บทที่ 72 คนที่รังแกเธอ อภัยให้ไม่ได้
เพี๊ยะ
เธอตบหน้าของกู้หยุนหลันต่อหน้าพนักงาน พนักงานทุกคนได้เห็นและได้ยิน
ทุกคืนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูดอะไร พวกเขาได้แค่มองอยู่ข้างๆ
กู้หยุนหลันที่ตกใจอยู่ เธอรู้สึกแสบร้อนที่แก้มของเธอ
“เธอก็คือกู้หยุนหลันหรือ?” หญิงสาวคนนี้ได้ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
กู้หยุนหลันกำหมัดและจ้องหน้าของหญิงสาวคนนี้ด้วยความโกรธและถามไปว่า:“ คุณเป็นใคร มาตบฉันทำไม?”
หญิงสาวคนนี้ยิ้มอย่างเยือกเย็นและได้ตบไปที่หน้าของกู้หยุนหลันอีกครั้ง ชี้ไปที่หน้าของกู้หยุนหลันแล้วด่าว่า:“ฉันชื่อหวางเมิ่งเหยา ฉันเป็นหุ้นส่วนใหม่ และเป็นแฟนของกู้ซิงเว๋ย ฉันจะเตือนเธอว่าต่อจากนี้ เธออย่ามาแย่งอำนาจในบริษัทกับพี่ซิงเว๋ย ไม่งั้นละก็ ถ้าฉันเจอเธอเมื่อไหร่ฉันก็จะตบเธอเมื่อนั้น
“อันธพาล” อวดเก่ง
ท่านนี้คือหุ้นส่วนใหม่ของบริษัทวินเซิง หวางเมิ่งเหยา
กู้หยุนหลันโมโหจนคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เธอไม่คิดเลยว่าหวางเมิ่งเหยาจะเป็นคนอันธพาลและไร้เหตุผลมากแบบนี้
กู้หนุนหลัน รู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะอายุประมาณยี่สิบต้นๆ เอง แต่กลับทำตัวเป็นเด็กไม่รู้กาลเทศะและไม่แยกแยะเรื่องดีและไม่ดี
ขณะเดียวกัน กู้ซิงเว๋ยได้ออกมาจากห้องทำงาน เห็นภาพนี้เขาได้ทำเป็นพูดเย็นชาใส่หวางเมิ่งหยา:“ เมิ่งเหยา เธอทำอะไร? กลับมา!”
ท่าทางหวางเมิ่งเหยาที่ไม่กลัวอะไรเลย เธอได้กอดอก และใช้สายตาที่เย็นเยือกของเธอจ้องมองกู้หยุนหลัน ถึงได้หันหลังและเดินจากไป
ทั้งสำนักงานไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยปากพูดเลย
กู้ซิงเว๋ยเดินมาและแสดงความรู้สึกที่จอมปลอมออกมา:“ โอ๊ย รองผู้อำนวยการกู้ เมิ่งเหยาเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้ คุณอย่าถือสานางเลยนะ หรือไม่ก็ฉันขอโทษแทนเมิ่งเหยาด้วยนะ”
กู้หยุนหลันมองกู้ซิงเว๋ยด้วยสีหน้าที่เย็นชาและพูดว่า:“ ไม่เป็นไร ขอบคุณ”
พูดจบ กู้หยุนหลันหันหลังและเดินออกไปจากสำนักงาน และไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
เลขาของเธอรีบตรงมาหาเธอและถามเธอด้วยความใส่ใจว่า:“คุณหยุน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? ไม่คิดเลยนะว่าหวางเมิ่งเหยาจะร้ายได้ถึงระดับนี้ ผู้จัดการกู้ก็ไม่ว่ากล่าวตักเตือนแฟนของตัวเองที่งี่เง่าเลยนะ”
กู้หยุนหลันรู้สึกเครียดมาก เธอได้ไปส่องกระจก มองไปที่รอยมือที่แดงบนหน้าเธอ แก้มด้านขวายังมีรอยที่ถูกเล็บขูดเป็นทางและมีเลือดซึมออกมา
กู้หยุนหลันไม่โกรธหรือ?
โกรธสิ
แต่เธอพึ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นร้องผู้อำนวยการ และหวางเมิ่งเหยาก็เป็นหุ้นส่วนใหม่ด้วย แถมยังมีคุณปู่และกู้ซิงเว๋ยค่อยหนุนหลังเธอทำได้แค่เพียงอดทน
ไม่งั้นละก็ เธอที่พึ่งได้รับตำแหน่งรองผู้อำนวยการวันแรก และไปมีเรื่องและทะเลาะกับหุ้นส่วนใหม่คนนี้ ต่อไปเธอจะอยู่ในบริษัทนี้ได้ยากขึ้น
ช่วงเที่ยงระหว่างเวลาพักเที่ยง กู้หยุนหลันมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับความรู้สึกที่หนักใจ มาอยู่เป็นเพื่อนซีซีที่โรงพยาบาล
ตอนที่หลี่โม่มาถึง กู้หยุนได้หาข้ออ้างและออกไป
ซีซีใส่ชุดของโรงพยาบาลที่เป็นลายตัวการ์ตูน และดึงแขนของหลี่โม่ แอบส่องไปที่หน้าประตู และกระซิบบอกหลี่โม่ว่า:“ คุณพ่อ เมื่อกี้คุณแม่ร้องไห้ หนูเห็นหน้าของแม่มีรอยแผลด้วย”
ตอนนี้ซีซีเรียกหลี่โม่ว่าคุณพ่อหลี่โม่ได้แลัว
สีหน้าของหลี่โม่ดูแย่เมื่อได้ยินแบบนี้ เขาลู[หัวของซีซี และเดินอ้อมหลังออกไป และเจอกู้หยุนหลันที่นั่งอยู่ แต่เธอที่พยายามจะหลบหลี่โม่ แต่ก็หลบไม่พ้น
แก้มด้านขวา รอยฝ่ามือที่แดงสดและรอยขูดสองเส้นที่เห็นได้เด่นชัด
“ใครเป็นคนตบเธอ?!”
หลี่โม่รู้สึกโกรธ แสดงแววตาที่เยือกเย็นและอาฆาต
มีคนกล้าตบกู้หยุนหลันหรือ?
นี่ไม่กลัวตายเลยหรืออย่างไง!
สมควรตาย!!!
หลี่โม่ในตอนนี้โมโหอย่างมาก ไฟได้ลุกเต็มอกของตัวเขา!
ความอดทนของหลี่โม่ถูกทำลาย เมื่อกู้หยุนหลันถูกทำร้าย
เห็นหลี่โม่ที่โมโหแบบนี้ กู้หยุนหลันรีบจับไปที่แขนของเขาและอธิบายว่า:“ นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่…….แค่ไปขูดโดนโดยไม่ตั้งใจน่ะ”
กู้หยุนหลันรู้สึกน้อยใจมาก เธออยากที่จะโถมเข้าไปในอ้อมกอดของหลี่โม่และร้องไห้ออกมา แต่เธอยิ่งไม่อยากที่จะให้หลี่โม่ไปมีเรื่องเพราะตัวเธอ
เพราะนั้นเป็นบริษัททวินเซิง และเป็นหุ้นส่วนที่มาใหม่ และยังเป็นแฟนของกู้ซิงเว๋ย คุณปู่ยังต้องดูแลนางดีๆ เลย
ฉันสู้นางไม่ได้หรอก
“แผลนี้เธอโดนเล็กตัวเองขูดหรือ?” สายตาที่คับแค้นของหลี่โม่ เขาไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน
“ใช่ ฉันขูดโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เกี่ยวกับใครทั้งนั้นแหละ นายหยุดถามได้แล้ว”
กู้หยุนหลันค่อยๆ ปลอบโยนอารมณ์ของหลี่โม่ให้เขาใจเย็นลง:“ หลี่โม่ นายไม่เชื่อฉันหรือ?”
ประโยคนี้ทำให้หลี่โม่นิ่งอยู่ชั่วครู่
เขามองออกว่า กู้หยุนหลันไม่อยากที่จะพูด และตำแหน่งของคู่กรณีต้องไม่ธรรมดา ถึงทำให้เธอหวาดกลัวได้ขนาดนี้
แต่ภรรยาของหลี่โม่ เป็นคนของสำนักหลงเหมิง
ใต้ฟ้านี้ ไม่มีใครจะรังแกเธอได้
คนที่รังแกเธอ มีโทษสถานเดียว คือตายเท่านั้น
หลี่โม่หายใจเข้าลึกๆ และยื่นมือไปจับบริเวณแก้มที่นุ่มนวลของเธอ และถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า:“ เธอเจ็บไหม?”
กู้หยุนหลงน้ำตาไหลและส่ายหัว:“ ฉันไม่เป็นไร แผลแค่นี้เอง ทำอะไรฉันไม่ได้หรอกนายก็อย่าโมโหแบบนี้ได้ไหม น่ากลัวมาก ฉันคิดว่าเมื่อกี้นาย……”
เมื่อกี้กู้หยุนหลันรู้สึกอย่างชัดเจนได้ว่า เมื่อหลี่โม่โมโห เหมือนสิงโตดุร้ายที่ไม่ควรไปมีเรื่องด้วย ความโกรธที่แพร่ออกมาจากร่างกาย เหมือนเขาสามารถที่จะฉีกโลกนี้เป็นชิ้นๆ ได้เลย
น่ากลัวมาก!
น่าตกใจมาก นี้เป็นหลี่โม่ที่อยู่กินกับเธอมาเป็นเวลาสี่ปีหรือ?
หลี่โม่ได้พยักหน้า ในใจก็ยังคิดเรื่องของกู้หยุนหลันอยู่
ในเมื่อเรื่องนี้กู้หยุนหลังไม่ยอมเล่า เขาก็จะไปสืบเอง
และเมื่อถึงเวลาทำงานตอนเย็น หลี่โม่ได้ขับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไปส่งกู้หยุนหลันที่บริษัทด้วยตัวเอง
หลี่โม่มองกู้หยุนหลันที่เดินเข้าไปในอาคารแล้ว หลี่โม่ถึงได้หยิบมือถือขึ้นมาและโทรหาใครสักคน ไม่นานก็มีหญิงสาวหน้าตาดีเดินออกมาจากหน้าประตู
ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเลขาของกู้หยุนหลันเฉียนเสี่ยวเหวินเอง
วันนี้เฉียนเสี่ยวเหวินอารมณ์ไม่ดี เธอเห็นหลี่โม่ที่โบกมือให้เธออยู่ข้างจักรยานยนต์ไฟฟ้าเธออยากที่จะหันหลังจะเดินกลับไป
นายคนนี้ ดูบ้าๆ บอๆ
เฉียนเสี่ยวเหวินรู้จักนายคนนี้ เขาเป็นสามีของกู้หยุนหลัน เป็นคนที่ไม่เอาไหนเลย เป็นคนที่หนักไม่เอาเบาไม่สู้
เฉียนเสี่ยวเหวินเลยรู้สึกไม่ค่อยดีกับหลี่โม่
แต่เมื่อกี้หลี่โม่ได้โทรหาเธอ บอกว่ามีเรื่องด่วน
“นายมาหาฉันทำไม?” เฉียนเสี่ยวเหวินได้เอามือกอดที่หน้าอก และมองหลี่โม่ด้วยสีหน้าที่เบื่อและเย็นชา ระยะห่างระหว่างเฉียนเสี่ยวเหวินกับหลี่โม่อยู่ประมาณสองเมตรเธอใช้สายตาที่ดูถูกมองไปหาหลี่โม่
หลี่โม่ไม่ได้สนใจการกระทำของเธอและพูดว่า:“ ฉันจะพาเธอจะไปเลี้ยงที่ร้านHEYTEAเธอ”
“ร้านHEYTEAหรือ?”
เฉียนเสี่ยวหวินตะลึงไปสักครู่ เฉียนเสี่ยวเหวินที่นึกถึงน้ำองุ่นและชีสโยเกิร์ต แต่เฉียนเสี่ยวเหวินได้กระทืบเท้าทันที และชี้ไปที่หลี่โม่และพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธ:“ หลี่โม่ ฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะเป็นคนที่น่ารังเกียจแบบนี้ เธออย่าหวังไปเถอะ ฉันไม่มีวันที่จะทำให้คุณหยุนหลันเสียใจแน่นอน นายอย่าหวังที่จะกินฉันเลย
คิดไม่ถึงเลยว่า หลี่โม่ที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่จริงใจ แต่ความจริงแล้วเขาเป็นคนที่น่ารังเกียจแบบนี้
ผู้ชายที่ไร้ค่า!
เลวและน่ารังเกียจ
หลี่โม่ตกใจ เขารู้ว่าเฉียนเสี่ยวเหวินกำลังคิดอะไรอยู่ เขาเลยรีบอธิบายไปว่า:“ เธอคิดมากไปแล้ว ที่ฉันมาหาเธอ ฉันมีเรื่องจะให้เธอช่วย ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น”
“จริงหรือ?” เฉียนเสี่ยวเหวินได้พูดด้วยน้ำเสียงที่สงสัย:“ งั้นนายต้องเลี้ยงน้ำองุ่นและชีสโยเกิร์ตฉัน และฉันต้องการแก้วใหญ่ด้วย
เมื่อไปถึงร้านHEYTEA หลี่โม่ได้สั่งเครื่องดื่มให้กับเฉียนเสี่ยวเหวินและสั่งของหวานให้เธอด้วย
หลี่โม่รู้ว่า เฉียนเสี่ยวเหวินเป็นคนที่ชอบกิน โดยเฉพาะของหวาน
มองเฉียนเสี่ยวเหยินที่เหมือนเด็กที่ยังไม่โต เธอจ้องมองไปที่ของหวานบนโต๊ะอาหาร หลี่โม่รู้ว่าตัวเองได้เลือกถูกแล้ว
เฉียนเสี่ยวเหวินรู้สึกสับสนมาก เธอบังคับตัวเองเพื่อจะไม่มองของหวานที่น่าดึงดูดใจบนโต๊ะ และพยายามทำสีหน้าให้ดูเหมือนดูปกติ
เธอได้ถามหลี่โม่ไปว่า:“ นายมาหาฉันมีเรื่องอะไร?”
หลี่โม่ยิ้มตอบไปว่า:“ ก็ไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไร เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เธอกินก่อนสิทั้งหมดนี้สั่งให้เธอคนเดียวเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
เฉียนเสี่ยวเกวินกลืนน้ำลายตัวเองและชี้ไปที่ของหวานที่อยู่บนโต๊ะแล้วถามว่า:“ ของหวางทั้งหมดนี้เป็นของฉันหรือ?”
หลี่โม่พยักหน้า เฉียนเสี่ยวเหวินนิ่งไปสักพัก เธอได้หยิบช้อนขึ้นมาแล้วกินของหวานอย่างเอร็ดอร่อย
เธอได้แสดงสีหน้าที่มีความสุข
เจ้านี้ถูกซื้อใจได้ง่ายจังนะ
“หลี่โม่นายอยากรู้เรื่องอะไรก็ถามฉันมาเลย ถ้าเป็นเรื่องของบริษัทฉันตอบนายได้ทุกคำถาม” ระหว่างที่พูดเนยยังติดอยู่ที่ริมปากของเธอเลย
หลี่โม่เงียบไปสักพักและถามว่า:“ ตอนเช้ากู้หยุนหลันถูกใครตบหรือ?”