ตอนที่ 797 จัดการความทรงจำ
หลินม่ายนับว่าโชคดีมาก ตั้งแต่เธอรู้ว่าหลินเพ่ยได้เกิดใหม่ เธอก็ใช้ความระมัดระวังและฝึกฝนการสะกดจิตตั้งแต่เนิ่น ๆ
มิฉะนั้นเธอคงไม่มีทางรู้แผนการร้ายของหลินเพ่ยในตอนนี้ได้
หลินเพ่ยคิดจะให้เธอตายอย่างเจ็บปวดด้วยน้ำมือของนายท่านฉุยจริง ๆ หรือ?
หลินม่ายจะทำทุกทางเท่าที่ทำได้เพื่อตอบโต้หลินเพ่ย และปล่อยให้หล่อนตายอย่างทรมานในมือของนายท่านฉุยเอง
เธอสามารถกำจัดหลินเพ่ยได้โดยไม่ผิดกฎหมายและไม่ทำให้มือเปื้อนเลือดแม้แต่น้อย
สำหรับวายร้ายอย่างหลินเพ่ย หากมีโอกาสกวาดล้าง เธอก็ต้องคว้ามันไว้!
บางทีหลินเพ่ยอาจถูกนายท่านฉุยฆ่าตาย จากนั้นอู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะออกไปตามหานายท่านฉุย และเขาก็จะเสียชีวิตด้วยน้ำมือของนายท่านฉุย
เป็นการฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว และอู๋เสี่ยวเจี๋ยนและหลินเพ่ยก็จะกลายเป็นผีไปพร้อมกัน
นับเป็นบุญวาสนาของคู่รักคู่นี้แล้วที่จะได้อยู่ด้วยกันในโลกหลังความตาย
หลินม่ายเขย่านาฬิกาพกแบบเก่าและสะกดจิตหลินเพ่ยต่อไป
สายตาของหลินเพ่ยที่เกือบจะกลับมากระจ่างชัดเพราะความเกลียดชังหลินม่ายพลันกลับมาสับสนอีกครั้ง
หลินม่ายใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการทำให้หลินเพ่ยเข้าสู่สภาวะที่ถูกสะกดจิตลึกลงไปอีกครั้ง จากนั้นจึงเริ่มค้นความทรงจำของหล่อน
ในความทรงจำเกี่ยวกับหุ้นของหล่อน มีข้อมูลที่ถูกต้องเพียงสองอย่าง
ที่เหลือผิดทั้งหมด และเป็นหุ้นประเภทที่อาจเสียเงินมหาศาลหากซื้อมัน
รอให้หลินเพ่ยกลายเป็นสาวงามหลังการทำศัลยกรรมและอุทิศตนให้กับนายท่านฉุย จากนั้นก็รอให้หล่อนเป่าหูข้างหมอนให้นายท่านฉุยซื้อหุ้น
ในตอนแรก นายท่านฉุยจะต้องไม่เชื่อหล่อนอย่างแน่นอน และจะไม่ใช้เงินจำนวนในการซื้อหุ้น
แต่เมื่อซื้อหุ้นสองครั้งติดต่อกันและทำกำไรได้ นายท่านฉุยจะไว้วางใจหลินเพ่ย
เมื่อหลินเพ่ยให้ข้อมูลกับเขาอีกครั้ง เขาจะซื้อในปริมาณมากอย่างแน่นอน
แต่ครั้งที่สามข้อมูลจะผิดพลาด และทำให้นายท่านฉุยสูญเสียทุกอย่าง
นายท่านฉุยจะต้องโกรธมากในเวลานั้น และการตายของหลินเพ่ยจะมาถึงในไม่ช้า
หลินม่ายสะกดจิตหลินเพ่ยซ้ำแล้วซ้ำอีก และตรวจสอบหลายครั้งด้วยการถามคำถามจนเธอแน่ใจว่าหลินเพ่ยได้รับการดัดแปลงความจำอย่างสมบูรณ์ และจากนั้นเธอก็พร้อมที่จะดำเนินการขั้นต่อไป
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงคำพูดหนึ่ง หลินเพ่ยบอกว่าหล่อนกำลังจะไปฮ่องกงเพื่อทำศัลยกรรมพลาสติกให้กลายเป็นหญิงสาวสวย และจากนั้นจะไปหานายท่านฉุย
เงินค่าทำศัลยกรรมของหล่อนมาจากไหน?
หลินม่ายถามคำถามนี้กับหลินเพ่ย
รอยยิ้มร้ายกาจเผยที่มุมปากของหลินเพ่ย “ไม่รู้เหรอว่าฉันมีสุนัขที่สัตย์ซื่ออย่างอู๋เสี่ยวเจี๋ยนอยู่ข้างกาย? อู๋เสี่ยวเจี๋ยนมีน้องสาวสองคนและน้องชายหนึ่งคนไม่ใช่เหรอ? ฉันขอให้เขาขายน้องชายให้กับโรงงานเถื่อนในหนานหยาง และขายน้องสาวให้กับย่านโคมแดงในหนานหยาง หลังได้เงินมาแล้วเขาจะไม่ส่งให้ฉันไปทำศัลยกรรมพลาสติกที่ฮ่องกงเชียวหรือ?”
หลินม่ายส่งเสียงจิ๊จ๊ะในใจ
หลินเพ่ยชั่วร้ายเกินเยียวยาแล้ว หล่อนต้องการขายน้องๆ ของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนทั้งหมด
แน่นอนว่าคนพวกนี้จะขายได้สักกี่หยวนเชียว คงขายได้ไม่กี่หยวนหรอก
ราคาค่าตัวเด็กสาวๆ ปกติอยู่กันที่สี่ถึงห้าพันหยวน ซึ่งนั่นเป็นราคาขายของคนที่หน้าตาดีแล้ว
แม้น้องชายน้องสาวของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะหน้าตาดี แต่ทั้งสามคนก็น่าจะขายได้ในราคาประมาณนี้เท่านั้น
จำนวนเงินทั้งหมดจะอยู่ที่ราวหนึ่งหมื่นหยวน ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับหลินเพ่ยที่จะไปทำศัลยกรรมพลาสติกที่ฮ่องกง
ในท้ายที่สุด อู๋เสี่ยวเจี๋ยนก็ต้องขายตัวเองเช่นกันเพื่อนำเงินมาให้หล่อน
หลินม่ายต้องการเห็นอู๋เสี่ยวเจี๋ยนขายตัวเองเพื่อหลินเพ่ยแล้วมอบเงินให้หล่อน
หากเขาทำอย่างนั้นจริง เธอจะเขียนเรื่องสั้นของเขาและตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อย่างแน่นอน
เพื่อให้บรรดาหนุ่มสาวผู้สิ้นหวังในความรักเชื่อมั่นในความรักอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังถือเป็นพลังบวกเล็กน้อยที่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนส่งต่อให้กับสังคม
แต่หากอู๋เสี่ยวเจี๋ยนและน้องสาวของเขาสามารถหาเงินได้มากกว่าหนึ่งหมื่นหยวน หลินเพ่ยก็มีทางไปฮ่องกงได้
ทำไมหล่อนถึงไม่นำเงินไปเก็งกำไรในหุ้น เพื่อจะได้สร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเอง ทำไมต้องยืมมือของนายท่านฉุย?
คนโง่ยังเป็นคนโง่อยู่วันยังค่ำ แม้หล่อนจะได้กลับมาเกิดใหม่ แต่ระบบความคิดของหล่อนก็ยังไม่ดีขึ้น ยังคงเป็นคนโง่เช่นเคย
อย่างไรก็ตาม พลังทำลายล้างของคนงี่เง่านั้นมีค่อนข้างมาก
หากหลินเพ่ยคิดที่จะทำสิ่งนั้นในวันหนึ่ง มันจะทำให้หลินม่ายรู้สึกลำบากใจมาก
หลินม่ายรู้สึกดีใจที่เธอได้แก้ไขความทรงจำของหลินเพ่ยเหมือนกับการตั้งโปรแกรมสมองของหล่อนใหม่
หลินเพ่ยทำได้เพียงทำตามขั้นตอนการสะกดจิตที่เธอให้ไว้ทีละขั้นตอน
หล่อนจะไม่มีทางได้เกิดความคิดขายพี่น้องของอู๋เสี่ยวเจี๋ยน แล้วคิดหาทางไปฮ่องกงเพื่อซื้อขายหุ้น จากนั้นค่อยจัดการกับเธอ
จากนั้นหลินม่ายได้ลบความทรงจำของหลินเพ่ยช่วงเวลาตั้งแต่ถูกปล่อยตัวออกจากคุกจนถึงปัจจุบัน
จากนั้นจึงแก้ไขความทรงจำให้กับหล่อน
แก้เป็นว่าหล่อนออกจากคุกคนเดียว ถูกผู้ชายหลายคนลักพาตัวไปข่มเหงในระหว่างทางเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วจากไป
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น หลินม่ายก็จากไปแบบหายเข้ากลีบเมฆ
เซิ่งหนิงเฉียวถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของหลินเพ่ยซึ่งอยู่ในอาการโคม่าออกและโยนหล่อนไว้ข้างถนนตามคำแนะนำของหลินม่ายในสภาพปิดอำพรางใบหน้า
สภาพแบบนี้ผู้ตนเข้าถึงได้ยาก แต่ก็สามารถเข้าถึงได้
หลินม่ายกล่าวว่าหลังจากเสร็จสิ้นเรื่องนี้แล้วก็ให้มอบหน้าที่ดูแลหลินเพ่ยให้กับลูกน้อง และเขาสามารถกลับไปหาเฉินเฟิงได้
เธอได้ตั้งระบบสมองของหลินเพ่ยแล้ว เพื่อให้เซิ่งหนิงเฉียวไม่จำเป็นต้องเฝ้าดูพฤติกรรมของหลินเพ่ยตลอดเวลาดังที่ผ่านมา
เพียงส่งลูกน้องไปติดตามว่าหลินเพ่ยกระทำตามคำสั่งที่เธอออกแบบไว้หรือไม่
หากไม่เป็นเช่นนั้น เธอก็ควรหามาตรการรับมือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แม้ว่าความเป็นไปได้นี้แทบจะเป็นศูนย์ แต่ก็ควรระมัดระวังไว้
วันรุ่งขึ้น เซิ่งหนิงเฉียวส่งลูกน้องให้ติดตามหลินเพ่ยและขึ้นเครื่องบินไปฮ่องกง
เขายังคงชอบทำงานภายใต้เฉินเฟิง
การที่ให้เขาคอยจับผิดหลินเพ่ยแบบนี้มันทำให้เขาแทบเสียสติ!
……
หลินเพ่ยนอนอยู่ในพงหญ้าข้างถนนเป็นเวลานาน และในที่สุดก็มีคนมาเห็น
คนที่เดินผ่านไปมานั้นเป็นผู้ชายทั้งหมด
เมื่อเห็นผิวเนื้อขาวผ่องปรากฏบนพื้นหญ้า พวกเขาจึงเดินไปอย่างอยากรู้อยากเห็น
เมื่อเห็นว่าเป็นผู้หญิงเปลือยกายที่คลุมศีรษะด้วยเสื้อผ้า ผู้ชายพวกนั้นหลายคนก็ตกใจคิดว่าผู้หญิงคนนั้นตายแล้ว
หนึ่งในพวกเขาถอดเสื้อผ้าที่ปิดหน้าของหลินเพ่ยออกอย่างสั่นเทา และใบหน้าที่น่าเกลียดอย่างยิ่งก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน
ทุกคนคิดว่าพวกเขาเห็นสัตว์ประหลาดและวิ่งหนีด้วยความตกใจ
หลังจากวิ่งไปได้ระยะหนึ่ง พวกเขาก็ตระหนักว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นคือมนุษย์ ดังนั้นพวกเขาจึงหันศีรษะไปเพื่อยืนยัน
แน่นอนว่าเป็นมนุษย์และเป็นผู้หญิงด้วย เป็นผู้หญิงอัปลักษณ์คนหนึ่ง
จากนั้นชายหลายคนก็โทรแจ้งตำรวจ
ตำรวจมาปลุกหลินเพ่ยให้ตื่น ขอให้หล่อนแต่งตัวเรียบร้อย และพาหล่อนไปยังสถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ
หลินเพ่ยพลันร้องไห้โฮขึ้นมา และบอกว่าหล่อนถูกกลุ่มคนรุมข่มเหงหลังจากที่ออกจากคุก
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนชายและหญิงที่สอบปากคำเธอตกตะลึง
ผู้หญิงคนนี้น่าเกลียดมาก ใบหน้าดูไม่สมส่วนและจมูกของหล่อนก็เบี้ยว
สัตว์ร้ายตัวใดที่หิวโหยจนไม่ยอมปล่อยแม้แต่สัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดอย่างหล่อนไปกัน?
หน่วยรักษาความปลอดภัยสาธารณะสนใจคนกลุ่มนี้ที่ลงมือทำร้ายเธอ และตัดสินใจจะค้นหาพวกเขา
หากต้องการจับสัตว์ร้ายเหล่านั้น ก่อนอื่นต้องตรวจร่างกายของหลินเพ่ยเพื่อดูว่าหล่อนถูกข่มขืนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หลังจากการตรวจร่างกาย ตำรวจที่ดูแลคดีของหลินเพ่ยก็รู้สึกผิดคาด
แม้ร่างกายของหลินเพ่ยจะเคยผ่านการมีความสัมพันธ์กับผู้ชายจริง แต่ก็ล้วนเป็นร่องรอยเก่า ไม่มีร่องรอยใหม่เลย
แสดงว่าหลินเพ่ยกำลังโกหก
เมื่อเห็นว่าหลินเพ่ยตกอยู่ในภวังค์ ตำรวจจึงวิจารณ์และสั่งสอนหล่อน ก่อนจะปล่อยหล่อนไป
พวกเขาแอบบ่นลับหลังว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นบ้า จิตใจของหล่อนไม่ปกติ และหล่อนกำลังพร่ำเพ้อว่ามีกลุ่มผู้ชายมาทำลายหล่อน
หลินเพ่ยตื่นไม่เต็มที่จนกระทั่งหลังห้าโมงเย็น
เธอตระหนักได้ทันทีว่าไม่ควรไปเล่าเรื่องตนถูกข่มขืนที่สถานีตำรวจ
หากเข้าหูของอู๋เสี่ยวเจี๋ยน เขาจะดูถูกหล่อนว่าไม่บริสุทธิ์หรือไม่?
ตัวตนที่อยู่ต่อหน้าเขาคือนางฟ้าตัวน้อยที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา
แต่หลังจากคิดดูแล้ว สถานีตำรวจในที่แห่งนี้ยังห่างไกลจากตัวเมืองปักกิ่ง
อีกทั้งคดีของหล่อนไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าหล่อนถูกข่มขืน และตำรวจยกฟ้องแล้ว
หากอย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงหูของอู๋เสี่ยวเจี๋ยน ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวล
เมื่อคิดว่าคดีของหล่อนถูกยกฟ้อง หลินเพ่ยก็รู้สึกสูญเสีย
ทั้งที่หล่อนถูกกลุ่มผู้ชายรุมข่มขืนแท้ๆ แต่ทำไมถึงไม่ทิ้งรอยไว้บนตัวเลย?
เป็นไปได้ไหมว่ากลุ่มคนเหล่านี้จัดการทุกอย่างอย่างหมดจด?
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ หลินเพ่ยจึงวางเรื่องนี้ไว้ก่อน
หล่อนไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์ ครั้งหนึ่งเคยถูกเฉินเฟิงขายให้กับย่านโคมแดงใต้ดินในกวางตุ้ง และทำงานเป็นโสเภณี
หล่อนได้พบผู้มีพระคุณมากมายนับไม่ถ้วน และผ่านผู้ชายมานับร้อยพัน ดังนั้นหล่อนจึงไม่กังวลเรื่องนี้
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
วิชาสะกดจิตของหลินม่ายช่างเลิศล้ำ ขนาดลบหรือเพิ่มความทรงจำคนอื่นได้ทีเดียว
ไหหม่า(海馬)