บทที่ 1152 ไปเยอรมนี
บทที่ 1152 ไปเยอรมนี
ซูเสี่ยวเถียนรู้สึกว่าคิดง่ายไปหน่อย
ถึงคริสติน่าจะคิดเหมือนกัน แต่ครอบครัวเจ้าตัวคงไม่เห็นด้วย
และปู่ย่าเราใจกว้างก็จริง แต่ถ้าให้แต่งสะใภ้ต่างชาติเข้าบ้านคงตอบตกลงทันทีไม่ได้แน่
คนรุ่นเก่าหัวแข็งมาก
เธอมองพี่ชายด้วยสายตาอย่างมีนัย รู้สึกไม่ชอบใจตัวเขาขึ้นมา
ไม่แปลกใจที่ปู่ย่าว่าหลานชายพึ่งพาไม่ได้
พี่สามชอบพี่เสี่ยวเฉ่า ถ้าไม่ได้มีความจริงข้อที่ว่าเธอไม่ได้เป็นลูกสาวบุญธรรมของลุงฉางจิ่วก็ไม่รู้ว่าปัญหาจะเยอะขนาดไหน
แล้วตอนนี้พี่สี่ก็ดันทำตัวเด็ดขาดอยากจะได้สะใภ้ต่างชาติให้ปู่ย่าอีก
ไม่รู้ป่านนี้พวกท่านหัวล้านหรือยัง
แต่น่าจะลำบากแน่ ๆ
มีพี่ชายตั้งหลายครั้ง กว่าจะแต่งครบเก้าคน พวกท่านคงไม่เหลือผมสักเส้นบนหัวแล้วละ!
ซูเสี่ยวเถียนยกยิ้ม
ฝ่ายพี่ชายเห็นเช่นนั้นก็นึกสงสัย ไม่รู้เสี่ยวเถียนคิดอะไรอยู่
“ยิ้มอะไรหรือเสี่ยวเถียน?” ซูเสี่ยวซื่อถาม
หรือได้ข่าวเรื่องบรรลุผลความร่วมมือแล้ว?
แต่ก่อนจะกลับเขาบอกเหลยเกาเชาไว้แล้วนะว่าจะเป็นคนบอกน้องเอง
ฝ่ายนั้นไม่น่ากลับกลอกหรือเปล่า?
“หนูเห็นว่าพี่กับคริสติน่าเหมาะกันดีค่ะ!” ซูเสี่ยวเถียนเข้าไปกระซิบ
ที่จริงเราพูดด้วยภาษาถิ่น อย่าว่าแต่ตัวคริสติน่าจะเข้าใจเลย คนเมืองหลวงยังเข้าใจแค่คร่าว ๆ ด้วยซ้ำ!
ส่วนที่พูดเบา ๆ คือติดนิสัยมาเฉย ๆ น่ะ
ชายหนุ่มแทบสำลักน้ำลาย
เจ้าเด็กคนนี้ใจกล้าไม่เบาเลยนะ
ไม่ว่าจะคิดยังไงตนไม่กล้าตกหลุมรักเธอหรอก
เพราะภูมิหลังของครอบครัวและฐานะทางบ้านทั้งสองคนต่างกันมาก
“อย่าพูดจาไร้สาระสิ เกิดใครได้ยินเขาจะบอกเขายังไง!” ชายหนุ่มหยุดน้องเอาไว้
เด็กสาวแย้มยิ้มสดใส
“กินข้าวเย็นกันหรือยังไงคะ? อยากไปด้วยกันไหม?”
“ไม่ละ คริสติน่ากับพี่จะไปกินเป็ดย่างน่ะ!” ซูเสี่ยวซื่อโบกมือปฏิเสธ
ถ้าไปกินกับตัวแสบก็ไม่รู้จะได้ยินอะไรน่าตกใจจากปากเธออีก
“งั้นก็กินอย่างมีความสุขนะคะ”
เธอกล่าวเป็นภาษาเยอรมันให้คริสติน่าได้เข้าใจ
“คุณซูเขาอยากกินเป็ดย่างน่ะ เธอไม่มากับพวกเราหรือ?”
คริสติน่าเอ่ยด้วยความเสียใจ
เธอชอบกินข้าวกับเพื่อนคนนี้มาก ควรทำยังไงดีล่ะ?
ถึงคุณซูจะน่ารักมาก แต่ก็เทียบกันไม่ได้หรอกนะ!
“ตอนนี้ฉันต้องทำงานนะ เธอลืมไปแล้วหรือว่าฉันออกจากโรงแรมฉางเฉิงไม่ได้น่ะ?” เธอเองก็เสียใจไม่ต่างกันหรอก
ถึงเด็กสาวจะไม่เต็มใจแต่ก็เข้าใจดีว่า ในประเทศจีนเรื่องการงานสำคัญมาก ไม่ใช่เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว แต่เหมือนจะเป็นความเชื่อด้วยซ้ำ
แล้วก็มีหลายคนยอมสละหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อความเชื่อนี้ด้วย
ซึ่งชาวเยอรมันเราทำไม่ได้
ซูเสี่ยวเถียนเฝ้ามองคนทั้งสองจากไป จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าอะไร ๆ ดูไร้รสชาติไปหมด
เธอคิดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ที่จริงตั้งแต่เกิดใหม่เธอไม่ค่อยได้กินมันเท่าไร
แต่ชีวิตครั้งก่อน ฐานะเธอย่ำแย่มาก จึงมักกินมันเพื่อบรรเทาความหิว
กินแค่นี้ก็พอแล้วละ
แต่ดูเหมือนว่าช่วงปี 1980 จะเป็นยุคที่อุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกำลังเฟื่องฟูเลย เรานำเข้าไลน์ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้หรือเปล่านะ?
เด็กสาวขบคิด ตั้งใจว่าจะพัฒนาและสร้างเงินให้ได้เยอะ ๆ ยังไงดี
ถึงหลู่เซียงเซียงจะขายหลายอย่าง แต่ว่ากันตามพื้นฐานแล้วไม่ถือว่าแข็งแกร่งเท่าไร
ซูเสี่ยวเถียนตัดสินใจแล้วว่าจะสร้างโรงงานผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เธอเชื่อว่ามันคือทางเลือกสร้างกำไรอันมหาศาล
แต่ตอนนี้มันยังเป็นแค่ความคิดนะ
เธอไม่ได้บ้า รู้ตัวดีว่าแม้จะมีเงินแต่การสร้างโรงงานมันไม่ได้ง่าย
เพราะแบบนั้นจึงต้องตั้งใจทำงานให้หนัก
เธอไม่ได้วางแผนจะเปิดมันในเมืองหลวง แต่จะไปเปิดที่หมู่บ้านหนานหลิ่ง
แค่ช่วงเวลานี้เธอยังนึกชื่อของมันเป็น ‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหมู่บ้านหนานหลิ่ง’ ด้วยซ้ำ
สองวันต่อมา ซูเสี่ยวเถียนได้ทราบว่าเราได้เซ็นสัญญาแล้ว
คริสติน่าจะซื้ออาหารจากหลู่เซียงเซียงจำนวนหนึ่งร้อยยี่สิบตันทุก ๆ ไตรมาส
เด็กสาวตกใจไม่น้อย
ปีหนึ่งรวมสี่ร้อยแปดสิบตันเลยนะ ไม่ใช่น้อย ๆ เลย
ไม่คิดเลยว่าเธอจะตัดสินใจเช่นนั้น
เพราะตลาดหลู่เซียงเซียงในเยอรมันก็ไม่ได้กว้างขวาง
คริสติน่าจะได้รับความเสี่ยงเต็ม ๆ
แล้วถ้าเธอไม่ไปเปิดตลาด ก็เท่ากับว่าเสี่ยงละเมิดสัญญาด้วย
จากนั้นก็ได้ยินอีกข่าวที่ทำเธอเกือบเหม่อไปเลย
“อะไรนะ พี่จะไปเยอรมนีหรือ?”
จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง?
“พี่สัญญากับคุณคริสติน่าไว้ว่าจะช่วยเธอพัฒนาตลาดหลู่เซียงเซียงในเยอรมนีน่ะ”
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าทำไมตอบตกลงรับคำ
ว่ากันตามตรงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยด้วยซ้ำ
ในฐานะคนจีน การเปิดตลาดในเยอรมนีซึ่งตนไม่คุ้นเคยไม่ใช่เรื่องง่าย
“แล้วพี่เคยคิดไหมว่าจะล้มเหลวน่ะ?”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคน พี่เชื่อว่าพี่จะทำได้”
ซูเสี่ยวซื่อเอ่ยด้วยความมั่นใจ
สำหรับเขาแล้ว ขอแค่หาเงินได้ก็ไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถ
เพื่อเงินแล้ว เขาจะต้องเอาชนะความลำบากแล้วก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ!
เด็กสาวมองพี่ชาย
พี่สี่เป็นคนที่ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้และไม่อยากจะทำ ยิ่งเรื่องเงินก็ยิ่งทำตัวแบบนี้แหละ
“แล้วพี่จะไปเมื่อไร?”
“ตอนนี้เริ่มขั้นตอนน่ะ ไว้เสร็จสิ้นเมื่อไร สินค้าทางโรงงานพร้อมแล้วก็จะดำเนินการขายทันที
รู้เลยว่าเขาเตรียมพร้อมไว้แล้ว แค่นี้ก็โล่งใจ
ช่างเถอะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่เขาไปเถอะ ทำไมต้องห่วงกันด้วย?