บทที่ 778 สรรพเครื่องดนตรี ปี่สั่วน่านับเป็นจ้าว!
เสียงพุทธะกว้างใหญ่อย่างถึงที่สุด เปี่ยมด้วยพลังพิเศษอันไม่อาจอธิบายได้ พระอมิตาภะพุทธเจ้ามุ่งเป้าหมายไปที่เขาหลิงซานด้วยรอยยิ้มเริงร่าบนใบหน้า เขานั้นมั่นใจเป็นอย่างมาก
“ดูเสีย คราวนี้ยังจะไม่มีคนตอบรับอีกหรือไม่…”
เขาหัวเราะอย่างแผ่วเบา ได้ยินคนเริ่มเอ่ยออกมาว่า ‘อามิ…’
แต่แล้วสีหน้าของเขาก็ต้องแปรเปลี่ยนไปทันที คนผู้นั้นไม่ได้ท่อง ‘อามิตาพุทธ’ แต่ท่องออกมาว่า ‘อามิ…ต้าเต๋อฝอ ข้าพระพุทธไร้เกศา!’
“นี่มันอันใดกัน!”
แววตาของเขามืดครึ้มลง สีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว แม้จะมุ่งเป้าที่เขาหลิงซานก็ไม่ได้ผลอย่างนั้นหรือ? สิ่งนี้เกินกว่าความคาดหมายของเขามาก
นี่แทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลย!
ความแข็งแกร่งของพระอมิตาพระพุทธเจ้าถึงระดับลึกล้ำจนไม่อาจหยั่งถึงได้แล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงแค่ความคิดหนึ่งของพระอมิตาภะพุทธเจ้า แต่เขาก็ยังทรงพลังเป็นอย่างมาก
ด้วยพลังของเขาแล้ว แม้กระทั่งเทวโลกชั้นหนึ่งถึงสามก็ไม่อาจหยุดยั้งได้ จะต้องสิ้นสติไปภายใต้เสียงพุทธของเขา
ทว่าเขากลับประสบความล้มเหลวที่นี่ เขาจะเคยคาดคิดเรื่องนี้มาก่อนได้อย่างไร
ภายในเขาหลิงซาน เมื่อเสียงของพระอมิตาภะพุทธเจ้าดังขึ้นมา สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ภายในก็มองไปทางพระอมิตาภะพุทธเจ้า
ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้ตอบสนองแต่อย่างใด
พวกเขาตระหนักได้อย่างชัดเจน ว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าผู้นี้มีปัญหาใหญ่ยิ่ง และก็ไม่ใช่พระอมิตาภะพุทธเจ้าที่พวกเขาศรัทธา
“นี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลี่จิ่วเต้าผู้นั้นหรือไม่?”
“หลี่จิ่วเต้าผู้นั้นทรงพลังเป็นอย่างยิ่งจริง ๆ”
พวกเขาอดถอนหายใจด้วยความรู้สึกมากมายไม่ได้ สามารถฟังเสียงสวดของพระอมิตาภะพุทธเจ้าโดยไม่ได้รับผลกระทบใด เรื่องนี้ทำให้พวกเขานึกถึงหลี่จิ่วเต้าขึ้นมาทันที
นอกจากหลี่จิ่วเต้าแล้ว พวกเขาก็ไม่สามารถคิดหาเหตุผลอื่นได้
ความจริงก็เป็นเช่นนั้นจริง
พวกเขาได้รับการชำระจากกิ่งหลิ่วชะล้าง ทำให้มี ‘ภูมิคุ้มกัน’ ต่อเสียงของพระอมิตาภะพุทธเจ้าเป็นที่เรียบร้อย อย่าว่าแต่นี่เป็นเพียงความคิดหนึ่งของพระอมิตาภะพุทธเจ้าเลย กระทั่งตัวของพระอมิตาภะพุทธเจ้ามาด้วยตนเองก็ไม่สามารถกระทำได้
อีกด้านหนึ่ง หลี่จิ่วเต้าเดินออกมาจากห้องก็มองเห็นพระอมิตภะพุทธเจ้าที่ประทับอยู่บนดอกบัวทองคำตรงฟ้าสูง
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่คือพระอมิตาภะพุทธเจ้าอย่างนั้นหรือ? หน้าตาเหมือนกับพระพุทธรูปทองคำที่ประดิษฐานเอาไว้ในวิหารต้าสยงไม่ผิด
เพียงแค่ดูเหมือนว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าผู้นี้จะมีสิ่งใดผิดแปลกไป เขาเห็นความดุร้ายโหดเหี้ยมในสายตาของพระอมิตาภะพุทธเจ้าผู้นี้
พระอมิตาภะพุทธเจ้าเปี่ยมด้วยความเมตตาโอบอ้อมอารี ยึดถือการพาสรรพสัตว์หลุดพ้นจากความทุกข์เป็นหน้าที่ตน เช่นนั้นแล้วจะมีแววตาดุร้ายเหี้ยมโหดเช่นนี้ได้อย่างไร จะต้องมีสิ่งผิดปกติกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าอย่างแน่นอน อีกทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นในเขาหลิงซานก่อนหน้านี้ก็น่าจะมาจากปัญหาเดียวกัน
“อามิ…ต้าเต๋อฝอ ข้าพระพุทธไร้เกศา พระผู้เป็นเจ้า เกิดสิ่งใดขึ้นกับท่านกัน!?”
ต้าเต๋อเอ่ย
เมื่อเขาเห็นพระอมิตาภะพุทธเจ้า ก็พลันรู้ได้ทันทีว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ลมหายใจของพระอมิตาภะพุทธเจ้าแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เขาได้พานพบอย่างสิ้นเชิง เขาสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับพระอมิตาภะพุทธเจ้า!
“ผู้ใดให้สิทธิ์เจ้าเรียกตนเองว่าฝอ?”
พระอมิตาภะพุทธเจ้ามองต้าเต๋อด้วยดวงตาที่ไร้ความเมตตาแม้เพียงนิด “เหตุที่เขาหลิงซานกลายเป็นเช่นนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
เขารู้จักต้าเต๋อ ตระหนักอย่างชัดเจนว่าคนรอบกายต้าเต๋อล้วนไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง
หรือจะเป็นคนผู้นั้นกัน?
เขามองไปทางหลี่จิ่วเต้า รู้สึกได้ว่าชายผู้นี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก เขาไม่สามารถมองอีกฝ่ายออกแม้แต่น้อย หลี่จิ่วเต้าให้ความรู้สึกลึกลับเป็นอย่างมาก
เสียงตู้มดังขึ้น เขาตบฝ่ามือลงไปทันทีโดยไม่พูดจาอันใดให้มากความ เขาต้องการจะดูว่าหลี่จิ่วเต้านั้นมีความสามารถมากเพียงใด
หลี่จิ่วเต้าให้ความสนใจกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าอยู่เช่นกัน เมื่อเขาเห็นว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้ามองมาทางเขา ก็รู้ได้ทันทีว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าไม่ได้มีเจตนาดีแต่อย่างใด
เขาเรียกหินห้าประภาออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ขว้างออกไปทันที
หินห้าประภาเปล่งแสงเจิดจ้า รวดเร็วจนไม่อาจจินตนาการถึง กระทั่งพระอมิตาภะพุทธเจ้ายังไม่อาจทันตอบสนอง เกิดเสียงปังขึ้นมา พร้อมกับหินห้าประภาที่กระแทกเข้าใส่ใบหน้าของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
อั่ก!
พระอมิตาภะพุทธเจ้ากระอักเลือดออกมา ถูกหินห้าประภากระแทกจนร่วงลงจากท้องนภา กระแทกลงบนยอดเขาจนพังทลายลง!
“สมกับเป็นสมบัติสะท้านฟ้า…”
หลี่จิ่วเต้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก ทันทีที่เขายกมือขึ้น หินห้าประภาก็บินกลับเข้าไปในมือของเขาทันที
ดูเหมือนบรรพจารย์ฝูจะแข็งแกร่งมากจริง ๆ ทุกสิ่งที่นำออกมาล้วนทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้เขายังขาดความมั่นใจอยู่บ้าง อย่างไรเสียนี่ก็เป็นถึงพระอมิตาภะพุทธเจ้า เป็นดั่งตำนานอันอยู่เหนือสรรพสิ่งในดาวเคราะห์สีฟ้า เขาจึงเกิดความกลัวว่าหินห้าประภาจะไม่สามารถจัดการกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าได้
แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากเกินไป พระอมิตาภะพุทธเจ้าไม่ได้ทรงพลังมากเท่าที่เขาจินตนาการ หินห้าประภายังคงสามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับพระอมิตาภะพุทธเจ้าได้
“หากข้าได้พบกับบรรพจารย์ฝูอีกครั้ง ข้าจะต้องกล่าวขอบคุณบรรพจารย์ฝูให้ดี!”
เขาถอนหายใจภายในใจ คิดว่าตนเองโชคดีเป็นอย่างยิ่ง สามารถแลกเปลี่ยนสมบัติกับผู้ยิ่งใหญ่เช่นบรรพจารย์ฝู นี่ทำให้เขามีวิธีใช้ปกป้องตนเองได้ดียิ่งขึ้น
“แต่…นี่คือพระอมิตาภะพุทธเจ้าจริงหรือ?”
เขาคิดขึ้นมาในใจอีกครั้ง รู้สึกว่าหากพระอมิตาภะพุทธเจ้าผู้นี้คือพระอมิตาภะพุทธเจ้าในตำนานของดาวเคราะห์สีฟ้าจริง ก็น่าจะแข็งแกร่งอย่างมาก ไม่ควรพ่ายแพ้ต่อสมบัติเช่นนี้
“สมควรหรือไม่? หลักศานาพุทธถูกนำไปให้สุนัขกินหมดแล้วหรือ? กับข้าที่เป็นเพียงปุถุชนยังกล้าลงมือ ไม่ละอายใจบ้างหรืออย่างไร!”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยพร้อมมองไปยังพระอมิตาภะพุทธเจ้า สำหรับพระอมิตาภะพุทธเจ้าผู้นี้ เขารู้สึกดูแคลนเป็นอย่างยิ่ง
นี่เป็นการเลือกกำจัดผู้อ่อนแอก่อนใช่หรือไม่? เห็นเขาเป็นเพียงแค่ปุถุชนธรรมดา จึงคิดจะลงมือกับเขาก่อน?
หน้าไม่อายเสียจริง!
ปุถุชน!?
ปุถุชนบ้าบออันใด!
พระอมิตาภะพุทธเจ้าได้ยินสิ่งที่หลี่จิ่เต้าพูดแล้ว ภายในดวงตาก็ถึงกับเต็มไปด้วยความอาฆาต
เขาไม่เชื่อว่าหลี่จิ่วเต้าเป็นปุถุชนแต่อย่างใด จะเป็นไปได้เช่นไร! เขาคิดว่าหลี่จิ่วเต้ากำลังทำให้เขาอับอาย และอัปยศอย่างถึงที่สุด!
ฟิ้ว!
แสงพุทธส่องสะท้อนลงมาจากผืนฟ้าส่องลงมาทางเขาที่กำลังลุกขึ้นจากพื้น แสงสว่างเจิดจ้ามากเสียจนไม่อาจมองได้โดยตรง ตอนนี้เขาโกรธเป็นอย่างมาก วันนี้เขาจะต้องสังหารหลี่จิ่วเต้าให้ได้
เห็นได้ชัดว่ามีแสงบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ลอยเข้าไปในร่างของเขา ทำให้พลังของเขายิ่งแข็งแกร่งน่าตื่นตะลึงมากขึ้นเรื่อย ๆ!
ร่างของเขาขยายใหญ่ขึ้นจนแทบทะลุท้องฟ้า เบื้องหลังปรากฏภาพนิมิตอย่างต่อเนื่อง เขาใช้พลังความศรัทธาจากเหล่าบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ตกอยู่ใต้เสียงพุทธะ พลังบางอย่างที่ลอยออกจากร่างของพวกเขาตรงเข้าไปในร่างของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
ไม่เพียงแต่สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้เท่านั้น กระทั่งหมื่นอาณาจักรและแดนบรรพโกลาหลเองก็ไม่เว้น พลังบางอย่างถูกดึงออกจากสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน มาเสริมพลังความแข็งแกร่งให้กับพระอมิตาภะพุทธเจ้า
ฟ้าดินพลันแปรเปลี่ยนสีทันใด ส่งเสียงร้องกึกก้องอย่างต่อเนื่อง ประหนึ่งวันโลกาวินาศได้มาเยือนแล้ว ทว่าพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ยังเพิ่มสูงขึ้น จนกระทั่งสามารถฉีกความว่างเปล่าออกเป็นรอยแยกขนาดใหญ่!
สุนัขสีดำตื่นตกใจเป็นอย่างมาก เดิมทีพระอมิตาภะพุทธเจ้าก็แข็งแกร่งมากแล้ว ทว่าตอนนี้ไปถึงระดับที่น่ากลัวไกลเกินกว่าจินตนาการ ยามนี้พระอมิตาภะพุทธเจ้าก้าวไปถึงขอบเขตใดแล้วกันแน่? เกรงว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าเพียงแค่กระทืบเท้าเบา ๆ ก็สามารถกวาดล้างทุกสิ่งไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย!
“สมควรตาย!”
ต้าเต๋อสบถด้วยความโกรธ สีหน้าน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง
มีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับพระอมิตาภะพุทธเจ้าจริง ๆ ทั้งยังเป็นปัญหาใหญ่ การดึงพลังศรัทธาเช่นนี้ออกมานับว่าเป็นการดึงแก่นชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นมาด้วย และจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อบรรดาสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น
เขามองไปยังพระอมิตาภะพุทธเจ้าในตอนนี้ ไม่สามารถเห็นถึงความเมตตาใดแม้แต่น้อย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความชั่วร้ายอย่างมาก
“วันนี้ข้าจะสวด ‘อมิตาพุทธสูตร’ เพียงเพื่อเปลี่ยนเจ้าเพียงผู้เดียวเอง!”
พระอมิตาภะพุทธเจ้ามองไปทางหลี่จิ่วเต้าด้วยสีหน้าเย็นชา
อมิตาพุทธสูตร เป็นพระสูตรสูงสุดที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าสร้างขึ้นมา สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสรรพสิ่งบนโลกได้ เขาโกรธมากจริง ๆ ถึงกับหยิบเอาวิชาก้นหีบออกมาใช้
ด้วยพลัง ‘ศรัทธา’ จากสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน เมื่อรวมกับ ‘อมิตาพุทธสูตร’ แล้ว ไม่ว่าหลี่จิ่วเต้าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไร้ค่า ล้วนถูกกำหนดให้ถูกเขาเปลี่ยนแปลง ยอมฟังคำสั่งของเขา
“อย่าเอ่ยให้ขบขันเลย เจ้ายังไม่อาจเอาชนะข้าได้ ต่อให้เปลี่ยนเป็นพระตถาคต*[1]ก็ไม่ต่าง”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม
“พระตถาคต!”
รูม่านตาของพระอมิตาภะพุทธเจ้าหดแคบลง ไม่คาดคิดเลยว่าหลี่จิ่วเต้าจะเอ่ยชื่อพระตถาคตออกมา หลี่จิ่วเต้ารู้จักพระตถาคตได้อย่างไร!?
แม้กระทั่งในเทวโลก ก็มีสิ่งมีชีวิตเพียงน้อยนิดที่รู้ถึงตัวตนของพระตถาคต นี่นับเป็นความลับอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนา
“เรื่องไม่คาดฝันของข้าเกี่ยวข้องกับหลี่จิ่วเต้าผู้นี้หรือไม่?”
เขาหรี่ตาลงครุ่นคิดกับตนเอง
ไม่ต้องสงสัยเลย หลี่จิ่วเต้าสามารถเอ่ยคำว่าพระตถาคตออกมาเช่นนี้ได้ ย่อมจะต้องมีความเข้าใจเรื่องพระพุทธศาสนาของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เขาอดเกิดความแคลงใจขึ้นมาไม่ได้ว่าเรื่องไม่คาดฝันที่เขาเผชิญ มีโอกาสอย่างมากที่หลี่จิ่วเต้าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง
“ลองดูแล้วจึงรู้!”
เขานั่งขัดสมาธิลง จากนั้นก็เริ่มท่อง ‘อมิตาพุทธสูตร’ ออกมาเพื่อเปลี่ยนแปลงหลี่จิ่วเต้า
หากเขาสามารถเปลี่ยนหลี่จิ่วเต้าได้แล้ว เขาอยากทราบสิ่งใดก็สามารถรู้ได้ทุกเรื่อง
เขาสวด ‘อมิตาพุทธสูตร’ สัญลักษณ์สวัสดิกะของพระพุทธศาสนาก็ปรากฏออกมา ภาพเสมือนพุทธภูมิเองก็โผล่ออกมา ร่างของเขาเปล่งแสงเจิดจ้า ราวกับเป็นหนึ่งในโลกหล้า
“กล่าวตามตรงแล้ว ช่างไม่น่าฟังเอาเสียเลย เอาเถิด ให้ข้าบรรเลงสักบทเพลงให้ฟัง”
หลี่จิ่วเต้าส่ายหัวแล้วนำปี่สั่วน่าออกมา
ใช่แล้ว มันคือปี่สั่วน่า นี่ก็นับเป็นหนึ่งในสมบัติที่เขาแลกเปลี่ยนมาจากบรรพจารย์ฝูด้วย ยามนั้นเขาเองก็แปลกประหลาดใจเล็กน้อย คาดไม่ถึงเลยว่าผู้ฝึกตนเองก็ใช้ปี่สั่วน่าเพื่อส่งผู้สิ้นชีวีด้วยหรือ?
แต่ภายหลังเขาก็คิดขึ้นมาได้
ผู้ฝึกตนเองก็ฝึกฝนมาจากปุถุชนเช่นกัน ย่อมไม่อาจตัดขาดจากปุถุชนได้โดยสิ้นเชิง การมีปี่สั่วน่าก็เป็นเรื่องปกติ
ทว่าอันที่จริงแล้ว เมื่อตอนที่บรรพจารย์ฝูกำลังเตรียมตัวจะวางหลุมพรางใส่หลี่จิ่วเต้า เขาบังเอิญไปพบพิธีศพของปุถุชนเข้า ทำให้เขาได้ปี่สั่วน่ามา
หลังจากนำออกมาแล้ว หลี่จิ่วเต้าก็เริ่มเล่นปี่สั่วน่า
พันปีผีผา หมื่นปีกู่เจิง เอ้อร์หู*[2]ชั่วชีวิต จบสิ้นด้วยปี่สั่วน่า*[3]!
ไม่เคยได้ยินเสียงปี่สั่วน่า ได้ฟังอีกทีคนก็อยู่ในโลงแล้ว!
สรรพเครื่องดนตรี ปี่สั่วน่านับเป็นจ้าว!
เมื่อเสียงปี่สั่วน่าดังขึ้น ทุกสิ่งมีชีวิตในเขาหลิงซานก็ต่างขนลุกชันขึ้นมาทันทีด้วยความสะพรึงเป็นอย่างยิ่ง เสียงปี่สั่วน่าก้องกังวานเข้าไปถึงจิตวิญญาณของพวกเขาโดยตรง!
“นี่มันอันใดกัน!”
บทสวดของพระอมิตาภะพุทธเจ้าถูกขัดจังหวะทันที ไม่สามารถสวดต่อไปได้ เสียงปี่สั่วน่าแทรกซึมเข้ามาแข็งแกร่งเกินไป เขาไม่อาจรวบรวมสมาธิ ได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากนั้น เขาก็ราวกับได้ยังเสียงร้องไห้ไว้ทุกข์ ประหนึ่งว่านี่เป็นงานศพของเขา ถึงกระทั่งรู้สึกเหมือนตนเองกำลังนอนอยู่บนแผ่นกระดาน มีผ้าสีขาวคลุมปกปิดร่างของเขาเอาไว้
นี่เป็นพิธีฝังศพอย่างชัดเจน!
“มารดามันเถิด!”
เขาตื่นตกใจกลัว ไม่กล้ารั้งอยู่ที่นี่อีกต่อไป ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่นเลย เพียงแค่เสียงปี่สั่วน่าของหลี่จิ่วเต้าก็สมควรให้เขาหนีแล้ว!
ความคิดส่วนนั้นของพระอมิตาภะพุทธเจ้าพุ่งออกจากร่างเนื้อ รีบหนีไปจากสถานที่แห่งนี้!
ร่างเนื้อของพระอมิตภะพุทธเจ้าร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
ต้าเต๋อรีบพุ่งเข้าไปรับร่างของพระอมิตาภะพุทธเจ้าเอาไว้ เขาเห็นบางสิ่งพุ่งออกไปจากร่างของพระอมิตาภะพุทธเจ้า คาดว่านั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ควบคุมร่างกายพระอมิตาภะพุทธเจ้าอยู่
“ยังสามารถไล่วิญญาณได้อีกด้วย!”
หลี่จิ่วเต้าเล่นเสร็จแล้ว ก็อดมองปี่สั่วน่าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เขาเองก็เห็นบางสิ่งลอยออกไปจากร่างเนื้อของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
‘สมกับเป็นปี่สั่วน่า กระทั่ง ‘วิญญาณร้าย’ ก็ไม่อาจทานทน ช่างทรงพลังนัก!’
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยขึ้นมาภายในใจ
[1] ตถาคต (如来) เป็นหนึ่งในนามของพระพุทธเจ้า และเป็นคำเรียกที่พระพุทธเจ้าใช้เรียกแทนตัวเอง
[2] เอ้อร์หู (二胡) คือ ซอสองสาย
[3] อธิบายความหมายของประโยคดังนี้ ปี่สั่วน่าเป็นที่นิยมใช้ในงานศพพื้นบ้านใช้ส่งคนที่จากไปแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีไหนก่อนหน้า สุดท้ายก็จบที่ปี่สั่วน่า