ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 607 ภูเขาไท่ซาน

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 607 ภูเขาไท่ซาน

“ชาติ…ชั่ว…”

ร่างกายของมนุษย์มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นเครื่องอัดที่เล่นซ้ำได้ ไป๋อิงอิงคิดว่าตัวตนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าโง่ ต้องช่วยเถ้าแก่ของตัวเองได้แน่นอน

เธอเป็นคนที่สนิทสนมกับเถ้าแก่ของตัวเองมากที่สุด มีหลายเรื่องที่รู้ดีมากกว่าทนายอัน อย่างเช่น ทัศนคติของเถ้าแก่ที่มีต่อคนนั้นที่อยู่ในร่างของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ตอนแรกเถ้าแก่เป็นกังวลอย่างยิ่ง กังวลว่าตัวเองจะถูกกลืนกิน สูญเสียความเป็นตัวเองอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเท่ากับ ‘ฆ่าตัวตาย’

แต่นานวันเข้าอิงอิงสามารถสัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเถ้าแก่ของตัวเองกับคนนั้นว่ามีเริ่มทิศทาง ‘ที่ยากจะอธิบาย’ เข้าไปทุกที ถ้าหากไม่ใช่เพราะรู้จักนิสัยของอิ๋งโกวว่าเป็นผู้ชายทั้งแท่ง อิงอิงคงจะคิดว่าตัวเองมี ‘ศัตรูความรัก’ เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน นอกจากนี้หากพูดถึงลำดับศักดิ์ยังถือว่าเป็นบรรพบุรุษใหญ่ของตัวเอง!

แบบนี้จะตั้งกฎวางท่าเป็นเมียหลวงได้อย่างไร ใครต้องคำนับใคร

แต่สิ่งที่ทำให้อิงอิงคาดไม่ถึงคือ อิ๋งโกวได้ทิ้งทางหนีทีไล่ไว้ให้เธอในตอนแรก อันที่จริงก็ไม่ได้คิดไกลขนาดนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่ก็จริง ด้วยนิสัยของอิ๋งโกว จะใช้สมองคิดการณ์ไกลได้อย่างไร

อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเขาเห็นความแตกต่างของอิงอิง อย่างไรก็ตามร่างนี้ของอิงอิงช่วงที่เป็นแม่นางไป๋เคยกินเลือดและเนื้อของหลี่ซิ่วเฉิงมาก่อน และตอนนั้นอิ๋งโกวก็อยู่ในร่างของหลี่ซิ่วเฉิงเช่นกัน เขาสามารถมองออกถึงสิ่งที่เชื่อมโยงกัน ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

อาจจะเป็นไปได้ว่า ลำพังแค่มองผีดิบสาวคนนี้ทำเสียงออดอ้อน ‘อิ๋งๆๆ’ กับปลาเค็มตัวนั้น แต่กลับตีตัวออกหากจากตัวเองจึงโกรธ ถึงได้ทิ้งสิ่งของให้เธอด้วยความตั้งใจ ไม่ว่าอย่างไร ถ้าหากหากนำมาเปรียบเทียบเป็นโปรแกรม ถือว่าง่ายดายเกินไปจริงๆ หลังจากเกิดการสัมผัสกัน มีเพียงประโยคที่เหมือนกันและการกระทำที่เหมือนกัน

เถ้าแก่โจวหลังจากโดนตบลอยออกไป เขารู้สึกงุนงงไปทั้งตัว ถึงแม้ว่าจะถูกดึงเข้ามาในส่วนลึกของวิญญาณตัวเองอย่างไม่รู้สาเหตุ ถึงแม้ว่าม่านกั้นสีดำอันแปลกประหลาดจะโผล่มาขัดขวางตัวเอง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่า เงาร่างของอิ๋งโกวจะปรากฏออกมา และยังเข้ามาตบหน้าเขาโดยตรง!

‘พลั่ก!’ ตอนที่โจวเจ๋อร่วงลงไป ตัวไม่ได้ตกถึงพื้น แต่รู้สึกเหมือนตัวเองตกลงไปในน้ำ นอกจากนี้ยังร่วงลงไปไม่หยุด เหมือนไร้ซึ่งก้นบึ้งอย่างสิ้นเชิง เขาดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ

ดำดิ่ง

ดำดิ่ง…

สิ่งที่เข้าตากลับไม่ใช่ความมืด แต่เป็นแสงสีฟ้าคราม สีฟ้าครามที่เงียบสงัด ไม่ว่าสีใดๆ ถ้าหากมีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งเพียงอย่างเดียว ล้วนให้ความรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกแก่ผู้คน โจวเจ๋อในเวลานี้ก็รู้สึกแบบเดียวกัน การตบหน้าของเจ้าโง่ ทำให้พลังที่โจวเจ๋อกัดฟันยืนหยัดก่อนหน้านี้หายไปทันที ตอนนี้เขาเหนื่อยมากจริงๆ

เหลือบมองไปรอบๆ จากหางตา โจวเจ๋อพบว่าด้านล่างมีเงาร่างของแต่ละคนลอยอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ ใส่เสื้อผ้ารูปแบบต่างๆ นานา อายุแตกต่างกัน หน้าตาไม่เหมือนกัน ทุกคนถูกวางอยู่ที่ก้นน้ำลึกอย่างเงียบๆ ที่พักพิงของตัวเขาเองก็คือที่นี่ใช่หรือไม่ เขาเหนื่อยและอ่อนล้ามากจริงๆ เขาอยากจะยอมแพ้ละทิ้งการดิ้นรนทุกอย่างแล้วพักผ่อนตามอำเภอใจ

มีหลายคนที่เคยผ่านประสบการณ์ที่คล้ายกันแบบนี้ เนื่องจากเรื่องราวยุ่งมากเกินไปจนไม่มีเวลาพักผ่อน ตอนเช้าต้องดิ้นรนลุกขึ้นมาจากเตียง อยากจะทิ้งการเรียนอยากจะทิ้งงานวางข้อผูกมัดทุกอย่างแล้วนอนหลับจนฟ้ามืดมัวดิน

‘อึกๆ…อึกๆ…’ เกิดฟองอากาศข้างตัวโจวเจ๋อ สุดท้ายก็ยังไม่ยอมอยู่ดี ไม่อยากยอมรับโชคชะตา ตอนแรกต่อสู้กับเจ้าโง่ก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้แต่นิดเดียว ตอนนี้ทำไมแม้แต่สุนัขสายพันธุ์เดียวกันกลับคลานขึ้นมาบนหัวของเขาได้เล่า

ฉันยังไม่ตายนะ!

‘ฟุบ!’ ลำแสงสีแดงทะลุผ่านก้นทะเลลึก พุ่งมาอยู่ข้างตัวโจวเจ๋อ โจวเจ๋อยื่นมือจับมัน ลำแสงหายไป เผยให้เห็นปากกาโบราณด้ามหนึ่ง 艾琳小說

“เกือบ…ลืม…เจ้า…แล้ว…” ทุกอย่างอาจจะเกิดขึ้นเร็วเกินไป การพลิกผันก็เหนือความคาดหมาย ทำให้โจวเจ๋อไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามีที่พึ่งใหม่

ปากกาพิฆาตอย่างเจ้างั่งเคยผนึกอิ๋งโกวมาก่อน โจวเจ๋อไม่เชื่อว่าวันนี้ตัวเองจะจัดการสุนัขกลุ่มนี้ไม่ได้! เขายกแขนขึ้นมา ปากกาพิฆาตเริ่มลอยขึ้นไป ลากตัวของโจวเจ๋อให้ลอยขึ้นไปเช่นกัน

ท่ามกลางความมืดมิดที่อยู่ด้านล่างมีคนยืนเบียดเสียดเต็มไปหมด คนเหล่านี้ล้วนเป็นสุนัขเฝ้าบ้านแต่ละยุคของอิ๋งโกว ตอนที่โจวเจ๋อเริ่มลอยขึ้นไป กลุ่มคนที่รวมตัวอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับแต่เริ่มเดิมทีจู่ๆ กลับลืมตามองขึ้นไปข้างบนพร้อมกัน

วินาทีต่อมา ทุกคนชูสองมือขึ้น ชั่วเวลาเดียวผิวน้ำสีฟ้าครามที่ทำให้คนใจสั่นกลายเป็นสีดำในพริบตา ประดุจน้ำหนึ่งกะละมังถูกคนให้ขุ่นมัว!

โจวเจ๋อรู้สึกว่ามีพลังอันน่าสะพรึงกลัวพยายามดึงตัวเขาอย่างสุดฤทธิ์ ทำท่าจะดึงตัวเขาลงไปให้ได้!

ผู้ใหญ่ตามหมู่บ้านในชนบทเพื่อให้ลูกหลานของตัวเองอยู่ห่างจากสระน้ำ มักจะแต่งเรื่องผีทำให้พวกเขาตกใจกลัว บอกว่าที่นั่นเคยมีคนจมน้ำตาย อยากจะหาตัวตายตัวแทนพอดี ระวังอย่าไปตรงนั้นเดี๋ยวจะถูกดึงลงไป

เถ้าแก่โจวในเวลานี้มีความรู้สึกแบบนี้เช่นกัน พวกคนที่อยู่ด้านล่างก็ไม่อยากให้เขาออกไป! แต่เขายังไม่ค่อยเข้าใจ หลี่ซิ่วเฉิงกลับขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง แต่พวกที่อยู่ข้างล่างนี้ก็ตายไปแล้ว ทำไมถึงสู้กับเขาสุดชีวิตขนาดนี้ ลากเขาลง ส่งหลี่ซิ่วเฉิงขึ้น สำหรับพวกเขาแล้วมีข้อดีอะไร

น่าเสียดาย อย่างไรเสียที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่พูดจาด้วยเหตุผล ไม่อย่างนั้นเถ้าแก่โจวคงอยากจะพูดกับพวกเขาดีๆพูดข้อเสนอ เขาหลี่ซิ่วเฉิง เธอแม่นางไป๋ ได้สัญญาว่าจะให้อะไรกับพวกคุณกันแน่ พวกคุณถึงช่วยกันขนาดนี้

ปากกาพิฆาตอยู่ในมือ เถ้าแก่โจวคำรามเสียงต่ำออกมา ปลายปากกาสั่นไหว น้ำหมึกสีเลือดขยายออกมา ปรากฏคำว่า ‘ผนึก’ ตัวใหญ่ แล้วกดทับลงไปด้านล่าง!

‘ครืน!’ เกลียวคลื่นโหมซัดสาดท่ามกลางน้ำทะเล!

โจวเจ๋อรู้สึกมึนศีรษะ ราวกับระเบิดอยู่ในศีรษะของตัวเอง เจ็บทรมานเหมือนวิญญาณจะแตกสลาย และด้วยจังหวะนี้ โจวเจ๋อจึงสามารถลอยขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำได้สำเร็จ พื้นทะเลหายไปกลายเป็นพื้นอิฐ บริเวณรอบๆ ยังคงเป็นเสาทองสัมฤทธิ์แน่นขนัดเหมือนเดิม และบนเสาต้นที่อยู่ตรงกลางสุดได้มัดหลี่ซิ่วเฉิงเอาไว้

ม่านกั้นบ้าบอก็ยังอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม ลมหายใจหอบหนัก โจวเจ๋อรู้สึกถึงความอ่อนแรงของตัวเอง ไม่ว่าจะต่อสู้อย่างไร สุดท้ายก็ต่อสู้กับตัวเองอยู่ดี ยิ่งสู้จึงยิ่งเหนื่อยเป็นธรรมดา แต่เวลานี้ไม่สามารถพักผ่อนได้

ไม่มีเหตุผลที่ต่อต้านอิ๋งโกวมาตั้งนานและไม่เคยแพ้ ผลสุดท้ายกลับโดนคนอื่นคาบไปกินแทน ถ้าหากวันหลังอิ๋งโกวตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าสุนัขเฝ้าบ้านเปลี่ยนคนแล้ว ไม่แน่อาจจะถูกไอ้หมอนั่นขำก๊าก!

โจวเจ๋อถือปากพิฆาตอยู่ในมือเดินไปตรงหน้าม่านกั้นสีดำ แล้วเสียบเข้าไปโดยตรง!

‘ครืน!’ ปลายปากกาพิฆาตทิ่มเข้าไปในม่านกั้นแต่กลับไม่สามารถขยับเข้าไปได้มากกว่านี้ ติดอยู่ตรงกลางอยู่แบบนั้น และบนเสาทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ด้านหลังม่านกั้น ร่างกายที่พังยับของหลี่ซิ่วเฉิงได้ลืมตาอย่างช้าๆ แววตาที่ขุ่นมัวแต่เดิมเริ่มสดใส เขาเหมือนกำลังครุ่นคิด และไม่ช้าก็เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้

“ร่างกายนี้ มอบให้ข้า พระบิดาจะอวยพรความโชคดีให้กับเจ้า”

โจวเจ๋อหัวเราะ เขารู้สึกโกรธจนหัวเราะออกมา นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังจะแสดงปาหี่หลอกลวงประชนที่โง่เขลาอีกเหรอ พระบิดา พระบิดาอยู่ที่ไหน ถ้าหากมีพระบิดาอยู่จริง ทำไมหงซิ่วเฉวียนถึงพ่ายแพ้ ราชวงศ์ชิงทำไมหลังจากเทียนผิงไท่กั๋วแล้วถึงได้ครองประเทศอีกหกสิบปี ฉันเป็นยมทูตเกือบจะสองปีแล้ว ยังไม่รู้ว่าบนสวรรค์มีคนอยู่ด้วย!

‘แกร๊ก!’ ไม่ใช่เสียงแตกละเอียดของม่านกั้น แต่เป็นตัวปากกาพิฆาตที่เริ่มแตกแยกออก ฉากนี้ทำให้โจวเจ๋อใจสั่น ปากกาพิฆาตเป็นอาวุธวิเศษสุดยอดสามารถปราบอิ๋งโกวได้อยู่หมัด แต่ไม่สามารถทำอะไรม่านกั้นได้อย่างสิ้นเชิง ม่านกั้นนี้คืออะไรกันแน่!

เวลานี้ ใต้ดินของสวนดอกไม้ที่อยู่ด้านนอกร้านหนังสือ ป้ายอันนั้นกลายเป็นสีดำปี๋ สั่นสะท้านไม่หยุด เสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังมาจากด้านใน แต่อ่อนแรงอย่างมาก ไม่สามารถส่งผ่านมาถึงด้านบน

และบริเวณรอบๆ นี้ กลับมีเส้นไหมหลากสีหมุนวนอยู่ไม่หยุด เสียดายที่ทุกอย่างถูกฝังอยู่ใต้ดิน ไม่มีคนที่มีวาสนาได้เห็นปรากฏการณ์แห่งเซียนที่แตกต่างกับนรกราวฟ้ากับดิน!

หลี่ซิ่วเฉิงหลับตาอีกครั้ง สายโซ่ เสาทองสัมฤทธิ์ ราวกับกำลังหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเขา เขาพยายามฝืนให้ร่างกายของโจวเจ๋อหลอมรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นขั้นตอนการ ‘ยึดและแทนที่’ อย่างสมบูรณ์!

ตอนนั้นโจวเจ๋อใช้วิธียืมศพคืนชีพกับร่างของสวีเล่อ อันที่จริงเป็นวิธีที่ง่ายและหยาบกระด้างมากที่สุด แต่ครั้งนี้ด้วยลักษณะพิเศษทางวิญญาณของเจ้าโง่ เป็นผลทำให้ทุกคนสามารถสร้างอารามในเปลือกหอย[1]ได้ ทุกสิ่งที่แย่งกันจริงๆ แล้วไม่ใช่สิทธิ์ในการควบคุมกายเนื้อเท่านั้น แต่ยังมีสิทธิ์ในการควบคุมจิตวิญญาณรวมอยู่ด้วย!

ยกตัวอย่างเช่น วิญญาณของคนทั่วไปจะมีความคล้ายกับครอบครัวเล็ก จำนวนประชากรน้อย กระทั่งคนส่วนใหญ่ยังเป็นชายโสดอยู่คนเดียว

ผู้ป่วยโรคจิตแตกแยก จิตสำนึกด้านในวิญญาณจะคล้ายกับครอบครัวเล็ก สองคนสามีภรรยาหรือไม่ก็สามคนพ่อแม่ลูก ถ้าหากมากกว่านี้ อาจจะป่วยเกินเยียวยา

แต่โจวเจ๋อด้วยบุญของอิ๋งโกว มีลูกหลานเยอะแยะมากมายกิจการใหญ่โต ไม่ต่างจากจวนหรงกั๋วกับจวนหนิงกั๋วที่อยู่ใน ‘ความฝันในหอแดง’ ตอนนี้อิ๋งโกวกำลังนอนหลับใหล ทุกคนในครอบครัวจึงเริ่มแย่งตำแหน่งตัวแทนเจ้าบ้านของบ้านหลังนี้อีกครั้ง หรือจะพูดให้ถูกต้องอีกหน่อยก็คือ ตำแหน่งหัวหน้าพ่อบ้าน!

หลี่ซิ่วเฉิงลืมตาอีกครั้ง เสาทองสัมฤทธิ์ต้นนี้กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นไม่หยุด โซ่เหล็กเริ่มหนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดทั้งมวลกำลังมุ่งไปทางที่เขาต้องการ

“ข้าขอโทษเจ้า ข้าจะจดจำเจ้า สัญญาว่าจะจุดธูปบูชาเจ้า จะบันทึกใส่ราชพงศาวลี!”

“ใครสนใจ!”

โจวเจ๋อมองม่านกั้นสีดำตรงหน้า แต่กลับจนใจอยู่บ้าง ปากกาพิฆาตเริ่มจะแตกแล้ว แต่ม่านกั้นสีดำขอเพียงมันยังคงอยู่ โจวเจ๋อไม่อาจก้าวแม้แต่ก้าวเดียว

“เจ้ากับข้าล้วน…โชคร้าย…คนที่ถูกเลือก…ล้วน…เป็นคนโชคร้าย” หลี่ซิ่วเฉิงรู้สึกทอดถอนใจ แต่คำพูดเหล่านี้เมื่ออยู่ในหูของโจวเจ๋อ มีความหมายว่าได้ผลประโยชน์แล้วยังทำเหมือนขาดทุน

“เหอะๆ งั้นเหรอ อย่างน้อย ผมก็โชคดีกว่าคุณเยอะมาก” โจวเจ๋อถอยหลังหนึ่งก้าว ไม่ออกแรงใช้ปากกาพิฆาตต่อไป แต่พยายามเริ่มสร้างผนึก ในหัวของเขาปรากฏตอนที่อิ๋งโกวทำสัญญาแลกเปลี่ยนกับตัวเองจึงได้บอกวิธีเปิดการใช้งานหนังสือรับรองยมทูตกับเขา และนั่นเป็นตอนที่กากเดนของนรกขุมที่เก้าขึ้นมาในครั้งนั้น

“ราชมงคลคุ้มภัย!” โจวเจ๋อทำมุทราเสร็จแล้วจึงคำรามเสียงต่ำ หนังสือรับรองยมทูตลอยขึ้นตรงหน้าเขา และสิ่งที่มาพร้อมกับหนังสือรับรองยมทูตก็คือความมืดมิดไปทั่ว โจวเจ๋อกับหลี่ซิ่วเฉิงเงยหน้าขึ้นไปข้างบนพร้อมกัน ข้างบนเป็นภูเขาไท่ซานลูกหนึ่ง

………………………………………………………………………..

[1] สร้างอารามในเปลือกหอย หมายถึง ทำเรื่องยุ่งยากซับซ้อนในที่แคบ

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท