คลาส (อาชีพ) ระดับสูงพิเศษ [อสูรอาฆาตแค้น]
เงื่อนไขในการได้รับอาชีพนี้ก็คือจะต้องสังหารเป้าหมายในการล้างแค้นจนถึงจำนวนนึง
ความสามารถหลักของอาชีพนี้ก็คือ ‘การเพิ่ม/ลดพรสวรรค์’
ยิ่งความแค้นหรือความเกลียดชังที่มีต่อเป้าหมายในการล้างแค้นมากขนาดไหน พรสวรรค์ในตัวที่มีจะยิ่งเพิ่มขึ้นขนาดนั้น ในทางกลับกัน ถ้าความแค้นที่มีลดลงไป มันก็จะลดพรสวรรค์ในตัวที่มีแทน ทำเอาดูเป็นอาชีพที่แย่ไปเลยนะ
แต่ยังไงก็ตาม ฉันมั่นใจเลยล่ะว่าความแค้นที่ฉันมีต่อมนุษย์น่ะไม่ธรรมดาแน่นอน
ฉันกล้ายืดอกพูดเลยว่า ถ้ามองแค่เรื่องนี้ล่ะก็ ฉันต้องเป็นท็อป 10 ของกองทัพจอมมารแน่
นี่เป็นอาชีพที่เหมาะกับฉันมากเลยล่ะ
อีกอย่าง ความได้เปรียบที่ฉันมีเมื่อตอนที่ยังเป็น [ผู้ชำระแค้น] ต่อเป้าหมายในการล้างแค้นน่ะ มันสะท้อนให้เห็นเลยว่าอาชีพนี้เข้ากับฉันได้ดีแค่ไหน
กล่าวคือ ความได้เปรียบที่เคยสู้ได้อย่างสูสีเมื่อตอนที่ยังเป็น [ผู้ชำระแค้น] อยู่น่ะ ได้ก้าวข้ามไปอีกระดับแล้วเรียบร้อยนั่นเอง
แล้วผู้กล้าล่ะเป็นยังไง?
พรรคพวกในคณะของเธอถูกฉันฆ่าเรียบไปแล้ว และพวก 12 อัครสาวก ฝ่ายสนับสนุนหลักของเธอก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว
ไม่มีการเสริมกำลังมาเพิ่มจากผู้วิเศษ ไม่มีการรักษาจากนักบุญ
ทั้งหมดที่เธอมีตอนนี้คือเพลงดาบที่เก่งจนล้นเหลือ กับหัวใจที่แตกสลายและถูกเปลี่ยนเป็นอสุรกายไร้ความเมตตา
…เอาล่ะ มาเริ่มยกที่ 2 กันเลย ฉันจะจบมันในคืนนี้นี่แหละ
“เอาล่ะ จะเริ่มล่ะนะ… ผู้กล้า!”
ฉันเป็นคนทำลายความเงียบนั่นก่อน
ฉันเข้าประชิดตัวในพริบตา ก่อนจะซัดหมัดแบ็คแฮนด์ใส่… แต่ผู้กล้าก็ก้าวหลบไปด้านข้าง ก่อนจะสวนกลับมาด้วยท่าอิไออีกครั้ง
ฉันเบี่ยงหลบการฟันนั้นได้แบบนีโอในเดอะ เมทริกซ์ ก่อนจะพยายามโจมตีใส่ด้วยลูกเตะตีลังกามูนซอลท์ แต่เธอก็กระโดดหลบไป เตะต้นไม้ข้างหลังเพื่อเพิ่มโมเมนตัมและพุ่งมาพร้อมเล็งแทงเข้าที่หว่างคิ้วของฉันอย่างไม่ลดละ
ฉันถอยหลังไปเพื่อหลบการโจมตีนั่น แต่เหมือนเธอจะคาดไว้แล้วว่าฉันจะทำแบบนั้น เพราะเธอยังพุ่งตรงมาหาฉันอยู่ ฉันก้มเบี่ยงตัวหลบเธอได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนจะสับเข้าที่ท้ายทอยของเธอเพื่อทำให้เธอสลบ… นั่นเป็นแค่ความคิดของฉัน แต่ฉันหยุดตัวเองไว้ก่อน แล้วก็โยนตัวเองออกไปทางด้านข้างแทน ใช่ เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าเมื่อกี้ฉันเลือกจะก้มตัวหลบล่ะก็ เมื่อกี้ฉันคงโดนฟันขาดครึ่งไปแล้ว
“ฟู่ว… เธอนี่เป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ นั่นแหละ”
“………”
ฉันเข้าใจได้จากการโจมตีและตั้งรับที่ผ่านมา ความสามารถของเธอน่ะเป็นของจริงเลย แต่ยิ่งกว่านั้น ความเร็วในการฟันดาบของเธอน่ะน่าทึ่งมาก ความเร็วของเธอสูงกว่าสเตตัสความเร็วเริ่มต้นของฉันแน่
ไม่ใช่แค่มนุษย์หรอก แม้แต่ทหารทั่วๆ ไปของกองทัพเผ่ามารไม่มีทางรับมือกับความเร็วระดับนี้ได้เลย เผลอๆ หัวจะหลุดออกจากบ่าก่อนที่จะทันรู้ว่าดาบถูกดึงออกจากฝักด้วยซ้ำ
อย่างที่คิดไว้เลย นี่สินะตัวตนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในโลก ฉันไม่รู้เลเวลของเธอหรอก แต่ถ้านี่ไม่ใช่คืนจันทร์เพ็ญล่ะก็ ทั้งคอทั้งลำตัวของฉันคงถูกฟันขาดไปนานแล้วล่ะ
…นี่ถ้าเธอเป็นแบบผู้กล้าทั่วไป แล้วกลายเป็นพวกคนถ่อยแบบพวกมนุษย์ที่เหลือล่ะก็ กองทัพเผ่ามารคงจะต้องเจ็บหนักไม่น้อยเลย
แทบไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ เธอคงเป็นวีรสตรีที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังได้แล้วแน่นอน เด็กผู้หญิงที่มีพรสวรรค์มากขนาดนั้น กลับต้องมามีสภาพทรุดโทรมขนาดนี้… เจ้าพวกมนุษย์นี่มันจะโง่ดักดานเกินไปแล้ว
“…ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอต้องเจออะไรมาบ้าง หรือทำไมเธอถึงเลือกมาเป็นผู้กล้า… แต่ยังไงก็ตาม ฉันคิดว่าเธอกับฉันคล้ายกันนะ เรารู้สึกได้ถึงความเกลียดชังพวกมนุษย์แผ่ออกมาจากเธอทั้งๆ ที่เธอควรจะใจสลายอยู่แท้ๆ นะ”
“………”
ฉันว่าการที่ได้มาเป็น [อสูรอาฆาตแค้น] ทำให้ฉันสามารถแยกคนที่มีความคิดเหมือนกันได้เลย
เพราะแบบนั้น ฉันเลยเชื่อว่าผู้กล้าจะต้องแค้นพวกมนุษย์ฝังใจเหมือนกันแน่นอน แม้จะไม่มีหลักฐานอะไรสนับสนุนความคิดนี้เลยก็เถอะ
มันเหมือนกับฉันได้ยินเสียงร้องตะโกนว่า ‘ฉันอยากจะแก้แค้นพวกมัน’ ดังมาจากใจของเธอที่พังทลายไปแล้วนั่นเลย
“เพราะงั้น ฉันจะหยุดเธอไว้ที่นี่… ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าจะยื้อไว้ได้นานแค่ไหน มันอาจจะเลวร้ายกว่านี้อีกถ้าเกิดพวกคนที่เป็นห่วงกลุ่มของผู้กล้าที่ไม่กลับมาซักทีดันส่งนักฆ่าตามมาดู งั้น มาจัดการด้วยวิธีที่เร็วที่สุดกันเลยดีกว่า”
…แล้วฉันก็ใช้งานไพ่ตายของฉัน
เมื่อ 3 ปีก่อน
ฉันได้รับมอบหมายภารกิจให้ประหารพวกมนุษย์ที่เป็นเชลยศึกและถูกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตัดหางปล่อยวัดมาในตอนนั้น แล้วพอจัดการเรียบร้อย ท่านจอมมารก็ให้รางวัลกับฉันด้วย
รางวัลที่ว่านั่นคือภาชนะ เป็นของเลียนแบบรุ่นที่ด้อยกว่าของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ และพูดจริงๆ เลยนะ ของพวกนั้นส่วนใหญ่มีแต่พวกของที่มีประสิทธิภาพเฉพาะทางมากๆ เลย แต่พวกมันก็เป็นอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งอยู่ดี
ฉันถูกบอกให้เลือกได้ 1 ชิ้น และสิ่งที่สะดุดตาฉันในตอนนั้นที่กำลังลังเลกับตัวเลือกที่มีก็คือกำไลอันนึง
“ท่านจอมมารค่ะ นี่คืออะไรเหรอคะ?”
“หืม นั่นน่ะเหรอ? มันคือกำไลสงวนไงเล่า”
“กำไลสงวน?”
“อือฮึ ผู้สวมใส่จะสามารถเก็บสถานะเสริมพลังไว้เพื่อเอามาใช้ภายหลังได้น่ะ”
“หืม?”
“กล่าวคือ ตอนที่เธอได้รับเวทเสริมสเตตัส แต่เธอปฏิเสธที่จะรับมันในตอนนั้น ผลของสถานะเสริมพลังนั่นจะถูกดูดมาเก็บไว้ในกำไลนี้แทน แล้วผู้สวมใส่ก็จะสามารถใช้การเสริมกำลังนั้นเวลาไหนก็ได้ที่เจ้าตัวต้องการเลย”
“เห…”
“กำไลนี้สามารถเก็บสถานะเสริมกำลังได้แบบไม่จำกัดอีกด้วย และยามปกติสถานะที่ซ้ำกันจะไม่สามารถส่งผลซ้อนทับกันได้ แต่ด้วยกำไลอันนี้ก็เป็นอีกเรื่องเลย”
“อืม งั้นถ้าฉันสวมกำไลนี่เอาไว้ แล้วร่ายเวทเสริมกำลังเอาไว้เยอะๆ เลย แต่ปฏิเสธมันทั้งหมด… ถ้าฉันสั่งใช้งานมันทั้งหมดพร้อมกัน แม้แต่ทหารธรรมดาก็สามารถแข็งแกร่งเทียบเท่ากับระดับผู้บริหารได้เลยสิคะ”
“ถูกต้องทางทฤษฎี แต่กำไลนี้มีจุดอ่อนอยู่เช่นกัน ขึ้นกับจำนวนสถานะเสริมกำลังที่สั่งใช้งาน, ระยะเวลาที่ใช้งาน และพลังของการเสริมกำลังนั้น สเตตัสของทหารคนนั้นจะลดลง ทั้งร่างกายจะอ่อนล้าไปหมดและก็จะได้รับความเจ็บปวดไปทั้งตัวทันทีที่ผลการเสริมกำลังจากกำไลสงวนนั้นสิ้นสุดลง นี่จึงเป็นภาชนะที่เสี่ยงมาก แต่ก็คุ้มค่ากับความเสี่ยงนั้นอย่างแท้จริงเลย”
…เอาจริงๆ เลยนะ หลังจากที่ได้ยินความเสี่ยงที่ว่านั่น ฉันไม่แน่ใจเลยว่าจะเลือกชิ้นนี้ดีมั้ย แต่ฉันก็ตัดสินใจจะเลือกภาชนะอันนี้แหละ
นับแต่นั้น กำไลสงวนอยู่ที่ข้อมือซ้ายของฉันตลอดเหมือนนาฬิกาข้อมือเลย
ทำไมฉันถึงเลือกเจ้านี่ทั้งที่รู้ถึงความเสี่ยงของมันงั้นเหรอ?
ผลของมันไม่ค่อยจะ…เออ ไม่สิ มันเข้ากับแวมไพร์ได้ดีเลยล่ะ เอาเข้าจริง ฉันยังสงสัยเลยว่าทำไมท่านจอมมารถึงไม่ใช้มันกัน
“มันคือภาชนะที่สามารถดูดสถานะเสริมกำลังได้ทั้งหมด และสามารถนำกลับมาใช้งานตอนไหนก็ได้”
พูดอีกอย่างก็คือ มันจะ ―――
“แม้แต่การอวยพรจากดวงจันทร์ก็สามารถดูดเก็บไว้ได้ใช่มั้ยคะ?”
ถูกต้องค่ะ
ในคืนจันทร์เพ็ญ สเตตัสของฉันจะเพิ่มขึ้น 20 เท่า
แล้วถ้าฉันดูดผลของมันเก็บไว้ในกำไลสงวน แล้วเอามาใช้ในคืนจันทร์เพ็ญคืนต่อไปล่ะ จะเป็นยังไง?
คำตอบก็คือ 20 x 20 = 400 หรือก็คือฉันจะมีสเตตัสสูงขึ้น 400 เท่าได้ภายในเสี้ยววินาที
ฉันอยากจะบอกว่าพลังเฟ้อขนาดนี้มันก็มีขอบเขตของมันอยู่ แต่มันก็มาพร้อมกับข้อบกพร่องใหญ่เลย
อย่างที่รู้ การอวยพรจากดวงจันทร์นั้นเป็นสถานะเสริมกำลังที่แข็งแกร่งเกินไป ครั้งนึง ฉันได้ทดลองอยู่ในภาวะที่สเตตัสเพิ่มขึ้น 400 เท่าอยู่ ‘1 นาที’ แล้วก็หยุดการทำงานของกำไลสงวน… ทันใดนั้น ความเจ็บปวดแทบบ้าก็อัดกระแทกไปทั้งร่างกายของฉัน ผลการชาของแผลจากการอวยพรของดวงจันทร์นี่แทบไม่เป็นผลเลย
ความเจ็บปวดนั่นเบาบางลงระหว่างที่ฉันพยายามรวบรวมสติของตัวเองเอาไว้ แต่ฉันไม่มีทางลีมความเจ็บปวดนั่นได้อย่างเด็ดขาดเลย
หลังจากนั้น ฉันก็อดทนกับความเจ็บปวดนั่นก่อนจะทดลองมันซ้ำไปซ้ำมา… ผลสรุปที่ได้คือ ฉันทนไว้ถ้าใช้มันไปนาน ‘5 วินาที’
[กำไลที่ให้พลังที่เหนือได้แม้แต่ท่านจอมมารได้ 5 วินาทีทุกเดือน]
นั่นคือการประเมินกำไลสงวนโดยรวมของฉันเอง
และตอนนี้ ฉันก็สั่งใช้งานมันแล้ว
“ไม่ต้องห่วง ฉันยั้งแรงไว้แล้วล่ะ”
――― เหลืออีก 4 วินาที
“โอเค เอาล่ะนะ”
“………”
――― เหลืออีก 3 วินาที
“…ฟู่ว!”
“………!?”
――― เหลืออีก 2 วินาที
กำปั้นของฉันเหนือกว่าความเร็วในการชักดาบออกมาของผู้กล้าแล้ว
หมัดของฉันพุ่งเข้าลิ้นปี่ของเธออย่างแม่นยำ
――― เหลืออีก 1 วินาที
ฉันได้ยินและรู้สึกได้เลยว่ากระดูกของเธอหัก… พริบตาต่อมา ผู้กล้าก็ลอยกระเด็นไป
ทะลุผ่านหมู่ต้นไม้ไปแต่โมเมนตัมนั่นก็ไม่ลดลงเลย.. แล้วพอลอยไปไกลประมาณ 4 กิโล แถวๆ กลางป่า ทุกอย่างก็หยุดลงซักที
――― เหลืออีก 0 วินาที
“หยุดการใช้งานกำไลสงวน…อื้ออออออออออออง!!!”
จังหวะทันทีที่ฉันปิดการทำงานของมัน ความเจ็บปวดมหาศาลก็พุ่งใส่ทั้งตัวของฉัน… หยั่งกับถูกแทงด้วยเหล็กเป็นพันชิ้นทั่วทั้งตัวเลย
“ฮะ ฮะ ฮะ…อืออออออออกกกก…!”
…ฉันกัดฟันแน่นและอดทนมันอยู่ซักพักหนึ่ง จนความเจ็บปวดนั่นเริ่มเบาลง
อาจจะเพราะความตึงเครียดที่หายไป แผลถูกฟันจากผู้กล้าก็เริ่มเจ็บขึ้นมา
เอาเถอะ แผลพวกนั้นนี่เนอะๆ เลย เทียบกับความเจ็บปวดที่ฉันเพิ่งจะโดนมาเมื่อกี้น่ะ
แม้สเตตัสของฉันจะตกลง ฉันก็ใช้เวลาแค่ 20 วินาทีในการวิ่งระยะ 4 กิโลนี่ล่ะนะ
พอมาถึงตัวผู้กล้า ฉันก็ก้มมองดูเธอ
เธอหมดสติไปแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ตายแน่นอน ฉันกะแรงไว้ดีแล้ว แถมสเตตัสของผู้กล้าที่สูงนั่นก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกข้อนึง
“เฮ่อ…เฮ่อ……ในที่สุด ฉันก็ทำได้นี่นา…ตัวฉัน…!”
ผู้กล้ายังมีชีวิตอยู่ แต่เธอไม่น่าจะขยับตัวได้ตามปกติแล้วล่ะถึงเธอจะตื่นขึ้นมาก็เถอะ เพราะสภาพกระดูกหักทั้งตัวนั่นก็หนักไม่ใช่เล่นเลย
ก็นะ ฉันเองก็มีแผลเจ็บไปทั้งตัวเลยเหมือนกัน แผลที่โดนฟัน แล้วก็อื่นๆ อีก
มันมีขอบเขตอยู่ว่าฉันสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บด้วย {ฟื้นฟูระดับกลาง} ได้แค่ไหน และที่สำคัญ สเตตัสของฉันร่วงลงมาจากผลตีกลับของกำไลสงวนด้วย ยิ่งกว่านั้น เมื่อกี้ฉันเร่งรีบไปจนไม่ทันสังเกต แต่มันก็ต้องใช้พลังเยอะพอควรเลยในการรักษาแผลถูกฟันแบบนี้
บางทีคงเป็นผลจากความสามารถพิเศษของผู้กล้า ไม่ก็ผลจากคุณสมบัติของดาบนี่แหละ
ยังไงก็ตาม… ฉันก็ทำความฝันที่ยึดมั่นมานานได้อย่างนึงแล้วนะ : หยุดผู้กล้าให้ได้ไงล่ะ