ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 300-2 ราชาปีศาจออกเดินทาง (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 300 ราชาปีศาจออกเดินทาง (2)

เฉินอวิ๋นซีฟังอย่างตั้งใจก่อนจะเอ่ยอย่างรวดเร็ว “แต่ฉันได้ยินว่ามหาวิทยาลัยอื่นก็มีความคิดนี้เหมือนกัน…”

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ทำตามกระแสทำการใหญ่ไม่ได้หรอก พวกเขามีอำนาจเหมือนเซี่ยงไฮ้หรือไง? แม้ว่าจะเป็นปักกิ่ง คิดจะตามกระแสก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเหมือนกัน ประเด็นอยู่ที่การแข่งขันแลกเปลี่ยนในตอนแรกพวกเราเป็นฝ่ายชนะ พวกเขาเป็นฝ่ายแพ้ นี่ยังไม่นับที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งมีพวกหัวโบราณปกครองอยู่ บรรยากาศการเมืองค่อนข้างเข้มข้น หลี่หานซงคนโง่นั่นเอาแต่คิดจะพาคนลงไปฆ่าพวกถ้ำ เขาไม่มีความสนใจทางด้านนี้เท่าไหร่ ทั้งไม่ได้ฉลาดเหมือนฉันด้วย ดังนั้นนอกจากรัฐบาลกลางจะออกหน้าจัดงาน ไม่งั้นการจัดการแข่งขันของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ย่อมมีอิทธิพลที่สุดในประเทศแล้ว”

เฉินอวิ๋นซีพยักหน้างึกงัก ฟางผิงเห็นแบบนั้นจึงเอ่ยว่า “เรื่องเล็กน้อยพวกนี้ให้คนของสาขาสังคมไปทำเถอะ บอกเจ้าโง่พวกนั้นว่าถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่สำเร็จก็กลับไปซะ! เรื่องศิลปะการต่อสู้ไม่เอาไหนไม่เป็นไร แต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำไม่สำเร็จ นั่นยังจะคลุกตัวในเซี่ยงไฮ้ทำไมอีก? ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งที่อยู่ปีสูงมาจากสาขาสังคมมากที่สุดแล้ว เจ้าโง่พวกนี้ไม่คิดบ้างว่าเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ไม่ก้าวหน้า เข้าสู่แวดวงธุรกิจหรือการเมืองจะไปได้ไกลกว่างั้นเหรอ? หลายปีมานี้ คนที่นั่งอยู่ตำแหน่งสูงในแวดวงธุรกิจและการเมืองอย่างแท้จริง กลับเป็นคนจากสาขายุทโธปกรณ์มากที่สุด ก่อนหน้านี้บอกว่าไม่ให้โอกาสพวกเขา ตอนนี้มอบภารกิจให้ คะแนนก็ได้ง่ายขึ้น จะกู้ยืมยังได้ หากยังไม่พัฒนาอีก เทอมหน้าฉันจะลองพิจารณาดูว่าควรจะขจัดผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งที่อยู่ปีสามปีสี่ให้หมดไปดีหรือเปล่า”

เฉินอวิ๋นซีหน้าเปลี่ยนสี ละล่ำละลักว่า “นี่ไม่ดีเท่าไหร่มั้ง”

ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งเป็นกำลังหลักของแต่ละมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ทั้งยังเป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนมากที่สุด

ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งเกือบสี่พันคน!

แน่นอนว่าปีสองก็มีไม่น้อย เกือบหนึ่งพันห้าร้อยคน

แต่ปีสามปีสี่ ตอนนี้มีเกินกว่าสองพันคนเช่นกัน

หากฟางผิงทำแบบนี้จริงๆ มหาวิทยาลัยคงไม่เห็นด้วยแน่

“สาขาอื่นพักไว้ก่อน เธอให้สมาคมผู้ฝึกยุทธ์บอกใบ้พวกนักศึกษาปีสามปีสี่ของสาขายุทโธปกรณ์หน่อย สาขายุทโธปกรณ์ปีสามปีสี่มีไม่ถึงแปดร้อยคน นึกไม่ถึงว่ายังจะมีเกือบสามร้อยคนที่อยู่ขั้นหนึ่ง น่าอายหรือเปล่าล่ะ สาขาอื่นๆ พักไว้ก่อนก็ได้ คนเยอะเกินไป แต่หากสาขายุทโธปกรณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันจะจัดการขั้นเด็ดขาดแล้ว!”

ระหว่างที่พูด ฟาผิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ราชสีห์ถังต้องสนับสนุนแน่ อาจารย์หลี่น่าจะไม่มีปัญหาเหมือนกัน คณบดีหวง…ถึงเวลานั้นคนน้อยลงก็ไม่มีปัญหาแล้ว เขาเกลียดเรื่องน่าอายอยู่แล้ว? นักศึกษาสาขายุทโธปกรณ์มีความสามารถที่สุด คุณสมบัติดีที่สุด ภารกิจดีที่สุด ทรัพยากรมากที่สุด…ถึงจะเป็นแบบนี้ หลายปีผ่านไปยังไม่อาจทะลวงขั้นสองได้ จะยื้อพวกเขาไว้ให้เสียข้าวสุกทำไม? อย่าพูดว่าฝึกวิชาเป็นเรื่องยากเลย ทุกคนต่างลำบากกันทั้งนั้น มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปยิ่งลำบากกว่า แต่พวกเขายังมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามได้ ขั้นสองก็มีให้เห็นถมเถไป ฉันไม่เชื่อว่าคนของเซี่ยงไฮ้จะฝึกวิชาได้ยากกว่าพวกเขา!”

พูดซะยาวเหยียด ฟางผิงเงยมองท้องฟ้า เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “พูดไปซะเยอะเลย ฉันยังมีเรื่องที่ต้องให้อาจารย์ชี้แนะอีก เธอก็อย่าทิ้งการฝึกวิชาล่ะ ผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกเกือบครบสามครั้ง ควรก้าวหน้าเร็วในขั้นสามถึงจะถูก”

เฉินอวิ๋นซีกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด ไม่กล้ารับบทสนทนา

ฟางผิงไม่สนใจเธอเช่นกัน สาวเท้าเข้าไปในบ้านพัก

ปลายเดือนกันยายน ข่าวเกี่ยวกับการปฏิรูปนักศึกษาปีสามปีสี่สาขายุทโธปกรณ์ที่อยู่ขั้นหนึ่งก็แพร่กระจายไปทั่วมหาวิทยาลัย

ช่วงเวลานั้นนักศึกษาปีสูงต่างร้องโอดครวญ

พวกนักศึกษาใหม่ร้องเฮอย่างดีใจ ในที่สุดราชาปีศาจฟางก็ลงมือโหดเหี้ยมกับปีสูงสักที!

เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนนี้พวกนักศึกษาใหม่แทบจะถูกทรมาณจนทนไม่ไหว

ฝึกวิชา ทำภารกิจยิบย่อย เข้าเรียน ท้าประลองการจัดอันดับหัวกะทิ แทบจะขโมยเอาเวลาพวกเขาไปทั้งหมด

ตกดึกกว่าจะนอนหลับได้อย่างสงบสุข ผลปรากฏว่าเจ้าบ้าฟางผิง นึกไม่ถึงว่าจะให้คนมาลอบโจมตีค่าย…ไม่สิ โจมตีหอพัก!

อาศัยคำสวยหรูที่ว่าฝึกการเฝ้าระวังและปฏิกิริยาโต้ตอบของพวกเขา

แต่เรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณบดีถังเฟิงจากสาขายุทโธปกรณ์ด้วยเช่นกัน

เหตุผลคือก่อนหน้านี้พวกฟางผิงออกไปกวาดรังผู้ฝึกยุทธ์นอกรีต แทบจะถูกคนล้อมโจมตี ถังเฟิงจึงคิดว่ามีความจำเป็นต้องให้นักศึกษาใหม่ได้รับประสบการณ์สักหน่อย

ปรมาจารย์ไม่ออกหน้า ถังเฟิงยอดฝีมือขั้นหกสูงสุดคนนี้ร่วมมือกับฟางผิงที่เป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ เวลานั้นจึงตกลงกันเรียบร้อย

ตอนนี้พวกนักศึกษาใหม่นอนหลับยังไม่กล้าถอดเสื้อนอนด้วยซ้ำ กลัวว่าจะถูกคนบุกเข้ามา

นักศึกษาหญิงบางคนหวาดกลัวอย่างมาก ได้ยินว่าราชาปีศาจฟางชอบทุบหน้าอกผู้หญิง หากมาหาฝั่งพวกไร้ประสบการณ์อย่างพวกเธอ จะไม่ถูกทุบจนระเบิดหรือไง

เรื่องของมหาวิทยาลัยค่อยๆ เดินมาในทางที่ถูกที่ควร

สำหรับฉายาที่พวกนักศึกษาใหม่แอบตั้งขึ้นลับหลังตัวเอง ฟางผิงได้ยินมาเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้หาเวลาไปจัดการพวกเขา

รอมีเวลาว่างแล้ว ฟางผิงมีวิธีจัดการพวกเขาเหมือนกัน

ปลายเดือนเก้า ฟางผิงพกชุดไปเปลี่ยนหนึ่งตัวพร้อมยาบำรุงและอาวุธที่ตระเตรียมไว้ ไปรวมตัวกับฉินเฟิ่งชิงที่หน้าประตูสมาคมผู้ฝึกยุทธ์

หน้าประตูสมาคมผู้ฝึกยุทธ์

ฉินเฟิ่งชิงวางท่าเกรงขามกว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อย ระยะห่างหลังจากที่เขาทะลวงขั้นสี่ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว

หลายวันก่อนฉินเฟิ่งชิงก็เชื่อมสะพานฟ้าดินสี่สายเป็นที่เรียบร้อย

เห็นเขามีกำลังวังชา ฟางผิงก็เลิกคิ้วว่า “ขั้นสี่ตอนกลางแล้ว?”

“เปล่า เหลืออีกนิด หรืออาจพอพูดได้ว่าแตะเข้าไปนิดหนึ่งแล้ว”

ฉินเฟิ่งชิงยิ้มอย่างประสงค์ร้าย “สะพานฟ้าดินที่ห้าเริ่มตั้งเค้าโครงอย่างเลือนราง รอมั่นคงแล้ว ฟางผิง พวกเราจะนับว่าอยู่ขั้นเดียวกัน”

เค้าโครงเชื่อมกันแล้วก็หมายความว่าเขาเข้าสู่ขั้นสี่ตอนกลาง

แต่เพราะยังไม่เสถียร ลำดับขั้นจึงไม่มั่นคงนัก

ฟางผิงแค่นยิ้ม “ไม่ง่ายจริงๆ ฉันจำได้ว่าปีก่อน พวกเราเจอกันครั้งแรกที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย นายอยู่ขั้นสาม ฉันยังไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ เฮ้อ ชั่วเวลาพริบตาเดียวนายใกล้จะตามฉันทันแล้ว เก่งจริงๆ!”

ฉินเฟิ่งชิงใบหน้าดำคล้ำทันที!

คำพูดนี้ทิ่มแทงใจชะมัด!

ปีก่อนตอนที่เจอฟางผิงครั้งแรก เขาอยู่สูงกว่าฟางผิงสามขั้น วันนี้นึกไม่ถึงว่าเขาจะตามหลังฟางผิงอยู่!

ความฮึกเหิมก่อนหน้านี้แทบจะมลายหายไปหมด ฉินเฟิ่งชิงแค่นเสียงว่า “เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์จะดูแค่ช่วงเวลาเดียวไม่ได้ รอนายหยุดที่ขั้นหกสูงสุดหลายสิบปี…”

“งั้นเหรอ? ฉันปล่อยพลังจิตใจได้ ไขกระดูกแปรสภาพเป็นปรอท ไร้ศัตรูในขั้นสาม จิงชี่เฉินรวมเป็นหนึ่งแล้ว เหล่าฉิน ฉันคิดว่าขั้นหกสูงสุดอาจจะแค่ไม่กี่เดือนก็ทะลวงขั้นเจ็ดแล้ว กระดูกก็หลอมได้ลึกล้ำกว่านาย ขั้นแปดน่าจะอยู่ไม่ไกลเหมือนกัน นายคิดว่านายจะตามฉันทันจริงๆ เหรอ?”

“พอได้แล้ว!”

ฉินเฟิ่งชิงเขินอายจนโมโหขึ้นมา เอ่ยด้วยใบหน้าดำคล้ำ “จะไปไม่ไป พูดมากชะมัด!”

ฟางผิงหัวเราะอย่างสุขใจ ไม่โจมตีคำพูดใส่เขาอีก ทั้งสองมุ่งไปยังเขตทางใต้ ครั้งนี้เขาจะไปถ้ำใต้ดินโดยผ่านทางเขตทางใต้

พวกฟางผิงเพิ่งจะออกไป ประตูของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ก็มีคนเดินเข้ามา

ฟู่ชางติ่งเห็นทั้งสองคนจากไปก็ถอนหายใจ

คนอื่นๆ ต่างถอนหายใจเช่นกัน ตอนนี้ทุกคนนับว่าถูกทิ้งห่างไว้ข้างหลังอย่างสิ้นเชิง

เมื่อก่อนพวกเขายังทำภารกิจเป็นกลุ่มร่วมกันได้ ตอนนี้กลับห่างชั้นซะแล้ว รวมกลุ่มก็จะกลายเป็นถ่วงรั้งซึ่งกันและกัน

“หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยกลับมา…”

เฉินอวิ๋นซีภาวนาเบาๆ ทุกคนต่างไม่ปริปาก

ในถ้ำใต้ดินจะเป็นจะตายล้วนขึ้นอยู่กับสวรรค์

อย่าพูดถึงขั้นสี่เลย ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดขั้นแปดไปแล้วไม่กลับก็มีให้เห็นถมเถไป

——————–

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท