บทที่ 784 โลกใบนี้ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว ทั้งหมดล้วนถูกทุบตีกลับไป!
ผู้ฝึกตนจำนวนนับไม่ถ้วนทะยานขึ้นบนท้องฟ้า บนร่างต่างสวมเสื้อคลุมมังกร พวกเขาล้วนเป็นสมาชิกคนสำคัญของราชวงศ์ และเป็นทัพหน้าในครั้งนี้ หลังจากนั้นก็มีสมาชิกราชวงศ์อีกจำนวนหนึ่งตามมาสมทบ
สมาชิกในราชวงศ์มีจำนวนมากเกินไป แม้สภาพแวดล้อมของชายขอบแดนบรรพโกลาหลจะค่อนข้างแร้นแค้น แต่ก็ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด พวกเขาจึงค่อย ๆ ทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีสมาชิกอยู่มากกว่าสิบล้านคน!
และตอนอยู่ที่ชายขอบก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก
ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่มีความกล้าพอจะเอ่ยว่าต้องการครอบครองดินแดนแห่งหนึ่ง!
ผู้ที่สูญหายไปในคราวนั้น ต่างขยายวงศ์ตระกูลในชายขอบแดนบรรพโกลาหล ทุกกองกำลังต่างมีสมาชิกเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อีกทั้งเก้าโจวได้แยกตัวออกจากอาณาจักรแห่งนี้ไปแล้ว กลายเป็นอาณาจักรเก้าตอนบน ทำให้อาณาจักรแห่งนี้มีขนาดเล็กลง
อนาคตทุกตารางนิ้วในอาณาจักรแห่งนี้ จะต้องเต็มไปด้วยผู้ฝึกตนจำนวนมากเป็นแน่แท้
ดังนั้นเป็นไปได้อย่างมากที่จะเกิดเหตุการณ์พื้นที่ไม่เพียงพอ ผู้ฝึกตนจำนวนมากจะต้องถูกบังคับให้ออกจากอาณาจักรแห่งนี้ไปอาศัยอยู่อาณาจักรแห่งอื่น
พวกเขาล้วนตระหนักได้ถึงจุดนี้ ดังนั้นหลังจากออกมาแล้ว พวกเขาจึงลงมือกวาดล้างผู้ฝึกตนของอาณาจักรบ้านเกิดอย่างไม่ลังเล เพื่อสร้างพื้นที่ให้กับตน จะได้ไม่ต้องแออัดจนเกินไป
วิ้ง วิ้ง วิ้ง!
พวกเขายืนอยู่บนท้องนภา แสงสว่างจำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งประกายออกมจากร่าง เจิดจ้าเสียจนไม่อาจมองได้โดยตรง ขณะเดียวกันพวกเขาก็แผ่ขยายลมหายใจของตนออกไปอย่างเต็มที่ ปกคลุมทั่วทั้งแดนบูรพาทิศ
การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนในแดนบูรพาทิศดู แต่เพื่อให้สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ จากชายขอบเข้าใจว่าสถานที่แห่งนี้ถูกพวกตนครอบครองแล้ว
เมื่อเหล่าสิ่งมีชีวิตชายขอบที่มายังสถานที่แห่งนี้ สัมผัสได้ถึงลมหายใจของพวกเขา ก็ออกไปจากที่นี่ทันที ไม่ต้องการแย่งชิงกับผู้แข็งแกร่ง
ยังเหลือสถานที่ดี ๆ ไร้ผู้จับจองอีกมาก ไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงกันในตอนนี้
“นี่มันอันใดกัน?!”
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น!”
ผู้ฝึกตนในแดนบูรพาทิศต่างตัวสั่นสะท้าน เอ่ยสนทนากันด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
เมื่อคนจากราชวงศ์เหล่านั้นแผ่ลมหายใจสะท้านฟ้าสะเทือนดินออกมา พวกเขาพลันรู้สึกถูกแรงกดดันมหาศาลทับใส่ทันที กระทั่งหายใจยังยากลำบาก ประหนึ่งมีมีดจ่อลำคอ พร้อมปลิดชีพตนทุกเมื่อ!
“ลงมือเถิด”
คนผู้หนึ่งที่สวมกวานสีทองเปิดปากเอ่ย “กวาดล้างมดแมลงที่นี่ทิ้งเสีย แม้แต่ผู้เดียวก็อย่าปล่อยให้รอดไปได้ พวกเรายังจำเป็นต้องจัดวางฐานที่มั่น การช่วงชิงเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น!”
การยึดครองตอนนี้ไม่ได้หมายความว่าจะได้เป็นเจ้าของ การต่อสู้แย่งชิงหลังจากนี้จะต้องดุเดือดอย่างถึงที่สุด พวกเขาจำเป็นต้องมีฐานที่มั่น เปลี่ยนแปลงสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นปราการเหล็ก ป้องกันการโจมตีจากกองกำลังอื่น
“เข้าใจแล้ว!”
“ไป!”
ยอดฝีมือคนอื่น ๆ จากราชวงศ์ต่างพากันเหยียดยิ้ม พร้อมออกไปกวาดล้างเต็มที่
ฟิ้ว!
ขณะนั้นเอง ลูกศรขนาดใหญ่พลันพุ่งแหวกอากาศ ความผันผวนที่แผ่ออกมาน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ประหนึ่งดาวตกพุ่งลงมาจากฟากฟ้า พริบตาเดียวก็ถึงตัวยอดฝีมือราชวงศ์ผู้หนึ่งแล้ว
ยอดฝีมือของราชวงศ์ถูกโจมตีจนร่างกระเด็น และระเบิดออกกลายเป็นม่านหมอกโลหิต ถูกสังหารในทันที!
เฮือก!
มีเสียงสูดหายใจอย่างเย็นยะเยือก ยอดฝีมือของราชวงศ์คนอื่น ๆ ต่างตื่นตกใจ นั่นคือผู้ที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตโกลาหลแล้ว แม้จะยืนนิ่งให้ศัตรูโจมตี ก็ไม่อาจถูกสังหารตายได้อย่างง่ายดายเช่นนี้อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้เพียงแค่หนึ่งลูกศร กลับสามารถสังหารยอดฝีมือของราชวงศ์ได้ทันที เหล่ายอดฝีมือราชวงศ์คนอื่น ๆ ต่างไม่ทันได้ตอบสนอง เช่นนั้นแล้วจะไม่ให้พวกเขาหวาดกลัวได้อย่างไร!
เซี่ยเหยียนเดินออกมา ในมือถือคันศรราชัน ชายเสื้อสะบัดไหว สีหน้าเย็นชา
นางสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของยอดฝีมือราชวงศ์เหล่านี้ พวกเขาต้องการกวาดล้างสังหารผู้ฝึกตนทั้งหมดในแดนบูรพาทิศ!
ขณะเดียวกันนั้นเอง นางก็ยังสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในดินแดนอื่น ๆ บนอาณาจักร มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากกำลังทำการฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้
“พวกเจ้ามาจากแดนบรรพโกลาหลแล้วคิดว่าจะสามารถกระทำการตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? พวกเจ้าวิปลาสกันหรืออย่างไร?!”
นางกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
ผนึกแดนบรรพโกลาหลถูกเปิดออก นางสัมผัสได้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มาจากด้านในแดนบรรพโกลาหล สิ่งนี้ทำให้นางโกรธอย่างถึงที่สุด สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ออกมาทำสิ่งใด? ต้องการฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรแห่งนี้หรือ?
“มาจากแดนบรรพโกลาหล? เจ้าไม่ได้มาจากด้านในแดนบรรพโกลาหลอย่างนั้นหรือ?!”
“เป็นไปได้อย่างไร!”
สีหน้าของยอดฝีมือราชวงศ์ต่างพากันแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก เดิมทีพวกเขาคิดว่าเซี่ยเหยียนเองก็มาจากแดนบรรพโกลาหลเช่นเดียวกัน ทว่าหลังได้ยินสิ่งที่หญิงสาวผู้นี้เอ่ย ก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเซี่ยเหยียนไม่ได้มาจากแดนบรรพโกลาหล
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ สื่งมีชีวิตที่อยู่ภายนอกจะสามารถฝึกฝนมาจนถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?!
“สหาย การที่ฝึกตนอยู่ภายนอกจนได้ถึงขั้นนี้ นับว่าไม่ง่ายเลย สิ่งที่ข้าอยากจะกล่าวกับสหายก็คือ สหายอย่าได้ยื่นมือเข้ามาเลย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่สหายเพียงคนเดียวสามารถต่อต้านได้!”
ยอดฝีมือจากราชวงศ์ผู้สวมกวานทองเอ่ยออกมา
แม้จะตื่นตกใจกับความแข็งแกร่งทรงพลังของเซี่ยเหยียน แต่เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด ยอดฝีมือภายในราชวงศ์ส่วนใหญ่ไล่ตามมาติด ๆ เซี่ยเหยียนเพียงแค่คนเดียวจะสามารถจัดการพวกเขาทั้งหมดได้อย่างไร?
ไม่มีทางเป็นไปได้!
ไม่ว่าเซี่ยเหยียนจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ย่อมมีข้อจำกัด อย่างไรเสียเซี่ยเหยียนก็อาศัยอยู่ภายนอกแดนบรรพโกลาหล
เพียงพริบตาต่อมา กลางอากาศก็พลันบิดเบี้ยว ความผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกไป ยอดฝีมือราชวงศ์คนอื่น ๆ มาถึงแล้ว!
ครั้งนี้มียอดฝีมือจำนวนมาก พวกเขาตัดสินใจปักหลักในแดนบูรพาทิศ นี่จะเป็นการเริ่มต้นใหม่ของราชวงศ์!
“สหายยังเยาว์วัย อนาคตไร้ขีดจำกัด อย่าได้ทำเรื่องสิ้นคิดนำพาตนเองเข้าสู่ปัญหาเลย”
จักรพรรดิของราชวงศ์เองก็มาด้วย เขามองลงไปยังเซี่ยเหยียนด้วยท่าทางสง่างามน่าเกรงขาม “ตอนนี้ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะสามารถต่อกรด้วยได้ สหายหากต้องการรักษาชีวิตตนไว้ ก็รีบจากไปเสีย!”
เขากล่าวต่อ “แต่หากสหายอยากยกระดับขึ้น เช่นนั้นก็ย่อมได้ ข้าสามารถให้สหายมาเข้าร่วมกับราชวงศ์ของพวกเรา สามารถทำให้สหายประหนึ่งทะยานขึ้นฟ้า ส่งขึ้นไปยังจุดที่สูงยิ่งขึ้น!”
เซี่ยเหยียนไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพียงแค่ยกคันศรในมือ ชี้ไปทางจักรพรรดิของราชวงศ์
“บังอาจ!”
จักรพรรดิของราชวงศ์ตวาด “ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว หากยิงศรออกมาอีก เจ้าจะไม่มีโอกาสที่สองอีกแล้ว จะต้องตายเท่านั้น!”
“ดี เช่นนั้นเจ้าก็ตายก่อนเถิด…”
สีหน้าของเซี่ยเหยียนไม่แยแส นางรั้งคันศรก่อนจะยิ่งลูกศรพุ่งตรงไปยังจักรพรรดิแห่งราชวงศ์
ตู้ม!
ยอดฝีมือคนอื่น ๆ จากราชวงศ์ต่างเคลื่อนไหว พลังทั้งหมดปะทุออกมาโดยไม่คิดเก็บงำเอาไว้ พวกเขาต้องการจะหยุดยั้งศรแสงดอกนี้ ไม่มีทางปล่อยให้มันพุ่งเข้าไปทำอันตรายกับจักรพรรดิของตนได้
ความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ไม่ธรรมดา สูงสุดอยู่ถึงขั้นห้าขอบเขตโกลาหล หลังจากพวกเขาลงมือ กระทั่งผืนอากาศขนาดใหญ่ก็จะพังทลาย กฎเกณฑ์อันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกไปทั่วบริเวณ
“เป็นเจ้าที่ส่งตัวเองเข้าสู่หนทางตาย!”
จักรพรรดิเหยียดยิ้ม ไม่ว่าเซี่ยเหยียนจะแข็งแกร่งมากเพียงใด ก็ไม่อาจต่อกรกับพวกเขาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน
ทว่าเพียงแค่พริบตาต่อมา รอยยิ้มบนใบหน้าพลันแข็งค้าง แววตาที่แสดงออกมาเต็มไปด้วยความสยดสยองอย่างถึงที่สุด ราวกับได้พบพานสิ่งที่น่าสยดสยองที่สุดบนโลก!
ศรแสงพุ่งตรงเข้ามา แม้จะยังไม่เข้าใกล้ เหล่ายอดฝีมือที่ก้าวออกไปด้านหน้าเพื่อยับยั้งก็ล้วนถูกระลอกพลังที่แผ่ออกมาบั่นคอ สิ้นชีพลงในบัดดล!
“เป็นไปได้อย่างไร!”
จักรพรรดิตะโกนออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เหตุใดเซี่ยเหยียนถึงได้แข็งแกร่งน่าหวาดหวั่นถึงเพียงนี้? น่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว ช่องว่างความแตกต่างนั้นมากเกินไป!
ศรแสงดอกนั้นพุ่งใส่ทะลุร่าง เดิมทีเขานึกว่าตนเองจะตายเสียแล้ว ทว่ากลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ร่างของเขาระเบิดกลายเป็นกลุ่มหมอกเลือด เศษเนื้อและกระดูกปลิวว่อน ทว่าวิญญาณไม่ถูกทำลาย ยังคงมีชีวิตอยู่!
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเซี่ยเหยียนไม่ได้ตั้งใจสังหารตน จงใจไว้ชีวิต ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องไม่รอดอย่างแน่นอน!
“ดูแลคนของเจ้าให้ดี หากคนของเจ้ากล้าทำร้ายผู้ฝึกตนในอาณาจักรแห่งนี้ หรือแม้กระทั่งใบไม้ต้นหญ้า พวกเจ้าจะต้องได้เผชิญความตายอย่างแน่นอน!”
เซี่ยเหยียนเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นอันตรธานหายไป
เพียงพริบตาเดียวนางก็ไปถึงสถานที่อีกแห่ง สถานที่แห่งนี้มีอสูรร้ายกำลังอ้าปากกว้าง ต้องการจะกลืนกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในเมืองเข้าไป
นางตบฝ่ามือออกไป กำจัดอสูรร้ายตนนั้นทิ้งทันที
นางเคลื่อนไหวต่อ ไล่สังหารสิ่งมีชีวิตที่ก่อความวุ่นวายทั่วทุกหนแห่ง
อันหลานเสวี่ย และพวกอ้ายฉานเองก็สำแดงฝีมืออย่างดุเดือดเช่นเดียวกัน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้เข้าร่วมการต่อสู้เช่นนี้ ก่อนหน้าพวกเขาก็เคยช่วยสกัดกั้นยอดฝีมือจากอาณาจักรต้องห้ามไม่ให้เข้ามายังอาณาจักรแห่งนี้
แดนฝอที่ต้าเต๋ออยู่ก็ถูกโจมตีเช่นเดียวกัน ต้าเต๋อพุ่งเข้าโรมรันตั้งแต่เหนือจรดใต้ ไล่สังหารตั้งแต่ทิศตะวันออกไปจนถึงทิศตะวันตก
“นี่มันอันใดกัน!”
เหตุใดจึงใดน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้?!
เหล่าสิ่งมีชีวิตจากชายขอบตื่นตกใจกลัว เหตุใดจึงรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ช่างน่ากลัวยิ่งกว่าภายในแดนบรรพโกลาหลเสียอีก?!
พวกเขารีบหนีจากไปทันที เร่งร้อนกลับเข้าไปยังแดนบรรพโกลาหล สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นตื่นตกใจกลัวเสียจนล้มเลิกความคิดที่จะตั้งรกรากทันที
“กลับมาทำไม?”
“น่าสนใจจริง ๆ…”
สิ่งมีชีวิตภายในแดนบรรพโกลาหลสังเกตเห็นว่าเหล่าผู้ฝึกตนชายขอบพากันวิ่งหนีกลับมา สิ่งนี้ทำให้พวกเขาคิดไม่ถึง เกินความคาดหมายไปไกล
ดูจากสภาพสิ่งมีชีวิตชายขอบเหล่านั้นแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถูกคนทุบตีส่งกลับมา!
แม้พวกเขาจะดูแคลนสิ่งมีชีวิตชายขอบเหล่านี้ ทว่าสิ่งมีชีวิตชายขอบก็ยังคงอาศัยอยู่ในแดนบรรพโกลาหล ย่อมต้องเหนือกว่าจนสิ่งมีชีวิตภายนอกไม่อาจเทียบได้ ทว่ากลับถูกทุบตีจนต้องหนีหัวซุกหัวซุนกลับมา พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้แม้แต่น้อย
ดูเหมือนภายนอกจะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คิด…
“ข้าจะออกไปดู ว่ามีสิ่งใดอยู่กันแน่!”
ครุฑปีกทองเอ่ยออกมาอย่างเหยียดหยาม มันกระพือปีกหนึ่งครา พุ่งบินออกไปนับแสนจั้ง ลมหายใจน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา ครู่เดียวมันก็ออกจากแดนบรรพโกลาหลไปยังดินแดนภายนอก
สิ่งมีชีวิตในแดนบรรพโกลาหลอื่น ๆ รีบตามไปทันที ทว่าพวกเขาไม่กล้าออกจากแดนบรรพโกลาหล จึงทำเพียงเฝ้ามองจากด้านใน
ครุฑปีกทองตนนี้คือหนึ่งในผู้เทียมทาน สามารถเทียบเคียงได้กับจ้าวดินแดนต่าง ๆ ในแดนบรรพโกลาหล หากกล่าวเพียงในแง่การต่อสู้แบบตัวต่อตัวแล้วยังสามารถนับได้ว่าแข็งแกร่งกว่าจ้าวดินแดนด้วยซ้ำ!
หลังจากครุฑปีกทองออกมา มันก็อาละวาดสำแดงเดช เพียงแค่ขยับปีกอย่างแผ่วเบา ทั้งฟ้าดินก็สั่นสะเทือน กฎเกณฑ์ทั้งหลายถูกทำลาย พลังเต๋าสวรรค์เองก็ยังถูกเหยียบไว้ใต้เท้ามัน
ขนปีกสีสวยสดงดงามยามเปล่งประกายเรืองรอง อีกทั้งพลังพิเศษที่ไหลเวียนยังส่งผลกระทบต่อความว่างเปล่า ก่อกวนเส้นเวลา ช่างน่าหวาดกลัวจนไม่อยากเชื่อ!
“ฝีมือผู้ใด? ออกมาสู้กับข้าเสีย แสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้าแข็งแกร่งมากเพียงใด!”
มันตะโกนออกไปด้วยความผยองถือดี ไร้ซึ่งความกลัวเกรง