การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า – ตอนที่ 36 องค์ที่ 2 ผู้กล้า – เจ้าหญิงแวมไพร์และการยืนยันครั้งสุดท้าย

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ เลยนะ

ฉันเคยได้ยินมาว่าในเผ่าพันธุ์ที่มีอายุขัยยาวนานจะรับรู้เวลาได้ต่างจากเผ่าพันธุ์ที่มีอายุขัยสั้นกว่า เพราะงั้นฉันเลยรู้สึกว่า 8 วันเนี่ยมันสั้นมากเลย

 

ฉันคิดแบบนั้นพลางพยายามหนีจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

8 วันผ่านไปไวเหมือนโกหก นับตั้งแต่ฉันไปพบกับท่านอิซึสึ และพอฉันตื่นมา ตอนนั้นก็บ่ายสามแล้ว

…ใช่ อีกประมาณ 3 ชั่วโมง ฉันจะต้องไปต่อสู้กับผู้กล้าแล้ว

 

ทั้งๆ ที่เป็นเทพชั่วร้าย เธอกลับมีพรสวรรค์จนก้าวข้ามการคาดการณ์ของเทพอย่างท่านอิซึสึไปได้ สเตตัสเฉลี่ยทะลุ 20,000 ทักษะกระบวนดาบของเธอที่เก่งหยั่งกับแอบเข้าไปฝึกในห้องแห่งกาลเวลาของพระเจ้ามา ความแข็งแกร่งเหนือกว่าทั้งพวกผู้บริหาร ทั้งว่าที่ผู้บริหารที่น่าภูมิใจของกองทัพจอมมารเสียอีก แกร่งจนเกือบจะคิดว่าเธอเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่ใช่มนุษย์อีกแล้วก็ได้

 

…ไม่เลย เป็นไปไม่ได้เลยสินะ

ยิ่งคิด ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าฉันคงทำมันไม่ได้

สเตตัสเฉลี่ยมากกว่า 20,000 งั้นเหรอ แม้แต่นอนน์หรืออีดิธ ศัตรูคู่อาฆาตของฉัน ยังมีสเตตัสเฉลี่ยอยู่แค่ประมาณ 10,000 เอง

ฉันรู้ว่าอัตราความสำเร็จมันสมเหตุสมผลตอนที่ท่านจอมมารเสนอชื่อฉัน…

ไม่สิ แต่ตอนที่ฉันถามท่านอิซึสึเกี่ยวกับอัตราความสำเร็จ เธอก็ดูคลุมเครือขึ้นมาเลย บางทีท่านอาจจะบอกว่า ‘เธอมีอัตราความสำเร็จสูงเลยทีเดียว’ และความเป็นไปได้จริงๆ อาจจะมีซัก 10% หรืออะไรแบบนั้นใช่มั้ย

ฮะฮะฮะฮะ คงไม่มีทางหรอกเนอะ

 

…ไม่มีทางหรอก ใช่มั้ย?

 

“…อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

“นี่มันบ่ายแล้วนะ เกือบจะเย็นอยู่แล้วด้วย”

“…ช่วยไม่ได้นี่คะ ก็ฉันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใช้ชีวิตในเวลากลางคืนนี่นา”

 

ฉันลากเท้าหนักๆ เข้ามาในห้องประชุมของกองทัพจอมมาร ที่ที่ฉันถูกเรียกมารวมตัวกันใน 8 วัน

ภายในห้อง มีแค่คนเดียวที่มาถึงก่อนหน้าฉัน นั่นคือ ‘แม่ทัพแห่งภัยพิบัติ’ คุณเรน แฟรี่ลอร์ด ผู้บริหารลำดับที่ 7 ของกองทัพจอมมาร

เธอคือราชินีของเผ่าแฟรี่ ส่วนสูงอยู่ที่ประมาณ 30 เซน มีผมสีเขียวแกมเหลืองที่ยาวมาจนถึงเข่า และมีใบหน้าสวยงามกับตาเฉียงเล็กน้อย

ถ้าจะให้ฉันพูดล่ะก็ เธอเป็นนางฟ้าที่เป็นพวกซึนเดเระด้วย ถ้าดูแบบชาติที่แล้วของฉันล่ะนะ

และแม้ว่าเธอจะตัวเล็กแบบนี้ เธอก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับ 3 ในกองทัพจอมมาร เมื่อดูจากความสามารถในการต่อสู้

เธอเป็นอัจฉริยะที่สามารถควบคุมสภาพอากาศและภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วม, ฟ้าผ่า, พายุลูกเห็บ หรือไฟป่า ได้ตามใจต้องการเลย และว่ากันว่าเธอเป็นแฟรี่ที่แข็งแกร่งที่สุดตลอดกาล

นิสัยของเธอก็…ซึนเดเระผสมกับขี้เกียจล่ะนะ

 

“…อะไร? อยู่ดีๆ ก็จ้องฉันมีอะไรหรือไง?”

“อา ขอโทษค่ะ”

“ให้ตายสิ… เธอกำลังจะไปสู้กับผู้กล้านะ เพราะงั้นก็ยืดอกขึ้นแล้วมั่นใจเข้าไว้สิ”

“อาาา… ผู้กล้าเหรอคะ…”

“อะไรเล่า? กังวลงั้นเหรอ? ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ฉันจะช่วยเธอนิดหน่อยก็ได้ แล้วซากุระก็ไปที่นั่นด้วยเผื่อเธอต้องการความช่วยเหลืออยู่แล้วนี่ จริงมั้ย?”

“ค่ะ แต่ว่า…ในจังหวะที่ฉันฆ่านักเวทนั่นแล้ว พวกเราไม่ได้จะล้อมพวกผู้กล้าด้วยผู้บริหารกับซากุระคุงตั้งแต่แรกแล้วเหรอคะ?”

“อย่าง―ที่―ว่า― เพราะผู้กล้าจะถอยไปทันทีที่เห็นว่ามีผู้บริหารอยู่ และพวก 12 อัครสาวกลำดับขั้นสูงกว่าอาจรับรู้ถึงตัวตนของพวกผู้บริหาร แล้วผุดขึ้นมาเหมือนพวกแมลงไง! เรายังไม่พร้อมที่จะปะทะกันอย่างเต็มกำลัง จึงไม่มีใครเหมาะจะรับหน้าที่นี้แล้วนอกจากเธอที่ไม่เคยถูกเจอมาก่อน และแข็งแกร่งด้วยตัวคนเดียวได้ไงเล่า!”

 

อึก เกลียดที่ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นมาเลยแฮะ

ผู้กล้าตอนนี้ถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ ถ้าพูดแบบโลกเดิมอะนะ

เธอถูกตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าไว้ด้วยข้อมูลที่บอกให้เธอทำนู่นทำนี่ และเธอก็จะทำตามนั้น

เธอคงถูกสั่งให้ ‘ฆ่าเผ่ามารที่พบเจอ’ หรือ ‘หนีทันทีที่พบเห็นพวกผู้บริหาร’ อะไรประมาณนั้น

แสดงว่า ผู้บริหารที่ถูกรู้ใบหน้ากันหมดแล้ว แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปฆ่านักเวทคนนั้นได้ตั้งแต่แรกแล้ว

อีกอย่าง ยังมี ‘กำแพงคู่’ 12 อัครสาวกลำดับที่ 10 อัซบาร์อยู่ตรงนั้นด้วย เจ้านั่นเชี่ยวชาญด้านการป้องกัน ไหนจะยังมีการป้องกันและการป้องกันเวทที่สูงจนน่าขยะแขยงนั่นอีก

พวกนั้นจะรู้ตัว และเริ่มทำการตั้งรับ ในขณะที่เราทำการบุก พวกนั้นก็จะหนีไป… เพราะงั้น เพื่อกันไม่ให้เรื่องพวกนั้นเกิดขึ้น จึงควรจะให้ฉัน ทหารธรรมดาที่ตัวตนยังไม่ถูกล่วงรู้เลยฝั่งนั้น เป็นคนทำงานนี้ดีกว่า

 

บ้าจริง

 

ระหว่างที่ฉันนั่งลงที่เก้าอี้ของฉัน และปรึกษาเรื่องนั้นเรื่องนี้กับคุณเรน ผู้บริหารทุกคนที่เหลือในปราสาทก็เข้ามารวมกันทีละคน และในที่สุด ท่านจอมมารก็มาถึง

 

“พวกเจ้าทุกคนมาถึงกันแล้วสินะ งั้น มาเริ่มการยืนยันแผนการครั้งสุดท้ายกันได้เลย”

 

ท่านจอมมารเริ่มพูดเกริ่นเกี่ยวกับแผนการที่วางเอาไว้จนถึงตอนนี้

แผนการที่ว่านั่นก็คือแผนเดียวกับที่วางเอาไว้ตั้งแต่ 8 วันก่อนนี่แหละ

 

1. ฉันจะต้องฆ่านักเวทให้ได้ด้วยซักวิธีนึง

2. คุณเฟเรียกับคุณเทียน่าจะผลัดกันใช้เวทเคลื่อนย้ายเพื่อเอาตัวอัซบาร์กับทรัซท์จากพวก 12 อัครสาวกมาที่ปราสาทจอมมารที่จะตัดเวทคุ้มครองป้องกันการเคลื่อนย้ายไปชั่วขณะ จากนั้น ผู้บริหารทั้งหมดก็จะช่วยกันรุมยำพวกมันซะ

3. ในเวลาเดียวกันนั้น ฉันก็ฆ่าพวกลิ่วล้อ 4 คนในคณะผู้กล้า และช่วยปกป้องผู้กล้าด้วยการซัดเธอให้ร่วง หรือยังไงซักอย่าง…ลักพาตัว? อะไรนั่นแหละ ฉันต้องพาตัวเธอกลับไป

4. ฉันต้องทำซักวิธีนึงเพื่อฟื้นฟูจิตใจให้ผู้กล้าให้ได้

 

…ขั้นตอนก็จะประมาณนี้

เอาจริงๆ ฉันน่าจะทำได้ถึงขั้นที่ 2 นะคะ

พวกมนุษย์เอาชนะพวกเราเผ่ามารได้จากตัวตนของผู้กล้า แล้วถ้ามีเผ่ามารที่ไม่รู้ตัวตนอย่างฉันปรากฏตัวออกมา พวกนั้นก็น่าจะหยุดการเคลื่อนย้ายแล้วก็น่าจะแบบ ‘มาฆ่าเจ้านี่ซะก่อนค่อยกลับบ้านแล้วกัน’ จากนั้นก็เข้าไปเชือดเจ้านักเวทนั้นทีเผลอด้วยการอวยพรจากดวงจันทร์ก็เรียบร้อย

คุณเฟเรียกับคุณเทียน่าก็จัดการขั้นที่ 2 ได้ไม่ยากเย็น นอกเหนือจากที่พวกเธอเข้ากันไม่ได้ในระดับสิ้นหวัง ทั้งคู่ก็เป็นจอมเวทที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน

 

แต่ขั้นที่ 3 นี่ ฉันไม่รู้เลย…!

 

“…ตอนนี้ก็มีเท่านี้ ภารกิจจะดำเนินทันทีที่อาทิตย์ตกดิน ลีน ไปเตรียมตัวให้พร้อมระหว่างที่เจ้ายังทำได้ เทียน่า เฟเรีย อย่าทะเลาะกันเองล่ะ”

“โธ่เอ๊ย นี่ฉันต้องร่วมงานกับเธองั้นเหรอ? ฉันรู้สึกโดนถ่วงแข้งถ่วงขาขึ้นมาเลย ขอให้หลานฉันมารับหน้าที่แทนได้มั้ยคะ? ถ้าร่วมงานด้วยกัน เขาน่าจะทำให้ฉันสบายใจกว่าค่ะ”

“ให้ตายสิ ฉันไม่คิดว่าคนที่ควรจะเปลี่ยนตัวกับซากุระจะเป็นฉันนะ ฉันกังวลที่จะต้องมีคนไร้ประโยชน์อย่างเธอมาอยู่ในปฏิบัติการแบบนี้นะ”

“หยุดเถียงกันต่อหน้าเราได้แล้ว! เฮ่อออ อยากให้เราถอนพวกเจ้าออกจากตำแหน่งผู้บริหารแล้วเลื่อนซากุระขึ้นมาแทนมั้ย!”

 

ซากุระคุงนี่ดังจริงๆ เลยนะ…

ฉันก็เป็นเพื่อนที่ดีกับเขาด้วยนั่นแหละ เขาก็เป็นเด็กดีนะ

 

“ฮาาา… เอาจริงๆ เลยนะ… พวกเจ้าทั้ง 2 คนช่วยร่วมมือกันให้ดีกว่านี้จะได้มั้ย?”

“ขออภัยจริงๆ ค่ะ ท่านจอมมาร แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองกับเทียน่าจะมีทางเห็นตรงกันได้เลยค่ะ”

“การที่ฉันกับเฟเรียจะเข้ากันได้นั้น คงถึงขั้นทำให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายได้เลยค่ะ”

 

จริงๆ นะ ฉันคาใจจังว่าทำไม 2 คนนี้ถึงได้ไม่ชอบหน้ากันได้ขนาดนี้กันนะ?

 

“…ขอบคุณค่ะ คุณเทียน่า”

“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องแค่นี้เอง… โชคดีนะคะ”

 

ดวงอาทิตย์กำลังจะตก

การอวยพรจากดวงจันทร์กำลังจะมาแล้ว

สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนเลยคือสังเกตพื้นที่โดยรอบให้ดี

ฉันที่ยังใช้เวทพื้นที่ไม่ได้ถูกส่งมาที่นี่ด้วยเวทมนตร์ของคุณเทียน่า

ตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้กับผู้กล้าที่กำลังจะมาถึง

…ดูเหมือนผู้กล้ากับพวกลิ่วล้อนั่นจะอยู่ไกลไปจากตรงนี้แค่ประมาณกิโลนึง

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ซากุระรออยู่ไกลๆ แล้ว และคุณเกรย์กับคุณเรนก็พร้อมพุ่งเข้าไปช่วยในกรณีฉุกเฉินแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องเครียดไปหรอกนะคะ”

“…ค่ะ ฉันจะทำอย่างเต็มที่ค่ะ”

 

แล้วฉันก็เริ่มออกวิ่ง

 

ไม่นานนัก ฉันก็เจอพวกมนุษย์กลุ่มนึง

ในนั้นมีอยู่ 8 คน 2 คนในนั้นถืออาวุธที่ดูแล้วจะมีประสิทธิภาพดี

…และตรงหน้าสุดในกลุ่มนั้น มีเด็กผู้หญิง ตัวสูงประมาณฉันอยู่

 

ไม่ผิดแน่ นี่ต้องเป็นกลุ่มของ ‘ผู้กล้า’ แน่นอน

เจ้า 2 คนนั้นที่สวมอาวุธนั่นน่าจะเป็นพวก 12 อัครสาวกสินะ

และที่ริมสุดนั่น เป้าหมายแรกของฉัน นักเวทนั่นก็…

 

อีก 3 นาที ก่อนที่กลางวันจะสิ้นสุดลง

 

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

Status: Ongoing
เซนโจ โยนะ เด็กหญิงที่ถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแก๊สระเบิด หลังจากนั้น ด้วยความช่วยเหลือของเทพชั่วร้าย อิซึสึ เธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวของผู้นำเผ่าแวมไพร์ [ลีน บลัดลอร์ด] ชีวิตอันสงบสุขกำลังรอเธออยู่ รายล้อมไปด้วยครอบครัวและเพื่อนพ้องที่รักเธอ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอดจากชาติก่อน … แต่เวลาเหล่านั้นก็ต้องสิ้นสุดลง จากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์แวมไพร์ด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์อย่างไร้เหตุผล “อา เข้าใจแล้ว ชีวิตของฉันต้องพังทลายเพราะว่ามีพวกมนุษย์อยู่งั้นสินะ” อีกด้าน มีเด็กสาวที่ถูกมองเป็นตัวน่ารำคาญในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เธอได้รับ [คุณสมบัติของผู้กล้า] พร้อมทั้งพรสวรรค์และศักยภาพอันล้นเหลือ แต่จิตใจของเธอกลับถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของพวกมนุษย์ เพื่อล้างสมอง และเปลี่ยนเธอเป็นอาวุธมีชีวิต “จริงๆ แล้ว…ไม่อยากปกป้องพวกมนุษย์ซักหน่อย เราไม่ได้อยากเป็นผู้กล้า…” และพวกเธอผู้เกลียดชังต่อมนุษย์ ก็กลายมาเป็นภัยพิบัติต่อมนุษยชาติ นี่คือเรื่องราวของเด็กสาว 2 คนที่ชีวิตต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือเพียงแค่ชีวิตของตัวเอง และพวกเธอจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล้างแค้นและกวาดล้างมนุษยชาติให้สิ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท