ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล – ตอนที่ 634 แย่แล้ว!

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ตอนที่ 634 แย่แล้ว!

คำพูดมากมายต่อจากนี้ของเฝิงซื่อ ถูกสกัดด้วยคำว่า ‘ไม่กล้า’ ของเถ้าแก่โจว กระทั่งหักมุมเปลี่ยนทิศเร็วเกินไป เฝิงซื่ออัดอั้นจนเกิดการช้ำในเล็กน้อย สิ่งที่ซุนหงอคงต้องการในครั้งนี้ คือเหยียบประตูหนานเทียนทำลายตำหนักหลิงเซียวให้พังพินาศ ถ้าหากไปแล้วไม่กลับ อ้อ ก็จะไม่ไป

โจวเจ๋อไม่อยากให้อิงอิงต้องเสี่ยง แน่นอนว่าไม่อยากให้ตัวเองต้องเสี่ยงด้วยเช่นกัน ถ้าหากเจ้าโง่ไม่ได้นอนหลับ เมื่อเจอเรื่องนี้ เขาจะต้องตะโกนในใจด้วยน้ำเสียงเฉพาะตัวของเขาที่พูดๆ หยุดๆ อย่างแน่นอน ‘ไป…กิน…สิ…สุ…นัข…รับ…ใช้…’ เสียดายที่ตอนนี้ไอ้หมอนั่นกำลังนอนหลับอยู่

เกิดภาพปรุงแต่งเหล่านี้ในหัวของตัวเอง จู่ๆ โจวเจ๋อรู้สึกเศร้าใจขึ้นมาในใจ หลังจากเจ้าโง่นอนหลับไปหนึ่งเดือน คิดถึงเขาเสียแล้ว

ไม่มีอิ๋งโกวเป็นผู้หนุนหลังเป็นที่พึ่ง โจวเจ๋อไม่กล้ากลืนเจ้าสิ่งนี้มั่วซั่วจริงๆ ถ้าหากเล่นเลยเถิดจนตัวตาย เช่นนั้นคงบันเทิงกันละทีนี้

เขาตกลงมายูนนานครั้งนี้ ถือว่าเป็นการปรับปรุงทัศนคติการใช้ชีวิตแต่เดิมของเถ้าแก่โจวอย่างยิ่งใหญ่แล้ว แต่ข้าวต้องกินทีละคำ ทางต้องเดินทีละก้าวไม่ใช่เหรอ ไม่ว่าเรื่องใดต้องใจเย็นๆ โจวเจ๋อจะไม่ยอมให้ตัวเองใช้ชีวิตที่เหนื่อยและลำบากเกินไป

ถ้าหากมีชีวิตอยู่เพื่อความเหนื่อยยากและความเกลียดชัง เช่นนั้นชีวิตจะมีความหมายอะไร เสียดายที่ครั้งนี้ไม่ได้พาเด็กผู้ชายมาด้วย ไม่อย่างนั้นเหตุการณ์ ‘ที่ถูกสร้างขึ้น’ นี้ โจวเจ๋ออยากจะมอบให้เด็กผู้ชายจริงๆ ไม่ว่าอย่างไรเขาเป็นคนหนังหนา ถ้าหากเป็นอะไรขึ้นมา อย่างนั้นคงน่าแปลก

“ผมคิดว่าไม่จำเป็น สถานการณ์ต่อจากนี้ยังไม่รู้แน่ชัด หากเสี่ยงเกินไปจะไม่คุ้ม ถ้าไม่ไหวจริงๆ รอให้จับตัวผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังได้แล้วจัดการให้จบสิ้น พวกเราค่อยมาดูเรื่องนี้ก็ยังได้ เหล่าสวี่ สามารถสร้างค่ายกลปิดผนึกปากถ้ำนี้ได้ไหม” สามารถสกัดกั้นได้เล็กน้อยก็ยังดี ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสถานที่ที่ดี

สวี่ชิงหล่างส่ายหน้าอย่างจนใจเล็กน้อย “ผมจะไปหาเต่าแก่มาจากไหน” แขนขาที่ถูกตัดขาดนั่นเป็นตัวช่วยเสริม แต่เต่าแก่ตัวนั้นคือกุญแจที่สำคัญอย่างแท้จริง และหลายปีที่ผ่านมานี้ อยากจะหาปีศาจตามภูเขาและแม่น้ำก็ยากยิ่ง ต้องอาศัยโชคและบุญวาสนา

เฝิงซื่อส่ายหน้า เดินไปริมน้ำ สองมือทำมุทรา ชั่วเวลาเพียงครู่เดียว ทุกคนรู้สึกเหมือนลมที่นี่เริ่มช้าลง “ปิดได้แล้วแต่ปิดได้ไม่นาน” เฝิงซื่อกล่าว

“โอเค ถือว่าเจ้าทำได้ดี” ทนายอันตบไหล่ของเฝิงซื่อ แล้วพูดเตือนว่า “จัดการเรื่องหลักก่อน” ความหมายนอกเหนือจากนี้คือ เรื่องประจบไม่ต้องรีบร้อน ทำงานหลักก่อนแล้วค่อยว่ากัน

“ต้อรออีกหน่อย คาดว่าใช้เวลาอีกครึ่งวันก็น่าจะยืนยันได้แล้ว”

“พวกท่านหิวหรือยัง” ชุ่ยฮวาเอ่ยปากในเวลานี้ จากนั้นมองทุกคนด้วยใบหน้าที่คาดหวัง หวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือกับตัวเองพูดว่า ‘หิว’

“ชุ่ยฮวา ช่วยปรับสภาพร่างกายให้คุณชายโจวด้วย ยังมีแผลช้ำในอยู่บนตัวของเขาบางส่วน” เฝิงซื่อข้ามคำถามนี้โดยตรง

“ได้เลยเจ้าค่ะ ท่านสี่” ชุ่ยฮวามองไปที่โจวเจ๋อ แล้วชี้ไปที่เต็นท์ที่อยู่ข้างๆ

โจวเจ๋อจึงจำได้ว่า ชุ่ยฮวาคนนี้มีพลังเยียวยามหาศาล ตอนแรกยังช่วยเจ้าลิงที่อยู่ในร้านหนังสือรักษาบาดแผลให้พวกเขา ทนายอันก็เคยพูดว่า นี่คือผู้ที่มีพลังเยียวยาแต่กำเนิด ตอนนั้นอันปู้ฉี่ถูกไล่ฆ่าเกือบตาย ก็ได้ชุ่ยฮวาช่วยเขากลับมาเหมือนกัน

ถึงแม้จะรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองไม่มีปัญหาอะไรมากมาย แต่มีการนวดสปาฟรีจะไม่ทำก็เสียดาย ไม่ว่าอย่างไรอยู่ที่นี่ก็มีแต่เสียเวลาเปล่า โจวเจ๋อมุดเข้าไปในเต็นท์ นอนลงบนเตียง หลังจากชุ่ยฮวาเข้ามาแล้ว อิงอิงก็เดินตามเข้ามาเหมือนกัน

“เหอะ ข้าไม่สนใจเถ้าแก่ของเจ้า” ชุ่ยฮวาเดาความคิดของอิงอิงออก จึงพูดด้วยความไม่พอใจโดยตรง ในสายตาของเธอ บนโลกนี้มีเพียงท่านสี่เท่านั้นที่ดี ผู้ชายคนอื่นล้วนเป็นดินเน่ามีแต่กลิ่นเหม็น

อิงอิงกวาดตามองตัวของชุ่ยฮวาด้วยความจงใจหนึ่งที แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าคิดมากเกินไป”

“เชอะ!” ชุ่ยฮวาโกรธแล้ว โอ๊ยๆๆๆๆ! มีผู้หญิงคนไหนบ้างไม่รักสวยรักงาม เดิมทีเธออยากจะใช้ร่างของศพสาววัยแรกรุ่น แต่ท่านสี่ไม่อนุญาต สั่งให้เธอเลือกร่างของหญิงชรา แม้แต่ตัวของท่านสี่เองก็ยังไม่เลือกร่างของผู้ชาย แต่เลือกสิงร่างของผู้หญิงวัยกลางคนแทน

อิงอิงคุกเข่าข้างกายโจวเจ๋อ ช่วยเป็นหมอนรองให้โจวเจ๋อ ชุ่ยฮวาก็นั่งคุกเข่าลงเช่นกัน วางสองมือบนหน้าอกของโจวเจ๋อโดยตรง จากนั้นปล่อยกระแสแห่งไออุ่นเข้าไปในร่างกายของโจวเจ๋อ เถ้าแก่โจวรู้สึกว่ากล้ามเนื้อและจิตวิญญาณของตัวเองได้รับการผ่อนคลายในเวลานี้ เหมือนคนหนุ่มที่สูบบุหรี่ดื่มเหล้าอดหลับอดนอนแต่ก็มักจะรู้สึกว่าไม่เป็นอะไร ทว่าเมื่ออายุมากขึ้นปัญหาที่ทิ้งไว้จะกลับมาคิดบัญชีกับคุณภายหลังเสมอ

เวลานี้ชุ่ยฮวากำลังช่วยขจัดภัยร้ายในร่างกายของโจวเจ๋อออกไป เมื่อเห็นเถ้าแก่ของตัวเองสบายตัวขนาดนี้ อิงอิงที่อยู่ข้างๆ จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเงยหน้ามองชุ่ยฮวาหนึ่งที เธอทำผักดองเป็น อิงอิงไม่อิจฉาเธอ ไม่ว่าอย่างไรในร้านหนังสือก็มีแม่นางสวี่อยู่ หน้าตาดีแถมทำอาหารอร่อย ถ้าหากวันไหนเถ้าแก่อยากจะตกปลาด้วยเบ็ดที่เบี่ยงเบนโค้งงอขึ้นมาจริงๆ อิงอิงก็จะยอมให้เขาเป็นเมียน้อย

นับตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมา เรื่องชายรักชายเป็นที่นิยมมาโดยตลอด โดยเฉพาะในจวนใหญ่หรือบ้านของพวกคนรวยมีฐานะ กระทั่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนเกิดเป็นกระแส แต่ชุ่ยฮวาทั้งวาดรูปได้และยังรักษาบาดแผลเก่งอีกต่างหาก ทำให้อิงอิงรู้สึกพ่ายแพ้ มักจะคิดว่าตัวเองไม่มีประโยชน์

เวลานี้ อิงอิงรู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งวางอยู่บนหน้าตักของตัวเอง อิงอิงก้มมอง จึงเห็นเถ้าแก่กำลังมองเธออยู่ ทั้งสองคนสี่ตาประสานกัน ชั่วเวลาเดียวเรื่องวุ่นวายใจอะไรจึงหายไปไม่มีเหลือ

ชุ่ยฮวาที่อยู่ข้างๆ เบะปาก แม่งเอ๊ย ข้ากำลังบริการเจ้าอย่างตั้งใจ แต่เจ้าก็ยังมองคนของตัวเองตลอด คิดว่าการบริการของข้าแย่นักเหรอ

ทันใดนั้น ชุ่ยฮวาจึงตัดสินใจยกระดับการบริการของตัวเอง ทุ่มเข้าไปสุดตัวทั้งแรงกายและแรงใจ ไม่ช้าเธอจึงเอ่ยว่า “ร่างกายภายในของเจ้าได้รับความเสียหายหนึ่งจุด ช่างเถอะ วันนี้ข้าอารมณ์ดี จะช่วยบำรุงให้เจ้าเอง!”

เวลานี้มือของเถ้าแก่โจวกำลังลูบขาของอิงอิงอยู่ ตอนแรกจึงฟังไม่เข้าใจความหมายของชุ่ยฮวา แต่ไม่ช้าเขาก็ตกตะลึง รีบตะโกนทันที “เดี๋ยวก่อน!”

แต่ชุ่ยฮวาเริ่มไปแล้ว โจวเจ๋อรู้สึกเพียงว่ากระแสลำธารเล็กที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของตัวเองแต่เดิมได้หายไปแล้ว กลายเป็นกระแสน้ำขนาดใหญ่ไหลไปทางทิศตะวันออก!

ตอนแรกชุ่ยฮวารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ใบหน้าแขวนไปด้วยรอยยิ้ม หมายความว่าฝีมือของเธอดีใช่ไหม จากนั้นสีหน้าของเธอจึงเปลี่ยนไป เกิดอะไรขึ้น เธอจะถูกดูดจนแห้งแล้ว!

ชุ่ยฮวารีบชักมือกลับทันที แต่สองมือของเธอเหมือนติดอยู่ตรงหน้าอกของโจวเจ๋อแน่นปึก ไม่สามารถดึงออกมาได้ ราวกับถูกมัดด้วยผ้าพันแผลหลายชั้นอยู่ตรงนั้น

“อาๆๆๆๆ!!!!!!!” ชุ่ยฮวาร้องด้วยความตกใจ เธอรู้สึกว่าพลังที่อยู่ในจิตวิญญาณของตัวเองกำลังถูกดึงเข้าไปภายในร่างกายของโจวเจ๋ออย่างบ้าคลั่ง โดยที่ตัวเองไม่สามารถควบคุมได้อย่างสิ้นเชิง

เต็นท์ถูกเปิดออกทันที เฝิงซื่อกับทนายอันชะโงกศีรษะเข้ามา

“ท่านสี่ๆ ช่วยข้าด้วยๆๆๆ!!!!!!” ชุ่ยฮวาร้องกรี๊ด เดิมทีเธออายุเจ็ดสิบปี ตอนนี้แทบจะกลายเป็นคนอายุเก้าสิบปี ที่มาพร้อมกับสีหน้าเศร้าสร้อย แต่ชุ่ยฮวารู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองค้นพบนั้นเหมือนหลุมดำที่ไร้จุดสิ้นสุด ตัวเองโดนดูดเข้าไปเยอะขนาดนี้แล้ว แต่กลับไม่สามารถทำให้น้ำกระเด็นขึ้นมาแม้แต่นิดเดียวได้

โจวเจ๋ออยากจะลุกขึ้น แต่กลับขยับไม่ได้ รู้สึกตัวแข็งทื่อไปทั้งตัว เขาคาดคิดไม่ถึงว่า ชุ่ยฮวาจะสามารถรับรู้ถึงตำแหน่งนั้นได้ นั่นคือเจ้าโง่ที่หลับใหล เจ้าโง่หมดพลังอย่างรุนแรง จึงเข้าสู่โหมดของการนอนหลับนานแสนนานเช่นนั้น นั่นคือสิ่งที่พลังของชุ่ยฮวาคนเดียวสามารถบำรุงได้หรือ

ถึงแม้ชุ่ยฮวาจะถูกดูดจนแห้งแล้ว คาดว่าเจ้าโง่ที่กำลังนอนหลับอยู่ก็คงไม่มีการตอบสนองแต่อย่างใด แม้แต่เดาะปากเสียงดังก็ทำไม่ได้

ทนายอันยื่นมือกระดูกขาวของตัวเองออกไปทันที จับมือข้างหนึ่งของชุ่ยฮวาไว้ มือข้างหนึ่งของเฝิงซื่อก็จับมืออีกข้างหนึ่งของชุ่ยฮวา ทั้งสองคนสบตากันแล้วออกแรงพร้อมกัน!

‘โครม!’ ชุ่ยฮวาถูกลากลงมาล้มกลิ้งไปบนพื้น ร่างของหญิงชราอายุเจ็ดสิบปีแต่เดิมเมื่อร่างกายกระแทกยิ่งเหมือนร่างจะพังลงอย่างสิ้นเชิง วิญญาณสีดำลอยออกมา

เฝิงซื่อรีบทำท่ามุทราทันที ขณะเดียวกันได้อ้าปาก วิญญาณของชุ่ยฮวาลอยเข้ามาในปากของเฝิงซื่ออย่างรวดเร็ว วิญญาณเมื่อออกจากร่างไม่มีกายหยาบคอยหนุน ก็จะเริ่มดับสูญไปเองเมื่ออยู่ในโลกมนุษย์ ชุ่ยฮวาไม่ใช่วิญญาณเร่ร่อน แต่ถ้าหากวิญญาณลอยล่องอยู่ในโลกมนุษย์ต่อไป มีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเหล่านั้น

ถึงแม้ว่าจะเป็นผีร้ายในโลกมนุษย์ แต่สำหรับพวกเขาที่มีตำแหน่งที่แท้จริงในยมโลกนั้น ก็เป็นสิ่งที่น่าอายไม่สามารถอวดได้เช่นกัน

ตอนแรกที่เถ้าแก่โจวเป็น ‘วิญญาณเร่รอน’ ก็ลำบากมากพอแล้ว ด้วยเหตุนี้เฝิงซื่อจึงเก็บชุ่ยฮวาไว้ในร่างกายของตัวเอง เพื่อให้กายเนื้อของตัวเองกับจิตวิญญาณได้หล่อเลี้ยงและปกป้องดวงวิญญาณของชุ่ยฮวา คาดว่าการเดินทางในโลกมนุษย์ครั้งนี้ ชุ่ยฮวาไม่สามารถออกมาได้อีก

โจวเจ๋อถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก รีบลุกนั่งทันที อิงอิงยื่นมืออย่างรวดเร็ว ประคองไหล่เถ้าแก่ของตัวเองเอาไว้ โจวเจ๋อตบมือของอิงอิง เพื่อบอกว่าตัวเองไม่เป็นอะไร และก็ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม ตัวเขาไม่ใช่ฝ่ายรุก แต่กลับได้รับพลังเพิ่ม จึงไม่ได้สิ้นเปลืองอะไร

ตอนที่สายตาของเฝิงซื่อตกอยู่บนตัวของโจวเจ๋อ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่ไม่ช้าก็กลับมาเป็นปกติ เขาเคยสืบเรื่องของโจวเจ๋อ รู้ว่าภายในร่างของโจวเจ๋อมีสิ่งประหลาดอะไรอยู่ และนี่ก็คือตัวพึ่งพิงของโจวเจ๋อ แต่เฝิงซื่อไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ผนึกอยู่ในภายร่างของโจวเจ๋อเป็นเจ้าทะเลแห่งความตายในตอนนั้น เขาแค่เดาว่ามีเศษวิญญาณของบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ตนไหนถูกผนึกอยู่ในร่างของโจวเจ๋อ และสูงสุดอย่างมากก็เป็นผู้พิพากษาหรือไม่ก็เป็นอะไรอย่างอื่นที่คล้ายกัน

“ชุ่ยฮวา ไม่เป็นไรใช่ไหม” โจวเจ๋อถาม

เฝิงซื่อส่ายหน้า “ไม่เป็นไรหรอก คุณชายโจว แค่ต้องพักผ่อน หลังจากกลับไปที่นรกก็ไม่เป็นไรแล้ว”

“อย่างนั้นก็ดี” โจวเจ๋อจึงวางใจ

ไม่ว่าเฝิงซื่อจะมีหรือไม่มีความคิดอย่างอื่น ครั้งนี้อีกฝ่ายมาช่วยเหลือเขาจริงๆ ถ้าหากเขาดูดพลังของสาวใช้ของอีกฝ่ายจนแห้งเหือด เขาคงรู้สึกไม่สบายใจ

เวลานี้ทนายอันเข้ามาไกล่เกลี่ยและสร้างบรรยากาศ เขามองโจวเจ๋อแล้วเอ่ยว่า “ฮิๆ เถ้าแก่ช่วงนี้มีความต้องการสูง พอเข้าใจๆ ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ อีกสักพักกลับเข้าเขตเมืองลี่เจียงแล้ว พวกเราไปหาสถานที่ผ่อนคลายดีไหม” พูดจบทนายอันจึงมองไปที่อิงอิง แล้วพูดแซวว่า “อิงอิงไม่น่าจะโกรธใช่ไหม วางใจได้ ต่อให้เถ้าแก่ถูกใจใคร พวกเราก็เล่นด้วยแค่หนึ่งคืน ไม่พากลับไปที่ร้านหนังสือ”

“ไม่ได้!” อิงอิงส่ายหน้ายืนกราน

“โอ้ว อิงอิงของพวกเราหึงเป็นด้วย” ทนายอันพูดพลางหัวเราะเหอะๆ ผู้หญิงก็คือผู้หญิง จุ๊ๆ

อิงอิงมองทนายอันอย่างจริงจังแล้วเอ่ยว่า “ผู้หญิงที่เถ้าแก่เคยใช้งาน ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเป็นยังไง ต่อไปจะไม่อนุญาตให้แตะต้องชายอื่นอีกเด็ดขาด ต้องช่วยจ่ายเงินค่าไถ่ อ้อไม่ ต้องรับเลี้ยงดูแลเธอ ถ้าหากเธอท้อง ก็ต้องพากลับบ้าน! สายเลือดของตระกูลโจว จะระเหเร่ร่อนนอกบ้านไม่ได้”

“…” ทนายอัน

……………………………………………………………………….

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล

Status: Ongoing
หลังจากการตายที่ไม่คาดคิด สิ่งที่เขาได้รับคือ ตัวตนใหม่ ร้านหนังสือใกล้เจ๊ง และตำแหน่งยมทูตจำเป็น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท