เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包] – บทที่ 1172 เป็นห่วงเพื่อน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

บทที่ 1172 เป็นห่วงเพื่อน

บทที่ 1172 เป็นห่วงเพื่อน

ถังผิงได้ยินจากปลายสายพูดถึงเรื่องการก่อสร้างผิดกฎหมาย

เธอไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

ฝ่ายนั้นน่าจะอยากหาเรื่องแน่ ๆ

ถังผิงเป็นคนฉลาด พริบตาเดียวก็คิดได้ทันที

คนที่ลงมือกับตระกูลซูน่าจะไม่ได้เก่งขนาดนั้นแน่ ๆ แวดวงเส้นสายคงเล็กเลยไม่รู้ว่าพวกเขาไม่ได้อ่อนแอ และโดนข่มเหงได้ตามใจชอบ

คิดได้แบบนั้นถังผิงยิ่งไม่แยแส

เธอยิ้มเยาะ “พวกโง่!”

จุดมุ่งหมายคือด่าคนที่ลงมือกับตระกูลซูโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ

แต่เยี่ยไคอวี่คิดว่าถังผิงหมายถึงเขา

“เธอหมายความว่าไง?” เขาหันขวับ

“หมายความว่าไงคืออะไร? ฉันพูดอะไรหรือไง?”

เธอไม่อยากฟังคำพูดแปลก ๆ อีกต่อไป ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานผู้ดูแลไช่เมื่อจำได้ว่าเสี่ยวเถียนฝากแจ้งเขาให้ทราบ

หญิงสาวบอกสั้น ๆ ว่าซูเสี่ยวเถียนออกไปทำธุระชั่วคราว

แต่ไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ตอบกลับก็ได้ยินเสียงฟ่านชูฟางที่ประตู

“เสี่ยวเถียนเจอเรื่องอะไรหรือ?”

ถังผิงบอกเล่าให้ฟัง

ตำแหน่งของฟ่านชูฟางก็สูงอยู่แล้ว มีสามีที่ตำแหน่งสูงกว่าอีกด้วย จึงรู้ว่าตอนนี้ประเทศเรากำลังศึกษาเรื่องการก่อสร้างที่ผิดกฎหมาย

แต่มันยังเป็นแค่ข้อเสนอและความเห็นเท่านั้นเอง ยังไม่มีแบบแผนที่ออกมาเป็นทางการ

แล้วใครกันที่คิดรังแกผู้อื่นด้วยเรื่องนี้?

แล้วเลือกตระกูลซูเสียด้วย

เรื่องอื่นเธอไม่รู้ แต่เสี่ยวเถียนและเสี่ยวซื่อมีประสบการณ์เยอะมาก

และกระบวนการก่อสร้างตึกหลังนี้ก็เสร็จสิ้นแล้วด้วย

“กล่าวหากันชัด ๆ!” สีหน้าโกรธจัดของหญิงชราดูย่ำแย่ไม่น้อย

ผู้ดูแลไช่เห็นเช่นนั้นก็นึกขึ้นได้ คนในกระทรวงเคยพูดเหมือนกันว่าอธิบดีฟ่านเป็นย่ารองของซูเสี่ยวเถียน

เขาจึงคิดวิธีแก้ปัญหาได้ทันที

“ถ้าเพื่อนร่วมงานเราเจอปัญหาแบบนี้คุณว่าเราควรไปดูกันดีไหมครับ? เผื่อจะมีอะไรที่ช่วยได้บ้างน่ะ”

ประโยคดังกล่าวตรงใจฟ่านชูฟางมาก

เพราะตั้งใจจะไปอยู่แล้ว กอปรกับผู้ดูแลไช่พูดอีกจึงยิ่งเต็มใจมากกว่าเก่า

“รบกวนคุณแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันกลับไปโทรศัพท์ที่สำนักงานก่อน ไว้เสร็จแล้วจะออกเดินทางกันค่ะ!”

ช่วงบ่ายว่างพอดีด้วย

เป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก

ถ้าตาแก่รู้เรื่องจะโกรธขนาดไหนกัน!

“ได้ครับ ผมจะไปเตรียมตัวนะครับ!”

ฟ่านชูฟางกลับไปโดยไม่พูดไม่จา

ถังผิงเห็นถึงกับสับสน

“ผู้ดูแลไช่คะ ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ?” เธอค่อนข้างไม่สบายใจ

อธิบดีฟ่านถึงกับออกโรงด้วยตัวเองแบบนี้

ผู้ดูแลไช่ยิ้ม “คุณทำดีแล้วละ กลับไปทำงานแบบสบายใจได้แล้วนะ!”

เขารู้จักถังผิงดี และชื่นชอบผู้หญิงที่ขยันทำงานแบบนี้มาก

เพราะในบรรดาเด็กฝึกงานทั้งสี่ นอกจากซูเสี่ยวเถียน ก็มีถังผิงที่ฝีมือเยี่ยม

เด็กคนนี้ถือเป็นนักแปลระดับรอง ใช้ได้ เป็นคนที่มีแนวโน้มที่ดีด้วย

ถังผิงขบคิด “ฉันไปด้วยได้หรือเปล่าคะ? ฉันกับเสี่ยวเถียนสนิทกันค่ะ เลยค่อนข้างเป็นกังวลนิดหน่อย”

มีอะไรให้เป็นห่วงล่ะ แต่คิดดูอีกความรู้สึกของผู้หญิงไม่ใช่สิ่งที่คนแก่ ๆ แบบเราจะเข้าใจได้

พาไปก็แล้วกัน ยังไงก็ต้องไปอยู่แล้ว

ตอนฟ่านซูฟางเห็นถังผิง เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไรมากแต่สีหน้าไม่ดีตลอดทางเลย

พอเห็นแบบนั้นถังผิงได้แต่นึกเสียใจ

รู้แบบนี้คงไม่ตามมาด้วยหรอก

แต่ถ้ามาคนเดียวก็ลืมถามเพื่อนเลยว่าต้องไปที่ไหน

ด้วยความที่มาด้วยกันเลยหาสถานที่เจอ

ฟ่านชูฟางรู้จักที่นั่น ก่อนจะแจ้งให้คนขับทราบ

ทางฝั่งซูเสี่ยวเถียนก่อนหน้านั้นเดินออกมาเจอเห็นแท็กซี่พอดี

เธอไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้วโดดขึ้นรถทันที

โชคดีจริง ๆ

บริษัทแท็กซี่แห่งเมืองหลวงเพิ่งจะก่อตั้งเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ยังมีรถไม่เยอะนัก เลยหาบนถนนหนทางยาก

ถึงได้บอกว่าวันนี้โชคดีมากเลย

คนขับเห็นใบหน้าผู้โดยสารเคร่งขรึมจึงเอ่ยปากชวนคุย

แต่เด็กสาวมีเรื่องให้คิดและไม่ได้นึกจะคุยกับใครด้วย เธอจึงรีบบอกสถานที่แล้วมองออกไปข้างนอกด้วยความกังวล

คนขับสังเกตเห็น

“สาวน้อยนั่งนิ่ง ๆ นะ ฉันจะเร่งความเร็วให้!”

เขาเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่า จึงเลือดร้อนอยู่พอตัว

จากนั้นรถก็มุ่งไปยังปลายทางด้วยความรวดเร็ว

จ่ายเงินเสร็จ ซูเสี่ยวเถียนก็เห็นคนยืนออประตูตึก กำลังอวดเบ่งและโหวกเหวกโวยวายอยู่

เธอขมวดคิ้ว

คนพวกนี้ท่าทางเหมือนปู่ซูซานเลย รู้เลยว่าเจตนาไม่ดี

ปู่ย่าลำบากแน่ที่ต้องเผชิญหน้ากับพวกไร้เหตุผลแบบนี้

ตอนนั้นเองที่สายตาเห็นสองผู้อาวุโสปู่ย่ายืนอยู่ตรงข้ามคนพวกนั้นด้วยใบหน้ามุ่งมั่น

เส้นผมสีเทาท่ามกลางสายลมทำให้พวกมันพลิ้วไหว แต่ทั้งสองยืนกรานที่จะไม่ยอมแพ้

เบื้องหลังน่าจะเป็นคนที่เราคัดเข้ามาทำงาน

แล้วก็มีบางส่วนที่ซ่อนตัวเพราะไม่อยากมีเรื่องด้วย

หลังจากพัฒนามาสองปี ถนนหนทางที่ไม่เจริญรุ่งเรืองก็ค่อย ๆ ดีขึ้น

เพราะมีเรื่องเกิดขึ้นที่นี่จึงทำให้มีคนมามุงกันมากมาย

ระหว่างเดินผ่านเธอได้ยินเสียงบทสนทนาของพวกเขา

คนส่วนใหญ่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องการก่อสร้างผิดกฎหมายเหมือนกัน จึงไม่ต้องการให้เจ้าพวกนี้มาสร้างปัญหาที่นี่

แต่บางส่วนมองว่าต่อให้เราไม่เคยได้ยินใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริงเสียหน่อย

“ตึกมันเพิ่งจะสร้างเสร็จนะ อีกไม่นานก็จะเปิดทำการแล้วด้วยทำไมต้องรื้อล่ะ?”

“ไปทำใครเขาไม่พอใจเข้าหรือเปล่า ของดี ๆ จะไปรื้อมันทำไมล่ะ?”

“หลายวันก่อนได้ยินว่ามีการรับสมัครด้วยนี่ เด็กสาวที่เป็นเพื่อนบ้านฉันเพิ่งจะสมัครเข้าไปทำงานเอง!”

“คนพวกนี้บอกว่าพวกเขามาจากสำนักก่อสร้างเมือง ต้องพูดความจริงเท่านั้น ไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นสิ่งก่อสร้างผิดกฎหมายก็ได้นะ!”

——————————————

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Status: Ongoing
ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้!เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน