ตอนที่ 606 เจ้าโง่!
“ตอนผมเป็นเด็ก ผมเคยเจอเทพเซียนมาก่อน”
“บรรพบุรุษเหรอ อย่างนั้นเจ้าก็น่าสงสารมากจริงๆ เจอผีตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นต่อมาตายแล้วก็เลยไปเป็นยมทูตใช่ไหม ก็ดีนะ เอางานอดิเรกที่สนใจตอนเด็กมาทำเป็นอาชีพหลังจากโตขึ้น ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง”
“…” โกวซิน บางทีอาจจะเป็นเพราะได้รับบาดเจ็บ โกวซินรู้สึกเจ็บหน้าอกในตอนนี้ มันแน่นอกมากจริงๆ แทบจะหายใจไม่ออกแบบนั้น
“เป็นไอของเทพเซียน” ขณะที่พูด โกวซินชูนิ้วชี้ของตัวเองขึ้นมาอย่างยากลำบาก แล้วชี้ไปข้างบน
นักพรตเฒ่ารีบเหยียบเบรกลดความเร็วของรถ จากนั้นจึงพูดอย่างประหลาดใจว่า “แปลกจริง อยู่กับเถ้าแก่สองสมัยในหลายปีที่ผ่านมา รู้แต่ว่ามีคนอยู่ในนรก ผีก็เจออยู่ไม่น้อย แต่ไม่เคยเจอเซียนหรือเทวดาเลยสักครั้ง ข้ายังงงมาตลอด ว่ามีนรกแล้วก็ต้องมีสวรรค์ชั้นฟ้าไม่ใช่เหรอ แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อน”
ตอนแรกนักพรตเฒ่าเคยไปถามทนายอัน ไหนบอกว่าทำอะไรสิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้เห็นทุกอย่าง แต่โลกนี้มีสวรรค์อยู่จริงไหม มีเหล่าจวินที่ชอบหลอมยาอายุวัฒนะจริงไหม คำตอบของทนายอันทำให้นักพรตเฒ่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ไม่แน่ใจ ไม่รู้ ไม่เข้าใจ
ไม่ว่าเรื่องใดมีด้านมืดก็ย่อมมีด้านสว่าง นี่คือหลักการที่ไม่เปลี่ยนแปลงตราบนานเท่านาน ในเมื่อนรกมีพญายมทั้งสิบ เช่นนั้นด้านบนทำไมถึงไม่มีเทพเซียนเล่า
“เหอะๆ” โกวซินหัวเราะเล็กน้อย แต่กลับทำให้แผลต้องฉีกขาด “เซียนเคยลูบหัวของผม”
“เซียนลูบหัวเหรอ”
“ช่างเถอะ วันหลัง ดวงของผมจะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ” เมื่อพูดถึงตรงนี้ โกวซินลังเลว่าควรจะพูดเสริมอีกหนึ่งประโยคดีไหม นั่นก็คือก่อนที่จะมาเจอคุณ
“เซียนหน้าตาเป็นยังไง” นักพรตเฒ่าถาม
ผีหน้าตาเป็นอย่างไร เขาเจอมาเยอะแล้ว แปลกประหลาดนับร้อยพัน โกวซินส่ายหน้า
“พูดไม่ได้เหรอ นักพรตเฒ่าถาม
“เพราะว่ามองไม่เห็น”
“เอ่อ…”
“แค่รู้สึก มีวันหนึ่งผมมองมดต่อสู้กันอยู่ในลานบ้านของผม รู้สึกว่ามีคนมาลูบหัวของผม จากนั้นผมจึงเงยหน้า แต่รอบๆ ก็ไม่มีใคร”
“…” นักพรตเฒ่า
“ไม่ผิดแน่นอน เป็นเซียน” โกวซินเม้มปาก “เป็นเซียนจริงๆ”
“ได้ๆๆ เป็นเซียนก็เป็นเซียน” นักพรตเฒ่าเห็นเขาดีใจก็พอใจแล้ว
“รู้ไหมว่าผมมาร้านหนังสือทำไม”
“ดูเหมือนอยากจะรับเถ้าแก่ของพวกเราเป็นลูกน้อง”
“บังเอิญผ่านมาพอดีครับ” โกวซินนิ่งไปครู่หนึ่ง ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “จากนั้น ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ถูกลูบหัวในวันนั้น จึงเดินตามหาจนมาถึงร้านหนังสือของพวกคุณ”
“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ ร้านหนังสือของพวกเรามีเซียนอาศัยอยู่เหรอ”
“อาจจะไม่ใช่เซียน แต่อย่างน้อยมีสิ่งของที่เป็นของเซียน”
“คืออะไร”
โกวซินส่ายหน้า ถอนหายใจพูดว่า “ผมไม่กล้าตามหาจริงๆ”
“กลัวเหรอ” นักพรตเฒ่าแปลกใจ “เจ้ารู้สึกว่าตัวเองดวงดีมาตลอดไม่ใช่เรอะ กลัวอะไรกัน”
“เซียนทำให้ผมชีวิตราบรื่น แต่ก็สามารถทำให้ผมดวงซวยได้เหมือนกัน ดังนั้นผมจึงกลัว”
“ไม่ต้องกลัว ข้าจะส่งเจ้าไปโรงพยาบาลซึ่งอยู่ติดกับร้านหนังสือของพวกเรา อุปกรณ์การรักษาของที่นั่นก็ไม่เลว ค่าผ่าตัดก็ยังลดราคา ถึงตอนนั้นเจ้าค่อยบอกตำแหน่งกับข้า ข้าจะไปหาด้วยตัวเอง” มีของดี นักพรตเฒ่าไม่ปล่อยไปอยู่แล้ว
“คุณไม่กลัวเหรอ”
นักพรตเฒ่าได้ยินดังนั้น จึงกวาดตามองโกวซินด้วยสายตาดูหมิ่น สายตานี้ทำให้โกวซินรู้สึกลนลานเล็กน้อย
“ข้ารักชีวิตอยู่แล้ว แต่ถ้าได้เจอของของเซียน ต่อให้ต้องเสี่ยงก็ไม่เป็นไร”
โกวซินได้ยินแล้วจึงพยักหน้าอย่างเงียบๆ ความรู้สึกสิ้นหวังปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา ใช่แล้ว คุณดวงแข็งขนาดนี้
…
อิงอิงเดินออกมาจากร้านหนังสือ วินาทีที่ผลักประตูกระจก ผมขาวได้ฟื้นฟูกลับมาในพริบตา พลังปราณพิฆาตที่อยู่รอบตัวหายไปทันที แต่บนใบหน้าของเธอยังคงเย็นชาดุจน้ำแข็งเช่นเดิม
เธอมองปราดเดียวก็เห็นรถคันนั้นจอดอยู่ตรงหน้า ในร้านหนังสือก่อนหน้านั้น เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเถ้าแก่ โดยเฉพาะตอนที่เถ้าแก่อยู่ในสภาวะของผีดิบ การตอบสนองของลมหายใจจึงยิ่งชัดเจนขึ้น เธอเดินไปข้างรถ ยื่นมือใช้กำลังเปิดประตูจนประตูเกือบจะหลุดลงมา
อิงอิงอุ้มเถ้าแก่ออกมาแล้ววิ่งเข้าไปในร้านหนังสือโดยตรง เนื่องจากระยะทางใกล้มาก ถึงแม้จะมีสายตาของผู้คนแถวนี้ แต่ก็ไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายอะไร ดฮณ๊ฯดฯฌซ,
หลังจากวิ่งเข้าประตูแล้วจึงวางเถ้าแก่ไว้บนเคาน์เตอร์ อิงอิงมองเถ้าแก่ที่มีแสงสีเขียวรอบตัวและเขี้ยวที่มุมปาก เธอจึงกัดฟัน เหลือบตาแล้วพูดเสียงทุ้มหนักว่า “ยังจะดูละครต่ออีกรึ”
หญิงสาวตัวดำผลักประตูเล็กเข้ามา เธอนั่งรถเข็นออกมาพร้อมกับทำใบหน้าเขินอาย อิงอิงถอยหลังหนึ่งก้าว เพื่อให้หญิงสาวตัวดำดูอาการของโจวเจ๋อ หญิงสาวตัวดำมองอย่างละเอียดครู่หนึ่งแล้วจึงเม้มปาก พลางพูดอย่างลำบากใจ “ร่างกายไม่มีปัญหา แต่น่าจะเกิดปัญหากับจิตวิญญาณ”
“มีวิธีไหม” อิงอิงถาม
หญิงสาวตัวดำส่ายหน้าอย่างเศร้าใจ “ไม่มีวิธี ฉันแค่คนทำไร่ คงไม่สามารถนำเขาปลูกลงดินแล้วค่อยให้ฉันวิจัยปรับปรุงอย่างช้าๆ ได้ใช่ไหมล่ะ”
หญิงสาวตัวดำไม่ได้จงใจบอกปัด ถ้าหากทำได้ เธอไม่ถือสาที่จะช่วยโจวเจ๋อ กระทั่งอยากจะช่วยชีวิตของโจวเจ๋อสักครั้ง เธอลองตรวจสอบแล้ว ไอ้หมอนี่ถึงแม้จะเห็นแก่ตัวก็จริง แต่สำหรับพวกพ้องของตัวเองเขาปฏิบัติดีด้วยมาโดยตลอด ถ้าหากเธอช่วยเขา ไม่แน่ตำแหน่งและฐานะของเธออาจจะหลุดพ้นจากฐานะทาสก็เป็นได้
ตอนที่อิงอิงหยิบโทรศัพท์ออกมากำลังจะโทรหาพวกทนายอัน โจวเจ๋อที่หลับตาอยู่พลันเอ่ยว่า “หว่านเอ๋อร์…หว่านเอ๋อร์…”
อิงอิงสายตาจ้องนิ่ง แสดงพลังอาฆาตออกมาอย่างชัดเจน
…
“โฮก!” โจวเจ๋อคำราม พยายามดิ้นให้หลุดจากสายโซ่ที่อยู่บนร่างกาย และเขาก็หลุดจากสายโซ่ได้ในที่สุด แต่รอบๆ กลับมีเงาดำกระโจนเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง
เขาเตะออกไปหนึ่งคนก็มาอีกหนึ่งคน ทยอยเข้ามาไม่ขาดสาย โจวเจ๋อรู้สึกเหนื่อยจริงๆ ตามหลักแล้วไม่น่าจะเสียพลังงานเร็วขนาดนี้ แต่ในความเป็นจริง โจวเจ๋อกับคู่ต่อสู้ของโจวเจ๋อ แท้จริงแล้วใช้พลังงานของตัวเขาเองทั้งสิ้น จึงเท่ากับตัวเองต่อสู้กับตัวเอง ความเร็วของพลังงานที่เสียไปจึงเร็วขึ้น และไม่รู้ว่าต้องต่อสู้ฟาดฟันกันอีกนานเท่าไร
ตอนที่โจวเจ๋อเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดและหันหน้าไป เขาพบว่าด้านหลังตัวเองตรงตำแหน่งที่ตัวเองถูกมัดไว้ก่อนหน้านั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนถูกมัดใหม่
บนตัวของคนผู้นั้นมีบาดแผลเต็มไปทั่ว โพกผ้าสีแดง ตรงกลางระหว่างคิ้วมีกลิ่นอายของผู้ที่มีตำแหน่งสูง
“นั่นเป็นตำแหน่งของฉัน ไสหัวไปซะ!” โจวเจ๋อที่เดิมทีรู้สึกเหนื่อยล้าตวาดขึ้นมาหลังจากเห็นเหตุการณ์นี้ เขาที่เพิ่งบุกฝ่าออกมาต้องวิ่งกลับไปเข้าไปต่อสู้อีกแล้ว
เงาดำรอบตัวยังคงทยอยเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย พยายามขัดขวางจังหวะก้าวเดินของโจวเจ๋ออย่างสุดชีวิต
เถ้าแก่โจวไม่แน่ใจ ทำไมสุนัขเฝ้าบ้านรุ่นก่อนพวกนั้น ถึงต่อสู้เต็มที่เพื่อสุนัขตัวหนึ่งซึ่งก็คือจงหวังคนนี้ หรือว่าหลี่ซิ่วเฉิงทำอาชีพเดิมอยู่ที่นี่ ล้างสมองของ ‘สุนัข’ พวกนี้ เมื่อลองคิดเชื่อมโยงกับประวัติความมั่งคั่งของไท่ผิงเทียนกั๋ว ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
แต่ก็ยังมีความผิดปกติบางอย่าง โจวเจ๋อคิดไม่ออก เงาดำโดยรอบเหมือนไม่เคยแห้งเหือดหายไปตลอดกาล โผล่ขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า พยายามเข้ามาขัดขวางโจวเจ๋ออย่างเต็มที่
โจวเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเดินอยู่ในสระ ความเร็วลดลงเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังสู้กลับไป เพียงแต่ตอนที่อยู่ห่างจากเสาทองสัมฤทธิ์ไม่ถึงหนึ่งเมตร ทันใดนั้นม่านกั้นสีดำปรากฏขึ้นมา ขวางทางของโจวเจ๋ออย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าโจวเจ๋อจะจับจะชนอย่างไร ม่านกั้นชั้นนี้ก็ไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว
จากม่านกั้น โจวเจ๋อสามารถมองเห็นหลี่ซิ่วเฉิงถูกมัดอยู่ด้านบน เหมือนกำลังขยับปากอยากจะพูดอะไร เป็นไปไม่ได้ เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร ไม่มีทางเป็นไปได้…เดิมทีคิดว่าเป็นแค่เขตแดนภาพลวงตา เดิมทีคิดว่าเป็นแค่การก่อกวน โจวเจ๋อที่อยู่ในเหตุการณ์กลับคาดคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะเลี้ยวมาทางนี้ ม่านกั้นชั้นนี้เป็นอะไรกันแน่ เกิดอะไรขึ้นกับเงาดำที่ลุกฮือขึ้นมาก่อกบฏ ทำไมเรื่องราวถึงกลายเป็นแบบนี้!
แม่นางไป๋ทำไม่ได้ถึงขั้นนี้ ถ้าหากเธอสามารถวางแผนได้ถึงขนาดนี้ สามารถจัดการและแทรกเข้ามาในสถานการณ์เช่นนี้ได้ เธอจะอยู่ที่โลกมนุษย์ทำอะไร ทำไมไม่ไปเป็นใหญ่อยู่ในนรก กระทั่งตรงไปคิดบัญชีกับอิ๋งโกวก็ยังได้!
…
“หว่านเอ๋อร์…หว่านเอ๋อร์…”
มองดูเถ้าแก่ของตัวเองเรียกชื่อของแม่นางไป๋ ใบหน้าของอิงอิงนิ่งขรึมเหมือนน้ำตาจะไหลลงมา
คำพูดก่อนที่วิญญาณของแม่นางไป๋จะแตกสลาย เวลานี้กำลังปรากฏขึ้นมาอย่างช้าๆ อิงอิงวางโทรศัพท์ ไม่รีบกดเบอร์โทรออก แต่ยกมือของตัวเองแล้วแทงลงไปตรงหน้าอกของเถ้าแก่โดยตรง!
‘ฉึก!’ เล็บทั้งห้านิ้วแทงทะลุทรวงอกของเถ้าแก่ในพริบตาเดียว หญิงสาวตัวดำที่อยู่ข้างๆ อ้าปากหวอ นี่มันวันอะไรกันแน่ ความสัมพันธ์ของเจ้านายกับสาวใช้คู่นี้มีความสนิทสนมกันแค่ไหนเธอก็รู้ หรือว่าเธอคิดจะทรยศในตอนนี้
…
‘พลั่ก!’ โจวเจ๋อคุกเข่าลงมาโดยตรง หน้าอกของเขาปรากฏหลุมสีดำหลุมหนึ่ง เจ็บปวดทรมานเป็นที่สุด ส่วนหลี่ซิ่วเฉิงที่ถูกมัดอยู่บนเสาทองสัมฤทธิ์ ร่างกายก็สั่นสะท้าน หน้าอกของเขาปรากฏหลุมหลุมหนึ่งเหมือนกัน ทว่าม่านกั้นสีดำในชั้นนี้ยังไม่สลายตัวเหมือนเดิม
กายเนื้อของตัวเองถูกโจมตีเหรอ โจวเจ๋อรู้ดีว่าต้องเป็นแบบนี้ แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของไป๋อิงอิง เวลานี้เถ้าแก่โจวยิ่งลนลาน
…
เล็บของไป๋อิงอิงแทงเข้าไปที่หน้าอกของโจวเจ๋อ เธอรีบเงยหน้าขึ้นทันที ตะโกนเรียกเงาคนด้านหลังเคาน์เตอร์ที่กำลังจะหายไปเกือบครึ่งตัวแล้ว “เกิดเรื่องกับเถ้าแก่ ช่วยเขาด้วย!”
ตอนนี้อิงอิงได้แต่ฝากความหวังไว้กับเขา อย่างไรเสียคนผู้นี้ก็ช่วยเธอปลดล็อกการควบคุมของแม่นางไป๋ที่กระทำกับเธอก่อนหน้านั้น
เงาคนที่กำลังจะหายไปเกือบครึ่งตัวเหมือนจะมีการตอบสนอง เริ่มหลอมตัวกลายเป็นควันดำอีกครั้งแล้วไหลลงกลางฝ่ามือของไป๋อิงอิง ซึ่งตำแหน่งนี้ติดอยู่กับหน้าอกของโจวเจ๋อ อิงอิงรับรู้ได้ถึงความร้อนกลางฝ่ามือของตัวเอง ในใจของเธอเต็มไปด้วยความหวังทันที ขอเพียงเขาออกโรง ก็ไม่น่ามีปัญหาใช่ไหม
…
โจวเจ๋อรู้สึกถึงความจุกเสียดตรงหน้าอกของตัวเอง ต่อจากนั้นเงาของคนผู้หนึ่งได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ ยามที่เขาปรากฏตัว เงาดำอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบเหมือนเจอศัตรูตัวฉกาจรีบกระจายหายตัวไปภายในพริบตา
“เจ้าโง่ ใช่คุณหรือเปล่า จริงๆ เลย เจ้าโง่ คุณตื่นแล้วใช่ไหม” โจวเจ๋อตะโกนพูดกับเงาคน ทำไมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้แปลกพิลึกทั้งนั้น เจ้าโง่ตื่นแล้วใช่ไหม เช่นนั้นที่นี่ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วน่ะสิ ที่นี่เป็นถิ่นของเจ้าโง่ เป็นรังเก่าของเขา ถ้าหากเขาตื่นแล้ว ไม่ว่าจงหวังหรือเทียนหวังล้วนเป็นแค่เศษขยะ
แต่ใครจะคิดว่า เงาคนจะชูมือขึ้นกะทันหัน โจวเจ๋อคิดว่าเจ้าโง่กำลังทักทายตัวเอง ผลปรากฏว่า ‘เพียะ!’ หนึ่งฝ่ามือตบเข้ามา เถ้าแก่โจวที่เพิ่งสุขใจเมื่อครู่ถูกตบกระเด็นออกไปอย่างไม่เข้าใจ
“ชาติ…ชั่ว…”
“…” โจวเจ๋อ
………………………………………………………………………..