ตอนที่ 49 คัมภีร์สะท้านมังกร
จวนเจ้าลัทธิเปลี่ยนประตูใหญ่ใหม่
ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าประตูใหญ่ของจวนที่เคลือบด้วยทองชั้นหนึ่งต้องจ่ายไปกี่ตำลึง…ถึงอย่างไรหนิงอี้ก็ไม่ใช่คนออก
หนิงอี้กับเด็กสาววางค่ายกลกั้นเสียงไว้ใกล้ๆ กับจวนหลายจุด มีประสิทธิภาพดีมาก ต่อให้ทั้งถนนข้างนอกระเบิด ข้างในก็เหมือนไม่ได้ยินอะไร…วิธีนี้โหดอยู่นิดๆ แต่ความจริงตั้งแต่ที่หนิงอี้ออกกระบี่ข้ามประตูครั้งก่อน และยังมีคำว่า ‘ชดใช้’ ที่เผยกลิ่นอายสังหารสุดท้ายออกมานั้น ทำให้สองคุณชายน้อยจวนขานฟ้าตกใจจริงๆ ดอกไม้ห้องอบที่อยู่ในเมืองหลวง ไหนเลยจะเคยเจอคนชั่วเหี้ยมโหดเช่นนี้
ช่วงเวลานี้ หน้าประตูจวนเงียบสงบมาก
หนิงอี้เตรียมของบางอย่างเงียบๆ
เขาไม่อยากให้หน้าประตูจวนตนเงียบเช่นนี้ไปตลอด ลูกไม้เล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ของคุณชายครามใช้ไม่ได้ อย่างมากสุดก็เป็นการวิวาทเล็กๆ แต่หากตนลงมือจริงๆ เรื่องจะต่างออกไป
ในทางตรงข้ามจะกลายเป็นเรื่องตลกของผู้รู้จริง เห็นได้ชัดว่าตนไม่ใจกว้างพอ ไปลงมือกับผู้บำเพ็ญที่มีศักดิ์ต่ำกว่าพวกนั้น ในความหมายบางอย่างถือว่าสมความปรารถนาของจวนขานฟ้า
ใช้การไม่เปลี่ยนแปลงรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ
สถานการณ์หยุดนิ่ง
หนิงอี้เตรียมจะออกมือจู่โจม
…….
“ยันต์นี้ทำได้สมบูรณ์แบบแล้ว อำพรางกลิ่นอายพลังได้ ค่ายกลของจวนขานฟ้าเน้นเรื่องการสัมผัส หากเจ้าไม่ลงมือก่อน ยอดค่ายกลคุ้มกันของจวนขานฟ้าก็จะไม่รู้สึกถึงเจ้า…แต่หากลงมือ จะต้องรีบสู้รีบจบ ห้ามอืดอาดเด็ดขาด” เผยฝานวางค่ายกลมารดาบุตรหลังปรับแก้สมบูรณ์แล้ววางในมือหนิงอี้ กระแอมไอสองครั้ง ก่อนพูดอย่างจริงจัง “เจ้าไม่มีกระบี่ซ่อน ไม่อาจทำให้คุณชายครามบาดเจ็บได้ในเวลาสั้นๆ…”
หนิงอี้เข้าใจถึงความหมายในคำพูด
“ไม่อย่างนั้น…”
เสียงเด็กสาวมีความเขินอายเสี้ยวหนึ่ง
“พี่…”
และยังมีความเอาใจเล็กๆ
หนิงอี้เพ่งพินิจยันต์ เห็นเผยฝานส่งสายตา “พี่ เจ้าพาข้าไปด้วยได้หรือไม่ ข้าทุบตีคนได้เจ็บมาก รับรองว่าจะทำเต็มที่ รับรองว่าแก้แค้นให้ได้”
หนิงอี้ฟังจบก็แทบจะพ่นน้ำชาออกมา เด็กสาวตามหลังสวีจั้ง ไม่ได้นิสัยไม่ดีพวกนั้นมาเลย แต่ตามตนมาเมืองหลวง กลับแสดงนิสัยของนักกระบี่อันธพาลออกมาเงียบๆ…ทุบตีคุณชายครามอย่างหนักไปครั้งหนึ่ง ยังจะไปครั้งที่สองอีกหรือ
นี่ถ้าท่านเผยหมินรู้เข้า จะไม่หิ้วกระบี่มาฟันตนตายหรือ
เขากลอกตา ก่อนพูดอย่างไม่ลังเล “ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป เจ้าอยู่ที่จวนนี่เถอะ”
เผยฝานทำตัวน่าสงสาร น้ำตาคลอเบ้า “พี่…แล้วข้าไม่ห่วงเจ้ารึ…”
หนิงอี้พูดอย่างจนปัญญา “วางใจเถอะ เจ้าสบายใจได้เลย…คุณชายครามจัดงานเลี้ยงหงเหมินรอข้าที่จวนขานฟ้า รู้ทั้งรู้ว่าเป็นหลุมเพลิงก็ยังโดดลงไป นี่ไม่ใช่แนวทางการปฏิบัติของอาจารย์อาน้อยเขาสู่ซาน”
เด็กสาวงุนงงเล็กน้อย
“ข้าไปจวนภูเขาครามเพื่อดูว่ามีอะไรหรือไม่…” หนิงอี้ขบคิดอย่างละเอียด ก่อนจะกระแอมไอ “ของที่มีค่าน่ะ”
“ขโมยหรือ” เผยฝานเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว
“ขโมยอะไร สิ่งที่อาจารย์อาน้อยทำเรียกว่าขโมยได้อย่างไร” หนิงอี้หน้าไม่แดงเลย เขาพูดอย่างถูกต้องชอบธรรม “สวีจั้งเคยบอกว่านี่เรียกว่าหยิบ มันวางอยู่ตรงนั้น รอผู้มีวาสนาไปหยิบมันเท่านั้น”
เด็กสาวพยักหน้าเป็นไก่จิกข้าวเปลือก สื่อว่าตนได้เรียนรู้แล้ว
จากนั้นยืนยันวิธีการใช้ยันต์อีกครั้ง
หลายวันมานี้หนิงอี้ชำนาญกับการใช้ค่ายกลมารดาบุตรนี้แล้ว ไปกลับอย่างอิสระ สบายมาก หลังบีบกระดาษเหลืองแน่น มิติลุกโชตช่วง เขาก็หายไปในจวน
……
ยามราตรีกว้างใหญ่ ในจวนภูเขาครามมีแต่หมอกภูเขาอลอวล
ทั้งจวนสร้างขึ้นล้อมรอบภูเขาคราม รูปแบบการสร้างค่อนข้างยิ่งใหญ่ ไม้ครามเป็นคาน อิฐหิมะกำแพงแดง ซ้อนกันหลายต่อหลายชั้น
ผู้นำจวนขานฟ้าทุกรุ่นก็เคยฝึกบำเพ็ญในจวนภูเขาครามแห่งนี้
ทั้งจวนภูเขาครามแบ่งเป็นหยินหยางสองด้าน ด้านหยินเป็นน้ำพุร้อน บ่มเพาะจากชีพจรมังกรใต้ดิน อิฐหยกแต่ละก้อนเรียงล้อมรอบบ่อน้ำพุร้อน ตรงหน้าด้านหยินถูกกระบี่ซ่อนของเด็กส่าวโจมตีไปเมื่อไม่นานมานี้ เคราะห์ดีในเคราะห์ร้าย บ่อน้ำพุร้อนไม่ได้เสียหายอะไรมาก
เพียงแค่สิ่งปลูกสร้างของจวนถูกทำลายลงเป็นส่วนใหญ่ ปราณกระบี่กวาดผ่าน จวนด้านหยินพักอาศัยไม่ได้อีก
ใต้ดินของจวนภูเขาครามเหมือนจะมีคลังสมบัติมหาศาล น้ำพุร้อนตามังกรแห่งนี้ คุณชายครามจะมาอาบทุกวัน ขจัดความเหนื่อยล้า หลังขจัดความล้าจากการบำเพ็ญแล้วจะสบายอกสบายใจขึ้น
ผิวน้ำพุร้อนตามังกร คลื่นน้ำใสแจ๋ว แสงดาราสีครามอ่อนวนเวียนบนผิวบ่อ
คุณชายครามแช่อยู่ในบ่อ เขายกสองแขนขึ้นวางบนชั้นวางไม้สีแดงที่ตั้งในบ่อ ใช้แรงที่เหลือพ่นลมหายใจขุ่นยาว
หมอกร้อนลอยขึ้น
จวนด้านหยินที่ถล่มลงอยู่ข้างหลังคุณชายคราม ดูระเกะระกะ
เขามีสีหน้าเป็นปกติ สงบเงียบ
มีบทเรียนครั้งก่อน คุณชายครามจึงไม่ได้ใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการบำเพ็ญ แต่แบ่งมาส่วนหนึ่ง จับทุกการเคลื่อนไหวข้างนอกตลอดเวลา
คนชุดคลุมดำนั่นไม่รู้มาจากที่ใด เหมือนมีดาบจ่อที่หัวใจ
คุณชายครามยกมุมปากเล็กน้อย เขาไม่ได้รำคาญความรู้สึกนี้
พญายมน้อยที่มาเมืองหลวงครั้งแรกก็เคยกล่าวว่าจะลอบสังหารตน มือสังหารปลายแถวที่สุดในสิบพญายมจวนปฐพีนั่น ไม่ได้สร้างแรงกดดันให้คุณชายครามเลย…ทว่านักกระบี่ชุดคลุมดำที่มีตัวตนลึกลับคนนี้ กลับไปมาในเมืองหลวงได้อย่างอิสระ คุกคามถึงอันตรายของคุณชายครามจริงๆ
แต่คุณชายครามก็ไม่กลัวการพบหน้ากันอีก
ผู้บำเพ็ญอัจฉริยะ โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญอัจฉริยะที่มองตัวเองสูงมาก ไม่เคยกลัวการลอบสังหาร พวกเขามั่นใจในประสาทสัมผัสทั้งหกมากพอ ถูกมือสังหารจับจ้อง ยิ่งเป็นการกระตุ้นการฝึกบำเพ็ญของตน
การประมือครั้งก่อน ตนถูกจู่โจมอย่างตั้งตัวไม่ทัน ไม่ทันป้องกันก็ถูกอีกฝ่ายเรียก ‘อาวุธสังหาร’ ออกมา คุณชายครามหรี่ตาลง นึกถึงวิชาของนักกระบี่ชุดคลุมดำนั้นอย่างละเอียด กระบี่ยาวหลายพันเล่มลอยออกมา เคลื่อนกระบี่ออกจากฝัก ถล่มสิ่งปลูกสร้างด้านหยินของจวนภูเขาคราม จากนั้นพากันกลับฝัก…เงากระบี่พวกนั้นดูไม่เหมือนมาจากแสงดารา และไม่เหมือนสร้างจากปราณกระบี่ แต่เป็นกระบี่จริงๆ มีอยู่ในโลกจริงๆ
นักกระบี่คนนั้น เหตุใดถึงพกกระบี่จำนวนมากขนาดนั้นได้
คุณชายครามสูดลมหายใจเบาๆ พ่นลมหายใจหนักๆ
เขาไม่เข้าใจเลยไม่คิดถึงมันอีก แต่ลุกขึ้นช้าๆ ดึงผ้าขาวมาเช็ดตัว สวมชุดคลุม เตรียมจะออกจากน้ำพุร้อนแห่งนี้ กลับไปฝึกบำเพ็ญในจวนด้านหยางของมังกรคาบไข่มุกต่อ
ตอนนี้เอง กลางหมอกยามราตรีข้างหลังคุณชายครามปรากฏร่างเงาหนึ่ง ยืนอยู่นอกบ่อน้ำ
หนิงอี้มีสีหน้าจริงจัง บีบยันต์ มือชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เท้าเหยียบพื้น ก้นบึ้งหัวใจสงบลง
เขามั่นใจว่าตนไม่ถูกค่ายกลของจวนขานฟ้าพบ…
ค่ายกลมารดาบุตรของเด็กสาวสุดยอดจริงๆ
หนิงอี้ยังคงกลั้นลมหายใจ กันถูกหกสัมผัสของคุณชายครามจับได้
เขามองคุณชายครามที่หันหลังให้ตนและไม่สังเกตเห็นอะไรเลย ก่อนจะกลั้นใจเลิกคิดเอาไม้กระบองมาฟาดหัวอีกฝ่ายให้สลบ
คนระดับบุตรศักดิ์สิทธิ์ มีหกสัมผัสเฉียบคมยิ่ง หากตนเผยจิตสังหารแม้แต่น้อยหรือมีความคิดอื่น ก็อาจจะถูกอีกฝ่ายจับได้
หนิงอี้ถอนหายใจเงียบๆ อยู่ในใจ
ฟ้าดินอำนวยแล้ว
น่าเสียดายที่พลังบำเพ็ญตนไม่พอ ไม่อย่างนั้นจะสั่งสอนคุณชายครามนี่อีกสักครั้ง
คุณชายครามออกจากน้ำพุตามังกรด้านหยิน หนิงอี้ยืนริมบ่อ ย่อตัวลง หรี่ตาแคบ
ในดวงตาเขามีแสงดาราไหลเวียน
เวินเทาเคยชี้แนะตนบนเขาน้ำค้างเล็ก ศาสตร์ฮวงจุ้ยการปล้นสุสานมีให้เรียนมากมาย แบ่งกันซับซ้อน เวินเทาได้รับขนานนามว่าไร้อาจารย์ ก็ใช้เศษซากที่บรรพจารย์ลู่เซิ่งให้ไว้เรียนด้วยตนเองจนสำเร็จได้
เวินเทายังเคยบอกว่าฮวงจุ้ยใต้ฟ้า ฟ้าล้วนยิ่งใหญ่ จักรพรรดิต้าสุยอยู่ในเมืองหลวงกันมาทุกรุ่น ทั้งเมืองหลวงเป็นแดนที่มีดวงชะตามากที่สุดในใต้ฟ้าต้าสุยอย่างไม่ต้องสงสัย เล่าลือว่าในใต้ดินที่ไม่รู้ว่าที่ใดซ่อนสุสานจักรพรรดิไว้ ศพของจักรพรรดิทุกองค์ซ่อนอยู่ใต้สุสานจักรพรรดิ…
นักปราชญ์เมืองหลวงมีวิธีการน่าเหลือเชื่อ จุดนี้ต่อให้เป็นบรรพจารย์ลู่เซิ่งก็ได้แต่ยอมด้อยกว่า คนก่อนปลูกต้นไม้คนหลังร่มเย็น การออกแบบสุสานจักรพรรดิประณีตละเอียดอ่อน ต่อให้เป็นอัจฉริยะสุดยอดที่ชำนาญด้านนี้อย่างยิ่ง ก็ยังไม่กล้าตามหาสุสานจักรพรรดิและคิดจะเข้าไป
มาถึงจวนภูเขาคราม หนิงอี้พลันพบความพิเศษของแดนศักดิ์สิทธิ์จวนขานฟ้าแห่งนี้
สร้างใกล้กับภูเขาครามยักษ์ ก็อยู่ใต้เท้าบุตรสวรรค์ ดวงชะตาทอดยาวมา ต้องได้ของดีไม่น้อยแน่…พญายมน้อยไม่ได้หลอกตน ที่นี่อาจจะซ่อนชีพจรดินไว้จริงๆ
น้ำพุร้อนตามังกรนี่ น้ำพุในนั้นมีแสงดาราเป็นสายๆ การฝึกบำเพ็ญที่นี่จะทำให้ได้ผลดีเป็นเท่าตัว ระดับความเข้มข้นของแสงดาราก็น่าเหลือเชื่อ
“มิน่าคุณชายครามถึงไม่ยอมออกมา…”
หนิงอี้หรี่ตาลง สูดหมอกน้ำที่กระจายมาจากบ่อน้ำเหมือนกับน้ำค้างลึกๆ
สำนักศึกษาร่ำรวยจริงๆ บ่อเช่นนี้ยังอดใจไม่บุกเบิกได้ แต่เก็บไว้ให้อัจฉริยะรุ่นเยาว์ทุกรุ่น สำนักศึกษาจะต้องมีโชควาสนาที่ดียิ่งกว่าอยู่แน่
หนิงอี้นำหล่อแก[1]ทองสัมฤทธิ์เก่าแก่ออกมา
นี่เป็นสมบัติของเวินเทา หลังจากศิษย์พี่สามวางมือ สมบัติที่ตกทอดมาจากบรรพจารย์ลู่เซิ่งเขาสู่ซานชิ้นนี้ก็ตกอยู่ในมือหนิงอี้
หนิงอี้ยืนขึ้น มองไปรอบๆ
เขามาที่นี่ก็เพื่อตามหาชีพจรมังกรที่จวนขานฟ้าซ่อนไว้ใต้จวนภูเขาคราม ดูว่าซ่อนไว้ที่ใด ทางเข้าอยู่ที่ใด…หล่อแกนี้กำหนดความเป็นตายได้ ทำนายดีร้าย ใช้กับมนตร์ที่สืบทอดมาจากเขาสู่ซาน ชัยภูมิฮวงจุ้ย กำหนดทิศทางได้อย่างแม่นยำ
หนิงอี้สูดลมหายใจเข้าเบาๆ หลับตาลง อักขระลอยขึ้นในหัวแน่ขนัด เสียงของเวินเทาดังขึ้นในทะเลวิญญาณ
คัมภีร์สะท้านมังกรที่ตกทอดมาจากบรรพจารย์ลู่เซิ่ง
“แสวงมังกรพันหมื่นดูล้อมขุนเขา ล้อมหนึ่งชั้นคือหนึ่งด่าน…
ประตูปิดหากมีกรหนักพันชั้น ต้องมีบรรดาศักดิ์อยู่ที่นี่”
เขาลืมตาขึ้น
หล่อแกเริ่มสั่นไหวเบาๆ ฟ้าดินโคลงเคลง ขณะที่เข็มกลางฟ้าสั่นไหว จากสีขาวหิมะก็กลายเป็นสีแดงฉานเหมือนเลือด ถาดในกับถาดนอกหมุนวนไปมา หยินหยางประกบ สุดท้ายหยุดนิ่ง
ปลายของบ่อสวรรค์ชี้ไปยังน้ำพุตามังกรตรงหน้า
หนิงอี้ยกมือขึ้นข้างหนึ่งอย่างไม่ลังเล ตั้งขึ้นตรงหน้าอก นิ้วกลางชิดกับนิ้วชี้ หลังคีบมือแล้วก็กระโดดลงไปในน้ำพุร้อน
……………………….
[1] หล่อแก (罗盘) คือ เป็นเครื่องมือสำคัญของวิชาฮวงจุ้ยในการตรวจจับพลังงานที่เรามองไม่เห็น