุญวาสนาของเขานั้นดีมาตลอด และตัวเขาเองก็คุ้นชินแล้ว

ด้วยเหตุนี้ อุปสรรคและปัญหาที่เจอหลังนับตั้งแต่ที่ตัวเองก้าวเข้ามาในวัดเฉิงหวงเมี่ยวในวันนี้ ทำให้เขาปรับตัวไม่ถูกเป็นอย่างมาก มักจะรู้สึกว่าโชคชะตาหยิบสคริปต์ผิดเล่ม มันไม่ควรเกิดเรื่องราวแบบนี้

เพราะเนื่องจากเขาดื่มของเหลวสีดำขวดนั้นก่อนหน้านี้ เป็นผลทำให้ร่างกายของตัวเองถูกล้างสะอาดไปหนึ่งรอบขณะที่ลดการควบสมรรถภาพขอคุมร่างกายของตัวเองลงก็ให้อิสระกับยังสามารถอัญเชิญ ‘เทพเจ้า’ เข้าที่มาสิงร่างได้สะดวกมากขึ้น ดังนั้นตอนนี้ถึงแม้โกวซินจะงุนงงที่วิญญาณผู้หญิงมาสิงร่างของตัวเองอย่างไม่รู้สาเหตุ ทว่าในช่วงเวลาอันสั้นเขาไม่สามารถขับไล่อีกฝ่ายออกไปได้จริงๆ

ผีผู้หญิงร้องตะโกนเสียงหวาน ประดุจกวางน้อยที่ตื่นตระหนกตกใจ ตอนที่แม่นางไป๋ทำลายโซ่ตรวนของยมทูตขาวดำเฮยไป๋อู๋ฉางได้อย่างสิ้นเชิง และก็เกือบจะทำลายการควบคุมพลังแห่งควันธูปเทียนที่เทพเจ้าประจำเมืองทิ้งไว้ได้อย่างสมบูรณ์ในเวลาเดียวกัน

จากนั้นแสงสีเหลืองจ้าตาเริ่มมลายหายไปอย่างช้าๆ ร่างของแม่นางไป๋ค่อยๆ เดินออกมา เธอมาในชุดสีขาวด้วยลักษณะท่าทางอันดุดันและเย็นชา มีเพียงตำแหน่งตรงกลางระหว่างคิ้วที่มีแสงสีทองจางๆ กำลังหมุนวน แลดูศักดิ์สิทธิ์มิอาจกล้าล่วงเกิน!

โกวซินรีบคุกเข่าลงทันที ใช้หน้าผากกระแทกพื้นไม่หยุด ร้องไห้ตะโกนว่า “ฮูหยินโปรดไว้ชีวิต โปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยยินดีเป็นทาสรับใช้ท่าน เป็นบ่าวรับใช้ฮูหยิน!”

“…” โกวซิน เหี้xแม่งนี่มันตัวอะไรมาสิงร่างตัวเองกันแน่!

“…” นักพรตเฒ่า โกวซินกำลังทำบ้าอะไร นักพรตเฒ่าไม่คิดว่าตัวเองเป็นตัวก่อเรื่องที่พยายามเปลี่ยนสถานการณ์จาก ‘ชนะให้กลายเป็นพ่ายแพ้’ ไปเสียดื้อๆ เขาจึงคิดว่าโกวซินมีบางอย่างผิดปกติ

แม่นางไป๋่ยื่นมือจับคางของโกวซินเบาๆ โกวซินในเวลานี้ ทำสีหน้าเขินอายแฝงไปด้วยความ ‘สวยงามจับใจ’เสียดายที่โกวซินไม่ใช่สวี่ชิงหล่าง หากเหล่าสวี่ไปยืนตรงนั้นก็คือคนสวยเลยทีเดียว

โกวซินทำตัวเช่นนี้ ดูแล้วน่าสะอิดสะเอียนอย่างเห็นได้ชัด ทว่าแม่นางไป๋ก็ไม่ได้หยาบคายขนาดนั้น มองแค่สวยหรือขี้เหร่เท่านั้น เธอพิจารณามองโกวซินอย่างละเอียดแล้วเอ่ยว่า “เป็นใบหน้าที่มีโหงวเฮ้งดีมีโชคมาก” เธอเคยอยู่ในศาลเจ้ามาก่อน สามารถมองเห็นสิ่งของและดูพลังชี่ได้ และโกวซินถึงแม้จะเป็นยมทูต แต่เขายังกระจายลักษณะพิเศษเฉพาะตัวออกมา ลักษณะพิเศษเช่นนี้สูสีกับเทียนหวัง ตอนที่เธอเคยเจอตอนเป็นลูกสาวบุญธรรมของจงหวังหลี่ซิ่วเฉิงในปีนั้น เคยได้เห็นตอนที่ต่อสู้กับเทียนหวาง

ควรทราบว่าเทียนหวังสอบไม่ติดแม้แต่ซิ่วไฉ หลังจากเกิดเรื่องเขากลับสามารถรวบรวมคนได้ครึ่งค่อนประเทศ มีโอกาสท้าทายราชสำนักเพื่อโค่นล้มอำนาจ นี่คือโชคชะตา!

ถึงแม้ว่าหลังจากเกิดเรื่องแล้วเทียนหวังจะหาเรื่องใส่ตัวเองแท้ๆ ตัวเองมีความละโมบ เสพสมความสุข เย่อหยิ่ง ฟุ่มเฟือย ลามกอนาจาร ไม่รักความก้าวหน้า และมักจะชอบทำเรื่องให้ญาติพี่น้องต้องทุกข์ใจแต่ศัตรูกลับกับสะใจมาตลอด แต่กลับมีคนที่คล้ายกับจงหวังปรากฏตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง พยายามประคับประคองอาณาจักรไท่ผิงเทียนกั๋วนานสิบกว่าปี! ดฮณ๊ฯดฯฌซ,

แต่เสียดาย ตอนนี้เป็นยามที่บ้านเมืองสงบรุ่งเรือง นโยบายของประเทศแจ่มใสรื่นรมย์ บรรยากาศแห่งฟ้าดินเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าหากนำโกวซินไปทิ้งในช่วงกลียุค ไม่แน่อาจจะเป็นเทียนหวังอีกคนหนึ่ง!

บุคคลเช่นนี้ กลับยอมใช้วิธีนี้มาอยู่ต่อหน้าตัวเอง แม่นางไป๋รู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริง เมื่อได้สติเธอจึงเหลือบมองนักพรตเฒ่าที่ยืนตัวสั่นอยู่แต่ไกล พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง แต่กลับพูดพึมพำกับตัวเองทันที “ในเมื่อรับเอาพลังแห่งควันธูปควันเทียนแล้ว เช่นนั้นก็ดูดพลังแห่งความโชคดีของเจ้าด้วยเป็นไร!” ขณะที่พูด แม่นางไป๋โน้มตัวแล้วสูดลมหายใจทันที

โกวซินตัวสั่น แสงสีเหลืองที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเริ่มกระจายออกมาจากตัวของเขา ถูกแม่นางไป๋สูดเข้าโพรงจมูกโดยตรง เพียงชั่วครู่ แสงสีเหลืองเริ่มกลายเป็นสีดำ แม่นางไป๋สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ตัวสั่นเทิ้ม รีบตัดการเชื่อมต่อโดยพลัน

“พลังแห่งความโชคดีนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฮวบฮาบในเวลานี้!” ในหมู่ชาวบ้าน โชคชะตาและชีวิตเป็นคำบอกเล่าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก บางคนโหงวเฮ้งดีมีโชค ตอนวัยรุ่นราบรื่นมาตลอด แต่หลังจากอยู่ในช่วงใดช่วงหนึ่งกลับโชคไม่ดีตลอดทาง ถึงขั้นซวยมากก็ว่าได้ และที่กำลังพูดถึง แท้จริงแล้วก็คือสถานการณ์ที่คล้ายกับโกวซิน

‘“ฉึบ!’” แม่นางไป๋ยื่นมือบีบคอของโกวซิน ถึงแม้ไม่รู้ว่าโกวซินเจอเรื่องอะไรมา แต่จะอยู่ที่นี่นานไม่ได้แล้ว ทว่าเวลานี้ประตูใหญ่ของวัดเฉิงหวงเมี่ยวกลับโดนถีบออกโดยตรง และเส้นเขตแดนนั่นพร่าเลือนในชั่วพริบตา เงาร่างสีดำพุ่งเข้ามาโดยตรง พร้อมกับเสียงคำรามทุ้มต่ำ ต่อยหมัดใส่แม่นางไป๋เข้าอย่างจัง!

“ปิด!” สายตาของแม่นางไป๋นิ่งงัน เขตควบคุมโดยรอบทำงานพร้อมกัน แต่ความเร็วของเงาดำกลับไม่ลดน้อยลงเลยสักนิด พุ่งทะลุผ่านเขตควบคุมภายในตัววัดทั้งหมดโดยตรง มาอยู่ตรงหน้าของแม่นางไป๋ แล้วปล่อยหมัดออกไป!

พลังปราณพิฆาตที่น่าสะพรึงรวมอยู่บนหมัดนั้น พลังอันยิ่งใหญ่องอาจกล้าหาญมิอาจต้านทานได้!

แม่นางไป๋พลิกฝ่ามือเบาๆ เปลี่ยนทิศทางหมัดของเด็กผู้ชายทำให้เขากระแทกพื้นโดยตรง

‘ตู้ม!’ หมัดชกไปบนพื้น เสียงแตกหักของกระเบื้องดังขึ้นทันที ทุบลงไปเป็้นหลุมใหญ่

“ฮิๆๆ” ทนายอันหัวเราะเสียงต่ำ “ถึงแม้สายของเทพเจ้าประจำเมืองจะเสื่อมทรุดไปนานแล้ว แต่จะมีหลักการยึดครองบ้านของผู้อื่นโดยพลการได้อย่างไร โยวโยวเฉิงหวง เทพประจำเมืองปกป้องทั่วทิศ สวรรค์เบิกเนตร สิ่งชั่วร้ายจงออกไป!” ทนายอันเอ่ยคาถาบูชาเทพเจ้าประจำเมือง ถึงแม้จะโดนโจมตีจากยมโลกนรก สายแห่งเทพเจ้าประจำเมืองจะตกต่ำเสื่อมถอย แต่ท่ามกลางความมืดมิดก็ยังสัมผัสได้!

ชั่วเวลาเดียว พลังอันน่าเกรงขามปกคลุมลงมา เดิมทีเนื่องจากแม่นางไป๋ได้กลืนเทพเจ้าประจำเมืองไปจึงสามารถควสบคุมสถานการณ์ภายในวัดได้ แต่เวลานี้เธอสูญเสียการควบคุมที่นี่ไปในพริบตา และยังต้องทนรับแรงสะท้อนกลับที่เข้ามาอย่างกะทันหัน!

ร่างของแม่นางไป๋ลอยออกไปทันที เธออยากจะหนีไปจากที่นี่ เพราะการสับเปลี่ยนของทนายอัน ทำให้สถานที่แห่งนี้ของเธอกลายเป็นลานประหารโดยตรง

เด็กผู้ชายเงยหน้า เล็บงอกยาวออกมาทั้งสิบนิ้ว พลังปราณพิฆาตกระจายออกมา หลังจากคำรามด้วยความโกรธหนึ่งทีก็กระโดดขึ้น เขาคิดจะลากแม่นางไป๋กลับมาอย่างทื่อๆ! 艾琳小說

“เจี๊ยกๆๆ!” และด้านบน ปีศาจวานรได้ปรากฏตัว มันกระโดดลงมาอย่างไม่เกรงใจ กลิ่นอายของปีศาจกระจายออกมาอย่างกำเริบเสิบสาน ขัดขวางทางไปของแม่นางไป๋ ทว่าร่างของแม่นางไป๋กลับสลายกลายเป็นควันสีขาวในทันใดหายไปกลางอากาศ แม้แต่ร่างธรรมก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ไม่น่าเชื่อว่าจะใช้วิธีที่คาดคิดไม่ถึงหลบหนีการโอบล้อมในครั้งนี้

แต่สามารถแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนอย่างหนึ่งว่า ภายใต้การโอบล้อมของสองสามคนนี้ แม่นางไป๋ต้องหลบหนีศัตรูเพียงเท่านั้น นางไม่มีความสามารถแบบที่จะเอาชนะอิ๋งโกวที่จะได้และได้แต่ต่อยสวนกลับไปคนละหมัดได้

ลายเส้นสีเขียวเป็นสายปกคลุมกระเบื้องที่อยู่ใต้วัดเฉิงหวงเมี่ยว ราวกับวางกรอบดักศัตรู เสียงคำรามทุ้มต่ำของผู้หญิงดังเข้ามา หมอกควันรวมตัวอยู่ตรงนั้น ปรากฏเงาร่างของแม่นางไป๋อย่างชัดเจน

สวี่ชิงหล่างยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ ตาซ้ายเรืองแสงสีเขียวแล้วจึงชี้ไปทางนั้น! เก็บแห จับปลา! การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน นักพรตเฒ่ารู้สึกสะใจเป็นที่สุด เมื่อครู่สายตาของปีศาจผู้หญิงคนนั้นมองเขาเหมือนคนตายแล้ว ทำเอานักพรตเฒ่าตกอกตกใจ

คราวนี้กองทัพของฝั่งเขาปรากฏตัว แล้วแปรเปลี่ยนสถานการณ์ สะใจ! แต่นักพรตเฒ่ารู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริงอยู่บ้าง ร้านหนังสือแกร่งถึงขนาดนี้เชียว เถ้าแก่ไม่ต้องออกโรงแค่อาศัยลูกน้องก็สามารถครอบครองฟ้าดินได้

“ไม่เป็นไรใช่ไหม”

นักพรตเฒ่าหันไปตามเสียง เขาเห็นเถ้าแก่ยืนอยู่ข้างหลังตัวเอง เถ้าแก่โจวมองโกวซินที่นอนเหมือนคนใกล้สิ้นใจอยู่ตรงหน้า แล้วมองวัดเฉิงหวงเมี่ยวนี้อีกครั้ง ขณะเดียวกันก็มองแม่นางไป๋ไปด้วย สุดท้ายจึงมองนักพรตเฒ่าที่ยืนอยู่ข้างตัวเอง

“เถ้าแก่ ข้าไม่ได้เรื่อง ต้องให้พวกเจ้ามาช่วย” นักพรตเฒ่าพูดอย่างเกรงใจ ประหนึ่งว่ารู้สึกขอโทษที่ตัวเองเป็นตัวถ่วง

โจวเจ๋อสูดลมหายใจลึกๆ ยื่นมือตบไหล่ของนักพรตเฒ่าอย่างจริงจัง พลางพูดด้วยความจริงใจว่า “นักพรตเฒ่า”

“หืม เถ้าแก่”

“คุณทำได้ดีมาก” ขณะที่พูด โจวเจ๋อได้เหยียดขาแล้วเตะโกวซินที่นอนสลบอยู่บนพื้น พลางคิดในใจว่า รู้สึกสงสารเขาเล็กน้อย หนุ่มดวงดีได้อยู่กับนักพรตเฒ่าเพียงครึ่งวันก็…

………………………………………………………………………..

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท