บทที่ 772 เพียงแค่ขยับหรือลงมือก็จะโดนฟ้าผ่า!
เต่าชรามั่นใจเป็นอย่างมาก ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอื่น ในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ นอกจากพวกที่หลุดพ้นออกไปแล้ว มันก็เป็นดั่งทรราชผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถเทียบเคียงได้
“ข้าไม่ได้ขยับมือเท้ามานานแล้ว วันนี้ข้าจะสำแดงบารมีเต่าชราให้ดู!”
เต่าชรายืดตัวตรงพร้อมเอ่ยออกมา พร้อมกับใช้ฝ่าเท้าเต่าตบลงบนหน้าอกของตนเอง
ส่วนลึกของลานเต๋า บริเวณที่ซีถูกพาเข้าไป
เมื่อนางได้ยินคำพูดของเต่าชรา ก็อดรู้สึกจะร้องไห้ก็ไม่ได้จะหัวเราะก็ไม่ออกทันที
คำพูดของเต่าชราใหญ่โตเกินไปแล้ว
นางรู้ดีว่าพวกเทียนหมิงนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
ไม่ต้องพูดถึงเทียนหมิงที่นางไม่อาจมองทะลุความลึกล้ำ เพียงแค่สิ่งมีชีวิตที่หลุดพ้นโกลาหลเข้าสู่ขอบเขตลอยชายจำนวนมากบนเรือเดินสมุทรก็ย่ำแย่แล้ว
หากเต่าชราต้องการลงมือจริง เกรงว่ากระดองเต่าคงจะโดนทุบแต่ตั้งแต่เพิ่งเริ่มเสียด้วยซ้ำ!
นางอ้าปากต้องการจะพูดบางสิ่งออกมา ทว่าก่อนที่นางจะส่งเสียงออกไปก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
คนเหล่านั้น…มาแล้ว!
เพียงแค่ชั่วพริบตาต่อมา ก็มีหลายร่างฉีกความว่างเปล่าปรากฏตัวออกมา
“คนพวกนี้เป็นใครกัน?”
ซีรู้สึกคาดไม่ถึงจนสีหน้าเกิดการเปลี่ยนแปลง นางไม่รู้จักคนเหล่านี้ และก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
นางคิดว่าเป็นคนจากตระกูลเทียนที่ไล่ตามมา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เช่นนั้น?
ทว่าซีก็รู้ได้อย่างรวดเร็วว่าตนเองไม่ได้คิดผิด คนเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเทียนหมิงจริง ๆ
“น้องห้าของข้าไม่เคยดูแคลนเจ้าเพราะขอบเขตที่ต่ำต้อย ทั้งยังเชื้อเชิญเจ้าด้วยความจริงใจ ทว่าเจ้ากลับไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ลงมือหนักหน่วงกับน้องห้าของข้า!”
ชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ยืนอยู่บนฟ้าสูง มองซีด้วยแววตาคมกริบ
“เจ้าคิดว่าตระกูลเทียนของพวกเราสามารถรังแกได้อย่างนั้นหรือ?”
เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงเย็นชา “น้องห้าของข้าเปี่ยมด้วยคุณธรรม ไม่อยากใส่ใจคนตัวจ้อยเช่นเจ้า แต่เรื่องนี้สำหรับข้าแล้ว ไม่สามารถปล่อยไปเช่นนี้ได้…”
ซีเลิกคิ้ว น้องห้าที่เอ่ยถึงคือเทียนหมิงใช่หรือไม่?
“เจ้าเลยระดมพลมาที่นี่อย่างนั้นหรือ?”
ซีมองไปที่ชายวัยกลางคนแล้วเอ่ยออกมา “เชื้อเชิญข้า แล้วข้าจำต้องยอมรับอย่างนั้นหรือ? ข้าปฏิเสธก็ผิดหรือ? พวกเจ้าเอาแต่ดึงดัน ทั้ง ๆ ที่ข้าปฏิเสธออกไปแล้วหลายครั้ง แสดงให้เห็นอย่าชัดเจนว่าข้าไม่มีเจตนาอยากเข้าร่วม กระทั่งคัมภีร์ฟ้าที่พวกเจ้านำออกมา ข้าก็ยังไม่เคยเปิดดู! พวกเจ้าเอาแต่วางท่าทางสูงส่ง พูดซ้ำไปมาว่าคำเชื้อเชิญนั่นเป็นโอกาสครั้งใหญ่ของข้า…”
นางเอ่ยต่อ “ทว่าต้องขออภัย คำเชื้อเชิญของพวกเจ้า ไม่อยู่ในสายตาของข้าเลยแม้แต่น้อย!”
เต่าชราที่ฟังอยู่เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที
เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนเหล่านี้ใช้อิทธิพลมาระรานผู้อื่น คิดว่ากองกำลังเบื้องหลังตนเองนั้นทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง ต้องการใช้ซีเข้าร่วมด้วย ทว่าซีกลับเอ่ยปฏิเสธ ทำให้คนเหล่านี้รู้สึกอับอายจนเปลี่ยนเป็นความโกรธ คิดว่าซีไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องการจะใช้กำลังกับซี ทว่าถูกซีสวนกลับ
ยามนี้คนเหล่านี้จึงมาตามหาซีอีกครั้ง
“พวกเจ้าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก คิดว่าพวกเจ้าสามารถใช้มือปิดผืนฟ้า*[1]ได้อย่างนั้นหรือ?”
เต่าชราเอ่ยออกมาด้วยเสียงเย้ยหยัน ดูแคลนกลุ่มคนเหล่านี้ “ตระกูลเทียนอันใดกัน ไม่เคยได้ยินมาก่อน เป็นตระกูลเล็ก ๆ ที่โผล่ออกมาจากซอกมุมใดกัน? เรียกบรรพจารย์ของตระกูลพวกเจ้าออกมาเสียเถิด มาดูกันว่าจะกล้ามาทำตัวกำเริบเสิบสานต่อหน้าเต่าชราอย่างข้าหรือไม่?”
มันเดินตัวตรง แขนทั้งสองข้างไพล่ไปด้านหลัง ท่าทางราวกับปรมาจารย์เต๋าผู้หนึ่ง
“ข้าไม่ได้ปรากฏตัวออกมานานแล้ว ตอนนี้บารมีสักนิดก็ไม่มีเชียวหรือ? กระทั่งชนรุ่นหลังอย่างพวกเจ้าก็กล้ามากำแหงต่อหน้าเต่าชราเช่นข้า!”
มันเหยียดตามองคนเหล่านั้น “เป็นเพียงกระต่ายตัวน้อย แต่กลับหลงคิดว่าสามารถพลิกฟ้าได้จริง ๆ ช่างน่าขันยิ่งนัก ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”
เต่าชรานี่มันอันใดกัน?
ท่าทางช่าง…อาจหาญ?
ดวงตาของชายวัยกลางคนเปล่งประกายอย่างดุดัน สิ่งมีชีวิตที่ยังไม่แม้แต่จะกระโดดออกจากขอบเขตโกลาหล กล้าดีอย่างไรมากำเริบเสิบสานเช่นนี้ต่อหน้าเขา?!
“วันนี้ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของข้า!”
เต่าชราลงมือ พลังอันดุดันพลุ่งพล่านพร้อมเสียงตะโกน “ดูหมัดหวางปาไร้เทียมทานของข้าเสีย!”
มันยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา แต่ละหมัดทรงพลังระเบิดพลังอันแข็งแกร่งออกมา บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยเงาหมัดของมัน นี่ก็เป็นวิชาที่มันสร้างขึ้นมาเอง อานุภาพรุนแรงจนแม้กระทั่งความว่างเปล่ายังถึงกับระเบิดออก
“อย่า!”
เมื่อเห็นเต่าชราลงมือ ซีก็รีบตะโกนออกมาทันที
เต่าชราทำได้แต่เพียงพ่ายแพ้เท่านั้น!
และก็ทำให้นางต้องตบหน้าผากตนเองทันที
เต่าชรา…น่าสังเวชนัก!
ทันทีที่พุ่งเข้าไปด้วยความดุดัน เต่าชราก็ถูกชายวัยกลางคนเตะจนกระเด็นออกไปในทันที กระดองเต่าทั้งหมดแตกกระจายออก
“เอ๊ะ!?”
เต่าชายตกตะลึงจนโง่งม ได้แต่มองชายวัยกลางคนด้วยความสงสัยในชีวิตของตนเอง
นี่มันอันใดกัน!
เหตุใดจึงทรงพลังเพียงนี้!
กระทั่งส่วนที่แข็งสุดของมันอย่างกระดองเต่าก็ยังแตกกระจาย!
สิ่งนี้ทำให้มั่นหวาดผวาจนหัวหด
“หดหัวไปก็ไร้ประโยชน์!”
มันร้องไห้ออกมา กระดองเต่าก็ไม่อยู่แล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะหดหัวกลับไปแม้แต่น้อย
“เจ้าอยากกปกป้องนางอย่างนั้นหรือ?”
ชายวัยกลางคนนำดาบใหญ่ออกมาแล้วชี้ไปทางเต่าชรา
“ไม่ นี่เป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิด! พวกเจ้าสามารถทำเหมือนข้าไม่มีตัวตนอยู่ก็ได้!”
ดวงตาเล็ก ๆ ของเต่าชราเบิกกว้าง มันรีบเอ่ยออกมาทันที ก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความหดหู่
อีกทั้งก่อนมันจะจากไปยังเก็บกระดองเต่าที่แตกแล้วติดตัวไปด้วย
“เต่าชราผู้นี้…”
ซีพูดไม่ออก เต่าชราวิ่งได้รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
ทว่านางเองก็ไม่ได้ติดใจอันใดมากนัก อย่างไรเสียนางกับเต่าชราก็ไม่ได้รู้จักคุ้ยเคยกัน เพียงพบหน้าครั้งแรก เต่าชราย่อมต้องไม่ยอมต่อสู้จนตัวตายเพื่อนางอยู่แล้ว
ตู้ม!
ขณะนั้นเอง ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมาอย่างกะทันหันจากด้านในลานเต๋า พลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งตรงใส่ชายวัยกลางคนทันที
“ไปเร็ว!”
เต่าชราตะโกน มันมุ่งตรงมาทางนี้ด้วยต้องการจะพาซีหนีไปด้วย
สิ่งนี้ทำให้ซีคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง ไม่คิดสักนิดว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เต่าชราก็ยังคงจะช่วยเหลือนาง!
“จะไปงั้นหรือ?”
สีหน้าของชายวัยกลางคนสงบนิ่ง ไม่มีความตื่นตระหนกแต่อย่างใด
เขากระทืบเท้าเบา ๆ พลังทั้งหมดที่โจมตีเข้ามาก็ถูกทำลายลงทันที นอกจากนี้ยังมีลำแสงเส้นหนึ่งพุ่งไปทางเต่าชราเจาะร่างของมัน ทั้งยังเกิดแรงส่งให้เต่าชรากระเด็นลอยออกไปกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง เลือดหลั่งรินออกมาไม่หยุด
“เจ็บจนจะตายแล้ว!”
เต่าชราสบถออกมา “ข้าช่างลำบากนัก เพื่อจะทะลวงผ่านขอบเขตโกลาหล ถึงกับต้องทอดทิ้งชีวิตเสียแล้ว!”
มันอยากทะลวงผ่านขอบเขตโกลาหลมากเกินไป ด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่ลังเลที่จะเสี่ยงชีวิต ลองดูว่าจะสามารถพาซีหนีไปด้วยกันได้หรือไม่ น่าเสียดายที่ชายวัยกลางคนแข็งแกร่งเกินไป แม้มันจะเปิดใช้งานทุกสิ่งอย่างในลานเต๋าก็ไม่สามารถจัดการกับชายวัยหลางคนได้ ทั้งยังถูกชายวัยกลางคนทำลายอย่างง่ายดาย
“วางใจเถิด เจ้าจะต้องสามารถทะลวงขอบเขคโกลาหล และเขาก็จะต้องจ่ายราคาอย่างสาสม!”
ซีเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะเรียกทวนสีทองขึ้นมาในมือ
หลังจากนั้นนางก็พุ่งไปด้านหน้าพร้อมกับทวนในมือ ท่าทางองอาจ เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้!
“กล้าหาญ…ถึงเพียงนี้เชียวหรือ!?”
เต่าชรามองอย่างตกตะลึงจนโง่งม เหตุใดซีจึงมีความกล้าหาญมากถึงเพียงนี้!
“เจ้าคู่ควรที่จะต่อสู้กับข้าอย่างนั้นหรือ!?”
ชายวัยกลางคนนามเทียนลู่ยิ้มเยาะ “เจ้ากล้าดีอย่างไรจึงเอาทวนนั่นชี้ใส่ข้ากัน?”
เขาชี้นิ้วออกไป พลันเกิดลำแสงอันน่าหวาดกลัวพุ่งออกมา แสงประหนึ่งสามารถกวาดล้างโลกหล้าได้ เต่าชราที่ได้เห็นถึงกับหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด อดหดศีรษะลงไม่ได้
ตู้ม!
ในตอนนั้นเอง บนท้องฟ้าสูงขึ้นไปพลันปรากฏสายฟ้าสีท้องผ่าลงมา แม้กระทั่งลำแสงอันน่าสะพรึงกลัวที่เทียนลู่ยิงออกมายังถูกทำลาย
“ผู้ใดกัน!?”
เทียนลู่แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงตาของเขาเป็นประกายเย็นเยียบเปี่ยมจิตสังหาร ผู้ใดกันกำลังปกป้องซี?
“สิ่งที่ตระกูลเทียนต้องการกระทำ ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งได้!”
เขาลงมืออีกครั้ง ดาบใหญ่ถูกวาดไปทางซี แสงดาบเปล่งประกายเจิดจ้า เต่าชรารู้สึกเย็นยะเยือกบริเวณลำคอ ประหนึ่งเหมือนตนเองกำลังจะถูกตัดหัว
ทว่าซีนั้นไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย ใช้ทวนสีทองโจมตีเข้าใส่เทียนลู่โดยตรง ไม่สนใจดาบใหญ่ที่พุ่งมา
เสียงตู้มดังขึ้น มีสายฟ้าสีท้องฟาดลงมาอีกครั้งเข้าเป้าอย่างแม่นยำ อีกทั้งไม่ยอมให้เป้าหมายหลุดพ้นไปได้ สายฟ้าโจมตีลงบนดาบใหญ่ทำให้มันแตกออกเป็นชิ้น ๆ โดยพลัน!
ทวนสีทองของซีเองก็ยังแทงเข้าไปยังอกของเทียนลู่อีกด้วย
“เจ้าสามารถทำร้ายข้าได้หรือ?”
เทียนลู่เค้นเสียงเย็นชา ร่างเนื้อของเขาแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด ทวนสีทองของซีไม่สามารถเจาะทะลุเข้าไปได้ กระทั่งเสื้อผ้าของเทียนลู่ก็ยังไม่อาจทะลุผ่านได้เสียด้วยซ้ำ
ประกายแสงไหลเวียนบนร่างของเขา ก่อนพลังที่มองไม่เห็นจะปะทุออกมา ผลักซีให้ถอยกลับไป
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าหยิ่งผยองถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็มีคนปกป้องเจ้าอยู่หรือ? ตระกูลเทียนมาจากเทวโลก ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้!”
ร่างกายของเทียนลู่สั่นไหว เขารวดเร็วเป็นอย่างมาก ทิ้งภาพติดตาเอาไว้อย่างต่อเนื่อง ซียังไม่ทันได้ตอบสนองอันใดก็ถูกเทียนลู่เข้าประชิดเสียแล้ว
เขาตบฝ่ามือออก พลังอันน่าสะพรึงกลัวหมุนเวียนราวกระแสน้ำ ต้องการจะสังหารซีทิ้ง
ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งใดอีก เขานั้นมาจากตระกูลเทียน ไม่ว่าผู้ใดจะอยู่เบื้องหลังของซี เขาก็ไม่เกรงกลัว อาจหาญมายั่วยุตระกูลเทียนเช่นนี้ ไม่มีทางที่จะจบลงด้วยดี
เทียนลู่ต้องการจะสังหารซีทิ้งก่อนที่สายฟ้าสีทองจะฟาดลงมา ทว่าน่าเสียดายที่แผนของเขาไร้ผล
สายฟ้าสีท้องนั้นรวดเร็วเสียยิ่งกว่า ทันทีที่เขายกมือขึ้น สายฟ้าสีทองก็ฟาดใส่ร่างของเขาเสียแล้ว ร่างเนื้อของเขาถูกผ่าจนไหม้เกรียม มีควันสีดำลอยออกมา ทั้งร่างกระตุกเกร็งขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
ซีใช้ทวนสีทองพุ่งเข้าใส่เทียนลู่อีกครั้ง เหล่าสิ่งมีชีวิตที่ติดตามเทียนลู่รีบพุ่งเข้ามาทันที หมายจะหยุดยั้งซี
ตู้ม!
แต่เมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เคลื่อนไหว เพียงแค่พริบตาเดียวสายฟ้าสีท้องก็ผ่าลงมาจากบนท้องฟ้าสูง ทำให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทั้งหมดล้มลงบนพื้นทันที เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว
คราวนี้ทวนของซีสามารถแทงทะลุร่างเนื้อของเทียนลู่ได้ ก่อนที่นางจะผลักเทียนลู่จนลอยกระเด็นออกไป
“อ๊ากกก!”
เทียนลู่กู่ร้อง เลือดสาดกระเซ็น เขาเคยต้องตกอยู่ในสภาพน่าสังเวชเช่นนี้ที่ไหนกัน? ถึงกับถูกขอบเขตโกลาหลผู้หนึ่งเล่นงาน ช่างน่าอับอายขายหน้าเกินไปแล้ว!
เขาเสียสติไปทันที พลังภายในร่างทั้งหมดระเบิดออกมา ทว่าเพียงแค่พลังภายในร่างเพิ่งจะเริ่มพุ่งออกมา บนท้องฟ้าสูงขึ้นไปพลันมีสายฟ้าสีทองฟาดใส่เขาอีกครั้ง พลังทั้งหมดที่เขารวบรวมเตรียมระเบิดออกมาก็ถูกทำลายสิ้น!
“แน่จริงเจ้าก็มาต่อสู้กับข้าเพียงผู้เดียวเสีย!”
เขาจับจ้องไปทางซีด้วยดวงตาสีแดงก่ำ รู้สึกอัดอั้นตันใจจนไม่อาจทนไหว เพิ่งจะเตรียมลงมือก็ถูกฟ้าผ่าเสียแล้ว ไม่มีทางต่อสู้ได้เลย!
“เจ้ากำลังพูดจาอันใดไร้สาระ! เจ้าอยู่ขอบเขตใด แล้วข้าอยู่ขอบเขตใด เจ้ามีหน้าเช่นไรจึงเอ่ยออกมาอย่างนั้น!?”
ซีโยนทวนออกไป ตอกร่างของเทียนลู่ไว้บนยอดเขา
“อย่ามายุ่งกับข้าอีก เข้าใจหรือไม่?”
นางมองไปที่เทียนลู่ด้วยแววตาเย็นชา “หากมีครั้งหน้าอีก ข้าจะไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอน!”
หลังจากนั้นนางก็เก็บทวนกลับมา
แม้ว่าเทียนลู่จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าตนเองไม่อาจทำสิ่งใดกับซีได้ สายฟ้าสีทองนั่นรุนแรงเกินไป พลังเหนือชั้นกว่าเขาเป็นอย่างมาก
เขาทำได้เพียงแต่พาเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ติดตามมาด้วยออกจากที่นี่ไปเท่านั้น
“ประเดี๋ยวก่อน”
ซีพลันนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ จึงเรียกให้พวกเทียนลู่หยุด
“ผู้อาวุโสเต่าได้รับบาดเจ็บก็เพราะพวกเจ้า กระดองทั้งหมดก็แตกไปแล้ว จะจากไปโดยปล่อยเรื่องนี้เอาไว้อย่างนั้นหรือ?”
นางมองไปทางเทียนลู่แล้วเอ่ยออกมา “ขอโทษผู้อาวุโสเต่า และทิ้งของชดเชยเอาไว้ หลังจากนั้นพวกเจ้าจึงจะสามารถออกไปได้”
ได้ยินเช่นนี้แล้ว เต่าชราก็พลันฟื้นคืนสติกลับมา รีบวิ่งตรงมาทางนี้ทันที
หลังจากนั้นมันก็ล้มลงพื้นเสียงดังสนั่น แล้วร้องไห้ออกมาเสียงจ้า “ข้าทนไม่ไหวแล้ว ข้ากำลังจะตาย เหลือเพียงแค่ลมหายใจสุดท้าย หากไม่ได้ยาก็คงไม่อาจอยู่รอดได้!”
ใกล้ตายบ้านเจ้าสิ!
มุมปากของเทียนลู่กระตุก เต่าชรานี่มันอันใดกัน ช่างไร้ยางอายเสียจริง เมื่อครู่ท่าทางตอนวิ่งก่อนล้มเรียกได้ว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต
แต่เมื่อมาล้มตรงนี้แล้วกลับบอกว่าทนไม่ไหว ใกล้จะตายแล้วอย่างนั้นหรือ?
เห็นได้ชัดว่ากำลังรีดไถ่เขา!
[1] ใช้มือปิดผืนฟ้า (一手遮天) หมายถึง อาศัยอิทธิพลปกปิดอำพราง