อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 202 แก้แค้น

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนพิเศษ 202 แก้แค้น

ตอนพิเศษ 202 แก้แค้น

หงหยาที่ตามมาในครัวก็งุนงงเช่นกัน ใช่แล้ว เหตุใดเหวินหย่าและโม่เพียวถึงมีท่าทางแปลก ๆ เช่นนั้น?

เหวินหย่ากลืนน้ำลาย คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดเอาใจว่า “เนี่ยนเนี่ยน เจ้าอยากกินอะไรก็สั่งมาเลย ประเดี๋ยวข้าจะทำให้ดีหรือไม่?”

“ใช่ๆๆ ให้เหวินหย่าเป็นคนทำ” โม่เพียวพยักหน้าอย่างแรง

หงหยารู้สึกว่าเนี่ยนเนี่ยนเป็นจวิ้นจู่ นางจึงไม่ควรทำอาหารด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้น หากฮูหยินเฒ่าไป๋เห็นเข้า นางอาจตำหนิพวกนางที่รับใช้นางได้ไม่ดี

นางจึงพูดเสริมว่า “ใช่แล้วเจ้าค่ะ จวิ้นจู่ ท่านอยากรับประทานอะไร? บอกบ่าวมาได้เลยเจ้าค่ะ”

เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว แล้วมองพวกนางทั้งสาม “ท่าทางเช่นนี้ของพวกเจ้าหมายความว่าอย่างไร? ออกไป อย่ามาเกะกะขวางทาง”

นางรู้สึกว่าช่วงนี้ไป๋หลิวอี้เหนื่อยมาก เขาไม่ได้นอนมาหลายวันหลายคืน ดังนั้นภารกิจของเขาต้องหนักมากเป็นแน่ นางจึงต้องการชดเชยให้เขา

แม้ว่านางจะมีวัตถุดิบทำยามากมายอยู่ในมือ แต่การฟื้นฟูด้วยอาหารย่อมดีกว่า

เนื่องจากนางตัดสินใจที่จะไม่ถอนหมั้น นางจึงเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของตระกูลไป๋ในอนาคต ดังนั้นจึงต้องทำตัวเป็นแม่ศรีเรือนให้เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคน

แม้นางจะคิดเสมอว่าตนเป็นแม่ศรีเรือนอยู่แล้ว แต่คนอื่นก็ยังดูไม่ออกใช่หรือไม่?

ท่านแม่บอกว่าแม่ศรีเรือนต้องทำได้ทั้งเข้าครัวนั่งประจำห้องโถง

แต่จะเห็นได้ว่าเหวินหย่าและโม่เพียวไม่คิดเช่นนั้น ทักษะการทำอาหารของเนี่ยนเนี่ยน… ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าพวกนาง

ทั้งสองพยายามเกลี้ยกล่อมนางด้วยสีหน้าขมขื่น แต่เนี่ยนเนี่ยนกลับถลกแขนเสื้อขึ้น แล้วไล่ทั้งสามออกจากครัว

เมื่อออกมาพวกนางก็พบว่ามีผู้คนมากมายอยู่หน้าประตู คนรับใช้และสาวใช้เกือบทั้งหมดในสวนจิ่นเฟิงรีบเข้ามามุงดูแล้วเริ่มพูดคุยกัน แม้แต่ติงเซียงก็ยังมาดูเนี่ยนเนี่ยนที่กลับมาสวมชุดสาวใช้ยืนอยู่ในครัวด้วยสีหน้าอธิบายไม่ถูก

เหวินหย่าและโม่เพียวไม่กล้าไปไกล พวกนางทำได้เพียงเฝ้ามองจากนอกครัว ส่วนคนอื่น ๆ ก็ไม่ออกไปเช่นกัน

เนี่ยนเนี่ยนถือมีดทำครัวด้วยมือขวา ส่วนมือซ้ายถือซี่โครงหมู เพียงสับคมมีดลงเพียงครั้งเดียว ซี่โครงก็แยกออกเป็นสองซีก

การเคลื่อนไหวของนางรวดเร็ว มีดกระทบเขียงจนเกิดเสียง ‘ปักๆๆๆๆ’ เป็นจังหวะ ทำให้ผู้ที่เฝ้าดูอยู่ต่างตื่นตาตื่นใจ

นางหั่นซี่โครงอย่างรวดเร็ว หงหยาที่มองจากระยะไกลตกใจจนไม่อาจปิดปากได้ “ช่างน่าทึ่งนัก ดูเหมือนว่าความยาวของแต่ละชิ้นถูกวัดมาแล้ว ทุกชิ้นน่าจะขนาดเท่ากันหมดเลย”

คนรับใช้ที่อยู่ตรงหน้าต่างและประตูต่างร้องอุทานว่า ‘ว้าว’ ดวงตาของพวกเขาเป็นประกาย

เนี่ยนเนี่ยนมาสนใจ นางเดินไปสับไก่ที่ถอนขนแล้วอีกครั้ง เนื้อและกระดูกถูกแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว เสียง ‘ปักๆๆๆๆ’ ดังขึ้นในครัวไม่หยุด

สองในสี่ของชั่วยามต่อมา วัตถุดิบทั้งหมดถูกหั่นเรียบร้อย แล้วถูกจัดวางไว้บนจานราวกับงานศิลปะ

หงหยาดึงแขนเสื้อของโม่เพียว แล้วพูดว่า “จวิ้นจู่ช่างน่าอัศจรรย์ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นคนที่สามารถหั่นวัตถุดิบได้เท่ากันหมด ราวกับว่าแกะออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน ลีลาท่วงท่านั้นก็รวดเร็วและสวยงามมาก”

โม่เพียวหัวเราะแห้ง รอยยิ้มของนางฝืดเฝื่อน แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้

เหวินหย่าเริ่มเตรียมพร้อมรับศึกหนักแล้ว

เนี่ยนเนี่ยนเดินไปที่เตา แล้วเริ่มจุดไฟ…

หนึ่งในสี่ชั่วยามต่อมา…

มีเสียงดัง “ตูม”…

เมื่อไป๋หลิวอี้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว

เมื่อลืมตาขึ้น เขาก็รู้สึกดีขึ้นมาก เมื่อเห็นอาเวินยืนอยู่ข้างเตียง เขาก็อดไม่ได้ที่จะชะงักไปครู่หนึ่ง “เหตุใดเจ้ามาอยู่ตรงนี้? เนี่ยนเนี่ยนอยู่ที่ไหน?”

อาเวินมีสีหน้าเหมือนไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เขามองไป๋หลิวอี้และกำลังจะพูด แต่ก็เงียบไป

“มีอะไรหรือ?” ไป๋หลิวอี้หรี่ตา รู้สึกว่าเขามีสีหน้าลำบากใจ

“จวิ้นจู่อยู่ในครัวขอรับ”

ครัวหรือ? “นางไปทำอะไรอยู่ในครัว?” ไป๋หลิวอี้ถามขณะแต่งตัว

อาเวินก้าวเข้าไปช่วย หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ลังเลก่อนจะพูดว่า “ครึ่งหนึ่งของครัวเล็กในสวนจิ่นเฟิงถูกทำลายไปแล้วขอรับ”

ไป๋หลิวอี้หยุดชะงัก “เจ้าว่าอะไรนะ?”

อาเวินกำลังจะร้องไห้ “ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ ๆ จวิ้นจู่ถึงบอกว่าจะทำอาหารด้วยตัวเอง ส่วนผสมทุกอย่างถูกหั่นเรียบร้อยแล้ว และทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี แต่เมื่อไฟถูกจุดขึ้น… คือ คือว่า… แม้แต่แม่นางเหวินหย่ากับแม่นางโม่เพียวก็หยุดนางไม่ได้ขอรับ… บ่าวบอกให้คนไปรายงานฮูหยินเฒ่า แต่ฮูหยินเฒ่าบอกว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับจวิ้นจู่ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ แต่ว่า… นายท่าน บ่าวสงสัยว่าจวิ้นจู่กำลังแก้แค้น ด้วยการทำลายสวนจิ่นเฟิงขอรับ”

ทำอาหารหรือ???

ไป๋หลิวอี้งุนงง เท่าที่เขารู้ เนี่ยนเนี่ยนไม่น่าจะทำอาหารเก่ง

เขามัดผมแล้วพูดกับอาเวินว่า “ไป พวกเราไปดูกันเถอะ”

อาเวินรีบพยักหน้า ตอนนี้ห้องครัวกำลังยุ่งเหยิง ฮูหยินเฒ่ายังออกคำสั่งอีกด้วยว่าจวิ้นจู่มาเยือน ดังนั้นฮูหยินเฒ่าจึงจะไม่พูดอะไรอีก ทำให้ไม่มีใครกล้าหยุดนาง

หากยังปล่อยให้ทำต่อไป บางทีเรือนทั้งหลังอาจถูกไฟไหม้

ทั้งสองรีบเดินไปที่ห้องครัวเล็กอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่จะไปถึงที่นั่น ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องหลายครั้ง “จวิ้นจู่ จวิ้นจู่ ไฟ ไฟลุกอีกแล้วเจ้าค่ะ”

“จวิ้นจู่ ไม่ต้องเติมน้ำ ใช้ฝาปิดเลยเจ้าค่ะ”

“จวิ้นจู่ ระวังเสื้อผ้าของท่านด้วยเจ้าค่ะ”

“จวิ้นจู่ ผมของท่านจะไหม้แล้วเจ้าค่ะ”

“จวิ้นจู่ ยืนห่างหน่อยเจ้าค่ะ น้ำมันจะกระเด็น หากโดนผิวหนังคงไม่ดีแน่”

ยิ่งได้ยินไป๋หลิวอี้ก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เหตุใดดูเหมือนว่านางไม่ได้กำลังจะเผาครัว แต่เหมือนกับว่านางจะเผาตัวเองมากกว่า?

เขาเดินไปอีกไม่กี่ก้าว เมื่อเขาไปถึงประตู ในไม่ช้าก็มีคนเห็นเขาและถอยออกไป “คุณชายใหญ่”

ไป๋หลิวอี้ส่งเสียง “อืม” ก่อนก้าวเข้าไปในครัว ทันทีที่เงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นความยุ่งเหยิงในครัวเล็ก เนี่ยนเนี่ยนยืนขมวดคิ้วอยู่กลางครัว ในมือถือไม้เกี๊ยะสำหรับจุดไฟ

เขากวาดสายตามองนางครู่หนึ่ง แล้วพบว่าบนร่างกายของนางไม่มีบาดแผล เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

สีหน้าของอาเวินเปลี่ยนเป็นมืดมน “เอาล่ะ ห้องครัวถูกทำลายไปบางส่วนแล้วในตอนนี้ นายท่าน ทำอย่างไรดีขอรับ?”

ไป๋หลิวอี้นิ่งเงียบ ก่อนจะเดินตรงเข้าไป

เนี่ยนเนี่ยนยังคงหน้าบึ้ง ก็แค่ทำอาหาร เหตุใดมันถึงยากเย็นนัก? ขั้นตอนก่อนหน้านี้ราบรื่นมาก แต่ขั้นตอนหลังเหมือนหายนะ เกิดอะไรขึ้น? มือเท้าของนางคล่องแคล่วว่องไวมากนะ

ในขณะที่นางกำลังคิด จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้านาง เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมอง วินาทีต่อมา นางก็โยนไม้ในมือทิ้งไป แล้วหัวเราะแห้ง ๆ “เจ้าตื่นแล้วหรือ?”

“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?”

“เจ้ามีบาดแผลบนร่างกาย ข้าคิดอยากจะทำอาหารบำรุงให้ แต่ดูเหมือนจะไม่เหมาะ”

ไป๋หลิวอี้ก็หันไปมอง ไม่ค่อยเหมาะงั้นหรือ? ห้องครัวที่เกือบจะราพณาสูรนี้แทบทำให้อาเวินต้องหลั่งน้ำตา

เขาจับมือเนี่ยนเนี่ยน แล้วพูดว่า “เจ้าออกมาก่อน ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”

เนี่ยนเนี่ยนไม่คุ้นเคยกับการถูกจับมือในที่สาธารณะ และต้องการจะดึงมือกลับมา แต่เขาจับไว้แน่น นางจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินตามเขาออกจากห้องครัว

ไป๋หลิวอี้ใช้โอกาสนี้ขยิบตาให้อาเวิน อาเวิน เหวินหย่า โม่เพียว และคนอื่น ๆ ทั้งหมดถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเข้าไปในครัวทีละคน

มือของไป๋หลิวอี้นั้นอ่อนโยนทว่าแข็งแกร่ง หลังจากที่จูงเนี่ยนเนี่ยนเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็รู้สึกว่าฝ่ามือของเขาเริ่มชา

จนกระทั่งนางถูกเขาจูงเข้าไปในห้องหลัก นางจึงดึงมือกลับมา แล้วเงยหน้าถามเขาว่า “เจ้าต้องการบอกอะไรข้า?”

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เนี่ยนเนี่ยนจะระเบิดครัวแบบนี้ไม่ได้นะคะ สงสัยต้องก่อไฟกลางสนามแล้วล่ะ ไม่งั้นครัวพังแน่

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท