ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 609 เซียนลูบหัวฉัน!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 609 เซียนลูบหัวฉัน!

“เถ้าแก่ ข้าฉันไม่ดีเอง ข้าฉันประหม่าเกินไปเมื่อกี้๊ ข้าฉันผิดเองเจ้าค่ะ” อิงอิงคอยทำแผลให้โจวเจ๋อและกล่าวงคำขอโทษไปพลาง เมื่อครู่เธอเล่าเรื่องที่แม่นางไป๋ปรากฏตัวรวมทั้งเรื่องราวหลังจากที่โจวเจ๋อสลบไป

โจวเจ๋อไม่โกรธ เขาสามารถเข้าใจความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของอิงอิงก่อนหน้านี้ได้ ตัวเขาเองเกือบจะกลายเป็นหลี่ซิ่วเฉิง ประสบการณ์เหมือนนั่งรถไฟเหาะเช่นนี้ยากที่จะรักษาจิตใจให้สงบได้จริงๆ อีกทั้งผู้ชายคนหนึ่งจะโกรธผู้หญิงที่เป็นห่วงตัวเองได้อย่างไร แค่รอยบุ๋มอาบเลือดห้าจุดเท่านั้นเอง อืม บาดเจ็บหนักกว่านี้ใช่ว่าตัวเขาเองจะไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าอย่างไรเขาชินแล้ว ปีแรกที่เพิ่งเริ่มต้น ตัวเขาเองทุกครั้งหลังจากที่เรียกเจ้าโง่ออกมา มักจะถูกหามกลับมาด้วยสภาพสะบักสะบอมยากที่จะทนดู

“เถ้าแก่ ข้าฉันฉลาดไหมเจ้าคะ ถึงแม้ ทำแบบนี้ร่างกายของเถ้าแก่จะบาดเจ็บ แต่ข้าฉันเป็นคนส่งเงาที่คนนั้นฝากเอาไว้เข้าไปเอง น่าจะช่วยเถ้าแก่ให้ตื่นขึ้นมาได้ใช่ไหมเจ้าคะ” อิงอิงตอนนี้อิงอิงยังคิดว่า สาเหตุที่โจวเจ๋อตื่นขึ้นมาได้สำเร็จ เป็นเพราะอาศัยเงานั้นที่อิ๋งโกวฝากเอาไว้ให้เธอ

โจวเจ๋อมุมปากกระตุก แต่ยังคงพยักหน้า “เป็นเพราะอิงอิงอิงแท้ๆ” ถึงแม้ตัวเขาจะถูกตบกระเด็นหน้าอย่างไม่มีสาเหตุพร้อมกับคำทักทายว่า ‘สารเลว’ ก็ตาม แต่ต้องโทษอิ๋งโกวที่โง่เกินไป เงาที่ทิ้งเอาไว้เป็นเพียงโปรแกรมเดียว แม้แต่การพลิกแพลงก็ทำไม่ได้ แต่ไม่เกี่ยวอะไรกับอิงอิงเลยจริงๆ ตอนนั้นตัวเขาเองกลายเป็น ‘หลี่ซิ่วเฉิง’ ซึ่งจึงเริ่มพูดจาแทนเขาแล้ว อิงอิงจึงได้แต่พยายามช่วยอย่างสุดชีวิต และไม่อยากเห็นตัวเขาเองถูกทำเป็น ‘มายากลที่ทำให้คนหายไปทั้งตัว’

เวลานี้โจวเจ๋อนึกออกเรื่องหนึ่ง และสำหรับการวางแผนของทั้งเรื่องนี้ แม่นางไป๋เป็นตัวการใหญ่แน่นอนน ทว่าทั้งหมดทั้งมวล ดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่พลังของแม่นางไป๋เพียงอย่างเดียวจะก้าวไปถึงและสัมผัสได้ โดยเฉพาะม่านกั้นสีดำนั่นที่เกือบจะฆ่าตัวเขาเองให้ตายตกไป

นั่นไม่ใช่ฝีมือของแม่นางไป๋เด็ดขาด เป็นไปได้ว่าเธอยืมพลังจากอะไรสักอย่างของคนอื่น และอาจจะได้รับพลังบางอย่างมาของใครบางคน กระทั่งสิ่งที่อยู่เบื้องหลังรวมทั้งสิ่งพัวพันที่แสดงให้เห็นทั้งหมด ต้องมีอานุภาพที่ยิ่งใหญ่กว่าแม่นางไป๋

และด้วยเหตุนี้ ถึงแม้แม่นางไป๋จะถูกอิงอิงทำลายวิญญาณแตกสลาย แต่ในใจของโจวเจ๋อกลับไม่รู้สึกสบายใจเลยแม้แต่นิดเดียว เขาจะจะต้องสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจน

อย่างไรก็ตามถ้าหากตายอยู่ข้างนอก ถูกคนอื่นฆ่าตาย เพราะสู้คนอื่นไม่ได้ เขาสามารถยอมรับได้ แต่ถูกคนวางแผนลอบกัดอย่างไม่รู้สาเหตุ แถมยังต้องทำให้มอบวิญญาณและร่างกายของตัวเองให้คนอื่นอีก มันช่างทำให้อัดอั้นตันใจเหลือเกิน โจวเจ๋อจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง

“เอ่อ อิงอิง แม่นางไป๋…”

‘“ตูม!’” เสียงระเบิดดังขึ้นโดยไม่มีเหตุการณ์เตือนล่วงหน้า อิงอิงหมอบอยู่บนตัวของโจวเจ๋อทันที กระจกของตู้โชว์รวมทั้งหน้าต่างยาวจรดพื้นแตกละเอียดในพริบตา ร่วงตกใส่ตัวของอิงอิงทั้งหมด โดยที่โจวเจ๋อไม่เป็นอะไรเลยสักนิด

หญิงสาวตัวดำที่อยู่ข้างๆ ก็รีบขยับรถเข็นอย่างรวดเร็ว หันหลังของตัวเองไปด้านนอกจึงไม่เป็นอะไรมากนักระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้โจวเจ๋อรู้สึกแปลกใจมาก อิงอิงเงยหน้าลุกขึ้น เศษกระจกเหล่านี้มากสุดก็แค่แต่ทำให้เสื้อผ้าของเธอฉีกขาดเท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรเธอได้มากมาย

“ออกไปดูสิ”

“เถ้าแก่ ข้างนอกอาจจะไม่ปลอดภัย”

“ระเบิดมาถึงหน้าบ้านแล้ว ยังจะหลบไปไหนได้อีก”

อิงอิงจึงได้แต่ขานรับ ประคองโจวเจ๋อเดินออกไปนอกร้านหนังสือด้วยกัน ระเบิดจบลงแล้ว ถนนคนเดินมีเพียงฝุ่นควันที่ยังไม่จางหายไป แต่ไม่มีเปลวไฟหรือสัญญาณควันอะไรพวกนี้ เพราะระยะห่างค่อนข้างอยู่ใกล้กับร้านหนังสือดังนั้นโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา และหน้าต่างในร้านหนังสือจึงได้รับความเสียหายค่อนข้างหนัก

โจวเจ๋อลองมองไปรอบๆ ตามถนนมีคนนั่งอยู่บนพื้นไม่น้อย บ้างก็ตกอกตกใจ บ้างก็ได้รับบาดเจ็บ ตัวเขาเองตอนที่ขับรถของทนายอันที่เขาขับกลับมาก่อนหน้านั้นถูกแรงคลื่นของระเบิดได้ดันมาข้างกำแพงแล้ว ตัวรถของด้านหนึ่งยุบบุบลงไป นี่ถือว่ายังโอเค เพราะมีรถคันหนึ่งล้มตีลังกาอยู่บนถนน รถเปลี่ยนสภาพไปแล้วอย่างสิ้นเชิง โจวเจ๋อมองอยู่พักหนึ่งแล้วจึงจำได้ว่านี่คือรถนิสสันคันเก่าก่อนของสวี่ชิงหล่าง

“ถุยๆๆ!” เวลานี้ ข้างถังขยะที่อยู่ด้านข้าง นักพรตเฒ่าคลานขึ้นมาอย่างช้าๆ สองมือตบหูทั้งสองข้างของตัวเองไม่หยุด เมื่อเขาเห็นเถ้าแก่ยืนอยู่ข้างๆ จึงซาบซึ้งร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลทันทีไม่หยุดและตะโกนว่า “เถ้าแก่ๆ!”

“หา”

“เถ้าแก่ๆ!”

“ใครอยู่ในรถ”

“เถ้าแก่ๆ!”

เห็นได้ชัดว่า ตอนนี้นักพรตเฒ่าตอนนี้หูดับชั่วคราว จึงไม่ได้ยิน

โจวเจ๋อชี้ไปที่รถที่โดนระเบิดลอยกลางอากาศก่อนหน้านั้น นักพรตเฒ่าถึงได้เข้าใจ มองไปที่รถคันนั้นแล้วจึงนึกออกว่าตัวเองเป็นคนขับรถกลับมา พลันนั้นก็พูดด้วยความตื่นตกใจทันที “แม่งเอ๊ย ยังมีคนอยู่ในรถ!”

อย่างไรก็ตามเมื่อครู่ได้หยิบของมาจากเขามากมาย และยังกำชับให้เขานั่งอยู่ในรถรอตัวเองพาพวกเขาไปรักษาที่ร้านขายยา แต่ใครจะรู้ว่าจู่ๆ จะเกิดระเบิดลอยขึ้นฟ้า

นักพรตเฒ่าพุ่งเข้าไปที่ข้างรถ มองดูข้างในด้วยความร้อนใจอยู่บ้าง โจวเจ๋อมองไป๋อิงอิงที่อยู่ข้างกาย ไป๋อิงอิงเข้าใจทันที เดินไปข้างหน้าแกะ ‘ชิ้นส่วน’ ของรถนิสสันที่เปลี่ยนสภาพไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ไม่ช้าร่างกายที่เลือดโชกของทั้งสามคนก็ถูกไป๋อิงอิงลากออกมา

โจวเจ๋อเม้มปาก นั่งลงยองๆ ตรวจสอบเล็กน้อย สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจคือ ทั้งสามคนนี้ถึงแม้จะบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน กลับยังมีลมหายใจทุกคน

‘“แปะๆๆๆ!’” โจวเจ๋อตบใบหน้าของโกวซิน

‘“พรวด!’” โกวซินอ้าปาก คายฟันซี่หนึ่งออกมา

“…” โจวเจ๋อ

หลังจากคายฟันออกมาแล้ว โกวซินยังไม่ได้สติ โจวเจ๋อยื่นมือคลำตัวส่วนอื่น ตรงตำแหน่งที่หน้าอกยังสัมผัสได้ถึงไออุ่น ต่อจากนั้นเขาจึงคลำตัวของเสี่ยวเฮยและเสี่ยวไป๋ ซึ่งก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน สงสัยภายในร่างกายของทั้งสามคนนี้จะมีอาวุธวิเศษที่รักษาชีวิตของทุกคนไว้ ร่างกายสภาพแย่แบบนี้แล้ว ยังสามารถรักษาพลังชีวิตไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เหอะๆ อีกสักพักหยิบออกมาใส่ตัวเองดีไหม แต่รู้สึกว่าน่าเกลียดไปหน่อย เอาให้นักพรตเฒ่าดีกว่า เขาไม่ว่าอย่างไรก็อายุมากแล้ว ถือเสียว่าเป็นเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ

เวลานี้คนในร้านขายยาต่างวิ่งออกมา โดยเฉพาะฟางฟาง ถึงแม้จะตัวอ้วน แต่กลับมีพลังเยอะมาก แบกผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ยังงุนงงอยู่บนท้องถนนนำตัวส่งเข้าไปในร้านขายยาติดต่อกัน

“เร็วๆ เข้า ถ้าช้าอีกนิด หนึ่งสองศูนย์จะมาแย่งงานแล้ว” ฟางฟางแบกคนใส่หลังพร้อมตะโกนพูดกับเพื่อนร่วมงาน

“เอ่อ…” โจวเจ๋อ

เถ้าแก่โจวเกิดความรู้สึกชื่นชมขึ้นมาในใจอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้เธอยังไม่ลืมเปิดหารายได้เข้าร้านขายยาของตัวเอง ขณะนี้ฟางฟางสังเกตเห็นโจวเจ๋ออยู่ทางนี้ จึงรีบวิ่งเข้ามาทันที มองคนเลือดโชกตัวทั้งสามคนที่อนอนอยู่บนพื้น แล้วจึงเกิดความรู้สึกเคารพเลื่อมใสเถ้าแก่ขึ้นมาทันที เถ้าแก่ก็คือเถ้าแก่ ไม่มองกุ้งปลาตัวเล็กตัวน้อย แต่จับปลาตัวใหญ่สามตัวโดยตรง!

โจวเจ๋อชี้ไปที่สามคนบนพื้น แล้วกำชับว่า “หามเข้าห้องผ่าตัด เริ่มทำการผ่าตัดคนสามคนนั้นได้เลย คนที่เหลือไม่ต้องสนใจ ทำแผลให้เรียบร้อยก่อนก็พอ”

ทั้งสามคนนี้มีฐานะเป็นยมทูตและยังมีอาวุธคุ้มชีวิตอยู่ในร่าง ขอเพียงรักษาสภาพร่างกายของพวกเขาไม่ให้ทรุดกหนัก พวกเขาจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างช้าๆ

“ได้เลย!”

ฟางฟางแบกคนเข้าไป มือหนึ่งอุ้มโกวซิน มือหนึ่งอุ้มเสี่ยวเฮย นักพรตเฒ่าที่อยู่ข้างๆ แบกเสี่ยวไป๋ขึ้นหลัง ฟางฟางเดินนำหน้า วิ่งพุ่งเข้าไปในร้านขายยา นักพรตเฒ่าแบกคนอยู่บนหลังตะโกนพูดตามหลังว่า “ช้าหน่อยๆ ระวังด้วยๆเดี๋ยวชน”

ตอนที่เข้าห้องผ่าตัด ฟางฟางดูเหมือนจะลืมว่าตัวเองอุ้มคนเข้ามาสองคน กินพื้นที่กว้างกว่าปกติ ตอนที่เข้าไป ศีรษะของโกวซินจึงกระแทกกับประตูเหล็กเข้าอย่างจัง

‘ตึง!’ เสียงดังมาก!

“…” นักพรตเฒ่า

เมื่อทั้งสามคนเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว หมอประจำร้านขายยาทั้งสองคนได้เปลี่ยนชุดเรียบร้อย คนบาดเจ็บที่อยู่ด้านนอกแค่ได้แต่ทำแผลฆ่าเชื้อแล้วพันแผลอย่างง่ายก็เสร็จแล้ว ไม่มีปัญหาใหญ่มาก แต่สามคนที่อยู่ในนี้ พวกเขาไม่ค่อยมั่นใจ

“เอ่อ…ควรส่งไปโรงพยาบาลประชาชนหรือโรงพยาบาลในเครือดีไหม” หมอคนหนึ่งถาม

“หรือว่า เรียกเถ้าแก่เข้ามา” อีกคนถามขึ้นอีก

โจวเจ๋อเมื่อก่อนเคยทำการผ่าตัดในห้องผ่าตัดของร้านขายยามาก่อน และได้สร้างความประทับใจให้กับหมอประจำร้านทั้งสองคนนี้อย่างลึกซึ้ง

ถ้าหากพวกเขาเป็นไม่ใช่ศัลยแพทย์ที่เก่งและยอดเยี่ยมจริงๆ คงไม่ยอมอยู่ในร้านขายยาเพื่อรับเงินเดือนสูงแค่เช่นนี้หรอก

“เถ้าแก่บอกว่า แค่จัดการแผลภายนอกก็พอ อย่ามัวชักช้า” ฟางฟางตวาด “ถ้าไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวหนึ่งสองศูนย์มาค่อยส่างให้พวกเขาก็ยังทัน แต่ในเมื่อผ่านมือของพวกเราแล้ว ก็ต้องจดบันทึกค่าใช้จ่ายนี้ไว้!”

“เอ่อ โอเค” หมอทั้งสองคนจึงกัดฟันเข้าไปแล้วงเริ่มผ่าตัด ตอนนี้โจวเจ๋อเคลื่อนไหวร่างกายไม่สะดวก จึงไม่คิดจะเข้าไปผ่าตัดด้วยตัวเอง อย่างไรเสียพวกโกวซินทั้งสามคนก็ไม่ได้สนิทมักคุ้นกับเขามากเท่าไร ทำไมต้องทุ่มเทขนาดนั้นนอกจากนี้ที่นี่ยังมีสิ่งที่เขาต้องไปตรวจสอบด้วยตัวเอง

หากเขาจำไม่ผิด อิงอิงบอกว่าก่อนหน้านั้นตัวเขาสลบอยู่ในรถ นี่หมายความว่าตอนที่ตัวเขาขับรถมาถึงที่นี่ อันที่จริงๆ ได้ตกหลุมพรางแล้ว!

เช่นนั้นเหตุการณ์ระเบิดนี้กับเรื่องที่วิญญาณของเขาก่อนหน้านี้เจอกับม่านกั้นสีดำมีความเกี่ยวข้องกันไหม

โจวเจ๋อยืนอยู่ข้างหลุมทอดมองลงไปข้างล่าง โจวเจ๋อมองไปมองมาจู่ๆ ก็ได้กลิ่นหอมแปลกๆ โจวเจ๋อสูดจมูก อยากจะถามอิงอิงที่อยู่ข้างกายว่าได้กลิ่นอะไรไหม ก็เห็นว่าหลุมที่อยู่ข้างล่าง ไม่รู้ว่าเด็กทารกที่มองเห็นเลือนรางเล็กน้อยมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร สะดือของเด็กทารกมีเส้นไหมหลากสีหมุนวนอยู่ เวลานี้เด็กทารกยื่นมือ ไม่ใช่ขอให้อุ้มสูงๆ หรือขอความรักแบบนั้น นัยน์ตาของเด็กทารกมองด้วยสายตาของความหยิ่งยโสอย่างชัดเจน!

เขากำลังดูหมิ่นโจวเจ๋อ และฝ่ามือของมือข้างหนึ่งก็ราวกับมาพร้อมพลังเวทมนต์สุดน่ากลัว ชั่วเวลาเดียว เถ้าแก่โจวรู้สึกเหมือนลืมไปว่ามีแผลที่หน้าอกของตัวเอง ในดวงตาของเขามีเพียงมือขาวและอ่อนนุ่มมือนั้น ประดุจว่าขอเพียงแค่คุกเข่าลงมาให้มือนี้ลูบศีรษะของเขาเล็กน้อย ตัวเขาเองก็จะเป็นอมตะ เสพสมความสุขไปตลอดชีวิต นี่คือพลังเวทมนต์ที่ไม่สามารถบรรยายได้ด้วยคำพูด ต่อให้เป็นคนที่มีจิตใจกล้าแข็ง เมื่ออยู่ต่อหน้ามือนี้ ก็ต้องคุกเข่าของตัวเองลงมา

เทพเซียนลูบหัวฉัน ผูกปมผมอายุยืน!

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท