“วันนี้ทุกคนว่างกันใข่มั้ย? งั้นพวกเราไปคาราโอเกะกันเถอะ!”
ระหว่างทางกลับโรงเรียนพ่อหนุ่มหน้าตาดีอีกคนของห้องอย่างนิจิมะคุงกล่าวชวนคนอื่นๆ
เห็นให้ได้ชัดเลยว่าเขาจ้องไปที่ซาเองุสะซัง
ฉันว่าฉันมีเหตุผลที่จะปฏิเสธแล้วล่ะ
“พวกเราไปด้วย!”
อย่างที่คิดพวกสาวๆนั้นตอบตกลง คนอื่นๆก็ต่างพากันตกลงไปด้วย
แล้วสายตาของทุกคนก็จ้องมาที่ซาเองุสะซัง รออย่างจดจ่อว่าเธอจะมาด้วย
แต่เธอก็ดูจะไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างและทำตัวผ่อนคลาย
ไม่ใช่แค่ซาเองุสะเท่านั้นแต่พวกหนุ่มๆก็ต่างมองมาที่ชิมิซุซัง ส่วนสาวๆก็จ้องมาที่เจ้าทาคายูกิ แต่สองคนนั้นก็ไม่ได้สนใจเช่นเดียวผมซาเองุสะซัง
เมื่อมาถึงโรงเรียนพวกเราก็ลงจากรถและยืนฟังเหล่าหัวหน้าห้องกล่าวสรุปการทัศศึกษาครั้งนี้
“ซาเองุสะซัง! คุณจะไปด้วยใช่มั้ยครับ?”
แล้วตอนนั้นเองที่นิจิมะคุงที่ทนความสงสัยไม่ได้อีกต่อไป กล่าวถามกับซาเองุสะซังตรงๆ
เขาดูจะไม่ใจในตัวเองไม่น้อยเลยนะเนี่ย แต่ว่าความมั้นใจของเขาก็ถูกทำลายจากคำตอบขอบอีกฝ่าย
ดูท่านิจิมะคุงอยากจะเข้าใกล้ซาเองุสะซังมากๆเลยนะนั่น
“ขอโทษด้วยนะ วันนี้ฉันมีธุระน่ะ”
เธอปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม
“เอ๋? ธุระงั้นเหรอ?”
“ใช่ค่ะธุระค่ะ! ลาก่อนนะคะ!”
กล่าวจบซาเองุสะซังก็เดินตรงออกมาจากประตูโรงเรียน
ผมรู้สึกสงสารนิจิมะคุงอยู่หน่อยๆเหมือนกันเแหะ เล่นทำหน้าเหวอซะขนาดนั้น
เมื่อเธอเกินผ่านผมเธอก็กระซิบเบาๆว่า “แล้วเจอกันนะ”
ผมจึงพยักหน้ารับ
“ฉันก็คงต้องขอผ่าน! ขอโทษด้วยนะ!”
“ฉันไม่ค่อยชอบคาราโอเกะน่ะ เพราะงั้นขอโทษนะคะ!”
จากนั้นทาค่ยูกิและชิมิซุซังก็ได้กล่าวปฏิเสธไป
ทำให้คาราโอเกะที่ไร้ซึ่งเหล่าตัวท็อปของห้องก็ส่งบรรยากาศอันแสนจืดชืดออกมา
—ติ๊ง!
ขณะที่ผมกำลังจมกับความคิดเสียงแจ้งเตื่อนก็ดังขึ้น
“ฉันจะไปรอที่ร้าน “คาราโอเกะ โรมัน” ก่อนนะ”
มันคืออข้อความจากซาเองุสะซัง
ผมและอีกสองคนต่างสิ่งสติ๊กเกอร์ให้เธอได้รับรู้
ใช่ครับ พวกเราได้สร้างกลุ่มไลม์ไว้เพื่อใช้คุยกัน เผื่อจะต้องไปไหนด้วยกันอีก
น่าตกใจอยู่เหมือนกันที่นิจิมะได้เลือกคาราโอเกะเดียวกับเราในตอนแรก แต่เนื่องจากชิมิซุซังนั้นไม่ถูกกับเหล่าไทยมุง พวกเราจึงได้เลือกไปร้าน “คาราโอเกะ โรมัน” ที่ไกลกว่าปกติ
ก็รู้สึกผิดกับคนอื่นๆอยู่เหมือนกันแต่พวกเราตกลงกันแล้วก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
ช่างโชคร้ายที่ไม่มีใครสนใจจะชวนผมเลยผมจึงเดินจากไปอย่างเงียบๆ
ผมรู้สึกดีชะมัดที่ได้กลายเป็นละครที่ไร้ตัวตนในห้องไปซะแล้ว
ยังไงๆผมก็เป็นแค่คนธรรมดาๆไม่เหมือนกับอีกสามคนอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ก็คงจะปกติล่ะนะ
หลังจากแยกย้ายกันสักพัก พวกเราก็ได้มารวมตัวกันที่ร้านคาราโอเกะ โรมัน
“มาถึงสักที!”
“ฉันรู้สึกผิดกับทุกคนนิดหน่อย แต่ก็ข่วยไม่ได้ล่ะนะ”
“ขอคุณทุกคนมากนะคะ……ฉันยังไม่พร้อมกับกลุ่มใหญ่ๆน่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับชิมิซุซัง ผมก็ไม่ชอบคนเยอะๆเหมือนกัน”
“ก็ตามนั้นแหละ! ไปลุยกันเถอะ!”
“รับทราบ!”
“ขอบคุณมากค่ะ!”
ชิมิซุซังดูจะกังวลนิดหน่อยแต่ก็ยิ้มออกมาและเราก็ไปเช่าห้องกัน
เมื่อเข้ามาในห้องก็พบว่ามันคือห้องที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์เก่าๆ
พื้นถูกปูด้วยพรมแดงและมีไมโครโฟนตั้งอยู่ตรงกลาง
แถมยังมีบอลดิสโก้อยู่ข้างบนด้วย
“ไอ้นี่มันอะไรวะเนี่ย? ลองโลด!”
จากนั้นทาคายูกิก็เปิดบอลดิสโก้ให้ทำงานเพื่อความสนุกและปิดไฟในห้อง แล้วห้องก็เต็มไปด้วยแสงที่มาจากบอลดิสโก้
บรรยากาศแบบนี้ไม่เคยเจอมาก่อนเลยแหะ ผมจึงได้แต่หัวเราะออกมาและสงสัยว่า ฉันมาทำอะไรที่นี่~
ผมเราตัดสินใจที่จะใช้แสงที่มันหม่นลงหน่อยจะได้ไม่ดูน่าอายและน่าสนใจมากขึ้น โดยที่เราก็ไม่รู้เหมือนว่าตกลงมาร้องคาราโอเกะหรือมาเล่นบอลดิสโก้กันแน่
“ฉันต้องร้องคนแรกสินะเนี่ย?”
ซาเองุสะซังกล่าวและเลือกเพลงในทันที
มันมีความแต่งต่างระหว่างนักร้องมือใหม่อย่างพวกเราและซาเองุสะซังที่เคยเป็นไอพอลอยู่พอสมควร การที่ต้องมาร้องเพลงต่อหน้าเธอเป็นคนแรกคงจะทรมาณโคตรๆ
ทาคายูกิเองก็ดีใจที่จะได้ชมซาเองุสะซังร้องสดอีกครั้งนึง
ผมเองก็เหมือนกัน ผมยังจำเรื่องที่คอนเสิร์ต DDG ที่ดีเลย
เสียงของเธอมันอัศจรรย์มากๆ
ผมรู้สึกดีที่จะได้ยินเสียงของเธออีกครั้ง
และคราวนี้ไม่ใช่บนเวที แต่เป็นห้องคาราโอเกะที่มีแค่พวกเราสี่คน
ผมว่ามันคงเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจประมาณค่าได้แน่ๆ
เพราะงั้นมาตั้งใจฟังกันเถอะ
ชื่อของเพลงที่แสงอยู่บนจอก็คือ
“Your own personal servant”
ผมอดไม่ได้ที่จะส่งเสียง “โอ๊ะ!” ออกมา
ซาเองุสะซังที่ได้ยิงเสียงนั้นมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม
ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามที่ผมขอจริงๆสินะเนี่ย
แล้วผมก็นึกถึงภาพซาเองุสะซังในชุดเมดขึ้นมาในหัว ให้ตายสิตัวฉัน
เมื่ออินโทรของเพลงดังขึ้นซาเองุสะซังก็ลุกขึ้นยืน และเดินไปที่แท่นไมโครโฟน
แล้วก็
“ฉันขอมอบเพลงนี้ให้กับนาย~”
เมื่อเธอเริ่มเอ่ยร้องซาเองุสะซังก็ยังเต้นตามเพลงไปด้วยแม้ว่าจะใช้ไมค์ขาตั้งก็ตาม
ทาคายูกิลุกขึ้นและตะโดนว่า “วู้ว!” อย่างมีชีวิตชีวา
ตอนเรกชิมิซุซังดูจะแปลกใจการกระทำของทาคายูกิและซาเองุสะ แต่สุดท้ายเธอก็เอามือกุมท้องก่อนที่จะหัวเราะออกมา
การกระทำระหว่างแฟนคลับอย่างทาคายูกิและซาเองุสะที่ตอบรับด้วยท่าทางที่ดูกระตือรือร้นกว่าตอนอยู่บนเวทีนี่มันตลกสุดๆไปเลย
แล้วมันตลกยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าเธอกำลังสวมชุดนักเรียนอยู่
ผมขำออกมากับความตลกของพวกเขาสองคนไม่หยุด
หลังจากเพลงจบซาเองุสะซังกับทาคายูกิให้ไฟว์ให้กันก่อนจะกล่าวออกมาพร้อมกัน “เมื่อกี้มันยอดไปเลย!”
ต้องขอบคุณทั้งสองคนที่ทำให้คาราโอเกะตอนนี้กลายเป็นตลกคาเฟ่ไปซะแล้ว