หมอผีแม่ลูกติด – บทที่ 260 ล้วงลึก

หมอผีแม่ลูกติด

บท​ที่​ 260 ล้วงลึก​

เมื่อ​ได้​ฟังคำ​ของ​องค์​ชาย​รัตติกาล​ ก็​เกิด​ประกาย​บางอย่าง​ขึ้น​มาใน​แววตา​ของ​ฮ่องเต้​เจียง​ทันที​ “เพียง​สามวัน​ หา​เงื่อนงำ​มาได้​ก็​ดีแล้ว​ แล้ว​ข้า​จะไกล่เกลี่ย​กับ​ฮ่องเต้​หลี​ให้​เจ้าเอง​”

ฝ่าย​มหา​นักบวช​พูด​ขึ้น​มาทันที​ “สำหรับ​เรื่อง​นี้​พวกเรา​รัฐ​หลี​ต้องการ​คำอธิบาย​ เรื่อง​ของ​การ​ไกล่เกลี่ย​นั้น​ขอ​ฮ่องเต้​เจียง​อย่า​ได้​เอ่ย​ออกมา​เลย​”

คำพูด​ที่​ไม่ไยดี​ดังกล่าว​ทำให้​ฮ่องเต้​เจียง​ถึงกับ​หน้า​เปลี่ยนสี​ใน​พริบตา​

ตอน​ทักทาย​เมื่อ​สักครู่​ก็​ที​หนึ่ง​แล้ว​ ทำไม​เขา​ถึงได้​ปัด​ข้อเสนอ​ของ​เรา​ไป​เสีย​หมด​เลย​นะ​?

เมื่อ​ถูก​ปฏิเสธ​ครั้งแล้วครั้งเล่า​เช่นนี้​ ฮ่องเต้​แห่ง​รัฐ​เจียง​จึงไม่คิด​หันไป​มอง​ทาง​ฝ่าย​หา​นักบวช​อีก​ แล้ว​หันไป​สนใจ​กับ​แต่เพียง​องค์​ชาย​เย่​แทน​ “แล้ว​องค์​ชาย​เย่พบ​อะไร​บ้าง​? ไหน​ลอง​ว่า​มา”

“ข้า​ถูก​ทำร้าย​จน​บาดเจ็บ​ระหว่าง​ที่​สืบสวน​อยู่​ จึงเกรง​ว่า​ข้า​อาจจะ​พูด​อะไร​ตกหล่น​ไป​บ้าง​ จึงได้​มอบให้​ท่าน​เจ้ากรม​อาญา​ซูเผย​เป็น​คนพูด​แทน​เรา​!”

สิ้น​คำ​ ซูเผย​พลัน​ออกมา​ยืน​ข้างหน้า​แล้ว​แสดง​คารวะ​ “เรียน​ฝ่าบาท​ มีคดี​ยุทโธปกรณ์​หาย​ไป​เมื่อไม่นานมานี้​ ซึ่งรอง​แม่ทัพ​ของ​กองทัพ​เพลิง​แดง​เป็น​คน​ปกปิด​เอาไว้​และ​ทำให้​ขโมย​ไป​ได้​อย่าง​เงียบเชียบ​ และ​เพื่อที่จะ​ขนส่ง​ยุทโธปกรณ์​เหล่านี้​ออก​ไป​ขาย​นอกเมือง​เพื่อ​ทำเงิน​มหาศาล​แล้ว​ จึงได้​พุ่ง​เป้า​ไป​ที่​กลุ่ม​ราชทูต​จาก​รัฐ​หลี​ และ​ท่าน​ราชทูต​รัฐ​หลี​ที่​ถูก​ฆ่านั้น​ก็​เป็น​เพราะ​เขา​ได้​รับเงิน​จาก​อีก​ฝ่าย​มาแต่กลับ​ไม่ยอม​ช่วย​พวกเขา​พ่ะย่ะค่ะ​”

“มีหลักฐาน​อะไร​มายืนยัน​ว่า​สิ่งที่​เจ้าพูด​มาเป็น​ความจริง​?” มหา​นักบวช​พลัน​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​แฝงไป​ด้วย​ความสงสัย​ ด้วย​เขา​รู้สึก​เหมือนกับ​ว่า​ทาง​ฝ่าย​นั้น​กำลัง​มองหา​ใคร​มาเป็น​แพะรับบาป​อยู่​

ซูเผย​เอง​ก็​รับรู้​ได้​ว่า​อีก​ฝ่าย​กำลัง​สงสัย​ตน​อยู่​เช่นกัน​ เขา​จึงพูด​ออกมา​ด้วย​สีหน้า​ไม่พอใจ​ “ตอนนี้​นักโทษ​อยู่​ห้องขัง​แล้ว​พร้อมด้วย​หลักฐาน​เป็น​ยุทโธปกรณ์​ที่​หาย​ไป​ ถ้าท่าน​มหา​นักบวช​ยัง​ไม่เชื่อ​ ก็​ไป​สอบถาม​ที่​ห้องขัง​ได้​เลย​ขอรับ​”

มหา​นักบวช​จึงพูด​ต่อว่า​ “ถ้าเป็นปกติ​ข้า​ก็​คงจะ​เชื่อ​ท่าน​ซูไป​แล้ว​ แต่​ใน​ยาม​นี้​ข้า​ไม่อาจ​ประมาท​สิ่งใด​ได้​แม้แต่​นิดเดียว​ เช่นนั้น​แล้ว​ ข้า​จะขอ​ตาม​ไป​กับ​ท่าน​ซูด้วย​”

ดูเหมือนว่า​นักบวช​จาก​รัฐ​หลี​ผู้​นี้​จะไม่คิด​เชื่อ​ง่าย ๆ​

ในขณะที่​ฮ่องเต้​เจียง​กำลังจะ​เอ่ยปาก​ให้​อนุญาต​อยู่​นั้น​เอง​ เจียง​หวาย​เย่​ก็​กระแอม​ขึ้น​มา แล้ว​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​สบาย​ ๆ ซึ่งขัด​กับ​ท้องพระโรง​ที่​กำลัง​ตึงเครียด​

“ไม่ต้อง​กังวล​ไป​ท่าน​มหา​นักบวช​ เรา​มีอะไร​บางอย่าง​ที่​อยาก​จะให้​ท่าน​ดู​ที่นี่​” เจียง​หวาย​เย่​พลัน​หยิบ​เอา​จดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​ออก​มาจาก​แขน​เสื้อ​ของ​ตน​ “สิ่งที่​เขียน​อยู่​ใน​นี้​คือ​จดหมาย​ของ​ท่าน​ราชทูต​จาก​รัฐ​หลี​ ที่​ถูก​ส่งมาโดย​พวก​ลักลอบ​ขโมย​ยุทโธปกรณ์​”

ขันที​นาย​หนึ่ง​พลัน​รับ​จดหมาย​จาก​มือ​องค์​ชาย​เย่​แล้ว​นำ​ไป​ให้​มหา​นักบวช​

และ​เมื่อ​มหา​นักบวช​ไล่​สายตา​บน​กระดาษ​แผ่น​นั้น​ไป​เรื่อย ๆ​ สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​ซีด​ลง​ ๆ

เมื่อ​ฮ่องเต้​เจียง​เห็น​เช่นนั้น​ เขา​ก็​เริ่ม​รู้สึก​สนใจ​ข้อความ​ที่อยู่​ใน​จดหมาย​นั้น​ขึ้น​มา “มีข้อความ​อะไร​อยู่​ใน​จดหมาย​นั่น​อย่างนั้น​หรือ​? เหตุใด​ท่าน​มหา​นักบวช​ถึงได้​ดู​สีหน้า​ไม่สู้ดี​นัก​”

เจียง​หวาย​เย่​ที่​กำลังจะ​เอ่ยปาก​ตอบ​ ก็​ถูก​มหา​นักบวช​พูด​ตัด​ขึ้น​เสีย​ก่อน​ “ก็​แค่​จดหมาย​ธรรมดา​ ๆ ไม่มีอะไร​เป็นพิเศษ​พ่ะย่ะค่ะ​” สิ้น​คำ​ เขา​ก็​ฉีก​กระดาษ​ใน​มือ​ออก​ทันที​เป็น​ชิ้นเล็กชิ้นน้อย​ แล้ว​เก็บ​เข้าไป​ไว้​ใน​แขน​เสื้อ​ตน​

โดย​ไม่ปล่อย​ให้​มีเศษกระดาษ​หลุด​ออกมา​แม้แต่​ชิ้น​เดียว​

“มัน​เป็น​จดหมาย​ธรรมดา​ ๆ อย่าง​ที่​ท่าน​มหา​นักบวช​ว่า​มาจริง ๆ​ หรือ​?” ฮ่องเต้​เจียง​พูด​อย่าง​ไม่เชื่อ​หู​ พร้อมกัน​นั้น​เขา​ก็​มอง​ไป​ทาง​เจียง​หวาย​เย่​ด้วย​สายตา​ที่​คาดคั้น​

เจียง​หวาย​เย่​ที่​คิด​จะเปิดปาก​ออก​ไป​อี​กรอบ​ก็​รู้สึก​ได้​ถึงสายตา​ของ​มหา​นักบวช​

องค์​ชาย​เย่​จึงยิ้มมุมปาก​น้อย​ ๆ แล้ว​ผงกหัว​ “ถึงแม้มัน​จะเป็น​แค่​จดหมาย​ธรรมดา​ ๆ แต่​มัน​ก็​เพียง​พอที่จะ​แสดงให้เห็น​ว่า​ราชทูต​รัฐ​หลี​นั้น​รับสินบน​จริง ๆ​”

“ถ้าเช่นนั้น​ก็​เอาไว้​แค่นี้​ ข้า​มหา​นักบวช​ขอ​น้อม​รับ​คำอธิบาย​นี้​ของ​องค์​ชาย​เย่”​ หลังจากที่​มหา​นักบวช​กล่าว​จบ​ สีหน้า​ของ​เขา​ก็ได้​กลับมา​เป็นปกติ​อีกครั้ง​ แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​กล่าว​กับ​ฮ่องเต้​เจียง​อย่าง​ประชดประชัน​ “มีคน​ที่​ยอดเยี่ยม​เหมือน​ดั่ง​องค์​ชาย​เย่​เช่นนี้​ รัฐ​เจียง​ช่างโชคดี​เสีย​จริง ๆ​”

เกิด​กระแส​ความไม่พอใจ​ใน​หมู่​ขุนนาง​ทันที​ ด้วย​พวกเขา​รู้สึก​ว่า​มหา​นักบวช​กำลัง​ล่วงเกิน​องค์​เหนือ​หัว​ของ​พวก​ตน​ กระนั้น​ก็​ไม่อาจ​มีใคร​พูด​สิ่งใด​ออกมา​ได้​ เพราะ​ไม่แน่ใจ​ว่า​ผลลัพธ์​ใน​ครั้งนี้​ จะออก​หัว​หรือ​ออก​ก้อย​

ในขณะที่​ฮ่องเต้​เจียง​กำลังจะ​ประกาศ​ให้​เลิก​การประชุม​อยู่​นั้น​เอง​ มหา​นักบวช​ก็​พลัน​กล่าว​ขึ้น​มา “ฮ่องเต้​เจียง​ กลุ่ม​ราชทูต​ของ​ข้า​ได้มา​รบกวน​ที่​รัฐ​เจียง​แห่ง​นี้​หลาย​วัน​แล้ว​ ดังนั้น​แล้ว​พวกเรา​ตัดสินใจ​จะกลับ​รัฐ​หลี​ใน​เร็ว​วันนี้​”

ข่าว​ใหม่​ที่​เพิ่ง​ประกาศ​ไป​นี้​เอง​เป็น​ประหนึ่ง​ฟ้าผ่า​ลง​กลาง​ท้องพระโรง​

ฮ่องเต้​เจียง​กระแอม​ที​หนึ่ง​เพื่อ​กลบเกลื่อน​ความตกใจ​ของ​ตน​ “ฮ่องเต้​หลี​ตัดสินใจ​ได้​แล้ว​หรือ​ ว่า​จะเลือก​บุตรี​คนใด​ของ​บ้าน​มหา​เสนาบดี​ไป​?”

“ที่​รัฐ​หลี​นั้น​ยังมี​งาน​ที่​สำคัญ​อีก​มาก​อยู่​ที่​จำเป็นต้อง​ให้​ฮ่องเต้​ไป​จัดการ​ ยิ่งไปกว่านั้น​บุตรี​ของ​มหา​เสนาบดี​หลิน​นั้น​ก็​ล้วนแต่​ยอดเยี่ยม​ยิ่งนัก​ เมื่อใด​ที่​ฮ่องเต้​หลี​ตัดสิน​พระทัย​ได้​แล้ว​ ทาง​เรา​จะส่งพระ​ราชสาสน์​มาแจ้ง เมื่อนั้น​พวกเรา​ก็​จะได้​มีความสัมพันธ์​อัน​แน่นแฟ้น​ระหว่าง​รัฐ​หลี​กับ​รัฐ​เจียง​สืบไป​” มหา​นักบวช​กล่าวตอบ​

“ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ข้า​ก็​คงอยู่​เฉย​ไม่ได้​” ฮ่องเต้​เจียง​ก็​ไม่คิด​ที่จะ​ล้วงลึก​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​ฮ่องเต้​หลี​กัน​แน่​ แต่​ก็ได้​กล่าว​ไป​ “พรุ่งนี้​ข้า​จะจัด​งานเลี้ยงส่ง​ให้​พวก​ท่าน​ให้​ที่​ศาลา​ริมน้ำ​”

มหา​นักบวช​ก้ม​คำนับ​ “ขอบ​พระทัย​ฝ่าบาท​”

ส่วน​ฝ่าย​เจียง​หวาย​เย่​ก็​ทำได้​เพียงแค่​แค่น​เสียง​ใน​ลำคอ​เบา​ ๆ ไป​พร้อมกับ​ทำ​หน้า​นิ่ง​ เพราะ​ด้วย​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​ฮ่องเต้​หลี​ใน​ขณะนี้​แล้ว​ เขา​มั่นใจ​ว่า​อีก​ฝ่าย​คง​ยัง​ไม่กลับ​ไป​ง่าย ๆ​ แน่​

หลังจากที่​เสร็จสิ้น​วาระ​การประชุม​ อัน​อี้​ก็​มาเข็น​รถเข็น​พา​เจียง​หวาย​เย่อ​อก​ไป​

ทันใดนั้น​เอง​

“องค์​ชาย​เย่​ได้​โปรด​อยู่​ก่อน​” ก็​มีเสียง​ของ​มหา​นักบวช​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ด้านหลัง​ เมื่อ​หันไป​มอง​ก็​เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​ทำท่า​คล้าย​กับ​ว่า​มีอะไร​อยาก​จะพูด​ด้วย​

เมื่อ​รถเข็น​ของ​องค์​ชาย​รัตติกาล​หันมา​ประจันหน้า​กับ​มหา​นักบวช​ อีก​ฝ่าย​ก็​พูด​ต่อ​ทันที​ “ข้า​สงสัย​ว่า​ท่าน​จะสามารถ​รับศึก​สอง​ด้าน​ได้​หรือไม่​?”

ฝ่าย​องค์​ชาย​จึงกล่าว​กับ​อัน​อี้​เบา​ ๆ ว่า​ “เจ้าไป​รอ​เรา​อยู่​ที่​หน้า​วัง​ก่อน​”

เมื่อ​อัน​อี้​ผละ​ตัว​ไป​แล้ว​ มหา​นักบวช​จึงเป็น​ที่มา​เข็น​รถ​เจียง​หวาย​เย่​แทน​ เวลา​เคลื่อน​ผ่าน​ไป​สักพัก​ ในที่สุด​มหา​นักบวช​ก็​เปิดปาก​พูด​ “ใน​เมื่อ​ท่าน​ทราบ​อยู่แล้ว​ว่า​ คน​ของ​ทาง​รัฐ​หลี​ขโมย​ยุทโธปกรณ์​ของ​รัฐ​เจียง​ไป​ แล้ว​ทำไม​ท่าน​ถึงได้​ไม่รายงาน​ให้​ฮ่องเต้​เจียง​ทราบ​ไป​ตรง ๆ​ เล่า​?”

เจียง​หวาย​เย่​พลัน​หัวเราะ​ออกมา​ “ถ้าเรา​เอาเรื่อง​นี้​ไป​บอก​ฝ่าบาท​ คิด​ว่า​ฝ่าบาท​จะเปิดศึก​กับ​รัฐ​หลี​อย่างนั้น​หรือ​?”

มหา​นักบวช​ส่ายหน้า​ “ฮ่องเต้​เจียง​นั้น​มีข้อดี​ตรง​ที่​ไม่เป็น​คน​มักใหญ่ใฝ่สูง​ แต่​ก็​มีข้อ​เสียที่​เป็น​คนขี้ขลาด​และ​ไร้ความสามารถ​ เขา​ย่อม​ไม่ทำสงคราม​อย่าง​แน่นอน​”

เจียง​หวาย​เย่​พยักหน้า​ไม่ได้​คัดค้าน​อะไร​ “ข้า​จะทำ​เพียงแค่​ใช้จดหมาย​ต่อรอง​แลกเปลี่ยน​ผลประโยชน์​นิด​ ๆ หน่อย​ ๆ กับ​ทาง​รัฐ​หลี​เท่านั้น​”

มหา​นักบวช​เข้าใจ​ทันที​ว่า​ถ้อยคำ​องค์​ชาย​รัตติกาล​หมายความว่า​อย่างไร​ “แล้ว​ท่าน​ต้องการ​สิ่งใด​จาก​รัฐ​หลี​อย่างนั้น​หรือ​?”

คน​องค์​ชาย​พลัน​ส่ายหน้า​น้อย​ ๆ “ยัง​ไม่ใช่ในเวลานี้​ แต่​หลังจากนี้​มีแน่​”

“องค์​ชาย​ไม่กลัว​บ้าง​เห​รือ​ว่า​ เมื่อ​เวลา​นั้น​มาถึงแล้ว​ ข้า​กับ​องค์​ฮ่องเต้​จะบ่ายหน้า​หนี​แล้ว​ปฏิเสธ​ท่าน​น่ะ​? เพราะ​ถึงอย่างไร​ข้า​ก็​ทำลาย​จดหมาย​นั่น​ทิ้ง​ไป​แล้ว​” มหา​นักบวช​ถามอย่าง​ใจเย็น​

เจียง​หวาย​เย่​พลัน​หรี่ตา​ลง​ “ข้า​ไม่กลัว​หรอก​ อย่างไร​เสีย​จดหมาย​ที่​ท่าน​ฉีก​ทิ้ง​ไป​น่ะ​ก็​เป็น​แค่​กระดาษ​ไร้ค่า​ ที่​ข้า​ให้​คน​ของ​ข้า​เขียน​เลียนแบบ​ขึ้น​มา” เจียง​หวาย​เย่​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ยืด​ยาน​เหนื่อยหน่าย​

มหา​นักบวช​เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​นิ่งอึ้ง​ ไม่กล้า​ผลีผลาม​วู่วาม​อีกต่อไป​

ในขณะที่​เขา​กำลัง​ตกตะลึง​อยู่​นั้น​ เจียง​หวาย​เย่​ก็​ผุด​ลุกขึ้น​ยืน​ “ข้า​ว่า​สิ่งที่​ท่าน​มหา​นักบวช​จำต้อง​เอา​ไป​คิด​ในเวลานี้​ คือ​ท่าน​จะจัดการ​กับ​แมลง​ร้าย​ใน​รัฐ​หลี​อย่างไร​มากกว่า​ พวก​คน​ที่​มัน​ขโมย​ยุทโธปกรณ์​จำนวนมาก​ไป​น่ะ​ ไม่ใช่เพียง​เพื่อ​ทำเงิน​อย่าง​เดียว​แน่​”

ฉับพลัน​นั้น​เอง​บรรยากาศ​อัน​มาคุ​ทะมึน​ทึม​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ “องค์​ชาย​กำลังจะ​พูด​อะไร​กัน​แน่​?”

นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​มหา​นักบวช​เผย​จิต​สังหาร​ออกมา​

แต่​น่าเสียดาย​ ที่​จิต​สังหาร​เช่นนี้​ไม่อาจ​ทำให้​เจียง​หวาย​เย่​ผู้​กรำ​ศึก​ สะทกสะท้าน​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​

คน​องค์​ชาย​พลัน​เดิน​ไป​อยู่​ข้าง ๆ​ เขา​ แล้ว​พูด​เสียง​กระซิบ​ว่า​ “อาวุธยุทโธปกรณ์​มากมาย​ถึงเพียงนั้น​ คงจะ​ตั้ง​กองกำลัง​ยึด​บัลลังก์​มาเป็น​ของ​ตัวเอง​ได้​ไม่ยาก​เลย​ทีเดียว​”

ใน​ยาม​นี้​ เหงื่อกาฬ​ได้​ผุด​พราย​เต็ม​หน้า​และ​คอ​มหา​นักบวช​เปียกชุ่ม​ กระนั้น​เขา​ก็​พยายาม​ข่ม​ให้​จิตใจ​ตัวเอง​สงบ​ลง​ ด้วย​คิด​ว่า​ใน​รัฐ​หลี​มีแม่ทัพ​ที่​จงรักภักดี​มากมาย​ เช่นนั้น​แล้ว​ พวก​ที่​ริอ่าน​คิดการใหญ่​คง​ไม่อาจ​ปล้น​บัลลังก์​ได้​สำเร็จ​

ถึงแม้ว่า​เขา​จะพยายาม​ปลอบใจ​ตัวเอง​เช่นนั้น​ แต่​ก็​ไม่อาจ​ขจัด​ความไม่สบายใจ​ ที่​ได้​เข้า​เกาะกุม​ตน​ออก​ไป​ได้​เลย​

เมื่อ​เห็น​เช่นนี้​แล้ว​ เจียง​หวาย​เย่​จึงเดิน​ผละออก​ไปนอก​พระราชวัง​ หน้ากาก​หยก​ขาว​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​สะท้อน​แสงสว่างจ้า​ออกมา​ท่ามกลาง​แสงแดด​

ส่วน​หลี​เจี้ยนเฉิน​ที่​รักษาตัว​อยู่​ที่​โรง​หมอ​หุย​ชุน​นั้น​ ยาม​นี้​เขา​ได้​ฟื้น​ขึ้น​มาแล้ว​ เมื่อ​ช่วง​วิกฤต​ที่​ติดเชื้อ​ผ่าน​พ้นไป​ ฮ่องเต้​หนุ่ม​ผู้​นี้​จึงเหลือ​เพียงแค่​พักฟื้น​ให้​ร่างกาย​กลับมา​แข็งแรง​สมบูรณ์​ดังเดิม​เท่านั้น​

หมอผีแม่ลูกติด

หมอผีแม่ลูกติด

Status: Ongoing
หลินซีเหยียนหญิงสาวผู้บ้าคลั่งชายหนุ่มรูปงาม ได้หายตัวไปถึง 5 ปี และนางได้กลับมาอีกครั้งในฐานะหมอผี ผู้รักษาได้ทุกโรค พร้อมกับกระเตงลูกชายวัย 5 ขวบมา 1 คน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท