ตอนที่ 608 ระเบิดเลย!
นับตั้งแต่ที่อิ๋งโกวดับสูญ และฟื้นฟูกลับมาอย่างช้าๆ ด้วยวิธีการแอบซ่อนตัว ในช่วงระหว่างนี้ไม่รู้ว่าเกิด ‘สุนัขเฝ้าบ้าน’ ไปกี่ตัวแล้ว
สุนัขเฝ้าบ้านโดยส่วนใหญ่ ไม่มีบุญได้รู้ว่าที่แท้ในร่างของตัวเองมีอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงอยู่ในตัว บางทีจนกระทั่งหลังจากที่ตัวเองตายไปแล้ว ถึงถูกอิ๋งโกวใช้มือสะกิดตราประทับแห่งจิตสำนึกไว้ เหมือนแฟนตัวยงที่ชอบสะสมโมเดลฟิกเกอร์ ทว่าอิ๋งโกวเล่นในระดับที่สูงกว่า แต่ ‘สุนัขเฝ้าบ้าน’ บางตัวก็มีความพิเศษเฉพาะตัวอยู่บ้าง สามารถแอบมองถ้ำสวรรค์ได้
หลี่ซิ่วเฉิงพอที่จะเป็นหนึ่งในนั้นได้บ้าง หลังจากต่อสู้ในสนามรบ ร่างกายย่อมมีพลังปราณพิฆาตติดตัวเป็นธรรมดา จากนั้นจึงค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ อย่างเช่น เขาเคยพูดกับแม่นางไป๋ว่า ตอนที่ตัวเองฝัน มักจะฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์กระดูกขาว
แน่นอนว่าเป็น ‘การสื่อสารทางจิตกับเทพ’ ที่เบาบาง และด้วยความหยิ่งยโสอวดดีของอิ๋งโกว ‘สุนัขเฝ้าบ้าน’ จากปากของเขา ไม่ใช่คำเรียกคนรักเหมือนที่ผู้หญิงมักเรียกผู้ชายว่า ‘คนผีทะเล’ อิ๋งโกวมองพวกเขาแต่ละรุ่นเป็นสุนัขจริงๆ ด้วยเหตุนี้ ตอนที่หลี่ซิ่วเฉิงที่ได้ฉายาว่าผู้ซื่อสัตย์หมื่นปีร่วงลงมาจากตำแหน่ง ‘จงหวัง’ ซึ่งเป็นเสาค้ำฟ้าของไท่ผิงเทียนกั๋ว อิ๋งโกวจึงไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว มองดูเขาขึ้นตึกสูง มองดูเขาจัดงานเลี้ยง แล้วมองดูเขาตกลงมาจากตึก
บางทีและอาจจะมีสาเหตุอื่นประกอบด้วยอีกหลายอย่าง อย่างเช่น เรื่องในโลกมนุษย์ ไม่สะดวกที่จะเข้ามาแทรก ไม่อย่างนั้นอาจจะเปิดเผยตัวเองได้ง่าย นับตั้งแต่โบราณเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นคนที่การกำลังบำเพ็ญตบะหรือว่าคนที่อยู่ในนรกภูมิ ล้วนไม่กล้าเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องของในโลกมนุษย์ มิฉะนั้นก็คือรนหาที่ตาย
แต่นี่เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งเท่านั้น เหตุผลที่สำคัญที่สุด อาจเป็นเพราะอิ๋งโกวขี้เกียจขยับตัวอย่างสิ้นเชิง แค่สุนัขเฝ้าบ้านตัวหนึ่งตายเท่านั้น เปลี่ยนตัวใหม่ก็พอ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
สุนัขเฝ้าบ้านเยอะแล้ว มักจะมีตัวที่โดดเด่นเป็นพิเศษออกมาอยู่เสมอ โจวเจ๋อรู้ดี ว่าตัวเองไม่ใช่ที่หนึ่งแน่นอนไม่อย่างนั้นร่างที่พังยับเยินที่อยู่ในศูนย์วิจัยใต้ดินของคนญี่ปุ่นในปีนั้นจะอธิบายอย่างไร แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นต้องมีคนหนึ่งที่เป็น ‘สุนัขเฝ้าบ้าน’ เหมือนตัวเองและสามารถยืมพลังของอิ๋งโกวได้เช่นกัน และทำให้ร่างกายของตัวเองที่แปดเปื้อนพลังพิฆาตของอิ๋งโกวกลายเป็นผีดิบ
ต่อมากายเนื้อนั้นของคนอื่นถูกคนญี่ปุ่นจับได้ จึงถูกมองเป็นของวิจัยอันล้ำค่า หวังว่าจะได้รับพลังวิเศษ ลัทธิฟาสซิสต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง ดูเหมือนจะมีแนวคิดที่ค่อนข้างไร้เหตุผลเกี่ยวกับสายเลือดและเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ ทำให้คนในยุคปัจจุบันยากที่จะเข้าใจอยู่บ้าง แต่ถึงแม้จะอยู่ในหมู่พวกที่เป็นกรณีพิเศษเหล่านั้น เถ้าแก่โจวก็เป็นหนึ่งใน ‘สุนัขเฝ้าบ้าน’ ที่อย่างแน่นอน จึงเป็นที่โปรดปรานมากที่สุดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
ไม่ใช่เพราะอิ๋งโกวใจดีพบว่าอายุมากแล้วจึงมีความเมตตา เข้าใจการรักและทะนุถนอมสัตว์ตัวเล็กน่ารัก แต่เป็นเพราะเหตุความบังเอิญและโชคชะตาหลายๆ อย่างๆ รวมกัน
‘หนังสือรับรองยมทูต’ ของไท่ซานฝู่จวิน เป็นหนึ่งในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่ใหญ่ที่สุด! อาจจะเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งอิ๋งโกวตื่นขึ้นมาหาว แล้วตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อพบว่าสุนัขในคอกพันธุ์ผสมของตัวเองไม่รู้ว่าไปคาบยกระดูกทองคำมาจากที่ไหน!
แน่นอนว่าสาเหตุหลายอย่างในตอนเริ่มต้นนั้นคือสิ่งที่เหนือความคาดหมายหลายอย่าง เป็นผลทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเริ่มขยับแน่นเข้ามา และเมื่อนานมาแล้ว โจวเจ๋อถึงแม้จะสามารถยืมพลังของอิ๋งโกวออกมาใช้ได้ แต่กลับไม่รู้ว่ายังมีอีกคนหนึ่งอยู่ในร่างของตัวเอง
จากแม่สื่อ เป็นสินสอดทองหมั้น จากนั้นก็หมั้นหมาย และต่อมาหลังจากนั้นคือการแต่งงานเลี้ยงฉลองครั้งใหญ่ แล้วส่งตัวเข้าหอ ค่อยๆ เดินลึกเข้าไปทีละก้าว ค่อยๆ ทำความเข้าใจทีละขั้นตอน แน่นอนว่าในนี้ย่อมมีสาเหตุมาจากจึงเป็นเหตุของนิสัยที่เข้ากันได้มีความคล้ายคลึงผสมอยู่ด้วยเป็นธรรมดา
ถึงแม้ว่าอิ๋งโกวจะไม่พอใจมากต่อความคิดปลาเค็มไม่รู้จักพัฒนาตัวเองของเถ้าแก่โจว แต่ตัวเขาเองในตอนแรกก็เป็นเพราะว่าขี้เซาและเกียจคร้านจึงถูกเซี่ยจื้อไล่ลงนรกเพื่อตักเตือน ทว่าเขาในตอนนั้นแข็งแกร่งเกินไปจึงซัดเซี่ยจื้ออย่างหนัก
โจวเจ๋อเป็นหนึ่งใน ‘สุนัขเฝ้าบ้าน’ หลายตัว แต่โจวเจ๋อเป็นตัวที่พิเศษไม่เหมือนใครคนหนึ่ง ถ้าอยากให้คนอื่นคุณต้องทึ่งในตัวคุณ อย่างแรกคุณต้องมีทุน คุณต้องมีคุณสมบัติที่ทำให้คนไม่ดูถูกและยินดีที่จะมองคุณ!
‘“ครืน!’” เสียงดังตูมขนาดใหญ่ดังเข้ามา หนังสือรับรองยมทูตกระจายแสงสีฟ้าออกมา ลอยอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อไม่หยุด ภูเขาไท่ซานที่อยู่ด้านบนบดบังท้องฟ้าปกคลุมลงมาโดยตรง!
ภูเขาไท่ซานตั้ง ฟ้าดินสงบ!
สีหน้าของหลี่ซิ่วเฉิงเปลี่ยนไปดูไม่ได้เป็นอย่างมาก แต่โจวเจ๋อไม่มองนาน เพราะทั้งสองคนและเสาทองสัมฤทธิ์แต่ละต้นที่เบียดเสียดแน่นขนัดได้ถูกภูเขาไท่ซานที่สูงตระหง่านโดดเด่นกดทับลงมาโดยตรง!
‘“แกร๊ก!’” ม่านกั้นสีดำที่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้จนแม้แต่ปากกาพิฆาตยังไม่สามารถแทงทะลุม่านกั้นสีดำเริ่มแตกออก ถึงแม้จะต้านกำลังได้ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็พังทลายลงมา เสาทองสัมฤทธิ์แต่ละต้นเริ่มพังครืนลงมา ภูเขาถล่มแผ่นดินแยก นี่คือภูเขาถล่มพื้นแยกของจริง!
‘“ครืน!’” ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย และมีความเป็นไปได้ว่า ทะเลใหญ่ที่โจวเจ๋อจมลงไปก่อนหน้านั้นรวมถึงเงาร่างของแต่ละคนที่อยู่ในส่วนลึกสุดของทะเล ได้ถูกภูเชาไท่ซานลูกนี้กดทับเช่นนั้น!
โลกสงบหรือไม่สงบโจวเจ๋อไม่รู้ อย่างน้อยวิญญาณของตัวเองที่อยู่ในนี้ ได้สงบลงในท้ายที่สุด ตอนที่ลืมตาโจวเจ๋อพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนยอดเขาไท่ซาน และภูเขาไท่ซานนี้ไม่ต่างจากภูเขาลูกนั้นที่เขาเห็นตอนที่ลงไปนรกเป็นเพื่อนอิ๋งโกว แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ต่างกันอาจจะเป็นภูเขาไท่ซานที่อยู่ในนรก ถูกพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ตัดจนโล่งเตียนไปทั้งลูก แล้วสร้างศาลเจ้าขนาดเล็กแห่งหนึ่ง แต่ที่นี่มีเพียงต้นสนไผ่เขียวชูสลอน โต๊ะหินตัวหนึ่งกับเก้าอี้หินอีกตัวหนึ่ง เงียบสงบเป็นอย่างมาก
โจวเจ๋อคลานขึ้นมาอย่างโซเซ รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว และง่วงนอนเป็นอย่างมาก เขาเพราะรู้ดีสึกว่าสาเหตุเกิดจากสูญเสียพลังของตัวเองมากเกินไป
อันที่จริงตอนที่เดินทางไปนรก แล้วตัวเขาเดินออกมาจากสะพานไน่เหอกลับโลกมนุษย์ ในส่วนของจิตวิญญาณนั้นมีความก้าวหน้าไปอีกหนึ่งขั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้ เขาคงล้มหมอบลงไปก่อนหน้านั้นแล้ว
โจวเจ๋อเดินมาข้างเก้าอี้หินพลางมองไปรอบๆ เขาจำได้ว่าตอนแรกที่อยู่ในถ้ำของเด็กผู้ชาย เคยฝันเห็นผู้ชายชุดขาวคนหนึ่ง พร้อมเจ้าลิงน้อยงตัวหนึ่งถือถ้วยสุราอยู่ข้างๆ แต่ที่นี่กลับไม่เห็น
โจวเจ๋อรู้ดี สาเหตุที่อิ๋งโกว ‘ให้ความสำคัญ’ กับตัวเองก่อนหน้านั้น หนังสือรับรองยมทูตของไท่ซานฝู่จวินคือปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งอย่างแน่นอน มนุษย์เราก็เป็นเช่นนี้ เดิมทีเพิกเฉยกับสิ่งของของตัวเอง แต่พอคนนอกจู่ๆ คิดถึงขึ้นมา ตัวเองจึงเริ่มให้ความสำคัญทันที
เมื่อลังเลพักหนึ่ง โจวเจ๋อจึงเข้าไปชิดเก้าอี้หิน แล้วโน้มตัวนั่งลงไป ทันทีที่หย่อนก้น โจวเจ๋อรู้สึกตัวสั่น เขารีบลืมตาทันทีแล้วนั่งตัวตรง พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเคาน์เตอร์ในร้านหนังสือ
นี่คือกลับมาแล้วเหรอ
“เฮ้อ…” โจวเจ๋อถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
“โอ๊ย…” เจ็บจริง โจวเจ๋อก้มหน้ามองหนึ่งที พบว่าที่หน้าอกของตัวเองมีรอยบุ๋มอาบเลือดห้าน้าจุด เขารู้สึกช็อก พลางเงยหน้าขึ้นมองไป๋อิงอิงและหญิงสาวตัวดำยืนอยู่ข้างๆ ตัวเอง สิ่งที่ทำให้โจวเจ๋อรู้สึกแปลกใจคือ อิงอิงกำลังมองเขาตัวเองด้วยใบหน้าที่ระแวดระวัง
“อิงอิง”
“เอ่อ…” อิงอิงตกตะลึงเล็กน้อย เธอคิดว่าเป็นจงหวังตื่นขึ้นมาอีกแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกผิดปกติ จึงถามทันที “ท่านคุณเป็นคือหลี่ซิ่วเฉิงหรือว่าเถ้าแก่ของข้าฉัน”
โจวเจ๋อเอามือป้องหน้าอกด้วยความเจ็บปวดก เมื่อได้ยินดังนั้นรู้สึกตลกอยู่บ้าง แต่ก็ยังพูดว่า “อิงอิง”
“หืม”
“เด็กดี ไหนเรียกซิ”
“ฮือๆๆๆ…” หลังจากรู้ว่าเป็นเถ้าแก่ อิงอิงจึงกระโจนเข้าหา กอดโจวเจ๋อที่นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์อย่างแน่น แต่คงจะใช้แรงมากเกินไป โจวเจ๋อเห็นรอยบุ๋มอาบเลือดห้าจุดตรงหน้าอกตัวเองที่กำลังสมานตัวมีแผลปริออกมา เลือดสดห้าสายพุ่งออกมา ‘“ปิ้วๆๆๆๆ!!!!!’”
…
“ฉันอยู่ข้างเขาไท่ม่ซาน เถาวัลย์ที่จับความรักของฉันจงฟังฉัน เธอคือเจนนี่คนงาม จูงมือฉันท่องไปสุดขอบฟ้า”นักพรตเฒ่าขับรถพร้อมกับร้องเพลงไปพลางๆ เขาเดิมทีเป็นคนที่ทันสมัย ตอนที่ไลฟ์สดก่อนหน้านั้นก็ได้รับความนิยมเช่นกัน มีชื่อเสียงในแวดวงนี้ พี่ไคกับพี่ฟาตอนแรกก็เป็นเพื่อนสนิทของเขา
“คุณไม่เป็นห่วงเลยเหรอ” โกวซินสงสัยอยู่บ้าง เขาก่อนหน้านั้นเขาถือว่าพูดอย่างชัดเจนแล้ว เถ้าแก่ของอีกฝ่ายน่าจะมีอันตราย แต่นักพรตเฒ่าแค่ขับรถให้เร็วขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น ทว่าไม่มีอารมณ์ของความรีบร้อนแต่อย่างใด 艾琳小說
“เถ้าแก่ของข้าเป็นคนโชคดี ถึงแม้ชอบทำให้ตัวเองบาดเจ็บเป็นแผลไปทั้งตัว แต่ไม่ช้าก็กลับมากระโดดโลดเต้นได้เหมือนเดิม ข้าชินแล้ว”
“เหอะๆ”
“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ พอนึกถึงเจ้าที่พูดว่าอยากจะรับเถ้าแก่ของข้าเป็นลูกน้องก่อนหน้านั้น ข้าอยากจะหัวเราะ”
โกวซินไม่พูด เพราะเรื่องจริงมันตบหน้าเขาเอง เขาจริงๆ แล้วรู้สึกลนลานเล็กน้อย เขาไม่แน่ใจว่าวันนี้ตัวเองซวยจริงๆ ใช่ไหม หรือว่าความโชคดีที่ทำให้เขาราบรื่นมาตลอดก่อนหน้านั้นหมลดลงแล้ว
เมื่อเห็นใบหน้าที่หดหู่ของเขา นักพรตเฒ่ารู้สึกขอโทษอยู่ในใจ ไม่ว่าอย่างไรในกระเป๋าของตัวเองยังมีอาวุธที่เพิ่งคลำหาเจอขจากบนตัวของเขาอยู่ได้มากมาย
“อย่าท้อใจไปเลย กลับไปร้านหนังสือแล้ว เจ้าไปรักษาและผ่าตัดที่ร้านข้างๆ ส่วนข้า จะให้ยันต์กระดาษกับเจ้าหนึ่งแผ่น เจ้าเอาไปเผาแล้วทำเป็นน้ำดื่ม จะรักษาโชคชะตาของเจ้าได้”
“จริงเหรอ”
“แน่นอนอยู่แล้ว” นักพรตเฒ่ามือหนึ่งประคองพวงมาลัย อีกมือหนึ่งตบหน้าอกที่ผอมแห้งของตัวเอง แล้วพูดต่อว่า “ข้าปีนี้อายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว สามารถมีอายุได้ถึงตอนนี้ไม่ใช่เพราะดวงดีเหรอ! และข้ายังมีดวงอุปถัมภ์ อย่างเช่นเถ้าแก่คนก่อนของข้า…เอ่อ ไม่พูดถึงเขาดีกว่า เถ้าแก่คนปัจจุบันของข้า ก็คือหลังจากที่รู้จักข้า จากยมทูตตัวเล็กๆ ก็เริ่มเจริญก้าวหน้าแล้ว เหอะๆ”
โกวซินเงียบไป
“ถึงแล้ว เอ๊ะ นั่นคือรถที่เถ้าแก่ขับกลับมา” นักพรตเฒ่าจอดรถติดกับรถของเถ้าแก่ที่อยู่ริมสวนดอกไม้ เขาลงจากรถก่อน เมื่อเห็นประตูร้านหนังสือปิดสนิท จึงลังเลเล็กน้อย แล้วพูดกับโกวซินที่บาดเจ็บหนักนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับว่า“เจ้ากับสองคนนั้นรอประเดี๋ยว ข้าจะเข้าไปดูว่าในร้านหนังสือเป็นยังไงก่อน อีกสักพักค่อยส่งพวกเจ้าเข้าไปรักษาในร้านขายยา เชื่อฟัง เป็นเด็กดีรอข้ากลับมา พวกเจ้าจะไม่ตายแน่นอน และไม่เป็นอะไร”
โกวซินพยักหน้า นักพรตเฒ่าเดินไปทางร้านหนังสือ เขาเดินไปแค่ไม่กี่ก้าวถึงสองสาม ป้ายคำสั่งสีดำที่อยู่ใต้ดินตรงสวนดอกไม้จู่ๆ กลับแตกเป็นทาง และทันใดนั้นรอยแตกก็เริ่มเยอะขึ้น แสงสีสันสวยงามหลากหลายรอบป้ายคำสั่งเริ่มบิดเบี้ยว สุดท้ายได้ยินเสียง ‘แกร๊ก’ ป้ายคำสั่งแตกละเอียด แสงสีสันหลากสีแตกกระจายโดยตรง ‘ตูม!’ สวนดอกไม้ระเบิดทันที
“แม่งเอ๊ย!” นักพรตเฒ่าที่เพิ่งเดินไปสองสามก้าวรู้สึกถึงไอคลื่นที่น่าสะพรึงกลัวเข้ามาปะทะร่างกาย จากนั้นเขาก็ลอยกระเด็นออกไป ส่วนรถของนักพรตเฒ่าที่จอดอยู่ริมสวนดอกไม้เมื่อครู่ได้ระเบิดลอยขึ้นท้องฟ้าไปแล้ว และพลิกไปพลิกมาอยู่กลางอากาศ…
……………………………………………………………………….