ตอนพิเศษ 208 มันจบแล้ว
ตอนพิเศษ 208 มันจบแล้ว
ใบหน้าของอาเวินซีดเผือด เมื่อมองเห็นเสี่ยวเอ้อร์ที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็รีบหันหลังกลับ เตรียมจะเดินเข้าไปบอกให้ช่วยไปรายงานคนในห้องเทียนจื้อหมายเลขสาม
แต่เนี่ยนเนี่ยนตาไวสังเกตเห็นทัน จึงเตะน่องของเขาไปทีหนึ่ง
อาเวินเพียงแค่อ้าปากค้างและรีบปิดปากทันที ก่อนจะถูกเนี่ยนเนี่ยนผลักเข้าไปในสวนหลังโรงเตี๊ยมได้อย่างง่ายดาย
สวนหลังโรงเตี๊ยมจวี้เป่าเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ หินประดับและน้ำตกจำลอง มันถูกจัดไว้งดงามอลังการอย่างคาดไม่ถึง เนี่ยนเนี่ยนผลักอาเวินไปหลังพุ่มไม้ จากนั้นก็นำกิ่งไม้มาถือไว้ในมือ ก่อนจะฟาดลงบนน่องของเขา “ยืนขึ้น”
อาเวินทำหน้าเหยเก จวิ้นจู่จะให้เขาทำท่านี้เชียวหรือ? ท่าทางเช่นนี้ทำให้เขานึกถึงวิธีการของปรมาจารย์ในตอนที่เขาฝึกวิทยายุทธเมื่อครั้งยังเด็ก มันช่างเหมือนกันเหลือเกิน จนเขามีเรื่องฝังใจกับกิ่งไม้
เขาเอนหลังพิงเสา แม้แต่ส้นเท้าก็ติดเสาเช่นกัน ขณะหัวเราะแห้ง ๆ “จวิ้นจู่…”
“ข้าจะถามเจ้าว่าไป๋หลิวอี้รู้จักเป่ยเป่ยตั้งแต่เมื่อใด?” เนี่ยนเนี่ยนถามตรงประเด็น เมื่อเห็นเขายืนท่านั้น ในที่สุดนางก็พยักหน้าเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ
“เอ๊ะ? เป่ยเป่ย เป่ยเป่ยไหนหรือขอรับ? เป่ยเป่ยคือใคร? จวิ้นจู่ เหตุใดท่านจึงถามคำถามเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผล ข้า โอ๊ย…”
อาเวินแทบสะดุ้งโหยงยามกิ่งไม้ฟาดลงบนน่องของเขา ความเจ็บปวดทำให้เขาแทบจะเบือนหน้าหนี จวิ้นจู่ช่างคุ้นเคยกับจุดเจ็บปวดในร่างกายมนุษย์โดยแท้ นางไม่ผ่อนแรงเลยแม้แต่น้อย
เนี่ยนเนี่ยนกระชับกิ่งไม้ในมือแน่น แล้วยกยิ้มอย่างใจดี “อาเวิน เจ้ายังจะอยากทำตัวงี่เง่าต่อหน้าข้าอีกหรือ? ไม่รู้ว่าเป่ยเป่ยคือใครงั้นหรือ? เช่นนั้นข้าบอกเจ้าก็ได้ว่าเป่ยเป่ยคือเย่ฉิงเป่ย คนที่อยู่ในห้องเดียวกับเจ้านายของเจ้า ในห้องเทียนจื้อหมายเลขสาม เข้าใจหรือไม่?”
อาเวินจ้องกิ่งไม้ในมือนาง แล้วหัวเราะแห้ง ๆ เรื่องนี้เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?
“ข้าจะถามอีกครั้ง ไป๋หลิวอี้รู้จักเป่ยเป่ยตั้งแต่เมื่อใด? อย่าบอกข้าว่าวันนี้ อย่าบอกข้าว่าเป็นการพบเจอกันครั้งแรก หากเจ้าพูดเช่นนั้นข้าจะไม่มีทางเชื่อ”
สีหน้าของอาเวินเปลี่ยนไป แล้วเขาจะบอกว่าเมื่อใดดี? เขาคงไม่สามารถทรยศเจ้านายตัวเองได้แน่นอน เขาอยู่กับเจ้านายมานาน หลักการของเขาคือจะไม่มีวันทรยศ แต่เพื่อหลอกลวงจวิ้นจู่… เมื่อเห็นกิ่งไม้ในมือนาง เขาก็รู้สึกราวกับว่าท้องฟ้ามืดมิดไปในทันใด
“จวิ้นจู่… ข้าไม่ทราบขอรับ ข้าเป็นแค่คนรับใช้…” ดังนั้นโปรดเข้าใจความยากลำบากด้วย เขาพูดอะไรไม่ได้จริง ๆ มันคือการทรยศ เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก……
รอยยิ้มของเนี่ยนเนี่ยนเหี้ยมเกรียมขึ้น นางกวัดแกว่งกิ่งไม้ในมือไปมา “คนรับใช้งั้นหรือ เช่นนั้นหากข้าทุบตีคนรับใช้เช่นเจ้าจนตาย ไป๋หลิวอี้ก็คงไม่คัดค้านใช่หรือไม่?”
“…” โปรดอย่าใจร้ายนักเลย “จะพูดเช่นนี้ไม่ได้ ถึงข้าจะเป็นคนใช้ แต่เจ้านายก็ยังเมตตาบ่าวไพร่ยิ่งนัก และเจ้านายก็ให้คุณค่ากับความสามารถของบ่าวด้วยเช่นกัน หากเจ้านายสังหารบ่าว เจ้านายก็จะสูญเสียผู้ช่วยที่มีความสามารถไป ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีต่อนายท่านนัก จวิ้นจู่ก็เป็นห่วงนายท่านเช่นกัน ดังนั้นท่านจึงไม่ต้องการให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นใช่หรือไม่ขอรับ?”
“เป็นห่วงเขางั้นหรือ?” เนี่ยนเนี่ยนเลิกคิ้ว “ในเมื่อเขาโกหกข้า เจ้าคิดว่าข้าจะยังเป็นห่วงเขาอีกหรือ? คิดว่าข้าเป็นคนชอบใช้คุณธรรมตอบโต้ความชั่วงั้นหรือ?”
“นายท่านจะโกหกท่านได้อย่างไรขอรับ? จวิ้นจู่คิดมากไปเองขอรับ” อาเวินรู้สึกผิดเล็กน้อย จะเป็นการใช้คุณธรรมตอบโต้ความชั่วได้อย่างไร? มันไม่ได้ถือเป็น…ความคับข้องใจใช่หรือไม่?
เนี่ยนเนี่ยนหรี่ตา “ตอนนั้นข้าก็แปลกใจ ไป๋หลิวอี้ฉลาดมาก ติงเซียงเคยบอกว่าเขาเข้มงวดกับคนรับใช้เสมอ แต่เหตุใดข้าถึงกลายเป็นหัวหน้าสาวใช้ของเขาตั้งแต่วันแรก แถมสีหน้าท่าทางของเขาก็ค่อนข้างแปลกไป แม้ว่าข้าจะค่อนข้างหน้าตาดี แต่นั่นก็ไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่เขาปฏิบัติต่อข้าแตกต่างจากคนอื่นได้”
“…” อาเวินเบือนหน้าหนีเงียบ ๆ แม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่าท่านหน้าตาดี แต่ความจริงแล้ว ท่านไม่รู้สึกอับอายเมื่อต้องพูดออกจากปากด้วยสีหน้าจริงจังเช่นนั้นบ้างหรือ?
“เมื่อมองย้อนกลับไป ข้ายังจำสีหน้าของไป๋หลิวอี้ในขณะนั้นได้อยู่เลย” เนี่ยนเนี่ยนนึกถึงสีหน้าไม่แยแสของไป๋หลิวอี้ เมื่อได้ยินว่ามีหัวหน้าสาวใช้คนใหม่ แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและเห็นหน้านาง ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ทว่าตอนนั้นนางรู้สึกผิดอยู่ นางจึงไม่ได้คิดมากกับเรื่องนี้
อาเวินรู้สึกว่าความคิดของจวิ้นจู่ช่างน่ากลัวเหลือเกิน จนบัดนี้แล้วนางยังคงจำสีหน้าของนายท่านในตอนนั้นได้…
“อีกทั้งเขายังสั่งให้ข้าอยู่ห้องด้านซ้ายตั้งแต่แรก และไม่ให้ใครเรียกหาข้าหากข้านอนดึก ข้ามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ และเขายังแสดงความไว้วางใจอย่างมาก เมื่อข้ารักษาบาดแผลให้เขา เขาเข้มงวดกับคนรับใช้ทุกคนในเรือนเสมอยกเว้นข้า เมื่อมาคิดดูตอนนี้ก็แสดงว่าเขาต้องรู้ตัวตนของข้าชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว”
ทันทีที่เนี่ยนเนี่ยนพูดจบ นางก็มองหน้าอาเวิน
อาเวินพยายามสงบสติอารมณ์อย่างเต็มที่ แต่เมื่อเผชิญกับสายตาอันเฉียบคมของเนี่ยนเนี่ยนและกิ่งไม้ในมือนาง ไม่ว่าเขาจะพยายามสงบเพียงใด ก็ยังเผยให้เห็นร่องรอยของความรู้สึกผิดและความลำบากใจ
ความคิดในใจของเนี่ยนเนี่ยนได้รับการยืนยันแล้ว นางต่อยท้องอาเวินอย่างแรงไปหนึ่งหมัด
อาเวินอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขาคือผู้บริสุทธิ์จริง ๆ ต่อให้นายท่านจะรู้ตั้งแต่แรก แต่เขาไม่รู้
เขาเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด จนกระทั่งติงเซียงมาบอกว่าเห็นจวิ้นจู่เข้าออกโรงเตี๊ยมจวี้เป่า เขาจึงสั่งให้คนไปคอยจับตาดูที่นี่ไว้ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เห็นโม่เพียวเข้ามาที่โรงเตี๊ยม และเข้าไปในห้องเทียนจื้อหมายเลขสาม เขาต้องการค้นหาความจริง เขาจึงแอบเข้าไปในห้องเทียนจื้อหมายเลขสาม แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้เผชิญกับคุณชายเย่
และด้วยเหตุนี้… เขาจึงเดือดร้อนมากหลังรู้ตัวตนที่แท้จริงของจวิ้นจู่ในตอนนั้น ทั้งยังต้องขมขื่นเพราะรู้ว่านายท่านกำลังปกปิดเรื่องนี้อยู่ เขาช่างน่าสงสาร คนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน ก็น่าจะเห็นอกเห็นใจกันสิ เหตุใดต้องทำร้ายเขาด้วย
เนี่ยนเนี่ยนสะบัดมือออก ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วพูดต่อ “ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่แสดงอาการประหลาดใจ หลังจากที่เสด็จลุงเปิดเผยตัวตนของข้า ไม่ใช่ความผิดของข้าที่ปกปิด แต่ปรากฏว่าคนที่ถูกปกปิดคือข้าเอง!!”
เนี่ยนเนี่ยนจ้องมองอาเวินด้วยสายตาดุดัน
หัวใจของอาเวินเต้นไม่เป็นจังหวะขณะคิดในใจว่ามันจบแล้ว มันจบแล้ว ต่อให้นายท่านกระโดดลงไปชำระกายในแม่น้ำฮวงโหกี่รอบก็ล้างมลทินนี้ไม่ได้แล้ว
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และรู้สึกว่ายังคงต้องปกป้องเจ้านายของตน “ไม่ใช่ขอรับ จวิ้นจู่ ความจริงแล้วเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้เป็นดังที่ท่านคิด บางที…”
“อ๋อ ไม่ใช่อย่างที่ข้าคิด เช่นนั้นก็บอกข้าหน่อยสิว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร?”
อาเวินพูดไม่ออก เขาควรพูดว่าอะไรดี? อันที่จริงนายท่านเพิ่งมารู้ทีหลังงั้นหรือ? นั่นก็ฟังดูไม่ค่อยดีเลย หากผิดพลาดขึ้นมาจะทำเช่นไร? ความผิดก็ยิ่งทวีคูณ
“ตอบไม่ได้หรือ?” เนี่ยนเนี่ยนใช้กิ่งไม้ในมือเท้าคาง แล้วยกยิ้ม “เช่นนั้นก็จงกลับไปบอกเจ้านายของเจ้า อ้อ แล้วก็บอกเย่ฉิงเป่ยด้วยว่า ตอนนี้ข้าโกรธมาก พวกเขาสองคนคิดว่าข้าเป็นคนโง่ ความเคียดแค้นในใจข้าไม่อาจบรรเทาได้ หากข้าไม่ได้ฆ่าพวกเขา”
“…” อาเวินเบิกตากว้างด้วยความสยดสยอง ไม่เพียงแต่ต้องการจะฆ่าน้องชายตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงว่าที่สามีของตัวเองด้วยงั้นหรือ?
“จวิ้นจู่ขอรับ ความจริงแล้วท่านอยากจะลองทบทวนเรื่องนี้ดูอีกทีหรือไม่ขอรับ?”
เนี่ยนเนี่ยนยกยิ้มแล้วส่ายหน้า นางใช้กิ่งไม้เคาะฝ่ามือตัวเองเบา ๆ รอยยิ้มนั้นทำให้อาเวินขนหัวลุก…
……………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จะเกิดอะไรขึ้นกับคนในห้องเทียนจื้อหมายเลขสามกันนะ เนี่ยนเนี่ยนโมโหแล้ว
ไหหม่า(海馬)