บทที่ 218 ไปรับรางวัลกลับมาแทนผมที (2)
ทุกคนอดตะลึงไม่ได้ บทความอะไร ให้มาอ่านบทความอะไรตอนนี้
เจียลี่เปิดโน้ตบุ๊กของเขา ล็อกอินเข้าอีเมล์ จากนั้นก็เปิดไฟล์บทความขึ้นมา
ทุกคนต่างรีบรุดมาดูทันทีที่เห็นชื่อบนบทความ ต่างคนต่างตัวสั่นระริกราวกับว่าพวกเขาได้คาดเดาบทสรุปไว้แล้ว! 艾琳小說
พวกเขาหันกลับไปทางเจียลี่พร้อมกับพยักหน้าและอ่านบทความนั้นอย่างใจจดใจจ่อ
ผ่านไปราวๆ สิบนาที ทุกคนก็เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง
กรรมการคนหนึ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้อง ช่างเป็นเรื่องน่าทึ่งยิ่งนัก ไม่คิดเลยว่าองค์ความรู้การแพทย์บริเวณทวารหนักของที่จีนจะพัฒนามาได้ไกลขนาดนี้ น่าทึ่งจริงๆ!”
“ใช่แล้ว! สารฟทาริกชนิดอาร์จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับเวชศาสตร์บริเวณทวารหนัก ต่อไปในอนาคตจุดมุ่งหมายของพวกเราต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน”
“เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากการประชุมในวันพรุ่งนี้จบลงแล้วผมกลับประเทศไป ผมจะลงมือค้นคว้างานวิจัยที่เกี่ยวข้องทันที ผมคิดว่าต่อไปจุดเน้นของสาขาทวารหนักแห่งสมาคมศัลยแพทย์จะไม่ใช่แค่การผ่าตัดเท่านั้น แต่เพื่อป้องกันการเกิดโรคโดยเน้นไปที่การรักษาและป้องกันโรคเสริมด้วยการผ่าตัด!”
“ท่านผอ. ผมเสนอให้มอบรางวัลผลงานดีเด่นให้กับไป๋เยี่ย เขาสมควรได้รับมันจริงๆ!”
นอกจากเจียลี่และไอดะ ทามะแล้ว กรรมการคนอื่นๆ ต่างเชื่อมั่นในข้อมูลนี้ ความไม่อยากเชื่อปรากฏขึ้นบนสีหน้าของไอดะ ทามะ เขาส่ายหัวไปมาพลางขมวดคิ้วแน่น “ต้องตรวจสอบครับ! จะเชื่อเลยไม่ได้”
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการประชุมประจำปีของสาขาทวารหนักแห่งสมาคมศัลยแพทย์นานาชาติ ศูนย์นิทรรศการครึกครื้นมากเป็นพิเศษเพราะผู้คนต่างมารวมตัวกันที่นี่ ทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นและหน่วยงานอนามัยต่างมอบหมายให้นักข่าวจำนวนมากเข้ามาทำข่าวด้วย
เรื่องที่สร้างเกียรติยศให้แก่ตนและประเทศชาติย่อมต้องถูกเผยแพร่ออกไป
หยางเฮ่อเองก็เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ในฐานะนักข่าวจากประเทศจีน เมื่อเขาเห็นภาพความวุ่นวายที่ก่อโดยเหล่านักข่าวชาวญี่ปุ่นตรงหน้าก็เบะปาก ทำอย่างกับไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนงั้นแหละ!
บ่นในใจจบก็เลื่อนสายตาอันบูดบึ้งไปทางเวทีพลางหวังลึกๆ ว่าเขาจะบันทึกภาพเหตุการณ์ที่สร้างความรุ่งโรจน์ให้กับประเทศชาติได้
อันที่จริงมันก็ไม่ต่างอะไรกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นักข่าวย่อมเก็บภาพนักกีฬาตัวแทนประเทศที่ได้รับเหรียญรางวัลกลับมาด้วย ช่างเป็นเรื่องที่เป็นเกียรติและสร้างแรงบันดาลใจได้ดีจริงๆ
หยางเฮ่อคิดแล้วก็ถอนหายใจ
พานเซี่ยงเหนียนและหลี่มู่หยางนั่งด้วยกันที่โซนที่นั่งของตัวแทนจากจีน พวกเขาเอาแต่นั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือกันอยู่นมนาน
หลี่มู่หยางมองพานเซี่ยงเหนียนด้วยดวงตาเบิกกว้าง “เกิดอะไรขึ้นกันแน่เหล่าพาน!”
พานเซี่ยงเหนียนเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน “จะไปรู้เหรอ!”
มีข้อความส่งมาหาทั้งสองคนว่า [อาจรย์พาน รบกวนไปรับรางวัลกลับมาแทนผมทีครับ]
พานเซี่ยงเหนียนขมวดคิ้ว “เจ้าเด็กนี่มันบ้าไปแล้วหรือไง ให้รับถ้วยรางวัลเนี่ยนะ”
หลี่มู่หยางถอนหายใจพลางตบไหล่พานเซี่ยงเหนียน “เด็กโง่เอ๊ย…”
การประชุมเริ่มต้นขึ้น เจียลี่ก้าวขึ้นมาในฐานะผู้จัดงาน “ขอบคุณประเทศญี่ปุ่น ขอบคุณโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยโตเกียวที่ให้เกียรติมาเป็นเจ้าภาพในการประชุมประจำปีของสาขาทวารหนักแห่งสมาคมศัลยแพทย์ แล้วก็ขอขอบคุณบริษัทเอดะที่ให้การสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นและจัดหาสถานที่ประชุมที่สะดวกสบายเช่นนี้ให้กับทุกคน…”
“ตามวาระการประชุม ตอนนี้ก็ถึงเวลามอบรางวัลผลงานดีเด่นและประกาศแนวทางปฏิบัติฉบับล่าสุดแล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปีนี้ดูจะแตกต่างจากปีก่อนๆ ไปอย่างสิ้นเชิงครับ”
สิ้นเสียงของเจียลี่ ทุกคนก็เงียบเสียงลงไปด้วย
“การประชุมในปีนี้แตกต่างจากปีอื่นๆ เพราะว่าปีนี้มีวีรบุรุษอุบัติขึ้น มีการโต้วาทีทางวิชาการ ไปจนถึงแนวคิดต่างๆ ที่ถูกเสนอขึ้นมา จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกำหนดแนวทางปฏิบัติออกมาได้ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นเพื่อการกำหนดแนวทางที่มีประสิทธิภาพและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทางเราจึงตัดสินใจรอให้การประชุมเสร็จสิ้นลงไปก่อน จากนั้นจะทำการเจรจาแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อกำหนดแนวทาง จากนี้ผมจะขอประกาศรายชื่อกองบรรณาธิการของแนวทางฉบับนี้”
ตอนนี้ได้เวลาประกาศชื่อกองบรรณาธิการแล้ว ต่างคนต่างใจจดใจจ่อยิ่งนัก เพราะการได้รับเลือกเป็นกองบรรณาธิการถือเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ มันหมายถึงสถานะของคุณในแวดวงและการยอมรับที่ผู้คนในแวดวงมีต่อคุณ!
“บรรณาธิการ น็อกคัส จากสหราชอาณาจักร…”
“บรรณาธิการ เลติ จาก…”
“บรรณาธิการ…”
“บรรณาธิการ: หลี่มู่หยาง จากประเทศจีน”
“บรรณาธิการ: พานเซี่ยงเหนียนจากประเทศจีน!”
ในกองบรรณาการทั้งสิบคน มีสองคนที่มาจากประเทศจีน
บัดนี้ผู้คนต่างหันไปให้ความสนใจกับโซนที่นั่งประเทศจีนทันที ส่วนหลี่มู่หยางและพานเซี่ยงเหนียนต่างก็หันมามองหน้ากันด้วยความอ้ำอึ้ง!
นี่มันเรื่องอะไรกัน
พานเซี่ยงเหนียนขมวดคิ้วแน่น “เหลาหลี่ บอกผมทีว่าเป็นเพราะผมหล่อเท่”
หลี่มู่หยางเองก็สับสนเหมือนกัน าอย่างน้อยเขาก็ได้ขึ้นบรรยายบนที่ประชุม แต่พานเซี่ยงเหนียนกลับไม่ได้พูดอะไรเลย!
“ผมพานเซี่ยงเหนียน หัวหน้าแผนกทวารหนักของโรงพยาบาลผู่เจ๋อประเทศจีน ผมขอชี้แจงว่าเนื้อหาข้างต้นนั้นเป็นงานวิจัยของไป๋เยี่ย แผนกเรามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเท่านั้น”
นี่มันหมายความว่าอะไร
จะให้หมอนี่เข้ากองบรรณาธิการจริงๆ เหรอ
หลี่มู่หยางรู้สึกสมองตื้อขึ้นมาทันที
หยางเฮ่อตะโกนเรียกเหล่าผู้ช่วยที่คอยตามหลังอยู่ด้วยความตื่นเต้น “เร็วเข้า! ถ่ายเอาไว้ ระวังถ่ายติดหน้าหลุดด้วย ห้ามพลาดเด็ดขาด! ประเทศจีนอยู่ในรายชื่อกองบรรณาธิการแล้ว แถมยังมีชื่อตั้งสองคนแน่ะ นี่มันข่าวดีชัดๆ!”
แน่นอน!
นี่เป็นข่าวดี! เป็นข่าวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน!
นักข่าวญี่ปุ่นเห็นท่าทีตื่นเต้นของหยางเฮ่อก็เย้ยหยัน “ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
หยางเฮ่อแค่นเสียงในลำคอ “แน่นอนครับ ผมดีใจมากเลย ไม่เห็นมีชื่อคนญี่ปุ่นเลย แต่ประเทศผมมีตั้งสองชื่อเลยนะ”
อีกฝ่ายยิ้ม “ดูซะก่อน ตอนนี้ยังเป็นแค่สมาชิกลำดับรั้งท้ายของกองบรรณาธิการ ของจริงมันต่อจากนี้ต่างหาก”
เจียลี่กล่าวต่อ “ต่อไปผมจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับตำแหน่งเป็นประธานกองบรรณาธิการและรองประธานนะครับ”
ตำแหน่งประธานและรองประธานกองบรรณาธิการถือเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ ท้ายที่สุดผู้คนก็ย่อมให้ความสนใจว่าใครจะได้เป็นประธานกองบรรณาธิการมากกว่าใครได้เป็นสมาชิกกองบรรณาธิการ
เจียลี่กระแอมทีหนึ่งก่อนพูด “รองประธานบรรณาธิการสามท่านได้แก่ เจียลี่ ไอดะ ทามะและแมคคัลเลอร์!”
หลังจากรายชื่อถูกประกาศออกไป เสียงปรบมือจากด้านล่างก็ดังขึ้น
นักข่าวญี่ปุ่นเหลือบมองหยางเฮ่อ “เห็นหรือยัง ไอดะ ทามะจากประเทศญี่ปุ่นได้เป็นรองประธานบรรณาธิการ”
คิดหรือว่าคนอย่างหยางเฮ่อจะทน เขาแค่นหัวเราะ “รองประธานแล้วไง ใครสนกัน”
ทว่าผู้คนกลับคาใจที่เห็นชื่อของเจียลี่อยู่ในตำแหน่งรองประธานกองบรรณธิการ เช่นนั้นแล้วใครคือประธานกองบรรณาธิการกันแน่
เจียลี่เอ่ยประกาศเสียงดังกึกก้อง “และรายชื่อสุดท้ายก็คือประธานกองบรรณาธิการของแนวทางปฏิบัติฉบับนี้ คุณไป๋เยี่ยจากประเทศจีน! ทุกท่านโปรดปรบมือแสดงความยินดีให้กับเขา!”
พานเซี่ยงเหนียนตะลึงจนนั่งไม่ติดเก้าอี้!
หลี่มู่หยางจึงรีบปรามพานเซี่ยงเหนียนทันที “ใจเย็นก่อนเหล่าพาน อย่าทำเรื่องขายหน้า! มีคนมองคุณอยู่เยอะเลยนะ!”
แน่นอนว่าผู้คนต่างมองมาทางโซนที่นั่งของประเทศจีนเพราะหวังว่าจะได้เห็นหน้าไป๋เยี่ย ทว่าน่าเสียดายที่พวกเขากวาดสายตาหาเท่าไหร่ก็ไม่พบเขา!
ใบหน้าของพานเซี่ยงเหนียนขึ้นสีแดงก่ำ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในอารมณ์ตื่นเต้น กังวล หรือประหม่ากันแน่ “เหล่าหลี่ พวกเราเป็นประธานกองบรรณาธิการ!”
หลี่มู่หยาง “เราเป็นแค่สมาชิก”
พานเซี่ยงเหนียนส่ายหัว “เหมือนกันนั่นแหละ! ผมไม่เชื่อว่าไป๋เยี่ยจะไม่ฟังผมหรอก…”
ทันทีที่หยางเฮ่อได้ยินชื่อที่ถูกประกาศออกมา เขาก็ดีใจจนแทบจะกระโดดโลดเต้น “สุดยอด! ได้ยินไหม ไป๋เยี่ยได้เป็นประธานกองบรรณาธิการ! รองบรรณาธิการแล้วไงล่ะวะ! ฮ่าๆ สุดยอดๆ! เสี่ยวหวังอัดไว้ให้ดีล่ะ ไว้กลับไปผมจะออกอากาศข่าวนี้ตอนช่วงไพร์มไทม์เลย อย่าให้พลาดแม้แต่ช็อตเดียวเชียว!”
“เยี่ยมจริงๆ ประธานกองบรรณาธิการ! ประธานกองบรรณาธิการสำหรับแนวทางปฏิบัติระดับนานาชาติ! นี่แหละที่เขาเรียกกันว่าผู้ชนะเลิศ!”
เจียลี่พูดต่อ “ต่อไปจะเป็นการมอบรางวัลผลงานดีเด่น พวกเราไม่มีผู้ท้าชิงที่เหมาะสมสำหรับรางวัลนี้มาร่วมสามปีแล้ว โดยรางวัลนี้ได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบจากคณะกรรมการทั้งเจ็ดท่านของเราให้มอบรางวัลนี้แก่คุณไป๋เยี่ย!”
“แต่น่าเสียดายที่วันนี้คุณไป๋เยี่ยไม่ได้มาที่นี่ เพราะเขายังคงยุ่งอยู่กับการทดลอง ทางเราจึงขอรบกวนคุณพานเซี่ยงเหนียนขึ้นมารับรางวัลแทนคุณไป๋เยี่ย!”
ขณะนี้เหล่าผู้คนในที่ประชุมต่างตกอยู่ในอาการงุนงง!
ทว่าพานเซี่ยงเหนียนกลับเพิ่งนึกอะไรได้!
ที่แท้ในข้อความก็หมายความว่าอย่างนี้นี่เอง!