ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 197 เรื่องราวของพี่ชายฉัน

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 197 เรื่องราวของพี่ชายฉัน

ตอนที่ 197 เรื่องราวของพี่ชายฉัน

“ฉันจะช่วยนายได้ยังไง?” เฉินเจียเหอถาม

เซี่ยไห่ดึงเขาไปที่ริมฟุตบาท แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้านายพอจะมีเวลา ช่วยแวะไปที่บ้านตระกูลเซี่ยให้หน่อย ไปตามหาเซี่ยตงกับเซี่ยหลาน”

“ทำไมอยู่ ๆ ถึงอยากตามหาพวกเขาล่ะ?” เฉินเจียเหอสงสัย

เซี่ยไห่อธิบายด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เห็นแก่พี่ใหญ่ของฉันน่ะสิ ก่อนหน้านี้พี่ใหญ่ฉันสูญเสียความทรงจำไม่ใช่เหรอ? แต่เมื่อวานนี้แม่ฉันโทรมา บอกว่าเขาเอาแต่ละเมอพร่ำเพ้อเรียกชื่ออิงจื่อตอนที่เขาหลับ ถามพี่สาวแล้วหล่อนก็ไม่รู้ว่าคือใคร หล่อนกับแม่เลยเห็นตรงกันว่าอาจเป็นคนรู้จักของเขาเมื่อนานมาแล้ว

ตอนนั้นเราไม่ได้ติดต่อกับญาติ ๆ หรือเพื่อนของเราในไห่เฉิงเลย ฉันก็เลยอยากวานให้นายไปสืบถามจากตระกูลเซี่ย เพราะเวลานั้นพวกเขายังติดต่อกับพี่ใหญ่อยู่บ้าง ลองถามพวกเขาดูว่าเมื่อยี่สิบปีที่แล้วมีใครใช้ชื่อนี้บ้าง คนรู้จักของพี่ใหญ่คนนี้ พวกเราเดาว่าหล่อนน่าจะเป็นผู้หญิงสักคน หรือคนที่มีความสำคัญกับพี่ใหญ่ของฉันมาก”

เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเซี่ยเหลยพี่ชายคนโตของเซี่ยไห่ เฉินเจียเหอก็เปลี่ยนมาจริงจังกับเรื่องนี้ทันที เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้สิ”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปที่เซี่ยไห่ “แต่นายต้องมากับฉันด้วย”

เซี่ยไห่ปฏิเสธอย่างง่ายดาย “ฉันไม่ไปแน่ ฉันไม่อยากเจอหน้ามันอีก ที่มาขอความช่วยเหลือจากนายก็เพราะฉันไม่สะดวกที่จะออกหน้าเองยังไงล่ะ”

“เหล่าเซี่ย นายช่วยทำตัวเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้หน่อยได้ไหม? นายอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ทำไมยังจดจำความแค้นในอดีตอีก?”

เซี่ยไห่เอามือแตะจมูกแล้วพูดว่า “นายไม่เข้าใจหรอก”

“ก็เพราะฉันไม่เข้าใจนี่ไงว่านายกับเซี่ยตงโกรธแค้นอะไรกันนักหนา?”

เฉินเจียเหอมองเขาและถามเสียงทุ้ม “ทำไมนายถึงไม่อยากเจอหน้าเซี่ยตง? แค่เพราะตอนนั้นพวกนายทะเลาะกันรุนแรงงั้นเหรอ? แต่เราจำเป็นต้องสนใจเรื่องบาดหมางในอดีตไหม? สมัยพวกเรายังอยู่ในกองทัพก็ไม่เห็นจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเลย ทำไมไม่ปล่อยวางบางเรื่องไปซะ?”

เฉินเจียเหอไม่เข้าใจเลย ถ้าเหตุผลเป็นเพราะการต่อสู้ในวันนั้นแค่อย่างเดียว เซี่ยไห่จะสมสมความแค้นมาจนถึงทุกวันนี้เชียวเหรอ

สุดท้ายเซี่ยเหลยกับเซี่ยหลานก็ไม่ได้ลงเอยกัน จำเป็นไหมที่พวกเขากลายมาเป็นศัตรูกันตอนแก่?บราวนี่ออนไลน์

(TN: เซี่ยเหลยกับเซี่ยไห่เป็นแซ่เซี่ย-夏 ส่วนเซี่ยตงกับเซี่ยหลานเป็นแซ่เซี่ย-谢)

เซี่ยตงไม่สนใจเรื่องพรรค์นั้นอีกต่อไป แล้วเซี่ยไห่จะแบกความอัปยศในวัยเด็กนั้นไปถึงไหน?

ระหว่างพวกเขาต้องมีความคับข้องใจอื่น ๆ ต่อกันเป็นแน่

เซี่ยไห่พยายามหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนา “ไม่ต้องถามมาก ฉันแค่ไม่อยากเห็นหน้าเขา”

เฉินเจียเหอมองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด “ถ้านายไม่ไป ฉันก็คงสืบถามเรื่องนี้ตัวคนเดียวไม่ได้ ไว้ฉันจะพานายไปเยี่ยมลุงเซี่ยช่วงบ่าย อย่าลืมว่าฉันไม่รู้จักพี่ใหญ่ของนายมากนัก ไม่รู้เรื่องเฉพาะเจาะจงของเขาอย่างชัดเจน ฉะนั้นนายไปถามด้วยตัวเองแล้วกัน”

เซี่ยไห่ยังคงลังเล เอาแต่นิ่งเงียบ

“พี่ใหญ่เซี่ยคือวีรบุรุษของชาติ ในเมื่อเรื่องที่นายอยากทำมันเกี่ยวกับการฟื้นความทรงจำของเขา งั้นนายก็ทำตัวให้เป็นลูกผู้ชายหน่อยไม่ได้หรือไง? ควรเอาความขุ่นเคืองส่วนตัวมากระทบกับธุระสำคัญเหรอ?”

หลังจากถูกเฉินเจียเหอวิพากษ์วิจารณ์ เซี่ยไห่ก็ยอมเปลี่ยนใจ “ก็ได้ งั้นฉันจะไปกับนาย”

“อืม เราจะออกเดินทางกันตอนห้าโมงเย็น”

ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ริมถนน ทันใดนั้นสาวสวยรูปร่างสง่างามก็เดินตรงมาหาพวกเขา

“เจียเหอ คุณพอจะมีเวลาไหมคะ?” ถังหลิงมองเฉินเจียเหอด้วยรอยยิ้มสดใส ถามเบา ๆ

“ขอโทษด้วย ผมไม่มีเวลา” เฉินเจียเหอไม่เปิดโอกาสให้หล่อนได้ขอร้องเป็นครั้งที่สอง ปิดกั้นคำพูดต่อไปของหล่อนอย่างไร้เยื่อใย

“โอ้” ถังหลิงมีสีหน้าเก้อเขินเล็กน้อยเมื่อถูกปฏิเสธ แต่ยังคงมองเขาด้วยรอยยิ้ม

“อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พอดีในร้านฉันมีกระดานอันใหญ่ ก็เลยออกมาหาคนช่วยยก บังเอิญเห็นคุณกับเพื่อนคุยกันอยู่ข้างทาง เลยเข้ามาถามว่าคุณกับเถ้าแก่พอเข้ามาช่วยหน่อยได้หรือเปล่าน่ะค่ะ?”

“ผมยังมีอย่างอื่นที่ต้องทำ” เฉินเจียเหอมองไปที่เซี่ยไห่ “นายว่างก็ไปช่วยหล่อนสิ”

หลังจากพูดอย่างนั้น เฉินเจียเหอก็ก้าวขายาว ๆ เดินตรงกลับไปที่ร้านตัดผม

เซี่ยไห่ยกมือขึ้นหมายจะคว้าเขาไว้ “เฮ้ ฉัน…”

เฉินเจียเหอจากไปโดยไม่หันกลับมามอง ถังหลิงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางสง่าผ่าเผยเช่นเคย แต่สีหน้ามืดมนลงครู่หนึ่ง ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ ก่อนจะมองเซี่ยไห่ด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยไห่ทำใจปฏิเสธสาวสวยตรงหน้าไม่ได้จริง ๆ ดังนั้นจึงทำได้แค่เดินตามหล่อนไปเท่านั้น

“ขอบคุณมากนะคะ” ถังหลิงยิ้มและเดินเข้ามาหาเขา “คุณคือเซี่ยไห่ เพื่อนของเจียเหอสินะ? ได้ยินมาว่าคุณเป็นเจ้าของกิจการห้องเต้นรำฝั่งตรงข้ามด้วยใช่ไหม?”

เซี่ยไห่ไม่คาดคิดว่าหญิงสาวสวยคนนี้จะรู้จักชื่อของเขา ยิ่งอายุมากขึ้น การถูกหญิงสาวสวยจ้องสบตาโดยตรงก็ไม่ทำให้เขาเกิดความเขินอายอีกต่อไป ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“ใช่ครับ ผมชื่อเซี่ยไห่”

“จากนี้ไปเราจะกลายเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว” ถังหลิงแนะนำตัวเองอย่างอบอุ่น “ฉันชื่อถังหลิง เจียเหอกับฉันโตมาด้วยกัน เราเคยเป็นคู่รักวัยเด็กของกันและกันด้วยค่ะ”

เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของถังหลิง เซี่ยไห่ก็เหยียดยิ้มอย่างเชื่องช้า แก้ไขคำพูดของหล่อนว่า “คุณถังครับ ผมว่าคำว่าคู่รักวัยเด็กอาจดูไม่เหมาะสมที่จะหยิบมาใช้สุ่มสี่สุ่มห้ามั้ง ถึงยังไงเขาแต่งงานแล้ว อย่าทำให้เกิดความเข้าใจผิดดีกว่า”

“ฉันไม่ได้มีความหมายอื่นแอบแฝง”

ถังหลิงจับผมตัวเอง จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องอย่างลื่นไหล “จริงสิ จวิ้นเฟิงเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันเองค่ะ ก่อนหน้านี้เคยได้ยินเขาพูดถึงคุณครั้งหนึ่ง บอกว่าคุณมีความสามารถมาก และมีหัวทางธุรกิจที่ดี”

หล่อนยื่นมือไปตรงหน้าเซี่ยไห่ “เถ้าแก่เซี่ย จากนี้ไปฉันต้องขอฝากตัวด้วยนะคะ”

เซี่ยไห่จับมือกับหล่อนตามมารยาท พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เราทุกคนเป็นเพื่อนบ้านกันครับ คุยกันง่าย”

เซี่ยไห่ช่วยหล่อนยกกระดานไม้ หลังจากเห็นสไตล์การตกแต่งร้าน และได้ยินาว่าหล่อนกำลังจะเปิดร้านเสริมสวย เขาก็ชื่นชมหญิงสาวคนนี้อย่างจริงใจ “เป็นความจริงที่ผู้หญิงสมัยนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ชายเลย สาว ๆ สมัยนี้น่าทึ่งมาก ธุรกิจของหลินเซี่ยกำลังไปได้สวย ถ้าคุณเปิดร้านเมื่อไหร่ก็น่าจะเป็นไปด้วยดีไม่ต่างกัน”

ถังหลิงถอนหายใจ “เฮ้อ หลินเซี่ยมีชีวิตที่ดีกว่าฉัน อย่างน้อยหล่อนก็มีเจียเหอกับครอบครัวของเขาคอยช่วยเหลือ ไม่เหมือนฉันที่ต้องลงแรงทำทุกอย่างด้วยตัวเอง บางครั้งฉันเหนื่อยมาก แต่ก็ต้องอดทนเพื่อความอยู่รอด”

เซี่ยไห่เป็นคนซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ตอบกลับหล่อนด้วยรอยยิ้มว่า “คุณน่าจะเข้าใจผิดแล้ว ร้านตัดผมก็ต้องอาศัยทักษะและฝีมือในการหาเลี้ยงชีพเหมือนกัน ต่อให้ครอบครัวมีกำลังแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้”

ถังหลิงถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วครู่

หล่อนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา มองหน้าเซี่ยไห่ยิ้ม ๆ “เถ้าแก่เซี่ยคะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในวันนี้มาก รบกวนแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้หน่อยสิคะ เผื่ออีกหน่อยฉันมีเรื่องรบกวนอีกจะได้ติดต่อหาคุณโดยตรง”

“ครับ” เซี่ยไห่บอกหมายเลขโทรศัพท์ของเขาให้ถังหลิงทีละตัว จากนั้นก็อำลาหล่อน แล้วกลับไปที่ห้องเต้นรำ

เฉินเจียเหอเล่าให้หลินเซี่ยฟังว่าเย็นนี้เขามีธุระต้องแวะไปที่บ้านตระกูลเซี่ยพร้อมกับเซี่ยไห่ จากนั้นก็ถามความเห็นของเธอ “เซี่ยเซี่ย คุณอยากไปกับเราไหม?”

หลินเซี่ยได้ยินว่าเซี่ยไห่มีธุระสำคัญมากจนยอมแบกหน้าไปหาเซี่ยตง เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งพลางหรี่ตาลง “ฉันว่าฉันไม่ไปดีกว่าค่ะ”

แม้ว่าเธอต้องการกลับไปยังบ้านที่เคยอาศัยอยู่มาหลายปีเพื่อเยี่ยมคุณตาและคุณยาย แต่เฉินเจียเหอและเซี่ยไห่ดูเหมือนมีบางสิ่งที่สำคัญกว่า อาจไม่สะดวกสำหรับเธอที่จะติดตามพวกเขาไป อย่างน้อยเธอก็ได้เจอคุณตาแล้วเมื่อครั้งล่าสุด

คุณยายหรือก็เลี้ยงหลานอยู่ที่บ้านของเซี่ยตงตลอดทั้งปี อยู่ไกลเกินกว่าจะได้พบเจอกันบ่อย ๆ

อีกอย่างวันนี้งานในร้านก็ค่อนข้างยุ่งพอสมควร มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย หลังเคลียร์ลูกค้าเสร็จก็ยังต้องสอนชุนฟางทำผมตัวต่อตัว

เธอคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ในที่สุดก็ตัดสินใจ “ฉันจำได้ว่าวันเกิดของคุณตาใกล้จะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ ปีนี้ที่บ้านน่าจะจัดงานใหญ่ ไว้พวกเราค่อยไปฉลองวันเกิดของคุณตาทีเดียวก็ได้”

เฉินเจียเหอเคารพการตัดสินใจของเธออย่างไม่มีเงื่อนไข ตอบกลับว่า “ได้ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน”

หลินเซี่ยกำชับ “จริงสิ คุณปู่ชอบดื่มชา คุณอย่าลืมซื้อถุงชาไปมอบให้เขานามของฉันทีนะคะ”

“อืม หลังเลิกงานเดี๋ยวผมจะซื้อเข้าไป” เฉินเจียเหอบอกเธอ “เซี่ยเซี่ย บ่ายนี้คุณออกไปรับหู่จือด้วย หลังเลิกงานผมจะตรงไปที่นั่นเลย คุณสองแม่ลูกจัดการอาหารมื้อเย็นกันตามสบาย คืนนี้เราจะนอนพักที่อาคารพักอาศัยของโรงงาน”

“ฉันต้องนอนที่อาคารในโรงงานอยู่แล้ว เสิ่นเสี่ยวเหมยคงอยากอวดเบ่งที่ตัวเองท้อง แต่ไม่มีทางซะหรอก”

ครั้นเวลาบ่ายคล้อย

เซี่ยไห่ขับรถไปที่บ้านตระกูลเซี่ยพร้อมกับเฉินเจียเหอ เมื่อรถขับมาจอดตรงข้างถนน เขาก็ถือกล่องของขวัญที่ห่ออย่างสวยงามไว้ในมือ ขณะที่เฉินเจียเหอถือถุงชา

เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้านตระกูลเซี่ย เซี่ยไห่ก็ลังเลขึ้นมาทันควัน สูดลมหายใจเข้าลึก รวบรวมจิตใจให้เข้มแข็ง

เขาครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ ว่าทุกอย่างที่เขาตัดสินใจทำก็เพื่อพี่ใหญ่

ต่อให้วันนี้เขาจะเห็นใบหน้าของเซี่ยตงที่เขาอยากทุบตีมาตลอดชีวิต เขาก็ต้องอดทนเข้าไว้

เซี่ยไห่บอกเฉินเจียเหอว่า “นายควรรู้นะว่าจะช่วยฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงได้บ้าง แต่ไม่ว่ายังไงฉันจะไม่คุยกับเซี่ยตง ถ้ามีคำถามเพิ่มเติมก็ช่วยถามแทนฉันหน่อย”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ความแค้นนี้ใหญ่หลวงนัก นอกจากเรื่องที่ทำให้เซี่ยไห่อับอายเรื่องนั้นแล้วยังมีเรื่องไหนอีกนะ

ยัยถังเธอมีแผนอะไรแอบแฝงเปล่านี่?

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน